คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : DBS :: 04 - CHILL OUT
… อากาศอึมครึมชวนเหงาในช่วงเวลาใกล้เย็นย่ำทำให้กลีบปากอิ่มที่เริ่มกลายเป็นสีแดงจัดเพราะความหนาวอ้าออกหาวคำโตระหว่างรอบรรดาขนมมาเสิรฟ์
ร้านที่ชานยอลเลือกพาคริสมาอยู่ไม่ไกลจากร้านหนังสือนัก เป็นเพียงร้านคอฟฟี่ช็อปขนาดกลางๆที่ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลส้มอบอุ่นและเน้นการใช้ไม้วอลนัทสีเข้มมาทำฟอร์นิเจอร์ให้ความรู้สึกสบายตาไม่ฉูดฉาดจนเกินไป
ร่างโปร่งเดินนำเข้ามาในร้านอย่างคุ้นชิน ตรงดิ่งไปยังที่นั่งประจำโดยมีคริสเดินตามไปเงอะๆงะๆก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของสาวๆในร้านเป็นพัลวันจนชานยอลหมั่นไส้
... ฮอทจริงจริ๊ง
หลังจากจัดการสั่งขนม เครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว ความเงียบก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ... น่าแปลกที่ถึงแม้จะไม่ใครปริปากพูดอะไรแต่ชานยอลก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร อยู่กับคริสก็สนุกดี
... สนุกเพราะได้แกล้ง :D
“ออเดอร์ที่สั่งได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เพียงเวลาไม่นานโต๊ะไม้วอลนัทก็เต็มไปด้วยกองทัพขนมหวานวางเรียงรายละลานตาไปหมดจนไม่รู้จะกินชิ้นไหนก่อนดี เมื่อกี้คุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่าคริสก็เป็นพวกเดียวกับเขาเลยจัดการสั่งมาซะเต็มที่
... พวกบ้าเค้ก
“ขนมร้านนี้อร่อยมาก กินเยอะๆนะคริส”ชานยอลฉีกยิ้มกว้างขณะตักชีสเค้กทอปปิ้งสตรอเบอรี่สีขาวครีมตัดกับสีแดงสดของแยมเข้าปากอย่างอารมณ์ดี ... แหม พี่จุนอุตส่าห์ใจดีให้ตังค์มาเลี้ยงทั้งทีก็ต้องกินให้เต็มที่ เย้!
คนถูกชวนมองแก้มกลมขาวที่ตุ่ยขึ้นน้อยๆจนอดนึกถึงกระรอกน้อยชอบอมอาหารไม่ได้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนลงมือจัดการกับชาเขียวเฟรบเป้และเครปเค้กตรงหน้า
ร่างโปร่งค่อยๆละเลียดรสชาติหอมมันของชีสที่รวมตัวกับรสเปรี้ยวอมหวานของแยมช้าๆ นัยน์ตากลมหลับพริ้มอย่างเปี่ยมสุข
“ฮึๆ”เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนนั่งฝั่งตรงข้าม ชานยอลก็ลืมตาขึ้นก่อนสำนึกได้ว่าเผลอทำท่าประหลาดๆให้คริสได้เห็นเข้าซะแล้ว ...
... ก็ทำไงได้ ตังค์มันไม่ค่อยมี นานๆจะได้มากินที
“หัวเราะทำไม”ช้อนส้อมคันเล็กถูกยกขึ้นชี้ขู่จนคนที่กลั้นขำจนปวดแก้มต้องยกมือขึ้นยอมแพ้คนตาโตยอมเลิกราไป
“คุณชานยอล ... น่ารักครับ”
“...”
“จริงๆนะครับ”
“อือ ...”คราวนี้กลับเป็นชานยอลซะเองที่ไม่กล้าสู้หน้าหล่อๆของคนตรงหน้า เลือดพร้อมใจกันสูบฉีดมาเลี้ยงที่แก้ม หัวใจเต้นแรงจนน่ากลัวว่ามันหลุดออกมา
“คุณชานยอล ...”
“หือ”
“ผมมีอะไรอยากจะขอ ...”
