ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
ลาแล้วบ้านไกล การจากบ้านไปครั้งแรกของแป้งทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาซึมคลอแก้มนวล ในห้องพักที่แม่และพี่สาวเลือกให้ และบัดนี้เขาทั้งสองคนก็กลับบ้านเกิดไปแล้ว
ปล่อยไว้เพียงเขาคนเดียว ที่ยืนอยู่เพียงลำพังในเมืองใหญ่ ที่ตนเองพึ่งมาเหยียบเป็นครั้งที่สอง หลังจากวันที่มอบตัวในวันนั้น ในใจก็มุ่งมั่นว่า ตนเองจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เพื่อแม่ เพื่อครอบครัว
ถึงเวลาเที่ยง เด็กหนุ่มกินข้าวเหนียวกับกับข้าวง่ายๆ ที่แม่ทำไว้ให้ จนอิ่มก็คิดว่าจะเดินไปเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยซะหน่อย แป้งสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่าๆ ที่มีเพียงตัวเดียวของแป้งกับเสื้อยืดสีขาว เดินดูตึกอาคารเรียนต่างๆ ในมหาวิทยาลัย พร้อมกับสมุดบันทึกที่แป้งเองต้องพกมาประจำ แน่นอน แป้งต้องจดเส้นทางไว้ กันลืมไง
แป้งเดินมาสักพักหนึ่ง ก็จะมีกลุ่มวัยรุ่นชาย 4-5 คนนั่งอยู่ เล่นกีตาร์และร้องเพลงกันอย่างมีความสุข ตึกวิทยาการจัดการ นิเทศศาสตร์ การจัดการทั่วไป การตลาด บัญชี และอื่นๆ
“เสียดายวะ เป็นผู้หญิงดีดีไม่ชอบ ชอบมาเป็นทอม”
“เดี่ยวโดนสักดอกก็คงเปลี่ยนใจมั่งวะ 55+”
แป้งรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องปกติซะแล้วที่คนอื่นที่ไม่รู้จักแป้งจริงๆ มักจะมองว่าแป้งเองเป็นทอม โดนแบบนี้มาเยอะแล้วจนทำให้แป้งไม่ได้คิดอะไร
ผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมของแป้งเริ่มยาวขึ้นมา 1 นิ้ว ผสมกับน้ำคลอรีนในตัวเมือง ทำให้แป้งหน้าตาสดใสมากขึ้น และเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตในเมืองมากขึ้น และจำถนนหนทางได้บ่างแล้ว
เป็นทำเนียมของมหาวิทยาลัยไปซะแล้ว กับประเพณี รับน้องใหม่ ของสถานที่นั้นๆ แป้งได้รับการคัดเลือกจากรุ่นพี่ให้เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งแป้งเองก็ไม่ทำให้คณะผิดหวัง แป้งทำผลงานออกมาได้ดี และมีลีลาการแสดงที่น่าประทับใจยิ่งนัก ทุกๆเย็นหลังเลิกเรียน พี่ๆจะนัดน้องๆ มาร่วมตัวกันร้องเพลงเชียร์กีฬา ทำกิจกรรมสนุกสนาน แกล้งน้องๆ อย่างครึกครื่น แป้งเองก็เป็นหนึ่งในรุ่นน้องที่มักโดนรุ่นพี่แกล้งอยู่เสมอๆ
“วันนี้ซ้อมแค่นี้ค่ะ ทุกคนกลับบ้านได้” รุ่นพี่สตาร์ฟ บอกเลิกกิจกรรมซ้อมเชียร์
