ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNDETERMIND - ไม่บริสุทธิ์ใจ (KYUMIN)

    ลำดับตอนที่ #25 : UNDETERMIND - ไม่บริสุทธิ์ใจ (KYUMIN) ตอนที่ 20 เซอไพร์ (เสร็จ 70%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      3
      25 พ.ค. 56

    20


     
     
    หลังจากที่คยูฮยอนที่กำลังยุ่งๆอยู่กับการทำ ‘บางอย่าง’ อยู่ในห้องคนเดียวมาเป็นเวลานานพอสมควร ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบๆหกโมงแล้ว 
     
     
    “พี่ซองมินเลิกเรียนหกโมงนี่หว่า.. ยังพอมีเวลานะ” ร่างสูงพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดเบอร์โทรหาออกหาใครคนนึง ซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
     
     
     
    ‘ชเว ซีวอน’ นั่นเอง..
     
     
    “ฮัลโหลพี่ ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนอะ” คยูฮยอนเริ่มถามทันทีเมื่อคนปลายรับสาย
     
     
    ‘อยู่ที่คณะ มีอะไรรึเปล่า’
     
     
    “อ่าวทำไมอยู่ที่นั่นอะ ยังไม่เลิกเรียนเหรอ”
     
     
    ‘เลิกหกโมง ทำไม? คิดถึงพี่เหรอ ฮ่าๆ เย็นนี้ไปดินเนอร์กันไหม ร้านพี่มีเมนูพิเศษด้วยนะวันนี้’ ซีวอนขำนิดๆก่อนจะพูดเชิญชวน เพราะเขากับคยูฮยอนไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันมาหลายวันแล้ว
     
     
    “เออพี่รอผมแปปนึงนะเดี๋ยวผมออกไปหา” เมื่อพูดจบคยูฮยอนก็กดวางสายแล้วออกไปหาซีวอนที่คณะทันที
     
     
    เมื่อไปถึงเขาก็เห็นซีวอนนั่งอยู่ที่ลานจอดรถพอดี ขายาวเดินเข้าไปใกล้ออดี้คันสีดำขึ้นเรื่อยๆจนคนที่นั่งอยู่ในรถนั้นรู้ตัว
     
     
    “อ้าวคยูฮยอน มาแล้วเหรอ ป่ะขึ้นรถสิ” พอซีวอนพูดจบคยูฮยอนก็เดินอ้อมไปอีกฝั่งนึงของรถแล้วเปิดประตูฝั่งข้างคนขับก่อนจะเข้าไปนั่งอยู่ในนั้น ซีวอนมองคยูฮยอนอย่างอารมณ์ดีแต่แตกต่างกับคยูที่ตอนนี้เขาดูเหนื่อยเอามากๆ
     
     
    “พี่อย่าเพิ่งสตาร์ทรถนะ ผมไม่ได้จะไปกับพี่ ผมแค่จะมาบอกอะไรพี่นิดหน่อย” คยูพูดดักซีวอนไว้
     
     
    “บอก? อืม.. จะบอกพี่เรื่องอะไรล่ะ?”
     
     
    “คือจริงๆพี่ไม่ต้องทำดีกับผมมากขนาดนี้ก็ได้”
     
     
    “อ้าว ทำไมอะ? ฮ่าๆ ก็เรา...”
     
     
     
     
     
     
    “ผมกำลังคบกับพี่ซองมินอยู่อะ”
     
     
    “เห้ย ฮ่าๆ ตลกน่า ไหนบอกกับพี่ว่าไม่ชอบแบบนั้นไง” ซีวอนแกล้งขำกลบเกลื่อน ทั้งๆที่ในใจก็ยังช็อคไม่น้อย เขาไม่ได้ช็อคที่รู้ว่าคยูคบกับซองมินอยู่หรอก เพราะเรื่องนี้เขาก็พอจะรู้มาบ้าง แต่ที่เขาช็อคคือเขาไม่คิดว่าคยูจะกล้าบอกกับเขาตรงๆแบบนี้
     
     
    “มันเป็นความผิดของผมเองอะพี่ แต่พี่รู้เปล่าว่าผมต้องแอบชอบพี่ซองมินมากี่ปี กว่าผมจะมั่นใจว่านี่คือความรักอะ ผมคบกับพี่เค้ามาหลายวันแล้ว แล้วแต่ละวันมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผมรักพี่เค้ามากแค่ไหน”
     
     
    “อ่อ เหรอ..” 
     
