คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : * จักรยาน *
* จักรยาน *
“เต๋า เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วมึงกลับไปก่อนเลยนะ” ผมบอกไอ้ซีดที่นั่งอยู่ข้างๆขณะที่ตายังจดจ้องอยู่บนจอโปรเจกเตอร์หน้าห้องที่อาจารย์ใช้อธิบาย
“ทำไมไม่กลับพร้อมกู” มันถามผมกลับมา แสดงให้เห็นว่ารับรู้สิ่งที่ผมบอกแล้ว แต่ยังข้องใจ
“กูจะไปกินข้าว” ผมตอบมันสั้นๆ เพราะเรียนอยู่
“กูไปด้วย” แต่มันก็ตอบกลับมาแบบสั้นๆเหมือนกันครับ
“ไปทำเชี่ยไร”
“อ้าว มึงไปแดกข้าว กูก็ไปแดกข้าวดิ่” ฟังมันตอบแล้วรู้สึกอยากยกเท้ามายัดปากมันจัง
“ไม่ใช่ กูหมายความว่..”
“ไปแดกข้าวเป็นเพื่อนมึง” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคมันก็แทรกคำตอบที่ควรจะตอบตั้งแต่แรกขึ้นมา
“กูไม่อยากได้เพื่อน” ผมจึงต่อประโยคของมัน
“แสดงว่ามึงไปกับยูกิ” ในที่สุดมันก็เข้าใจผม
“เออ” ผมจึงตอบมันด้วยคำสั้นๆเพื่อจบการสนทนา และเข้าสู่โหมดเรียนอีกครั้ง มันเองก็เช่นกันครับ หลังจากที่ผมตอบมันแบบนั้นมันก็นั่งเงียบทั้งชั่วโมง จนกระทั่งหมดชั่วโมงเรียนมันถึงได้อ้าปากพูดออกมา
“แดกให้อร่อยนะมึง” แล้วมันก็เดินจากไป ผมเลยรีบเก็บของ เลิกสนใจมันแล้วมาสนใจเจ้าของเบอร์ที่กำลังโทรหาผมแทน
“ครับกิ ชาเสร็จพอดีเลย กิอยู่ไหนเดี๋ยวชาไปหา” ผมกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์ไปยังคนปลายสาย
[เอ่อ ชา กิขอโทษนะ นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเลยที่กิผิดนัด กิขอโทษนะชา] กิตอบด้วยเสียงเบาๆคล้ายกระซิบ สงสัยอยู่ในห้องประชุมแน่เลยครับ
“ไม่เป็นไรครับกิ แล้วกิทำอะไรอยู่หรอครับ” ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย
[กิประชุมเรื่องงานของคณะที่จะจัดอ่ะ.. ชา แค่นี้ก่อนนะ กิยุ่งมากเลย] กิยังคงน้ำเสียงแผ่วๆแต่ฟังดูรีบๆ
“ครับๆ งั้นกิทำงานเถอะ บายครับกิ”
[บายค่ะ] จบครับ จบเลย เท่านั้นแหละ เฮ้อ.. คร้งแรกเลยนะเนี่ยตั้งแต่จีบกันจนถึงวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่กิผิดนัด มันคงเป็นงานด่วนและเป็นงานที่สำคัญมากที่เดียว..
