คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ขอโทษ ให้กับหัวใจของตนเอง
ในช่วงที่ปิดเทอมเพื่อขึ้นชั้นใหม่ รัฐ น้ำและเพื่อนในรุ่นของเขาและเธอก็ต้องขึ้นชั้น ม.6 และเป็นระดับชั้นสุดท้ายแห่งความสุขที่ยาวนาน พอแยกย้ายเข้ารั้วที่ใหญ่โตกว่าอย่างในมหาวิทยาลัย พวกเขาเหล่านั้นอาจจะไม่มีความสุขเท่าช่วงเวลานี้อีกต่อไปแล้วก็ได้
หากนักเรียนที่กำลังขึ้น ม.6 ทุกคนก็รู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่นานที่ต้องเตรียมตัวขึ้นระดับชั้นใหม่แล้วก็ไม่แปลกนักที่จะเห็นนักเรียนไปหาที่เรียนตามที่เรียนพิเศษต่างๆ ซึ่งข้อนี้รัฐเองได้ใส่ใจมากๆและเขานั้นก็ได้เรียนเก็บมาโดยตลอด และบางครั้งก็คอยชักชวนน้ำไปเรียนกับเขา แต่ดูท่าไม่เป็นผลเพราะน้ำนั้นต้องกลับไปเยี่ยมพ่อของเธอที่อยู่ต่างจังหวัดนั่นเอง
จนอยู่มาวันหนึ่ง น้ำนั้นได้ขออนุญาติต่อแม่ของเธอเพื่อไปเรียนพิเศษกับเพื่อนๆ และมาในคราวนี้เป็นกลับเป็นผลเธอเองดีใจไม่น้อยที่จะได้ไปเรียนพิเศษกับเพื่อน จะได้มีกำลังใจในการเรียนไปในตัวด้วย แต่เพียงแค่เธอนั้นมาบอกข่าวนี้กับรัฐเธอนั้นก็ต้องได้รับคำตอบมาอีกอย่างหนึ่ง
"เป็นอะไรหรือเปล่า น้ำ" รัฐถาม เมื่อเขานั้นเห็นน้ำยิ้มดีใจจนหน้าบานมาแต่ไกล
"เดี๋ยวก่อนดิ อีลูกช่างขัดนี่" น้ำพูดขัดรัฐ
"ก็ได้ มีไรก็บอกมาละกัน" รัฐกล่าวและทำหน้าเซ็งๆ
"ก็ปิดเทอมนี้ล่ะซิ" น้ำพูด
รัฐก็แทรกขึ้นมาอย่างทันทีทันใด "ปิดเทอมนี้ทำไม"
"ก็แม่เราให้เราไปเรียนพิเศษที่ที่รัฐเรียนเป็นประจำไง จำไม่ได้หรอ" น้ำพูด
เพียงน้ำนั้นได้พูดจบรัฐก็ทำหน้านิ่งๆ ไร้การโต้ตอบกลับมาแต่อย่างใด ทำให้น้ำเองก็สงสัยในความเงียบงันนั้นของรัฐ
"ทำไมหรือรัฐ ไม่ดีใจหรือไงที่เราได้เรียนด้วยกันตามคำที่รัฐได้เคยชวนน้ำไง" น้ำพูดขึ้นอีกครั้ง
"รัฐดีใจนะ ที่น้ำได้เรียนพิเศษที่ที่รัฐเรียน น้ำเองจะได้มีการเตรียมพร้อม แต่
." รัฐพูดโดยค้างคำว่า แต่ เอาไว้
น้ำพูดแทรกขึ้นทันที "แต่
อะไรรัฐ"
รัฐก็พูดต่อไป "ก็พี่ของรัฐนัดที่เรียนพิเศษที่ใหม่ให้รัฐในช่วงปิดเทอมที่จะถึงนี่ละซิ"
"หรอ" เป็นคำพูดที่ออกมาสั้นๆ บ่งบอกถึงอารมณ์ของน้ำได้เป็นอย่างดี
"เดี๋ยวก่อนสิน้ำ" รัฐพยายามตะโกนเรียก แต่ก็เหมือนจะไม่สามารถฉุดรั้งให้น้ำนั้นได้มาพูดคุยกับรัฐต่อได้
แต่หลังจากนั้น รัฐเองก็พยายามให้น้ำนั้นได้ไปเรียนตามเจตนาเดิมของรัฐถึงแม้นจะไม่มีรัฐเรียนเป็นเพื่อนก็ตามที แต่ยังพอมีเพื่อนคนอื่นๆอีก มันคงทำให้น้ำนั้นได้อยากที่จะมาเรียนบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งน้ำหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของรัฐในวันนั้นก็ได้รับปากที่จะไปเรียนเพื่อตัวเองในที่สุด
