ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF COLLECT ll FTIsland ll B.A.P.

    ลำดับตอนที่ #4 : ✖ B.A.P. ✖ It's gonna be you (BangChan) - Rename

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 55


    It's gonna be you
     

     

               

                      ห้องนอนสีขาวขนาดไม่กว้างมาก มีผ้าม่านสีเดียวกับห้องกรองแดดให้อยู่ เตียงหนาคลุมด้วยผ้าปูสีขาวมีก้อนผ้าห่มยับยู่ยี่โปะทับร่างสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่

                    “ยงกุก ปล่อยดิ๊ อึดอัด” เสียงหวานอู้อี้แบบคนเพิ่งตื่นนอนพูดกับคนที่กอดรัดร่างตัวเองไว้แน่นราวกับถ้าปล่อยไปแล้วตัวเขาจะโดนแม่เหล็กดูดไปขั้วโลกเหนือซะเดี๋ยวนั้น

                    “.....”  แต่อีกคนยังนอนไม่รู้เรื่องจนเขาชักหมั่นไส้เลยใช้มือที่พอจะขยับไปมาได้บิดเนื้อคนที่นอนกอดเขาอยู่

                    “เฮ้ย เหี้ยตัวไหนกัดกูวะ !” โดนบิดเข้าไปขนาดนั้นคนขี้เซาเลยลืมตาขึ้นมาโวยวายใหญ่ แล้วก็เจอเหี้ยส่งสายพิฆาตอยู่ข้างๆ

                    “อ้าว มึงกัดกูเหรอสวย” สวย... คือคำใช้เรียกแทนคนที่เพิ่งโดนด่าว่าเหี้ยในเวลาที่คนด่ามันรู้สึกตัว

                    “กัดพ่อมึงสิ กูหยิกเว้ยสัด แล้วช่วยเอามือมึงออกไปได้แล้วเชี่ย หนัก!” นั่นไง... ด่าเหี้ยทีเดียวมันมาเป็นชุดอ่ะครับ = =

                    “ยังไม่เช้าเลย นอนต่อเหอะ” แต่ก็ยังหน้ามึนซุกหน้ากับซอกคออีกคนอยู่อย่างนั้น

                    “ไม่เช้าบ้านมึงเหอะ แดดจะเผาของมึงกะกูไหม้อยู่แล้ว ตื่น !” เจอคนหน้าสวยด่าเข้าไปคนหน้ามึนเลยยอมผละหน้าจากซอกคอแต่ไม่ปล่อยมือออกจากตัวอีกคนง่ายๆ

                    “นอนต่ออีกนิดเหอะที่รัก” เสียงหวานขึ้นหนึ่งเลเวล

                    “-___-;

                    “นะครับฮิมชาน” พอเห็นอีกคนยังทำหน้าตายเลยเพิ่มเลเวลเป็นหนึ่งจุดห้า มีคร้งมีครับ

                    “-________-;

                    “อยากนอนกอดเมียอีกนิดจะได้มั้ยครับ *O*” พอเห็นหน้าดุๆเลยอัพเลเวลข้ามจากหนึ่งจุดห้าไปสามเลยด้วยการเพิ่มสายตาออดอ้อนและเน้นคำว่าเมียให้ไปกระแทกหูอีกคนแรงๆ

                    “งั้นมึงนอนแล้วปล่อยกู” ต่อให้ครึ่งครึ่งแล้วนะ คนจะอาบน้ำเว้ยยยย ยย !

                    “ง่ะ บอกว่าอยากนอนกอดเมียไม่ได้ยินเหรอ หืม ?” ว่าแล้วก็กดจูบลงบนแก้มขาวจนขึ้นสี อีกฝ่ายทั้งเบี่ยงตัวหลบ ทั้งดัน ทั้งถีบ แต่บังยงกุกคนนี้ก็ยังเอาความถึกที่มีมากกว่าเข้าข่ม รวบตัวอีกคนไว้ข้างใต้แล้วขึ้นคร่อม   จะได้นอนมั้ยวะเนี่ย -*-

                    “ไอ้หล่อ  นี่ตั้งใจจะนอนจริงๆ ?” เริ่มสงสัยในจุดประสงค์อีกคนเข้าไปทุกที  มันจะนอนทั้งท่าคร่อมแบบนี้เนี่ยนะ ?  

