คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : รัฐ ในวันแต่งงานของเขา
หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีให้หลังมา ไม่ว่าจะรัฐ น้ำ หรือเชือกก็ตามทีก็เป็นวันที่สำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนต่างดีอกดีใจในความสำเร็จที่ตนนั้นได้มา เพราะกว่าจะมายืนถึงวันนี้นั้นเมื่อทุกคนมองหันกลับไปก็ต่างยอมรับว่ากว่าจะได้มานั้นมันไม่ง่ายเลย และถ้าหากวันพรุ่งนี้ หรือวันที่ไม่มีรั่วแห่งนี้ปกป้องตัวเขานั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป
.
แน่นอนว่าไม่ว่าจะน้ำหรือรัฐต่างก็ดีใจในความสำเร็จของตน และก็ต่างวุ่นในความสำเร็จของตัวเองเลยแทบไม่ได้พูดคุยกันถึงในเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วเขาแทบไม่รู้ข่าวสารถึงกันอีกเลยหลังจากวันนั้น วันที่น้ำต้องเจ็บปวดเหมือนทุกวันผ่านไปอีก
หลังงานรับปริญญาของรัฐผ่านไปสามถึงสี่วันนั้น มันกำลังจะเกิดในสิ่งที่ดีดีสำหรับเขา
. เมื่อรัฐนั้นคิดที่จะทำอะไรสักอย่างให้มันถูกต้องและเหมาะสมกับเชือกฟาง ผู้หญิงที่ดีและอยู่ข้างกายเขาอย่างไม่ห่าง ถึงแม้เธอเองจะรู้ว่าในบางครั้งนั้นใจของรัฐไม่ได้อยู่กับเธอ แต่เธอนั้นกลับเข้าใจและยอมรับในสิ่งตรงนี้ได้
รัฐพาเชือกฟางมาร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง และแถมนัดแนะกับทางร้านอาหารเสียอีกเพื่อให้สิ่งที่เค้านั้นตั้งใจไว้สำเร็จ
“คิดยังไง
ถึงมากินร้านอาหารแบบนี้ล่ะ” เชือกฟางถามเหมือนจะบ่นอยู่คนเดียวเสียมากกว่า
“ก็ไม่คิดไง ก็อยากกินก็เลยมากิน” รัฐตอบเชิงกวนๆกลับไป
“เออ
ดีเนอะ อยากกินก็มากิน ตอบได้สวยนิ เดี๋ยวตีปากซะนิ” เชือกฟางพูด
“เปล่าๆ
ก็รัฐจะพาเชือกฟางมาเลี้ยงในวันที่เราสำเร็จทางการศึกษาไง
แบบสองต่อสองน่ะ” รัฐพูด
“ถ้าจะมาในเรื่องนั้น เลี้ยงข้างถนนก็ได้ เก็บเงินไว้ดีกว่า” เชือกฟางกล่าว
“ไม่ดีหรอก” รัฐตอบกลับต่อเชือกฟางด้วยท่าทีแปลกๆ แต่เชือกฟางยังไม่ทันจับสังเกตของรัฐได้คนก็มารอเธอสั่งอาหาร ก็สั่งอาหารแต่ละอย่างก็แพงจนเชือกฟางยิ่งสงสัยมากขึ้น
“ทำไมวันนี้ดูแปลกๆไป” เชือกฟางถามด้วยความสงสัยจนคิ้วของเธอนั้นแถมจะชนกันอยู่แล้ว
“ไม่แปลก แปลกตรงไหน คิดมากไปเปล่า” รัฐพูด
“ก็ไอ้ที่แปลกก็แปลกตรงนี้แหละ” เชือกฟางพูดทำให้รัฐต้องอดขำไม่ได้ การหัวเราะเยอะของรัฐนั้นทำให้เชือกฟางนั้นต้องบ่นพึมพัมต่อไป “ดูสิยังขำอีก
ถ้าไม่มีเงินมาขอเรานะ จะไปแต่งงานกับคนอื่นซะเลย”
รัฐทำท่าทีไม่สนใจ แต่ปากของเขานั้นยังบ่นพึมพัมออกมาเช่นกัน “ก็ไอ้เงินที่จะไปขอเชือกฟางมันมีแล้ว เหลือแต่วันนี้เจ้าตัวจะตกลงหรือเปล่าเนี่ยสิ
”
“อะไรนะ” เชือกฟางรีบถามทันที แต่เธอก็ถามกลับไป “เมื่อ
เมื่อกี้รัฐพดอะไรนะ เชือกฟางได้ยินไม่ค่อยชัดเจน”
รัฐเลิกคิ้ว แล้วก็ยิ้มกับเธอพร้อมพูดว่า “เชือกฟางฟังไม่ผิดหรอก แต่งงานกับรัฐนะ”
เชือกฟางได้ยินทุกถ้อยคำก็แทบจะหูชาไปเลยไม่ยินถ้อยคำนี้จากผู้ชายที่เธอนั้นวางใจมาโดยตลอด ใบหน้าของเธอนั้นค่อยๆแดงจนแดงกร่ำไปหมด “บ้า!!