แป้งเดินแยกจากกลุ่มๆ แล้วไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่แป้งมักไปนั่งเล่นประจำ และไม่ค่อยมีผู้คนมากมายสักเท่าไร นั้นคือ บริเวณชานลานกว้าง ตึกศิลปศาสตร์นั้นเอง
“น้องแป้งครับ น้องแป้ง “ แป้งหันหน้าไปตามที่มาของต้นเสียง
ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาที่ตน แล้วยิ้มใส่อย่างโปรยเสน่ห์ แต่แป้งกลับรู้สึกเฉยๆ
“มีไรครับ”
“อ๋อปล่าวครับ คือ พี่อยากรู้จักน้องแป้งอะครับ พี่เห็นน้องแป้งมาหลายวันแล้ว น่ารักดีครับ พี่ชอบ”
“ง่ะ พี่ชอบผมหรือครับ ชอบตรงไหนครับ พี่บ้าป่าว ผมเป็นผู้ชายนะครับ”
“น้องแป้งอย่าปิดบังพี่เลยครับผม พี่มองตาก็รู้แล้วว่าเราเป็นอะไร แล้วดูตัวแป้งเองสิครับ น่ารักเชียว”
ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดพร้อมกับเอามือมาจับที่แขนของแป้งทั้ง 2 ข้าง อย่างไม่เกรงใจ
แป้งสะบัดมือสองข้างของเขาออก แล้วทำทีท่าว่าจะหนี แต่โดนอีกมือคว้าแขนไว้ซะแล้ว
สักพัก มีผู้ชายอีกคนหนี่งเดินเข้ามา คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของคนดังกล่าว มาร่วมวงด้วย
จนแป้งรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดน 2 คนนี้ กระทำการอะไรบางอย่าง ที่ตัวแป้งเองรู้สึกไม่ดีเลย
“พี่ครับ ปล่อยผมเถอะ ผมจะรีบกลับห้องพักครับ”
“น้องพักอยู่แถวไหนเหรอ”
“แถว.... “ ก่อนที่จะพลั้งปากออกบอกไป แป้งก็คิดได้ว่า อย่าไปบอกที่อยู่ให้สองคนนี้รับทราบเป็นอันขาด เพื่อนชายอีกคนหนึ่งรูปร่างผอม ไว้ผมยาวปล่อยหนวด แน่นอนสองคนนี้ เรียนศิลปะแน่นอน เขาขยับเข้ามานั่งใกล้ชิดแป้งแบบติดตัวและกอดบ่า
“ว่าไงครับแถวไหนเหรอ เดี่ยวพี่จะไปเล่นที่ห้องด้วย”
“ไม่ครับ เออ... ผมจำไม่ได้ครับ”
“อั้นแน่ โกหกพี่อีกละ”
แป้งเริ่มดิ้นเมื่อรู้สึกว่า มีมือของใครคนหนึ่งกำลังลำเส้นไปที่ร่างกายของเขา
พี่ปล่อยผมนะ ถ้าไม่ปล่อยผมร้องจริงๆด้วย
“พี่ปล่อยน้องก็ได้ แต่น้องต้องไปที่ห้องเขียนภาพกับพี่สองคน”
“ไม่เอาครับ ผมจะรีบกลับบ้าน”
“หุหุ ท่าทางยังไม่เคย ดูสิตัวสั่นเชียว” รุ่นพี่เอามือจับไปที่คาง
แป้งเริ่มรู้สึกว่า สองคนนี้เป็นเกย์แน่นอน และกำลังจะล่วงเกินแป้งด้วย แล้วแป้งจะทำอย่างไรดี ในใจเฝ้าแต่อธิฐานขอให้มีใครสักคนมาช่วย
จนพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าไป จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครผ่านมาสักคน ไอ้ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนใจ
“ปล่อยกูนะเว้ย”
มีอารมณ์แล้วเหรอครับ ปะ งั้นเราเข้าไปในห้องวาดภาพกัน
