ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บนทางเดินที่ไม่สมหวัง

    ลำดับตอนที่ #10 : ทำให้เพื่อนครั้งสุดท้าย

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 49


              พอรถของอิทธิเลี้ยวเข้าไปภายในวัด เป็นสถานที่เดียวที่ทุกคนต้องมาหลับนอนเป็นที่สุดท้ายของชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่หามีใครสามารถตื่นจากการหลับไหลที่ยาวนานไม่ได้ ทุกคนที่มาหลับที่นี่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาทักทายหรือกล่าวขอบอกขอบใจคนที่มาเยี่ยมไม่ได้เลย นิดเองต้องมีท่าทีที่ต่างออกไปจากเดิมนั่นคืออาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด ดูเธอนั่งหลังไม่ติดเบอะไม่เหมือนกับนั่งตลอดการเดินทางทั้งวัน กำมือของตัวเองไว้แน่นจนเหงื่อไหลเต็มมือ ท่าทางลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมาก

        
    "คุณทำใจดีดีนะ" อิทธิปลอบใจก่อนที่นิดจะได้เจอสิ่งต่อไป

             
    พอรถจอดดัง "เอียด" แล้วรถของอิทธิก็จอดอยู่กับที่ วิลันที่กำลังนั่งซุกอยู่ตามลำพังก็เงยหน้ามาเห็นนิดที่กำลังเดินลงออกมาจากรถ ก็ต้องวิ่งถลาเข้ามาหานิดอย่างไม่ทันที่นิดจะตั้งตัว และวิลันก็สวมเข้ากอดกับนิดอย่างคนที่เสียอกเสียใจไม่ต่างกัน เมื่อนิดได้ยินเสียงร้องไห้ริกๆอยู่ที่ข้างหูของเธอก็ต้องยอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาตามๆกัน

        
    "ป้าก่อถูกยิงเมื่อไหร่" นิดถามพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของวิลัน
        
    "ไม่รู้…แต่เห็นสภาพศพเมื่อเช้าที่ห้องพักของป้าเอง" วิลัน
        
    "อืม…ไม่น่าล่ะป้าแกทั้งฝากไรไว้" นิด

             
    ส่วนวิลันก็มัวแต่ร้องไห้ นิดมองไปที่กล่องสี่เหลี่ยมที่บรรจุร่างของป้าก่อเอาไว้พร้อมทั้งพูดขึ้นมาลอยๆ "ป้าฝากอะไรฉันไว้ฉันจะทำให้ป้าเต็มที่ ส่วนที่เหลือฉันจะทำบุญส่งไปให้น่ะ" พร้อมทั้งหันหน้ามาหาวิลันแล้วก็ลูกผมวิลันก่อนที่จะกล่าว "อาชีพอย่างพวกเราตายไปก็ไม่พ้นตกนรก เป็นไปได้เราต้องออกไปจากที่นี่น่ะ" แต่สิ่งที่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าของวิลันที่ไม่แน่ใจ

        
    "วิลัน ขอให้ฉันไปหาป้าก่อก่อนนะ" นิดพูด
        
    "…" วิลันไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าและปล่อยให้น้ำตามันไหลอย่างช้าๆ

    ****************************

              จากนั้นนิดก็เดินขึ้นไปบนศาลามันเป็นวิมานที่ป้าก่อพักอาศัยอยู่ นิดเดินขึ้นไปขาของเธอก็สั่นระริกเพราะเธอกลัวในสิ่งที่เธอต้องรับมันให้ได้ เธอเห็นกล่องไม้สี่เหลี่ยมยาวใบหนึ่ง กล่องใบนั้นเพิ่งทาสีขาวหมาดๆ กลิ่นสียังครุกรุ่นภายในศาลา ด้านมุมกล่องมีลวดลายเทพพนมสีทองกรุติดกับกล่องไม้ใบนั้น เธอมองไปข้างๆกล่องใบนั้น มีรูปใบหนึ่งตั้งไว้ มันเป็นรูปของป้าก่อเป็นรูปที่ป้าก่อแกรักมาก เพราะแกคิดว่าแกถ่ายรูปนี้แล้วสวย เมื่อนิดเองเห็นรูปของป้าก่อน่าจะยิ้มออกแต่มันไม่ถูกที่ ถูกทาง และถูกสถานที่ เธอทรุดตัวลงกับพื้นเหมือนกับคนเข่าอ่อนไร้กำลังและเรี่ยวแรง

