คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การสอบที่หนักหน่วง(รึเปล่า) 75%
"ยินดีที่ได้พบกันอีกครับ
และขอต้อนรับสู่การสอบครับ"
เสียงหนึ่งดังมาจากอีกฝากหนึ่งของห้องทักทายผู้มาเยือนใหม่ ซึ่งดึงดูดความสนใจให้ทั้งสองหันกลับไปมองต้นเสียงโดยทันที
“พวกคุณสองคนนี้เอง พวกคุณเป็นคนพาเรามาเหรอครับ แล้วที่นี้ที่ไหน พามาทำไมแล้วคนพวกนี้เป็นใครครับ” อลันถามเป็นชุดเมื่อเห็นว่าเป็นคนรู้จักที่ตนเคยพบหน้ามาก่อน และเมื่อเขามองดูรอบๆก็เห็นว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งนั่งรวมกลุ่มอยู่มุมหนึ่งของห้อง ห้องนี้ก็มีขนาดไม่ใหญ่หนักมีพนังเป็นสีขาว เป็นทรงจัตุรัส ภายในห้องก็โล่งปราศจากสิ่งของใดๆทั้งสิ้น
“ใจเย็นๆสิครับเด็กน้อยเอาเป็นว่าไปรวมกลุ่มกับคนอื่นก่อนนะครับแล้วผมจะอธิบายให้ฟัง”ชายผมขาวพูดอย่างอารมณ์ดีและเมื่อเห็นเด็กทั้งสองเดินไปรวมกลุ่มแล้วเขาและฝาแฝดของเขาก็เดินออกมายืนกลางห้อง
“เอาล่ะนี้เป็นการทดสอบของประตูสีเทานะครับ
ก่อนอื่นก็ขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนผมชื่อดีโลธี
ส่วนคนข้างๆผมชื่อออคิปัสครับพวกเรามาเป็นผู้ทำการทดสอบให้กับพวกคุณครับ”
หลังจากการแนะนำตัวของฝาแฝดข้างหน้าก็เกิดเสียงฮือฮาในกลุ่มคนทำให้อลันกับมาดัสที่มาใหม่เกิดอาการงงขึ้นมาว่าแค่แนะนำตัวจะแตกตื่นกันทำไม
“นี้นายนะมีอะไรกันเหรอ”
มาดัสที่อดแปลกใจไม่ได้หันไปถามคนข้างๆซึ่งเป็นเด็กผู้ชายใส่แว่นหนาคนหนึ่ง
“นี้นายไม่รู้จักท่านทั้งสองเหรอ!!!
แค่ความรู้พื้นฐานนายยังไม่รู้เลยสอบตกตั้งแต่ไม่เริ่มแน่ๆท่านทั้งสองคือท่านอธิการของโรงเรียนนี้ไงล่ะ
โง่จริง!!” ถึงแม้เด็กผู้ชายคนนี้จะตอบให้หายข้อสงสัยแต่พ่วงคำด่ามาหลายคำเลยที่เดียวแต่ตอนนี้ทั้งมาดัสและอลันตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อได้รู้ว่าพี่ชายใจดีสองคนที่ตนเองเคยพูดคุยด้วยนั้นเป็นถึงท่านอธิการแห่งโรงเรียนอันดับหนึ่งของแผ่นดิน
“แหม๋ๆแตกตื่นกันใหญ่ไม่ต้องกังวลครับการทดสอบในคราวนี้นะง่ายกว่าประตูอื่นมากๆเลยนะครับ”
เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาของอธิการดีโลธีทำให้เสียงฮือฮาสงบลงและหันมากลับมาฟังสิ่งที่เขาพูด
“ขออธิบายเลยละกันเลยนะครับว่าทดสอบยังไง
ง่ายๆเลยครับคือใครแตะตัวพวกเราหนึ่งในสองคนนี้ได้ก็สอบผ่านครับจะเข้ามาตัวต่อตัวหรือมาเป็นกลุ่มก็ได้ทั้งนั้นครับ อ่ะเกือบลืมในการแข่งขันนี้เนี้ยพวกคุณจะใช้อะไรก็ได้นะครับตามที่พวกคุณถนัดเลย” อธิการพูดอธิบายกติกาในการแข่งขันซึ่งดูเหมือนจะง่ายให้กับผู้เข้าทดสอบ