“ว่ามาสิ”ชานยอลคาบช้อนไว้ในปาก เอามือเท้าคางไว้เป็นท่าดอกไม้บาน นัยน์ตากลมแป๋วจ้องมองคริสอย่างตั้งใจยิ่งทำให้คนขี้อายไม่กล้าพูดเข้ากันใหญ่ ...
... งานใหญ่ใจต้องนิ่ง อยากได้แฟนมุ้งมิ้งใจต้องกล้า!
…
…
“ผม ... ขอจีบคุณชานยอลได้มั้ยครับ”
…
…
คนถูกถามได้แต่เบิกตาโตๆของตัวเองให้โตขึ้นอีกนิด กลีบปากอิ่มแดงอ้าค้าง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่เริ่มขึ้นสีน้อยๆอย่างไม่เชื่อสายตา
...
... คริสขอจีบผม ?
... ผมเนี่ยนะ ?
…
“เอ่อ ... ถ้าคุณชานยอลลำบากใจ ... ผม ...”
“แล้วแฟนของคริสล่ะ เขาไม่ว่าเหรอ”ชานยอลพูดออกมาอย่างลืมตัว เมื่อนึกถึงเจ้าของดวงตาใสแป๋วเหมือนกวางน้อยคนนั้น ... เขาไม่อยากจะโดนหักอกอีกแล้ว
“แฟนผม? … ใครครับ”คริสขมวดคิ้วมุ่นพลางทำหน้าจริงจังซะจนชานยอลไม่กล้าสงสัยต่อ ใบหน้าน่ารักเบนออกไปสนใจหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาบางๆภายนอกร้านผ่านกระจกใสแทน
“คุณชานยอลครับ ...”เสียงทุ้มทอดอ่อน ราวกับออดอ้อนให้เขาหันหน้ากลับไปไขข้อข้องใจให้ตัวเอง แต่คนน่ารักกลับทำแข็งใจไม่ยอมหันไป ...
... ความจริงใจอ่อนตอบตกลงไปตั้งนานแล้วล่ะ
... ที่ทำอยู่แค่อยากรู้เฉยๆว่าคริสจะตื้อผมด้วยวิธีไหน
... แกล้งคริสสนุกจะตาย ;P
“ชานยอลอ่า ... หันมาหน่อยได้มั้ยครับ”
“...”
“ชานยอลอ่า~ …”
คมฟันขาวขบกลีบปากล่างไว้แน่นเพื่อกลั้นรอยยิ้มที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะเสียงเรียกของผู้ชายขี้อายคนนี้ สรรพนามใหม่ที่ถูกเอ่ยมามันทำให้ชานยอลอจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการลดช่องว่างระหว่างกันและกันให้แคบลง ...
นัยน์ตากลมแกล้งเหลือบมองนิดๆก่อนเชิดหน้ากลับไปมองด้านนอกดังเดิม เล่นเอานักตื้อรุ่นอนุบาลสลดวูบ นั่งก้มหน้าจ๋อยๆไปตามระเบียบ ... โถ่ ... ไม่มีความพยายามเลย
“ก็คนที่มาร้านหนังสือกับคริสบ่อยๆอ่ะ ... ไม่ใช่แฟนหรอกเหรอ”ชานยอลเลิกแกล้งเพราะเริ่มสงสารคนขี้อายที่ตอนนี้ทำหน้าหงอย ถอนหายใจเฮือกๆอยู่ฝั่งตรงข้าม พอคริสได้ยินเขาพูดเจ้าตัวก็รีบส่ายหัวปฏิเสธจนเส้นผมสีทองสว่างสะบัดไปมา
“ไม่ใช่ครับ ลู่หานเป็นญาติของผมเอง ...”
“อ้อ ...”คนน่ารักพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แอบดีใจนิดๆที่อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้เป็นแฟนคริส ...
... เพราะถ้าเป็น
... ชานยอลคงไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้
“แล้วตกลง ... คุณชานยอลจะ ... จะให้ผมจีบได้มั้ยครับ”คริสทำใจกล้าพูดออกไปอีกรอบเมื่อเห็นว่าเรื่องชักจะเบี่ยงประเด็นออกไปไกลขึ้นทุกที
“บอกเหตุผลมาซิว่าทำไมฉันถึงต้องอนุญาติให้คริสจีบด้วยล่ะ หือ”
“... ไม่ได้เหรอครับ”
...
