ผมพยายามปัดป่ายสัมผัสน่ารำคาญที่ไล่รุกรานอยู่ตามใบหน้า แต่พอปัดทีมันก็ย้ายไปที่ข้างหู ปัดอีกทีมันก็ย้ายความร้อนไปที่ลำคอ ดันออกอีกทีมันก็คอยแต่จะขยับต่ำลงไปอีกเรื่อยๆ
และนอกจากต่ำลงแล้ว แรงสัมผัสก็ยังจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆครั้งพร้อมกับความรู้สึกจุดอื่นๆที่เริ่มจะเข้าจู่โจมพร้อมๆ กัน
สัมผัสต่ำลง...และร้อนขึ้น...
"จับนิดเดียวด่าพี่สัสเลยเหรอ"
ผมดึงแก้มที่ปราศจากไขมันของคนกามตรงหน้ามาบีบอย่างหมั่นเขี้ยวและโยกดึงรั้งไปมาด้วยความหมั่นไส้ ฟัดพี่มันลงกับเตียงแล้วขึ้นคร่อมกะจะทับให้จุกตาย แต่แทนที่พี่มันจะสำนึกกลับยิ้มร่ากว้างจนปากเกือบถึงหูพร้อมหัวเราะคิกคักชอบใจ
ผมถาม แต่ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างขึ้น มือใหญ่ทาบทับมือผมแล้วบีบไปมาเข้ากับแก้มตัวเองที่ยังคงตุ่ยด้วยรอยยิ้ม
"เรียกพี่เล็กไปตลอดเลยนะ"
พี่เล็กสอดประสานมือข้างซ้ายของเขากับมือข้างซ้ายของผมและพรมจูบลงบนโลหะที่สวมนิ้วของเราที่ส่องประกายแวววาว....
ผมเพิ่งจะรู้ตัวถึงความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไหลเข้ามาเหมือนอากาศที่อวลอยู่ในห้องนอนเคล้าแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านม่านหน้าต่าง
คนตรงหน้าคือว่าที่คู่ชีวิตของผม...
คนที่กำลังจะมีครอบครัวมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง
รู้สึกมีความสุขแบบนี้นี่เอง
"จะเรียกให้ฟังไปตลอดชีวิตเลย"
ผมกระซิบคำกลับ ยิ้มตอบรอยยิ้ม มองตอบสายตา จูบตอบรอยแหวน และเคลื่อนไปประทับที่ริมฝีปาก
จูบเมื่อแรกรู้สึกที่เริ่มยอมรับกันมันน่าตื่นเต้นเหมือนเค้กรสส้มหวานอมเปรี้ยวน่าค้นหา แต่จูบเมื่อความรู้สึกทุกอย่างลงตัวมันกลับเหมือนเค้กช็อคโกแล็ตเนื้อเนียนนุ่มที่หวานละมุนไปทั่วปาก
บ้าบอจริงพอร์ทเทรต จากที่ปฏิเสธไหงกลายมาเป็นฝ่ายรุกคืบแทนวะ
ก็คนมันรัก...ซักนิดซักหน่อยคงไม่เป็นไรเนอะ
แทบจะดีดตัวออกแต่ก็ไม่ทันเมื่อประตูเปิดผ่างมาพร้อมเสียงและเจ้าตัวคุณเชนที่แข็งค้างพอๆกับเราทั้งคู่ที่ก็แข็งค้างในหลายๆความหมาย
สายตาเราทั้งสองฝ่ายจ้องกันนิ่งอยู่นานเป็นนาทีจนเป็นพี่ขุนที่มีสติก่อน เขากระเด้งตัวขึ้นและเราทั้งคู่ก็นั่งคุกเข่าก้มหน้ากันอยู่บนเตียงเคียงข้างกันหน้าสลดเหมือนพวกที่ถูกพ่อแม่จับได้เว่าเล่นพิเรนท์
ส่วนพ่อก็ยืนตาปริบๆอยู่อีกชั่ววิแล้วค่อยๆปิดประตุเชื่องช้าเหมือนเป็นภาพสโลว์คล้ายต้องการยืดเวลาออกไป
"แต่ไม่คิดว่าจะได้กันแล้ว"
ไม่ต้องพูดตรงขนาดนั้นก็ได้! เกรงใจหนังหน้าลูกบ้าง!
