ตราดอกไม้
ฉันคิดว่าตัวเองควรคัดลองแบบให้สังคมยอมรับฉันหรือมองคนอื่นจะดีหรือเปล่าควรทำแบบคนอื่นเป็นครูเพื่อใช้ชีวิตในภายภาคหน้าของตัวเอง
ผู้เข้าชมรวม
72
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าชีวิตที่ตัวเองสุดแสนจะพอดิบพอดีจะพังเพราะเพื่อนของตัวเองหลายๆอย่างตั้งแต่หลายความคิด..
นี้ฉันยังสติดีอยู่หรือเปล่า
ฉันเครียดจัดถึงขนาดกระโดดตึกนอนม๊องแท็งไปกับชีวิตตัวเอง
ตอนที่หนึ่ง
สวัสดีชาวโลกหญิงสาวสุดอันเลิศจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่วันๆนักอย่างหนังสือจนเพื่อนเรียกว่าเด็กเนิร์ดหากแต่ด้วยความเพื่อนล้อเลียนในวัยเด็กเริ่มพยายามสร้างฝันอันแปลกแหวกแนวของตนเอง
"อีดอก***.."
"อีกระหรี่**"
เสียงเพื่อนบ้างกลุ่มที่ตอนนี้มีฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วทำให้ฉันอยากโดดเด่นในสังคมแสงสีเสียงบ้างต่อให้พ่อแม่ด่าก็ยอมหากแต่
การขโมยเงินพ่อและแม่มาแต่งตัวทำตัวให้โดดเด่นเท่าพวกกลุ่มแก๊งที่เป็นชื่อเสียงในโรงเรียนแล้วฉันถึงกับมุ่มมันยอมทุกอย่าง
"รู้จักอีเฉิมนี้หรอ"
"ไม่ละ..ดูมันเด็กเรียนวะไม่เอาหรอก"
"...."เป็นเพื่อนด้วยยากจัง
การที่ฉันพยายามทำตัวให้เด่นในโรงเรียนคือการหาแฟนหาผู้ชายมาอวดเพื่อนและหากิจกรรมที่มันเท่ๆหลายๆอย่างแต่เอาเถอะ
ด้วยรูปร่างของฉันนั้นเป็นรูปทรงนักรบไม่สิอวบมากกว่าหุ่นนางแบบหรือหุ่นผอมกะล่องฉันเลยต่องหาวิธีให้ตัวเองเก่ง
"โออีโง่นี้ตามพวกกูเลยให้มันเป็นเพื่อนเท่านั้นแหละ"
เสียงเพื่อนในแก๊งพูดขึ้นจากการลบตัวจากการเป็นเป้านิ่งเลยต้องยอมเดินถือกระเป๋าให้เพื่อนๆ..
ท่องเอาไว้….นาม เธอต้องทำได้..
ฮือออ...ฉันต้องไม่เป็นคนหัวโดยเดียวโว้ยย
"มึงอีจุดดด..ไอ้จุดดด"
"นี้นะกระเป๋าพวกเธอ.."
"ขอบคุณเพื่อนรักก..นั่งสิ"
นี่สิเป็นสิ่งที่ฉันสมควรจะได้รับจากเพื่อนๆการเป็นเบ้อาจจะดูแย่สักหน่อยแต่ไม่นานฉันอาจจะหาตัวตนในอนาคตแน่ๆ
เพื่อนของฉันชอบแบ่งกลุ่มกันคนเก่งคือคนเก่ง..คนสวยคือกลุ่มคนสวย..ส่วนคนที่เหลือคือพวกที่จับกลุ่มจากสถาบันเก่าไปหรือไม่ก็บ้านติดกันเท่านั้น ไมก็เป็นพวกเกาะติดเอาตัวรอดจากสังคมพวกนี้
"อยากหลุดออกจากวงโคจรพวกนี้ซะจริง"
ฉันนั่งบ่นในสิ่งที่่ตัวเองทำมาตลอดครึ่งเทอมการเย็บกระเป๋าถึงแม้จะมองว่าดูแย่แต่ฉันคิดว่าถ้าคิดในความมุมมองดีๆแล้วฉันอาจจะได้เป็นทหารหรือไมก็วิศวกรในอนาคก็ได้
การเรียนใน14-15วิชาของฉันก็ไม่ดีนักฉันไม่ใช่คนฉลาดอะไรเผอๆอาจจะโง่กว่าคนอื่นด้วยซ้ำอ่านหนังสือภาษาไทยได้พอพาๆแต่ภาษาจีนและอังกฤษ รวมไปถึงภาษาญี่ปุ่นยังไม่รวมไปถึงวิชาอื่นๆ
นี่ฉันจะตายก็กลองภาษาใช่หรือไมตอนนี้อย่างมากฉันอาจจะได้แค่ผ่านๆแน่นอนหวังว่าตัวเองจะได้คะแนนสวยๆอยู่เหมือนกันพยายามฝึกฝนหาที่เรียนพิเศษเพื่อต่อสู้กับสังคมที่ต้องแข่งขัน
พอให้พ่อแม่พูดกับคนอื่นๆรู้เรื่องในสังคมยุคสมัยนี้เท่านั้นเองถึงแม้ฉันจะไม่ชอบก็ตามฉันพยายามหาวิธีในเด็กวัย11ปีจะหาได้
"แกอย่ามาลอกฉันบ่อยได้ไหมยะ!!"