     
    “การที่เราจะรักใครซักคนอะ มันไม่ได้อาศัยแค่เจอกันครั้งแรกแล้วรักกันได้เลยหรอกพี่ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา เพื่อเป็นตัวพิสูจน์ว่าที่เรากำลังรู้สึกอยู่เนี่ยมันใช่ความรักมั้ย”
     
     
    “หึ.. แล้วไงอ่ะ นายแน่ใจเหรอว่านายรักซองมินจริง ไม่ใช่แค่ความเคยชินน่ะ? ซองมินอาจจะไม่ได้เป็นคนน่ารักๆแบบที่นายคิดก็ได้” ซีวอนพยายามจะเถียง
     
     
    “เรื่องนั้นอะผมไม่รู้หรอก แต่ผมมั่นใจว่าหลายปีที่ผมอยู่กับพี่เค้าอะ มันทำให้ผมรักพี่เค้าที่พี่เค้าเป็นคนแบบนี้ แล้วพี่รู้มั้ยตอนที่ผมเจอกับพี่ซองมินครั้งแรก ผมคิดในใจว่าพี่เค้าใช่ผู้ชายจริงๆรึเปล่า แต่ผมก็ไม่ได้ชอบพี่เค้าตั้งแต่แรกนะ ผมแกล้งพี่เค้าสารพัดเลยอะ จนมาวันเนี้ย ไม่คิดเลยว่าผมกับพี่เค้าจะมารักกันได้”
     
     
    “.................................”
     
     
    “บางทีรักแรกพบมันก็อาจจะไม่ใช่ความรักที่ยืนยาวเสมอไปหรอกพี่ แต่ผมรู้สึกได้ ว่าผมอะอยากจะรักกับพี่ซองมินไปนานๆ อยู่ดูแลพี่ซองมินไปจนแก่เลยอะ แล้วผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่ด้วยไง คือจะให้พี่มาคุยกะผมแบบที่ผ่านมาอะมันก็ได้ แต่ต้องรอให้พี่ซองมินอนุญาตก่อนนะ บางทีพี่เค้าก็ไม่ค่อยชอบให้ผมกับพี่อยู่ด้วยกัน แต่จริงๆผมปลื้มพี่มากอะ ผมอยากไปเมืองนอกให้ได้แบบพี่ ไว้ผมจะมาติวสอบชิงทุนกับพี่นะ ฮ่าๆ”
     
     
    “นายคิดว่านายจะดูแลคนอย่างลีซองมินไหวเหรอไง..?” คำๆนี้ของซีวอนทำให้คยูฮยอนถึงกับนั่งนิ่งพูดไม่ออกเลย ทั้งสองคนนั่งเงียบกันไปซักพักใหญ่ๆ
     
     
     
     
     
     
    “งั้นผมขอบอกอีกอย่างนะพี่.. ผมอะอยากจะดูแลพี่ซองมิน มากกว่าที่จะให้ใครมาดูแลผม ถึงแม้ว่าผมอาจจะดูแลพี่เค้าไม่ไหว แต่มันก็ต้องไหวอะ เพราะผมมีความสุขที่ได้ทำแบบนั้น แล้วถ้าจะมีใครซักคนมาดูแลผมจริงๆ คนๆนั้นผมก็อยากให้เป็นพี่ซองมินอยู่ดีอะครับ” คยูฮยอนพูดพลางส่งยิ้มให้คู่สนทนาอย่างเป็นมิตร เขามั่นใจว่าที่เขาพูดออกไปทั้งหมดเพราะเขาอยากจะให้ซีวอนเข้าใจในตัวเขามากขึ้น
     
     
    “ผมไม่ได้มาหักอกพี่ใช่มั้ย ฮ่าๆ ไว้เจอกันวันหลังนะครับ ผมขอกลับไปเตรียมเซอไพร์ให้พี่ซองมินก่อน สายมากแล้ว บาย~~ กลับบ้านดีๆนะครับพี่ซีวอน” เมื่อคยูฮยอนพูดจบก็ลงจากรถแล้ววิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้ซีวอนนั่งเงียบอยู่คนเดียวภายในรถคันหรูคู่ใจ
     
     
     
     
     
    ‘ลีซองมิน..’
     
     
    ‘ถ้าฉันอยากได้อะไร ฉันก็จะเอามันมาเป็นของฉันให้ได้!!’
     
     
    ซีวอนพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วทุบมันลงไปที่พวงมาลัยไปสุดแรง มือหนาจับพวงมาลัยเอาไว้แล้วบีบมันแน่นจนเห็นเส้นเลือด ตาคมจ้องเขม็งไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขากัดฟันตัวเองแแน่นเพราะความแค้น.. แค้นที่คยูฮยอนกล้ามาหักหน้าเขาแบบนี้ แค้นที่ซองมิน.. กล้าทำให้คยูฮยอนต้องมาหักหน้าเขาขนาดนี้...
     
