ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บนทางเดินที่ไม่สมหวัง

    ลำดับตอนที่ #13 : เขาคือใคร

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 49


              ระยะเวลาผ่านไปถึง 5 ปีเต็มที่นิดอยู่ในกรุงเทพฯเพียงลำพัง เธอมีพินิจคอยมาดูแลชีวิตเธออยู่บ้างแต่มันก็เหมือนเป็นสิ่งเธอนั้นไม่ได้ต้องการเท่าที่ควร เธอพยายามติดต่อหาอิทธิโดยตลอดแต่มันก็เป็นอย่างเคยเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ของนิดเลย ความพยายามของเธอแทบจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย

             
    ในระยะ 5 ปี นิดได้สั่งสมความรู้จนจบระดับปริญญาตรีมาจนได้ แต่เพียงแต่เธอยังคงมีชีวิตในแบบเดิมๆ แต่คงอีกไม่นานนักหรอกเธอนั้นก็ได้พ้นบ่วงนรกแห่งนี้ไปจนได้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีมานี้เธอก็ได้เก็บเงินจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอนั้นสามารถไถ่ถอนตัวเธอได้และสามารถไปตั้งตัวใหม่ได้อย่างสบายๆ

    *****************************

              ในเช้าวันหนึ่งเธอได้รับข่าวที่ไม่ดีนักจากเด็กใหม่ของที่นี่ที่เพิ่งทำงานได้ไม่นานนัก พวกเธอมาบอกข่าวกับนิดว่า…เสี่ยโกได้ส่งตัวศิริและช่อนันไปทำงานในคุกเหมือนกับออเดอร์ของทุกๆปีแต่ทั้งคู่นั้นกลับเสียชีวิตอย่างน่าสงสาร คงเป็นเพราะพวกที่หิวโหยมาแต่ปางก่อนไม่ได้เจออาหารรสเด็ดต่างก็ล้วนอยากที่จะเข้ามาลิ้มลองด้วยกันทั้งนั้น เธอได้รับข่าวแล้วใช่ว่าจะดีใจถึงแม้ทั้งช่อนันและศิรินั้นต่างพยายามหาเรื่องมาใส่เธอก็ตามที เธอก็ยังรู้สึกสงสารที่พวกเธอต้องไปเสียชีวิตในที่ที่ไม่ควรอยู่อย่างนั้น จากนั้นนิดจึงตัดสินใจจะไปไถ่ถอนตัวเธอตั้งแต่วันนั้นเลยเพราะเธออาจเป็นรายต่อไปก็ได้หากฝืนทำงานอยู่ที่นี่

        
    "เสี่ยค่ะ…." นิดพูดด้วยเสียงเข้ม
        
    เสี่ยโกเองเห็นหน้าของนิดก็พลอยอารมณ์เสียเลยกล่าวออกมาว่า "อะไรอีก ถ้าจะพูดเรื่อง 2ตัว นั่นหยุดเลย"
        
    "เปล่าค่ะ" นิดกล่าว
        
    "แล้วอะไรล่ะ" เสี่ยโกพูดแล้วค่อยๆหย่อนตัวลงให้ก้นของเขาสัมผัสกับเบอะของเก้าอี้ตัวโปรด
        
