ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บนทางเดินที่ไม่สมหวัง

    ลำดับตอนที่ #7 : ใกล้สู่ทางเดินที่สวยงาม

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 49


              เรื่องการทะเลาะวิวาททั้งหมดเข้าถึงหูของเสี่ยโกเข้าจนได้ มันไม่ได้มาจากใครถ้าไม่ใช่ช่อนันและศิริที่อยากให้นิดนั้นได้ผลพวงในสิ่งที่เธอก่อขึ้นด้วย เมื่อเสี่ยโกจะได้รับเรื่องราวจากช่อนันและศิริพร้อมกับตีไข่ลงไปด้วยเพื่อให้เสี่ยโกโมโหมากขึ้น ถึงการทะเลอะระหว่างช่อนัน ศิริและนิดจะกลายเป็นเรื่องปกติวิสัยของที่นี่ไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่เสี่ยโกรับรู้เรื่องราวก็มักจะโมโหทุกครั้งเขาได้ให้คนไปเรียกตัวนิดให้มาที่ห้องทำงานของเขาโดยทันที

        
    "นิด…มันก่อเรื่องอีกหรอ" ป้าก่อถาม
        
    "โธ่ป้า…จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฉันไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง" นิดกล่าวกับป้าก่อในขณะที่เดินไปหาเสี่ยโกอย่างรีบร้อน
        
    "ป้าไม่เข้าใจ ว่ามันจะนำเรื่องไปฟ้องเสี่ยทำไม" ป้าก่อกล่าวแบบหัวเสีย
        
    "มันตบกันเอง ยังเอาฉันไปเกี่ยวข้องทำไมไม่รู้" นิดกล่าวด้วยอาการที่เรียบนิ่ง

    ******************************

              เมื่อนิดถึงห้องทำงานของเสี่ยโกก็ได้ผลักประตูเข้าไปด้วยความโมโหอย่างเต็มแรง ภาพแรกที่เห็นนั่งก็คือ มีช่อนันและศิรินั่งหน้าสลอนอยู่ เมื่อหันไปอีกเล็กน้อยก็จะเห็นเสี่ยโกยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ดูก็รู้ว่าขณะนี้เสี่ยโกคงโมโหในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างมาก นิดค่อยๆเดินเข้าไปแล้วไปนั่งภายในห้องทำงานสุดหรูมันเป็นห้องเดียวกันกับเมื่อ 2 ปีก่อนที่ถูกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าย่ำยีเธอจนไม่เหลือชิ้นดีทำให้ชีวิตของเธอต้องมาพัวพันอยู่กับที่นี่ เธอนั่งลงตรงเก้าอี้ฟากตรงข้ามของช่อนันและศิริที่คอยทำหน้าเย้ยหยันเธออยู่ โดยมีป้าก่อนั่งอยู่ข้างๆนิดอย่างเงียบๆ

             
    นิดตบโต๊ะขึ้นมาด้วยเสียงดังก่อนที่จะเริ่มถาม "มันเกิดอะไรขึ้นค่ะเสี่ย ถึงต้องเรียกนิดก่อนที่จะกลับบ้านด้วย ถ้านิดนอนไม่เต็มที่พรุ่งนี้นิดก็ต้องอ่อนเพลียอีก ใครจะรับผิดชอบค่ะเสี่ย" นิดพูดไปของมองศิริและช่อนันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

        
    ช่อนันลุกขึ้นพูดบ้าง "เสี่ยขอเวลาแกไม่นานมากนักหรอก อยู่แค่นี้ไม่ได้หรือไง" 
        
    "ได้สิ เชิญค่ะเสี่ย" นิดพูดแล้วค่อยๆนั่งลงอย่างสงบ
        
    เสี่ยโกถอนหายใจอยู่ครั้งหนึ่งด้วยความเบื่อหน่ายก่อนที่เปิดปากพูด "ลื้อมาก็ดีแล้วจะได้เริ่มเรื่อง อั๊วไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าพวกลื้อถึงได้ทะเลอะกันรายวันอย่างนี้ ไม่คิดจะเบื่อบ้างหรือไง" เสี่ยโกกล่าวด้วยเสียงดังที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรง
        
    "ก็มันแหละ หาเรื่อง" ช่อนั้น ศิริกล่าวออกมาพร้อมกัน
        
    "นี่ๆ…พวกแกตบกับเองแล้วยังมายุ่งกับฉันเอง เสี่ยค่ะ เสี่ยคงรู้กำพืดของแต่ละคนนะค่ะว่าเป็นยังไง เพราะแต่ละคนในที่นี้ก็อยู่ที่นี่กันมาไม่น้อยกว่ากันไม่เท่าไหร่นักหรอก ใครเป็นยังไงเสี่ยคงจะรู้ดีนะ" นิดกล่าวด้วยความโมโห
        