"เอ่อ..ขะโทษเดียวเราถือกระเป๋าให้เธออาทิตย์หนึ่งเลย"
"เอ่อไม่ต้องหรอกเอาแค่งานจากโต๊ะครูไปส่งก็พอ"
"......"
เกลียดสังคมพวกนี้ซะจริงๆฉันมักจะหาหนทางในการอยู่ในสังคคนกลุ่มมากให้ได้มาที่สุดการมีแฟนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นิยมในเด็กวัยรุ่น
"กูได้ละอี.จอย ม.จุดๆๆ.."
เสียงผู้ชายเพิ่งจะเดินผ่านฉันไปไม่นานเมื่อกี้นี้ทำไมชีวิตฉันถึงได้ซวยแบบนี้ราวกับเทพแห่งกงกรรมกงเกวียนกันแกล้งมาพลิกเหญียนให้ฉันเห็นด้านที่ตัวเองไม่เคยเห็นซะก่อน
"นาม เธอมีแฟนยังจ้ะ"เสียงเพื่อนสนิทไม่นานจากการสอบเข้าคุยหวงว่าจะได้คุยกันรู้เรื่อง
"เอ่อยัง.."
"ว้ายตายแล้วพ่อแก้วแม่แก้ว..แฟนก็ไม่มีแบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องหรือเนี่ยเธอ"
เธอพลักฉันเหมือนไม่พอใจที่ฉันไม่เหมือนกังเธอเล็กๆฉันได้แต่ยิ้มหน้าตายพยายามยืนยันว่าเดียวมันก็มาเพื่อไหลตามน้ำไป..
"อีดอก..มาเดียวกูหาให้ของกูก็เยอะ"
เสียงสาวสองบอกและอวดความสามารถที่เธอโดดเด่นให้กับฉันรับรู้
"ขอบคุณพอดีนึกได้ว่ามีธุระนะ"
ชีวิตเหมือนนาฬิกาฉันอยากใช้เวลาในวัยเด็กของฉันที่ไม่เหมือนคนอื่นฉันพยายามเกลี่ยสังคมจากการให้คำพูดมากมายหลายคน..
ฉันเริ่มไล่ถามทุกคนในห้องแบบเนียนๆว่าความชอบที่แท้ๆจริงของพวกเค้าจริงๆแล้วนั้นคืออะไร
ฉันสนิตสนมกับครูแนะแนวฉันเลยของฝากตัวเป็นสายให้กับแกฉันได้ไปบอกความคิดแง่ลบของฉันบ่อยๆกับแกจึงมอบหน้าที่สำคัณนี้ให้กับฉัน
หนึ่งในเพื่อนทั้ง43คนและฉันใช้เวลา5เดือนล้วนลอกถามพบว่า..
ค่านิยมคือ..ความสวยและแฟนสำหรับผู้หญิงสีวนผู้ชายคือผลการเรียนและความหล่อ..ส่วนพวกอื่นๆก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก
ฉันได้ขนมจากครูแนะแนวบ่อยจนเลิกคนเรื่องร้ายๆจนบ้างครั้งฉันแทบจะลองซื้อขนมคืนให้แกบ้าง
ฉันมังจะหวาดกลัวการมีเพื่อนอยู่บ่อยๆเพราะอาการคิดมาแต่มันมาพร้อมกับคะแนนที่มากขึ้น
ฉันเริ่มเอาค่านิยมเก่าๆมาอ่านหวังว่สมันจะเป็นหนทางรอดในยุคปัจจุบันจนเพื่อนตั้งฉายาว่า
อีหัวโบราณขับคึก..