...
...
“เปล่า ... แค่จะบอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ต้องขอฉันก็ได้ :D”
... นี่ผมไม่ได้ตกลงนะ
... ผมแค่ชี้ทางสว่าง
... จริงๆนะครับ ;P
…
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ~”
ชานยอลหันไปยิ้มน้อยๆให้พนักงานสาวเสียงใสที่รู้จักกันก่อนเดินออกจากร้าน มอืเรียวทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาอังไว้เหนือกลีบปากแดงฉ่ำจากอากาศหนาวเย็นภายนอกพลางเป่าลมร้อนออกมาเบาๆ
โชคร้ายที่เขาไม่คิดว่าหิมะจะตกเพราะเมื่อตอนบ่ายอากาศยังเย็นสบายอยู่ แต่ก็ไม่แปลกที่มันจะตกเพราะช่วงนี้เข้าฤดูหนาวพอดีจึงได้แต่โทษความสับเพร่าของตัวเอง
“คุณชานยอลหนาวมั้ยครับ”นัยน์ตากลมกลอกมองคนที่อาสาเดินไปส่งถึงแมนชั่นก่อนส่งเสียงในลำคอตอบกลับไปเบาๆ
“อ๊ะ ...”
“เอาไปเถอะครับ ผมใส่เสื้อมาหนา”
ร่างโปร่งสะดุ้งน้อยๆเมื่อมีวัตถุอ่อนนุ่มขนาดใหญ่คลุมลงบนไหล่ ไออุ่นของคริสยังกรุ่นอวลอยู่ภายในทำให้ชานยอลรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอด ท่อนแขนเรียวสอดเข้าไปในเสื้อโค๊ทตัวยาวแบบกระดุมสามแถวอย่างไม่เกี่ยงงอนเพราะตอนนี้เขาเองก็หนาวจนแทบทนไม่ไหว ...
“ขอบคุณนะ ตัวนายอุ่นจัง”ชานยอลแสดงสีหน้าพออกพอใจพร้อมรอยยิ้มหวานๆกลับไปพร้อมคำขอบคุณคนขี้อายที่เริ่มกลับเข้าท่าประจำ ... ก้มหน้างุดๆ เกาหัวแกรกๆ สเต็ปเดิมที่เห็นบ่อยจนชินตา
... แต่น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่าเขาน่ารัก
... ดูน่าเอ็นดู น่าแกล้งล่ะมั้ง
ท่ามกลางปุยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าสีทึม บนถนนระหว่างทางมีผู้คนบางตา ชานยอลและคริสเดินเคียงกันไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ แม้จะไม่มีบทสนทนาแต่บรรยากาศก็ผ่อนคลายไม่เครียดเกร็งเหมือนตอนเจอกันใหม่ๆ ...
“คริส แวะตรงนี้แป๊ปนึงสิ”
“ครับ?”
ชานยอลคว้าท่อนแขนแกร่งของอีกฝ่ายพลางจูงลากไปอย่างลืมตัว คริสอมยิ้มน้อยๆกับท่าทางเหมือนเด็กๆนั้นแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี ...
“อ้าว พ่อหนุ่ม เอาคู่ไหนดีจ้ะ เชิญเลือกเลย”
“ขอบคุณครับ”
ที่ที่ชานยอลจูงคริสมาคือร้านขายถุงมือในเพิงเล็กๆที่มีเพียงคุณป้าหน้าตาใจดีท่านหนึ่งนั่งเฝ้าร้านอยู่ คนตาโตเอานิ้วชี้ขึ้นแตะกลีบปากค้างไว้อย่างใช้ความคิด ... อืม ... ลายนั้นก็ดี ลายนี้ก็สวย
“เอาอันนี้ครับ”เลือกไปเลือกมาอยู่นาน สุดท้ายมือเรียวก็หยิบถุงมือลายตัวการ์ตูนฟองน้ำสีเหลืองขึ้นมา 1 คู่โดยมีคริสยืนมองอยู่เงียบๆ
เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อย ชานยอลก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคริสพลางฉีกยิ้มกว้าง คว้ามือของคนตัวสูงมากอบกุมไว้
“อะ ... เอ่อ ...”
