ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หรือเราเคยรักกัน

    ลำดับตอนที่ #19 : รัฐ…ในวันแต่งงานของเขา

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 49



              หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีให้หลังมา  ไม่ว่าจะรัฐ  น้ำ หรือเชือกก็ตามทีก็เป็นวันที่สำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย  ทุกคนต่างดีอกดีใจในความสำเร็จที่ตนนั้นได้มา  เพราะกว่าจะมายืนถึงวันนี้นั้นเมื่อทุกคนมองหันกลับไปก็ต่างยอมรับว่ากว่าจะได้มานั้นมันไม่ง่ายเลย  และถ้าหากวันพรุ่งนี้ หรือวันที่ไม่มีรั่วแห่งนี้ปกป้องตัวเขานั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป….
     
              แน่นอนว่าไม่ว่าจะน้ำหรือรัฐต่างก็ดีใจในความสำเร็จของตน  และก็ต่างวุ่นในความสำเร็จของตัวเองเลยแทบไม่ได้พูดคุยกันถึงในเรื่องนี้  แต่ความจริงแล้วเขาแทบไม่รู้ข่าวสารถึงกันอีกเลยหลังจากวันนั้น  วันที่น้ำต้องเจ็บปวดเหมือนทุกวันผ่านไปอีก
     
              หลังงานรับปริญญาของรัฐผ่านไปสามถึงสี่วันนั้น  มันกำลังจะเกิดในสิ่งที่ดีดีสำหรับเขา….  เมื่อรัฐนั้นคิดที่จะทำอะไรสักอย่างให้มันถูกต้องและเหมาะสมกับเชือกฟาง  ผู้หญิงที่ดีและอยู่ข้างกายเขาอย่างไม่ห่าง  ถึงแม้เธอเองจะรู้ว่าในบางครั้งนั้นใจของรัฐไม่ได้อยู่กับเธอ  แต่เธอนั้นกลับเข้าใจและยอมรับในสิ่งตรงนี้ได้
     
              รัฐพาเชือกฟางมาร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง   และแถมนัดแนะกับทางร้านอาหารเสียอีกเพื่อให้สิ่งที่เค้านั้นตั้งใจไว้สำเร็จ
     
