ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ✖ FTIsland ft.B2ST ✖ The Truth
The Truth
Paring : Read its.If you wanna know :)
Part : One Shot
Note : เรื่องของคู่อาจไม่แน่นอน อ่านให้จบแล้วค่อยวิจารณ์นะคะ !
อีกวันที่ฮงกีได้แต่นั่งอยู่ในความมืดมองดูแสงสีนอกหน้าต่างแล้วกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย จงฮุนยังคงติดงานอยู่ที่ต่างจังหวัด ทิ้งเขาไว้ที่โซลคนเดียวอย่างเคย....
คนอื่นๆจะคึกกลับบ้านตอนปีใหม่ทำไมนักหนา ?
แล้วทำไมเขาถึงคิดต่าง.... ทำไมเขาถึงไม่สนใจจะกลับบ้านตอนปีใหม่น่ะเหรอ ?
ก็เพราะตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมดแล้วน่ะสิ... ที่ที่เขาเคยเรียกมันว่า ‘บ้าน’ ได้หายไปนับจากที่เขาตัดสินใจมาอยู่ในวงการมายานี่... ได้หลายอย่าง แต่เสียหลายอย่างเหมือนกันนะ....
~
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น ทำลายภวังค์ของร่างบาง ฮงกีไล่สายตาไปตามความมืดแล้วก็พบเครื่องมือสื่อสารที่ส่องแสงสว่างวาบอยู่ตรงซอกหมอน....
“ไง จงชวินอา~”
เสียงของฮงกีเจือไปด้วยความสุขเล็กๆเพียงแค่ได้เรียกชื่อของคนที่เขาคิดถึงให้เจ้าของฟังผ่านโทรศัพท์
[ฮงกีอา.... ขอโทษจริงๆนะ ฉันคงกลับไม่ทันฉลองกับนายแน่เลย] แต่เสียงจากปลายสายทำให้ร่างบางสลด
“อืม”
นิ้วเรียวกดตัดสายเมื่อสิ้นประโยค เป็นการสนทนาที่กะทัดรัดที่สุดเท่าที่เคยมีมานับแต่ที่เขาคบกับจงฮุน... ใส่ใจฉันน้อยลงรึเปล่านะ จงชวินอา...
ในเมื่อไม่มีคนร่วมฉลองในปีใหม่นี้แล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้ฮงกีหายซึมได้คงไม่พ้นการออกไปฉลองข้างนอก... ถึงจะเป็นการฉลองคนเดียว แต่ก็ห้อมล้อมด้วยผู้คนมากมาย.... ไม่ใช่อุปกรณ์แต่งห้องเหมือนที่นี่
แสงไฟหลากเฉดสร้างสีสันให้กับค่ำคืนสุดท้ายของปี ผู้คนมากมายยังคงเคลื่อนไหวอยู่เต็มถนนสายเล็ก เป้าหมายของร่างบางเป็นผับขนาดไม่ใหญ่ที่เขาภาวนาให้มีคนไม่เยอะเกินไปนัก... ถึงจะอยากฉลองท่ามกลางผู้คน แต่ก็ไม่ได้อยากอึดอัด...
ผู้คนข้างในออกันแน่นกว่าที่คิดเพียงเล็กน้อย... จริงๆแล้วที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนส่วนใหญ่จะมาฉลองปีใหม่กันหรอก เพราะเป็นร้านเล็กๆที่ราคาใช่ย่อย แถมยังไม่ได้โปรโมตกิจกรรมพิเศษในช่วงปีใหม่อะไรซักอย่าง นักร้องกลุ่มเดิม กับบทเพลงที่เปลี่ยนไปไม่มาก เป็นที่ของคนไม่อยากเหงาแต่ก็ไม่อยากวุ่นวาย
วันนี้สิ่งที่ร่างบางวางเป้าหมายไว้คือการดื่มหนักๆ และมองดูผู้คนสนุกสนานกับบทเพลงคนเดียวเงียบๆ ที่ที่ดีที่สุดคงเป็นเคาท์เตอร์ แต่ที่นั่นมีร่างสูงในเชิ้ตสีดำจับจองพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว...
