ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หรือเราเคยรักกัน

    ลำดับตอนที่ #12 : วันที่เราต้องแยก (แยกหัวใจไปดีกว่า)

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 49


              วันเวลาถึงสามปีเต็มนั้น  หากทุกคนมองมันว่า  มันเป็นช่วงเวลาที่สั้นนิดเดียวหากเราทำทุกสิ่งทุกอย่างไม่รู้สึกตัวเอง  ไม่รู้แม้แต่ว่าเราทำไปนั้นมันมีอะไรบ้าง  แต่ถ้าไปถามรัฐและน้ำจะได้คำตอบที่ว่า  ตลอดเวลาในรั่วโรงเรียนเดียวกัน  ในห้องสี่เหลี่ยมห้องเดียวกัน  มีกฎและมาตรฐานเดียวกัน  ตลอดเวลา  3 ปี นั้นมันคุ้มค่ายิ่งกว่าคุ้มค่าเสียอีก  เพราะเขารู้จักทำในสิ่งที่ดีงาม  ที่อาจจะไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
     
              และแล้ววันนี้แล้วสิที่รัฐและน้ำนั้นต้องเหยียบบนพื้นที่บนพื้นบนตารางเมตรเดียวกัน  พรุ่งนี้พวกเขาตื่นมามาที่โรงเรียนแห่งนี้เขาก็จะมีความรู้สึกที่ต่างออกไปจากเดิมที่ว่า  “โรงเรียนนี้ไม่ใช่โรงเรียนเรา”  ความสุขที่รัฐและน้ำได้ก่อมันมา  อาจมีคนเห็นไม่มากนัก  แต่มันยังพอฟุ้งกระจายทั่วในรั่วนี้อย่างแน่นอน
     
              รัฐและน้ำเดินมายังป้ายรถเมย์  มันเป็นสถานที่ที่รัฐนั้นต้องคอยเฝ้าส่งผู้หญิงคนหนึ่งตลอดถึงสามปีเต็ม  มันน่าใจหายอยู่ที่เขานั้นจะไม่ต้องมาส่งใครอีกแล้ว ณ ป้ายรถเมย์แห่งนี้อีก
     
                   “นี่รัฐ…แกว่าเราจะยังคงได้เจอกันอีกหรือเปล่า”  น้ำขึ้นประโยคถาม
                   “ไม่รู้สิ  ถ้าหากว่ารัฐสอบเข้ามหา’ ลัยไม่ได้  ไม่แน่นะทุกคนอาจจะไม่มีวันเห็นรัฐอีกเลย  อาจจะตัดขาดกับโลกภายนอก  ทุกชนิดเลยก็ได้”  รัฐตอบด้วยเสียงที่เศร้าๆ  แววตาเขาซ่อนเร้นประโยคที่สำคัญอยู่เสมอ  ถ้าหากมีคนรับรู้สิ่งนั้นได้
                   “บ้าดิ…แค่สอบไม่ได้แค่นี้เอง  ทำไมต้องถึงตัดขาดเพื่อนๆด้วยล่ะ”  น้ำพูด
                   “ความจริงแล้ว  รัฐเองก็ไม่รู้อนาคตหรอก  แต่ยังไงก็คงได้เจอกันแหละน้ำเองอย่ากังวลไปเลย  เพื่อนนัดเจอกันก็คงมีรัฐอยู่ในนั้นด้วยอยู่หรอก”  รัฐพูดจบ  รถโดยสารคันที่ต้องแยกระหว่างรัฐและน้ำก็แล่นมาเทียบป้ายรถเมย์  หัวใจของรัฐแทบจะถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ  เขายังไม่ทันบอกอะไรกับน้ำในเรื่องที่สำคัญเลย  เขาได้แต่ภาวนาว่า  น้ำไม่ต้องขึ้นรถคันนี้ได้เท่านั้น
                   “รัฐ  เดี๋ยวน้ำไปก่อนนะ”  น้ำพูดจบก็รีบวิ่งขึ้นไปบนรถทันที
     
              คำภาวนาของรัฐไม่เป็นผลน้ำกำลังวิ่งขึ้นรถเมย์คันนั้นไปแล้ว  รัฐพยายามจะเอามือไปจับแขนของน้ำเอาไว้เพื่อฉุดรั้งให้เธอได้หยุด  แต่เหมือนว่าน้ำจะไม่รู้เรื่องกับสิ่งที่รัฐนั้นพยายามทำไป  เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตั้งตาวิ่งขึ้นรถเมย์ไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยซ้ำ  รถเมย์ที่น้ำขึ้นไปเมื่อสักครู่นั้นกำลังเคลื่อนไปจากที่ที่รัฐยืนอยู่แล้ว  รถคันนั้นไม่เพียงแต่จะนำพาหัวใจของเขาให้ไปไกลสุดลูกหูลูกตาไม่พา  รถคันนั้นยังจะบดขยี้หัวใจของเขาให้แหลกไปกับพื้นไปอย่างละเอียด  ถึงรัฐเองจะเสียใจที่ไม่ได้บอกความลับนี้ไป   ทิ้งไว้แต่คำถามโง่ๆว่า  “ทำไมเราไม่บอกไป  อย่าว่าแต่จะบอกเลย  การร่ำลาของเขา   ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้พบได้เจอกันอีกหรือเปล่า  ยังไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย”