แป้งดิ้นอย่างแรงและตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย แต่โดนมือใหญ่หยาบปิดปากเอาไว้ และทั้งสองคนลากแป้งเข้าไปในห้องวาดภาพ ซึ่งเป็นห้องของคณะศิลปศาสาตร์ที่ปกปิดมิดชิดน่าดู
“ ปล่อยแฟนกู ไม่งั้นสมองมึงเละแน่”
หนุ่มศิลป์ทำท่าทางจะสู้กับชายหนุ่มที่เดินเข้ามาวุ่นวายกับแผนการณ์ที่คนวางแผนไว้ แต่เมื่อเห็นปืนในมือ เลยเปลี่ยนใจ และรีบวิ่งหนีออกไป
“เป็นไงบ่าง แป้ง”
แป้งยังอยู่ในอาการที่ภวงค์ตกใจ ไม่ทันได้มองหน้าคนที่เข้ามาช่วยตน จนรู้สึกว่ามีมือ 2 มือ รวบมือของแป้งแล้วกุมใว้ ทำให้แป้งได้สติกลับคืนมา
“................ห นา ม”
“ว่าไง แป้ง เป็นไรมากไหม 55+ “ ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะ
“นายหัวเราะอะไร”
“ปล่าว ไม่มีไรหรอกน้า” 555+
“บอกมานะ ว่านายหัวเราะอะไรเรา”
“อยากรู้จริงอะ” แป้งพยักหน้า
หนามขยับหน้าเข้ามาชิดหน้าแป้ง จนรู้สึกได้กลิ่นหอมละมุนของกลิ่นกายของแป้งที่สัมผัสกับจมูกแล้วทำให้ตัวหนามเอง อยากจะสัมผัสมันเองด้วยซ้ำไป “ตลก ผู้ชายจะโดนปล้ำ 55+”
“เออ ดี อยากหัวเราะ ก็หัวเราะไป “ แป้งผลักตัวหนามแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว
โดยที่มีหนามเดินตามอยู่ข้างหลัง แป้งรีบขยับเท้าให้เร็วขึ้น ดูเหมือนกึ่งวิ่งกึ่งเดิน แต่ก็ต้องหยุดเมื่อมีมือแข็งแรงอบอุ่น มาจับที่ข้อมือ
“มาทางนี้เดี่ยวผมไปส่ง”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหคุอะไร เหตุผลมันคืออะไร แป้งกลับเชื่อและไว้ใจผู้ชายคนนี้ เดินตามเขาไป
สองคนนั่งรถมอไซต์ซ้อนกันไปยังบ้านพักของแป้ง แต่ดูเหมือนเส้นทางจะเปลี่ยนไป
“นายจะพาเราไปไหน”
“เหอะ น่า เดี่ยวก็รู้ “
“ ไม่เอาอะ นายจอดเลย เราจะลง”
“แล้วจะกลัวอะไร เราไม่ปล้ำนายหรอกน้า เราชอบหญิงแท้”
แป้งเงียบไป ความรู้สึกหนึ่งมันพลุ่งพล้านเข้ามาในหัวใจแป้งโดยที่ตัวแป้งเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมตนเองต้องรู้สึกโกรธและน้อยใจกับคำพูดของหนาม
แป้ง ... แป้ง... หนามว่าแป้งย้ายหอพักมาพักหอนี้ดีกว่าไหม ปลอดภัยกว่าหอพักแป้งตั้งเยอะเลย
แป้งมองไปที่ตึกสูงหลายสิบชั้น ที่ดูแล้วน่าอยู่อย่างที่เขาพูดจริงๆ
“ ไม่อะ เราไม่มีเงินมาเช่าห้องพักหรอก คงจะแพงน่าดูเลย”
“หอพักเก่า เดือนละเท่าไหร”
“1500”
“โอเค งั้นแป้งก็จ่ายมาแค่ 1500 ก็พอ พอดีมีห้อง 1 ห้องว่าง เดี่ยวผมมานะ”
หนามพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปยังเค้าเตอร์ ไม่นานก็วิ่งมาพร้อมกับกุญแจในมือ แล้วก็ตะโกนเรียกให้มาที่ตน