                   “คิดยังไง…ถึงมากินร้านอาหารแบบนี้ล่ะ”  เชือกฟางถามเหมือนจะบ่นอยู่คนเดียวเสียมากกว่า
                   “ก็ไม่คิดไง  ก็อยากกินก็เลยมากิน”  รัฐตอบเชิงกวนๆกลับไป
                   “เออ…ดีเนอะ  อยากกินก็มากิน  ตอบได้สวยนิ  เดี๋ยวตีปากซะนิ”  เชือกฟางพูด
                   “เปล่าๆ…ก็รัฐจะพาเชือกฟางมาเลี้ยงในวันที่เราสำเร็จทางการศึกษาไง…แบบสองต่อสองน่ะ”  รัฐพูด
                   “ถ้าจะมาในเรื่องนั้น  เลี้ยงข้างถนนก็ได้  เก็บเงินไว้ดีกว่า”  เชือกฟางกล่าว
                   “ไม่ดีหรอก”  รัฐตอบกลับต่อเชือกฟางด้วยท่าทีแปลกๆ  แต่เชือกฟางยังไม่ทันจับสังเกตของรัฐได้คนก็มารอเธอสั่งอาหาร  ก็สั่งอาหารแต่ละอย่างก็แพงจนเชือกฟางยิ่งสงสัยมากขึ้น
                   “ทำไมวันนี้ดูแปลกๆไป”  เชือกฟางถามด้วยความสงสัยจนคิ้วของเธอนั้นแถมจะชนกันอยู่แล้ว
                   “ไม่แปลก  แปลกตรงไหน  คิดมากไปเปล่า”  รัฐพูด
                   “ก็ไอ้ที่แปลกก็แปลกตรงนี้แหละ”  เชือกฟางพูดทำให้รัฐต้องอดขำไม่ได้  การหัวเราะเยอะของรัฐนั้นทำให้เชือกฟางนั้นต้องบ่นพึมพัมต่อไป  “ดูสิยังขำอีก…ถ้าไม่มีเงินมาขอเรานะ  จะไปแต่งงานกับคนอื่นซะเลย”
                   รัฐทำท่าทีไม่สนใจ  แต่ปากของเขานั้นยังบ่นพึมพัมออกมาเช่นกัน  “ก็ไอ้เงินที่จะไปขอเชือกฟางมันมีแล้ว  เหลือแต่วันนี้เจ้าตัวจะตกลงหรือเปล่าเนี่ยสิ…”
                   “อะไรนะ”  เชือกฟางรีบถามทันที  แต่เธอก็ถามกลับไป “เมื่อ…เมื่อกี้รัฐพดอะไรนะ  เชือกฟางได้ยินไม่ค่อยชัดเจน” 
                   รัฐเลิกคิ้ว  แล้วก็ยิ้มกับเธอพร้อมพูดว่า  “เชือกฟางฟังไม่ผิดหรอก  แต่งงานกับรัฐนะ”
                   เชือกฟางได้ยินทุกถ้อยคำก็แทบจะหูชาไปเลยไม่ยินถ้อยคำนี้จากผู้ชายที่เธอนั้นวางใจมาโดยตลอด  ใบหน้าของเธอนั้นค่อยๆแดงจนแดงกร่ำไปหมด  “บ้า!!…ขอแต่งงานแบบนี้เลยเนี่ยนะ”
                   “อ้าว!!  ให้ขอยังไงล่ะ  ตกลงว่า…..”  รัฐพูดทั้งรอคำต่อท้ายจากปากของเชือกฟาง
                   “ตกลงดิ”  เชือกฟางรอนานพอสมควรกว่าจะตอบออกมาได้
                   “ไม่ต้องทำอายกลบเกลื่อนหรอก”  รัฐพูด
                   “ใครอายกัน…มั่วหรือเปล่า”  เชือกฟางกล่าวกลับไป
          
              แต่เพียงเชือกฟางดึงผ้าเช็ดปากออกจากบนจานของเธอ  ก็พบว่ามีแหวนอยู่วงหนึ่งวางอยู่เด่นสง่า  ทำให้ตัวเธอนั้นต้องอึ้งเป็นครั้งที่สอง  แต่เธอก็มั่นใจว่าแหวนวงนี้เป็นแหวนวงเดียวกับที่รัฐอยากจะให้กับเธอแน่ๆ  “แหวนสวยดี  ขอล่ะกัน”  เชือกฟางพูดพร้อมทั้งโชว์นิ้วนางข้างซ้ายให้กับรัฐดู
     
                   “รู้หรอว่าของใคร  เผื่อมีใครมาวางไว้หรือเปล่า”  รัฐพูด
                   “ไม่ใช่ของรัฐหรอ”  เชือกฟางถามด้วยสีหน้าที่ถอดสี
                   “อืม…ของรัฐนั่นแหละ”  รัฐพูดจบ  เชือกฟางถึงยิ้มขึ้นมาได้อีก  แล้วก็มัวแต่ชมแหวนวงนั้นอยู่นานสองนานพอสมควร
     
    #๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#

              ทางด้านน้ำนั้น  ในวันและเวลาเดียวกันนั้นเอง  เธอนั้นต้องอยู่ตามลำพัง  และไปเก็บข้าวของที่เธอเอามาไว้ที่คณะเพื่อทำรายงานต่างๆ  เธอเองก็เดินมาเรื่อยๆมีเพียงแสงแดดที่สีส้มอ่อนนั้นเป็นเพื่อนเธอ  เธอนั้นกลับคิดว่าไม่เหงา  หากวันนี้เป็นวันนี้ของเมื่อ5ปีก่อน  วันที่เธอนั้นมักจะเห็นแสงแดดนั้นกับผู้ชายคนหนึ่ง  เพียงแค่คิดเพียงแค่นี้เธอเองก็รู้สึกว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว
     
