คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คนมีปีก
“เร้าธ์ นายเร้าธ์!” เสียงของอาจารย์สังคมที่ต่อว่าเด็กนร.วัย17ปี กำลังนอนหลับอยู่บนเรกเชอร์โดยเค้าเอาตัวซุกไปไม่ค่อยถนัดซักเท่าไรนัก เพราะตัวของเค้าสูงใหญ่เหลือเกิน ประมาณว่า เค้าเป็นลูกครึ่งอเมริกัน แต่เชื้อสายทางแม่เค้าที่เป็นไทยนั้นกลับหลงเหลือเพียงแค่ผมสีดำที่บ่งบอกความเป็นไทยเท่านั้น
“อะไร ครับอาจารย์ การบ้านผมก็ทำเส็จแล้ว รายงานก็เส็จแล้ว อาจารย์จะไม่ให้ผมทำอะไรเลยหรอ
อย่างเช่นนอนหลับ....” นายเร้าธ์ยิ้มพรายใส่อาจารย์ หวังว่าอาจารย์จะใจอ่อนจากความหล่อเหล่าของเค้าเช่นเคยที่ผ่านมา....
นร.ในห้องเรียนนั้นต่างหัวเราะร่า กลับความขี้เล่นของนายเร้าธ์..
“ได้ ชั้นจะให้เธอนอน แต่ เธอต้องทำโจทย์หน้าร้อยสี่สิบห้าก่อน......” เสียงของอาจารย์นั้นดังกังวาล..
“ผมทำเส็จแล้ว” นาเร้าธ์ยิบสมุดให้อาจารย์โดยยัดเข้าไปที่มือของหล่อน
“นี่ เธอ.....” เสียงอาจารย์สั่นเครือ
“อะไรครับ อ๋อ อาจารย์จะบอกว่านอนได้เลยและพอตื่นมาให้ผมกลับไปทำรายงานเรื่อง ทฤษฎี คนแก่แห่งวิทย์ นะสิ แต่ชั่งเหอะครับอาจารย์ เดี๋ยวผมเรียกคนรับใช้ให้เอามาส่งวันนี้เลยเอามั้ยครับ”
แบรนดอนพูดราวกลับรู้ทันใยแก่หมดเปลือก....
“เออ เธอมันฉลาดเกินคน..”เสียงอาจารย์กระซิบเบาๆแล้วกลับไปสอนต่อ
แต่เสียงนั้น มันยังกังวาลอยู่ในหัว จะว่าไปแล้วแบรนดอนแทบไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำ ด้วยความที่เค้าฉลาดมากจนไม่ต้องเรียนม.ปลายก็ได้ หรือจะพูดอีกแนวหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้ไม่เหมาะกับมันสมองเค้าด้วยซ้ำไป
เค้าไม่มีอารมณ์ที่จะนอนหลับ เค้ามองที่คนอื่น และสบตา ใครต่อใคร แต่สายตานั้นกลับกระซิบว่า ‘ฉลาดนักก็ไม่ต้องเรียนสิว่ะ จะมาทำหอกอะไร’............และแน่นอนเค้าเก่ง ฟิสิกตามพ่อเค้าและภาษาตามแม่เค้ากับศิลปะอันมากมายที่เค้านั่งวาดรูปเวลาไม่มีอะไรทำ
จะว่าไปแล้วหน้าตาอันหล่อได้รูปบวกกับเชื้อฝรั่ง...ก็มีผู้หญิงมาจีบเค้าสองสามคน
ในความจริงทั้งหมดโดยสรุป นายคนนี้คงเหงามากเวลาอยู่ในโรงเรียน
เสียงกริ๊ง ของโรงเรียนดังขึ้นหมายความว่าถึงเวลากลับบ้าน แต่อาจารย์ที่สอนนั้นยังไม่ปล่อยออกเพราะเธอยังสอนไม่เส็จ...
แบรนดอนลุกจากที่นั่งแล้วบอกว่า การบ้านหน้า
“ร้อยสิบสี่ใช่มั้ย เรื่องแรงโน้มถ่วงกลับชั้นบรรยากาศโลก” ...