ฮงกีเลือกนั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากคนที่มาก่อนสองตัว... และออเดอร์เครื่องดื่มที่ไม่หนักมากไปก่อน... หนักจริงๆน่ะไว้ทีหลังละกัน...
เครื่องดื่มที่สั่งไปถูกเลื่อนมาตรงหน้าโดยบาเทนเดอร์คนเดิมที่ส่งยิ้มมาให้... นี่มันที่ประจำของเขากับจงฮุนนี่นา...
ลำคอของฮงกีร้อนขึ้นทันทีที่ของเหลวในแก้วไหลผ่าน... ร่างบางตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะหันหลังชนเคาท์เตอร์และมองไปรอบๆ ผู้คนกำลังสนุกสนานได้ที่เชียวล่ะ ... แต่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบมองไปทางคนที่มานั่งก่อนเขา และเผลอสังแกตุรูปหน้าไปโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเรียวได้รูปแต่ไม่เบียดไปทางผู้หญิงเพราะกรามที่ขึ้นชัด จมูกโด่งกับดวงตาคมและริมฝีปากอิ่มสีแดงที่ตัดกับผิวขาวใสซึ่งมีผมสีน้ำตาลล้อมกรอบ.... ดูดีเหมือนรูปปั้นของเทพเจ้า....
แต่แล้วเจ้าของใบหน้าหล่อนั่นก็จับได้ว่าโดนมองอยู่ เขาเลิกคิ้วให้ฮงกีเป็นคำถาม แต่ร่างบางกลับเสมองไปทางอื่น แย่จริง....
ดริงค์ช็อตที่สองถูกเลื่อนมาทางฮงกีอีกครั้ง ร่างบางจึงหมุนตัวกลับและจัดการกับเครื่องดื่มของตัวเองต่อ...
แต่แล้ว... ช็อตที่สาม...ที่ไม่ได้สั่ง ก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้า พร้อมกับร่างสูงที่ขยับเข้ามาใกล้... จนฮงกีต้องหันไปมองและเลิกคิ้วเป็นคำถามเหมือนที่คนข้างๆได้ทำเมื่อก่อนหน้านี้
“มาคนเดียวเหรอ ?” แม้แต่เสียงก็ยังรับกับหน้าตา น้ำเสียงที่ดูมั่นใจ ชัดเจน ไม่ได้กะลิ้มกะเหลี่ย แต่กลับน่าสนใจยิ่งกว่า...
“อืม...” ฮงกีพยักหน้ารับน้อยๆ คนข้างยิ้มเบาๆมุมปาก... ผู้ชายคนนี้คงนั่งดื่มมานานแล้ว ฮงกีดูออกจากดวงตาคมที่ฉ่ำน้ำหน่อยๆ
“ตอนแรกฉันว่าจะมากับแฟน... แต่เขาดันไม่ว่างซะได้....” อีกครั้งที่ร่างบางต้องเลิกคิ้ว เมื่อคนข้างๆเล่าเรื่องส่วนตัวที่คล้ายคลึงกับของตัวเองออกมา... คนที่คนรักไม่มีเวลาให้....
“ทำไมล่ะ ?” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้สนใจเรื่องของคนข้างๆ
“เขาติดงานน่ะ ต้องไปฉลองกับที่ทำงานตามหน้าที่” ฟังยังไงก็รู้ว่าคนพูดกำลังเจ็บ.... เข้าใจดีเลยล่ะ... ไอ้ความรู้สึกที่คนรักต้องเอาเวลาไปให้คนอื่นเนี่ย...