                    “คือตอนแรกกูก็จะนอนว่ะสวย แต่มึงแม่งยั่ว - -”

                    “ยั่วหัวแม่ตีนมึงเหรอ ปล่อยกูเลยสัด !

     

                    ป้าบ !

     

                    บอกให้ปล่อยดีๆไม่เชื่อ เจอตีนสวยพิฆาตเข้าไปบังยงต้องจุก นั่นถือว่าสวยเขาใจดีแล้วนะ เลี่ยงจุดนั้นไว้กลัวใช้การไม่ได้ ไม่งั้นอาบังของเราได้นั่งพันเฝือกพิกาจูไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ

                    “เชี่ยสวยใจร้าย T^T” มีการทำหน้าตาออดอ้อน

                    “เหอะ”  ไม่ได้สนคนที่โดนตัวเองถีบจนตกเตียงแล้วไปนั่งจุกอยู่บนพื้น แต่เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่าไปเข้าห้องน้ำแทน    

     

                    ทำใจว่ะบัง  คนสวยมักโหด = =

     

                    .

                    .

     

                    หลังจากรอฮิมชานอาบน้ำเสร็จเขาก็ไปอาบน้ำต่อ และออกมาทานอาหารเช้าที่คนหน้าสวยทำไว้ให้  บรรยากาศบนโต๊ะไม่มีเสียงพูดคุย ต่างคนต่างนั่งตักอาหารของตัวเองเข้าปากเงียบๆ  พวกเขาไม่ได้เหมือนคู่รักทั่วไป ที่บทสนทนามากมายล้อบรอบโต๊ะอาหาร นั่งแย่งอาหารอีกฝ่ายจนโต๊ะแทบพัง ก็แค่นั่งกินเงียบๆ ซึมซับการมีอยู่ของกันและกัน และบันทึกมันไว้บนฟิล์มเวลาของตัวเอง

                    “ไข่ดาวไหม้ว่ะ” อยู่ๆคนที่ไม่ได้ทำอาหารเองก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

                    “มึงจะกินไข่กูแทนมั้ย ? อย่าบ่น - -”

                    “มึงคิดว่ากลางโต๊ะข้าวกูจะไม่มีอารมณ์เหรอสวย ?”

                    “ยัดลิ้นมึงกลับเข้าปากแล้วเย็บให้แน่น อย่ากวนตอนกูกิน - -”

                    “หึ” ยงกุกหัวเราะเบาๆแต่ก็พอให้ฮิมชานเหลือบตาใส่ทั้งที่ยังกินข้าวอยู่ได้

                    “วันนี้ไปไหนดี?” เก็บข้าวไว้อีกซีกของปากแล้วเอ่ยถามอีกคนที่นั่งกินข้าวได้ผู้ดีสมหน้าตา

                    “ซกมก - -”

                    “กูหล่อ ^^

                    “เกี่ยว ?”

                    “เกี่ยวตรงที่กูซกมกแต่แม่งโคตรหล่อ”พูดไปทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่อย่างนั้น

                    “หึ”  คราวนี้เป็นฮิมชานที่หัวเราะออกมาเบาๆ  เพราะอยู่กับคนคนนี้เลยหัวเราะได้ง่ายกว่าปกติ

                    “แล้วตกลงอยากไปไหน ?” คนหล่อวกเข้าประเด็นเดิมอีกครั้ง

                    “แล้วแต่ดิ” ที่ไหนที่ได้อยู่ด้วยกันสองคนก็ดีทั้งนั้นแหละ

                    “ทะเลมั้ย ? ไม่ได้ไปกันนานแล้วนี่”

                    “อืม” ไม่ได้เสนอความคิดอะไรมาก พยักหน้าตอบก็เท่านั้น อะไรที่บังยงกุกเสนอ เขายอมรับมันทั้งหมด..