ห้องหนังสือคือสิ่งที่ฉันชอบแต่น่าเสียดายครูไม่ชอบให้ฉันเข้าไปนอกเวลาฉันชอบอ่านหนังสือทุกเล่มในนั้นเพราะมันทำให้ฉันพูดกับเพื่อนในห้องได้ไหลลื่อและเค้าก็เปิดใจยอมรับบ้าง
เพื่แนบ้างคนเริ่มหาเวลาโดดเรียนและชวนฉันร่วมไปถึงการกับกลุ่มตีกันแต่ก่อนฉันมังจะไม่แคร์เพื่อน
จนแล้วจนรอดฉันก็หลายเป็นสาวฉายานักเลงมีดมือเดียว..ที่เพื่อนที่รักบอกว่าจะค่อยช่วยฉัน
พอนฝรองผอ.แจ้งว่าจะลากฉันเข้าคุกเพื่อนที่รักในการทะเลาะวิวาพากันทิ้งฉันให้รับเคาะคนเดียวรวมไปถึงละประวัติเสียให้กับตันฉันเอง
คำว่าเพื่อนไม่เคยทิ้งกันในวันนั้นฉันแบบอยากเอาเท้าเหยียบให้จมดิน..
ตอนนี้ฉันร้องไห้โดนคนดูแลของตัวเแงปี้ไหล่ที่ต้องขอโทษพวกที่ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องและตั้งแต่ฉัน
บรรดาอาจารย์เล็กและน้อยใหญ่ไม่นับผลงานหรือการบ้านของฉันสักเล่มจนแล้วจนรอดต้องยอมทำหน้าที่ช่วยและจิตอาสาทุกอย่างต่ออาจารย์
ถึงลบความด่างเผอยในวัยเด็กไปได้..
แลตะตั้งแต่นั้นฉันจำไว้ว่าฉันจะไม่ทะเลาะหรือต่อยตีหรือเอามีดไปทำลายใคาอีกการลงโทษแบบผู้ใหญ่รังแกเด็นในสมัยมือถือยังไม่มีนักมันรุนแรงมากๆ
ฉันสาบานกับตัวเองเร็จกับมาเป็นเด็กหนอนหนังสืออีกครั้งผลการเรียนพอดีมีหนังสือให้เลือกมากกมาย
พวกเพื่อนบ้างคนเริ่มสนใจในฝีมือของฉันในด้านนักเลงจะว่าด้านไม่ดีก็ได้พวกเค้าเคยเดอนมาจ้่างฉะนให้ไปทำร้่ยคนๆหนึ่งตอนที่ฉันกำลังอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่พอดี
"ขอโทษนะเงินแค่นี้ไม่พอและอีกอย่างฉันไม่ทำร้ายใครด้วย"
"แล้วมึงเอ่ย!แกจะเอาเท่าไร.."
"เท่าค่าเทอม..กับค่าอุปกรณ์"
"ป๊ากก..กูไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก"
"งันก็ช่างหัวมึงไป..ไสหัวไป"
ฉันอ่านหนังสือของตัวเองต่อฉันยอมรับในเรื่องด้านแย่และด้านดีในชีวิตของฉันการที่ฉันเริ่มคบเพื่อนต่างเพศเพราะฉันซื้อหนังสือที่แพงที่สุดจากต่างประเทศมาอ่านพวกนี้
ราคาแพงมากๆเกือบจะ45-50บาทไทยเลการที่ฉันอดข้าวเพื่อซื้อพวกนี้มันคุ้มค่ามากๆมันช่วยลดความดครียดของฉันเล็กมันฝังอาจจะดูตลกสักหน่อยแต่มันคือความจริง
พวกนั้นเป็นหนังสือนำเข้า3เดือนเข้ามาทีผู้ปกครแงของฉันบกว่าควรอ่านแค่ปีเดียวเพราะพวกเค้าไม่ได้มีเงินซื้อหนังสือให้ฉันพวกนี้ตลอดทั้งชีวิตหรอก..