              เธอเองเดินไปสักพักคิดอะไรเพลินๆ  ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อเธอมาจากทางด้านข้าง  เธอค่อยมองผ่านไปตามเสียงที่ทอดยาวมา  มันเป็นเสียงๆหนึ่งที่มาจากสนามบาส  แล้วผู้ชายคนหนึ่งเดินวิ่งออกมาจากกลุ่มเพื่อน  และนั่นก็คือ  “พี่โย”  พี่โยเป็นรุ่นพี่ของเธอ  เขาแก่กว่าเธอหนึ่งปี  ถึงเขาจะจบไปแล้วเขาก็มักจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่อยู่เสมอๆถ้ามีโอกาส  และที่สำคัญไปเสียยิ่งกว่า  พี่โยเค้าสนใจเธอนั้นมาตั้งแต่เธอย่างก้าวเข้ามาในคณะแห่งนี้แล้ว  น้ำนั้นรู้ดีแต่ในเวลานั้นเธอไม่เปิดให้ใครเข้ามา  จนมาวันนี้
     
                   “น้ำ….น้ำ..”  เสียงเรียกจากผู้ชายคนหนึ่ง  ในสภาพที่เหงื่อเต็มตัว
                   “อ้าว!!  พี่โย  มาเล่นบาสหรือค่ะ”  น้ำถาม
                   “อืม  ก็เห็นอยู่นิ  ห้าๆ ๆ  แล้วมานี่มาเก็บของหรอ”  พี่โยถามกลับ
                   “ค่ะๆ ๆ พี่โยก็เห็นนิ ห้าๆ ๆ”  น้ำพูดกลับในประโยคกวนๆ
                   “…”  พี่โยของเธอได้แต่ขำในสิ่งที่น้ำพูดออกมา
                   “เดี๋ยวน้ำต้องขอตัวกลับบ้านก่อนนะ”  น้ำกล่าว
                   “อืม…จ๊ะ”  พี่โยพูด  ทำให้การย่างก้าวต่อไปของน้ำก็เริ่มขึ้น  พี่โยนั้นก็เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง จนน้ำนั้นยิ่งเดินห่างไกลไปทุกที แล้วเขาเองก็ตัดสินใจตะโกนไปจนได้  “น้ำ…เป็นแฟนกับพี่นะ”
                   เมื่อน้ำได้ยินประโยคนี้ก็หยุดชะงัก  ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็จะหยุดชะงักไปกับเธอด้วย  เธอเหลียวหลังตอบกลับไป  “พี่โยก็มีเบอร์น้ำแล้วนิ  ว่างก็โทรมาสิค่ะ” 
     
              พี่โยได้ยินเพียงเท่านั้นเขาก็ต้องยิ้มและกลับไปเล่นบาสตามปกติแต่เขานั้นดูท่าจะอารมณ์ดีกว่าที่เป็นเสียด้วยซ้ำ

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
     
              อีกเดือนกว่าๆ  ก็จะถึงหมายกำหนดการที่รัฐและเชือกฟางจะแต่งงานกัน  เพื่อนฝูงของเขานั้นต่างรู้กับถ้วนหน้า  เว้นแต่น้ำ ที่เหมือนถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอด  เพียงเธอนั้นคิดว่า  หากจะปิดบังอีกนิดจะเป็นอะไรไป  รัฐกลับมาโรงเรียนเก่า ณ ใต้ต้นราชาวดีเพียงลำพัง  มีเสียงๆหนึ่งเล็ดลอดออกมาจากข้างหลังของเขา
     