“ฉันไม่ได้จะลวนลามคริสหรอกน่า ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้”ร่างโปร่งพูดอย่างรู้ทันความคิดของคนตัวโต ถุงมือคู่ใหม่ถูกจัดการสวมเข้าไปอย่างเรียบร้อย ... ถึงลายจะแบ๊วไปนิด แต่ก็เข้ากับคริสไม่หยอก
... สปอนจ์บ๊อบก็โอเคนะ~
“รีบเดินเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อน”
“อ้าว ... แล้วทำไมคุณชานยอลถึงซื้อมาคู่เดียวล่ะครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันอุ่นแล้ว”ชานยอลกระชับเสื้อโค๊ทตัวใหญ่ให้แนบลำตัวมากขึ้น แอบเหลือบตามองคนข้างๆก็พบว่าหูแดงไปแล้วตามระเบียบ
ทั้งคู่เริ่มออกเดินอีกครั้งแต่คราวนี้กลับมีบางอย่างผิดปกติ ... คนตาโตรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายจงใจเดินแกว่งแขนเบาๆจนนิ้วมาชนกันแต่ดันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ...
... โถ่ ไม่ต้องมาทำฟอร์มหรอก
... เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะไม่รู้
ชานยอลลอบยิ้มกับตัวเองก่อนลองใช้นิ้วก้อยไปแตะๆหยั่งเชิงก่อนแล้วจึงสอดนิ้วมือทั้งหมดเข้าไปประสานกับอุ้งมืออุ่นๆผ่านถุงมือของคริสพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เลียนแบบ
... อยากจับมือก็ไม่บอก~
ต่างฝ่ายต่างเดินมองรอบๆไปเรื่อยเปื่อย ไม่กล้าหันมามองหน้ากันเอง ... ถึงชานยอลจะเป็นคนเริ่มก่อนแต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเขาก็เขินเป็น ... เขินมากๆด้วย
...
...
“ขอบคุณนะที่เดินมาส่ง ... จะขึ้นไปดื่มอะไรหน่อยมั้ย”เมื่อเดินมาถึงหน้าแมนชั่นอันเป็นจุดหมายปลายทาง ชานยอลก็ค่อยๆคลายมือออกจากการเกาะกุมก่อนพูดชวนคริสด้วยน้ำเสียงเป็นปกติทั้งที่หัวใจมันเต้นรัวจนเหนื่อยไปหมด ...
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ คุณชานยอลพักผ่อนเยอะๆนะครับ”
“อื้อ”
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ... ฝันดีครับ”
จังหวะที่คริสกำลังจะหมุนเดินกลับไปทางเดิม ชานยอลก็นึกแผนแกล้งคนขี้อายขึ้นมาได้อีกอย่าง จึงแกล้งพูดขึ้นลอยๆหน้าซื่อตาใส
“ฝันถึงคนชื่อคริสอู๋นี่ ถือว่าเป็นฝันดีมั้ยน้า ...”
คนตัวสูงชะงักขาราวกับถูกตอกหมุดอยู่กับที่ก่อนหันมาส่งยิ้มอายๆให้คนขี้แกล้งได้พอใจกับผลงานของตัวเอง
“ผมไม่รู้หรอกครับว่าดีมั้ย ...”
“หือ ...”
“แต่ถ้าคุณชานยอลฝันถึงผม ...”
“...”
...
...
“... ผมว่ามันก็ดีนะครับ”
TBC.
- อันยองงิ~ เค้ากลับมาแว้ว สอบเสร็จพอดี อาทิตย์นี้อัพไม่อั้นจ้า~
- ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เลยนะ มีกำลังใจขึ้นมากๆ ดีใจที่ทุกคนชอบฟิคเรา
- เมนชั่นมาคุยกับเราบ้างก็ได้นะ เราเหงา ทวงฟิคเราก็ได้ @BELLKYULO96
- แท็คเดิม ตอนนี้ก็ยังเงียบๆอยู่ #คริสขี้อาย
- แล้วเจอกันตอนต่อไปจ้า~
ความคิดเห็น