แป้งเดินมาตามคำสั่งที่หนามบงการ โดยดี เดินไปจนถึงห้องมุมสุดของตึก ติดกับสวนหย่อมที่สวยงาม น่าจะเป็นห้องที่คนอยากมาพักที่ตรงนี้มากที่สุด เพราะมันชั้น 1 ด้วยแถมยังติดถนนใหญ่ ตรงข้ามมหาลัยอีก
“ปะ เดี่ยวหนามพาไปขนของ”
“หนาม จะบ้าเหรอ เราไม่มีตังจ่ายหรอก ห้องพักดีดีแบบนี้ไม่ตำกว่า 5000 แน่นอน”
“เออน่า เจ้าของตึกเขาลดให้เหลือ 1500 บาท/เดือน”
“ไม่เชื่อเดี่ยวผมมานะ” หนามวิ่งไปที่เค้าเตอร์ สักพักหนึ่งก็มีหญิงวัยกลางคน น่าจะเป็นผู้ดูแลห้องพักนี้ มายืนยันว่า 1500 จริงๆ ลดให้เป็นพิเศษ
คืนนั้นทั้งคืน แป้งและหนามขี่มอไซต์ ขนของไปมา 4-5 รอบ กว่าจะเสร็จก็ปาไปตี 1 กว่าๆ
โดยที่ข้าวของก็ยังไม่จัด หนามพยุงตัวเองมาที่เตียงนอนแล้วก็ถอดเสื้อ แล้วนอนหลับไป แป้งเองก็จัดข้างของคร่าวๆ ก็เข้าห้องน้ำอ่าบน้ำ เรียบร้อยก็จะเข้านอน แต่ก็ต้องสงสัย ว่าทำไม ไอ้นี้ยังไม่กลับห้องตัวเองอีก
แป้งมองไปที่หนาม ซึ่งตอนนี้หลับตานอนหลับสนิทไปแล้ว ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดในใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเลยในชีวิตนี้
“ นายๆ ไอ้หนาม ตื่นๆ ไปนอนห้องนายได้แล้ว”
หนามตอบออกมาด้วยเสียงงัวเงีย “นอนนี้แหละ เช้าค่อยไป ..... ไม่ทำไรนายหรอก ไม่ชอบของแปลก” พูดเสร็จก็หลับต่อไป แป้งนำมือสองข้างจับไปที่แขนของหนาม มือที่สัมผัสลงไปที่ผิวชายหนุ่มมันเกิดคำถามมากมายว่า ทำไมเขาตัวแข็งจัง กล้ามเป็นมัดๆ หน้าทองเป็นลอนสวยงาม มีไรขนน้อยๆ จากหน้าท้องไหลลงไปที่กางเกง ซึ่งถ้าดูดีดี เขาไม่ได้ใส่เกงชั้นในเลย แป้งจับตัวหนามเขย่า ๆ แต่ก็ไร้ผล หนามนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จึงปล่อยเลยตามเลย แล้วนอนลงข้างๆหนาม
ด้วยความเพลีย ทำให้แป้งหลับไปอย่างอิดโรย
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปยังร่างบางที่นอนข้างๆกายตน สมองส่วนหนึ่งกระตุ้นต่อมประสาทให้เขาเกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาอย่างมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คำถามที่ยังข้างคาใจเขาอยู่คือ ทำไมเขาถึงรู้สึกเป็นห่วง อยากดูแล ผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบสบตา ดวงตาที่ใสเป็นประกายที่สื่อออกมาด้วยความจริงใจ ทำให้หัวใจของหนุ่มน้อยเต้นอย่างประหลาด ยิ่งได้พบพูดคุยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เสมือนสายฝนที่พร่างพรูตกลงมา ทำให้ดอกบัวที่อยู่ในบ่อแห้งขอด ได้กลับมาชื่นใจอีกครั้ง
หนามสายหน้า พยายามบอกกับตัวเองว่า เพ้อเจ้อ ไม่จริง เหลวไหล มันไม่ใช่หรอก