    ********************
     
              ในวันนั้นรัฐต้องกลับบ้านไปเพียงแต่ร่างกายที่ไร้หัวใจ   ทางน้ำนั้นหลังจากที่ขึ้นรถเมย์ไปเธอเองก็เสียใจไปไม่น้อยที่ไม่ได้ร่ำลาเพื่อนรักของเธอ  เพราะเธอคิดว่าถ้ารัฐร่ำลาเธอนั่นอาจหมายถึงว่าเธออาจไม่ได้เจอกับรัฐอีกตลอดไปก็เป็นได้  ดังนั้นการที่เธอทำวิธีนี้อาจเป็นทางออกที่ดีของทุกฝ่าย  แต่มันก็ทำให้เธอเสียใจเป็นที่สุดคงไม่พ้น  คำพูดของรัฐ  ที่ตลอดสามปีที่ผ่านมานั้นเธอสัมผัสมันได้  ความรู้สึกนี้มันครุกรุ่นมากกว่าเสียยิ่งกว่าอะไร  เธอพูดออกมาเพียงคนเดียว  สายตามองลอดออกไปทางหน้าต่างว่า  “รัฐ…เราขอโทษที่ไม่ได้อยู่ฟัง   คงเป็นเพราะความขี้ขลาดของเราเองต่างหากถึงต้องเป็นอย่างนี้  น้ำไม่ได้ตั้งใจให้รัฐเจ็บ  เพียงรัฐเจ็บ  น้ำก็รู้สึกที่ไม่ต่างจากรัฐมากหรอก”  เธอกล่าวมันจบหวังเพียงคำที่เธอพูดนั้นอาจฝากสายลมไปให้รัฐนั้นได้ยินประโยคเหล่านี้บ้าง  แต่มันก็ไม่สามารถเป็นจริงได้อย่างที่เธอปรารถนา  เธอกลั่นน้ำตาหยดแรกในชีวิตของเธอออกมาให้ไหลอาบแก้มอย่างช้าๆในที่สุด
     
              อีกหนึ่งเดือนถัดมา  มันเป็นเดือนที่นักเรียนที่กำลังขึ้นมหา’ ลัยทุกคนนั้นต่างตื่นเต้นที่อยากใคร่รู้ว่าความสามารถของตนนั้นสามารถฝ่าฟันไปได้หรือไม่  น้ำเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้  เธอไม่กล้าแม้แต่จะตรวจดูทางอินเตอร์เนตเอง  ต้องให้รัฐนั้นช่วยดูให้โดยบอกผ่านทางโทรศัพท์
     
                   “ว่าไงล่ะรัฐ  อย่าเงียบไปนานดิ”  น้ำคะยั้นคะยอให้รัฐอย่าเงียบไปนาน
                   “อืม….หาอยู่   มันโหลดช้าน่ะ  คอมรัฐมันสู้ไม่ได้ก็ต้องช้าอย่างนี้แหละ”  รัฐพูด
                   “เร็วๆหน่อย”  น้ำพยายามเร่ง
                   “มาแล้ว….” รัฐพูดก็เงียบหายไป
                   “อ้าว…ตกลงฉันติดหรือไม่ติด  รีบบอกดิ”  น้ำพูดด้วยใจที่ไม่ดีที่รัฐนั้นเงียบไปอย่างนี้
                   “แก…..ติดอักษรใกล้มหา’ ลัยฉันเลย  เย้……”  รัฐพูดออกมาจนได้  สิ่งที่ตอบกลับมานั่นคือเสียงกรี๊ดจากน้ำที่ไม่ขาดสายอันเนื่องมาจากอาการที่ดีใจสุดขีดนั่นเอง
                   “ขอบใจมากนะรัฐ  แค่นี้ละกัน  บาย  ขอบใจมาก”  น้ำรีบพูดก็รีบวางสายไปอย่างงุนงงต่อรัฐเป็นอย่างยิ่ง
     
              ตั้งแต่นั้นมารัฐและน้ำต่างคนต่างมีหน้าที่ของตนเองที่ต้องทำ  น้ำเคยบอกกับรัฐว่า  เธอมีเพื่อนที่เป็นลักษณะอย่างรัฐมารับฟังทุกอย่างแล้ว  เธอไม่ต้องการรัฐก็ยังได้  เมื่อตอนที่เธอนั้นอยู่ปีหนึ่ง   ตั้งแต่นั้นรัฐเองก็โผล่ไปที่มหา’ ลัยของน้ำแบบนานๆครั้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×