     

                    .

                    .

     

                    แล้วก็เป็นไปอย่างที่ยงกุกอยากให้เป็น ทานข้าวเสร็จทั้งสองคนก็นั่งรถมุ่งหน้าไปทะเล ตำแหน่งคนขับเป็นของยงกุก ที่นั่งข้างคนขับทางขวามือเป็นของฮิมชาน  มีเสียงเพลง I’m gonna be around เปิดคลอเบาๆ มือทั้งคู่กอบกุมกันไว้

                    “ถ้าง่วงก็นอนก่อนนะ ถึงแล้วจะปลุก” ไม่อยากให้อีกคนต้องเบื่อกับการนั่งรถ

                    “ไม่อ่ะ” แค่นั่งเฉยๆมองเสี้ยวหน้าของยงกุกจากมุมที่ตัวเองนั่ง.. ก็ไม่เบื่อแล้ว

                    “อยากมองหน้าหน้ากูก็บอก ไม่ต้องทำเป็นไม่ง่วง” แซวไปเรื่อยๆตามอารมณ์คนปากว่างอยากได้ยินเสียงด่าให้ชุ่มหูหน่อยก็เท่านั้น

                    “เออ กูอยากมองหน้ามึง” น่าน... ดันยอมรับอีก  ใจกูพองแข่งกับฟองอากาศแล้วเว้ย

                    “มึงพูดซะกูอยากมองหน้ามึงบ้างเลยสวย”

                    “ถ้ามึงหันมาแล้วรถเกิดเป็นอะไรกูจะแช่งแม่งทั้งโคตรเลย” อึก...  ใจร้าย T^T

                    “เฮอะ” เบะปากใส่เป็นเด็ก เรียกอารมณ์หมั่นไส้จากอีกคนจนแทบจะยกทรีนขึ้นเขี่ย

                    “เดี๋ยวไปถึงกูจะให้มึงมองให้พอเลย ถ้าเสนอหน้ามองไปทางอื่นมึงเจอกูแน่”

                    “มึงแน่ใจจะให้กูมองให้พอ -.-”

                    “อย่าทำหน้าหื่นไอ้หล่อ” กูขนลุก - -

                    “หื่นเพราะมึงแหละสวย แล้วมึงจะได้รู้ว่ามึงน่ะ มองให้ตายกูก็ไม่เคยพอ”  อย่าเสี่ยวเด๊ะ  เขิน -//-

                    “เออ ขับไป - -”

                    “นั่นวิธิแก้เขินมึงเหรอ ?”

                    “เชี่ยบัง ! ขับรถ !” โดนจิกใส่ขนาดนั้นเกจ์ความเร็วเลยพุ่งปรี๊ดเพราะกลัวไม่ทันใจคนสวยแล้วศรีษะน้อยๆของบังยงจะโดนโบกเอา T^T

     

                    .

                    .

                    เบนซ์สีดำหยุดอยู่ที่ลานจอดรถของรีสอร์ท เหลือบมองด้านข้างเห็นคนหน้าสวยที่บอกว่าจะไม่นอนกำลังหลับตาพริ้ม...  หลับยังยั่วขนาดนี้ลักหลับให้เข็ดเลยดีมั้ยเนี่ย ?  แต่ถ้าทำอย่างนั้นกลัวว่าเขาจะเป็นฝ่ายเข็ดแทน - -

                    “ฮิมชาน... ฮิมชานครับ...  คิมฮิมชาน”  ขนาดเอานิ้วมือเกลี่ยรอบกรอบหน้าสวย อีกคนก็ยังไม่มีท่าทีรับรู้การปลุกของเขาเลยซักนิด  เมื่อเช้าปลุกเขาด้วยเท้า ตอนนี้เขาจะปลุกด้วยปากก็อย่ามาว่ากันนะ -.,-

                    ริมฝีปากหนาเริ่มไล้ไปรอบใบหน้า จมูกโด่งสูดกลิ่นจากแก้มใส ฮิมชานขยับใบหน้าหนีเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ตื่น  จนคนข้างบนเปลี่ยนเป็นใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับจมูกและเลื่อนลงมาสูดกลิ่นจากริมฝีปากบาง ก่อนที่จะบดเบียดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย

