ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บนทางเดินที่ไม่สมหวัง

    ลำดับตอนที่ #11 : คำร่ำลาจากเพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 49


              งานศพของป้าก่อเองในที่สุดมันก็ดำเนินไปจนถึงวันสุดท้ายในขณะที่นิดเองนั้นยังทำใจรับมันไม่ได้เลยที่จะไม่เห็นเพื่อนรักของเธอนั้นจากกันไปไกลแสนไกล เพียงแค่รูปลักษณ์หน้าตาของป้าก่อเองนั้นก็จะไม่สามารถอยู่ได้เหมือนเดิม ร่างกายของมนุษย์ต้องถูกย่อยสลายไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดียรัจฉานประเภทอื่นๆ

              กรี๊ง…กรี๊ง… โทงศัพท์ของนิดดังขึ้นอยู่นานสองนาน เพราะนิดมัวแต่เหม่อลอยอย่างไร้จุดหมายเพราะวันนี้ทั้งอิทธิและพินิจต่างไม่มาร่วมในงานด้วยทั้งคู่ และวันนี้นิดก็ดูอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น
     
          "สวัสดีค่ะคุณพินิจ" นิดกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เลือนลอย
          "ครับ….นิด" พินิจพูดกลับมา
          "มีอะไรหรือค่ะ" นิดถาม
         "ผมมีธุระด่วนที่เขาใหญ่นะครับ คงไปร่วมงานวันนี้ไม่ได้นะครับ" พินิจตอบ
         "ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้งานราบรื่นนะค่ะ" นิดกล่าวกลับไปโดยไม่มีอารมณ์อย่างทุกครั้งที่พินิจผิดคำพูดแบบนี้
        
    "ขอบคุณครับ" พินิจพูดจบก็ได้วางหูโทรศัพท์ไป

    *********************************

              หลังจากที่นิดได้พูดคุยกับพินิจได้เพียงเล็กน้อยแล้วก็วางหูโทรศัพท์ไปนั้นมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างเลย ตัวเธอนั้นไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ที่รอการถอนออกจากโคนดินโคนทราย ใจของเธอที่กล้าแข็งและพร้อมที่ก้าวต่อไปในเมืองใหญ่ที่มีแต่ปัญหารุมล้อม บัดนี้ใจของเธอนั้นอ่อนระทวยยิ่งนัก อย่าว่าแต่เรี่ยวแรงที่จะเดินเลย ย่างก้าวที่จะออกไปยังวัดแห่งนี้นั้นเธอก็ไม่สามารถจะออกไปได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของเธอนั้นเคยมีแต่ป้าก่อดูแลไม่ต่างกับแม่คนที่สองก็ไม่มีอีกต่อไป

             
    ในขณะที่นิดคิดเหม่อลอยไปต่างๆนานาอยู่นั้น เธอก็ต้องถึงกับสะดุ้งตัวโหยงเมื่อมีคนจากทางด้านหลังของเธอเอามือมาสอดที่เข้ามาทางเอวของเธอจนมารัดที่หน้าท้องของเธอยากนักที่จะดิ้นหลุดไปจากคนที่โอบกอดเขาไปได้ แวบแรกของนิดนั้นคิดว่าเป็นพวกโจรโรคจิตเพราะในงานล้วนมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น ต่อให้เป็นอย่างที่เธอคิดนั้นเธอก็ปล่อยให้เป็นไปแล้วแต่บุญแต่กรรมเพราะในวินาทีนี้เธอไม่พร้อมที่จะต่อสู้อะไรไปได้ แต่พอได้กลิ่นน้ำหอมมันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นจมูกของเธอมาก แรงโอบกอดก็เหมือนเคยได้สัมผัสมัน เธอพิงตัวไปที่อกของคนที่เธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเป็นใคร หลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น สักพักเขาก็เริ่มคลายจากการกอด จากนั้นนิดจึงหันไปเพื่อที่จะได้รู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใครกันแน่

    *********************************

              พอนิดได้โอกาสเหลียวหลังไปก็ต้องตกใจเข้าไปโอบกอดแบบหลวมๆเขาผู้นั้น เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ อิทธิ คนที่เธอเคยขอร้องว่าอย่าจากเธอไปไหนอีก เขามาในชุดสูตสีดำกำมะยี บนใบหน้าของเขานั้นมีแต่รอยยิ้มที่อบอุ่นและปกป้องเธอได้เสมอ

