คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เพื่อนคนใหม่ที่ชื่อ ทิว
เธอมองผ่านแสงแดดสีเข้มมีเงาดำตะครุ่มกลุ่มใหญ่ กำลังมุ่งเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ อ่อนนึกอยู่ในใจเพียงแค่ว่าอย่าให้เป็นคนๆนั้นที่เธอคิด พอเธอตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นคนที่เธอพูดนั้นจริง เพราะกลุ่มเงานั้นมันมาจาก จุ้นที่กำลังเดินควงแขนกำแฟนคนใหม่ของเขาอย่างษา
“อ่อน!” จุ้นเรียกอ่อนในขณะที่อ่อนนั้นกำลังที่จะเดินหนีห่างออกไป
อ่อนเองก็ชะงักเมื่อจุ้นเรียกอ่อน ความสั่นไหวของหัวใจของอ่อนนั้นมันมากมายเหลือเกิน แต่อ่อนเองก็ต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นให้อยู่ลึก ลึกที่สุดของหัวใจเท่าที่อ่อนเองจะทำได้ แล้วเธอก็หันหน้าเผชิญหน้าต่อหน้าของแฟนเก่าอย่างจุ้น ยิ้มให้กับเค้าอย่างกับว่าเค้านั้นควงผู้หญิงคนหนึ่งอย่างหน้าอิจฉา “มีอะไรหรอจุ้น”
“เอ่อ
..” แต่จุ้นกลับเป็นเหน็บชาที่ปากของเขาทันที
ษาก็ดันพูดแทรกขึ้นมาเอง “เรากำลังจะไปทานข้าวกันน่ะค่ะ พี่อ่อนจะไปด้วยกันไหมคะ”
“เรา!!” อ่อนอุทานขึ้น พร้อมกับคิดอยู่ในใจเพียงแค่ว่า เธอพูดถูก เพราะเขาและเธอนั้นต่างก็เป็นเหมือนกับคนเดียวกันไปแล้ว คนที่เคยคุ้นเคยอย่างอ่อนนั้น เป็นใคร?
ษาเองเห็นอ่อนนั้นเงียบไปนาน เธอจึงได้ยิงคำถามเข้าไปอีก เหมือนเป็นการตอกลิ่มที่หัวใจของอ่อนให้มันเจ็บลึกเข้าไปอีก “ว่าไงคะพี่
จะไปทานข้าวกับเราไหม ไม่ต้องคิดมากหรอกคะ คนกันเองแท้ๆ”
อ่อนเงยหน้าแล้วหันมาตอบษาโดยทันที “ไม่ดีกว่าคะ พี่มีงานค้างอยู่ ขอตัวก่อนนะ”
อ่อนพูดจบเธอก็ค่อยๆเดินห่างออกไป ออกไป ออกไปให้ไกลอย่างช้าๆ เสียงย่างก้าวของอ่อนนั้นในวันนั้นมันเสียงดังก้องในหูของเธอนัก และได้แต่เพียงภาวนาให้พ้นสายตาของจุ้นให้ไกลมากที่สุด และตอนนั้นเธอจะขอเสียงระบายอารมณ์ของเธอบ้าง เพราะความสั่นไหวของหัวใจในตอนนี้นั้นมันแทบจะทนไม่ได้แล้ว เธอสามารถยิ้ม หัวเราะ หรือทักทายกับเค้าได้ แต่ก็ไม่สามารถฝืนให้ทนต่อไปได้นานเท่าไหร่ แล้วถ้ายิ่งเห็นผู้หญิงคนใหม่เดินควงแขนกันมา แขนของเขาที่เขาเคยโอบอุ้มเธอในวันที่เธอนั้นอ่อนแอ แต่วันนี้กลับผลักไสให้เธอหล่นไปอยู่ในหลุมที่มีแต่ความมืดมิด สองมือของเขาที่อ่อนนั้นจับมันนั้นในคืนนั้น วันนี้นั้นมันไม่มีอีกแล้ว สิ่งที่เธอนั้นคิดเอาไว้ วันนี้มันเกิดขึ้นจริงหมด
พออ่อนนั้นเริ่มที่จะเดินห่างจุ้นออกไปไกลมากพอ เธอก็เริ่มที่จะวิ่งและวิ่งให้เร็ว จนเธอรู้สึกตัวอีกทีหนึ่งนั้น ก็มาถึงที่อีกที่หนึ่ง มันเป็นอีกคณะหนึ่ง เธอเองก็ไม่ได้อยู่ในคณะแทบนี้เสียด้วย เธอนั่งลงข้างๆแปลงปลูกดอกไม้ขนาดใหญ่ เพียงสักพักเธอก็ปลดปล่อยให้น้ำตาของเธอที่มันอัดอั้นมานานเสียเหลือเกิน ให้ระบายออกมาเสียบ้าง เธอเดินออกมาจากจุ้นอย่างผู้ชนะก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้ว เธอเองต่างหากที่เป็นผู้แพ้ ผู้แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง เธอเองเริ่มรู้ตัวของเธอเองเพราะเธอนั้นเสียน้ำตาอย่างผู้แพ้นั่นเอง เธออยากเป็นคนที่ควงแขนเขา อยากจะเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา และไม่อยากต้องอยู่คนเดียว ทานข้าวหรือไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างนี้ เธอได้แต่วอนฟากฟ้าให้ช่วยเธอลืมเรื่องที่มันบั่นทอนความรู้สึกนี้สักที และเมื่อนั้นเธอเองก็คงจะดีขึ้น