“ดูเหมือนจะง่ายแต่ทั้งสองคนเป็นถึงอธิการที่คนทั้งแผ่นดินยกย่องว่าไร้พ่ายจะชนะได้ง่ายๆได้ยังไงถึงแม้จะอนุญาติให้ใช้อะไรก็ได้ก็ตาม”เด็กผู้ใส่แว่นซึ่งอยู่ข้างมาดัสเอ่ยขึ้นมาลอยๆเหมือนบ่นให้ตัวเองฟังส่วนมาดัสและอลันก็หันมาส่งสายตาให้กันจากนั้นทั้งสองคนก็พุ่งเข้าไปหาอธิการทั้งสองโดยทันทีโดยมาดัสพุ่งไปหาอธิการดีโลธีส่วนอลันพุ่งตัวเข้าไปหาอธิการออคิปัสซึ่งยืนกอดอกอยู่เงียบๆมาตั้งแต่ต้นสิ่งที่พวกเขาสองคนทำทำให้คนทั้งมองด้วยความตะลึงที่ทั้งสองกล้าเข้าไปลองทดสอบเป็นคนแรก
“โอ้ๆมากันแล้วครับระวังนะครับคุณออคิปัส” อธิการดีโลธีพูดเตือนแฝดของตนหลังจากเห็นว่ามีคนพุ่งตรงมาหาพวกเขาแล้วแต่ในจังหวะเดียวกันอลันก็ถึงตัวออคิปัสแล้วแต่ยังไม่สามารถจับตัวเขาได้เนื่องจากท่านอธิการคนนี้โยกตัวหลบไปได้ทันแต่อลันก็ยังไม่ลดละยังคงพุ่งไปหาเพื่อจับตัวเขาให้ได้ซึ่งอธิการออคิปัสก็ยังคงหลบพ้นเช่นเดียวกัน การทดสอบนี้ดำเนินไปเกือบครึ่งชั่วโมงอลันและมาดัสก็ยังไม่สามารถจับตัวอธิการทั้งสองได้อยู่ดี จนทั้งคู่หยุดการเคลื่อนไหวและหันหลังชนกัน
“เฮ้ยมาดัสไหวไหมวะ แฮ่กๆ” อลันถามเจ้าเพื่อนซี้ข้างหลังที่สภาพเหนื่อยหอบไม่ต่างอะไรจากเขาเท่าไหรหนัก
“มือเปล่าคงไม่ไหววะเร็วกันเสียจริง
นี้ถ้าเป็นพวกทวงนี้อย่าหวังว่าลูกหนี้จะหนีได้เลย” มาดัสพูดอย่างติดตลก
“ฮ่าๆๆๆ จริงวะความคิดแกนี้มันจริงๆ” อลันขำความคิดของเจ้าเพื่อนซี้ตัวเองเขาเองก็เห็นด้วยในเรื่องที่อธิการสองคนนี้เร็วจริงๆ
อย่าว่าจะจับเลยแค่ถึงตัวยังยากเกินกำลัง เดี๋ยวก่อนกติกานี้แค่สัมผัสตัวนี้น่าแล้วเขาจะจับทำมะเขือทอดอะไรแค่เอื้อมไปสัมผัสได้ก็น่าจะชนะแล้ว
อีกอย่างถ้ามือเปล่ามันไม่ทันก็ต้องพึงมนต์คาถาบางล่ะงานนี้
“เฮ้ยมาดัส ในเมื่อมือเปล่าไม่ไหวก็ต้องใช้เวทมนต์เข้าช่วย”อลันเสนอแนวคิดให้กับมาดัสที่พิงหลังฟังอย่างตั้งใจ
“อืมก็ได้อยู่
แต่จะใช้เวทอะไรถึงจับสองคนนี้ที่เร็วปานเทพสายฟ้าจุติล่ะวะ” มาดัสยังอดสงสัยไม่ได้เพราะทั้งสองเป็นถึงอธิการของโรงเรียนอันดับหนึ่งของแผ่นดินแถมพ่วงท้ายด้วยเกียรติศักดิ์ว่าไร้พ่ายอะไรแล้วเวทอะไรที่จะชนะได้
“ ไม่ต้องจับหรอกคุณเพื่อนกติกานะแค่แตะต้องตัวได้ก็พอ แค่ทำให้พวกเขาสองคนนั้นช้าลงอีกหน่อยก็น่าจะได้
เอางี้ฉันมีแผน” อลันหันไปกระซิบข้างหูเพื่อนซี้ว่าแผนของตนเป็นอย่างไร
มาดัสเองก็พยักหน้าอย่างเข้าใจพลางอมยิ้มกับแผนของเพื่อนตัวแสบของตน