ลาแล้วบ้านไกล การจากบ้านไปครั้งแรกของแป้งทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาซึมคลอแก้มนวล ในห้องพักที่แม่และพี่สาวเลือกให้ และบัดนี้เขาทั้งสองคนก็กลับบ้านเกิดไปแล้ว
ปล่อยไว้เพียงเขาคนเดียว ที่ยืนอยู่เพียงลำพังในเมืองใหญ่ ที่ตนเองพึ่งมาเหยียบเป็นครั้งที่สอง หลังจากวันที่มอบตัวในวันนั้น ในใจก็มุ่งมั่นว่า ตนเองจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เพื่อแม่ เพื่อครอบครัว
ถึงเวลาเที่ยง เด็กหนุ่มกินข้าวเหนียวกับกับข้าวง่ายๆ ที่แม่ทำไว้ให้ จนอิ่มก็คิดว่าจะเดินไปเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยซะหน่อย แป้งสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่าๆ ที่มีเพียงตัวเดียวของแป้งกับเสื้อยืดสีขาว เดินดูตึกอาคารเรียนต่างๆ ในมหาวิทยาลัย พร้อมกับสมุดบันทึกที่แป้งเองต้องพกมาประจำ แน่นอน แป้งต้องจดเส้นทางไว้ กันลืมไง
แป้งเดินมาสักพักหนึ่ง ก็จะมีกลุ่มวัยรุ่นชาย 4-5 คนนั่งอยู่ เล่นกีตาร์และร้องเพลงกันอย่างมีความสุข ตึกวิทยาการจัดการ นิเทศศาสตร์ การจัดการทั่วไป การตลาด บัญชี และอื่นๆ
“เสียดายวะ เป็นผู้หญิงดีดีไม่ชอบ ชอบมาเป็นทอม”
“เดี่ยวโดนสักดอกก็คงเปลี่ยนใจมั่งวะ 55+”
แป้งรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องปกติซะแล้วที่คนอื่นที่ไม่รู้จักแป้งจริงๆ มักจะมองว่าแป้งเองเป็นทอม โดนแบบนี้มาเยอะแล้วจนทำให้แป้งไม่ได้คิดอะไร
ผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมของแป้งเริ่มยาวขึ้นมา 1 นิ้ว ผสมกับน้ำคลอรีนในตัวเมือง ทำให้แป้งหน้าตาสดใสมากขึ้น และเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตในเมืองมากขึ้น และจำถนนหนทางได้บ่างแล้ว
เป็นทำเนียมของมหาวิทยาลัยไปซะแล้ว กับประเพณี รับน้องใหม่ ของสถานที่นั้นๆ แป้งได้รับการคัดเลือกจากรุ่นพี่ให้เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งแป้งเองก็ไม่ทำให้คณะผิดหวัง แป้งทำผลงานออกมาได้ดี และมีลีลาการแสดงที่น่าประทับใจยิ่งนัก ทุกๆเย็นหลังเลิกเรียน พี่ๆจะนัดน้องๆ มาร่วมตัวกันร้องเพลงเชียร์กีฬา ทำกิจกรรมสนุกสนาน แกล้งน้องๆ อย่างครึกครื่น แป้งเองก็เป็นหนึ่งในรุ่นน้องที่มักโดนรุ่นพี่แกล้งอยู่เสมอๆ
“วันนี้ซ้อมแค่นี้ค่ะ ทุกคนกลับบ้านได้” รุ่นพี่สตาร์ฟ บอกเลิกกิจกรรมซ้อมเชียร์
แป้งเดินแยกจากกลุ่มๆ แล้วไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่แป้งมักไปนั่งเล่นประจำ และไม่ค่อยมีผู้คนมากมายสักเท่าไร นั้นคือ บริเวณชานลานกว้าง ตึกศิลปศาสตร์นั้นเอง