     
    ซีวอนตัดสินใจขับรถของเขาไปยังคณะที่ซองมินเรียนอยู่ เมื่อเขาขับเข้ามาถึงที่หมายแล้วก็จอดรถอยู่ตรงบริเวณต้นไม้ของลานพักนักศึกษาเพื่อดักรอ ‘ใครบางคน’ และใครบางคนที่ว่าก็คือตัวการที่ทำให้เขาโดนหักหน้าไปเมื่อกี้นี่เอง
     
     
     
     
    ออกมาแล้ว..
     
     
    สามหนุ่มตัวเล็กกอดคอกันเดินออกจากตึกเรียนมาอย่างสบายใจ ทั้งสามคนเดินพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหยอกล้อกันอยู่ซักพัก
     
     
    “เห้ย หกโมงกว่าละอะ พวกมึงกลับบ้านกันได้แล้ว เดี๋ยวกูจะกลับละนะ” ซองมินพูดขึ้นหลังจากที่ดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วเห็นว่านี่มันก็หกโมงครึ่งละ วันนี้คยูฮยอนบอกให้กลับเร็วๆซะด้วย..
     
     
    “เออ งั้นพวกกูกลับละ กลับดีๆนะมึง บ๊ายบาย ปะทงเฮ กูหิวววข้าว!” พอฮยอกแจพูดจบก็กอดคอทงเฮแล้วเดินออกไป ซองมินที่มองตามในพฤติกรรมที่น่ารักของเพื่อนสองคนนี้แล้วก็อดขำไม่ได้ แต่เขาไม่รู้หรอกว่า มีสายตาคู่นึงกำลังจ้องมองเขาอยู่
     
     
    ซีวอนที่ซุ่มดูซองมินอยู่ตอนนี้ เมื่อเห็นว่าฮยอกแจและทงเฮกลับบ้านไปแล้วเขาก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที มือหนาเตรียมพร้อมจะเปิดประตูรถเพื่อลงไปสนทนากับร่างเล็กซักหน่อย แต่ทว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น..
     
     
     
     
    “อ้าว คิบอม~~~~” ซองมินตะโกนเรียกชื่อคิมคิบอมออกไปเพื่อจงใจให้คนถูกเรียกได้ยิน และมันก็ได้ผล คิบอมที่ตอนนี้กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าคณะหันกลับมามองตามเสียงเรียก ทำให้ซีวอนรู้ได้เลยว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขากับซองมินแค่สองคนแล้ว ถ้าเขาจะทำอะไรกับซองมินตอนนี้คงไม่เวิร์คแน่
     
     
    “โถ่เว้ย! ไอ้นี่อีกละ แ ม่งเป็นใครมาจากไหนวะ ขัดกูได้ตลอด คราวหน้าก่อนเถอะซองมิน หึ..” ซีวอนสบถใส่ตัวเองอย่างหัวเสีย ก่อนจะขับรถออกไปตามทางออกอีกด้านนึงของคณะ
     
     
     
     
    “อ้าวซองมิน ยังไม่กลับหออีกเหรอ” คิบอมหันมาพูดกับคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา
     
     
    “กำลังจะอะ กลับด้วยกันมั้ย?” ร่างเล็กยิ้มหน้าบานมองหน้าคนตรงหน้าก่อนจะคว้ามือคิบอมไว้แล้วพาคิบอมเดิน แต่เขากลับไม่ยอมเดินไปตามซองมินซะงั้น
     
     
    “ยัง รอสูบบุหรี่เสร็จก่อน” 
     
     
    “สูบอีกแล้ว มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า เอาแต่สูบบบบแบบเนี้ย อยากตายไว้เหรอไงห้ะ” ซองมินพูดพลางทำหน้าดุ
     
     
    “อืม อยาก” คิบอมตอบสั้นๆก่อนจะหันหน้าไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางที่ซองมินยืนอยู่แล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปากเบาๆ
     
     
    “ทำไมพูดงั้นอะ เป็นไรก็บอกกันดิ ถ้านายตายแล้วใครจะมาเป็นเพื่อนข้างห้องพี่อีกเล่า!”
     
     
    “นายห่วงฉัน?” คิบอมหันหน้ากลับมาจ้องตากับคนตัวเล็กกว่าที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้อย่างไม่วางตา
     
     
    “..............................”
     