"ว่าจะหางานพิเศษทำ.."
"แกอยากโดนแบบไอ้หนังสือวิกลจริตนั้นหรือไงมันเยอะเกินไปแล้วรู้ไหม"
"ค่ะหนูเจ้าใจแล้ว.อย่างน้อยหนูก็ไม่ได้ต่อยตีเหมือนแต่ก่อนแล้ว"
ฉะนยอมรับเริ่มทำขอตกตลกกับครอบครัวหนังสือลดความเครียดพวกนั้นหนุดอ่านมุมอ่านแต่หลังความรู้ผลคะแนนสอบได้แลกกับหนังสือลดความเครียด5เล่มก็ถือว่าคุ้มอยู่..
ต่อมาไม่นานฉันเริ่มมีนิสัยแปลกๆจนเพื่อโรงเรียนใหม่มองว่าแปลกการเห็นคนโดนรังแกในหนังสือฉันชอบมาแต่ในความเป็นจริงแล้วฉันไม่อยากโดนรังแกแบบนั้นเลยสักนิด..
ฉันเรียนติดำอปลานกลางแต่ก็พยายามอ่านเจ้าพวกนี้หลังจากที่โดนเพื่อนด่าว่าเป็นพวกโลกมืดและโลกส่วนตัวสูงกินคนจะคุยด้วย
ขนาดครูผู้สอนยังวินิจฉัยโรคของฉันไม่ได้จนทำการสังสอนฉันพอผ่านไปและให้ฉันเป็นเด็กมีปันหาของโรงเรียนอันดับที่สองของฉันปี
"ถามว่าแคร์ไหม..ตอบเลยว่าไม่"
ฉันว่าคนที่มีปันหาไม่ใช่ฉันถ้าฉันมีปัหาึจริงละก็ฉันคงเอาสิ่งที่แย่ที่สุดทำใส่ครูหรือผู้สอนให้สติแตกไปแล้วแต่ฉันได้รับบทเรียนจากที่โรงเรียนเก่า..
การเป็นนักเลงของฉันนั้นทำให้คนที่เป็นครอบครัวของฉันเข้าโรงพยาบาลพวกนั้นหวังแค่จะหลอกใช้ฉะนที่กำลังโกรธไปรังแกคนอื่นเท่านั้นเอง
ฉันเริ่มที่จะไม่สนใจการเรียนเพราะหาแต่สิ่งลดความเครียดของตนเองจนลืมหน้าที่สำคัญฉัรเริ่มหาวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารในการเอาตัวรอด..
"สายหูฟัง.."
ใช่บ้างครั้งในการสอนฉันลืมบอกอย่างน้อยฉันติดในรายชื่อเด็กมีปัญหาจึงไม่แปลกที่ฉันจะเป็นตัวอย่างให้เพื่อนหัวเราะเยาะและยิ้มออกมา
เอายิ้มก็ยิ้มม…
"อีประสาน.."
ฉันไม่สนใจครูสอนไปและฉันก็หวังว่าเจ้าสิ่งที่เค้าสอนจะเป็นประโยชน์ให้แกฉันในอนาคตไม่ใช้ทำลายแบบจิกกัดฉันรู้ว่สฉันเป็นคนเดียวทีาไม่เหมือนคนอื่น..
แต่ถ้าฉันทำสำเร็จ…
ความน่าภาคภูมิใจมันจะอยู่ติดกะบตัวฉันตลอดไป
การเรียนจบของฉันเหมือนการตัดสินชีวิตมากเท่ากับโยนสิ่งที่มีค่าทั้งหมดใส่กับพานใบใหญ่เลยทีเดียวมันกำลังกดดันให้ฉันเลือก..
ว่าชีวิต..ในครั้งนี้ฉันจะเป็นอะไร..
จะยอมแพ้แล้วเป็นฆาตกร
หรือจะชนะเป็นนักศึกษาที่เก่งคนหนึ่ง
ในวันที่2เกือบจะสำเร็จการศึกษาฉันโดนเพื่อนภายในห้องรุมลังแกเพราะแม่ของฉันเดินผ่านครูผู้สอนสามท่านหนึ่งด่าถึง..เรื่องที่แย่ๆ
คนพวกนั้นจึงไม่ให้โอกาสกับฉันดังเช่นฉันกระทำเช่นกันฉันถูกทำแบบเดิมๆในอดีตเพียงแต่ครั้งนี้แย่ไปสักหน่อย
ที่มีคนโยนของใส่หัวฉันและเปิดเพลงทีณีกันแสงใส่ฉันแล้วร้องอวยพรฉัน..