“อ้อ....” ถึงสนใจแค่ไหนก็ทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ คนตรงหน้าที่มาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังดันเป็นคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อซะได้
“ไม่รับเหรอ ?” ร่างสูงแตะที่แก้วช็อตใบเล็กแล้วถาม.... เขากำลังอึดอัดที่ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ และร่างบางตรงหน้าก็ดึงดูดให้เขาเข้าใกล้ เพราะดวงตาใสเป็นประกาย หรือจมูกโด่งรั้น หรืออาจจะเป็นริมฝีปากบางสวยก็ไม่อาจรู้ได้ ที่ทำให้นอกจากมานั่งใกล้ๆแล้ว ยังทำให้อยากบอกเล่าเรื่องที่หนักใจให้ฟังด้วย
“ฉันไม่รับของจากคนแปลกหน้านะ” ฮงกีตอบเรียบๆแล้วยิ้มบางๆให้
“ฉันชื่อจุนฮยอง ยง จุนฮยอง... ตอนนี้นายรู้จักฉันแล้วรึยัง ?” คำพูดของร่างสูงที่บอกว่าตัวเองชื่อจุนฮยองทำเอาฮงกียิ้ม... ไม่ละความพยายยามง่ายๆแต่ก็ไม่ได้ดูตื๊อจนน่ารำคาญ
“อือ แต่เราก็ยังแปลกหน้ากันอยู่ดี”
“ก็แล้วนายชื่ออะไรล่ะ ?”
“ทำไมฉันต้องบอก ?” ร่างสูงกลอกตาเซ็งๆแล้วอธิบาย
“อย่าเล่นตัวน่า ที่นายไม่รับของเพราะเราแปลกหน้ากันไม่ใช่รึไง ? นายรู้จักฉัน แต่ฉันไม่รู้จักนายไม่ใช่เหรอ ?” อีกครั้งที่คำพูดของยง จุนฮยองทำเอาฮงกีหลุดยิ้ม จะตรงไปไหน....?
“อี ฮงกี” ฮงกีตอบสั้นๆ และหยิบช็อตเจ้าปัญหากรอกปากช้าๆทำให้คนข้างๆยิ้มได้...
ปีใหม่นี้ไม่ได้น่าเบื่อหรอก... อย่างน้อยเรื่องที่ไม่น่าเบื่อก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วในตอนนี้..
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ... แล้วก็ไว้เจอกันใหม่” ฮงกีส่งยิ้มที่ไม่รู้เลยว่ามันช่างน่าหลงใหลไปให้.... เขาไม่ได้เบื่อคนตรงหน้า แต่เริ่มเบื่อร้านนี่แล้ว เงินค่าเครื่องดื่มจึงถูกวางไว้บนเคาท์เตอร์พร้อมแผ่นหลังเล็กที่หายไปของร่างบาง
.
.
.
.
นี่คือปีใหม่... ปีใหม่ที่เขาไม่อาจกลับไปฉลองกับคนรักได้เพราะเรื่องงาน ปีใหม่ยอดแย่ของเชว จงฮุน การฉลองของทางกองถ่ายกักจงฮุนไว้ไมให้สามารถไปไหนได้.... แน่นอน ว่างานนี่ไม่ใช่ปัญหาถ้าหากผู้จัดการของเขาไม่กำชับว่าให้อยู่ร่วมฉลอง มันคือการรักษาน้ำใจผู้ใหญ่.... แล้วน้ำใจเขาล่ะ ?
อยากถามแบบนี้แต่คงมีปัญหา...