                   “ไม่กลัวโดนรถชนอีกหรอ  มีที่นี่น่ะ”  น้ำกล่าว
                   รัฐค่อยๆหันหลังไป  เขาพบน้ำตรงที่นี่อีกแล้ว  ถึงแม้วันนี้ท้องฟ้าจะดูมืดครึ้มไปหน่อยก็ตามที  “กลัวไร….แค่ตาย”  รัฐตอบด้วยภาษากวนๆ
                   “มานั่งตรงนี้บ่อยหรอ”  น้ำถาม
                   “ช่วงนี้ก็ไม่บ่อยแล้ว…น้ำล่ะ”  รัฐถามกลับทำให้น้ำนั้นต้องถึงกลับตอบไม่ออก
                   “อืม…ก็พอดูแหละ”  น้ำตอบ  แต่เธอนั้นยังจับสังเกตของรัฐจะดูอ่ำๆอึ้งๆเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่อยากพูด  “แกมีอะไรเปล่า”  น้ำถามออกมาจนได้
                   รัฐยืนขึ้นพร้อมกำลังจะเดินจากไป  เขากล่าวออกมาสั้นๆว่า  “เดือนหน้า  รัฐแต่งงาน  รัฐอยากให้น้ำไปนะ”  เขาพูดจบก็เดินจากไป 
                   เมื่อรัฐยิ่งเดินห่างออกไป  น้ำเองก็เริ่มมีอาการเก่าๆเกิดขึ้นอีกครั้ง  เธอตะโกนไล่หลังไป  “เดี๋ยวก่อน”  เมื่อรัฐนั้นได้ยินก็หยุดการย่างก้าวของเขา  “ฉันไปไม่ได้  วันนั้นมีธุระ”  น้ำพูดรัฐเองก็เดินต่อไปเหมือนกับเขานั้นรับรู้ทุกอย่างแล้ว  เหลือเพียงแต่เศษน้ำตาของน้ำเท่านั้น  เธอเองเสียใจมากแค่ไหนที่เธอนั้นต้องพูดมันออกไป   ทั้งๆที่วันนั้นเธอนั้นว่างเหลือเกิน
     
    &*&*&*&*&*&*&*&*&*&*&

              จนวันที่รัฐนั้นแต่งงานก็มาถึง  อะไรก็ดูจะวุ่นวายไปหมดก็คนเรานั้นจัดงานแต่งในชีวิตก็มีไม่มากครั้งนักหรอก  ความวุ่นวายนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา  พิธีในช่วงเข้านั้นรัฐเองก็วุ่นๆจนแทบไม่มีอารมณ์มาสนใจใคร  จนเลิกงานนั่นแหละเขาถึงสังเกตว่าเขานั้นไม่เห็นน้ำอยู่ภายในงาน  จนเขานั้นต้องลงทุนเดินมาถามกับปอน 
     
                   “ปอน…น้ำมาหรือเปล่า”  รัฐถาม
                   “เออ…ไม่เห็นมันนะ  ท่าทางมันจะปลีกตัวจากงานไม่ได้จริงๆแหละ”  ปอนตอบกลับไปตรงๆ  ทำให้หน้าของรัฐต้องจ๋อยกลับไป
                   “อืม…ไม่เป็นไร”  รัฐบ่นออกมาคนเดียว
                   ปอนตบไปที่ไหล่ของรัฐเบาๆ  แต่ทำให้เขานั้นต้องสะดุ้งเพราะความเคยชินที่น้ำมักตบไหล่เขาอยู่บ่อยๆเมื่อช่วงหลังเขาแทบไม่ได้รับมันอีกเลย  “ไม่ต้องห่วงหรอก  ช่วงเย็นๆมันคงมา  มันไม่ใจดำหรอกนะ”  ปอนกล่าว
                   “ก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน”  รัฐตอบ

    ^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*
     
              จนถึงงานเลี้ยงในช่วงเย็น  คราวนี้รัฐต้องต้อนรับแขกที่มาร่วมงานสลับกับการชะเง้อมองหาน้ำไป  แต่เขานั้นก็ไม่พบแม่แต่เงาของเธอเลย  เขาเองไม่อยากจะคิดเลยว่าทำไมน้ำนั้นไม่อยากจะมาร่วมงานของเขา  ความผิดสังเกตนี้เชือกฟางได้รับมันเต็มๆและรอถามในช่วงท้ายงาน