    "เออ…อั๊วรู้ไม่ต้องมาสอนหรอกน่ะ ช่อนัน ศิริ อั๊วสั่งกี่ครั้งแล้วอย่าระรานคนอื่น ถ้าอยากจะทำงานที่นี่จงทำตัวดีดีไม่งั้นลื้อ2คนจะเสียใจ" เสี่ยโกกล่าวด้วยความโมโหที่จะตกตะกอนอยู่แล้ว
        
    "ค่ะ" ช่อนัน ศิริ ตอบพร้อมกันด้วยเสียงที่อ่อยๆ
        
    "ฉันขอขอบคุณเสี่ยนะค่ะที่ให้ความเป็นธรรม" นิดพูด
        
    "ลื้อก็เหมือนกัน อย่าคอยไปต่อล้อต่อเถียง" เสี่ยโกตอบกลับไป
        
    "ค่ะเสี่ย" นิดพูด
        
    "เสี่ยก็อย่างนี้ทุกที" ป้าก่อกล่าวด้วยอาการที่เซ็งๆ

    *************************

              วันแล้ววันเล่าได้พ้นผ่านไปเนิ่นนาน ชีวิตประจำวันของนิดเองก็ยังคงหมุนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยมันไม่เคยจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่นั่นก็คือ เช้าๆไปทำงานที่ร้านอาหาร ช่วงเย็นๆก็ไปเรียนในระดับที่สูงขึ้นนั่นก็คือระดับปริญญาตรีในภาคสมทบ (จะเปลี่ยนแปลงบ้างก็ตรงนี้) และจบวันด้วยการไปทำงานที่ อาบ อบ นวดอย่างที่ทำอยู่ทุกๆวัน เธอเองก็มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งแต่ว่ามันเป็นเงินเพียงครึ่งหนึ่งของการไถ่ถอนของตัวเธอ เธอเองยังคงถูกระรานจากช่อนันและศิริอยู่ต่อไป แต่ก็ไม่พ้นที่จะตบตีกันเองเสียมากกว่า จากเดิมที่ชีวิตของเธอมีเพียง พินิจ ผู้ชายที่คอยดูแลเธอในทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง ก็ต้องมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า อิทธิ เข้ามามีบทบาทกับตัวเธอมากขึ้น อิทธิยังคอยมาเป็นลูกค้าประจำที่ร้านอาหารและยังคอยเป็นสารถีคอยมาส่งเธอกลับบ้านหลังจากที่เธอเลิกเรียนอยู่เป็นประจำ ที่สำคัญเขามาทำให้ชีวิตของเธอนั้นมีสีสรรมากขึ้น
     
              จวบจนวันนี้เธอเองยังหาทางออกให้กับอิทธิและพินิจยังไม่เจอเลยและมันต้องใช้เวลาอีกนานเพียงแค่ไหนกันที่เธอนั้นจะหาทางออกที่ดีให้กับทั้งสองคนอย่างนิ่มนวลที่สุด เพราะทั้งสองคนนั้นต่างก็คอยดีกับเธอ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะตัดสินใจเลือกใครภายในวันนี้พรุ่งนี้ได้

             
    ในหนึ่งอิทธิก็มาทานอาหารที่ร้านที่นิดเป็นบริกร ก่อนกลับอิทธิทำท่าทางแปลก นิดเองก็คอยสังเกตพฤติกรรมของเขาอยู่ ในช่วงกลับอิทธิจึงได้บอกในสิ่งที่เขาอัดอั้นอยู่ภายในใจของเขาให้กับหญิงสาวที่เค้าจะพูด

        
    "วันนี้ผมคงต้องไปก่อนนะครับ" อิทธิพูดเหมือนอย่างเดิมทุกครั้งก่อนที่จะกลับ แต่วันนี้อิทธิเองพยายามทำท่าเหมือนจะบอกอะไรเธอสักอย่าง แต่อิทธิอยากให้นิดถามเขาเสียมากกว่าด้วยซ้ำ แต่นิดแกล้งทำเป็นไม่รู้
    ื     "ค่ะ" นิดกล่าวกลับ
         "ไปจริงๆนะครับ" อิทธิ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนจะให้นิดถามอะไรสักอย่าง
        
    "รู้แล้วค่ะ" นิด แกล้งทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีอะไรสักอย่าง
        
    "อืม…." อิทธิ ในท่าทางที่ลังเล
        
    "มีอะไรอีกหรอค่ะ" นิดยินยอมถามจนได้
        
    อิทธิถอนหายใจเสียงดัง พร้อมทั้งกล่าวว่า "ที่จริงก็มีอะไรนิดหน่อยน่ะครับ" อิทธิพูดแต่ก็ไม่มองหน้าคนที่เขาพูดด้วยซ้ำ
        
    "แล้วอะไรล่ะค่ะ" นิดกล่าวและตั้งหน้าตั้งตาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจในสิ่งที่อิทธิจะพูดออกมาภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
        
    "คือว่าพรุ่งนี้ช่วงกลางวันผมรู้มาว่าร้านจะปิด ผมเลยอยากจะชวนนิดไปดูหนังกับผมหน่อยน่ะครับ" อิทธิกล่าวไปก็เขินไป
        