        
    "ขี้แงอีกแล้วนะ" อิทธิ พร้อมเอามือค่อยๆปาดน้ำตาบนใบหน้าของนิดเบาๆ
         "ฮึ ฮึ" นิดเริ่มยิ้มออก
         "รู้ไหม เวลาที่คุณร้องไห้ ไม่น่ารักเลยนะ" อิทธิก้มหน้าไปจนจมูกไปชนกับจมูกคนที่เขารัก ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเหลือเกินแทนกระซิบอยู่แล้ว
         "จริงหรอ" นิดรีบปาดน้ำตา แล้วกล่าวต่อไปว่า "แล้วคุณมาได้ไงค่ะ"
         "ก็งานเสร็จเร็วกว่ากำหนดน่ะครับ" อิทธิกล่าวด้วยรอยยิ้มตามเดิม
         "จะมาก็ไม่บอก…บ้าจริง" นิด พร้อมกำมัดชกไปที่อกของอิทธิเบาๆ
         "นั่นไงยิ้มออกแล้ว" อิทธิ พร้อมชี้นิ้วไปที่หน้าของนิด

    ***************************

              งานศพที่จัดให้แก่ป้าก่อ เป็นการให้ครั้งสุดท้ายสำหรับนิด อิทธิเดินมาพูดกับนิดในขณะที่นิดยืนมองเมรุอยู่ "กลับเถอะ" นิดพยักหน้าให้กับเขาก่อนที่จะเหลียวหลังไปโดยมีอิทธิคอยพยุงตัวของนิดอยู่ตลอดเวลา ดูท่าวันนี้นิดเองจะเหนื่อยไปไม่น้อย เพราะต้องเหนื่อยทั้งกายที่คอยดูแลแขกทุกอย่าง เหนื่อยทั้งใจที่เธอนั้นต้องขาดที่พึ่งไป อิทธิพานิดกลับมายังห้องพัก เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เป็นอย่างดี แล้วรอให้นิดเปลี่ยนเสื้อผ้า เขายื่นยาพาราเซตามอลให้แก่นิดสองเม็ด แล้วอิทธิค่อยๆห่มผ้าห่มให้แก่นิด ปิดไฟดวงที่ทำให้นิดเคืองตายามหลับนอน อิทธินั่งเฝ้าดูนิดจนหลับ เขาจึงค่อยๆเดินออกมาจากห้องนั้นอย่างเงียบๆ เพราะกลัวว่านิดเองนั้นจะตื่นขึ้นมา

              ระยะเวลาผ่านไป 1 เดือน ความสัมพันธ์ของนิดและอิทธิก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เธอต้องทำงานอย่างเพื่อนคนอื่นๆเพราะพินิจเริ่มหายหน้าไปบ้างเพราะงานของพินิจเริ่มหนักขึ้นนั่นเอง แต่เธอสงสัยอย่างหนึ่งว่าเพื่อนอีกคนของเธอหายไปไหนอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือ วิลันตั้งแต่หลังงานศพของป้าก่อเอง ระยะเวลาไม่นานก็มีโทรศัพท์เพื่อมาแจ้งเกี่ยวกับการหายไปของวิลัน

         "ฮัลโล สวัสดีค่ะ" นิดกล่าวทักตามปกติวิสัย
         "ใช่ คุณนิดรึเปล่าค่ะ" เสียงผู้หญิงถาม
         "ใช่ค่ะ…มีอะไรหรือค่ะ" นิดพูดกลับไปด้วยอาการที่งุนงง
        
    "ดิฉันโทรมาจากโรงพยาบาล…คุณวิลันป่วยมีคนไปพบเห็นอยู่ที่ริมถนนจึงพากันมาส่งที่โรงพยาบาลน่ะค่ะ" เสียงผู้หญิงกล่าว
         "วิลันเกิดอะไรขึ้นค่ะ" นิดพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ
         "สภาพของเธอ เหมือนจะโดนข่มขืนอย่างรุนแรงค่ะ" เสียงผู้หญิงกล่าว
         "ค่ะ เดี่ยวดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ" นิดตอบกลับพร้อมรีบนั่งรถไปหาวิลันที่โรงพยาบาล

