คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ✖ B.A.P. ✖ It's gonna be you (BangChan) - Rename
It's gonna be you
ห้องนอนสีขาวขนาดไม่กว้างมาก มีผ้าม่านสีเดียวกับห้องกรองแดดให้อยู่ เตียงหนาคลุมด้วยผ้าปูสีขาวมีก้อนผ้าห่มยับยู่ยี่โปะทับร่างสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่
“ยงกุก ปล่อยดิ๊ อึดอัด” เสียงหวานอู้อี้แบบคนเพิ่งตื่นนอนพูดกับคนที่กอดรัดร่างตัวเองไว้แน่นราวกับถ้าปล่อยไปแล้วตัวเขาจะโดนแม่เหล็กดูดไปขั้วโลกเหนือซะเดี๋ยวนั้น
“.....” แต่อีกคนยังนอนไม่รู้เรื่องจนเขาชักหมั่นไส้เลยใช้มือที่พอจะขยับไปมาได้บิดเนื้อคนที่นอนกอดเขาอยู่
“เฮ้ย เหี้ยตัวไหนกัดกูวะ !” โดนบิดเข้าไปขนาดนั้นคนขี้เซาเลยลืมตาขึ้นมาโวยวายใหญ่ แล้วก็เจอเหี้ยส่งสายพิฆาตอยู่ข้างๆ
“อ้าว มึงกัดกูเหรอสวย” สวย... คือคำใช้เรียกแทนคนที่เพิ่งโดนด่าว่าเหี้ยในเวลาที่คนด่ามันรู้สึกตัว
“กัดพ่อมึงสิ กูหยิกเว้ยสัด แล้วช่วยเอามือมึงออกไปได้แล้วเชี่ย หนัก!” นั่นไง... ด่าเหี้ยทีเดียวมันมาเป็นชุดอ่ะครับ = =
“ยังไม่เช้าเลย นอนต่อเหอะ” แต่ก็ยังหน้ามึนซุกหน้ากับซอกคออีกคนอยู่อย่างนั้น
“ไม่เช้าบ้านมึงเหอะ แดดจะเผาของมึงกะกูไหม้อยู่แล้ว ตื่น !” เจอคนหน้าสวยด่าเข้าไปคนหน้ามึนเลยยอมผละหน้าจากซอกคอแต่ไม่ปล่อยมือออกจากตัวอีกคนง่ายๆ
“นอนต่ออีกนิดเหอะที่รัก” เสียงหวานขึ้นหนึ่งเลเวล
“-___-;”
“นะครับฮิมชาน” พอเห็นอีกคนยังทำหน้าตายเลยเพิ่มเลเวลเป็นหนึ่งจุดห้า มีคร้งมีครับ
“-________-;”
“อยากนอนกอดเมียอีกนิดจะได้มั้ยครับ *O*” พอเห็นหน้าดุๆเลยอัพเลเวลข้ามจากหนึ่งจุดห้าไปสามเลยด้วยการเพิ่มสายตาออดอ้อนและเน้นคำว่าเมียให้ไปกระแทกหูอีกคนแรงๆ
“งั้นมึงนอนแล้วปล่อยกู” ต่อให้ครึ่งครึ่งแล้วนะ คนจะอาบน้ำเว้ยยยย ยย !
“ง่ะ บอกว่าอยากนอนกอดเมียไม่ได้ยินเหรอ หืม ?” ว่าแล้วก็กดจูบลงบนแก้มขาวจนขึ้นสี อีกฝ่ายทั้งเบี่ยงตัวหลบ ทั้งดัน ทั้งถีบ แต่บังยงกุกคนนี้ก็ยังเอาความถึกที่มีมากกว่าเข้าข่ม รวบตัวอีกคนไว้ข้างใต้แล้วขึ้นคร่อม จะได้นอนมั้ยวะเนี่ย -*-
“ไอ้หล่อ นี่ตั้งใจจะนอนจริงๆ ?” เริ่มสงสัยในจุดประสงค์อีกคนเข้าไปทุกที มันจะนอนทั้งท่าคร่อมแบบนี้เนี่ยนะ ?