“น้องแป้งครับ น้องแป้ง “ แป้งหันหน้าไปตามที่มาของต้นเสียง
ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาที่ตน แล้วยิ้มใส่อย่างโปรยเสน่ห์ แต่แป้งกลับรู้สึกเฉยๆ
“มีไรครับ”
“อ๋อปล่าวครับ คือ พี่อยากรู้จักน้องแป้งอะครับ พี่เห็นน้องแป้งมาหลายวันแล้ว น่ารักดีครับ พี่ชอบ”
“ง่ะ พี่ชอบผมหรือครับ ชอบตรงไหนครับ พี่บ้าป่าว ผมเป็นผู้ชายนะครับ”
“น้องแป้งอย่าปิดบังพี่เลยครับผม พี่มองตาก็รู้แล้วว่าเราเป็นอะไร แล้วดูตัวแป้งเองสิครับ น่ารักเชียว”
ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดพร้อมกับเอามือมาจับที่แขนของแป้งทั้ง 2 ข้าง อย่างไม่เกรงใจ
แป้งสะบัดมือสองข้างของเขาออก แล้วทำทีท่าว่าจะหนี แต่โดนอีกมือคว้าแขนไว้ซะแล้ว
สักพัก มีผู้ชายอีกคนหนี่งเดินเข้ามา คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของคนดังกล่าว มาร่วมวงด้วย
จนแป้งรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดน 2 คนนี้ กระทำการอะไรบางอย่าง ที่ตัวแป้งเองรู้สึกไม่ดีเลย
“พี่ครับ ปล่อยผมเถอะ ผมจะรีบกลับห้องพักครับ”
“น้องพักอยู่แถวไหนเหรอ”
“แถว.... “ ก่อนที่จะพลั้งปากออกบอกไป แป้งก็คิดได้ว่า อย่าไปบอกที่อยู่ให้สองคนนี้รับทราบเป็นอันขาด เพื่อนชายอีกคนหนึ่งรูปร่างผอม ไว้ผมยาวปล่อยหนวด แน่นอนสองคนนี้ เรียนศิลปะแน่นอน เขาขยับเข้ามานั่งใกล้ชิดแป้งแบบติดตัวและกอดบ่า
“ว่าไงครับแถวไหนเหรอ เดี่ยวพี่จะไปเล่นที่ห้องด้วย”
“ไม่ครับ เออ... ผมจำไม่ได้ครับ”
“อั้นแน่ โกหกพี่อีกละ”
แป้งเริ่มดิ้นเมื่อรู้สึกว่า มีมือของใครคนหนึ่งกำลังลำเส้นไปที่ร่างกายของเขา
พี่ปล่อยผมนะ ถ้าไม่ปล่อยผมร้องจริงๆด้วย
“พี่ปล่อยน้องก็ได้ แต่น้องต้องไปที่ห้องเขียนภาพกับพี่สองคน”
“ไม่เอาครับ ผมจะรีบกลับบ้าน”
“หุหุ ท่าทางยังไม่เคย ดูสิตัวสั่นเชียว” รุ่นพี่เอามือจับไปที่คาง
แป้งเริ่มรู้สึกว่า สองคนนี้เป็นเกย์แน่นอน และกำลังจะล่วงเกินแป้งด้วย แล้วแป้งจะทำอย่างไรดี ในใจเฝ้าแต่อธิฐานขอให้มีใครสักคนมาช่วย
จนพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าไป จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครผ่านมาสักคน ไอ้ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนใจ
“ปล่อยกูนะเว้ย”
มีอารมณ์แล้วเหรอครับ ปะ งั้นเราเข้าไปในห้องวาดภาพกัน
แป้งดิ้นอย่างแรงและตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย แต่โดนมือใหญ่หยาบปิดปากเอาไว้ และทั้งสองคนลากแป้งเข้าไปในห้องวาดภาพ ซึ่งเป็นห้องของคณะศิลปศาสาตร์ที่ปกปิดมิดชิดน่าดู