“ ตกลงตามนี้ ลุย!!! ” อลันพูดจบก็หันไปหาอธิการออคิปัสที่ยังคงยืนกอดอกพิงพนังอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
“ ผมจะเอาจริงแล้วนะครับท่านอธิการ
เหล่าภูตผีใต้พื้นพิภพจงฟังบัญชาข้า!!! จงตื่นจากนิทราที่หลับใหล
จงเป็นกำลังให้กับข้าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวเจ้าเถิด!!! ”
สิ้นเสียงร่ายเวทแห่งความตายโครงกระดูกนับร้อยก็โผล่ออกมาจากพื้นดิน
เมฆหมอกแห่งความตายแผ่ปกคลุมห้องสี่เหลี่ยมแคบๆจนเกิดความอึดอัดให้กับคนใกล้เคียง การร่ายเวทของอลันส่งผลให้เกิดเสียงแตกตื่นทั่วห้องเลยที่เดียว
“ว้าวววววว พึ่งเคยเห็นผู้วิเศษร่ายเวทได้ก็งานนี้และ”อธิการดีโลธีพูดติดตลก แต่คนฟังที่ร่วมห้าสิบคนกลับขำไม่ออกเพราะผู้วิเศษนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่รู้กันดีว่าร่ายเวทไม่ได้แต่แต่ละคนจะมีความสามารถพิเศษติดตัว
และเผ่าพันธุ์นี้มีลักษณะเฉพาะตัวคือเส้นผมและดวงตาจะเป็นสีเงินซึ่งถือว่าเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์แต่ปัจจุบันผู้มีดวงตาสีเงินนั้นหายากมากชนิดที่ว่าพลิกแผ่นดินหาแล้วยังพบเพียงไม่กี่คนแต่ทำไมเด็กหนุ่มข้างหน้าซึ่งมีลักษณะของผู้วิเศษที่หายากนี้กลับร่ายเวทแห่งความตายได้แถมยังทรงฤทธิ์เสียด้วย
จริงๆแล้วทุกคนก็ต่างรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้วิเศษและต่างรอดูว่าบุคคลที่มีสายเลือดที่บริสุทธิ๋นี้มีความสามารถอะไรแต่คาดไม่ถึงว่าจะร่ายเวทได้
“ อย่ามัวแต่สนใจคนอื่นสิครับท่านอธิการคู่ต่อสู้ของคุณนะอยู่ตรงนี้นะครับ ” มาดัสพูดเรียกร้องความสนใจเมื่อเห็นว่าคู่ของตนหันไปสนใจเพื่อนจอมแสบของเขาเสียจนข้ามหน้าข้ามตา
“ต้องขอโทษนะหนู พอดีว่ามันตื่นตาตื่นใจเสียจริง”
“คร้าบๆ ในเมื่อเพื่อนผมเอาจริงแล้วผมก็ขอเริ่มบ้างแล้วกันนะครับ ”
ฝั่งอลัน
โครงกระดูกนับร้อยโผล่ขึ้นมาต่างเริ่มเข้าไปเกาะเกี่ยวอธิการออคิปัสซึ่งยังคงยืนนิ่งมองมาที่อลันอยู่เช่นเดิม
“แหม๋ใจเย็นจริงๆนะครับท่านเนี้ย ไม่คิดจะปัดออกบ้างเลยเหรอครับ” อลันอดที่จะแกล้งกวนไม่ได้เมื่อเห็นว่าคู่ของตนสงบเสียจนมดเดินยังได้ยิน
“ ไม่จำเป็น พวกมันทำอะไรข้าไม่ได้ ” แทบจะทันทีโครงกระดูกพวกนี้จู่ๆก็ร่วงกราวลงมากับพื้นและจมหายไปกับพื้นดินในที่สุด
" ท่านโกงนี้ท่านใช้เวท "
" ข้าไม่ได้ใช้ แต่เวทของเจ้ามันอ่อนด้อยเกินไปต่างหาก "
ควันออกหูซิครับงานนี้โดนดูถูกว่าอ่อนขนาดนี้ ค่อยดูเถอะคุณอธิการผมจะจัดหนักให้ท่านเลยที่เดียวอลันขบเคี้ยวฟันอยู่ในใจพลางต่อไป
ความคิดเห็น