                    “ไอ้... อะ..” ฮิมชานตื่นตั้งแต่ตอนที่ปากเริ่มเบียดกัน แต่พออ้าปากกำลังจะประท้วง(ด่า) อีกคนก็สอดลิ้นเข้ามาดูดกลืนความหวาน         ละเลียดสัมผัสทั่วโพรงปากจนเขาเริ่มอ่อนตาม และตอบสนองด้วยการผลักลิ้นของตนเกี่ยวพันกับลิ้นอีกฝ่าย ดูดกลืนรสชาติของกันและกันจนแทบขาดอากาศหายใจ

                    “อื้อ” ผลักร่างไอ้คนไม่รู้จักพอที่เอาแต่ดูดกลืนความหวานจากปากเขาโดยไม่คำนึงว่าบางทีมันอาจจะนานเกินไป

                    “แหะๆ”ยิ้มแหยๆก่อนจะลุกจากตัวอีกคนที่เผลอขยับไปคร่อมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...  กะจะแค่จูบจริงๆนะ...

                    “สัด กูเกือบตาย” โวยวายเล็กๆพอให้อีกคนรู้สึกผิดก่อนจะลงจากรถออกมาโกยอากาศเข้าปอด

                    “ก็มึงไม่ตื่น” ยงกุกว่าหลังจากลงจากรถมายืนข้างฮิมชานและสวมกอดจากด้านหลังก่อนจะวางคางลงบนไหล่ของอีกฝ่าย

                    “มึงเลยกะฆ่ากูทางอ้อมว่างั้น? - -”

                    “ฆ่ามึงกูก็ขาดใจสิครับ ^^” มีหน้ามายิ้มระรื่นอีก  แต่เห็นแบบนี้แล้วก็โกรธไม่ลง...

                    “จะเช็คอินได้ยัง ? กูเมื่อย ?” ยงกุกพยักหน้าและจูงมือฮิมชานให้เดินตาม  นักท่องเที่ยวผู้หญิงสามสี่คนหันมองทางเขาทั้งคู่ บางคนอมยิ้ม แต่บางคนถึงกับปิดปากกรี๊ดตัวสั่นเหมือนเจอเรื่องถูกใจ เล่นเอาคนหน้าสวยทำหน้าไม่ถูก ไม่เหมือนอีกคนที่เอาแต่ยิ้มกว้าง

                    คนเดี๋ยวนี้ประหลาด...

     

                    .

                    .

     

                    บ้านพักที่อยู่ติดทะเล แค่นั่งเฉยๆในบ้านก็ได้ยินเสียงคลื่นซัดกระทบฝั่ง  ผ้าม่านสีครีมถูกเปิดออกเพื่อรับภาพชายหาดเงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลูกค้าของรีสอร์ทไม่กี่คนเดินอยู่เพราะนี่เป็นหาดส่วนตัว...  ใบหน้าสวยเผยยิ้มมุมปากเล็กๆ... 

                    อยู่ๆก็อยากเหยียบทราย...

                    “ขับรถมาเหนื่อยๆมึงจะนอนก่อนมั้ย?” หันไปถามคนขับรถที่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มเรียบร้อยแล้ว...

                    “อือ  มึงจะไปข้างนอกเหรอสวย?”

                    “อือ”

                    “รอไปพร้อมกูไม่ได้เหรอ มานอนก่อน” พยายามรั้งตัวอีกคนให้ลงมาบนเตียงด้วยกัน แต่ฮิมชานก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

                    “มึงนอนไปเหอะ ระหว่างทางกูหลับจนอืดแล้ว เดี๋ยวถึงเวลาออกไปกินข้าวกูค่อยปลุก”

                    “ - - ” มองหน้าคนรักอย่างชั่งใจ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วรั้งตัวอีกคนมาไว้ในอ้อมกอด

                    “เชี่ย มึงทำบ้าไรเนี่ย”