แล้วผมจะเอาไงต่อล่ะทีนี้ ถ้ากลับห้อง ไอ้เต๋ามันต้องแซวหรือไม่ก็ปากหมาใส่ผมแน่ๆ งั้น เดินเล่นในมหา’ลัยเนี่ยแหละ ปลอดภัยต่อกระเป๋าตังค์ดี
ตอนนี้ทุ่มครึ่งแล้วครับ ผมเดินๆ นั่งๆ นอนๆ อยู่แถวนี้มาได้ราวๆ 4 ชั่วโมงแล้ว แต่ผมขี้เกียจเดินกลับหออ่ะ ถ้ามีจักรยานสักคันให้ผมปั่นคงจะดีมาก
“มานั่งทำหน้าเป็นหมาหงอยอะไรตรงนี้วะ” เสียงที่ผมได้ยินทุกวันดังขึ้นจากข้างหลัง
“.....” ผมไม่ได้ตอบครับ ไม่รู้จะตอบอะไร
“ทะเลาะกันรึยังไงมึง หน้าเศร้าเชียว” มันยังถามต่อ ผมเลยตอบกลับไปไป
“เปล่า กิติดธุระเลยไม่ได้ไป คงสำคัญมาก”
“อืม รู้แล้วล่ะว่าไม่ได้ไป” มันตอบแปลกๆ
“มึงรู้ได้ไงวะ”
“.....” มันไม่ตอบ แต่ช่างมันเหอะ
“เห้ย! เล่นเชี่ยไรเนี่ย?! โว๊ะ!!” จู่มันก็เอากระป๋องน้ำอัดลมเย็นเจี๊ยบ 2 กระป๋องมาทาบที่หน้าผม ทำผมสะดุ้งเฮือกเลยครับ ผมเลยโวยวายใส่มัน แต่ก็รับน้ำจากมือมันมาหนึ่งกระป๋อง มันมองตามมาแล้วก็เอื้อมมือมาหยิบกลับไปไว้ในมือตัวเอง โดยที่ไม่พูดไม่อธิบายอะไรสักคำ
“เอ๊า ไอ้สัส กูจะกิน”
“มึงยังไม่ได้แดกข้าว” ดูมันว่า นี่เห็นผมเป็นเด็กหรือยังไงเนี่ย
“เรื่องของกู... แล้วมึงรู้ได้ไงเนี่ย? - -“
“กูรู้.. งั้นสองกระป๋องนี้ของกู ส่วนมึงไปแดกข้าวก่อน” ดูมั๊น ดูมันสิ น่าตบให้กบาลแยก
“กูขี้เกียจเดินอ่ะ มีจักรยานมะ หาให้หน่อยกูอยากปั่น” ผมเริ่มเรียกร้องหาสิ่งที่ผมต้องการในเมื่อผมไม่ได้น้ำอัดลมจากมัน(เกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย - -)
“มี”
“เฮ้ย! จริงดิ่.. เออจริงด้วยอ่ะ มึงนี่รู้ใจกูจริงๆเลยนะ” มีจริงๆด้วยครับ จอดอยู่ข้างหลังมันนี่เอง แต่ว่า..
“มีคันเดียว” ตามที่มันบอกครับ คันเดียว ไม่มีบวก
“แล้วไมมึงไม่เอามา 2 คันวะ” ผมถามมันกลับไป
“มึงจะให้กูตอบจริงๆหรอ” มันถามผมด้วยประโยคแปลกๆ คำตอบคงน่าลำบากใจมากถ้าจะพูด
“มึงบอกกูมาเถอะ.. กูไม่คิดมากหรอก” นี่ผมคิดมาตลอดเลยนะว่าความจริงแล้วอ่ะ มันแอบชอบผม แต่ผมก็แค่คิดเล่นๆ ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆนะครับ ไอ้ที่เอาจักรยานมาคันเดียวคงเพราะอยากซ้อจักรยานผมล่ะซินะ
“แต่กูอยากให้มึงคิดทบทวนสักนิดนะ แล้วค่อยถามกู” มันคงตอบหน้านิ่ง เก็บอารมณ์เก่งจริงๆ ผมเข้าใจครับ มันคงอยากให้ผมคิดเหมือนมันและคงเก็บเรื่องนี้มานาน มันคงอึดอัดมาก ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ที่จะรับฟังเพราะไม่รู้ว่าถ้ามันพูดมาแล้วสถานะของเราสองคนจะเป็นยังไงต่อไป แต่ถ้ามันอยากบอก ผมก็จะรับฟัง
“มึงพูดมาเหอะ กูรับได้”
“คือ..” มันยังคงอ้ำอึ้ง
“.....” แต่ผมพร้อมแล้วครับ
“....กูมาคนเดียว มึงจะให้กูปั่นมายังไง 2 คัน - -“
“-0-“
“เมื่อกี้นี้ที่มึงพูดเป็นตุเป็นตะนี่มึงคิดอะไรอยู่เนี่ย - -“ มันถาม