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดเรียกให้จงฮุนหันไปมองและหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าสวยอ่อนโยนของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ถึงจะทำงานร่วมกันแต่พวกเขาไม่เคยได้เข้าฉากเดียวกันเลยซักครั้ง เพียงแค่เห็นผ่านๆ และรับรู้ว่าคนตรงหน้าคือจาง ฮยอนซึง.... จริงๆแล้วเขาไม่เคยสนใจคนตรงหน้าเพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับงานส่วนของตัวเอง ไม่เคยได้จับจ้องว่าจริงๆแล้วเพื่อนร่วมงานคนนี้เป็นผู้ชายี่มีใบหน้าสวยเกินกว่าผู้หญิงทั่วไปจะเทียบได้... สวยจนยากจะละสายตา ยิ่งกำลังทำใบหน้าหนักใจแบบนี้แล้วยิ่งดูมีเสน่ห์
“?” สายตาคำถามเกิดขึ้นเมื่อจาง ฮยอนซึงสังเกตเห็นว่ามีคนมานั่งใกล้ๆและกำลังจ้องมองเขาอยู่...
“ไม่ไปสนุกกับข้างนอกเหรอ?” เพื่อทำลายความเงียบ จงฮุนจึงต้องตัดสินใจพูดอะไรซักอย่าง และคำถามนั่นก็ได้คำตอบ
“หึ... ไม่หรอก ฉันไม่ได้อยากฉลองที่นี่ซักหน่อย” คำพูดตรงไปตรงมาของผู้ชายหน้าสวยทำเอาจงฮุนหลุดยิ้ม เขาเองก็ไม่ได้อยากมาฉลอง แต่จำต้องอยู่และปั้นยิ้มไปทั่ว....
“อ้อ... ฉันก็เหมือนกัน....” ใบหน้าหล่อยิ้มน้อยๆก่อนพูดต่อ “เลยต้องผิดนัดกับฮงกีเลย”
ฮยอนซึงหันไปมองเมื่อได้ยินชื่อของฮงกี.. ใช่อี ฮงกีรึเปล่านะ ? คนที่แม้แต่เขายังชื่นชมในพลังเสียงของเจ้าตัว... เป็นคนที่มีเสียงไพเราะจนน่าอิจฉา และน่าอิจฉามากเมื่อมีข่าวว่ากำลังคบอยู่กับเชว จงฮุน ผู้ชายที่ดูใส่ใจทุกเรื่องของคนรอบตัว คนโชคดีแบบนั้น ยังต้องมีเรื่องน่าเศ้ราในวันปีใหม่ไม่ต่างจากเขาเลยเหรอเนี่ย....
“ฉันก็ไม่ต่างจากนายหรอก....”
แล้วเรื่องเล่ามากมายก็ถูกเล่าสู่กันฟัง จากปากบางของใบหน้าสวย และจากร่างสูงที่ทั้งแสดงความคิดเห็นและบอกเล่า ต่างฝ่ายต่างก็ช่วยกันทำลายความเบื่อของอีกฝ่ายเงียบๆ
.
.
.
.
.
ไม่อยากเชื่อ...
ตอนนี้ฮงกีกำลังนั่งอยู่บนรถของคนเคยแปลกหน้า ยงจุนฮยอง....
อยู่ดีๆเขาก็เดินตามออกมาจากร้าน จับข้อมือของฮงกีไว้ แล้วถามว่าจะไปฉลองด้วยกันรึเปล่า..
และไม่อยากเชื่อว่าฮงกีเองจะตอบตกลง....
ที่สำหรับฉลองคือคอนโดหรูของจุนฮยอง เครื่องดื่มที่อัดอยู่ในตู้ถูกหยิบออกมาสองขวด พร้อมแก้วอีกสองใบ จุนฮยองทำหน้าที่บาเทนเดอร์จำเป็นชงเหล้าให้กับร่างบาง
รสชาติเหมือนดีไม่ต่างจากร้านดังๆ
ถึงจะบอกว่าฉลอง แต่จริงๆแล้วมันคือการหาเพื่อนดื่ม ทั้งสองคนไม่ทำอะไรนอกจากจิบเครื่องดื่มของตัวเองเงียบๆและนั่งดูภาพยนตร์ไซไฟด้วยกัน... จุนฮยองและฮงกีเหยียดตัวอยู่บนพื้นห้อง และพิงหลังไว้กับโซฟาตัวยาวสายตาจับจ้องไปที่จอทีวีโดยไม่มีใครพูดอะไร
.