“คือตอนแรกกูก็จะนอนว่ะสวย แต่มึงแม่งยั่ว - -”
“ยั่วหัวแม่ตีนมึงเหรอ ปล่อยกูเลยสัด !”
ป้าบ !
บอกให้ปล่อยดีๆไม่เชื่อ เจอตีนสวยพิฆาตเข้าไปบังยงต้องจุก นั่นถือว่าสวยเขาใจดีแล้วนะ เลี่ยงจุดนั้นไว้กลัวใช้การไม่ได้ ไม่งั้นอาบังของเราได้นั่งพันเฝือกพิกาจูไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ
“เชี่ยสวยใจร้าย T^T” มีการทำหน้าตาออดอ้อน
“เหอะ” ไม่ได้สนคนที่โดนตัวเองถีบจนตกเตียงแล้วไปนั่งจุกอยู่บนพื้น แต่เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่าไปเข้าห้องน้ำแทน
ทำใจว่ะบัง คนสวยมักโหด = =
.
.
หลังจากรอฮิมชานอาบน้ำเสร็จเขาก็ไปอาบน้ำต่อ และออกมาทานอาหารเช้าที่คนหน้าสวยทำไว้ให้ บรรยากาศบนโต๊ะไม่มีเสียงพูดคุย ต่างคนต่างนั่งตักอาหารของตัวเองเข้าปากเงียบๆ พวกเขาไม่ได้เหมือนคู่รักทั่วไป ที่บทสนทนามากมายล้อบรอบโต๊ะอาหาร นั่งแย่งอาหารอีกฝ่ายจนโต๊ะแทบพัง ก็แค่นั่งกินเงียบๆ ซึมซับการมีอยู่ของกันและกัน และบันทึกมันไว้บนฟิล์มเวลาของตัวเอง
“ไข่ดาวไหม้ว่ะ” อยู่ๆคนที่ไม่ได้ทำอาหารเองก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“มึงจะกินไข่กูแทนมั้ย ? อย่าบ่น - -”
“มึงคิดว่ากลางโต๊ะข้าวกูจะไม่มีอารมณ์เหรอสวย ?”
“ยัดลิ้นมึงกลับเข้าปากแล้วเย็บให้แน่น อย่ากวนตอนกูกิน - -”
“หึ” ยงกุกหัวเราะเบาๆแต่ก็พอให้ฮิมชานเหลือบตาใส่ทั้งที่ยังกินข้าวอยู่ได้
“วันนี้ไปไหนดี?” เก็บข้าวไว้อีกซีกของปากแล้วเอ่ยถามอีกคนที่นั่งกินข้าวได้ผู้ดีสมหน้าตา
“ซกมก - -”
“กูหล่อ ^^”
“เกี่ยว ?”
“เกี่ยวตรงที่กูซกมกแต่แม่งโคตรหล่อ”พูดไปทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่อย่างนั้น
“หึ” คราวนี้เป็นฮิมชานที่หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะอยู่กับคนคนนี้เลยหัวเราะได้ง่ายกว่าปกติ
“แล้วตกลงอยากไปไหน ?” คนหล่อวกเข้าประเด็นเดิมอีกครั้ง
“แล้วแต่ดิ” ที่ไหนที่ได้อยู่ด้วยกันสองคนก็ดีทั้งนั้นแหละ
“ทะเลมั้ย ? ไม่ได้ไปกันนานแล้วนี่”
“อืม” ไม่ได้เสนอความคิดอะไรมาก พยักหน้าตอบก็เท่านั้น อะไรที่บังยงกุกเสนอ เขายอมรับมันทั้งหมด..
.
.
