ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนี้แค้น...รักนิรันดิ์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 (เมื่อถึงบ้าน...ข่าวร้ายมาเยือน)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 50


                “ อะไรนะคะพ่อ  จะให้หนูแต่งงานเหรอคะ เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ได้ยินข่าวร้ายเลยเหรอเนี่ย 

                นั่นสิ!

                 ทำไมเมื่อวานบิดาถึงไม่ได้ไปรับเธอที่กรุงเทพฯ ให้ลุงเสริมไปรับแทนทั้งที่เธอตั้งหน้าตั้งตาคอยบิดาว่าจะมารับเธอกลับ  เพราะวันรับปริญญาของเธอนั้นบิดาก็ไม่ได้ไป  ท่านบอกว่าไม่ว่างมีงานสำคัญด่วนมาก  เธอก็เข้าใจ....

                 และก็บอกว่าอีกวันกลับบิดาจะไปรับแน่นอน  แต่เมื่อรถจอดหน้าหอพักกลับพบว่าบิดาเธอไม่ได้มาด้วย  ท่านบอกอีกว่าติดงานไปรับด้วยไม่ได้....เธอน้อยใจท่านมาก   แต่ก็เข้าใจท่าน

               แต่นี่มันอะไรกัน  เมื่อเธอมาถึงบ้านกลับพบว่าบิดาจะให้เธอแต่งงาน  แต่งกับใครก็ไม่รู้หน้าก็ไม่เคยเจอนิสัยจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้  ไม่เคยรู้จักมักคุ้นและที่สำคัญคือ....เราไม่ได้รักกัน  เราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง....

              ใช่ลูก  อัญฟังพ่อนะ  ธุรกิจของเรากำลังย่ำแย่พ่อไปขอกู้เงินจากเขา  แต่เขาบอกว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน  โดยการที่เขาขอแต่งงานกับลูก  คุณสุนทรเว้นวรรคนิดหนึ่ง แล้วหันไปมองลูกสาว

              พูดเสียงอ่อนลง

              คุณสกรรจ์เขาเป็นคนดีนะลูก  พ่อติดต่อธุรกิจกับเขามานาน  พ่อมั่นใจว่าเขาจะดูแลหนูได้ และพ่อก็เห็นว่าถ้าลูกแต่งงานกับเขาไปลูกก็จะสบายไปทั้งชาติ  เขาก็ไม่มีอะไรเสียหายเลยด้วยซ้ำและที่สำคัญเขาบอกว่าเขาชอบหนู

               ชอบเหรอ ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  หญิงสาวคิดแย้งในใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น เด็กอมมือยังไม่เชื่อเลย เธอเพิ่งได้ยินชื่อผู้ชายคนนี้ก็วันนี้เองและในห้องนั่งเล่นแห่งนี้ด้วย  คุยก็ไม่เคยคุยกันสักคำเขาจะมาชอบเธอได้ยังไง

              ยิ่งฟังก็ยิ่งน้อยใจ....นี่พ่อเชื่อเขาขนาดนี้เลยเหรอ

              .......พ่อต้องการเงินมากขนาดยกลูกสาวให้เขาเชียวเหรอ....

              พ่อไม่นึกถึงจิตใจของเธอเลยว่าเธอจะรู้สึกยังไง  การแต่งงานกับใครสักคนหนึ่งมันต้องเริ่มจากความรักสิ  ถ้าไม่มีความรักแล้วจะอยู่กันได้ยังไง   เมื่อเกิดความผิดพลาดแล้วเราจะรู้จักคำว่าให้อภัยกันเหรอ  ดีไม่ดีต่างฝ่ายก็ต่างโทษกัน.....ทะเลาะกันและสุดท้ายก็....อย่ากัน  

             ....เธอไม่อยากให้ชีวิตคู่ต้องจบลงแบบนั้น....มันเศร้ามาก

             หญิงสาวเงยหน้ามองบิดาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อที่พ่อของเธอต้องการเงินมากว่าจิตใจของเธอ