“ ปล่อยแฟนกู ไม่งั้นสมองมึงเละแน่”
หนุ่มศิลป์ทำท่าทางจะสู้กับชายหนุ่มที่เดินเข้ามาวุ่นวายกับแผนการณ์ที่คนวางแผนไว้ แต่เมื่อเห็นปืนในมือ เลยเปลี่ยนใจ และรีบวิ่งหนีออกไป
“เป็นไงบ่าง แป้ง”
แป้งยังอยู่ในอาการที่ภวงค์ตกใจ ไม่ทันได้มองหน้าคนที่เข้ามาช่วยตน จนรู้สึกว่ามีมือ 2 มือ รวบมือของแป้งแล้วกุมใว้ ทำให้แป้งได้สติกลับคืนมา
“................ห นา ม”
“ว่าไง แป้ง เป็นไรมากไหม 55+ “ ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะ
“นายหัวเราะอะไร”
“ปล่าว ไม่มีไรหรอกน้า” 555+
“บอกมานะ ว่านายหัวเราะอะไรเรา”
“อยากรู้จริงอะ” แป้งพยักหน้า
หนามขยับหน้าเข้ามาชิดหน้าแป้ง จนรู้สึกได้กลิ่นหอมละมุนของกลิ่นกายของแป้งที่สัมผัสกับจมูกแล้วทำให้ตัวหนามเอง อยากจะสัมผัสมันเองด้วยซ้ำไป “ตลก ผู้ชายจะโดนปล้ำ 55+”
“เออ ดี อยากหัวเราะ ก็หัวเราะไป “ แป้งผลักตัวหนามแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว
โดยที่มีหนามเดินตามอยู่ข้างหลัง แป้งรีบขยับเท้าให้เร็วขึ้น ดูเหมือนกึ่งวิ่งกึ่งเดิน แต่ก็ต้องหยุดเมื่อมีมือแข็งแรงอบอุ่น มาจับที่ข้อมือ
“มาทางนี้เดี่ยวผมไปส่ง”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหคุอะไร เหตุผลมันคืออะไร แป้งกลับเชื่อและไว้ใจผู้ชายคนนี้ เดินตามเขาไป
สองคนนั่งรถมอไซต์ซ้อนกันไปยังบ้านพักของแป้ง แต่ดูเหมือนเส้นทางจะเปลี่ยนไป
“นายจะพาเราไปไหน”
“เหอะ น่า เดี่ยวก็รู้ “
“ ไม่เอาอะ นายจอดเลย เราจะลง”
“แล้วจะกลัวอะไร เราไม่ปล้ำนายหรอกน้า เราชอบหญิงแท้”
แป้งเงียบไป ความรู้สึกหนึ่งมันพลุ่งพล้านเข้ามาในหัวใจแป้งโดยที่ตัวแป้งเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมตนเองต้องรู้สึกโกรธและน้อยใจกับคำพูดของหนาม
แป้ง ... แป้ง... หนามว่าแป้งย้ายหอพักมาพักหอนี้ดีกว่าไหม ปลอดภัยกว่าหอพักแป้งตั้งเยอะเลย
แป้งมองไปที่ตึกสูงหลายสิบชั้น ที่ดูแล้วน่าอยู่อย่างที่เขาพูดจริงๆ
“ ไม่อะ เราไม่มีเงินมาเช่าห้องพักหรอก คงจะแพงน่าดูเลย”
“หอพักเก่า เดือนละเท่าไหร”
“1500”
“โอเค งั้นแป้งก็จ่ายมาแค่ 1500 ก็พอ พอดีมีห้อง 1 ห้องว่าง เดี่ยวผมมานะ”
หนามพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปยังเค้าเตอร์ ไม่นานก็วิ่งมาพร้อมกับกุญแจในมือ แล้วก็ตะโกนเรียกให้มาที่ตน
แป้งเดินมาตามคำสั่งที่หนามบงการ โดยดี เดินไปจนถึงห้องมุมสุดของตึก ติดกับสวนหย่อมที่สวยงาม น่าจะเป็นห้องที่คนอยากมาพักที่ตรงนี้มากที่สุด เพราะมันชั้น 1 ด้วยแถมยังติดถนนใหญ่ ตรงข้ามมหาลัยอีก