แล้วก็เป็นไปอย่างที่ยงกุกอยากให้เป็น ทานข้าวเสร็จทั้งสองคนก็นั่งรถมุ่งหน้าไปทะเล ตำแหน่งคนขับเป็นของยงกุก ที่นั่งข้างคนขับทางขวามือเป็นของฮิมชาน มีเสียงเพลง I’m gonna be around เปิดคลอเบาๆ มือทั้งคู่กอบกุมกันไว้
“ถ้าง่วงก็นอนก่อนนะ ถึงแล้วจะปลุก” ไม่อยากให้อีกคนต้องเบื่อกับการนั่งรถ
“ไม่อ่ะ” แค่นั่งเฉยๆมองเสี้ยวหน้าของยงกุกจากมุมที่ตัวเองนั่ง.. ก็ไม่เบื่อแล้ว
“อยากมองหน้าหน้ากูก็บอก ไม่ต้องทำเป็นไม่ง่วง” แซวไปเรื่อยๆตามอารมณ์คนปากว่างอยากได้ยินเสียงด่าให้ชุ่มหูหน่อยก็เท่านั้น
“เออ กูอยากมองหน้ามึง” น่าน... ดันยอมรับอีก ใจกูพองแข่งกับฟองอากาศแล้วเว้ย
“มึงพูดซะกูอยากมองหน้ามึงบ้างเลยสวย”
“ถ้ามึงหันมาแล้วรถเกิดเป็นอะไรกูจะแช่งแม่งทั้งโคตรเลย” อึก... ใจร้าย T^T
“เฮอะ” เบะปากใส่เป็นเด็ก เรียกอารมณ์หมั่นไส้จากอีกคนจนแทบจะยกทรีนขึ้นเขี่ย
“เดี๋ยวไปถึงกูจะให้มึงมองให้พอเลย ถ้าเสนอหน้ามองไปทางอื่นมึงเจอกูแน่”
“มึงแน่ใจจะให้กูมองให้พอ -.-”
“อย่าทำหน้าหื่นไอ้หล่อ” กูขนลุก - -
“หื่นเพราะมึงแหละสวย แล้วมึงจะได้รู้ว่ามึงน่ะ มองให้ตายกูก็ไม่เคยพอ” อย่าเสี่ยวเด๊ะ เขิน -//-
“เออ ขับไป - -”
“นั่นวิธิแก้เขินมึงเหรอ ?”
“เชี่ยบัง ! ขับรถ !” โดนจิกใส่ขนาดนั้นเกจ์ความเร็วเลยพุ่งปรี๊ดเพราะกลัวไม่ทันใจคนสวยแล้วศรีษะน้อยๆของบังยงจะโดนโบกเอา T^T
.
.
เบนซ์สีดำหยุดอยู่ที่ลานจอดรถของรีสอร์ท เหลือบมองด้านข้างเห็นคนหน้าสวยที่บอกว่าจะไม่นอนกำลังหลับตาพริ้ม... หลับยังยั่วขนาดนี้ลักหลับให้เข็ดเลยดีมั้ยเนี่ย ? แต่ถ้าทำอย่างนั้นกลัวว่าเขาจะเป็นฝ่ายเข็ดแทน - -
“ฮิมชาน... ฮิมชานครับ... คิมฮิมชาน” ขนาดเอานิ้วมือเกลี่ยรอบกรอบหน้าสวย อีกคนก็ยังไม่มีท่าทีรับรู้การปลุกของเขาเลยซักนิด เมื่อเช้าปลุกเขาด้วยเท้า ตอนนี้เขาจะปลุกด้วยปากก็อย่ามาว่ากันนะ -.,-
ริมฝีปากหนาเริ่มไล้ไปรอบใบหน้า จมูกโด่งสูดกลิ่นจากแก้มใส ฮิมชานขยับใบหน้าหนีเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ตื่น จนคนข้างบนเปลี่ยนเป็นใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับจมูกและเลื่อนลงมาสูดกลิ่นจากริมฝีปากบาง ก่อนที่จะบดเบียดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย
“ไอ้... อะ..” ฮิมชานตื่นตั้งแต่ตอนที่ปากเริ่มเบียดกัน แต่พออ้าปากกำลังจะประท้วง(ด่า) อีกคนก็สอดลิ้นเข้ามาดูดกลืนความหวาน ละเลียดสัมผัสทั่วโพรงปากจนเขาเริ่มอ่อนตาม และตอบสนองด้วยการผลักลิ้นของตนเกี่ยวพันกับลิ้นอีกฝ่าย ดูดกลืนรสชาติของกันและกันจนแทบขาดอากาศหายใจ
“อื้อ” ผลักร่างไอ้คนไม่รู้จักพอที่เอาแต่ดูดกลืนความหวานจากปากเขาโดยไม่คำนึงว่าบางทีมันอาจจะนานเกินไป
“แหะๆ”ยิ้มแหยๆก่อนจะลุกจากตัวอีกคนที่เผลอขยับไปคร่อมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้... กะจะแค่จูบจริงๆนะ...