ขอแต่งงานแบบนี้เลยเนี่ยนะ”
“อ้าว!! ให้ขอยังไงล่ะ ตกลงว่า
..” รัฐพูดทั้งรอคำต่อท้ายจากปากของเชือกฟาง
“ตกลงดิ” เชือกฟางรอนานพอสมควรกว่าจะตอบออกมาได้
“ไม่ต้องทำอายกลบเกลื่อนหรอก” รัฐพูด
“ใครอายกัน
มั่วหรือเปล่า” เชือกฟางกล่าวกลับไป
แต่เพียงเชือกฟางดึงผ้าเช็ดปากออกจากบนจานของเธอ ก็พบว่ามีแหวนอยู่วงหนึ่งวางอยู่เด่นสง่า ทำให้ตัวเธอนั้นต้องอึ้งเป็นครั้งที่สอง แต่เธอก็มั่นใจว่าแหวนวงนี้เป็นแหวนวงเดียวกับที่รัฐอยากจะให้กับเธอแน่ๆ “แหวนสวยดี ขอล่ะกัน” เชือกฟางพูดพร้อมทั้งโชว์นิ้วนางข้างซ้ายให้กับรัฐดู
“รู้หรอว่าของใคร เผื่อมีใครมาวางไว้หรือเปล่า” รัฐพูด
“ไม่ใช่ของรัฐหรอ” เชือกฟางถามด้วยสีหน้าที่ถอดสี
“อืม
ของรัฐนั่นแหละ” รัฐพูดจบ เชือกฟางถึงยิ้มขึ้นมาได้อีก แล้วก็มัวแต่ชมแหวนวงนั้นอยู่นานสองนานพอสมควร
#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#๒#
ทางด้านน้ำนั้น ในวันและเวลาเดียวกันนั้นเอง เธอนั้นต้องอยู่ตามลำพัง และไปเก็บข้าวของที่เธอเอามาไว้ที่คณะเพื่อทำรายงานต่างๆ เธอเองก็เดินมาเรื่อยๆมีเพียงแสงแดดที่สีส้มอ่อนนั้นเป็นเพื่อนเธอ เธอนั้นกลับคิดว่าไม่เหงา หากวันนี้เป็นวันนี้ของเมื่อ5ปีก่อน วันที่เธอนั้นมักจะเห็นแสงแดดนั้นกับผู้ชายคนหนึ่ง เพียงแค่คิดเพียงแค่นี้เธอเองก็รู้สึกว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว
เธอเองเดินไปสักพักคิดอะไรเพลินๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อเธอมาจากทางด้านข้าง เธอค่อยมองผ่านไปตามเสียงที่ทอดยาวมา มันเป็นเสียงๆหนึ่งที่มาจากสนามบาส แล้วผู้ชายคนหนึ่งเดินวิ่งออกมาจากกลุ่มเพื่อน และนั่นก็คือ “พี่โย” พี่โยเป็นรุ่นพี่ของเธอ เขาแก่กว่าเธอหนึ่งปี ถึงเขาจะจบไปแล้วเขาก็มักจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่อยู่เสมอๆถ้ามีโอกาส และที่สำคัญไปเสียยิ่งกว่า พี่โยเค้าสนใจเธอนั้นมาตั้งแต่เธอย่างก้าวเข้ามาในคณะแห่งนี้แล้ว น้ำนั้นรู้ดีแต่ในเวลานั้นเธอไม่เปิดให้ใครเข้ามา จนมาวันนี้
“น้ำ
.น้ำ..” เสียงเรียกจากผู้ชายคนหนึ่ง ในสภาพที่เหงื่อเต็มตัว
“อ้าว!! พี่โย มาเล่นบาสหรือค่ะ” น้ำถาม
“อืม ก็เห็นอยู่นิ ห้าๆ ๆ แล้วมานี่มาเก็บของหรอ” พี่โยถามกลับ
“ค่ะๆ ๆ พี่โยก็เห็นนิ ห้าๆ ๆ” น้ำพูดกลับในประโยคกวนๆ
“
” พี่โยของเธอได้แต่ขำในสิ่งที่น้ำพูดออกมา
“เดี๋ยวน้ำต้องขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” น้ำกล่าว
“อืม
จ๊ะ” พี่โยพูด ทำให้การย่างก้าวต่อไปของน้ำก็เริ่มขึ้น พี่โยนั้นก็เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง จนน้ำนั้นยิ่งเดินห่างไกลไปทุกที แล้วเขาเองก็ตัดสินใจตะโกนไปจนได้ “น้ำ
เป็นแฟนกับพี่นะ”