.
.
.
.
สิ่งที่จาง ฮยอนซึงไม่เข้าใจ... ทำไมตอนนี้ข้างๆกายเขาถึงมีร่างสูงเกี่ยวพันอยู่ สถานที่จากมุมอับของงานเปลี่ยนเป็นห้องห้องหนึ่งของโรงแรมที่ใช้จัดงานเพียงเพราะพวกเขาเบื่อจะนั่งฟังเสียงดนตรีข้างล่าง แต่ก็ยังคงต้องอยู่เพื่อบอกลาเจ้าของงานในตอนเช้า
ใบหน้าสวยยิ่งกว่าอะไรหันไปมองคนข้างๆที่ยังหลับตาอยู่ มือหนาโอบรอบร่างกายเขาไว้ทำให้รู้สึกอบอุ่น ก่อนที่ขนตาเป็นแพนั้นจะกระพริบเบาๆแล้วเปิดขึ้น
ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของจงฮุน ร่างสูงพลิกตัวมาอยู่ด้านบนเพื่อมองใบหน้าสวยที่ทำให้เขาเผลอไผลได้ชัดเจนกว่าเดิม ก่อนจะกดจูบไปรอบคอของฮยอนซึง ขบเม้มหัวไหล่และส่วนอื่นๆ ลากลิ้นเก็บความหวานจากร่างบางข้างใต้เอาไว้ให้มากที่สุด
ทั้งสองรู้ดีว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องกลับไปเป็นเพื่อนร่วมงานที่แทบไม่รู้จักกันอีกครั้ง ฉะนั้น..ก่อนที่แสงสว่างจะนำพาวันพรุ่งนี้มา จงฮุนจะขอเก็บเกี่ยวทุกอณูของร่างตรงหน้าไว้ให้ได้มากที่สุด...
.
.
.
.
แสงสว่างวูบไหวอยู่บนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ แต่สายตาของจุนฮยองกลับจับจ้องอยู่เพียงแค่ใบหน้าของคนข้างๆ และยิ่งหลงใหลเมื่อสบเข้ากับสายตาของร่างบางที่หันมองมาเหมือนกัน ตาคู่นั้นยังหน้ามองเหมือนทุกที จมูกโด่งยิ่งทำให้เขาใจสั่น ริมฝีปากบางนั่น.... ผลักดันให้จุนฮยองขยับร่างกายเข้าหาฮงกีเรื่อยๆ ก่อนจะคว้ามือของร่างบางมาจับไว้และซบลงตรงไหล่... ยิ่งรู้สึกดีเมื่อร่างบางไม่ได้ปฏิเสธอะไร
แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆคนที่ทำให้เขาควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้กลับพลิกตัวขึ้นนั่งบนขายาวของจุนฮยอง ปากบางยกยิ้มยั่วยวน ก่อนจะฝังลงมาที่ริมฝีปากหนาและใช้ลิ้นเล็กดันเข้าไปในโพรงปากกวาดหาความเร่าร้อนที่อยู่ในนั้น....