“สัด กูเกือบตาย” โวยวายเล็กๆพอให้อีกคนรู้สึกผิดก่อนจะลงจากรถออกมาโกยอากาศเข้าปอด
“ก็มึงไม่ตื่น” ยงกุกว่าหลังจากลงจากรถมายืนข้างฮิมชานและสวมกอดจากด้านหลังก่อนจะวางคางลงบนไหล่ของอีกฝ่าย
“มึงเลยกะฆ่ากูทางอ้อมว่างั้น? - -”
“ฆ่ามึงกูก็ขาดใจสิครับ ^^” มีหน้ามายิ้มระรื่นอีก แต่เห็นแบบนี้แล้วก็โกรธไม่ลง...
“จะเช็คอินได้ยัง ? กูเมื่อย ?” ยงกุกพยักหน้าและจูงมือฮิมชานให้เดินตาม นักท่องเที่ยวผู้หญิงสามสี่คนหันมองทางเขาทั้งคู่ บางคนอมยิ้ม แต่บางคนถึงกับปิดปากกรี๊ดตัวสั่นเหมือนเจอเรื่องถูกใจ เล่นเอาคนหน้าสวยทำหน้าไม่ถูก ไม่เหมือนอีกคนที่เอาแต่ยิ้มกว้าง
คนเดี๋ยวนี้ประหลาด...
.
.
บ้านพักที่อยู่ติดทะเล แค่นั่งเฉยๆในบ้านก็ได้ยินเสียงคลื่นซัดกระทบฝั่ง ผ้าม่านสีครีมถูกเปิดออกเพื่อรับภาพชายหาดเงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลูกค้าของรีสอร์ทไม่กี่คนเดินอยู่เพราะนี่เป็นหาดส่วนตัว... ใบหน้าสวยเผยยิ้มมุมปากเล็กๆ...
อยู่ๆก็อยากเหยียบทราย...
“ขับรถมาเหนื่อยๆมึงจะนอนก่อนมั้ย?” หันไปถามคนขับรถที่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มเรียบร้อยแล้ว...
“อือ มึงจะไปข้างนอกเหรอสวย?”