                    “น่า” ว่าแล้วก็รัดตัวอีกคนแน่นขึ้นอีก

                    “สัด ปล่อย !” ในที่สุดก็แกะมือปลาหมึกออกจากตัวได้ เหลือบมองหน้ายงกุกแบบต้องการคำตอบ

                    “ที่กูกอดมึง เพราะมึงจะได้มีแต่กลิ่นกูติดตัว ออกไปข้างนอกถ้าเกิดมีแมลงที่ไหนมาตอมแม่งจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว”  เหตุผลมัน - -

                    “ไอ้ปัญญา” ด่าเสร็จก็เดินออกจากห้องทันที  ถึงจะรู้สึกว่าที่ยงกุกทำมันจะสิ้นคิด และบางทีก็เหมือนเด็กๆ แต่ก็อดยิ้มในใจให้กับความเป็นเด็กของอีกคนไม่ได้

                    .

                    .

                    หาดเงียบๆมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินอนอาบแดด หรือหลับอยู่บนเก้าอี้ประปราย ฮิมชานเลือกถือรองเท้าไว้ในมือและเดินริมชายหาดให้น้ำทะเลเซาะเท้าเล่น  ผืนทรายกลายเป็นรูปรอยเท้าน่าถ่ายเก็บไว้.. แต่ขี้เกียจ...

                    เดินไปซักพักเริ่มเมื่อย เลยเดินออกจากริมหาดขึ้นมาหน่อยแล้วหย่อนก้นลงตรงนั้น แดดอ่อนๆยามบ่ายกับลมทะเลที่ผัดผ่านใบหน้าจนเส้นผมปลิวไปด้านหลังทำให้ร่างบางผ่อนคลายขึ้น...

                    กำลังคิดอะไรเพลินๆก็รู้สึกได้ว่าพื้นที่ข้างๆที่เคยว่างมีคนมานั่งลงแล้ว

                    “มาคนเดียวเหรอครับ” ผู้มาใหม่เอ่ยทักทายเจ้าของที่อย่างเป็นมิตร  ฮิมชานเหลือบตามองคนที่มาทำลายฟีลสบายๆริมหาดของเขาพัง 

                    “อืม” ตอบสั้นๆแบบคนมนุษสัมพันธ์ไม่ค่อยดี

                    “คุณเหมือนผู้หญิงมากนะ” เออ แต่กูเป็นผู้ชาย - -

                    “อืม”

                    “แบบนี้มีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ?” เอาแล้วไง... ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญนี่ก็หน้าตาดีไม่แพ้ไอ้ตัวที่นอนอยู่ในห้องเลยด้วย แล้วยังมาถามคำถามแบบนี้ ว่าแล้วก็ขำ ขนาดยงยกุกฝากลิ่นไว้กับตัวเขาขนาดนี้ยังมีแมลงมาตอม...  ถ้ารู้ว่าไอ้ที่ทำไม่ได้ผลต้องดิ้นพล่านแน่ๆ

                    “ผู้ชาย” ตอบหยั่งเชิง

                    “แปลว่ามีแฟนแล้วงั้นสิ?”

                    “อือ” ดูซิว่าไอ้นี่จะมาไม้ไหน

                    “ผมจองแดฮยอน มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนคุณแหละ แต่แฟนผมน่ารักกว่า” อ้าว  ไอ้เวร - - ไม่ม่อน่ะกูดีใจ แต่มาเอากูไปเปรียบเทียบกับแฟนมึงให้ได้อะไรครับ ?

