ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หรือเราเคยรักกัน

    ลำดับตอนที่ #9 : อย่างถามได้ไหม…คำถามนี้

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 49


              หลังจากวันนั้นได้ผ่านพ้นมาทั้งรัฐและน้ำถึงจะพยายามทำตัวให้สนิทเหมือนเคยมากสักแค่ไหน  แต่ทั้งคู่นั้นก็กลับเว้นระยะห่างของทั้งสองฝ่ายด้วยอาจจะเป็นเห็นผลเดียว  นั่นก็คือ  เขาคิดอะไรกับฝ่ายตรงข้ามกันแน่  ก็ในเมื่อต่างฝ่ายต่างขี้ขลาดที่จะไม่กล้าเผชิญเข้ามาซึ่งกันและกัน  แทนที่จะพูดกันและปรับในส่วนที่เข้าใจกันเสียมากกว่าให้ความรู้สึกเหล่านี้กลายเป็นตะกอนในใจของทั้งสองฝ่ายไปในที่สุด
     
              จนวันที่เขาและเธอนั้นต้องลำบากใจที่สุดก็มาถึงจนได้  ในวันนั้นหลังจากที่รัฐและน้ำได้เรียนในวิชาสุดท้ายก่อนพักกลางวันและเตรียมพร้อมที่จะลงไปทานอาหารอยู่พอดี  ก็เห็นเพื่อนของเขากำลังนั่งจับกลุ่มกำลังพูดคุยกันอะไรสักอย่าง  รัฐเองว่าจะเดินเข้าไปถามแต่ก็คอยแย้งกับน้ำไว้เหมือนเธอนั้นมีลางสังหรณ์อะไรสักอย่างที่เธอนั้นต้องลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม
              
              รัฐเดินเข้าไปกลางกลุ่มโดยลากน้ำมาด้วยจนได้  รัฐได้ถามขึ้นมากลางวง  “เฮ้ย!! มีไรอ่ะ  บอกหน่อยดิ  พูดถึงเรื่องใคร  แล้วมีเรื่องอะไรใหม่ๆที่รัฐตกข่าวบ้าง”  รัฐถามไปก็ทำท่าทางอยากจะสนใจ  แต่ในหมู่เพื่อนนั้นกลับตกใจและยังทำท่าทางที่ลึกลับ  รัฐมองไปรอบๆไม่มีใครที่จะสามารถตอบคำถามเขาได้เลย  เขาเองเริ่มรู้สึกสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
     
                   “กำลังคุยเรื่องแกไง”  เพื่อนคนหนึ่งในนั้นที่เป็นเหมือนหัวโจกพูดขึ้นกลางวง 
                   “เฮ้ย…อย่านะโว้ย”  เพื่อนทุกคนที่เหลืออืออึงไม่ให้เพื่อนคนนั้นได้พูดอะไรออกไป
                   “มีอะไรหรือเปล่า”  รัฐถามในท่าทีที่เงียบขึ้น
                   “เฮ้ย…อย่าก็อย่าสิว่ะ”  เพื่อนคนที่เหลือพยายามห้ามให้เพื่อนคนนั้นอย่าถามคำถามที่บ้าบิ่นออกไป
                   “เออนะ  เดี่ยวเราก็จะรู้กัน”  เพื่อนคนนั้นบอกให้เพื่อนทุกคนใจเย็นๆ  เพราะอาจไม่เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิดก็เป็นได้
                   “มีไรว่ะ”  รัฐถามอีกครั้ง
                   “เออ…เราถามไป  อย่าโกรธละกัน”  เพื่อนคนนั้นพยายามโปรยขึ้นมาก่อน
                   “เออ..ไม่โกรธ  ขอให้บอกมาเถอะ”  รัฐพูด
                   “งั้นได้  เอ็งกับน้ำ  เป็นแฟนกันหรือว่ะ”  เพื่อนคนนั้นพูดออกมาจนได้ท่ามกลางเสียงอืออึงในหมู่เพื่อนคนอื่นๆดังขึ้นอีกครั้ง

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*
     
              ทั้งรัฐและน้ำ  ได้ยินคำถามนี้อย่างเต็มสองรูหู  ทั้งคู่ต่างเงียบและไม่กล้าแม้แต่มองหน้ากันเลย  แต่ยังไงทั้งรัฐและน้ำก็ต้องตอบคำถามนี้ไปให้ได้ 
                   ในความเงียบนั้น  เพื่อนอีกคนในกลุ่มนั้นก็พูดขึ้น  “เห็นไหม  มันเงียบเป็นผีดิบไปแล้วนั่น”
                   รัฐรู้สึกตัวขึ้นมาทันที   เขานึกอยู่ภายในใจว่า  เขาต้องป้องกันน้ำให้ได้  ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร  ตราบใดเขาเองยังไม่ชัดเจนในตัวของเขาเองก็ตามที