“อือ”
“รอไปพร้อมกูไม่ได้เหรอ มานอนก่อน” พยายามรั้งตัวอีกคนให้ลงมาบนเตียงด้วยกัน แต่ฮิมชานก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“มึงนอนไปเหอะ ระหว่างทางกูหลับจนอืดแล้ว เดี๋ยวถึงเวลาออกไปกินข้าวกูค่อยปลุก”
“ - - ” มองหน้าคนรักอย่างชั่งใจ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วรั้งตัวอีกคนมาไว้ในอ้อมกอด
“เชี่ย มึงทำบ้าไรเนี่ย”
“น่า” ว่าแล้วก็รัดตัวอีกคนแน่นขึ้นอีก
“สัด ปล่อย !” ในที่สุดก็แกะมือปลาหมึกออกจากตัวได้ เหลือบมองหน้ายงกุกแบบต้องการคำตอบ
“ที่กูกอดมึง เพราะมึงจะได้มีแต่กลิ่นกูติดตัว ออกไปข้างนอกถ้าเกิดมีแมลงที่ไหนมาตอมแม่งจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว” เหตุผลมัน - -
“ไอ้ปัญญา” ด่าเสร็จก็เดินออกจากห้องทันที ถึงจะรู้สึกว่าที่ยงกุกทำมันจะสิ้นคิด และบางทีก็เหมือนเด็กๆ แต่ก็อดยิ้มในใจให้กับความเป็นเด็กของอีกคนไม่ได้
.
.
หาดเงียบๆมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินอนอาบแดด หรือหลับอยู่บนเก้าอี้ประปราย ฮิมชานเลือกถือรองเท้าไว้ในมือและเดินริมชายหาดให้น้ำทะเลเซาะเท้าเล่น ผืนทรายกลายเป็นรูปรอยเท้าน่าถ่ายเก็บไว้.. แต่ขี้เกียจ...
เดินไปซักพักเริ่มเมื่อย เลยเดินออกจากริมหาดขึ้นมาหน่อยแล้วหย่อนก้นลงตรงนั้น แดดอ่อนๆยามบ่ายกับลมทะเลที่ผัดผ่านใบหน้าจนเส้นผมปลิวไปด้านหลังทำให้ร่างบางผ่อนคลายขึ้น...
กำลังคิดอะไรเพลินๆก็รู้สึกได้ว่าพื้นที่ข้างๆที่เคยว่างมีคนมานั่งลงแล้ว
“มาคนเดียวเหรอครับ” ผู้มาใหม่เอ่ยทักทายเจ้าของที่อย่างเป็นมิตร ฮิมชานเหลือบตามองคนที่มาทำลายฟีลสบายๆริมหาดของเขาพัง
“อืม” ตอบสั้นๆแบบคนมนุษสัมพันธ์ไม่ค่อยดี
“คุณเหมือนผู้หญิงมากนะ” เออ แต่กูเป็นผู้ชาย - -
“อืม”
“แบบนี้มีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ?” เอาแล้วไง... ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญนี่ก็หน้าตาดีไม่แพ้ไอ้ตัวที่นอนอยู่ในห้องเลยด้วย แล้วยังมาถามคำถามแบบนี้ ว่าแล้วก็ขำ ขนาดยงยกุกฝากลิ่นไว้กับตัวเขาขนาดนี้ยังมีแมลงมาตอม... ถ้ารู้ว่าไอ้ที่ทำไม่ได้ผลต้องดิ้นพล่านแน่ๆ
“ผู้ชาย” ตอบหยั่งเชิง
“แปลว่ามีแฟนแล้วงั้นสิ?”
“อือ” ดูซิว่าไอ้นี่จะมาไม้ไหน
“ผมจองแดฮยอน มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนคุณแหละ แต่แฟนผมน่ารักกว่า” อ้าว ไอ้เวร - - ไม่ม่อน่ะกูดีใจ แต่มาเอากูไปเปรียบเทียบกับแฟนมึงให้ได้อะไรครับ ?
