คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : DBS :: 02 - STARRY NIGHT
...
...
... ภายในห้องพักขนาดกลางๆของแมนชั่นถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้น โทนสีครีม น้ำตาลทำให้บรรยากาศดูสบายๆเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่โล่งจนเกินไปและไม่รกจนเกินไปบ่งบอกถึงรสนิยมของคนอยู่ ...
... ต้องขอบคุณคุณป้าผู้ใจดีที่ให้ที่พักกับเขาฟรีๆในฐานะผู้ดูแลแมนชั่นแถมมีเงินเดือนให้อีกต่างหาก ...
ร่างโปร่งรีบจัดการหาผ้าขนหนูมาห่มให้เจ้าเหมียวที่ตัวสั่นงกๆอยู่ในอ้อมแขน ก่อนเดินไปเปิดฮีตเตอร์เพื่อให้อากาศอุ่นขึ้นอีกนิด ปล่อยให้ผู้มาใหม่ยืนเคว้งอยู่หน้าห้องอย่างมึนงง ...
“อ้าว โทษที ... ถอดรองเท้าแล้วเข้ามาเลย ข้างนอกมันหนาว รอให้ฝนซาก่อนแล้วค่อยกลับดีกว่าเนอะ”มือเรียวดึงท่อนแขนอีกฝ่ายให้ก้าวเข้ามา คนตัวสูงโค้งหลังเป็นเชิงขอบคุณแล้วจึงก้มลงไปถอดรองเท้าผ้าใบคู่สวยท่าทางแพงไม่เบาออกมาวางไว้บนชั้น นัยน์ตาเรียวคมกวาดสำรวจไปรอบๆอย่างสนใจ
“ถอดเสื้อนอกออกก่อนดีกว่ามั้ย เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”ชานยอลเอ่ยกับคนที่นั่งเกร็งอยู่บนพื้นโดยมีโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กตั้งอยู่ตรงกลางห้องห้องยิ้มๆ แอบเห็นรอยเปียกชื้นบนไหล่เสื้อฮู้ดเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
... ดูเหมือนคนฟังจะลังเลนิดหน่อยก่อนจะยอมถอดเสื้อตัวนอกออกแต่โดยดี เส้นผมสีทองสว่างที่ล้อมกรอบใบหน้าเรียวใต้รูปภายใต้ผ้าปิดปากดูเหมือนจะทอประกายได้ภายใต้แสงไฟบนเพดาน แต่เมื่อมือหนายกขึ้นมาถอดปราการชิ้นสุดท้ายบนใบหน้าออก ชานยอลกลับพบสิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่า ...
...
...
... นี่คนหรือเทวดา
...
...
... นอกจากดวงตาที่เรียวคมคู่นั้นแล้ว สันจมูกที่โด่งได้รูปรับกับริมฝีปากหยักลึกสีอมส้มธรรมชาติยิ่งเพิ่มเสน่ห์ได้กับรูปหน้าเรียวยาวได้เป็นเท่าตัว ...
...
...
... สรุปคือผมตกหลุมรักใบหน้าของเขาเต็มๆ
ชานยอลรู้ดีว่าการจ้องหน้าคนอื่นนานๆมันเสียมารยาท ร่างโปร่งจึงตัดสินใจเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องนอนทางด้านขวาจากห้องรับแขกด้วยท่าทางไร้วิญญาน ...
... ให้ตายสิ
... ถ้าหล่อได้ซักครึ่ง ทั้งชีวิตจะไม่เอาอะไรเลย
สะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกจากหัวได้สำเร็จแล้ว คนตาโตก็รีบจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีก่อนเดินออกจากห้องด้วยชุดนอนเสื้อยืด กางเกงขาสั้นย้วยๆ หัวเปียกซ่กมาที่ห้องรับแขก ...
“โกโก้หน่อยมั้ย ตัวจะได้อุ่นขึ้น”เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยถามเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างที่ย้ายตำแหน่งไปเล่นกับเจ้าเหมียวตรงมุมห้อง ใบหน้าหล่อเหลาที่ไร้สิ่งปิดกั้นเหมือนเคยผงกนิดๆก่อนจะก้มงุดคางชิดอกเหมือนเดิมทำให้ชานยอลหลุดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ...
