คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : story of love in love 3
"เบล... เบลใช่ไหม...เราเองนะ นิดไง"เธอร้องขึ้นต่อหน้าผม ผมจำเธอได้แน่นอนไม่มีวันลืมเพื่อนรักของผมไปอย่างแน่นอน ที่ผมเงียบไม่ใช่จำเธอไม่ได้เพียงแต่... "เบล จำนิดไม่ได้หรอ" "จำได้นิด เออ..ทานข้าวมายังหละ เบลยังไม่ได้กินมาเลย" "ยังนะสิ ไปสิไปกินกัน" ผมยังไม่อยากให้เธอรู้เลยว่าผมกับกอล์ฟ กลัวเธอจะเข้าใจผิด และถ้าเธอจะโกรธผมแล้วละก็ มันสมควรแล้ว
"เบล เย็นนี้นะกอล์ฟนัดประชุมที่ร้านนะ อย่าลืมหละ"เพื่อนผมที่มาเรียนด้วยกัน เดินเข้ามาบอกกับผม สงสัยเพิ่งจะออกไปหากอล์ฟมา "เบล เบลยังคบหากับกอล์ฟอยู่หรอ"นิดถามกับผม เพราะตอนนั้นเธอเห็นผมโกรธกอล์ฟเอาเป็นฟืนเป็นไฟ "ก็เพื่อนกันนี่"ผมบอกเสียงสั่นๆ "จะว่าไป ตอนนี้นิดก็ไม่โกรธกอล์ฟแล้วหละ ที่นิดลงมากรุงเทพ เพราะอยากจะขอคืนดีกับกอล์ฟด้วยหละ" "คงจะยาก กอล์ฟเขามีคนที่ชอบแล้วหละ"ผมตอบเธอไปเนื่องด้วยไม่อยากให้เจอไปเจอกับกอล์ฟ ผมกลัวที่จะต้องเสียกอล์ฟไป เสียนิด ผมไม่ต้องการจะเสียใครไปอีกแล้ว "งั้นเย็นนี้ นิดจะไปหากอล์ฟกับเบลละกัน"สุดท้าย ผมก็ต้องให้พวกเขา 2 คนเจอกันจนได้
หลังจากพวกเราประชุมเรื่องของร้านเสร็จแล้ว ผมก็พูดกับกอล์ฟ "กอล์ฟมีคนอยากพบนายหละ แต่นายอาจจะ..." อืม อาจจะทำไมหละ.." ผมนิ่งเงียบ "แล้วเขาอยู่ไหนหละ"กอล์ฟถาม "ห้องรับแขกนะ"ผมบอกกับกอล์ฟ เขาเดินมาจนกระทั่งจะถึงห้องรับแขก "กอล์ฟอย่า เข้าไปเลยนะ.."ผมร้องห้ามเขา "ทำไมหละ" "เรากลัว....กลัวจริงๆนะ"ผมบอกกับเขา "เด็กโง่ ทำงอแงไปได้"แล้วเขาก็ผลักประตูเข้าไป ความเย็นของแอร์ในห้องแม้จะเย็นมาก แต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้กอล์ฟเกิดอาการแข็งไปทั้งตัว ผมก็เหมือนกันทั้งเหงื่อตก แล้วก็กังวลใจมากด้วย "เออ..นิด..เองหรอ ผมนึกว่าใคร"กอล์ฟเริ่มพูดประโยคสนนา "ใช่นิดเอง กอล์ฟเป็นไงบ้าง...สบายดีไหม..."เธอถามกลับ ทำให้บรรยาการในการคุยดูตึงเครียดน้อยลง "ก็เรื่อยๆ.." "นิดมีเรื่องอยากจะคุยกับกอล์ฟมากเลย เออ..."เธอข้างเอาไว้ "งั้นเดี๋ยวไปหาน้ำมาให้นะ"ผมรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกินเธอคงต้องการคุยกับเขาแค่ 2 คนเท่านั้น
ผมไม่อาจทราบได้ว่าเขา 2 คนนั้นได้คุยอะไรกันไปแล้วบ้าง ได้พูดอะไรบ้าง ผมกังวลใจเอามากๆ ด้วยความกังวลใจนี่แหละเกือบทำให้ผมนั้นตกบรรไดขณะที่นำโค๊ก 3 กระป๋องไปไว้ที่ห้องรับแขกที่อยู่ชั้น 2 ของร้าน "ทำไม นิดไม่ดีใช่ไหม นิดสู้เบลไม่ได้ตรงไหน ทำไมกอล์ฟไม่ดูตัวเองเลย มันจะเป็นไปได้ไงที่เบลจะดีกว่าผู้หญิงอย่างนิด"เสียงเธอแว่วออกมาจนผมได้ยินได้ชัดเจน ผมไม่กล้าจะเปิดประตูเข้าไปเลย ยืนถือน้ำค้างอยู่ที่หน้าห้อง "แต่นิด ตอนนี้ผมเป็นแฟนกับเบลอย่างเต็มตัวแล้ว ผมไม่ได้รักนิดอีกแล้ว และผมก็รักเบลมากด้วย" "ดูท่า...