ถ้าสิ่งนี้เปรียบเหมือนการอนุญาตและเชิญชวน... จุนฮยองก็ขอตอบสนองร่างบางตามที่ใจเขาต้องการบ้างละกัน
จุนฮยองเริ่มขยับลิ้นของเขาเพื่อตอบรับการเชิญชวนของร่างบาง ก่อนจะเป็นฝ่ายควบคุมการแลกลิ้นด้วยการเกี่ยวกระหวัดลิ้นเรียวไปมา และควานหาความหวานไม่รู้จบในโพรงปากเล็กนั่น มันวาบหวามเกินกว่าที่จุนฮยองจะทนนั่งข้างล่างต่อไปได้ เขาเปลี่ยนเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมร่างบางที่ยังคงหลงใหลในรสจูบเมื่อครู่ไม่ต่างจากแทน กดไหล่เล็กลงราบกับพื้น และลากลิ้นผ่านสะดือของฮงกี วนไปมาอยู่อย่างนั้นจนร่างบางต้องบีบไหล่เขาแน่นด้วยอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น จุนฮยองลากลิ้นเข้าไปในสาบเสื้อและเปลี่ยนไปล้อโลมยอดอกสีชมพูสวยแทนจนมันตั้งชัน
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอดทน ใบหน้าที่อัดอั้นอยากปลดปล่อยความรู้สึกทำให้จุนฮยองไม่อาจห้ามตัวเองได้อีกแล้ว....
มือหนาลูบไล้เรียวขาสวย และกดซิปกางเกงให้ลงด้านล่างช้าๆ ปล่อยให้มันลากผ่านจุดนั้นของคนข้างล่างจนเริ่มขยาย ก่อนจะใช้ปากดึงซิปนั่นเพื่อตัดปัญหา
หมดหน้าที่ของริมฝีปาก ลิ้นที่ร้อนก็โผล่ออกมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง จุนฮยองกวาดลิ้นโลมเลียไปทั่วรอบจุดอ่อนไหว ลากวนหน้าขาสวย หยอกล้อกับปลายส่วนอ่อนไหวนั้นน้อยๆ และดำเนินเกมรักที่เขาแสนช่ำชองต่อไป......
.
.
.
.
เวลาแห่งความสุขผ่านไป ร่างเล็กของฮยอนซึงกำลังจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองอยู่ในขณะที่จงฮุนยังคงเปลือยเปล่า เขาหลงใหลในร่างนั้น หลงใหลในใบหน้าที่สวยเกินกว่าจะเป็นใบหน้าของผู้ชาย แต่สิ่งเดียวที่ฮยอนซึงไม่สามารถตอบโจทย์ของจงฮุนได้....
ฮยอนซึงไม่ใช่ฮงกี....
การยั่วยวนที่สวยงามของฮยอนซึงแตกต่างจากการยั่วยวนที่แพรวพราวของฮงกี ใบหน้าสวยที่ทำให้หลงใหลไม่สามารถทำให้มัวเมาเท่า...
ฮยอนซึงแต่งตัวเสร็จแล้ว และเดินมาจูบลาจงฮุนหนึ่งที ยังคงความหวานราวกับดอกไม้ แต่เขาควรจะเสียบดอกไม้ดอกนี้กลับไปไว้ในแจกันดังเดิมได้แล้ว
ร่างบางเดินจากห้องไปจนลับสายตา จงฮุนจึงจัดการกับการแต่งตัวของตัวเองบ้าง.....
ปีใหม่นี้ ดีใจที่มีนายเป็นของขวัญนะ
จาง ฮยอนซึง.....
.
.
.
.
.
เวลาไม่นานเขาก็เดินทางกลับถึงโซล จาง ฮยอนซึงมุ่งหน้ากลับไปคอนโดของเขา ไม่ได้ฉลองปีใหม่กับคนรัก แต่กลับไปทำอย่างอื่นแทน...
คิดแล้วก็น่าตลก....
แต่สิ่งที่เขาทำมันต้องส่งผล....
และเขาก็มั่นใจในผลลัพธ์นั้นจนไม่อาจรอได้...
อีกนิดเดียวเท่านั้น.....
.
.
.
.
จงฮุนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่งตามข้อความของฮงกี เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนรักของตนถึงไปอยู่ที่นั่น และร้อนใจว่ากำลังอยู่กับใคร.....
คอนโดหรูกลางเมืองตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า จงฮุนไม่ยอมเสียเวลาในการตัดสินใจอีกเพียงนาทีเดียว ขายาวก้าวอย่างงมั่นคงไปยังหมายเลขห้องที่ฮงกีได้ส่งข้อความมาบอกไว้...
