คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : (SF) ‘CHANGE’ - 1 - มัดมือชก
-1-
มัดมือชก
Koi Littlefinger : มุก!
เล่นอะไรของแกเนี่ย ทำไมไม่บอกเพื่อนแกว่าเราไม่ใช่แก
Mookky_P : ทำอย่างกับเราไม่เคยสลับตัวกันไปโรงเรียนงั้นแหละ
Koi Littlefinger : มันเหมือนกันที่ไหนเล่า
นี่มันเกือบอาทิตย์เลยนะเว้ย
จริงอยู่ที่ทั้งคู่ใช้ความคล้ายคลึงกันของรูปร่างหน้าตามาเล่นสนุกอยู่บ่อยครั้งและไม่มีใครจับได้หากไม่ใช่คนในครอบครัว
แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
Mookky_P : เอาน่าน้องรัก นี่เป็นโอกาสดี ๆ ของแกแล้วนะ เร่งทำคะแนนเข้าล่ะ
Koi Littlefinger : ทำคะแนนบ้าอะไร
เมื่อเช้าทำท่าไม่สบายจนลุกไม่ขึ้นนี่แกล้งทำใช่ป่ะ
Mookky_P : น่า... อย่าทำเหนียม
รู้หรอกว่าแอบคิดไม่ซื่อกับเพื่อนเรา สู้เค้านะ จะรอดูผล
Koi Littlefinger : เราจะบอกดาวเองว่าเราไม่ใช่แก
Mookky_P : อยากทิ้งโอกาสดี ๆ ก็เชิญเลยก้อย
ดีไม่ดีดาวมันอาจจะเชิญแกกลับเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้นะ
Mookky_P : แหม...
พี่อุตส่าห์ปูทางไว้ซะดิบดีแล้วอย่าทำเสียเรื่องสิ ลองทบทวนดูดี ๆ นะ
Koi Littlefinger : ความจริงคือเมื่อวานแกเพิ่งรู้ว่าพี่สาวสุดที่รักของแกไปทริปเชียงใหม่ด้วย
แต่แกดันไปรับปากเพื่อนไว้แล้วเลยให้เรามาเป็นตัวตายตัวแทนใช่ไหมล่ะมุก
Mookky_P : นั่นคือผลพลอยได้ต่างหากล่ะก้อย
ยังไงก็ฝากดูแลเพื่อนเราด้วยนะ ขอบใจมากน้องรัก
Mookky_P : เอ้อ โทรศัพท์อีกเครื่องของเราอยู่ในกระเป๋าแกแล้วนะ
หยิบมาใช้ได้เลยดาวจะได้ไม่สงสัย เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะคะ
“มุก
แกทะเลาะกับใครอยู่รึเปล่า” ยังไม่ทันประท้วงกับประโยคสุดท้ายเสียงคนข้าง ๆ
ก็เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์ท่าทางเคร่งเครียด สังเกตได้จากหัวคิ้วที่ขมวดชิดกันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ขึ้นมาบนรถก็เอาแต่วุ่นอยู่กับเจ้าสมาร์ทโฟนในมืออยู่ท่าเดียว
“....