                    “คิมฮิมชาน”

                    “แฟนผมก็พูดน้อยเหมือนคุณ แต่ของเขาน่ะเพราะขี้อายไม่ใช่หยิ่ง” นั่น ด่ากูหยิ่งเฉย - - อีกไม่นานไอ้หล่อ(น้อยกว่าอีกหล่อนึง)นี่ได้คุยกับเท้าเขาแทนปากแน่ -*-

                    “อือ”

                    “ที่จะบอกคือตอนนี้แฟนผมเขางอนอยู่ คุณช่วยไรผมอย่างได้มั้ย?” เพิ่งจะมาเหรอประเด็นหลัก  -O-;

                    “มันใช่เรื่อง?” อันนี้จากใจ รู้จักไม่ถึงห้านาทีจะให้ช่วยเรื่องแฟนแล้ว ถ้าสนิทกันไปไม่ขอให้อุ้มท้องแทนแฟนมันเหรอ ? - - (ถ้าทำได้อ่ะนะ)

                    “ใช่ดิ หน้าตาดีเหมือนกันช่วยเหลือกันได้”  คือไอ้นี่มันพูดไม่รู้เรื่องกว่ายงกุกอีกเว้ย - - หรือพอๆกันวะ

                    “ประสาท” ปกติเขาจะเกรงใจคนแปลกหน้าและไม่ด่า แต่ไอ้นี่ไม่รู้จะเอาอะไรมาเกรงใจมันแล้ว ทั้งประสาทแถมแม่งประหลาดคนอีก - -

                    “เอาเป็นว่าตกลงนะ”

                    “เฮ้ย !”เมื่อไหร่วะ ??????

                    “ง่ายๆเลย คุณแค่เดินข้างๆผมให้แฟนผมเห็น แค่นั้นพอ โอเคนะ” แล้วมันก็อธิบายรายละเอียดแบบไม่ดูสีหน้าคนฟัง แถมยังตอบตกลงเองด้วย ใครได้ไปซวยตายชัก

                    “แล้วทำแบบนั้นเขาไม่ยิ่งงอนเหรอ?” ไหนๆก็โดนมันลากเข้าแผนแล้ว ก็เลยตามเลยละกัน

                    “ใช่ไง ยิ่งทำยิ่งงอนกว่าเดิม นั่นแหละดี” ชักไม่เข้าใจไอ้หล่อนี่แล้ว ถ้าวันไหนยงกุกง้อแบบนี้ขึ้นมาบ้างพ่อจะจับแตะยัดปากเลยคอยดู  คิดแล้วก็เสียว - -

                    “ไหนอ่ะแฟนนาย”

                    “นั่นงะ..งายย เชี่ย ! ใครวะ !”กำลังชี้ไปที่แฟนตัวเองอยู่ดีๆก็ตะโกนขึ้นมาจนคนข้างๆสะดุ้งแล้วก็รีบลุกขึ้นไปทางที่ชี้เมื่อกี๊ทันที   มองตามไปก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตาโง่ๆ (เมื่อกี๊แฟนมันว่าเรา - -) ยืนคุยกับผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงกว่าหน่อย แถมยังยิ้มซื่อๆใส่อีก  ถึงว่าล่ะรีบลุกขึ้นลืมแผนเลย  หน้าตาน่าลากลงน้ำอย่างนี้เป็นเขาเขาก็หวง...

                    เห็นไอ้คนเจ้าแผนการที่แนะนำตัวว่าชื่อแดฮยอนยืนจ้องคู่กรณีเป๋งก็ขำ  กะจะแกล้งให้แฟนตัวเองหึงแท้ๆ ดันต้องมาหึงแฟนตัวเองแทน  กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนองหนอ

                    ซักพักนึงคู่กรณีของหมอนั่นก็เดินออกไป พร้อมแดฮยอนที่โอบคอแฟนตัวเองเดินไปอีกทาง  หมดเรื่องชาวบ้านเขาก็หมดอารมณ์สุนทรีย์ลุกขึ้นใส่รองเท้าเตรียมกลับห้อง แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นไอโฟนสีดำหล่นอยู่ข้างเท้าตัวเอง ไม่ใช่ของเขาแน่เพราะเขาใช้สีขาว... งั้นก็เหลืออยู่คนเดียว  ไอ้เพี้ยนที่มานั่งเวิ่นข้างเขาเมื่อครู่ 

                    หยิบมือถือขึ้นมาและมองหาเจ้าของตั้งใจจะเอาไปให้ แต่เจ้าตัวก็หายไปเร็วเหลือเกิน  จะรีบไปเคลียร์กันยังไงก็ช่วยใส่ใจทรัพย์สมบัติตัวเองที่มันสูญหายไปบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่นอย่างนี้ - -

                   

     

                    สุดท้ายฮิมชานก็เก็บโทรศัพท์ของแดฮยอนไว้รอให้เจ้าของมาเอาคืน แต่ทันทีที่วางไอโฟนสีดำลงข้างโคมไฟตรงหัวเตียงก็มีเสียงถามขึ้นทันที

                    “โทรศัพท์ใครสวย ?”