ในช่วงปิดเทอมช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทั้งคู่ต่างทรมานหัวใจมากที่สุดเท่าที่รู้จักกันมา ฝ่ายของน้ำไปเรียนพิเศษใกล้บ้านเรียนไปวิชาเดียวก็ได้กลับบ้าน แถมยังมีเพื่อนที่ร่วมเรียนอีกมากกมาย แต่ถึงเพื่อนร่วมเรียนจะมีเยอะก็ตามที เธอก็คิดอยู่ในใจว่าเพื่อนที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่กับเธอ ณ ตรงนี้ เธอนั้นก็เหมือนถูกบังคับเรียนเสียมากกว่า
ส่วน รัฐ เองไปเรียนพิเศษไกลก็แสนจะไกล แถมเรียนตั้งสามสี่วิชาต่อวันอีก กว่าจะได้กลับมาถึงบ้านก็แสนจะเหนื่อยยากอยู่แล้ว เขาเองต้องผจญกับความเหงาของตัวเองด้วยอีก เขาเองก็รู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างที่บอกไม่ถูก และเขานั้นก็คิดไปเองว่า เขานั้นคงเหนื่อยเกินไป
ในวันหนึ่งรัฐกำลังเดินทางไปยังที่เรียนพิเศษในที่สุดท้าย เขากำลังเดินอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่สามารถทำคนที่ข้ามถนนอยู่นั้นกลายเป็นแดดเดียวได้ จู่ๆเสียงเพลงที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้นก็ดังขึ้นอย่างหาที่มาไม่ได้
"อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์
อย่าจูงมือได้ไหมถ้าเธอไม่รัก
อย่าบอกว่าคิดถึงถ้ามันไม่จริง
อย่ามาทำให้ฉันรักเธอ"
เพียงเสียเพลงนี้ดังขึ้น รัฐก็พยายามหาแหล่งที่มา เมื่อเขานั้นหาแหล่งที่มาไม่ได้ เขาก็พยายามเดินไปที่อื่นเพื่อจะไม่ได้ยินเสียงเพลงนี้อีกต่อไป แต่ยิ่งหนีไปอีกที่ ก็ได้ยินเสียงเพลงนี้อีกครั้งแต่มาจากคนละแหล่งที่มา เขาไม่เข้าใจอย่างว่า ทำไมเพลงนี้ถึงได้เข้ามาแทรกความรู้สึกที่เหงาของเขาได้เต็มหมดทั้งสี่ห้องหัวใจ บทเพลงนี้ยิ่งบรรเลงบ่อยครั้งเท่าไรเขาเองก็ยิ่งคิดถึง "น้ำ" ขึ้นไปทุกขณะ
ผู้ชายคนหนึ่งที่เดิมมีความรู้สึกที่อ่อนไหวกว่าปกติเป็นทุนอยู่แล้วจึงไม่แปลกนักที่เขาจะกลั้นน้ำใสๆจากลูกตาของเขาให้ออกลงมาหล่นล่วงบนพื้นถนนที่มีแดดแผดเผาตลอดหรือบางทีการที่เขาทำอย่างนี้นั้นจะทำให้ถนนได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำตาของเขาบ้าง ความชุ่มชื้นนั้นมันไม่ได้เป็นเพราะน้ำตา แต่เป็นเพราะความรักของเขาที่มีต่อน้ำอย่างล้นเปี่ยมแต่กลับบอกมันไม่ได้เลย
/////////////////////
มาอัพเพิ่มแล้วครับ.... ก็ยังไงให้มาเยี่ยมชมกันเยอะๆนะคับ แล้วผมจะไปเยี่ยมกลับครับ
ความคิดเห็น