... จะขี้อายไปไหน
มือเรียวจัดการตักผงโกโก้สีเข้มจากกระบอกใส่แก้ว 2 ใบลายโยดาหูกางในเรื่องสตาร์วาร์ที่แบคฮยอนซื้อให้ในวันเกิดปีที่แล้วพร้อมเติมน้ำตาล ผงครีมอย่างชำนาญ รินน้ำร้อนในกระบอกลงไปเอาช้อนคนให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ แต่ด้วยความเคยชินชานยอลจึงเอาขนมปังปิดปากแก้วไว้แล้วนำไปเสิร์ฟ
“โกโก้มาแล้ว~”
เมื่อยินเสียงเจ้าของห้องห้องร้องบอก ร่างสูงใหญ่ก็ผละมือจากเจ้าขนฟูมานั่งเรียบร้อยอยู่หน้าโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็ก นัยน์ตาเรียวคมฉายแววสงสัยเล็กๆเมื่อเห็นแผ่นขนมปังปิดไว้บนแก้ว
“เอาไว้กินกับโกโก้ไง อร่อยนะ ลองดูสิ ... นี่ไง จุ่มลงไปแล้วก็ อ้าม~”ขนมปังสีขาวชิ้นขนาดพอดีคำฉ่ำไปด้วยน้ำโกโก้ที่เพิ่งโดนจุ่มในถ้วยถูกยื่นมาจ่อใกล้ๆริมฝีปากหยักสวยเป็นการบังคับกลายๆ ทำให้เขาต้องรีบอ้าปากรับไว้เพื่อไม่ให้หกเลอะเทอะ
ชานยอลยิ้มหวานจนตาหยีเมื่อเห็นคนตัวสูงเริ่มฉีกขนมปังทำตามตัวเองเงียบๆ เอามือเท้าคางไว้ทั้งสองข้าง ดวงตากลมจ้องมองอิริยาบทของคนตรงหน้าอย่างไม่รู้เบื่อ ...
... น่ารักจัง
“เอ้อ เจอหน้ากันตั้งหลายครั้ง ... ลืมแนะนำตัวไป ฉันปาร์ชานยอล ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ นาย ...”
คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมองชานยอลนิดๆพร้อมกับเอ่ยตอบเสียงเบา จนต้องยื่นหน้าเข้าไปฟังใกล้ๆ
“ ... คริส อู๋ครับ”
“คริส ... อืม ... ลูกครึ่งเหรอ”
“เปล่าครับ เป็นคนจีน ...”
“ถึงว่าล่ะ ตาคมเชียว ... หล่อเหมือนมาเฟียในหนังเลย”ว่าแล้วก็ยื่นหน้าข้ามโต๊ะเข้าไปใกล้อีกนิดพลางพิจารณาเครื่องหน้าที่แสนจะได้รูปอีกรอบ เมื่อมองเห็นแก้มของคริสเริ่มซับสีแดงเรื่อก็อดสงสารไม่ได้จึงกลับมานั่งที่เดิม ใบหูขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำพร้อมกับเจ้าตัวที่นั่งก้มหน้างุดๆเป็นท่าประจำ
... เฮ้อ ผู้ชายอะไร
... หล่อแต่ขี้อายเป็นบ้า แล้วจะจีบสาวๆรอดมั้ยเนี่ย
ไวกว่าความคิด มือทั้งสองข้างของชานยอลเอื้อมไปขยุ้มแก้มของคริสไว้ด้วยความหมั่นเขี้ยวพลางบิดไปมาจนอีกฝ่ายยู่หน้าน้อยๆเป็นการประท้วงที่แสนจะน่ารัก
“หมั่นเขี้ยวจังเลย~”คนขี้แกล้งหัวเราะคิกคักชอบใจเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั้นบู้บี้ไปมาด้วยฝีมือตัวเอง แต่การกระทำทั้งหมดก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนตัวสูงกว่ายกมือขึ้นมาจับข้อมือทั้งสองข้างของเขาเอาไว้กลายเป็นว่าชานยอลนิ่งค้างในท่าโน้มตัวข้ามโต๊ะจนใบหน้าแทบชนกัน ...
...
...
ตึก ... ตึก ... ตึก
…
…
“...”
“...”
…
… ไร้คำพูดใดๆหลุดออกจากปากขณะที่นัยน์ตาทั้งคู่สอดประสานกัน มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวจนน่ารำคาญในแผ่นอกข้างซ้ายเท่านั้นที่ดังก้องในหู ถ้าไม่เป็นการคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปดวงตาของคริสกำลังทอประกายระยับ ส่งผ่านความอ่อนโยนระคนเอ็นดูมาให้เขาอย่างนุ่มนวล อบอุ่น ...
...
...
... คริสทำให้ผม
...
...
... ตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า
...
...
...
“เฮ้ย! มีคนอยู่มั้ย เปิดประตูทีดิ๊!!!”