เพื่อนน่ะ”
เมื่อรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ก็รีบปิดหน้าจอแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าอย่างรีบร้อน หวังว่าดาวคงไม่ทันสังเกตว่าโทรศัพท์ที่ใช้อยู่เป็นคนละเครื่องกับพี่สาวฝาแฝดของตน
“เพื่อนคนไหน
นังแอล นังดิว หรือว่าใคร?” สายตาของดาวมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
ทำให้ตัวตายตัวแทนอย่างเธอวางตัวลำบาก
“คือ....เพื่อนเก่าสมัยม.ต้น
แกไม่รู้จักหรอก” บอกปัดไปเท่าที่สมองจะคิดคำตอบได้ในขณะนั้น
“ไหว
ฉันกินยามาแล้วล่ะ ได้พักซักหน่อยก็คงดีขึ้น”
“โอเค
งั้นแกนอนเถอะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันปลุก”
“อื้อ
ขอบใจนะ”
แอบโล่งใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับแม่ของดาวที่เธอเคยได้ยินกิติศัพท์จากพี่สาวฝาแฝดอยู่เสมอว่าขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดและเจ้าระเบียบอย่างที่สุด
นึกเคืองตัวต้นเหตุที่โยนภาระมาให้โดยไม่ทันตั้งตัวและแทบไม่ชี้แจงอะไรเลย นอกจากเรื่องที่ว่าให้ไปเป็นเพื่อนดาวที่บ้านต่างจังหวัดแทนตนที่ป่วยหนักเพราะรับปากดาวเอาไว้แล้วไม่อยากผิดคำพูด.... และคนที่น่าโมโหยิ่งกว่ามุกนั่นก็คือตัวเองที่ไม่ปฏิเสธให้เด็ดขาดทั้งที่เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
ทว่า.. โอกาสที่จะได้อยู่ใกล้กันนาน
ๆ ก็ไม่ได้มีบ่อยนัก ความคิดอีกฝั่งจึงเอาชนะความกลัวได้อย่างฉิวเฉียด
แอบตกลงกับตนเองอยู่ในใจเงียบ ๆ ว่าจะสานต่อแผนของพี่สาวตัวแสบต่อไปจนถึงที่สุด
เมื่อตัดสินใจได้แล้วเรื่องที่ต้องขบคิดมีน้อยลง
จิตใจก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ก่อนจะผล็อยหลับไป
กว่าจะถึงจันทบุรีซึ่งเป็นที่หมายเวลาก็ล่วงเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่
ๆ เนื่องจากเป็นวันที่หลายคนพร้อมใจกันเดินทางกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ยานพาหนะบนท้องถนนล้วนบ่ายหน้าออกจากกรุงเทพมหานครแทบทั้งสิ้น
ทำให้อีกฟากถนนว่างโล่งเหมือนไม่ใช่เส้นทางเดียวกัน เป็นภาพเดิม ๆ
ที่พอรู้สึกตัวระหว่างทางทีไรก็เห็นจนชินตา
เดินลงจากรถอย่างงัวเงียหลังจากที่ถูกดาวปลุกให้ตื่น
ร่มเงาของซุ้มต้นประดู่ที่พ่อของดาวอาศัยเป็นโรงจอดรถชั่วคราว ช่วยบรรเทาความร้อนกลางเดือนเมษายนได้ดีทีเดียว
กลิ่นหอมของดอกประดู่สีเหลืองอร่ามที่บานสะพรั่งอยู่เต็มต้นช่วยให้คนที่เพิ่งตื่นจากนิทรารู้สึกสดชื่นขึ้นเป็นกอง
ร่างกายกระปรี้กระเปร่าเพราะกลิ่นอายของธรรมชาติที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ
“นั่นน่ะ บ้านพ่อ”
ดาวบุ้ยปากไปทางบ้านไม้กึ่งปูนสองชั้นที่ถูกรายล้อมไปด้วยหมู่ไม้นานาพรรณอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านสวน
เดิมทีน่าจะเป็นบ้านไม้ทั้งหลังแต่คงถูกต่อเติมและดัดแปลงเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นจนกลายสภาพเป็นเหมือนปัจจุบัน
แอบคาดเดาอยู่ในใจว่าครอบครัวนี้คงมีสมาชิกไม่น้อย
“อยู่กันกี่คนอะ”
“ก็ราว ๆ ห้าหกคน ใช่มั้ยคะพ่อ”
“ใช่แล้วล่ะลูก ตอนนี้มีย่า ลุงปาน อาวาด อาแมน