วันนี้เราคงจะพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วหละกอล์ฟ"เธอพูดขณะที่เปิดประตูออกมาอย่างแรง ทั้งที่ผมยังคงยืนคาอยู่หน้าประตู ผมแทบจะขยับตัวไม่ได้มันชาไปหมด "ถอยไป..."เธอผลักผมให้ถอยออกไป พร้อมกับเดินออกมา "นิด เดี๋ยวก่อนนิด"ผมตะโกนเรียกเธอ "นายไม่ต้องมาพูด ไอ้คนทรยศเพื่อนอย่างนายนะ เราไม่ต้องการ"เธอพูดด้วยเสียงแผดดัง และใบหน้าที่แดง แสดงอาการโกรธจัด
ผมยังคงกังวลกับเรื่องๆนี้เสมอ จนไม่เป็นอันเรียน อันทำงาน จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเจอกับเธอที่หน้าร้านของผมเธอมาบอกกับผมว่าเธอไม่ได้โกรธอะไรผมแล้ว ที่ทำไปเพียงแค่ความคิดชั่ววูบที่โมโหเอามากเท่านั้น เธอยังขออธิบายเรื่องนี้กับกอล์ฟด้วยตัวเองแล้วเธอก็นัดผมกับกอล์ฟไปทานข้าวกันที่บ้านของเธอ เพื่อที่จะเลี้ยงขอโทษ ในตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอลงไปทำธุระกิจทางภาคใต้เป็นเวลาหลายอาทิตย์ ในตอนที่เธอมาบอกกับผมนั้น ผมดีใจมาก ดีใจจนน้ำตาไหล ในเย็นวันนั้นผมก็พากอล์ฟไปหาที่บ้านของนิด แล้วก็เล่าเรื่องให้เขาฟังเขาดูจะมีความสุขเล็กๆ เพราะเขายิ้มออกที่มุมปากได้ พอเราไปนั่งทานกันจนเสร็จแล้ว นิดเธอจัดแจงเอาเบียร์มาให้พวกเรากินกัน ผมเป็นคนคออ่อนดื่มได้ไม่มากก็เมาแทบไม่ได้สติแล้ว แต่ก่อนที่สติผมจะคุมไม่อยู่ ผมก็ได้ฟังเรื่องในอดีตที่เธอพูดเล่าให้กับพวกเราฟัง เรื่องในอดีตนั้นทำให้ผมถึงกับร้องไห้ออกมา ทำให้ผมถึงกับสำนึกในสิ่งที่เหมือนจะเป็นความผิดของตัวเอง ที่ทำให้เขาทั้ง 2 คนเลิกกัน แล้วผมก็หลับไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีก
ผมอื่นมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของใครบางคน ผมลืมตาขึ้นมา พยายามทำให้ตัวเองสร่างเมา ภาพที่เห็นคือภาพที่นิดนอนห่อตัวเสื้อผ้าขาดเหมือนโดนฉีกออก มีกอล์ฟที่อยู่ในสภาพไม่แตกต่างกันเพียงแต่เขานอนหลับอยู่บนตัวของนิดเท่านั้น "กอล์ฟ นายทำอะไรนะ"ผมตะโกนสุดเสียงด้วยความโมโหมาก เขาตื่นขึ้นมานั่งในสภาพงัวเงีย "เอ้ย..ที่อะไรกัน..."กอล์ฟร้องขึ้นด้วยความตกใจ "ก็กอล์ฟนะพอเมาไม่ได้สติ กอล์ฟก็.."นิดพูดพลางร้องไห้ แล้วก็ผลักเขาให้ออกห่างจากตัวเอง เอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอ ผมไม่รู้จะทำอะไร...ยังไง...ไม่รู้จะอธิบายยังไงในตอนนั้น ผมออกมาจากบ้านของนิดในทันที เดินทางกลับบ้านน้ำตามันเริ่มจะไหลออกมาบ้างแล้วผมเสียใจกับการกระทำของกอล์ฟมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี
แต่ผมกลับได้พบกับนิด ผมเจอกับเธอเมื่อตอนที่ผมกำลังจะออกจากมหาลัย เพื่อกลับคอนโด "เบล เราแค่ทวงของๆเราคืนเท่านั้นนะ อย่าโกรธเราเลยนะ"เธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียง และสีหน้าที่เย็นชามาก จนแทบไม่เหลือความเป็นเพื่อนกันอีก "เรากะแล้ว ว่านี่มันต้องแผนการเธอแน่นอน กอล์ฟเองคงไม่ทำแบบนั้นลงไปแน่" "แต่ตั้งแต่เดือนหน้านี้ไป เขาคงจะต้องทำของจริงแล้วหละ เพราะเราจะแต่งงานกันต้นเดือนหน้านี้แล้ว แล้วถ้าเขาไม่ตกลงแต่งงานกับเรา คุณพ่อเราจะฟ้องร้องทางบ้านของกอล์ฟ..." ผมพูดอะไรไม่ออกนี่นะหรอความคิดเพื่อนของผม เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทำไม ผมไม่เข้าใจ "สำนึกตัวหรอ ถึงไม่พูด แสดงว่ารู้ตัวดีว่า..นายมันเลวมาก!"เธอพูดพร้อมกับตบหน้าผมเอาฉากใหญ่ แรงตบทำให้ผมที่ยืนด้วยฐานที่ไม่มั่นล้มลงไปนั่งกับพื้น "แค่นี้มันน้อยไป ต้องเจอนี่อีกที..."เธอกำลังจะตบผมอีกครั้ง "พอได้แล้วนิด"เสียงของกอล์ฟ พร้อมกับมือของกอล์ฟ ผมไม่กล้าสบตากับเขา"เป็นอะไรไหมเบล..." แต่ผมไม่คิดจะตอบเขาเลย "เรากลับบ้านกันดีกว่าผมมารับนิดแล้ว"กอล์ฟพูดพลางกระชากข้อมือของนิดเดินไปขึ้นรถ ผมเองก็ลุกขึ้นเดินออกไปขึ้นรถ ดีว่าช่วงนี้ไม่มีใครเขาอยู่กันมาก ไม่งั้นคงเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว คงเข้าใจกันไปเองว่าผมทะเลาะกับแฟนอะไรทำนองนี้ เลยไม่ค่อยจะมีใครสนใจ
ผมกลับไปที่คอนโด เพื่อพักผ่อนผมเสียใจมาก เสียใจในการกระทำของเพื่อน เสียใจที่ตอนแรกไม่เชื่อใจกอล์ฟเสียใจที่ไปหลงรักกอล์ฟเข้า เรื่องเลยเป็นแบบนี้ ประมาณดึกๆวันนั้น มีคนมาเคาะประตูหน้าห้องผม ผมไม่รู้ว่าใคร ทำไมมาเรียกผมเอาในตอนนี้ ผมเปิดประตู แล้วผมก็ต้องพบกับคนที่ผมไม่คาดคิด กอล์ฟมาหาผม"นายรู้ได้ไงว่า..."ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ "ขอเราเข้าไปหน่อย เร็วๆ"กอล์ฟดันตัวเองแล้วก็ผมเข้ามาข้างในห้อง ผมพยายาม พูดให้เขากลับไปหานิดจะดีต่อตัวเขา ดีต่อครอบครัวเขา แล้วก็นิดมากที่สุด "ไม่ เราไม่ได้ชอบเขานะนเบล ทำไมนายถึง... ทำไมนายไม่พยายามรักษาความรักของเราไว้หละ"กอล์ฟถามผม ผมร้องไห้ออกมา"แล้วถ้านายไม่แต่งกับนิด เขาก็จะฟ้องร้องบ้านนายอีก เราไม่อยากให้พวกนายเดือดร้อนเพราะเรื่องของพวกเรานะ"ผมพยายามบอกกับเขา "งั้นนายบอกเรามาคำเดียว นายรักเราไหม"ผมไม่ตอบเขาแต่ผมนำริมฝีปากของผมไปสัมผัสกับริมฝีปากที่บางเฉียบของกอล์ฟแทนคำตอบ คำตอบที่เป็นคำพูดไม่มีวันจะแทนที่คำตอบด้วยภาษากายได้ ผมรักในทุกอย่างของเขา รักที่ตัวเขาเป็นตัวเขา รักที่เขาให้ความรักกับผมอย่างมากมาย รักเขามากที่สุด บทเพลงแห่งความรัก ท่วงทำนองแห่งความฝันที่เราทั้ง 2 คน ร่วมกันบรรเลง นับเป็นความสุขเกือบจะทั้งหมดของชีวิตของผมเลยทีเดียว มันเหมือนกับบทเพลงสุดท้าย บทเพลงก่อนที่จะตามมาด้วยความเศร้า เพื่อให้เราได้เตรียมใจ บทเพลงรักได้ดำเนินไปจนกระทั่งจบลงพร้อมกับคราบน้ำตาของผมที่เริ่มซึมออกมาหลังจากที่เราบรรเลงเพลงรักกัน เพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