…
…
…
เสียงโวยวายเอ็ดตะโรที่ดังลอดเข้ามาจากนอกประตู ทำให้คนทั้งสองที่กำลังตกอยู่ในภวังค์เด้งออกจากกันอย่างรวดเร็ว
เจ้าของห้องตากลมเอามือจับกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองด้วยความเก้อเขิน ไม่แพ้แขกสุดหล่อที่นั่งหลบตา ใบหูแดงก่ำอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เอ่อ ... เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูแป๊ปนึงนะ ตามสบายล่ะ”ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นจากเบาะฟูกสำหรับรองนั่งแล้วตรงไปยังต้นเสียง แต่เมื่อแง้มประตูออกดูก็แทบอยากจะปิดมันไปฟาดหน้าผู้มาเยือนยามวิกาลคนนี้ไปซักทีนึง ...
“ไง ... คนสวย”
กลิ่นแอลกฮอล์ฉุนกึกทำให้จมูกโด่งเล็กขยับฟุดฟิดไปมาเหมือนกระต่ายอย่างไม่ชอบใจนัก ใบหน้าน่ารักบึ้งตึง ปากโค้งลงเป็นรูปตัวยูตามอารมณ์หงุดหงิดที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากได้ฟังคำทักทายแรก ... แต่ไม่ได้มีความน่ากลัวเลยซักนิด
“มาทำไมวะ”ชานยอลตอบกลับเสียงห้วน ตากลมจ้องใบหน้าหล่อเหลาแต่สุดแสนจะยียวนกวนประสาทของอีกฝ่ายเขม็ง มือกำแน่นเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
...
... ไอ้อดีตแฟนเฮงซวย คิมอูบิน
...
“ผัวมาหาเมียตัวเองนี่กฏหมายข้อไหนมิทราบ”ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาภายในห้องช้าอย่างคุกคาม ส่งผลให้เจ้าของห้องต้องถอยหลังไปเรื่อยๆอย่างหมดหนทางโดยลืมคนที่อยู่ในห้องด้วยอีกคน ...
“ใครเมียแก”
“เดี๋ยวนี้ปากกล้าขึ้นนะ”มือหนาหยาบยกขึ้นมาบีบแนวกรามของคนตาโตไว้จนกลีบปากอิ่มยู่เข้าหากัน ซ้ำร้ายยังทำท่าจะก้มลงมาจูบ ชานยอลได้แต่หลับตาปี๋เพราะรู้ดีว่าสู้ไปเปล่าประโยชน์มีแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บยิ่งกว่าเดิม ...
... อีกอย่าง ... ผู้ชายคนนี้ไม่ทำอะไรเขาหรอก
... เพราะสิ่งที่มันต้องการก็มีแค่เงินเท่านั้น
“กรุณาปล่อยคุณชานยอลด้วยครับ”
“โอ้ย!”
ชานยอลค่อยๆปรือตาขึ้นมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าและพบว่าเป็นคริสที่เข้ามาช่วยเขาเอาไว้ ข้อมือของอูบินถูกล็อกไพล่หลังไว้อย่างแน่นหนาท่าทางเจ็บไม่เบา
“ปล่อยกู! มึงยุ่งอะไรด้วยเนี่ย!”
“คุณทำร้ายคุณชานยอล”ร่างสูงตอบกลับเสียงเรียบใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆนอกจากความจริงจังที่สัมผัสได้ในน้ำเสียง
... โชคดีจริงๆที่พาคริสมาที่ห้อง
... ไม่งั้นพรุ่งนี้คงได้หน้าเขียว หน้าม่วงไปทำงานชัวร์เลย
“อ๋อ ... คู่ขาคนใหม่ล่ะสิ เป็นไงบ้างล่ะ ลีลาถึงใจดีมั้ย ชานยอล”ถึงจะโดนพันธนาการมือไว้แต่ปากยังวอนหาเรื่องได้ไม่หยุด คนตากลมอยากจะทุ่มกระถางต้นไม้ใส่หน้ากวนๆนั่นเสียจริงถ้าไม่ติดว่ามีแขกอยู่
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้! คิมอูบิน!”ชานยอลพูดเสียงเข้มพลางกระชากแขนข้างหนึ่งของอดีตคนรักให้เดินตามตัวเองมาแล้วเหวี่ยงออกไปนอกห้อง ที่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะอีกฝ่ายดูเหมือนจะกำลังเมา ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ ... และอีกอย่าง ...
...
... เขาก็อุ่นใจที่มีคนอยู่เป็นเพื่อน
... อย่างน้อยก็มีคนช่วยรุมยำบาทาให้ไอ้นี่ได้ล่ะนะ
...