     
    “ฉันโดนพ่อแม่เรียกกลับอเมริกา” ร่างสูงละสายตาจากซองมินแล้วสูบควันบุหรี่เข้าปอดไปอีกครั้งก่อนจะหยิบมันทิ้งลงที่เขี่ยบุหรี่
     
     
    “ทำไมอะ? เอ่อ.. พี่หมายถึง.. แล้วทำไมไม่กลับอะ”
     
     
    “ฉันมั่นใจว่าฉันเป็นคนเกาหลีนะ เพียงแค่ไปโตที่นั่น มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันไม่อยากกลับมาอยู่บ้านเกิดหรอก”
     
     
    “แต่การที่มาอยู่ที่นี่ แบบไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยอะ มันโอเคละเหรอ?” ซองมินยังคงไม่เข้าใจในความคิดของคู่สนทนาของเขาในตอนนี้
     
     
    “พ่อกับแม่ฉันเอาแต่ทำงาน ฉันหนีเรียนที่เนี่ยไม่มีใครรู้เรื่องด้วยซ้ำ พอรู้ก็เรียกตัวฉันกลับ หึ.. จะอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่ไหน ฉันก็เหมือนอยู่คนเดียวอยู่ดี”
     
     
    “ทำไมคิดแบบนี้...” 
     
     
    “อะไร?”
     
     
    “นายรู้มั้ยว่าพี่อยากกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่มากแค่ไหน! ที่พี่มานอนหอนี่ก็เพราะหลายอย่างมันสะดวก เพราะบ้านพี่อยู่ไกล.. จะเดินทางมาที่นี่ก็ใช้เวลานาน พี่อยู่หอตั้งแต่ปีแรกจนตอนนี้ปีจบแล้ว ไม่มีวันไหนที่พี่ไม่คิดบ้าน!! แล้วทำไม.. คนที่มีโอกาสได้กลับบ้านไปอยู่กับพ่อกับแม่อย่างนาย ทำไมถึงดื้อแบบนี้!!! ฮึก..” ร่างเล็กขึ้นเสียงใส่และเริ่มน้ำตาซึม มือเล็กฟาดไปที่บ่าของคิบอมด้วยน้ำหนักมือที่แรงไม่เบาเลยทีเดียว
     
     
    “เห้ย.. ร้องไห้?” คิบอมตกใจอยู่ซักพักกับอาการของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดวงตาเริ่มแดงก่ำ ลมหายใจสะอื้นเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ซองมินยังไงจ้องหน้าคิบอมนิ่งด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไม.. คิบอมถึงไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ได้ขนาดนี้ ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะดึงคนตรงหน้ามากอดไว้
     
     
    “พี่ไม่ต้องรู้เหตุผลหรอกว่าทำไมผมถึงไม่อยากอยู่อเมริกา.. ตอนนี้พี่รู้แค่ว่าเพื่อนข้างห้องของผมขี้แงขนาดเนี้ย ผมจะทิ้งเขาไปได้ยังไง”
     
     
    “..............................” ซองมินยังคงอึ้งกับการกระทำของคิบอมที่ทำอยู่ตอนนี้ และอีกอย่างนึง.. คิบอมเรียกเขาว่า ‘พี่’ อีกแล้ว ได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกหัวใจพองโตยังไงก็ไม่รู้แฮะ..
     
     
    “พี่บอกว่าพี่อยู่ที่นี่แต่อยากกลับบ้าน คิดถึงพ่อแม่ใช่มั้ย? งั้นผมก็จะอยู่ที่นี่ คิดถึงพ่อแม่ เป็นเพื่อนพี่แล้วกัน” ร่างสูงละกอดออกมา สองมือจับไว้ที่ไหล่เล็กก่อนจะจ้องหน้าคนตรงหน้าแล้วยิ้มให้แบบที่เขาไม่ค่อยยิ้มให้ใครแบบนี้มาก่อน.. รอยยิ้มที่อบอุ่นแบบนั้น...
     
     
     
     
    “อ..เอ่อ คือ.. พี่ต้องรีบกลับแล้วอะ พี่..ไปละนะ" เมื่อซองมินได้เห็นรอยยิ้มของคิบอมแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแก้มขึ้นสี และทางเดียวที่จะหลบหน้าคนตรงหน้าได้ดีที่สุดในตอนนี้คือขอกลับหอก่อนนั่นเอง..
     
     

    .

    .
     
     
     
    ‘วันนี้รีบๆกลับนะ ผมมีอะไรจะเซอไพร์’
     
    .
     
     
     
    “คยูฮยอน! โอ้ยตายห่าละ” ซองมินสบถออกมาอย่างหัวเสียระหว่างทางเมื่อนึกถึงคำพูดที่คยูฮยอนพูดกับเขาไว้เมื่อช่วงบ่าย ซองมินยกข้อมือที่สวมใส่นาฬิกาอยู่ขึ้นมาดู ตอนนี้ก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าๆแล้ว ร่างเล็กรีบวิ่งกลับหอทันที เซอไพร์ที่ว่านั้นเขาไม่รู้หรอกว่าคืออะไร แต่นานๆทีคยูฮยอนจะเซอไพร์เขา เขาไม่ควรจะเลทเลยจริงๆ
     
     
    ..
     
     
     
     
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×