    @@@@@@@@@@@@
     
                   รัฐหัวเราะออกมาเสียงดังท่ามกลางความสงสัยว่ารัฐเป็นอะไร  “จะบ้าไง  หน้าอย่างนี้อ่านะ  ฉันจะเอา”  รัฐพูดไปก็หัวเราะไป
                   ผัวะ!!  เสียงฝ่ามือของน้ำที่ตบมันลงไปที่หลังกะหม่อมออกมาอย่างเสียงดังฟังชัด
                   “โอ๊ย!!  อะไรนี่  ที่รัฐพูดมันไม่ถูกหรือไงเล่า”  รัฐหันมาพูดกับน้ำ
                   “ไม่ถูก  สวยๆอย่างฉันสิ  จะเอาอย่างแกมีรึ  จะเป็นไปได้”  น้ำพูดพร้อมตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน
     
              จากการตอบคำถามที่ไร้สาระของเขานั้นสิ้นสุดลงน้ำก็เดินออกมาจากกลุ่มโดยทันที  โดยทำทียังไม่เลิกขำกับคำถามนั้นอยู่  โดยมีรัฐนั้นคอยวิ่งตามไปอยู่ไม่ห่าง  ก็ในคนเรายังพอมีเงาให้อยู่ข้างกายอยู่  อย่างนั้นน้ำเองจะขาดรัฐไปได้อย่างไร  ถึงแม้ทั้งรัฐและน้ำนั้นจะแสดงอาการอย่างนั้นออกไป  เพื่อนทุกคนมีความรู้สึกอย่างเดียวกันว่า  ทั้งรัฐและน้ำนั้นกำลังโกหกพวกเขาอยู่  และเขายังรู้สึกว่าทั้งรัฐและน้ำนั้นเหมือนแสดงละครให้เขาดู  ถึงแม้จะหัวเราะกลบเกลื่อนได้ดังสักเพียงไหน   แต่แววตาของคนทั้งคู่กลับเร้นสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มเปี่ยม
     
              พอน้ำเดินห่างออกมาจากที่นั่นสักระยะ  น้ำก็หยุดเดิน  แล้วรัฐเองก็สงสัยว่าน้ำนั้นเป็นอะไร  ดูท่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจแน่ๆ
     
                    “น้ำเป็นอะไร  ไม่พอใจกับคำถามเมื่อกี้หรอ  อย่าไปคิดมากเลยนะ  มันก็ถามมาเล่นๆน่ะ”  รัฐพยายามพูดให้น้ำนั้นไม่ต้องใส่ใจกับคำถามไร้สาระนั่น
                   น้ำฉีกยิ้มให้รัฐอย่างฝืนความรู้สึกจนคนที่ได้รับนั้นรู้สึกได้  “ไม่หรอก  ขำๆน่ะ  รัฐเองก็อย่าไปคิดมากเลย”  น้ำพูดเหมือนกับที่รัฐพูดให้น้ำฟัง
                   “แต่รัฐเองก็แปลกใจนะ  ทำไมพวกมันถึงคิดได้ถึงขนาดนั้น”  รัฐพูดขึ้นมาลอยๆ
                   “พอเถอะ  ไปยุ่งมากปวดหัวเปล่า”  น้ำขัดขึ้นมาทันที
                   “ได้ดิ  ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง  แล้วว่าแต่น้ำจะไปไหนล่ะ”  รัฐถามขึ้น
                   “ไปกินข้าวดิ  ดูดิน้ำเองหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย”  น้ำพูด
                   “ก็ไปกินดิ  เดี๋ยวรัฐไปจองโต๊ะก่อนละกันนะ”  รัฐพูดจบก็รีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อไปจองโต๊ะอาหารที่ต้องนั่งทานกันในกลางวันนี้
     
              รัฐและน้ำต่างลงไปข้างล่าง  ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆกลุ่มเดิม  และพวกเขาเองคงได้คำตอบที่ไม่เหมือนกับที่รัฐและน้ำตอบให้เมื่อเขาได้ยิน   พวกเขานั้นไม่แปลกใจทั้งรัฐและน้ำต่างปฏิเสธพัลวันไปอย่างนั้น  ก็เพราะทั้งคู่ประสงค์อยากปกป้องซึ่งกันและกันนั่นเอง

    ........................

             เรื่องของผมเป็นอย่างไรบ้าง  ดีไม่ดีก็เชิญสับกันได้เลยนะ  นะ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×