“เออ ไปก็ได้ ... หน้าอ่อนๆอย่างงั้นลีลาคงไม่เท่าไหร่หรอก ไปหาใหม่เหอะว่ะ”
“หุบปากแล้วกลับหลุมไปซะ ไอ้เวร!”
…
ปึง!!!
…
มือเรียวปิดประตูไล่หลังเสียงดังสนั่นก่อนจะหันมาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่าย ... เมื่อไหร่มันจะเลิกจองล้างจองผลาญเขาซักที
ชานยอลเลิกกับคิมอูบินไปได้เกือบๆปีแล้วแต่อีกฝ่ายมักจะมาไถเงินจากเขาอยู่บ่อยๆทั้งที่เขาก็ไม่ได้มีเงินเยอะอะไร พอไม่มีให้ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนเนื้อตัวเขียวช้ำ ต้องโกหกแบคฮยอนว่าเดินชนนู่นชนนี่ตลอดมา ...
“คุณชานยอล ... เจ็บมั้ยครับ”เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาเรียวคมจับจ้องผิวแก้มขาวที่บัดนี้แดงเถือกเป็นรอยนิ้วมือชัดเจนก่อนเอาข้อนิ้วใหญ่ๆของตัวเองไล้ไปมาเบาๆ
“อ่า ... ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง ฮ่ะๆ”
ชานยอลยืนนิ่งตัวแข็งทื่อปล่อยให้คริสลูบแก้มตัวเองแบบนั้นจนกระทั่งคนตรงหน้าได้สติรีบผละออกไปด้วยหูแดงๆอีกรอบ
“คือว่า ... ผมไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินคุณชานยอล ขอโทษด้วยนะครับ”ร่างสูงโค้งคำนับให้ผู้เสียหายหลายๆครั้งจนคนตากลมเริ่มจะเวียนหัว ใบหน้าน่ารักส่ายไปมาเป็นเชิงให้อภัย ... ความจริงก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็แค่โดนจับแก้ม
...
... ทำอย่างกับเขาเป็นสาวน้อยวัยใสไปได้
“ขอโทษทำไมเนี่ย ... ฉันสิต้องเป็นฝ่ายขอโทษนายที่อยู่ๆก็โดนกล่าวหาว่าเป็นคู่ขาฉันซะงั้น ... ถ้ารู้สึกแย่ก็ขอโทษด้วยจริงๆนะ”รอยยิ้มหวานๆโชว์ฟันสวยพร้อมดวงตาเป็นกลมใสแป๋วเป็นประกายถูกส่งให้อีกฝ่ายด้วยความรู้สึกผิดจากใจ ... ใครจะไปแข็งใจโกรธไหว
... เล่นน่ารักซะขนาดนี้
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ”
“เฮ้อ ... มันอาจจะเป็นเวรกรรมของฉัน หรือไม่ฉันก็คงจะชอบพวกคนเฮงซวยน่ะ”พูดแล้วก็อดบ่นไม่ได้ สงสัยท่าทางปาร์คชานยอลคนนี้คงจะดวงกุดเรื่องความรักเอามากๆถึงได้มีความทรงจำแย่ๆเกี่ยวกับเรื่องรักๆแบบนี้ ...
... มัวแต่ขอโทษกันไปขอโทษกันแบบนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ชานยอลจึงบอกให้คริสรีบกลับบ้านเพราะตอนนี้ค่ำมากแล้ว ฝนก็หยุดตกพอดีเดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นห่วง ...
“อ้อ ... เดี๋ยวก่อน”เจ้าของห้องเอ่ยรั้งผู้เป็นแขกไว้ทำให้คนตัวสูงหันกลับมาด้วยความสงสัย คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้นน้อยๆเป็นเชิงถามพอเจอท่าทางแบบนั้นเข้าไปคนเรียกก็รู้สึกลิ้นพันกันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“คือ ... ฉันขอเบอร์นายหน่อยได้มั้ย เผื่อวันไหนนายอยากเข้ามาดูแมวฉันจะได้เปิดห้องไว้ให้”
...
... ทำไมฟังดูเหมือนมีเจตนาอ่อยจัง
... ผมคิดตามที่พูดจริงๆนะ!
...
...
“อ่า ... ได้สิครับ”
คนขี้อายมีอันได้หน้าแดง หูแดงอีกรอบ ชานยอลมองผู้ชายตัวสูงตรงหน้าหยิบโทรศัพท์มาอย่างเงอะงะจนหวิดจะทำไอโฟนเครื่องสวยตกลงไปนอนบนพื้นอยู่หลายรอบมาส่งให้เขากดหมายเลขเพื่อยิงเข้าเครื่องตัวเองเป็นอันจบพิธีการแลกเบอร์ ...