“เป็นอะไรไปเปล่าครับ
..” เสียงผู้ชายด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง มันดังอยู่ที่หน้าอ่อน ในขณะที่อ่อนเองก็ไม่อยากจะสนใจใคร ไม่กล้าที่เงยหน้ามองใครส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบนใบหน้าของอ่อนในตอนนี้นั้นมันมีแต่น้ำตาของเธอที่ไหลเอิบอยู่สองข้างแก้ม
อ่อนเองเงียบไปไม่ตอบอะไรกับเขา อ่อนเองก็คิดว่าเขาคงจะเดินหนีไปแล้ว ใครล่ะจะมาสนใจกับใครที่ไม่รู้จัก แต่สักพักก็มีมือๆหนึ่งพร้อมกับผ้าเช็ดหน้ายื่นมาอย่างเป็นมิตร “วันนี้ผมยังไม่ได้ใช้
เอาไปใช้ก่อนก็ได้”
อ่อนเงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นทิวเพื่อนของจุ้น อ่อนไม่แค่ปฏิเสธความหวังดีของเขา พร้อมทั้งจะเดินหนีห่างไปเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งเธอเห็นหน้าของทิวทำให้เธอคิดถึงวันเก่าๆที่อยู่กับจุ้น แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่จะให้เธอนั่งดูหน้าเขาต่อไป
“เดี๋ยวก่อนสิ” เขาเรียกเธอด้วยเสียงดัง
อ่อนหยุดแล้วเหลียวหลังมาหาทิว “คะ
” จากนั้นอ่อนก็เดินย้อนกลับมานั่งตรงที่เดิม เพราะเธอเริ่มมีความคิดที่ว่า บางทีเธอระบายให้คนอื่นได้ฟังบ้าง และถ้าเขาก็พร้อมที่จะรับฟังนั้น มันก็อาจเป็นหนทางที่ดีให้เธอนั้นหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานนั้นก็ได้
“ผ้าเช็ดหน้าใช้ได้นะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้านั้นอีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้อ่อนหยิบมันมาไว้ในมือของเธอ “ขอบคุณมากนะทิว”
อ่อนหันหน้ามาอีกที เขากับทำหน้างงๆ คิ้วย่นแทบจะติดกัน “เอ๊ะ! คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง” เขาถามออกมา
“อ๋อ
. อ่อนเป็นแฟนกับจุ้น ไม่ใช่สิ เคยเป็น” อ่อนพูดแล้วเธอก็กลับมาทำหน้านิ่งอย่างเดิม ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม ทิวเองก็เงียบ ตรงนั้นเวลานั้นมันเงียบจนได้ยินเสียงลมที่พัดผ่านตัว
สักพักอ่อนเองก็ยอมที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดสู่ทิวฟัง และอย่างที่อ่อนนั้นคิดเอาไว้ก็เป็นอย่างที่เธอคิด ก็เพราะว่าทิวรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างอย่างดีพร้อมทั้งให้คำแนะนำดีดีให้กับอ่อน อ่อนรู้สึกดีมากๆเมื่อๆได้คุยกับทิว
“ขอบคุณทิวมากนะ” อ่อนพูดพร้อมกับยิ้มที่มีความอ่อนนุ่มเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร เรื่องผ้าเช็ดหน้า ผมวานซักด้วยก็ละกัน” ทิวพูดพร้อมทั้งยิ้มตอบกลับ
“ค่ะ” อ่อนตอบ
“เอ่อ
.ทิวยังไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร” ทิวมาถาม
“เราหรอ เราชื่ออ่อน” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่อ่อนนั้นจะเดินจากทิวไป และหวังเพียงว่าเธอคงจะได้เจอกับทิวอีกครั้ง
ความคิดเห็น