               เขาชอบหนูเหรอคะ   เขาชอบตั้งแต่เมื่อไหร่คะพ่อ  พ่อจะไปรู้ใจจริงของเขาได้ยังไงหนูยังไม่เคยเจอเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาหล่ะ เขาเคยเจอหนูสักกี่ครั้งกันคะ พูดก็ไม่เคยพูดด้วย เขาจะมาชอบหนูได้ยังไง   พ่อวัดความดีของเขาโดยการดูแค่เรื่องธุรกิจเหรอคะ  ที่เขาดีกับเราก็เพราะว่าตัวเขาเองก็ได้ผลประโยชน์เหมือนกัน  ก็เหมือนกับตอนนี้ไงคะที่เขาให้พ่อกู้เงินก็เพื่อต้องการตัวหนูเป็นข้อแลกเปลี่ยน     นี่เหรอคะที่เรียกว่าคนดี

              หญิงสาวน้ำตาซึมร้องไห้ออกมา  นี่พ่อของเธอไม่เป็นห่วงเธอเลยสักนิด ห่วงแต่ธุรกิจของตัวเองเท่านั้น  ถึงไม่มีรีสอร์ทหญิงสาวก็เชื่อว่าเธอสามารถหาเลี้ยงตัวเองและพ่อได้ 

              ใช่...ถึงแม้รีสอร์ทนี้จะเป็นสิ่งที่เธอรักมากเช่นกัน  แต่ถ้ามันจะล้มละลายหรือตกเป็นของคนอื่นเธอก็ต้องยอมรับ  แต่ไม่ใช่มาขายศักดิ์ศรีเพื่อเอาเงินมาลงทุนอย่างนี้         

                หนูไม่ยอมแต่งค่ะ  ทำไมคะพ่อ  หนูก็เรียนจบแล้ว หนูสามารถทำงานเลี้ยงพ่อได้  ถึงไม่มีรีสอร์ทนี้หนูก็เชื่อว่าเราสองคนพ่อลูกไม่อดตายค่ะ

              เธอปฏิเสธเรื่องแต่งงานและขอร้องอ้อนวอนบิดา

             คุณสุนทรเดินออกไป  แล้วหยุดเพื่อกล่าวย้ำกับหญิงสาวเรื่องการแต่งงาน

             ต้องแต่ง!   เตรียมตัวไว้นะอีกสองอาทิตย์ คุณสกรรจ์เขาจะมารับตัวลูกไปอยู่ด้วย

              จากนั้นท่านจึงรีบเดินเข้าห้องทันที 

              ท่านกลัวว่าจะเห็นน้ำตาของลูกมากกว่านี้.......ซึ่งมันทรมานจิตใจมาก 

              หญิงสาวยินดังนั้น...เธอตะโกนไล่หลังบิดาไปว่า  

              ไม่! หนูไม่แต่ง  พ่อไม่มีสิทธิบังคับหนู  ฮือๆๆ   เสียงอ่อนลงรำพึงกับตนเอง ได้ยินมั๊ย  พ่อไม่มีสิทธิมาบังคับหนู

              หญิงสาวร้องไห้จนตัวโค้งงอ.....ทรุดตัวลง  มองบิดาเดินหายเข้าไปในห้อง น้ำตาพร่ามัวราวกับทำนบพัง

                                  ............................................................................................................

                .........เมื่อเข้ามาในห้องท่านทรุดตัวนั่งร้องไห้น้ำตาซึมกับพื้น..........