    "ฉันจะขอไถ่ถอนตัวออกจากที่นี่" นิดกล่าวด้วยท่าทางที่จริงจัง
        
    "ได้สิถ้ามีเงินตามที่ฉันเคยบอกไว้" เสี่ยโกกล่าวแบบเย้ยหยันนิดซะเต็มประดา
        
    "นี่ค่ะเงินที่กำหนด" นิดพูดจบก็วางเงินก้อนโตไว้บนโต๊ะ
        
    "แล้วลื้อจะไปทำอะไรล่ะ" เสี่ยโกถามหลังจากเห็นเงินจำนวนมากโขอยู่
        
    "ฉันมีความรู้ จะไปทำงานอย่างที่ควรทำ" นิดพูดพร้อมเมินหน้าหนี
        
    "งั้นก็ขอให้โชคดี" เสี่ยโกอวยพรเล็กๆน้อยๆแก่นิด
        
    "ขอบคุณค่ะ เสี่ยก็ดูแลสุขภาพด้วยละกัน" นิดกล่าวก่อนที่เธอจะออกไปจากห้อง
    หลังจากเธอได้ไถ่ถอนออกมาจากที่นั่นจนได้เธอก็คิดว่าเธอจะไปฉลองให้กับตัวเธอเอง ฉลองให้กับความฝันที่จะต้องไม่ไปวนเวียนที่นั่นอีกต่อไป แต่เธออยู่ที่นี่เพียงคนเดียวก็เลยคิดหาคนที่จะมาร่วมฉลองกับเธอด้วย ในสมองของเธอแวบแรกคงไม่พ้น "อิทธิ" แต่เธอจะให้เขารับรู้ได้อย่างไรในเมื่อแค่ติดต่อหากันนั้นยังทำไม่ได้เลย เธอเลยเปลี่ยนไปชวนพินิจดู ก็ปรากฏว่าพินิจกำลังสัมมนาอยู่ที่ภูเก็ต คราวนี้เธอคงต้องไปฉลองให้กับตัวเธอคนเดียวเสียแล้ว
        
    "เอาว่ะ ก็ไม่มีใครแล้วนี่น่า ก็ไปคนเดียวนี่แหละ" นิดพูดจบก็ขับรถไปหาที่ฉลองให้กับความสำเร็จให้แก่ตัวเอง

    **********************************

              เธอขับรถไปเรื่อยจนคิดว่าเธอควรไปดูหนัง แต่เธอเองก็ไปดูหนังอยู่น้อยครั้ง ที่แรกที่เธอคิดได้ก็คือ ที่ที่อิทธิเคยพาเธอไปดูหนังนั่นแหละ พอดูหนังจบก็จะได้หาอะไรกินแถวนั้นไปเลยไม่ต้องหาที่หลายๆที่ให้มันยุ่งยากอีก

             
    พอเธอไปถึงโรงภาพยนต์สุดหรู เธอก็อดนึกถึงภาพวันเก่าๆไม่ได้ระหว่างเธอกับอิทธิ ในวันนั้นเธอเลือกหนังแนวโรแมนติกถึงแม้เธอจะไม่ชอบแต่คนที่เธอรักชอบ พอเธอดูจบออกมาจากโรงภาพยนต์เธอเองก็ได้รู้ว่า หนังแนวโรแมนติกที่จริงแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน

             
    นิดเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปทำธุระหลังออกมาจากโรงภาพยนต์เหมือนกับคนอื่นๆ เธอเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นตุ๊กตาตัวเล็กๆตกอยู่ เธอเลยย่อตัวลงไปหยิบเพื่อที่จะหาเจ้าของตุ๊กตาตัวนี้ สักพักหนึ่งขณะที่นิดกำลังจะหยิบตุ๊กตาตัวนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงเสียงเด็กมาจากทางด้านหน้าเพื่อที่จะมาแสดงความเป็นเจ้าของของเธอ

        
    "ของหนูค่ะ ขอหนูนะค่ะ" เด็กน้อยพูดขึ้น

             
    เธอค่อยแหงนหน้าดูก็เห็นหน้าเด็กผู้หญิงคนนี้น่ารัก อยู่ในวัยกำลังเล่นพอดิบพอดี ดูเด็กผู้หญิงคนนี้แต่งตัวไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาที่เธอขอนัก เธอดูหน้าผู้หญิงคนนี้ไปก็คุ้นหน้าคุ้นตาหน้าเหมือนคนที่เธอรู้จักนัก

        
    "ได้สิจ๊ะ" นิด พร้อมยื่นตุ๊กตาตัวนั้นให้
        
    "ขอบคุณค่ะ" เด็กน้อย พร้อมกับทำท่าไหว้เธออยู่
        
    "ไม่เป็นไรจ๊ะ แล้วหนูมากับใครจ๊ะ" นิด
        
    "อืม…" เด็กน้อย

    ******************************

              เด็กผู้หญิงคนนั้นก็รีบหยิบตุ๊กตาตัวนั้นไป แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ไปไหนก็มีเสียงผู้หญิงวัยผู้ใหญ่พอสมควรกล่าวตามหลังเด็กผู้หญิงคนนั้นมา ดูท่าทีแล้วเสียงของผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแม่ของเด็กผู้หญิงคนนี้

        
    "หนู มาซนไรแถวนี้ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะถ้าเด็กมาซนกับคุณ" แม่เด็กกล่าว
        
    "ไม่ได้ซนหรอกค่ะ แกน่ารักดีนะค่ะ" นิดพูดพร้อมกับยิ้มให้คนที่ยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ
        