เมื่อน้ำได้ยินประโยคนี้ก็หยุดชะงัก ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็จะหยุดชะงักไปกับเธอด้วย เธอเหลียวหลังตอบกลับไป “พี่โยก็มีเบอร์น้ำแล้วนิ ว่างก็โทรมาสิค่ะ”
พี่โยได้ยินเพียงเท่านั้นเขาก็ต้องยิ้มและกลับไปเล่นบาสตามปกติแต่เขานั้นดูท่าจะอารมณ์ดีกว่าที่เป็นเสียด้วยซ้ำ
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
อีกเดือนกว่าๆ ก็จะถึงหมายกำหนดการที่รัฐและเชือกฟางจะแต่งงานกัน เพื่อนฝูงของเขานั้นต่างรู้กับถ้วนหน้า เว้นแต่น้ำ ที่เหมือนถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอด เพียงเธอนั้นคิดว่า หากจะปิดบังอีกนิดจะเป็นอะไรไป รัฐกลับมาโรงเรียนเก่า ณ ใต้ต้นราชาวดีเพียงลำพัง มีเสียงๆหนึ่งเล็ดลอดออกมาจากข้างหลังของเขา
“ไม่กลัวโดนรถชนอีกหรอ มีที่นี่น่ะ” น้ำกล่าว
รัฐค่อยๆหันหลังไป เขาพบน้ำตรงที่นี่อีกแล้ว ถึงแม้วันนี้ท้องฟ้าจะดูมืดครึ้มไปหน่อยก็ตามที “กลัวไร
.แค่ตาย” รัฐตอบด้วยภาษากวนๆ
“มานั่งตรงนี้บ่อยหรอ” น้ำถาม
“ช่วงนี้ก็ไม่บ่อยแล้ว
น้ำล่ะ” รัฐถามกลับทำให้น้ำนั้นต้องถึงกลับตอบไม่ออก
“อืม
ก็พอดูแหละ” น้ำตอบ แต่เธอนั้นยังจับสังเกตของรัฐจะดูอ่ำๆอึ้งๆเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่อยากพูด “แกมีอะไรเปล่า” น้ำถามออกมาจนได้
รัฐยืนขึ้นพร้อมกำลังจะเดินจากไป เขากล่าวออกมาสั้นๆว่า “เดือนหน้า รัฐแต่งงาน รัฐอยากให้น้ำไปนะ” เขาพูดจบก็เดินจากไป
เมื่อรัฐยิ่งเดินห่างออกไป น้ำเองก็เริ่มมีอาการเก่าๆเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอตะโกนไล่หลังไป “เดี๋ยวก่อน” เมื่อรัฐนั้นได้ยินก็หยุดการย่างก้าวของเขา “ฉันไปไม่ได้ วันนั้นมีธุระ” น้ำพูดรัฐเองก็เดินต่อไปเหมือนกับเขานั้นรับรู้ทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงแต่เศษน้ำตาของน้ำเท่านั้น เธอเองเสียใจมากแค่ไหนที่เธอนั้นต้องพูดมันออกไป ทั้งๆที่วันนั้นเธอนั้นว่างเหลือเกิน
&*&*&*&*&*&*&*&*&*&*&
จนวันที่รัฐนั้นแต่งงานก็มาถึง อะไรก็ดูจะวุ่นวายไปหมดก็คนเรานั้นจัดงานแต่งในชีวิตก็มีไม่มากครั้งนักหรอก ความวุ่นวายนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา พิธีในช่วงเข้านั้นรัฐเองก็วุ่นๆจนแทบไม่มีอารมณ์มาสนใจใคร จนเลิกงานนั่นแหละเขาถึงสังเกตว่าเขานั้นไม่เห็นน้ำอยู่ภายในงาน จนเขานั้นต้องลงทุนเดินมาถามกับปอน
“ปอน
น้ำมาหรือเปล่า” รัฐถาม
“เออ
ไม่เห็นมันนะ ท่าทางมันจะปลีกตัวจากงานไม่ได้จริงๆแหละ” ปอนตอบกลับไปตรงๆ ทำให้หน้าของรัฐต้องจ๋อยกลับไป
“อืม
ไม่เป็นไร” รัฐบ่นออกมาคนเดียว
ปอนตบไปที่ไหล่ของรัฐเบาๆ แต่ทำให้เขานั้นต้องสะดุ้งเพราะความเคยชินที่น้ำมักตบไหล่เขาอยู่บ่อยๆเมื่อช่วงหลังเขาแทบไม่ได้รับมันอีกเลย “ไม่ต้องห่วงหรอก ช่วงเย็นๆมันคงมา มันไม่ใจดำหรอกนะ” ปอนกล่าว
“ก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน” รัฐตอบ