“-///-“ เวรกรรม แล้วจะตอบยังไงล่ะครับ ดันคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงไปหมด ไปต่อไม่ถูกเลยทีนี้
“ช่างมันเหอะ ไปเลยมึง ไปแดกข้าว เดี๋ยวโรคกระเพาะก็คิดถึงมึงอีกหรอ จะหาว่ากูไม่เตือน” มันเรียกผมให้เดินตามไปที่จักรยานเพื่อไปกินข้าว
“อ้าว มึงไม่ให้กูปั่นหรอ -0-!?” มันขึ้นนั่งเบาะคนปั่น เอาขาตั้งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย บ่งบอกว่าพร้อมให้ผมซ้อน
“ไม่อ่ะ กูไม่ไว้ใจมึง”
“กูโตแล้วไหมมึง ปัญญาอ่อน กูอยากปั่น ลงมาๆ กูจะปั่น” ผมโวยใส่มันที่บังอาจไม่ไว้ใจให้ผมปั่น
“มึงยังไม่แดกข้าว เดี๋ยวเป็นลมกลางทาง” มันบอกเหตุผลที่ฟังแล้วผมดูอ่อนแอปวกเปียกจัง
“กูแข็งแรงดี เร็วๆลงมา กูหิวแล้ว”
“หิวแล้วก็ขึ้นมาดิ่ ไม่ขึ้นก็เดินนะ” ดูมันสิ ดูมันว่า
“กูจะปั่น” ผมยังยืนยันคำเดิม
“มึงนั่นแหละที่ปัญญาอ่อน ทำตัวเป็นเด็ก กูไปละ” ว่าจบมันก็ปั่นจักรยานออกไป ไปจริงๆครับ TT ทำไมมันทำกับผมงี้อ่ะ
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เดิม ไม่รู้รออะไร รอยุงมาหามหรือยังไงก็ไม่รู้ นี่จะ 3 ทุ่มอยู่แล้วนะ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ท้องก็ร้องโครกครากๆ ผมควรจะกลับหอสักที
เอี๊ยดด!! โหเสียงเบรกจักรยานไอ้เต๋าโคตรดังเลย มันหิ้วถุงอะไรมาด้วยก็ไม่รู้ครับ.. เหมือนจะเป็นข้าวเลย แล้วมันก็วางบนโต๊ะ
“มึงไปซื้อข้าวมาหรอ?” ผมถามมันทั้งๆที่ไม่น่าถาม
“อืม นึกว่ามึงกลับหอไปแล้ว แต่กลับไปไม่เจอ เลยเอามานี่ เย็นหมดแล้วมั้ง” มันตอบ.. นี่มันกลับหอมาแล้วด้วย
“ขอบใจ” ผมตอบมันสั้นๆ และเปิดกล่องข้าว นั่งกินเงียบๆ มันเองก็นั่งลงตรงข้ามผมแล้วกินข้าวเหมือนกัน
“กูขอโทษนะที่ทิ้งมึงอ่ะ” อยู่ดีๆมันก็พูดขึ้นมา ตอนนี้ผมแทบมองไม่เห็นหน้ามันเลยครับ ขนาดข้างในกล่องข้าวผมยังแทบมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นอะไร ตรงที่เรานั่งตรงนี้ไม่มีไฟ มีแต่ผลพลอยได้จากไฟที่ใต้ตึกเรียนที่ห่างจากตรงนี้ราวๆ 10 เมตรได้
“กูกลัวมึงปวดท้อง.. แล้วนี่กูก็รีบสุดๆเท่าที่จักรยานจะทำได้แล้ว แต่กูเร็วได้แค่นี้” มันร่ายยาว และเหมือนมันจะเงยหน้าจากกล่องข้าวมามองหน้าผมด้วย ผมไม่ค่อยแน่ใจนัก
“ขอบใจมึงมากนะ..” ผมไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำๆนี้ครับ ผมคิดออกแค่นี้จริงๆ
เราสองคนนั่งกินข้าวเงียบๆจนกระทั่งกินเสร็จ มันถึงยอมให้ผมปั่นพามันกลับหอ
และแม้ว่าวันนี้ผมไม่ได้ไปกินข้าวกับยูกิ แต่ผมดีใจนะที่อย่างน้อยผมก็ได้ปั่นจักรยาน :)
******************************************************************************************
มาแว้วววววว ^^
คือแบบ หลงเรื่องนี้จริงๆนะ เรื่องเก่าคือยังไม่คืบเลย แต่ยังมีหน้ามาลงเรื่องนี้
ก็ชอบอ่ะ ><
มาอ่านกันเยอะๆน้าาาา ช่วยๆกันเม้น เนอะ
ฝากด้วยจ้าา :)
ความคิดเห็น