              บัดนี้ไม่เหลือคราบเสี่ยสุนทรผู้มั่งคั่งสักนิด  ท่านกำมือแน่นจนสั่นกับความเลวร้ายที่ตนเองได้กระทำ

              คุณสุนทรเองก็เจ็บปวดใจไม่แพ้ลูกเหมือนกัน  ยิ่งเมื่อเห็นแววตาเจ็บช้ำของลูก  ตัดพ้อเหมือนกับว่าท่านเองไม่รักลูกแล้ว  ต้องการผลักไสไล่ส่งให้ไปอยู่กับคนอื่น....แต่ที่จริงแล้วเปล่าเลย  ท่านต้องการให้ลูกมีที่อยู่ต่างหากเพราะตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว  รถคันที่ให้เสริมไปรับอัญจิดาหลังจากรับปริญญาก็กำลังจะถูกยึดในวันพรุ่งนี้   ส่วนรีสอร์ทถ้าหาเงินไปคืนไม่ได้ภายในอาทิตย์นี้เสี่ยวิบูลย์เจ้าของบ่อนที่ท่านไปเล่นจะส่งลูกน้องมายึดทันที........นั่นก็เท่ากับว่าท่านและลูกจะไม่มีที่อยู่อย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว  ต้องร่อนเร่พเนจร  ท่านจะมองดูลูกต้องเป็นแบบนั้นได้ยังไง....ท่านจะปล่อยให้ลูกต้องอยู่แบบตกระกำลำบากได้ยังไง 

               ท่านเป็นพ่อนะ!  ต้องช่วยลูกได้สิ 

               ลูกเคยอยู่อย่างสบาย ไม่มีเรื่องเดือดร้อน ท่านไม่ยอมให้ลูกลำบากแน่ๆ 

               ยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้เมื่อนึกถึงอดีตตอนมีเงินใช้อย่างไม่ขาดมือ.....มันทำให้ท่านหลงในตนเอง

               ......และตกอยู่ในความประมาท......

              ท่านไม่น่าเล่นการพนันเลยจริงๆ  ตอนนั้นมีเงินมาก มีจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร  พอดีมีเพื่อนมาชวนไปเข้าบ่อน ก็คิดซะว่าไปลองสักหน่อยแล้วกัน

               ..........คงไม่เป็นไรหรอก.........ตอนนั้นคิดแค่นั้นจริงๆ

              ตอนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ  ทั้งที่รู้อยู่ว่าเป็นสิ่งไม่ดีแต่ก็ยังเล่น  โดยเริ่มจากเล่นทีละนิดแล้วมันก็ค่อยๆซึมซับเข้าไปจนกลายเป็นถอนตัวไม่ขึ้น  ผีพนันเข้าสิงจนยากจะเยียวยาได้  กระทั่งเอาโฉนดที่ดินของรีสอร์ทไปจำนองได้มาหลายล้าน  ก็นำไปเข้าบ่อนจนหมดเกลี้ยง  แรกๆก็ได้เงินมากอยู่เมื่อยิ่งเล่นก็ยิ่งได้เพิ่มมากขึ้น เมื่อได้มากเข้าผู้คนก็เชียร์ให้เล่นต่อ  จนเล่นเสียจึงขอแก้มือเรื่อยมา....จนกระทั่งหมดตัว

               ตอนนี้แทบไม่มีอะไรเหลือแล้ว  แม้แต่ที่ที่จะซุกหัวนอน.....เรื่องนี้ท่านยังไม่กล้าบอกกับอัญจิดาเพราะกลัวกลัวว่าลูกสาวจะเสียใจในการกระทำอันประมาทของท่าน   ที่ต้องพลอยทำให้ลูกเดือดร้อนไปด้วย 

               ท่านรู้ว่าหญิงสาวรักรีสอร์ทแห่งนี้มาก   เธอมักจะพูดบ่อยๆว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะกลับมาบริหารรีสอร์ทให้เป็นที่ประทับใจของลูกค้าและมีชื่อเสียงให้ได้   เธอจะได้มีชีวิตที่สดชื่นตื่นมาก็เห็นทะเล....ก่อนนอนก็เห็นทะเลให้สมกับความที่เธอจากที่แห่งนี้ไปถึงเจ็ดปีทีเดียว

               ......แต่สุดท้ายท่านก็เป็นคนทำลายความฝันของลูกให้พังลงในพริบตา........

               ท่านมันชั่ว....ท่านมันเลว 

               คุณสุนทรกำหมัดชกตัวเองอย่างเจ็บช้ำใจ

                ....แถมยังแต่งเรื่องโกหกลูกขึ้นมาอีก  บังคับให้ลูกต้องฝืนใจตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่น...

