คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 สิบห้าหยกๆ...สิบหกหย่อนๆ 100%
ยามเช้าอากาศสดชื่นแจ่มใส อาริสา ในวัย 15 กลายเป็นสาวน้อย หน้าใส ตากลม ผมยาวที่ผูกเป็นหางม้าไว้ด้านหลังแกว่งไกวช้าๆตามจังหวะการเดิน หุ่นบางๆในชุดนักเรียนกำลังก้าวเดินไปนั่งม้านั่งที่ซุ้มประจำของกลุ่มเพื่อนๆ ออร่าความสวยใสแผ่ออกมาจากร่างบางวิ้งๆๆแสบตารุ่นน้องรุ่นพี่ที่เดินผ่านให้ต้องเอามือป้องตากันแสงออร่านั้นกันให้วุ่นเลยที่เดียว
“ยัยเหมยรีบเดินซิจ๊ะ”เสียงข้าวหอมร้องเรียกเสียงดัง
“แหมเหมยนี่ใจคอเธอจะแกล้งเดินช้าๆให้หนุ่มๆแถวนี้น้ำลายไหล เดินไม่มองทางชนเสาหัวโน เดินตกถนนกันเป็นแถวเลยใช่มั๊ยฮะ” ใบเฟิร์นเพื่อนสาวอีกคนเอ่ยแซว
“ไม่ใช่สักหน่อยเราว่าเราเดินธรรมดานะ” อาริสาแก้ตัว สาวน้อยคงจะไม่รู้ตัวว่าความสวยใสของเธอเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆในโรงเรียนหลายคน
“จ้าแม่คนแสนธรรมดา” บอลเพื่อนสาวอีกคนหนึ่งว่า พลางลุกขึ้นมานั่งใกล้ๆ เนื่องจากมีรุ่นน้องรุ่นพี่มาขอความรักกับอาริสากันหลายคนทำให้สาวน้อยลำบากใจกับเรื่องนี้มากเพราะว่าสาวน้อยมีหนุ่มในดวงใจอยู่แล้วเดือดร้อนถึงเหล่าเพื่อนๆให้ช่วยกันแก้ปัญหาและทั้งกลุ่มก็เลยลงความเห็นให้บอลซึ่งเป็นเพื่อนสาวแต่ไม่มีใครรู้เพราะบอลจะแอ๊บหล่อตลอดและอาริสาเป็นแฟนกัน(หลอกๆ)เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทั้งเป็นผลดีกับทั้งสองคน คือกันคนมาขายขนมจีบอาริสาและจะได้ปกปิดเรื่องสาวแตกของบอลด้วย
“นี่เย็นนี้เราไปทำรายงานที่บ้านของเหมยดีกว่าเนอะ” ใบเฟิร์นเสนอความคิด
“ดีๆขนมบ้านเหมยอร่อยเราชอบ” บอลสนับสนุนเต็มที่
“นี่!ไปทำรายงานนะบอลไม่ได้ไปกินขนม เห็นแก่กินตลอดเลยนะหล่อน” ข้าวหอมอดหมั่นไส้บอลไม่ได้ แต่ก็พูดขึ้นมาว่า
“เหมยบอกนมอิ่มนะว่าพวกเราขอกินข้าวเย็นด้วยเลย” ข้าวหอมพูดจบ เพื่อนๆก็ ร้องโวขึ้นมาพร้อมกัน
“ว่าแต่คนอื่นนะ” บอลได้ทีปรายตามองข้าวหอมแบบล้อๆ
“ได้ซิเดี่ยวจะบอกนมอิ่มให้” เหมยกล่าว แต่เธอคงต้องโทรไปรายงานอาเทพด้วยว่าเพื่อนๆจะไปที่บ้าน อันที่จริงกลุ่มเพื่อนของเธอไปที่บ้านหลายครั้งแล้วทำให้คุ้นเคยกับคนที่บ้านพอสมควรแต่ไม่เคยเจออาเทพของเธอเพราะอามักจะกลับบ้านดึกๆ อย่าว่าแต่เพื่อนเธอเลยที่ไม่เคยเจอ ตัวเธอเองขนาดอยู่บ้านหลังเดียวกันยังหาเวลาเจออาเทพได้ยาก จนอดรู้สึกไม่ได้ว่าอาเทพหลบหน้าเธอ แต่พอมาคิดอีกทีอาเทพจะหลบหน้าเธอทำไมไม่มีเหตุผลให้หลบหน้าเธอสักหน่อย คิดมากจังยัยเหมย
........................................................................................................................................................................................