        
    "นิด" อิทธิพูดทันทีเมื่อนิดทรุดตัวลงไปกับพื้น เขาจึงวิ่งเข้าไปพยุงตัวของนิดเอาไว้ได้ทันทีทันใด ท่ามกลางเสียงซุบซิบของศิริและช่อนัน
        
    "เราไปไหว้แกกันเถอะ" นิดกล่าวเชิญอิทธิ
        
    "ครับ" อิทธิกล่าวรับพร้อมพยุงตัวเธอไปนั่งลงกับพื้น

    **************************

              อิทธิจุดธูปให้นิดแล้วจึงไหว้ศพตามปกติ แต่นิดนั้นพูดออกเสียงออกมาเพื่อที่ดวงวิญญาณของป้าก่อเองจะรับรู้บ้างไม่มากก็น้อย นิดยกมือขึ้นพนมอยู่ที่อก มีธูปอยู่ในมืออยู่หนึ่งดอก "ป้า…ฉันขอโทษนะ ที่ได้อยู่ช่วยป้า ถ้าฉันอยู่กับป้า ป้าคงไม่เหงาแบบนี้" นิดเองยังไม่ทันกล่าวจบก็ต้องเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดปากไม่งั้นเธออาจปล่อยโฮจนเสียงดังลั่นศาลาก็ได้ พอสักพักหลังจากที่ปล่อยโฮไปชุดแรกแล้วก็ได้รวบรวมสติกลับคืนมาพร้อมที่จะกล่าวต่อไป "อยากให้ป้าไปรอฉันนะ ไม่นานนักหรอกฉันคงได้ไปอยู่เป็นเพื่อนป้า ป้าเองก็รอฉันหน่อยละกัน บนโลกมนุษย์อยู่กันได้ไม่กี่ปีหรอก ป้าไปจองที่อยู่ดีดีล่ะ ถ้าเล็กไปฉันไม่อยู่กับป้าน่ะ อะไรก็ตามที่ฉันทำให้ป้าต้องขุ่นเคืองใจ ฉัน…ขอ….โทษ" นิดพูดจบก็รีบยื่นก้านธูปให้กับอิทธิเอาไปปังลงในกระถางธูปก่อนที่เธอจะปล่อยโฮในส่วนที่เหลือตามออกมา

             
    เธออยากจะฉีกหัวใจของเธอออกเป็นซีกๆเสียเหลือเกิน เพราะมันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดที่เธอต้องคอยยื้อแย้งกับยมฑูตที่จะเอาดวงใจของเธอไปอีกครั้ง อีกครั้งที่เธอรักใครแล้วเขาก็ต้องจากเธอไปอย่างไม่หวนกลับ ในชีวิตของเธอมันไม่ค่อยได้พบปะเจอคนมากมายนัก แต่เรื่องราวก็ผันผ่านเข้ามาได้ไม่เว้นแต่วัน เธออยู่ตรงนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน ไร้สิ่งที่ยึดเกี่ยว 
     
              สักพักอิทธิก็เดินพยุงตัวเธอลุกขึ้นจากบริเวณนั้น นิดบอกให้อิทธิช่วยพยุงตัวไปหาช่อนันและศิริ ด้านช่อนันและศิริกำลังนั่งพับดอกบัวอยู่เห็นนิดมากับชายหนุ่มรูปงามอายุอานามก็ไม่เท่าไหร่ก็เกิดความสงสัย แต่ช่อนันก็รีบยกหูโทรศัพท์ไปหาพินิจแจ้งข่าวการเสียชีวิตของป้าก่อเพื่อนสนิทต่างวัยของนิด ทำให้นิดเสียใจอย่างที่สุดเพื่อที่จะให้พินิจเองรีบเบ่งรถมาหานิด

        
    "ทำอะไรน่ะ ช่อนัน" ศิริ ถามด้วยหน้าที่สงสัย
        
    "ก็จับให้รถไฟมาชนกันน่ะสิ" ช่อนัน สีหน้าที่ซะใจ
        
    "ช่อนันพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย…พับไปเถอะดอกบัวน่ะ" ศิริพูด

    *************************************

             
    เมื่อนิดเดินมาถึงที่ที่ช่อนันและศิริพอดี เธอเองก็จะมากล่าวขอบอกขอบใจกับทั้งสองคนที่อย่างน้อยก็ยังมาช่วยกัน