    "เห็นไหมแม่" เด็กน้อย พร้อมเงยหน้าไปหาแม่ของเธอ
        
    "แล้วมากันทั้งครอบครัวหรือเปล่าค่ะ" นิดถาม
        
    "ค่ะ นานๆได้พักผ่อนพร้อมหน้าพร้อมตากันน่ะค่ะ พ่อเด็กไม่ค่อยจะว่างน่ะค่ะ" แม่เด็กตอบกลับมา
        
    "ดีจังนะค่ะ" นิดพูดชมเชย
        
    เวลาเพียงไม่นานนักก็มีเสียงผู้ชายที่ตามหลังของเธอมา ดูท่าเสียงผู้ชายคนนี้เขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเขาพูดว่า "มาแล้วครับ"

    *********************************

         "สงสัยพ่อเค้าคงจะมาแล้ว" แม่เด็กกล่าว

            
    พอนิดได้ยินอย่างนั้นก็คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมาดูหน้าของพ่อเด็กอย่างชัดๆเพราะเสียงที่เขาพูดก็คุ้นหูเธอไม่ใช่น้อย เธอเห็นหน้าของผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กอย่างเต็มๆตาอย่างบอกและบอกกับตัวเองว่า "เธออยู่ในความฝันแน่ๆ" ชีวิตที่เพิ่งจะโผล่พ้นน้ำขอแค่หายใจบ้างก็ไม่ได้ ชีวิตของเธอก็ยังเล่นตลกร้ายกับเธอต่อไปในเมื่อพ่อเด็กคนนั้น คือ พินิจ คนที่คอยดูแลเธอที่เหลืออยู่ ตลอดเวลา 6-7 ปี เทียบเท่ากับอายุของเด็กคนนี้ด้วยซ้ำ เธออยู่กับผู้ชายคนนี้มาโดยตลอดแต่เธอทบไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย เธอเจ็บไปไม่น้อยถึงเธอจะไม่ได้รักเขาเสียมากมายแต่เธอเองก็ไว้ใจมาก มากซะต้องเจ็บขนาดนี้การไปทวงสิทธิของว่าที่ของภรรยาของเธอนั้นไม่ใช่เวลาในตอนนี้ เพราะตลอดเวลาครอบครัวของเขาเองก็บอบช้ำไปไม่น้อยกว่าเธอ ทางออกที่ดี คือ เธอควรปล่อยมือจากพินิจอย่างถาวรเสียที 
       
         "สวัสดีค่ะ" นิดกล่าวทักขึ้นมาก่อนสีหน้าถึงแม้จะยิ้มแต่แววตาก็ยังหม่นอยู่
        
    "ครับ" พินิจกล่าวแบบไม่รู้จักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้มาก่อนนอกจากภรรยาและลูกน้อยของเขา แล้วจึงหันไปพูดกับภรรยาของเขาว่า "ไปเถอะครับ หนังเข้าแล้ว"
        
    "งั้นขอตัวก่อนนะค่ะ ดิฉันขอให้พวกคุณดูหนังให้สนุกนะค่ะ" นิดพูดไปน้ำตาแห่งความผิดหวังก็เริ่มไหลริน
        
    "ครับ ค่ะ" พ่อและแม่เด็กตอบรับ

    ******************************

              จากนั้นนิดเดินออกมาจากสองสามีภรรยาคู่นั้นพร้อมเด็กน้อยในวันน่ารักน่าชัง เธอเองรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองถูกลวงหลอกมาโดยตลอด แต่เธอเองก็หลอกเขามาตลอดเช่นกันว่า "เธอรักเขา" มันคงสาสมอยู่หรอกที่เธอนั้นต้องเจ็บแบบนี้ สักพักก็มีข้อความสั้นๆผ่านมาทางมือถือของนิดว่า @ผมขอโทษ@ ถ้อยคำเพียงแค่นี้บ่งบอกได้ทุกอย่างแล้วว่าเธอควรจะรูดม่านปิดความรักระหว่างพินิจและเธออีกต่อไป...

    *******************

           ใครจะโฆษณาอะไรก็ตามสบายเลยนะครับ  ขอเพียงคอมเม้นท์ดีดีให้ผมแก้ไขบ้าง  แล้วว่างๆผมไปเยี่ยมแน่นอนครับ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×