แต่หน้าประตูไม้บานนั้น
จาง ฮยอนซึง.....
.
.
ฮยอนซึงเหลียวมองเจ้าของเสียงฝีเท้าที่เพิ่งมาใหม่ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจ
เชว จงฮุน....
มาทีนี่ทำไม ?
“นาย...?”
“แฟนฉันให้มารับที่นี่น่ะ” จงฮุนรีบอธิบายและชี้ไปที่ประตูห้องซึ่งฮยอนซึงจับลูกบิดอยู่เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าแปลกใจ เขาไม่อยากให้ฮยอนซึงเข้าใจว่าเขามาที่นี่เพื่อผูกมัดคนหน้าสวย
“ฮงกี ?” คนหน้าสวยขมวดคิ้วไม่เข้าใจ อี ฮงกี กับห้องของเขา.....
“แต่นี่ห้องฉันนะ” ฮยอนซึงพยายามบอกจงฮุน ซึ่งร่างสูงก็ได้แต่เลิกคิ้วแปลกใจ ฮงกี กับ ห้องของฮยอนซึง....
“ไม่รู้สิ ฉันว่าฉันลองโทรหาฮงกีใหม่อีกทีละกัน” จงฮุนว่าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขของคนรัก.... หากแต่ไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย....
“นายเข้ามารอในห้องฉันก่อนก็ได้ ฉันจะบอกแฟนฉันว่านายมาหาเพื่อนแต่เพื่อนยังไม่กลับมาก็แล้วกัน”จงฮุนพยักหน้า แต่ก็ยังหนักใจกับเรื่องของฮงกี...
ทำไมถึงติดต่อไม่ได้นะ....
.
.
.
ร่างบางพลิกกายไปเบียดกับอีกคนที่นอนข้างๆ ทั้งสองโอบกอดกันอยู่บนโซฟาขนาดไม่กว้าง จุนฮยองลืมตาขึ้น และพรมจูบไปทั่วหน้าสวย... ช่างเป็นใบหน้าที่เย้ายวน....
ฮงกีเองก็ตอบรับการกระทำของจุนฮยองเป็นอย่างดี ทั้งสองเริ่มกอดก่ายกันอย่างลุ่มหลงอีกครั้ง... หากแต่....
เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้.... เสียงของที่ตกกระทบพื้น...
และเสียงเรียกชื่อของทั้งคู่...
“จุนฮยอง”
“ฮงกี”
ทั้งสองมองคนรักของตัวเองด้วยสายตาคาดไม่ถึง ฮงกีรีบกวาดเสื้อผ้าของตัวเองเข้ามาใส่ ส่วนจุนฮยองก็รีบพันผ้าขนหนูและวิ่งไปหาคนรักของเขา...
ใบหน้าของฮยอนซึงเจ็บปวด ตาสวยที่ดูไร้เดียงสาเสมอมีน้ำตาคลอเบ้า มือเรียวพยายามผลักจุนฮยองออกไปจากตัว
คนตรงหน้าช่างน่ารังเกียจ.....
ส่วนจงฮุน.... ใบหน้าหล่อชาด้าน ดวงตาแดงก่ำเพราะความโกรธจ้องมองฮงกีอย่างผิดหวัง...
ใช่.... เขานอกใจฮงกีไปหาฮยอนซึง
แต่ฮงกีไม่ได้ไปเห็นสิ่งที่เขาทำเหมือนที่เขาต้องทนดูแบบนี้.....
“จงชวินอา....” เสียงหวานแหบพร่า บอกให้รู้ว่าเมื่อคืนคนตรงหน้าต้องใช้เสียงมากแค่ไหน....
จะทำให้ฉันต้องเจ็บปวดอีกแค่ไหนกันฮงกี ?.... หรือว่านี่คือบทลงโทษของพระเจ้ากันนะ ?