“คิมฮิมชาน”
“แฟนผมก็พูดน้อยเหมือนคุณ แต่ของเขาน่ะเพราะขี้อายไม่ใช่หยิ่ง” นั่น ด่ากูหยิ่งเฉย - - อีกไม่นานไอ้หล่อ(น้อยกว่าอีกหล่อนึง)นี่ได้คุยกับเท้าเขาแทนปากแน่ -*-
“อือ”
“ที่จะบอกคือตอนนี้แฟนผมเขางอนอยู่ คุณช่วยไรผมอย่างได้มั้ย?” เพิ่งจะมาเหรอประเด็นหลัก -O-;
“มันใช่เรื่อง?” อันนี้จากใจ รู้จักไม่ถึงห้านาทีจะให้ช่วยเรื่องแฟนแล้ว ถ้าสนิทกันไปไม่ขอให้อุ้มท้องแทนแฟนมันเหรอ ? - - (ถ้าทำได้อ่ะนะ)
“ใช่ดิ หน้าตาดีเหมือนกันช่วยเหลือกันได้” คือไอ้นี่มันพูดไม่รู้เรื่องกว่ายงกุกอีกเว้ย - - หรือพอๆกันวะ
“ประสาท” ปกติเขาจะเกรงใจคนแปลกหน้าและไม่ด่า แต่ไอ้นี่ไม่รู้จะเอาอะไรมาเกรงใจมันแล้ว ทั้งประสาทแถมแม่งประหลาดคนอีก - -
“เอาเป็นว่าตกลงนะ”
“เฮ้ย !”เมื่อไหร่วะ ??????
“ง่ายๆเลย คุณแค่เดินข้างๆผมให้แฟนผมเห็น แค่นั้นพอ โอเคนะ” แล้วมันก็อธิบายรายละเอียดแบบไม่ดูสีหน้าคนฟัง แถมยังตอบตกลงเองด้วย ใครได้ไปซวยตายชัก
“แล้วทำแบบนั้นเขาไม่ยิ่งงอนเหรอ?” ไหนๆก็โดนมันลากเข้าแผนแล้ว ก็เลยตามเลยละกัน
“ใช่ไง ยิ่งทำยิ่งงอนกว่าเดิม นั่นแหละดี” ชักไม่เข้าใจไอ้หล่อนี่แล้ว ถ้าวันไหนยงกุกง้อแบบนี้ขึ้นมาบ้างพ่อจะจับแตะยัดปากเลยคอยดู คิดแล้วก็เสียว - -
“ไหนอ่ะแฟนนาย”
“นั่นงะ..งายย เชี่ย ! ใครวะ !”กำลังชี้ไปที่แฟนตัวเองอยู่ดีๆก็ตะโกนขึ้นมาจนคนข้างๆสะดุ้งแล้วก็รีบลุกขึ้นไปทางที่ชี้เมื่อกี๊ทันที มองตามไปก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตาโง่ๆ (เมื่อกี๊แฟนมันว่าเรา - -) ยืนคุยกับผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงกว่าหน่อย แถมยังยิ้มซื่อๆใส่อีก ถึงว่าล่ะรีบลุกขึ้นลืมแผนเลย หน้าตาน่าลากลงน้ำอย่างนี้เป็นเขาเขาก็หวง...
เห็นไอ้คนเจ้าแผนการที่แนะนำตัวว่าชื่อแดฮยอนยืนจ้องคู่กรณีเป๋งก็ขำ กะจะแกล้งให้แฟนตัวเองหึงแท้ๆ ดันต้องมาหึงแฟนตัวเองแทน กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนองหนอ
ซักพักนึงคู่กรณีของหมอนั่นก็เดินออกไป พร้อมแดฮยอนที่โอบคอแฟนตัวเองเดินไปอีกทาง หมดเรื่องชาวบ้านเขาก็หมดอารมณ์สุนทรีย์ลุกขึ้นใส่รองเท้าเตรียมกลับห้อง แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นไอโฟนสีดำหล่นอยู่ข้างเท้าตัวเอง ไม่ใช่ของเขาแน่เพราะเขาใช้สีขาว... งั้นก็เหลืออยู่คนเดียว ไอ้เพี้ยนที่มานั่งเวิ่นข้างเขาเมื่อครู่
หยิบมือถือขึ้นมาและมองหาเจ้าของตั้งใจจะเอาไปให้ แต่เจ้าตัวก็หายไปเร็วเหลือเกิน จะรีบไปเคลียร์กันยังไงก็ช่วยใส่ใจทรัพย์สมบัติตัวเองที่มันสูญหายไปบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่นอย่างนี้ - -
สุดท้ายฮิมชานก็เก็บโทรศัพท์ของแดฮยอนไว้รอให้เจ้าของมาเอาคืน แต่ทันทีที่วางไอโฟนสีดำลงข้างโคมไฟตรงหัวเตียงก็มีเสียงถามขึ้นทันที
“โทรศัพท์ใครสวย ?”