“เหมยน้อย” ชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอทำให้หน้าที่ขรึมอยู่เป็นนิจนั้นยกยิ้มมุมปากขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนรับสาย
แล้วเสียงใสๆที่เค้าชอบฟังก็ดังมาตามสาย
( อาเทพขา วันนี้เหมยขอพาเพื่อนไปทำรายงานที่บ้านนะคะ ) เสียงใสรายงานเรื่องที่โทรหาเค้ามาตามสาย
“อื่ม..ได้” ที่แท้โทรมาบอกเรื่องแค่นี้เอง ถึงขอมากว่านี้เค้าก็ให้ได้ ตั้งแต่เค้าพาอาริสามาอยู่ด้วยกันจนเด็กน้อยในตอนนั้นกลายเป็นสาวน้อยไปแล้วในตอนนี้ สาวน้อยของเค้าไม่เคยเอ่ยปากขออะไรเค้าเลยสักอย่าง อาริสาอาจเกรงใจ หรือไม่กล้าก็ได้ ทั้งที่จริงแล้วไม่ว่าอาริสาจะขออะไรจากเค้า เค้าคงจะหามาให้เธอหมดแหละ...ไม่มีอะไร...ไม่ใช่หวั่นไหว...แค่อยากให้เด็กสาวมีความสุขที่สุดเพื่อชดเชยสิ่งที่เสียไปต่างหาก...คงจะแค่นั้นจริงๆ
“ขอบคุณค่ะ อาเทพ...รักอาที่สุดเลยค่ะ” เสียงใสๆบอกก่อนจะวางสายไป
เอาอีกแล้ว คำบอกว่ารักนั่น ในช่วงหลายปีที่อยู่ด้วยกันอาริสาบอกเค้าหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไร คำว่า “ รักอาที่สุด ” ของอาริสามันเริ่มจริงจังขึ้นทุกที่ เค้าสัมผัสได้จากแววตาคู่นั้น แววตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจ แววตาที่สะท้อนความคิดของเด็กสาวตัวน้อยของเค้า...ว่าคงจะคิดอะไรกับเค้ามากกว่าความเป็น อา เสียแล้ว
และสิ่งนี้นี่เองทำให้เทพเทวินทร์เลือกที่จะรักษาระยะห่างกับอาริสา เพราะเค้ารู้ความคิดนั่นจะทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเค้าและอาริสาเปลี่ยนไป และเพราะรู้ถึงต้องห่าง แต่ก็ต้องทำให้อาริสารู้ว่าเค้ายังเอ็นดูเธอเหมือนเมื่อเธอยังเป็นเพียงเด็กน้อย
ชายหนุ่มอยากให้โอกาสอาริสาได้รู้ใจตัวเองว่าที่กำลังรู้สึกอยู่นั้นเป็นความรักของหนุ่มสาว หรือเป็นความรักที่มอบให้กับคนที่เหมือนกับเป็นฮีโร่ในชีวิตของเธอ
แต่สิ่งหนึ่งที่เทพเทวินทร์ไม่เคยได้เฉลียวใจของตัวเองเลยว่า คำว่า รัก ที่ออกมาจากปากของสาวน้อยอาริสานั้น ได้แทรกซึมเข้าไปทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่เทพเทวินทร์เองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไรในตอนนี้ เพราะเจ้าความรู้สึกนี้มันมีอิทธิพลกับหัวใจของของเทพเทวินทร์ด้วยแล้วเช่นเดียวกัน...และคงรอวันที่จะปะทุออกมาฟ้องทุกความรู้สึกที่เทพเทวินทร์มีให้กับอาริสา ....แค่ต้องรอให้ถึงเวลา
เสียงเจื้อยแจ้วของอาริสาและเพื่อนๆที่ทำรายงานกันอยู่ที่สวนหย่อมริมสระน้ำดังขึ้นเป็นระยะๆทำให้ บ้านไตรทศ วันนี้มีชีวิตชีวามาก
“นี่.. เหมยพวกเรามาที่นี่หลายครั้งแล้วยังไม่เคยเจออาของเธอเลยนะ” บอลตั้งขอสังเกตุ
“ อาเทพไม่ค่อยว่างน่ะ ” อาริสาให้เหตุผล ใบเฟิร์นตักขนมเค้กขึ้นมากินพร้อมพูดว่า
“ ไม่ต้องเลย นะบอล เธออยากเห็นว่า อาเทพของ เหมยตัวจริงจะหล่อกว่าในรูปขนาดไหนใช่มั๊ย ” นี่แหละสาเหตุที่ทำให้บอลอยากพบอาเทพตัวจริงขึ้นมา
“ แต่ก็นะเรามาบ้านเธอตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เคยเจออาของเธอเลย ” ข้าวหอมเอ่ยบ้าง
“ อย่าวาแต่พวกเธอเลย...เราอยู่บ้านนี้ยังไม่ค่อยได้เจออาเทพเลย อาเทพคงยุ่งมากจริงๆ ” อาริสาบอกเพื่อนอย่างเหงาๆ
“ แต่ถ้าพวกเธออยากเจออาเทพ ก็มาที่นี่บ่อยๆซิ่ มาวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ก็ได้ อาเทพอาจอยู่บ้านไม่ออกไปไหน” อาริสาเสนอความคิดให้เพื่อนๆ
“ วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เหรอ เราขอบายนะช่วงนี้เราอยู่ช่วยงานที่ร้านทองแหละ ” ข้าวหอมบอก บ้านของข้าวหอมทำกิจการร้านทองซึ่งมีหลายสาขาทำให้คุณหนูร้านทองอย่างข้าวหอมต้องเข้าไปเรียนรู้งานตั้งแต่เนิ่นๆ
“ ไม่เป็นไรเราว่าง ” บอลและใบเฟิร์นประสานเสียงขึ้นพร้อมกันแล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราะกับความพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
..............................................................................................................
เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นจากทางสระน้ำทำให้เทพเทวินทร์ที่พึ่งกลับมาจากทำงานเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะไปงานเลี้ยงการกุศลในคืนนี้หันไปมองทางต้นเสียงอย่างสนใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะไปทักทายกลุ่มเพื่อนของอาริสาชายหนุ่มขึ้นไปบนห้องและมองจากหน้าต่างมาที่สวนหย่อมริมสระว่ายน้ำ
ภาพที่ชายหนุ่มเห็นคือ เด็กหนุ่มหน้าตาดีกำลังยืนท้าวแขนข้างหนึ่งแล้วน้อมหน้ามาใกล้กับอาริสาที่กำลังนั่งอยู่
กึก!!
ไม่ชอบใจ..ไม่พอใจ..ทำไมอาริสาถึงไม่ระวังตัวขนาดนี้ปล่อยให้ผู้ชาย..คนอื่น มาเข้าใกล้ขนาดนั้นได้อย่างไร
หรือว่า...
ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ?
นั่นซินะ..อาริสาเป็นวัยรุ่นแล้วที่สำคัญหน้าตาดี ก็ต้องมีคนมาชอบพอบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา
แล้วทำไมเค้าถึงต้องรู้หวงอาริสาอย่างนี้นะ.....ไอ้เจ้าความรู้สึกอย่างนี้นี่มัน.....
ยิ่งเห็นอาริสายิ่มให้เด็กนั่น เค้ายิ่งมีอารมณ์พลุกพล่านบอกไม่ถูก
ไม่ชอบใจเลย...ไม่ชอบใจเลยจริงๆ
ดูเหมือนเทพเทวินทร์ จะสนใจเพียงอาริสาและบอลเท่านั้น ไม่ได้สนใจเลยว่าทั้งสองไม่ได้อยู่กันตามลำพังยังมีเพื่อนๆคนอื่นอยู่อีกตั้งสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย คงเป็นเพราะจุดโฟกัสของเทพเทวินทร์อยู่ที่อาริสากระมังทำให้คนอื่นๆอยู่นอกสายตาไปหมดและบังเอิญบอลอยู่ใกล้อาริสามากไปนั้นเอง
และเพราะความรู้สึกไม่ชอบใจนั้นทำให้เทพเทวินทร์ตัดสินใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงการกุศล ....ชายหนุ่มเองก็ไม่ชอบอยู่แล้วเพราะมักมีคุณหญิงคุณนายเข้ามาตีสนิทและแนะนำลูกสาวอยู่กลายๆ เทพเทวินทร์ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายแต่ก็ต้องพูดคุยตามมารยาท
………………………………………………………………………
ในเย็นวันนั้นเพื่อนๆของอาริสาจึงไก้เจอกับอาหนุ่มของอาริสาสมดังความปรารถนา
แต่เพราะอะไรก็ไม่อาจรู้ได้เหล่าเพื่อนๆของอาริสาถึงรู้สึกว่า อาเทพของเหมย “ น่ากลัวจังเลย ” ทุกคนได้แต่คิดในใจ และพยายามทำตัวเรียบร้อยเต็มที่ คงจะมีแต่อาริสาคนเดียวเท่านั้นที่ตื่นเต้นที่วันนี้จะได้ทานข้าวพร้อมกับอาเทพของเธอในรอบ หลายเดือน
เมื่อทุกคนนั่งกันหมดแล้วอาริสาก็แนะนำเพื่อนของเธอให้อาหนุ่มรู้จัก
“ อาเทพขา นี่ ข้าวหอม ใบเฟิร์น และบอลค่ะ ” ทุกคนยกมือไหว้เทพเทวินทร์ แต่ก็ได้รับเพียงแค่หน้านิ่งๆ และกับพยักหน้าแทนการรับรู้เท่านั้น