“ฉันขอโทษจริงๆนะฮยอนซึง นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ฉันทำแบบนี้” จุนฮยองพยายามธิบายและหาข้ออ้างต่างๆนาๆมาบอกคนตรงหน้า... เขาหลงใหลในฮงกี แต่เขาไม่เคยอยากเสียคนตรงหน้าไป... เพราะไม่ว่ายังไงฮยอนซึงก็คือคนที่เขารักที่สุด
แตกต่างจากร่างบาง....
ที่ตอนนี้ไม่เหลือความเชื่อใจใดๆอีกแล้ว ปากบางเหยียดยิ้มร้าย ก่อนจะพูดสิ่งที่ทำให้ทั้งจุนฮยองและฮงกีต้องตะลึงออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก... เพราะเมื่อคืนฉันก็มีคนนอนข้างๆที่ไม่ใช่นายเหมือนกัน” ยิ้มสวยของฮยอนซึงส่งไปทางจงฮุน ส่งผลให้ทั้งจุนฮยองและฮงกีเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
จุนฮยองจุกจนพูดอะไรไม่ออก....
ส่วนฮงกียิ้มอ่อนๆให้จงฮุน.... เราต่างก็ผิดด้วยกันทั้งคู่....
ร่างบางที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและก้มลาจงฮุน...
เรื่องมันกำลังเป็นอย่างที่ควรจะเป็น คนที่ไม่ซื่อสัตย์สองคนคงอยู่ด้วยกันไม่ได้... เขาทำผิดต่อจงฮุน... และจงฮุนเองก็ไม่ต่างจากเขา...
ฮงกีตระหนักได้แล้วว่าเรื่องระหว่างเขากับจงฮุนควรเป็นแบบไหน...
“นายทำผิดกับฉัน... เหมือนที่ฉันทำผิดกับนาย... เราต่างก็ทำผิดต่อกัน ... ฉันไม่อยากเห็นความผิดพลาดแบบนี้อีก... ลาก่อนนะ จงชวินอา....”
ยิ้มสุดท้ายของเขาที่จะมอบให้จงฮุน ขอให้เขามีความสุขมากๆ และอย่ามาเจอคนที่เป็นเหมือนอี ฮงกีคนนี้อีกเลย....
.
.
.
.
ฮยอนซึงมองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยใบหน้าเรียบเฉย....
เขาเองก็ไม่ต่างจากฮงกี ในเมื่อต่างฝ่ายต่างผิด... นี่ก็เป็นวิธิที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้...
แต่จิตใจของฮยอนซึงก็ยังไม่สงบ... ไม่ใช่เพราะจุนฮยอง....
ไม่ใช่....
และไม่มีทางใช่....
.
.
ฮยอนซึงหันไปมองที่นั่งด้านข้างเมื่อได้ยินเสียงประตูรถเปิด ใบหน้าสวยยิ้มกว้างอย่างสมใจ ก่อนจะโน้มลงไปที่นั่งด้านข้างคนขับ... ผลลัพธ์ของการกระทำเมื่อคืนไม่ผิดเพี้ยนไปแม้แต่น้อย ร่างข้างๆตอบรับทุกจูบของฮยอนซึงเป็นอย่างดี
คนหน้าสวยยิ้มหวานอีกครั้งก่อนจะละเลียดลิ้นไปบนใบหน้าอีกฝ่ายอย่างโหยหา...
“จากนี้ไปคงไม่ต้องแอบอะไรอีกแล้วสินะ ฮงกีอา.....”
END.
--------------------------------------------------
คู่มันแปลกใข่มั้ย ? ตอนนั้นก็งงเหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ -/-
PS.นอกจากท่อนทอล์คแล้วแพรวไม่ได้แก้อะไรเลยนะคะพลาดไปบ้างก็ขออภัย :)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น