^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*^*
จนถึงงานเลี้ยงในช่วงเย็น คราวนี้รัฐต้องต้อนรับแขกที่มาร่วมงานสลับกับการชะเง้อมองหาน้ำไป แต่เขานั้นก็ไม่พบแม่แต่เงาของเธอเลย เขาเองไม่อยากจะคิดเลยว่าทำไมน้ำนั้นไม่อยากจะมาร่วมงานของเขา ความผิดสังเกตนี้เชือกฟางได้รับมันเต็มๆและรอถามในช่วงท้ายงาน
“รัฐ
รัฐมองหาใคร เชือกฟางเห็นรัฐชะเง้อตั้งนานแล้ว” เชือกฟางถาม
“ไม่นิ รัฐไม่ได้มองหาใครหรอก” รัฐเลี่ยงคำตอบ
“ถ้าเป็นน้ำ เชือกฟางก็โทรไปถามแล้ว เธอไม่ว่างจริงๆ ไปพักผ่อนบ้างเถอะ” เชือกฟางพูด
“เดี๋ยวของรัฐมองหาดูอีกสักพักนะ” รัฐพูด
“งั้นก็ตามใจรัฐนะ เชือกฟางไปห้องพักผ่อนที่ห้องพักละกัน” เชือกฟางพูดจบก็เดินขึ้นไปบนห้องพัก
หลังจากที่เชือกฟางนั้นเดินจากไป เขานั้นก็มัวแต่ยืนรอคอยน้ำหวังแค่เพียงเงาของเธอนั้นเขาก็ดีใจแล้ว เขาเองก็เหนื่อยจากงานทั้งวันอีก จนเขานั้นเผลอหลับไป แล้วสะดุ้งขึ้นมาก็พบว่าเขานั้นเผลอหลับไปเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เพียงเขาหายจากอาการงัวเงียก็รีบลืมตาขึ้นก็พบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนประดับด้วยเลื่อมสีเงินทั้งชุดอย่างสวยงาม ทรงผมของเธอดัดเป็นลอนดูสวยงามกว่าทุกๆวัน เธอปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อนระเรื่อทาปากสีแดงไม่เข้มมากจนเกินไปพอดีๆ ยังไม่พอในมือของเธอนั้นถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ มันเป็นช่อดอกพุทธรักษาจำนวนมากมายและตรงกลางนั้นเป็นดอกราชาวดีสีขาว รัฐนั้นยิ้มให้กับเธอ เขาจำได้ว่าวันนี้เธอสวยกว่าที่เขาเคยเห็นอย่างแน่นอน “ดีใจนะ ที่น้ำมา”
“เอานี่ไป หามาก็นาน” น้ำยื่นช่อดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม
“นึกว่าวันพ่อ” รัฐแซวน้ำ
“เอาไปเถอะ หายากจะตาย” น้ำพูดกลับ
“งานเหนื่อยไหม” รัฐถาม
น้ำกลับหลบสายตา แล้วตอบกลับไปว่า “น้ำเองต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้น้ำเองก็มีงานแต่เช้าเลย”
“แต่ยังไงก็ขอบใจนะ..น้ำ” รัฐพูด
น้ำตอบพร้อมรอยยิ้มไปว่า “ไม่เป็นไร
ยินดีด้วยนะ
.เพื่อน”
หลังจากที่เธอเหลียวหลังกลับไปใครจะรู้เลยว่าหลังรอยยิ้มของเธอนั้นมันมีคราบรอยน้ำตาที่รอการล้นเอ่ออยู่อีกครั้งหนึ่ง เธอเดินห่างออกจากรัฐอย่างช้าๆ ตัวของเธอนั้นสั้นไปหมดกลัวไปทุกสิ่ง จนรัฐนั้นสังเกตเห็นว่าน้ำนั้นต้องไม่พ้นร้องไห้ให้กับเขาแต่เขาก็ต้องปล่อยให้เรื่องนั้นมันลงเอยแบบนี้เป็นทางที่ดีที่สุด
*************************
ลงให้แล้วนะครับหนึ่งตอน เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว แต่ทว่า เดี๋ยวผมลงให้อีกหนึ่งตอนละกัน แต่คุณนักอ่านทั้งช่วยบอกกันหน่อยนะครับว่าเรื่องที่ผมแต่งนี้มีข้อดีข้อเสียตรงไหน เอาตามอารมณ์ที่คุณๆรู้สึกเลยนะครับ
ความคิดเห็น