เทพเทวินทร์มองเพื่อนของอาริสานิ่งๆและมองบอลนานเป็นพิเศษเหมือนพิจารณาอะไรสักอย่างทำให้บอลเสียวสันหลังวาบ
ก่อนที่บรรยากาศจะมาคุไปมากว่านี้อาริสาเลยเอ่ยชวนเพื่อนๆทานข้าว ระหว่างทานก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาและดูเหมือนเพื่อนของอาริสาจะรีบกินเป็นพิเศษโดยให้เหตุผลว่าต้องรีบกลับไปทำการบ้าน
“ เดี๋ยวเหมยไปส่งเพื่อนก่อนนะคะ ” อาริสาบอกกับเทพเทวินทร์ที่กำลังเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น แล้วเดินออกไปส่งเพื่อนๆที่หน้าบ้าน
“ เหมยทำไมอาเธอดุอย่างนี้อะ ” ความคิดเห็นที่หนึ่งเป็นของบอล
“ ใช่ๆ น่ากลัวมากไม่ยิ้มเลย ” ความคิดเห็นที่สองเป็นของข้าวหอม
“ เรานึกว่าท่านเค้าแดร็กคูล่ามาเองอะ ถึงจะหล่อระเบิดระเบิ้อแต่นิ่งซะ ” ความคิดเห็นที่สามเป็นของใบเฟิร์น
อิอิ...อาริสาหัวเราะกับความคิดเห็นของเพื่อน
“ อาเทพก็เป็นแบบนี้แหละพวกเธอพึ่งรู้จักอาเทพจะให้อาเทพคุยเล่นหัวเราะกับพวกเธอก็แปลกแล้ว ” และอาริสายังบอกอีกว่า
“ ก็อาเทพเป็นผู้ใหญ่แล้วพวกเธอก็อย่ากลัวไปเลย...กลับบ้านดีๆนะ ”
ส่งเพื่อนเสร็จก็เดินเข้ามาในบ้านแต่ยังนึกแปลกใจทำไมวันนี้อาเทพถึงนั่งดูโทรทัศน์ได้ปกติอาเทพไม่ชอบมานั่งนี่นา ....แต่ก็ดีเหมือนกันนะเธอจะได้อยู่กับอาเทพนานๆหน่อย
..............................................................................................................
เรียน มิตรรักนักอ่านทุกคนนะคะ
อยากบอกว่า พี่ เขียนเป็นเรื่องแรก ไม่มีประสบการณ์ ที่สำคัญพี่โลเทคค่ะคุณนักอ่าน แบบประมาณจิ้มดีดอะ ถ้ารูปแบบออกมาไม่สวยอ่านไม่สบายตาพี่ต้องขออภัยไว้เลยนะ คือขอบอกว่าไม่ถนัดเลยเจ้าอุปกรณ์ไฮเทคนี่พี่สั่นหัวเป็นแต่เข้ากูเกิลอ่านนิยายอย่างเดียวค่ะ คือหลังจากอ่านงานของคนอื่นมานานพี่ก็มีความอยากเขียนเรื่องราวที่อยู่ในจินตนาการขอตัวเองบ้าง หลังจากจดๆจ้องๆมาเป็นปีๆก็เลยออกมาเป็นเรื่องนี้แหละ ที่มาที่ไปก็ไม่ใช่อะไรพี่รักคนแก่ 5555 พี่บอกก่อนเรื่องนี้แต่งสด แต่งเสร็จอัพเลย นะจ๊ะ อาจจะวันและเล็กวันละน้อยแต่พี่มีความสุข มีคนเข้ามาอ่านพี่ก็มีความสุข แต่พี่จะมีความสุขมากกว่านี้ถ้ามี คอมเม้นบ้างไรบ้าง คือพี่จะได้รู้ว่าที่พี่เขียนโอเคมั๊ย อะไรอย่างเนี๊ยะ แต่ยังไงก็ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ
ปล.ไม่ต้องรักพี่หรอก แต่ถ้าหลงรักนิยายที่พี่เขียน ช่วยคอมเม้น ช่วยให้คะแนน ช่วยแชร์ต่อด้วยนะจ๊ะ พี่จะได้มีแรงพิมพ์จ้า
ความคิดเห็น