แล้วก็เด็ก ๆ” หนุ่มใหญ่หันมายิ้มพร้อมอธิบายให้เด็กขี้สงสัยฟัง ระหว่างที่ทั้งหมดช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ
ขณะเดียวกันคนในบ้านคงรู้ว่ามีแขกมาเยือนถึงได้โผล่หน้าออกมาดู ก่อนที่เด็กผู้หญิงอายุประมาณสามขวบคนหนึ่งวิ่งออกมาต้อนรับก่อนใคร
ๆ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้มาใหม่อย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะคนรักเด็ก
“น้องมีน ไม่เจอกันตั้งนาน โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย
มาให้พี่ดาวอุ้มที” ดาวถึงกับวางกระเป๋าสัมภาระลงกับพื้นแล้วย่อตัวลงอ้าแขนรอเด็กหญิงตัวป้อมที่หยุดยืนต่อหน้า
ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนไม่แน่ใจนั้นเดาได้ไม่ยากเลยว่า ‘น้องมีน’
คงจะจำ
‘พี่ดาว’ ไม่ได้อย่างแน่นอน
“ไม่เจอกันไม่กี่เดือน ลืมกันแล้วเหรอ?” พี่สาวตัวเล็กทำหน้าผิดหวัง
แต่น้องสาวตัวน้อยก็ยังไม่มีทีท่าจะนึกออกเสียที คนน่ารักสองคนสร้างรอยยิ้มให้กับคนคิดไม่ซื่อจนหุบไม่ลง
“มากันแล้วเหรอ เข้าบ้านมาแดดร้อน” เสียงของหญิงชราที่คาดว่าน่าจะเป็นย่าของดาวตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน
น้ำเสียงปีติยินดีจนปิดไม่มิดเมื่อเห็นหน้าลูกหลานมาเยี่ยมเยียน แม้ผิวกายจะเหี่ยวย่นสังขารจะร่วงโรยตามกาลเวลา
ทว่าคุณย่าวัยกว่าเจ็ดสิบปีกลับยังดูแข็งแรงกว่าอายุจริงจนน่าทึ่ง
พ่อกับดาวแนะนำเธอให้ผู้สูงวัยรู้จัก ซึ่งก็ได้รอยยิ้มเอื้ออารีตอบกลับมา ไม่แปลกใจเลยว่าดาวและพ่อได้แม่พิมพ์รอยยิ้มนั้นมาจากใคร
ภายในบ้านมีเพียงพัดลมตัวใหญ่หนึ่งตัวเปิดไว้ก็คลายร้อนได้
โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ คงเป็นเพราะที่นี่ปลูกต้นไม้ไว้เยอะเลยไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนที่กรุงเทพ
ฯ ถึงจะไม่คุ้นเคยแต่รู้สึกได้เลยว่าบ้านสวนของดาวน่าอยู่มากทีเดียว แอบคิดเล่น ๆ
ว่าถ้าให้อยู่ตลอดไปเลยก็ยังได้ แต่ไม่รู้ว่าหลานเจ้าของบ้านจะยินดีหรือเปล่า
นอกจากการต้อนรับที่เป็นมิตรของคุณย่าและเด็กหญิงตัวน้อยแล้วแล้วยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ยืนแอบมองผู้มาเยือนอยู่ไม่ไกล
คุณยายเรียกแล้วเรียกอีกก็ยังไม่ยอมออกมาต้อนรับคนคุ้นหน้าแต่ไม่คุ้นเคยอย่างดาวและพ่อ
เด็กผู้ชายหลังกำแพงห้องครัวที่ท่าทางขี้อายต่างกับ ‘น้องมีน’
ลิบลับ
ยืนเท้าสะเอวมองกระเป๋าเดินทางที่เปิดอ้าอยู่กลางเตียงนอนอย่างหัวเสีย
เพราะเสื้อผ้าที่อยู่ในนั้นถูกสับเปลี่ยนจากของเดิมจนเกือบหมด และจะเป็นฝีมือใครไม่ได้นอกจากพี่สาวตัวแสบที่คงนอนฝันหวานถึงสงกรานต์ปีนี้อย่างสบายใจเฉิบ
โดยมีโน้ตแผ่นเล็ก ๆ แปะไว้ให้ดูต่างหน้า
‘เพื่อความแนบเนียน แกเข้าใจเรานะก้อย’
ใช่...เธอเข้าใจแต่ก็ห้ามความโมโหไม่ได้เช่นกัน ดีอย่างที่ไม่เปลี่ยนเอาชุดชั้นในของตนมาใส่แทนด้วย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนเห็นมัน ไหนจะเรื่องที่หลอกให้มาเป็นเพื่อนดาวแทนเจ้าตัวทั้งเทศกาล
ทั้งที่ตอนแรกตกลงกันไว้ว่าแค่สองวัน.... นี่ถ้าคนที่เธอมาด้วยไม่ใช่ดาวคงไม่ยอมขึ้นรถมาด้วยตั้งแต่แรก
สำหรับคนคนนี้คือข้อยกเว้น