ตอนนั้นฉันเกือบอยากกับเป็นตัวเองในอดีตที่จับโต๊ะนักเรียนมาฟาดใส่ไอ้คนที่มันลอกเลียนฉันให้ตายๆไปสะ..
แต่ด้วยที่ว่าพรุ่งนี้คือวันสำเร็จการศึกษาแล้วฉันจะเลือกทางไหน..
หนี..
ฉันเลือกที่จะลุกขึ้นหนี..
ฉันไม่ร้องบอกให้หยุด..
เศษกระดาษที่โยนใส่หัวฉันนั้น..
มันก็แย่พออยู่แล้ว..
"กูอยากฆ่ามันใจจะขาด.."
ฉันเดินออกจากห้องเสียงแบบคนโง่ๆที่สมควรทำฉันต้องเลือกที่จะไม่เอาของไปทุบหัวมันให้เละ..
กล้ามากไอ้อีตัวไหนมันเปิดเพลงนี้อวยพรวันจบฉันฉันละอยากให้มันไม่มีเพลงนี้ในวันตายพ่อแม่มันจริงๆ
มือเปิดเข้าไปในห้องแม่บ้านพนมือตั้งสมาธิสุดชีวิต..
ไม่ฉันจะไม่ใช่นักเลง..
ฉันคือนักเรียนคนหนึ่ง
ฉันเก่งพอที่จะไม่เอาความกับคนที่เป็นแค่เศษสวะจากการเรียน
ฉันเก่งพอที่จะอดทดจากการกระทำผิดๆของผู้ใหญ่..
ฉันเก่งพอ..
ฉันนั่งเล่นอยู่ในฉันเตะโต๊ะเก้าอี้ภายในห้องมารดาบ้านเพื่อลดความเครียดทุกอย่างที่ฉันจะคิดได้ออกมาให้หมดร้องไห้ก็แล้วโยนของไปก็แล้ว
จนหมดคาบ..
เก็บทุกอย่างกับที่เดิมไม่ให้ใครรู้ก่อนจะกับบ้าน..
เดินออกนอกโรงเรียน..เห็นเพื่อนบ้างคนที่แอบว่าจะพูดประโยคปรับความเข้าใจเค้าบอกได้คำเดียวว่ากลัว
ฉันว่าเค้าทำถูกในตอนนั้นฉันอยากเอาโต๊ะเรียนทุกมันจริงๆและฉะนอยากลบเพื่อนทุกคน
ความทรงจำในช่วงนั้นแย่กว่าที่ฉันคิกอย่างน้อยๆให้ฉันได้ชื่นชมการจบของตัวเองเท่านนั้นเพียงพอแล้ว
ฉันมีความสุขที่ไม่พูดถึงพอดีตมุงมั่งเป็นคนทั่วไปดวงของฉันได้ที่ทำงานในออฟฟิตดังๆค่ายหนึ่งแต่ดูเหมือนสวรรณ์ไม่เป็นใจเท่าใดนัก
มารดาของฉันต้องการอวดฉันพาฉะนไปอวดเพื่อนของเธอก่อนที่ฉันจะเสียเวลากับการใส่ใจความรู้สึกแม่มากว่าความรู้สึกฉัน..เอาจริงไปฉันเสียงานออฟฟิศ
แต่ช่างมันดวงและธาตุของฉันไม่ใช่ทางนั้นอยู่แล้วฉันเป็นคนที่มีเส้นทางเดินมามายจนเพื่อนแทบจะมาแย่งงานในช่วงที่เรียนจบของฉัน
"เครียดจัง.."