“งั้น ... ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมกลับก่อนนะครับ”
“อื้อ เดินทางดีๆนะ”ชานยอลฉีกยิ้มหวานพลางโบกมือให้คริสที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆแต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูห้อง จู่ๆคนตัวสูงก็หันกลับมาอมยิ้มบางๆแบบเขินๆให้ ...
...
...
“ฝันดีนะครับ คุณชานยอล”
...
...
...
“เป็นไงล่ะ กลับดึกเชียวนะไอ้คริส หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย~”
“อืม ... ไปห้องคุณชานยอลมา เดี๋ยวจะไปทำอะไรให้กิน รอก่อน”
คนถามเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อคนที่เพิ่งเดินเข้าไปในครัวบอกว่าไปอยู่ที่ห้องของ ‘คุณพนักงานขายหนังสือ’ คนนั้นแล้วกลับบ้านตอนมืดค่ำ ...
... เฮ้ เรื่องมันชักจะไม่ธรรมดาแล้วสิ
...
...
... ‘เสี่ยวลู่หาน’ ลุกขึ้นจากโซฟาไปตามกลิ่นหอมของอาหารไปนั่งตาแป๋วอยู่อยู่โต๊ะทานอาหารตัวใหญ่ในท่าพร้อมกิน เมื่อคริสนำข้าวผัดกิมจิง่ายๆมาวางไว้ก็รีบจ้วงกินทันทีอย่างไม่ห่วงภาพพจน์
... เห็นแบบนี้ก็เถอะ แข้งเตะควายตายนะครับ
“มีเรื่องอะไรน่าดีใจวะ แก้มแดงมากว่ะคริส”กวางน้อยตาหวานตัดสินใจถามคนที่เอาแต่นั่งจ้องเขากินมาตั้งแต่แรกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก็ทุกครั้งที่ไอ้หน้าหล่อนี่มีเรื่องให้ปริ่ม ฟิน แก้มก็แดงเถือก ตาเป็นประกายปิ๊งๆวิ้งๆทุกที ...
“คือว่านะ เสี่ยวลู่ ...”
“หือ?”
“ฉันดูเป็นผู้ชายแบบไหนเหรอ”คริสถามด้วยใบหน้าจริงจังจนคนถูกถามเริ่มคิดหนักในใจ ... วันนี้มันมาอารมณ์ไหนวะเนี่ย
“แกอ่ะเหรอ ... ก็เป็นคนขี้อาย นอกจากหน้าตาแล้วก็ไม่มีอะไรดีซักอย่าง เป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ กลัวผู้หญิง ไม่รู้ชาตินี้จะมีเมียกับเขารึเปล่า สรุปรวมๆแล้วก็เป็นผู้ชายที่แย่มากคนนึงอ่ะนะ”ลู่หานพูดให้อีกฝ่ายฟังขณะที่ยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ คนตัวสูงกว่าเริ่มขมวดคิ้วมุ่นก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ซีเรียสกว่าเดิม
“แย่มากนี่ถึงขั้นเฮงซวยมั้ย”
“เออ แกมันผู้ชายเฮงซวย”ทันที่ได้คำตอบจากกวางตาหวาน คริสก็อมยิ้มจนแก้มตุ่ยอย่างอารมณ์ดีพลางลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
“ฮึๆ ... ขอบคุณนะที่ตอบ ไปนอนละ”
“อะไรของมันวะ โดนด่าแล้วยิ้ม”คนตัวเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนหันมาจัดการข้าวผัดกิมจิตรงหน้าต่อโดยไม่สนใจคนที่เดินฮัมเพลงขึ้นบันไดบ้านไปแม้แต่นิด
...
...
... ผมเป็นผู้ชายเฮงซวย
...
...
... เป็นผู้ชายแบบที่คุณชานยอลชอบ
...
...
... อย่างนี้ก็คงมีลุ้น ... ล่ะมั้งครับ :D
TBC.
- แน่ะๆ ใครอ่านเรื่องนี้แล้วอมยิ้มก็ช่วยเม้นหน่อยน้า เราอยากให้ทุกคนอารมณ์ดี ฮิ!
- จากการสังเกตุการณ์ถือว่าการตอบรับดีพอสมควร พรุ่งนี้มาอัพให้อีกเพราะว่าต้องไปค่ายธรรมมะ 3 วัน (จันทร์ – พุธ) เม้น + แท็คเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ TwT
- ติดต่อที่เดิม @BELLKYULO96
- Plz tag #คริสขี้อาย ยังไม่มีใครแท็คให้เราเลย ... เสียใจ L
ความคิดเห็น