"ผมขอโทษที่ทำอะไรข้ามขั้นตอนนะพี่"
พี่ขุนดันผมหลบไปข้างหลังคล้ายต้องการปกป้อง ทำให้อดที่จะอุ่นวาบในใจไม่ได้ที่เขากล้าที่จะแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าพ่อของผมโดยไม่กลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับ
"ผมรักน้องแล้วก็ได้น้องเป็นเมียแล้ว ผมตั้งใจและจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องทุกขั้นตอนพี่ไม่ต้องห่วงนะครับ"
แต่ก็ไม่ต้องพูดละเอียดขนาดนั้นก็ได้พี่มึง!!
"ขนาดนี้แล้วก็ต้องพูดกันตรงๆนะพอร์ท"
แต่พี่มึงไม่ต้องตรงขนาดนั้น ไอ้บ้า!!
"โอเคๆ ไม่ต้องคิดมากเรื่องพ่อหรอก พ่อโอเค"
คุณเชนยกมือห้ามทัพเราทั้งคู่ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประหลาดพอกันก่อนจะทอดสายตาอ่อนมาหาผมเหมือนส่งสัญญาณบางอย่างที่ทำให้ผมมขยับตัวลงจากเตียงแล้วเข้าไปในอ้อมกอดของผู้ชายตรงหน้า
"พอร์ทขอโทษนะพ่อที่เป็นแบบนี้ "
พ่อกอดผมแน่นขึ้นให้ผมฝังตัวลงในอกที่ห่างหายไปนับสิบปี
ผมมัวแต่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ขุน มัวแต่ดีใจที่บ้านเขายอมรับ แต่ลืมไปว่าความสัมพันธ์มันก็เชื่อมโยงมาที่ครอบครัวผมเช่นกัน แม้ว่ามันจะเป็นครอบครัวที่เกือบแตกแยกก็ตาม
เสียงของเชน สหลักษณ์เข้มขึ้นและดันตัวผมออก คิ้วเข้มขมวดมุ่นคล้ายกับไม่พอใจคำพูดของผม
"ถ้าพ่อคนไหนที่มีลูกชายเป็นนักศึกษาปอโทมอใหญ่ เป็นนายแบบโนเนมที่โคตรดัง เป็นนักเขียนเบสเซลเลอร์ที่ขายโคตรดี แล้วยังกล้ามาผิดหวัง ก็อย่าเรียกมันว่าพ่อเลย"
คุณเชนจับใบหน้าผมไว้มั่นให้ผมไม่กล้าหลบตาไปไหน แต่ผมกลับมองใบหน้าหล่อๆพร่าเลือนเพราะความชื้นที่รื่นขึ้น
"ทั้งๆที่พ่อก็ไม่ได้ทำหน้าที่พ่ออย่างสมบูรณ์แต่ลูกชายของพ่อก็ยังเติบโตมาเป็นคนที่พรีเมี่ยมขนาดนี้"
มือใหญ่ที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานลูบไปตามใบหน้าผมเหมือนต้องการสำรวจว่าผมโตแค่ไหนแล้ว ทำให้ผมรู้ว่าสัมผัสจากมือของพ่อมันอบอุ่นได้ขนาดนี้
"หัวใจของลูก ลูกมีสิทธิ์เลือกเอง จะชาย จะหญิง มันก็ไม่สำคัญ เพราะรักมันก็คือรัก ไม่มีอะไรจะมายืนยันว่าความรักของเพศไหนจะยั่งยืนกว่ากัน"
พ่อเงียบไปอีกครั้งเมื่อลูบมาถึงแหวนบนนิ้วนางของผม แต่ผมรู้ว่าที่พ่อเงียบไม่ใช่แค่เพราะเห็นมัน แต่เพราะพ่อกำลังพูดถึง...ตัวเอง
ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่...