ฉันคิกว่าฉันควรจะกับไปในเมืองแสงสีวิลัยที่มีดินแดนแห่งการสร้างอุปกรณ์มากมายที่เป็นหน้าไปเพียงเพราะค่าการจ่ายมันมากกว่าต่อให้มันเป็นนรกก็ตาม
แต่พอทะเลาะกับมารดามันกับทำให้ฉันค้นพบว่าการที่ฉันดิ้นในแบบนี้มันผิดพลาดฉันลืมสิ่งสำคัญของตัวเอง
ฉันลืมความสามารถและความเก่งของตัวเองตั้งแต่เกิดมา
เอาจริงๆตั้งแต่เกิดมามีคนมากมายเกลียดและรังเกียจฉันเพียงเพราะฉันเป็นลูกครึ่งหรือมีบ้างอย่างโดดเด่นกว่าเท่านั้นเอง..
ฉันบนแล้วว่าตัวเองควรทำอะไรและเดินไปทางไหนหากการเดินของฉันไม่มีใครชุดรังหรือค่อยแอบเอาเปรียบก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ฉันชอบในที่ๆใหม่มันมีธรรมชาติแต่ทุกครั้งที่ฉันนั่งในป่าในที่ธรรมชาติมันกับถูกพัฒนาด้วยพื้นปูนใหม่เอี่ยมและทันสมัยมากขึ้น
ฉันแอบหม้องตาละห้อย..เอาจริงพื้นหญ่สไม่เลวร้ายแต่พื้นปูนก็ก็ไม่แย่กว่ากันเท่าไร..
ฉันเองก็ชอบแต่คิดแค่ว่าสมัยเด็กแอบไปสนิตปีนต้นมากับพวกแก๊งเด็กเงาะป่ามันสนุกดีกว่านั่งบนปูนร้อนๆเท่านั้นเอง
ฉันรักธรรมชาติอย่างน้อยมันก็ค่อยหล่อเลี้ยงในยามไม่มีแต่หากทันสมัยคงมีเพียงสิ่งเดียวที่คนตามหา…และเป็นหลอดดูดน้ำหลอดเดียวแน่ๆ
มีหลายคนบอกว่าชื่อฉันเหมือนกับการกระทำฉันบ้าบอๆฉันแค่โดนทั้งล้อทั้งชื่อและนามสกุลมาแล้วจนเริ่มเก็บมาคิดเลยก็มี
ชีวิตในอดีตมาทำให้ฉันถามไปถึงพวกที่เป็นต้นตะกลูของฉันในควาทันสมัยพวกนี้มันก็
กำลังเหยียบฉันให้ตามเส้นทางของฉัน
"ฉันมีสิ่งใดบ้างที่เก่งกว่าคนอื่น..ดีกว่าคนอื่นจนทำให้คนอื่นร้องออกมาว่าอิจฉาจังเลยได้บ้าง"
จนในที่สุด
มันมีวันๆหนึ่งที่ฉันรู้..
ฉันโดนคนในโรงเรียนก่อกวนชนิตร้ายแรงเรื่องงานอดิเรกของฉันนั้นเองที่จริงอาจจะเป็นเพราะความไม่สมเหตุนั้นแหละมันเหมือน..
ลูกกลิ้งที่หมุนในจานเวลาแค่จะตกว่าดีหรือซวยเท่านั้นเอง..
ฉันไม่อยากยุ่งกับการพนันมากนักเพราะเจอพวกนี้ที่ไรฉันมักจะหักหน้าพวกเค้าหรือไม่ก็เกมส์พลิกทุกที..
ฉันของใช้มันกับความรู้สึกของฉันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว..
หลายๆคนมักบอกว่าฉันเก่งมาก..เก่งมากๆในวัยเด็กแต่ทุกอย่างมีสองด้าน..ไม่ว่าจะเป็นเต้น.ครอบครัวให้การสนับสนุนเพื่อนอิฉารให้เป็นกระหรี่เต้นรูดเสา(ประชด)เพื่อจะเด่นกว่า
ก็ชีวิตมันเรื่อยๆฉะนชอบสวนผีกและเดินตลาดมันเหมือนฉันกำลังได้เรียนรู้สิ่งที่ตัวเองได้เกิดมาหรือไม่ก็ได้เห็นของใหม่ที่ไม่มีใครได้เห็นก่อนใครๆจะเห็น
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าฉันแค่คนพูดเยอะจนเลยเถิทฉันแค่อยากต่อรองในวาจารของฉันมากนั้น
"เอาง่ายๆปากฉะนแพงกว่าปากคนทั่วไปแน่ๆ"
ใช่ว่าฉันต้องกินของแพงนะฉันอยากได้ความรู้อยากถูกต้องเท่านั้นใครจะว่าหารือจะห้ามฉันก็ช่างขอให้ฉันได้ความสุขในการแก้ไขปันหาของตัวเองก็ตาม
เล่นจนฟ้าผ่าเลยฉัน
มีผู้ชายแหละหญิงคนหนึ่งเคยบอกกับฉันว่า..พวกเค้าทังชีวพไม่ได้ร่ำรวยเพียงแค่หลีกหนีความวุ่นวายที่พวกเค้าสร้างมันขึ้นมาเองเท่านั้น .