    "ช่างรู้จริงนะค่ะ ได้สิค่ะนานๆจะได้พักผ่อนจริงๆซะที" นิด กล่าวทั้งยิ้มแป้น
        
    "ขอบคุณครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณ 10 โมงเช้านะครับ" อิทธิ
        
    "ค่ะ" นิดกล่าวตอบ

    *******************************

              การรับปากของนิดในวันนั้นที่จะไปดูหนังเป็นเพื่อนของอิทธิ ทำให้การแก้ปัญหาจากปมเดิมๆมันยิ่งถลำลึกมากขึ้นไปทุกที เธอกลับสร้างปมเพิ่มขึ้นมาใหม่โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัว การแก้ไขในชีวิตที่แสนจะยุ่งยากก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก เธอคิดแต่เพียงว่าวันนี้เธออยากมีความสุขให้มากที่สุด เพราะไม่ช้าก็เร็วเธอนั้นอาจไม่เหลือใครเลยด้วยซ้ำ อย่างที่เธอเคยเป็นมาก่อน

    *****************************

             
    ในวันนั้นเองเวลาประมาณตีสอง เธอก็กำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้อยู่นั้นเธอก็ผิดสังเกตว่าป้าก่อของเธอไม่เห็นออกมาเร่งเธอเหมือนกับทุกๆวัน พอเธอออกมาที่หน้าตู้จกก็ไม่พบป้าก่อก็ถามผู้อื่นมาเรื่อยก็ได้ตอบที่ว่า "ไม่เห็น…ป้าแกกลับไปแล้วมั้ง" นิดก็เดินหาอยู่พักก็เดินออกมาที่หน้าประตูก็พบว่าป้าก่อนั้นกำลังเดินริ่วๆไปอยู่ดูป้าก่อรีบร้อนกว่าปกติ เธอเองก็แปลกใจก็รีบวิ่งตามไปให้ทัน
     
         "นี่ป้าจะรีบไปไหน" นิดถาม
         "ไม่ต้องมายุ่งหรอกน่า" ป้าก่อตอบอย่างตัดเยื่อใยพร้อมเร่งเท้าก้าวต่อไป
        
    "ป้ามีอะไรรึเปล่า มีไรก็บอกฉันได้นะ" นิดถามอีกครั้ง

             
    ป้าก่อหยุดก้าวเดินสักพัก ทำท่าลังลังอยู่สักพักจึงตัดสินใจพูดออกมา "เอาอย่างนี้ ถ้าฉันเป็นอะไรไป ให้เอาเงินในธนาคารจัดทำศพที่เหลือจะเอาไปทำอะไรก็ได้ เข้าใจไหม" ป้าก่อพูดจบก็ได้แต่เดินริ่วๆต่อไป แม้นิดเองจะยังคงสงสัยในท่าทีแปลกๆ แต่เธอเองก็ไม่อยากจะเข้าไปเซ้าซี้ป้าก่ออีก

        
    "ค่ะ" นิดตอบด้วยความงง
        
    "มีอะไรหรือนิด" วิลัน เดินเข้ามาทางข้างหลัง

             
    วิลันเป็นเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งแต่ไม่ค่อยได้พูดคุยเท่าไหร่อาจเป็นเพราะวิลันเพิ่งเข้ามาทำงานได้ที่นี่ได้ไม่นานนักอาจยังทำใจยอมรับยังไม่ได้เลยไม่ค่อยได้พูดคุยกับใคร วิลันเดินเข้ามาถามนิดพอดีหลังจากที่ป้าก่อเดินออกไป

       
    "ไม่รู้ป้าแกดิ จู่ๆก็แช่งตัวเอง" นิดพูด
        
    "อย่าไปสนใจแกเลยช่วงนี้แกเพี้ยนๆ" วิลันพูดพร้อมตบไหล่นิดเบาๆ
        
    "จ๊ะ กลับบ้านกันเถอะ" นิดพูดพร้อมกลับบ้านไปกับวิลันแทนป้าก่อในวันนั้น

    ***************************

             
    ถึงนิดจะตอบว่า "จ๊ะ" แต่เธอเองก็ยังคงติดค้างในพฤติกรรมแปลกๆของป้าก่อต่อไปในเมื่อป้าก่อเองไม่ยอมบอกความจริงแก่เธอ ในวันนั้นวิลันดูร่าเริงมีชีวิตชีวากว่าทุกๆวันกว่าที่นิดเคยเห็นคงเป็นเพราะวันนี้วิลันไม่มีแขกมาสนใจตัวเธอมากนักอาจเป็นเพราะเพิ่งมีเด็กใหม่เข้ามา ทำให้เธอเองกลายเป็นเพื่อนสนิทกับวิลันอีกคนไปโดยปริยายไปทันทีภายในคืนนั้น

    ******************************

           ช่วยคอมเม้นเรื่องสั้นของผมด้วยนะครับ  รู้สึกช่วงนี้เงียบเหงาเหลือเกิน แหะๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×