    ******************************

              ตลอดเวลาที่นิดไปหา ตัวเองก็รู้ว่าใครเป็นผู้บ่งการเรื่องนี้และคิดว่าจะไม่ตอบโต้อะไรอีกแล้วเพราะรู้ว่ายิ่งพูดอะไรไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นมา เมื่อนิดมาถึงโรงพยาบาลก็ตรงดิ่งไปที่ห้องของวิลันพักอยู่

             
    เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องๆนั้นก็ต้องตกตะลึงในสภาพของวิลันเป็นอย่างมาก ถ้าหากมีคนพบวิลันอยู่ข้างถนน อย่างนี้หมาข้างถนนคงจะดูดีกว่าวิลันเป็นแน่ เพราะวิลันก็เป็นคนที่รักสวยรักงามอยู่แล้ว นิดเองก็ไม่เคยเห็นวิลันในสภาพนี้มาก่อน เธอค่อยๆเดินไปหาวิลันอย่างช้าๆ บ่อน้ำตาของเธอเริ่มที่จะตื้นเขินขึ้นมาอีกแล้ว เธอรู้สึกสงสารวิลันขึ้นมาจับจิตจับใจ วิลันคงถูกทรมานไปไม่น้อย เพราะในนั้นคงมีแต่พวกที่หิวโหยด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งเห็นวิลันนั้นยิ้มให้เธอเหมือนร่างกายของเธอนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น บ่อน้ำตาของนิดก็จะยิ่งตื้นเขินรอการการไหลอาบข้างแก้มในไม่ช้า

        
    "วิลาเกิดอะไรขึ้น" นิด ด้วยเสียงที่สั่นเครือ
         "มันเป็นอย่างที่เธอคิด มันคือนรกดีดี มีแต่พวกหิวโหย เธอต้องออกไปให้ได้เพราะยิ่งเร็วยิ่งดี" วิลัน เสียงที่แผ่วเบาและสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตา สายตาของวิลันมองไปอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
        
    "โถ่ วิลันเธอไม่น่าจะเจออะไรอย่างนี้เลย" นิด พร้อมเอามือที่ลูบผมวิลันแต่ก็ต้องตกใจเพราะลูบไปผมวิลันก็ติดตามมือเธอมาด้วย
         "นิด ฉันเองคงไม่รอด….จัดการกับร่างที่น่าสมเพศของฉันอย่างที่เคยจัดการให้ป้าก่อให้ด้วยนะ" วิลัน
         "ได้สิ แต่เธอยังต้องอยู่อีกนานน่ะ ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ" นิด เริ่มมีน้ำตาไหลเอิบที่แก้ม
         "ไม่หรอกฉันรู้ตัวฉันดี ร่างกายมันบอบช้ำไปมากมากเสียจนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ฉันเองก็ปลงตกแล้ว" วิลัน บนรอยยิ้มแห้งๆ
         นิด ก็เริ่มร้องไห้ "ชาติหน้ามีจริงเราคงเกิดมาเป็นเพื่อนกันแต่ในสังคมที่ดีกว่านี้นะ"
         "จ๊ะ…นิดอย่ามัวร้องไห้เลยฉันจะไปก็อยากจะไปอย่างมีความสุขนะ" วิลัน พร้อมเอามือลูบหน้าของนิดที่เปื้อนน้ำตา

              ในวันนั้นที่นิดได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนของเธอ เธอก็ทำตามอย่างที่วิลันบอกนั่นก็คือคุยเรื่องทั่วไป หัวเราะกับวิลันให้มากที่สุด แต่ความรู้สึกของเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่าสิ่งใด เพราะเธอเห็นสภาพที่เคยเห็นวิลันที่เป็นดาวของที่นี่ เธอแค่พูดคุยเรื่องทั่วไปก็รับแทบไม่ได้อยู่แล้ว แต่เธอก็ต้องหัวเราะกับวิลันให้ได้อีกเพราะไม่ช้านี้เธออาจไม่ได้หัวเราะกับเพื่อนคนนี้อีกก็เป็นได้

    *****************************

              ใกล้จบแล้วครับ  หากใครที่มีโอกาศติดตาม  ก็ลองออกความเห็นหรือคาดเดาตอบจบดังๆก็ได้นะครับ  ลองดูซิว่ามันจะจบลงอย่างไร...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×