ความสัมพันธ์ของชายหญิงที่ว่าถูกธรรมชาติสร้างให้เกิดมาคู่กันแต่พ่อกับแม่ก็เป็นคู่หนึ่งที่จบลงและไม่ยั่งยืน
"พอร์ทบอกไม่ได้หรอกว่าเรื่องของพอร์ทจะยั่งยืน"
"แต่พอร์ทจะรักให้พ่อกับแม่ดู"
คุณเชนยิ้มมาให้ผ่านสายตาพร่ามัวของผม พร้อมกับพี่ขุนที่ยืนขึ้นเคียงข้างกันและกุมมือไม่ไปไหน
อ่า...ซึ้งนานๆในบรรยากาศแบบนี้ชักแปลกนะ ควรเปลี่ยนเรื่องมั้ยเนี่ย
"แล้วนี่พ่อทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ"
คุณเชนสลัดคราบคุณพ่อดีเด่นออก กลับมาใช้สีหน้าเนือยเหนื่อยหน่ายที่โคตรหล่ออีกครั้งเหมือนผมพูดในสิ่งที่เขาไม่รู้เรื่อง
"ก็พ่อบินไปทำงานมาไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับเร็วละ"
เอ้า ทำไมยังงง พ่อผมโอเคป่ะเนี่ย
"งานไงพี่ งานนะ พอร์ทสงสัยว่าพี่ไป-ทำ-งาน- ที่ไหนมา"
ผมมองพี่ขุนที่ถามย้ำให้ในขณะที่พ่อก็นิ่งไปครู่ใหญ่ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ถามอะไรเข้าใจยากซักนิด
"อ๋อ~~ ใช่! ไปทำงาน! พ่อไปทำงานมาเสร็จแล้ว!!"
แล้วคุณเชนเขาจะตะโกนทำไมเนี่ย
"แล้วไปที่ไหนมา ทำไมกลับเร็ว อย่าบอกว่าหนีไปหาแม่มาอีกแล้วนะ"
ผมถามแหย่อย่างรู้ทัน แต่คุณเชนกลับสะดุ้งเหงื่อแตกพลักทั้งๆที่ในห้องไม่ได้ร้อนซักนิด
นั่นแหนะ สงสัยแอบไปหาเมียจริงวุ้ยพ่อเรา
"โหพ่อ ถ้าไปหาคุณนายเขาทำไมไม่อยู่นานๆละครับ แม่เขาจะได้ใจอ่อนกลับมากับพ่อซักที"
ผมกระแซะพ่อเย้าแหย่ แต่คุณเชนคนฮ็อตกลับหน้าซีดกว่าเดินเหมือนคนปวดท้องคลื่นไส้
คุณเชนสะดุ้งอีกทีแล้วมองไปที่ประตูห้องเหมือนหวาดระแวงอย่างกับเพิ่งนึกได้ว่าโจรมารออยู่หน้าบ้านแล้วพร้อมจะบุกเข้ามาในห้องผม สลับกลับมองผมและพี่เล็กเหมือนคนคิดไม่ตก
"ชิบหายแล้วกู ลืมเรื่องสำคัญ"
พ่อไม่ตอบแต่กลับพุ่งไปคว้าไหล่พี่เล็กแทนด้วยสีหน้าหวาดผวากว่าเดิม
"กูมัวแต่ช็อคที่มึงได้ลูกชายกูเป็นเมียจนลืมเรื่องข้างล่างไปเลย"
"มึงมีประกันชีวิตมั้ยไอ้เล็ก!!"
คุณเชนเป็นอะไรถึงจะมาถามหาประกันจากลูกเขย พ่อผมเป็นดาวไลน์เหรอ!?
"ถ้ามึงยังไม่มีมึงรีบโทรไปให้หม่อมแม่มึงจองรถพยาบาลเดี๋ยวนี้!!!"
พี่เล็กอ้าปากหวอสับสนพ่อๆกับผม พยายามจะให้พ่อสงบสติอารมณ์ที่จู่ๆก็กระเจิดกระเจิง แต่ยังไม่ทันจะว่าอะไรต่อ เสียงกัมปนาทที่แผดรัศมีโทสะก็แหกลั่นมาจากด้านล่างเล่นเอาสะดุ้งกันทั้งห้อง
"เรียกไอ้ลูกชายลงมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!!"
"ไม่งั้นตายทั้งพ่อทั้งลูก!!!"
เสียงคุณนายเชลีนที่ฟังก็รู้ว่าไม่ได้มาจากเครื่องเสียงใดใดนอกจากเป็นเสียงจริงตัวจริงเท่านั้น
เสียงที่แค่ฟังก็รู้ว่าคุณเธอกำลังหงุดหงิดระดับที่พร้อมจะกระโดดถีบขาคู่เราสองพ่อลูก
แต่มันไม่ใช่แค่พ่อลูกนี่สิ...
คุณนายเชลีนจะคืนบัลลังก์วันนี้ไม่ด๊าย!!
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ขอบคุณมาก