เค้าพูดจบโดยไม่รอคำตอบจากอาจารย์สักนิดแหมแต่เสียงของคนรอบข้างก็ยังไม่แล
แบรนดอนออกจากห้องและกระซิบว่า “สอนอะไรไม่รู้ไร้สาระ”
ในเมื่อเค้าเดินมาหน้าโรงเรียน พร้อมกับสายตาคนรอบข้างสนใจแบรนดอน แต่มันถูกลบล้างความดีงามด้วยความสามารถของเค้าเอง
“มาแล้วหรอครับคุณหนู...”เสียงคนขับรถบีเอ็มดับบิวสีดำมาจอดรอพร้อมกลับเค้าเปิดประตูรถให้
“วันนี้ชั้นจะกลับรถเมล์ มีปัญหามั้ย และก็ไม่ต้องมารับส่งชั้นและ รำคาญ!” เสียงแบรนดอนพูดเป็นภาษาเยอรมัน เพื่อจะให้คนอื่น(นักเรียน)ไม่รู้เรื่องในคำด่าของแบรนดอนเอง
สีหน้าของคนรับใช้ไม่สะทกสะท้านอะไรมากนัก เพราะตัวคนใช้เองชินกับความพาลที่แบรนดอนมีอยู่
“นี้รึรถเมล์” เสียงรถเมล์จอดและประกอบไปด้วยควันฝุ่นละอองมากมาย
แบรนดอนยิ้มพรายและขึ้นไปบนรถเมล์แต่ให้ตายสิ ราวรถเมล์กระแทกหัวเค้าเบาเพื่อเตือนว่า เค้าสูงเกินชาวบ้าน
นัยย์ตาสีดำสนิทได้กวาดที่นั่งบนรถที่เหลือว่าง เมื่อเค้าเห็นแล้วเค้านั่งลงและควักกระเป๋าตังค์ขึ้นมา และแบงค์พันเพียบโดยสังเกตได้ว่าตาของคนข้างๆลุกวาว
“บ้าจังไม่มีเศษเหรียญ”แบรนดอนบ่นออกมาเป็นภาษาอังกฤษ.......
แต่เค้ากลับควักแบงค์พันออกมาให้กระเป๋ารถเมย์.........
ตาของประเป๋ารถเมย์แทบถลึงออกมา แบรนดอนยิ้มสู้โดยกล่าวว่าไม่ต้องทอนก็ได้ครับ...
“เอาไปเถอะ ชั้นไม่เก็บก็ได้..”เธอฉีกตั๋วให้แบรนดอนฟรีๆ และ กระซิบว่า
“นี่เห็นเธอหล่อเท่านั้นแหละไม่งั้นถีบตกรถแล้ว”
แน่นอนความหล่อเหล่าของลูกครึ่งอย่างแบรนดอนนั้นไม่ค่อยจะน่าปลื้มเท่าไรเลย
มันกับส่งผลทำให้ ชีวิตของเค้าไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย
แน่นอน การสื่อข้อความอย่างนี้แปลว่า แบรนดอนต้องการอุปสรรคเป็นอย่างมาก เพราะชีวิตทุกวันที่มีอยู่มันเหมือนกับคนแก่ปลอกแอปเปิ้ลสีเขียวให้หลานสาวเธอกินเท่านั้น
ความวิศลาสของแบรนดอนไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เค้าไม่ย่อมสูญเสียโอกาศที่จะพลาดการนั่งที่นั่งของรถเมล์ไปให้ได้ เค้ากลับนั่งทุกที่ของรถเมล์ โดยถ้ามีใครนั่งอยู่แบรนดอนจะขอให้คนๆนั้นลุกขึ้น
และแน่นอนการทำอย่างนั้นต้องมั่นใจในตนเอง.......กับยิ้มสู้ด้วยเท่านั้น
“สนุกจังแฮะ นั่งรถเมล์” แบรนดอนพูดออกมาเค้ากดกริ๊งหน้าบ้านอันใหญ่แบบไม่เวอร์เท่าไรนัก
“สวัสดีคุณผู้ชาย”เสียงหญิงคนที่หนึ่งพูด และ คนใช้ถอดกระเป๋าให้ แบรนดอน แต่เค้ากลับห้าม..
“วันนี้คุณพ่อและคุณแม่จะมาเยี่ยมพรุ่งนี้นะค่ะ” เสียงหญิงใช้พูด
แบรนดอนไม่สนกับเรื่องพ่อแม่เค้าเท่าไรนัก เค้ากลับตัดบทด้วยการหิวที่สะสมมาตังแต่ออกจากโรงเรียน
“ลูซี่ ชั้นอยากกินผัดกระเพา ชั้นเบื่อเนื้อแกะ” แบรนดอนพูดและวิ่งขึ้นไปชั้นบน เค้าพลางนึกในใจว่าพ่อและแม่จะมาทำไมนะ ...