               อันที่จริงท่านกับสกรรจ์  อัครนันทิภาคย์ไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำไปและไม่เคยทำธุรกิจร่วมกันด้วย   แต่เมื่อตอนท่านต้องการเงินมาใช้หนี้  ท่านก็บังเอิญมารู้จักชายหนุ่มพอดีเหมือนกับฟ้ากำหนด  วันนั้นจำได้ว่ากำลังนั่งกินเหล้าแล้วลุกเดินถือขวดเหล้าลงไปยังทะเล 

                ใช่! ท่านคิดจะเดินลงไปทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย!!!

                แต่ก็มีมือของชายหนุ่มคนหนึ่งมาห้ามเสียก่อน  ไม่อย่างนั้นอัญจิดาก็คงลำบากกว่านี้หลายเท่านัก

                ชายหนุ่มผู้นั้นพาท่านมานั่งยังเก้าอี้ผ้าใบริมชายหาด  แล้วถามว่าทำไมถึงทำอย่างนี้

                ทำไมน้าถึงทำอย่างนี้หล่ะครับ  น้าไม่นึกถึงคนข้างหลังบ้างเหรอ  ว่าเธอจะรู้สักอย่างไรจะลำบากสักแค่ไหน  กลับมาบ้านพ่อก็ไม่อยู่แถมยังมีหนี้สินล้นพ้นตัว  เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะเผชิญหน้ากับปัญหาที่น้าก่อไว้ได้ยังไง

                ....ใช่! ทำไมท่านจึงคิดจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวนะ ป่านนี้ถ้าท่านตายไปแล้วลูกจะอยู่ยังไง....

                 นั่นคือคำพูดของชายหนุ่มที่เตือนสติเขา

                  ท่านฉุกคิดว่าชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าท่านมีลูกสาว....แต่ก็ช่างเถอะอาจจะบังเอิญพูดเดามาก็ได้

                   ถ้าน้ามีอะไรจะให้ผมช่วยไม่ว่าเรื่องเงินหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่  โทรหาผมได้ทุกเมื่อ  นี่นามบัตรผมครับ

                ชายหนุ่มตรงหน้ายื่นนามบัตรส่งมาให้

                ท่านรับไว้แล้วเก็บใส่กระเป๋า พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ

                แล้วชายหนุ่มก็เดินจากไป………..

                จนกระทั่งเมื่อวานเสี่ยวิบูลย์มาส่งคนมาเร่งเงินจ่ายหนี้และให้เวลาหนึ่งอาทิตย์หากไม่มีจ่าย  จะทำการยึดทันที

                 ท่านจึงตัดสินใจโทรไปหาชายหนุ่มผู้นั้นที่ช่วยเตือนสติและรับปากว่าจะช่วยเหลือท่านไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่

                ....รู้สึกหมดหนทางจริงๆ  จากนั้นจึงไปหาชายหนุ่มตามนัดที่บ้าน.. 

                ท่านนั่งรอเจ้าของบ้านด้วยความกังวลใจ  เพราะเงินที่จะขอยืมมันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ

                  ผมอยากจะยืมเงินคุณสักสิบล้าน  เพื่อเอามาไถรีสอร์ทคืน  รีสอร์ทแห่งนั้นเป็นสิ่งที่ลูกสาวของผมรักมาก ผมไม่อยากให้แกต้องเสียใจที่มารับรู้ว่าของรักของแกกำลังจะหลุดลอยไปอยู่กับคนอื่นและคนที่ทำให้มันหลุดลอยไป ก็คือพ่อที่แสนเลวคนนี้...คุณสุนทรยกมือขึ้นลูบหน้า  ที่ตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนกับเสี่ยสุนทรที่มั่งคั่งในห้าหกเดือนที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง

                ชายหนุ่มนิ่งนั่งฟังคนตรงหน้าพูดพร้อมทั้งนึกสมเพชในใจ

                 ผู้ชายคนนี้น่ะเหรอคือเสี่ย สุนทร  เมธาสิทธิ์ ที่ในอดีตใครๆก็ต่างนับถือ

                 น่าสมเพชจริงๆ!!! ชายหนุ่มแสแยะยิ้มที่มุมปาก

                 เรื่องเงินน่ะได้ครับ  แต่เราต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันสักหน่อยเพื่อความยุติธรรมของผมว่าเงินที่น้ายืมผมไปจะไม่สูญเปล่าเพราะมันก็เป็นจำนวนเงินมากอยู่   ข้อแลกเปลี่ยนนั้นก็คือผมขอแต่งงานกับลูกสาวของน้า

                 คุณสุนทรผงะหน้าซีด  มองหน้าชายหนุ่มอย่างตกใจ

                  มันเหมือนกับนำตัวลูกไปขายชัดๆ !!!  ท่านจึงกล่าวแย้งว่า

                    แต่คุณกับลูกสาวผมไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกันมาก่อนเลยนะครับ

                   ชายหนุ่มจึงกล่าวต่อว่า

                  ลูกสาวคุณอาจจะไม่เคยรู้จักผม  แต่ผมรู้จักเธอและที่สำคัญผมก็รู้สึกชอบเธอด้วย  ผมขอรับรองว่าจะดูแลเธออย่างดี

                  ชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างกอดอกอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ท่าทางสบายๆผิดกับผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากล่าวขึ้น

                  เอ่อ..คือ

                  คุณสุนทรอึกอักนั่งเหงื่อตก แล้วเขาจะบอกอัญจิดาว่าอย่างไรหล่ะ ยายอัญไม่ยอมแน่ๆ

                   ถ้าน้าตกลงวันมะรืนผมจะส่งคนไปไถ่ถอนรีสอร์ทคืนทันที  และอีกสองอาทิตย์ก็จะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นโดยระหว่างนี้ผมจะเข้าไปทำความรู้จักกับอัญจิดาเอง  น้าไม่ต้องเป็นห่วง

                  ชายหนุ่มมองดูผู้สูงวัยตรงหน้า

                  ผมให้เวลาน้าคิดหนึ่งคืน  พรุ่งนี้โทรมาบอกผมด้วยนะครับ

                  เขาพูดด้วยสีหน้าท่าทางสบายๆ

                  ครับ  ท่านตอบรับ  ทั้งที่ในใจรู้สึกร้อนรุ่มกับเรื่องนี้อย่างมาก  ยายอัญต้องเสียใจอย่างมากแน่นอน

                  ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ  ท่านกล่าวลาชายหนุ่ม

                    สกรรจ์ลุกขึ้นยืนและผายมือให้

                    เชิญครับ  ผมหวังว่าคำตอบพรุ่งนี้จะเป็นข่าวดี             

                     ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยมองตามผู้อาวุโสกว่าอย่างมีชัยชนะ 

                      ฮึ!ในที่สุดคนที่โกงคนอื่นก็ต้องได้รับผลกรรม

                  

                 ท่านไม่เคยร้องไห้เสียใจอย่างหนักแบบนี้เลย......ตั้งแต่มารดาของอัญจิดาจากไป

                 คุณสุนทรยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา

                 ยังไงท่านก็ต้องบังคับให้ลูกแต่งงานกับคุณสกรรจ์ให้ได้   เพื่อความสบายของลูก  ส่วนท่านจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ลูกต้องไม่ลำบาก

                 คุณสุนทรเดินไปยังหัวเตียงหยิบรูปถ่ายท่าน ภรรยาและลูกสาวที่ถ่ายคู่กันขึ้นมา  เมื่อมองดูคนในรูปถ่ายน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูอีกครั้ง

                 ดวงแก้ว  เธออย่าโกรธพี่เลยนะ  พี่ต้องบังคับลูกให้แต่งงานจริงๆ

                  คุณสุนทรเช็ดน้ำตาที่หยดลงมาบนรูปแล้วเอารูปแนบกับอกหลับตาไว้

                      .................................................................................................................................

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×