        
    "ฉันต้องขอบใจพวกเธอนะ ที่มาช่วยงานของป้าแกน่ะ" นิดกล่าวด้วยรอยยิ้ม
        
    "พวกฉันไม่อาฆาตแค้นหรอกนา" ช่อนันกล่าวพร้อมลอยหน้าลอยตา
        
    "ใช่…มีไรก็ช่วยๆกันอยู่แล้ว" ศิริพูดแบบเมินๆ
        
    "ขอบใจน่ะ" นิด พูดพลางยิ้มละมุนๆ
        
    "แล้วผู้ชายที่พามาด้วยใครล่ะ ใจคอจะไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างหรอ" ศิริถาม
        
    "ผม อิทธิครับ เป็นเพื่อนกับนิดครับ" อิทธิกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ละมุน
        
    "ออหรอ เพื่อนก็แล้วไป" ช่อนันพูด
        
    "หยุดพูดเถอะน่ะ" นิดกล่าวพร้อมเดินออกมาจากตรงนั้นกับอิทธิ

             
    เมื่อนิดพาอิทธิออกมาจากภายนอกบริเวณงานศพ ลมพัดเอื่อยพาให้ดวงใจเธอต้องหวิวไปตามแรงลมมันยากนักที่จะทำใจในสิ่งตรงนั้นได้

        
    "นิดครับ ผมคงไม่สามารถมาร่วมงานของเพื่อนนิดได้นะ" อิทธิกล่าว
        
    "ทำไมหรอค่ะ" นิดถาม
        
    "ก็ผมมีงานที่ต้องทำ แล้วมันสำคัญมากเลยน่ะครับ" อิทธิตอบ
        
    "ไม่เป็นไรค่ะ..คุณไปทำงานของคุณเถอะ" นิดกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่สามารถยิ้มได้ในตอนนั้น
         
    "ครับ..ผมไปก่อนนะ" อิทธิพูดก่อนลา
        
    "ค่ะ ขอบคุณสำหรับหนังนะค่ะ" นิดพูด
        
    "ครับ แต่คงไม่สำคัญเท่าไหร่มั้งครับ" อิทธิ บนใบหน้าเปื้อนยิ้มครั้งสุดท้ายก่อนลานิดไป

    ******************************

              หลังจากที่อิทธิเหลียวรถออกไปนิดก็จะเดินเข้าไปในศาลาแต่ก็ได้ยินเสียงรถที่คุ้นหูมาจอดจนฝุ่นตลบ ด้าน ช่อนัน มีความรู้สึกที่เสียดายอย่างเห็นได้ชัด เสียดายก็ตรงที่ทั้งคู่ไม่ได้เผชิญหน้ากัน ส่วนนิดเหลียวหลังก็ต้องตกใจเพราะเป็นรถของพินิจ

        
    "นิด คุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมเป็นห่วงคุณแทบตาย" พินิจวิ่งมาพร้อมจับมือนิดทั้ง 2 ข้าง
        
    "ไม่เป็นไรแล้วค่ะ พอทำใจได้แล้ว แต่คุณมาได้ไงเนี๊ย" นิดพูดพร้อมทำหน้าสงสัย
        
    "ก็มีคนโทรมาหาผมน่ะสิ ใจคอคุณจะไม่โทรมาบอกกันบ้างหรอ" พินิจกล่าวเชิงน้อยใจกับนิด
        
    "ก็ว่าจะบอก แต่คุณคงวุ่นๆกับงานอยู่น่ะค่ะ" นิดพูดเลี่ยงเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
        
    "ครับ คุณเก่งน่ะที่ทำใจได้" พินิจกล่าว
        
    "ไม่หรอกค่ะ" นิดพูด
        
    "คุณไม่ต้องกลัวนะ ผมมาอยู่ใกล้ๆคุณแล้วนี่ไง" พินิจพูดพร้อมจับไปที่คางของนิดเบาๆ
        
    "ขอบคุณค่ะ" นิดพูดจบ พินิจก็สวมกอดเพื่อให้ไออุ่นในส่วนที่เขาเองสามารถจะให้ได้ แต่ความรู้สึกของนิดมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับที่พินิจกอดกับเธอ หากแต่เธอรู้สึกว่าคนที่กอดเธอเป็น "อิทธิ" เธอเองจะรู้สึกดีมากกว่านี้ความรู้สึกของเธอไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยน แต่มันมีคนมาขอจองพื้นที่ส่วนแบ่งของหัวใจเธอต่างหาก เธอเองไม่ได้หลงไหลได้ปลื้ม และปลิวไปตามความรู้สึก เธอเองไม่ใช่คนหลายใจแต่เธอนั้นเลือกไม่ได้เพียงเพราะทั้งคู่ก็ต่างทำเพื่อเธอทั้งนั้น….

    ********************

             อยากให้แสดงความคิดเห็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของผมด้วยนะครับ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×