“แกทำอะไรของแกอะมุก” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยดังมาจากห้องน้ำทางด้านหลัง
พอหมุนตัวกลับไปมองตั้งท่าจะตอบคำถามนั้นก็แทบสำลักน้ำลาย
เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นต้นเหตุให้ลมหายใจสะดุด ดาวที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายอยู่เพียงผืนเดียวขมวดคิ้วมองมาอย่างไม่เข้าใจ
จริงอยู่ที่ว่าปิดส่วนที่ควรปิดได้อย่างมิดชิด
แต่เรียวขาขาวและช่วงไหล่เปลือยเปล่าที่พ้นจากขอบผ้าผืนนั้นออกมาก็ทำเอาใจเต้นไม่เป็นส่ำ
รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า
กับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นเวลาที่ไปค้างด้วยกันใช่ว่าจะไม่เคยเห็นในสภาพนี้
แต่ดาวเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
“มุก ตกลงแกทำอะไรของแกอยู่”
น้ำเสียงติดรำคาญของดาวปลุกคนคิดไม่ซื่อให้หลุดจากภวังค์ ก้อยกระแอมเบา ๆ
เรียกเสียงที่หาไม่เจอกลับคืนมา
“รื้อของน่ะ อ่า... หาของ”
เพราะทนมองภาพดาวในเวลานี้ได้ไม่นานจึงหาที่วางสายตาเสียใหม่ เสียงที่พูดไปก็ใช่ว่าจะมั่นคงนัก
“เอาซะเต็มเตียงเลยเนอะ”
คนพูดเดินผ่านเพื่อนร่วมห้องไปที่กระเป๋าเดินทางบนเตียง
มองมันอย่างระอาแล้วส่ายหน้า
“โทษนะ อาบน้ำเสร็จเดี๋ยวมาเก็บให้” กลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำที่มาจากตัวของดาวทำให้เสียงยิ่งสั่น
“เฮ้ย! ทำไมไม่รีบเก็บล่ะ มันรก”
ดาวแย้งพร้อมยึดแขนของคนที่ทำท่าจะชิ่งหนีเอาไว้แน่น
“ฉันเหนียวตัวจะแย่แล้วดาว ขอไปอาบน้ำก่อนนะ
เดี๋ยวมาเก็บให้” ก้อยแทบจะวิงวอนให้ดาวปล่อยเธอไปเสียที
ขืนอยู่นานกว่านี้เกรงว่าอาการจะส่อพิรุธให้ดาวสงสัย
“ก็ได้”
เกือบจะโล่งอกอยู่แล้วหากไม่ได้ยินเสียงดาวเรียกไว้อีกครั้ง
ซ้ำยังอ้อมมาดักหน้าเธอไว้ไม่ยอมให้ไปไหน
“เดี๋ยวก่อน”
“อะไรอีกวะดาว”
“แกไปทำอะไรมา?”
ดวงตาเรียวเล็กหรี่มองอย่างสำรวจตั้งศีรษะจรดปลายเท้า
ก่อนย้อนกลับมาสบตาอย่างเคลือบแคลง ทำให้คนมีชนักติดหลังรู้สึกร้อน
ๆ หนาว ๆ เผลอกลั้นหายใจรอฟังคำพูดประโยคถัดไปอย่างลุ้นระทึก
“ไม่เจอกันแค่ไม่ถึงเดือน แกสูงกว่าฉันได้ไงอะ”
ไม่พูดเปล่ายังขยับเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อเทียบส่วนสูงระหว่างกัน
ตอนนี้ไม่รู้ว่าใจมันเต้นเพราะกลัวความลับแตกหรือเพราะว่ากลิ่นกายหอม ๆ และผิวขาวเนียนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมกันแน่
“แกมันไม่มีพัฒนาการเองช่วยไม่ได้.....
ไร้สาระว่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า” แกล้งทำท่าเอือมระอาแล้วถือโอกาสหนีเข้าห้องน้ำเพื่อหลบไปให้พ้นจากดาว
แผ่นหลังพิงกับประตูห้องน้ำพลางยกมือขึ้นทาบอก หัวใจยังเต้นระรัวไม่ยอมหยุด แม้ดวงตาจะปิดสนิทแต่ภาพดาวในผ้าขนหนูผืนเดียวยังติดอยู่ในหัว ไม่รู้ว่าจะทนกับสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้ได้นานอีกกี่วัน หากจบงานนี้โดยที่เธอไม่หัวใจวายตายเสียก่อนก็นับว่าเป็นโชคดีอย่างที่สุด
วันนึงนั่งดูละครเรื่อง รักนี้เจ้จัดให้ ย้อนหลัง เลยเกิดไอเดีย ขอหยิบยืมเค้าโครงเรื่องบางส่วนมาใช้
นี่ไม่ใช่พีทกับพอล แต่เป็นน้องมุกกับน้องก้อย
ความคิดเห็น