“ไม่รู้” คนตอบน่ะไม่รู้จริงๆ ส่วนคนถามก็เคืองจริงๆที่ตอบมาแบบนี้
“เอาดีๆ กูถามว่าโทรศัพท์ใคร”
“มึงก็ฟังดีๆกูบอกว่าไม่รู้ จะอะไรนักหนาเนี่ย !”
“ไม่รู้แล้วมาอยู่ที่มึงได้ไง !”เริ่มขึ้นเสียงใส่
“ก็เจ้าของแม่งทำหล่นไว้ กูก็รอให้เขาโทรมาเอาคืนไง”
“ผู้ชายผู้หญิง”
“ชาย - -”
“หล่อมั้ย?” เกี่ยวกับโทรศัพท์ตรงไหนวะ -*-
“หล่อ” ตอบตามตรงแต่ยงกุกกลับเคือง กล้าชมคนอื่นว่าหล่อต่อหน้าเขาเหรอ (คือแกถามเองอ่ะบัง - -)
“เทียบกับกูใครหล่อกว่า” ฮิมชานแอบยิ้มบางๆเมื่อได้ยินคำถาม ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย!
“ไม่รู้ กูมองไม่ชัด”
“ที่ไม่ชัดเนี่ยหน้ามันหรือหน้ากู”
“ทั้งสองแหละ ก็มามืดกันทั้งคู่” แกล้งให้ยงกุกของขึ้นเล่นๆ แต่ยงกุกกลับกระชากร่างฮิมชานเข้าหาตัวจนหน้าอีกฝ่ายกระแทกอกตัวเองดังปั้ก คนหน้าสวยเหลือบมองไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“งั้นมึงมองหน้ากูเลยสวย มองดีๆมองให้ตลอด เพราะกูกำลังจะทำให้มึงจะหน้ากูให้ได้!”
“เชี่ยบัง ปล่อยกูสัด !” ยงกุกหยุดเสียงด่าของฮิมชานด้วยการปิดปากอีกฝ่ายไว้ด้วยปากตัวเอง ไซร้ไปทั่วผิวเนื้อหอม...
ถึงขนาดนี้แล้วคงต้องปล่อยเลยตามเลย...
.
.
“ทำไมมึงเอาแต่มองหน้ากูเนี่ย”
“เชี่ย ! ไอ้หมาตัวไหนบอกให้กูมองแต่หน้ามันอย่ามองไปทางอื่นวะสัด !”
“โทษที กูลืม -//////-“
“เมื่อไหร่จะพอเนี่ย โว้ย อย่ากัดเอวกู !”
.
.
ดูท่าจะต้องจ้องหน้าอาบังยันเช้าแล้วล่ะสวยเอ๊ย -.,-
----------------------------------------------------
อายตัวเองเบาๆ แพรวเซฟฟิคเรื่องนี้ไว้ว่าชั่ววูบ เพราะเป็นฟิคชั่ววูบไม่ได้คิดชื่อ
กระทั่งคิดชื่อได้ ก็อัพลงไปในบอร์ดเลย ไม่ได้แก้อะไรในเวิร์ด
กระทั่งวันนี้เอามาอัพอีกครั้ง ปรากฏว่าลืมชื่อเรื่อง
คิดชื่อใหม่แบบปัจจุบันทันหัวมาก ซอรี่ค่ะ -/-
ความคิดเห็น