ผมหลับไปได้ไม่นานนักก็มีคนมาตะโกนเรียก พร้อมกับเสียงด่าอยู่ที่หน้าห้อง ผมกับกอล์ฟรีบแต่งตัวพร้อมกับไปเปิดประตู นิดนั่นเอง เธอพาผู้ชายที่ดูตัวใหญ่แข็งแรงมากมาด้วย 2 คน ทั้งดำ ทั้งตัวใหญ่ดูจากลักษณะแล้วคงเป็นพวกบอร์ดี้การ์ด หรือไม่ก็พวกนักเลงหัวไม้ "เอาผู้ชายคนนั้นออกมา"เธอพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่กอล์ฟ"ไม่ต้อง ผมจะออกไปเอง...นิด เรื่องมันจะได้จบ"กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "นิดขอบอยอย่างเดียวเอง ทำไมกอล์ฟให้นิดไม่ได้หรอ" "ขอไม่ให้ผมรักเบลหรอ...เป็นไปไม่ได้..." "พอได้แล้ว เอาตัวไป"เสียงนิดสั่ง เสียงของเธอเย็นชา ไม่มองหน้าผมเลยแม้แต่น้อย "เบล กอล์ฟ พวกนายทั้ง 2 คงจะไม่ได้พบกันอีกแล้วในชาตินี้ คงจะบอกลากันมากพอแล้วสินะ" น้ำตามันเริ่มหลังไหลออกมาอีกครั้ง "เบล จำไว้นะกอล์ฟเป็นของชั้น"นิดพูดเสียงแข็ง "ไม่ผิดแล้วนิด ชีวิตของผมเป็นของเบล จำเอาไว้นะ เราไปกันได้ละ" แล้วกอล์ฟก็เดินนำพวกนั้นไป "เบลจำไว้นะ ชีวิตของเราเป็นของนาย" เขาหันกลับหลังมาตะโกนให้ผมได้ยิน แล้วเดินลงไปจนกระทั่งลับตาผม จนกระทั่งผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวลงบรรไดลงไปข้างล่าง วันนี้วันแห่งความโชคร้าย วันที่น่าเกลียดที่สุดสำหรับชีวิตของผมมันเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ผมมีความสุขที่สุดแค่นั้นเอง
วันนี้แล้ว ที่เป็นวันแต่งงานของนิด กับกอล์ฟ เพื่อนสนิทของพวกเราไปกันหมด มีผมเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะไม่อาจมองหน้าได้ติด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสาว หรือเจ้าบ่าวก็ตาม ในใจของผมยิ่งว้าวุ่น ผมจำได้ที่นิดบอกไว้ตอน 1 ทุ่มงานจะเริ่ม ก่อนหน้านั้นมีเพื่อนๆหลายคนโทรมาหาผมที่บ้าน ถามว่าทำไมไม่มางาน ผมพยายามบ่ายเบี่ยงไปว่าต้องมาดูแลคุณแม่บ้าง ผมป่วยบ้าง ไม่สบายบ้าง ไปไม่สะดวกบ้างซึ่งทุกๆคนจะพยายามแก้ปัญหาให้ แต่ผมกลับไม่ต้องการเพราะผมไม่อยากไป ไม่มีใครรู้เลยว่าผมกับกอล์ฟคบกันมานานแล้ว แล้วก็อีกนั้นแหละเรื่องระหว่างเรา 3 คนก็ไม่มีใครรู้อีกเช่นกัน
จนกระทั่งงานจะเริ่มผมเลยกดเครื่องให้ไปรับฝากข้อความแทน เพราะผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดกับใครได้อีก
ความคิดเห็น