                    “ไม่รู้” คนตอบน่ะไม่รู้จริงๆ ส่วนคนถามก็เคืองจริงๆที่ตอบมาแบบนี้

                    “เอาดีๆ กูถามว่าโทรศัพท์ใคร”

                    “มึงก็ฟังดีๆกูบอกว่าไม่รู้ จะอะไรนักหนาเนี่ย !

                    “ไม่รู้แล้วมาอยู่ที่มึงได้ไง !”เริ่มขึ้นเสียงใส่

                    “ก็เจ้าของแม่งทำหล่นไว้ กูก็รอให้เขาโทรมาเอาคืนไง”

                    “ผู้ชายผู้หญิง”

                    “ชาย - -”

                    “หล่อมั้ย?” เกี่ยวกับโทรศัพท์ตรงไหนวะ -*-

                    “หล่อ” ตอบตามตรงแต่ยงกุกกลับเคือง กล้าชมคนอื่นว่าหล่อต่อหน้าเขาเหรอ (คือแกถามเองอ่ะบัง - -)

                    “เทียบกับกูใครหล่อกว่า” ฮิมชานแอบยิ้มบางๆเมื่อได้ยินคำถาม  ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย!

                    “ไม่รู้ กูมองไม่ชัด”

                    “ที่ไม่ชัดเนี่ยหน้ามันหรือหน้ากู”

                    “ทั้งสองแหละ ก็มามืดกันทั้งคู่” แกล้งให้ยงกุกของขึ้นเล่นๆ แต่ยงกุกกลับกระชากร่างฮิมชานเข้าหาตัวจนหน้าอีกฝ่ายกระแทกอกตัวเองดังปั้ก  คนหน้าสวยเหลือบมองไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

                    “งั้นมึงมองหน้ากูเลยสวย มองดีๆมองให้ตลอด เพราะกูกำลังจะทำให้มึงจะหน้ากูให้ได้!

                    “เชี่ยบัง ปล่อยกูสัด !” ยงกุกหยุดเสียงด่าของฮิมชานด้วยการปิดปากอีกฝ่ายไว้ด้วยปากตัวเอง ไซร้ไปทั่วผิวเนื้อหอม...

                    ถึงขนาดนี้แล้วคงต้องปล่อยเลยตามเลย... 

                    .

                    .

                    “ทำไมมึงเอาแต่มองหน้ากูเนี่ย”

     

                    “เชี่ย ! ไอ้หมาตัวไหนบอกให้กูมองแต่หน้ามันอย่ามองไปทางอื่นวะสัด !

     

                    “โทษที  กูลืม -//////-“

     

                    “เมื่อไหร่จะพอเนี่ย โว้ย อย่ากัดเอวกู !

     

                    .

                    .

                    ดูท่าจะต้องจ้องหน้าอาบังยันเช้าแล้วล่ะสวยเอ๊ย -.,-

    ----------------------------------------------------


    อายตัวเองเบาๆ แพรวเซฟฟิคเรื่องนี้ไว้ว่าชั่ววูบ เพราะเป็นฟิคชั่ววูบไม่ได้คิดชื่อ
    กระทั่งคิดชื่อได้ ก็อัพลงไปในบอร์ดเลย ไม่ได้แก้อะไรในเวิร์ด
    กระทั่งวันนี้เอามาอัพอีกครั้ง ปรากฏว่าลืมชื่อเรื่อง
    คิดชื่อใหม่แบบปัจจุบันทันหัวมาก ซอรี่ค่ะ -/-

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×