ฉันหัวเราะ..ก่อนที่มันจะตรงอย่างที่เค้าว่าจริงๆ
ถ้าเค้ายังอยู่ฉันคงตอบว่าในยุคสมัยนี้คงใช้วิธีแก้ปันหาแบบหลีกหนีไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมันมือมือวิเศษ
ฉันพำพล่อมาเลยอะมากต้องไม่เชื่อแน่ฉันเคยสติแตกกับเครื่องมือวิเศษพวกนี้นั้นก็คือเพื่อนในอุปกรณ์พวกนี้หลายต่อหลายครั้ง
ฉันเคยลองใจเพื่อนตัวเอง..โดยการคบคนที่ไม่ได้หล่อเหล่าแต่อาจจะดูไม่ดีมานิดหน่อยเำื่อนของฉันเห็นจุดนี้เริ่มเอารูปที่ฉันแชร์..ลงไปปล่อยในกลุ่มหรือไม่ก็เอาไปพูดกันจนสนุกปาก
"กูเกลียดมัน.."
ฉันไม่เคยคิดจะพูดคำนี้กับเพื่อนตัวเองเลยสักนิดเพื่อนแก้คำพูดตัวเองเหมือนกันจนลิ้นพันเอาเถอะอย่างน้อยๆการเติบโตขึ้นของฉันมันก็ได้สร้างอะไรหลายๆไปได้ด้วยดี
ลบทิ้ง…
ฉันว่าจะพยายามเลิกเล่นเจ้าเครื่องมือพวกนี้อยู่หลายครั้งฉันรู้สึกการหัวเราะเยาะเมื่อฉันใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมือนพวกเค้าอันนี้ฉันเก็บกดเป็นปวดใจเหมือนกัน..
ถึงแม้ชีวิตมันไม่ได้จำเป็นเท่าใดนั้นฉันก็ไม่อยากเปลี่ยนมือถือเหมือนเปลี่ยนกางเกงในหรือนะ..
หรือว่าทุกวันนี้มันทำให้เราสะดวกเกินจนเสพติดลองหัวไม่มีเจ้าพวกนี้บ้างคงจะดีไม่น้อยเอาเป็นว่าฉันทำได้แค่1ชั่วโมง
แต่ยังไงฉันก็ต้องใช้มันมันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยฉันผ่านการศึกษาในยุคสมัยนี้ถึงแม้ใครหลายคนจะห้ามหรือพูดมันเป็นเรื่องธรรมดาก็ตาม
เจ้าอุปกรณ์นี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ทำให้ฉันวิ่งออกไปเอาโต๊ะทุบหัวเพื่อนละนะ…
นี้ฉันจะหลายเป็นคนที่โลกแคบไปสักหน่อยแต่พยายามหยุดหลายๆอย่าง..
ฆ่าคนไว้ดังไม้คาถาวิเศษ..มือถือ..
มีคนหลายคนบอกฉันว่าชื่อของฉันอาจจะคล้ายกับศิลปินที่ร้องเพลงได้หลากหลายภาษาแล้วโดนประหารด้วยเสียงเพลงมากมาที่เค้าร้องออกมาและมันเป็นการฆ่าที่เร็วความตายยังเร็วยังอยู่ในยุคปัจจุบัน
ถึงแม้เราจะมีบ้างอย่างที่ชอบแต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยบอกใครนักการบอกจุดอ่อนก็เหมือนหนังในเรื่อง ทศกัณฐ์กับพระรามหรือไม่ก็โฉมงามกับเจ้าชายอสูรนั้นแหละ..
คุณเลือกที่จะเหยียบย่ำความสุขนั้นแลกกับความสะใจหรือไม..เท่านั้นเอง
ผลงานอื่นๆ ของ ดงงู ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดงงู
ความคิดเห็น