บรรยากาศในห้องนอนของแบรนดอนชั่งมีมนต์ขลังเหมือนดั่งทะเลใต้ ด้วยกำแพงที่ทำด้วยกระจก กำแพงนั้นกั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอนเท่านั้น เพื่อจะได้เห็นบรรยากาศของกรุงเทพเล็กน้อย
แต่ไม่ได้หมายความว่าบ้านหลังนี้จะทำด้วยกระจก ทางด้านตรงข้ามกับกำแพงกระจกมีกำแพงซีเมนต์ทึบสีฟ้าอ่อน และแน่นอน ชีวิตคุณชายอย่างเค้า ย่อมมีอะไรครบทุกอย่างในบ้าน
ทั้งคอมพิวเตอร์สเปคสูง เตียงนอนหกฟุตที่ทำด้วยไม้สักทองที่เลิศหรู แถมยังมีมุมหนังสือที่แทบจะบอกได้ว่าชั้นหนังสือใหญ่แต่หนังยังว่างได้อย่างเป็นระเบียบ โดยการจัดวางของคนรับใช้
เค้าถอดถุงเท้า เสื้อผ้าเหลือแต่ตัวเปล่าแต่มีกางเกงในหุ้มไว้
“ผัดกระเพาได้แล้วค่ะคุณผู้ชาย” ลูซี่เปิดประตูเข้ามาและวางไว้บนโต๊ะหน้าคอมและเธอก็เดินจากไป
“โอย อิ่ม” เสียงนายเร้าธ์พูดและเผลอหลับไปเพราะความเพลียในการนั่งรถเมล์แบบสามัญชน
“คาล-เอล คาล-เอล” เสียงคนๆนึงพูด
“ชั้นบอกแล้วไง ลูซี่ว่าอย่าปลุกชั้นเวลานอน” เสียงแบรนดอนครางออกมาและเข้าก็ลืมตาขึ้น
โอ้วพระเจ้าคนมีปีก คนมีปีก แต่ปีกมันยังไม่สยายออกมา เข้าเห็นรอยหน้าต่างถูกแงะแต่มันไม่มีรอยแงะ ให้ตายสิคนมีปีก มี ออร่า ด้วยอ่ะ เปล่งแสงจ้าเลย
“อย่าตกใจ โอว ชั้นลืมไปนายตกสวรรค์มา คงจำอะไรไม่ได้เอาล่ะ อยู่ๆเฉย ชั้นมีเวลาไม่มาก อากาศที่นี่ทำชั้นหายใจไม่ค่อยออก เพื่อนรัก” เสียงคนมีปีกพูดและเอามือจับหัวแบรนดอน
แบรนดอนไม่ขยับอะไรมากเค้ากลัวปนตกใจ ปนงงเล็กน้อย แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ แบรนดอนกำลังอึ่งกลับเสียงคำพูด คำว่า เพื่อนรัก
................ทั้งชีวิต ก็มีคนนี้แหละที่เรียกว่าเพื่อน......................
คนมีปีกนิรนามจับหัวแบรนดอนพูดว่า
“ด้วยลูกนี่ ลูกได้เจอสาวกของพระองค์แล้ว ขอให้พระองค์ประทานอภัยกลับความผิดของสาวกของพระองค์ผู้นี้ และโปรดประทานพละกำลังให้เค้าเป็นดังเดิมดั่งพระองค์ทรงประทานมาแต่กาลก่อน” แบรนดอนลอยตัว ตามมือของคนทีปีก และคนมีปีกสยายปีกของเค้าออก
ขนนกฟุ่งกระจายจนเต็มห้อง และแบรนดอนได้รู้สึกไออุ่นที่หลังและขยายไปทั่วร่างกายของเค้า เค้าเริ่มสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่นี้เป้นเวลานอนของแบรนดอนมันก็ยังง่วงนอนอยู่ดีตามวิสัยมนุษย์
คนมีปีกขยับปีกและพูดต่ออีกว่า “จงกรุณาประทานอภัยแก่ผู้หลงผิดอีกครั้ง ........จงตื่น คาล-เอล
จงตื่นจากการหลับไหลในตัวเจ้าเมื่อพระเจ้าทรงประทานอภัยให้เจ้าแล้ว”
ทุกอย่างสงบลง จะว่าไปแล้วมันเงียบมากมีแต่แสงออร่าที่เปล่งออกมาอย่างอบอุ่นเท่านั้น....
“เอาละ คาล-เอลเพื่อนรัก จงทำความดีอยู่ที่นี้บนโลกก่อนและเมื่อถึงวันที่เจ้าตกสวรรค์ครั้งหน้าข้าจะพาเจ้ากลับขึ้นสวรรค์” สิ้นเสียงคนมีปีกเค้ากลับหายตัวไป..
แบรนดอนงงมากแต่เค้ารู้สึกว่าร่างกายเค้าได้สัดส่วนขึ้นสมองโปร่งขึ้น แต่แล้ว การปลุกโดยตอนกลางคืนแบบนี้ต้องห่วงเป็นธรรมดา เค้าล้มตัวลงเตียงและหลับพร้อมกลับรอยยิ้มที่กำเนิดกับคำว่า
เพื่อนรัก
ความคิดเห็น