                   “รัฐ…รัฐมองหาใคร  เชือกฟางเห็นรัฐชะเง้อตั้งนานแล้ว”  เชือกฟางถาม
                   “ไม่นิ  รัฐไม่ได้มองหาใครหรอก”  รัฐเลี่ยงคำตอบ
                   “ถ้าเป็นน้ำ  เชือกฟางก็โทรไปถามแล้ว  เธอไม่ว่างจริงๆ ไปพักผ่อนบ้างเถอะ”  เชือกฟางพูด
                   “เดี๋ยวของรัฐมองหาดูอีกสักพักนะ”  รัฐพูด
                   “งั้นก็ตามใจรัฐนะ  เชือกฟางไปห้องพักผ่อนที่ห้องพักละกัน”  เชือกฟางพูดจบก็เดินขึ้นไปบนห้องพัก
     
              หลังจากที่เชือกฟางนั้นเดินจากไป  เขานั้นก็มัวแต่ยืนรอคอยน้ำหวังแค่เพียงเงาของเธอนั้นเขาก็ดีใจแล้ว  เขาเองก็เหนื่อยจากงานทั้งวันอีก  จนเขานั้นเผลอหลับไป  แล้วสะดุ้งขึ้นมาก็พบว่าเขานั้นเผลอหลับไปเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น  เพียงเขาหายจากอาการงัวเงียก็รีบลืมตาขึ้นก็พบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนประดับด้วยเลื่อมสีเงินทั้งชุดอย่างสวยงาม  ทรงผมของเธอดัดเป็นลอนดูสวยงามกว่าทุกๆวัน  เธอปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อนระเรื่อทาปากสีแดงไม่เข้มมากจนเกินไปพอดีๆ  ยังไม่พอในมือของเธอนั้นถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่  มันเป็นช่อดอกพุทธรักษาจำนวนมากมายและตรงกลางนั้นเป็นดอกราชาวดีสีขาว   รัฐนั้นยิ้มให้กับเธอ  เขาจำได้ว่าวันนี้เธอสวยกว่าที่เขาเคยเห็นอย่างแน่นอน  “ดีใจนะ  ที่น้ำมา” 

                   “เอานี่ไป  หามาก็นาน”  น้ำยื่นช่อดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม
                   “นึกว่าวันพ่อ”  รัฐแซวน้ำ
                   “เอาไปเถอะ  หายากจะตาย”  น้ำพูดกลับ
                   “งานเหนื่อยไหม”  รัฐถาม
                   น้ำกลับหลบสายตา  แล้วตอบกลับไปว่า  “น้ำเองต้องกลับแล้ว  พรุ่งนี้น้ำเองก็มีงานแต่เช้าเลย” 
                   “แต่ยังไงก็ขอบใจนะ..น้ำ”  รัฐพูด
                   น้ำตอบพร้อมรอยยิ้มไปว่า  “ไม่เป็นไร…ยินดีด้วยนะ….เพื่อน”

              หลังจากที่เธอเหลียวหลังกลับไปใครจะรู้เลยว่าหลังรอยยิ้มของเธอนั้นมันมีคราบรอยน้ำตาที่รอการล้นเอ่ออยู่อีกครั้งหนึ่ง  เธอเดินห่างออกจากรัฐอย่างช้าๆ  ตัวของเธอนั้นสั้นไปหมดกลัวไปทุกสิ่ง  จนรัฐนั้นสังเกตเห็นว่าน้ำนั้นต้องไม่พ้นร้องไห้ให้กับเขาแต่เขาก็ต้องปล่อยให้เรื่องนั้นมันลงเอยแบบนี้เป็นทางที่ดีที่สุด

    *************************

              ลงให้แล้วนะครับหนึ่งตอน  เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว  แต่ทว่า  เดี๋ยวผมลงให้อีกหนึ่งตอนละกัน  แต่คุณนักอ่านทั้งช่วยบอกกันหน่อยนะครับว่าเรื่องที่ผมแต่งนี้มีข้อดีข้อเสียตรงไหน  เอาตามอารมณ์ที่คุณๆรู้สึกเลยนะครับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×