“ปะ เดี่ยวหนามพาไปขนของ”
“หนาม จะบ้าเหรอ เราไม่มีตังจ่ายหรอก ห้องพักดีดีแบบนี้ไม่ตำกว่า 5000 แน่นอน”
“เออน่า เจ้าของตึกเขาลดให้เหลือ 1500 บาท/เดือน”
“ไม่เชื่อเดี่ยวผมมานะ” หนามวิ่งไปที่เค้าเตอร์ สักพักหนึ่งก็มีหญิงวัยกลางคน น่าจะเป็นผู้ดูแลห้องพักนี้ มายืนยันว่า 1500 จริงๆ ลดให้เป็นพิเศษ
คืนนั้นทั้งคืน แป้งและหนามขี่มอไซต์ ขนของไปมา 4-5 รอบ กว่าจะเสร็จก็ปาไปตี 1 กว่าๆ
โดยที่ข้าวของก็ยังไม่จัด หนามพยุงตัวเองมาที่เตียงนอนแล้วก็ถอดเสื้อ แล้วนอนหลับไป แป้งเองก็จัดข้างของคร่าวๆ ก็เข้าห้องน้ำอ่าบน้ำ เรียบร้อยก็จะเข้านอน แต่ก็ต้องสงสัย ว่าทำไม ไอ้นี้ยังไม่กลับห้องตัวเองอีก
แป้งมองไปที่หนาม ซึ่งตอนนี้หลับตานอนหลับสนิทไปแล้ว ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดในใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเลยในชีวิตนี้
“ นายๆ ไอ้หนาม ตื่นๆ ไปนอนห้องนายได้แล้ว”
หนามตอบออกมาด้วยเสียงงัวเงีย “นอนนี้แหละ เช้าค่อยไป ..... ไม่ทำไรนายหรอก ไม่ชอบของแปลก” พูดเสร็จก็หลับต่อไป แป้งนำมือสองข้างจับไปที่แขนของหนาม มือที่สัมผัสลงไปที่ผิวชายหนุ่มมันเกิดคำถามมากมายว่า ทำไมเขาตัวแข็งจัง กล้ามเป็นมัดๆ หน้าทองเป็นลอนสวยงาม มีไรขนน้อยๆ จากหน้าท้องไหลลงไปที่กางเกง ซึ่งถ้าดูดีดี เขาไม่ได้ใส่เกงชั้นในเลย แป้งจับตัวหนามเขย่า ๆ แต่ก็ไร้ผล หนามนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จึงปล่อยเลยตามเลย แล้วนอนลงข้างๆหนาม
ด้วยความเพลีย ทำให้แป้งหลับไปอย่างอิดโรย
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปยังร่างบางที่นอนข้างๆกายตน สมองส่วนหนึ่งกระตุ้นต่อมประสาทให้เขาเกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาอย่างมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คำถามที่ยังข้างคาใจเขาอยู่คือ ทำไมเขาถึงรู้สึกเป็นห่วง อยากดูแล ผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบสบตา ดวงตาที่ใสเป็นประกายที่สื่อออกมาด้วยความจริงใจ ทำให้หัวใจของหนุ่มน้อยเต้นอย่างประหลาด ยิ่งได้พบพูดคุยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เสมือนสายฝนที่พร่างพรูตกลงมา ทำให้ดอกบัวที่อยู่ในบ่อแห้งขอด ได้กลับมาชื่นใจอีกครั้ง
หนามสายหน้า พยายามบอกกับตัวเองว่า เพ้อเจ้อ ไม่จริง เหลวไหล มันไม่ใช่หรอก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น