คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : DBS :: 10 - IT WAS YOU
“หาหนังสือไม่พบ สอบถามได้นะคร้าบ~”
“ขอบคุณที่ใช้บริการคร้าบ~”
คุณพนักงานดีเด่นวิ่งวุ่นไปทั่วร้านเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบของนักศึกษามหาวิทยาลัยในระแวกนี้ งานที่ร้านจึงค่อนข้างยุ่งเป็นพิเศษแต่ถึงกระนั้นรอยยิ้มกว้างๆที่ระดับอยู่บนใบหน้ากลมก็ยังคงไว้ซึ่งความสดใสเสมอ
เมื่อไม่กี่วันมานี้ชานยอลเพิ่งรู้ว่าคริสเองก็ต้องเริ่มเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อสอบ เขาเองจึงไม่อยากรบกวนเพราะตัวเองก็เรียนจบปริญญาตรีแล้ว จะเหลือก็แต่ทุนการศึกษาในต่างประเทศเท่านั้นที่ยังไม่ตอบรับมาซักที คนขี้แกล้งจึงยอมรามือและไล่คนขี้อายให้กลับไปนอนที่บ้านบ้างจะได้มีสมาธิ ...
... ขืนอยู่ด้วยกันก็เอาแต่มานัวเนียเป็นแมวยักษ์อยู่นั่นล่ะ
ทำตัวเอ้อระเหยไม่พอ คริสยังเรียนบริหารภาคอินเตอร์ที่ลือกันว่าโหดหินอีกต่างหาก ปาร์คชานยอลได้เลี้ยงต้อยไม่รู้ตัวคราวนี้ล่ะ ตอนแรกเจอกันยังคิดว่าคริสอายุมากกว่าอยู่เลยทั้งๆที่คิดดูอีกทีชานยอลก็อายุมากกว่าคริสประมาณ 2 ปีแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะดูแก่กว่าเยอะ
... แต่ผมเชื่อว่ายังไงแฟนผมก็หล่อที่สุดอยู่แล้ว
“หาหนังสือไม่พบ สอบถามได้นะคร้าบ~”ชานยอลปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างขยันขันแข็งเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ขนาดร่างสูงๆในชุดเสื้อยืดสีดำ สกินนี่หนังมันเลื่อมสีเดียวกันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ายังไม่รู้ตัวจนคนตัวสูงต้องก้มลงไปแกล้งเป่าลมใส่ใบหูกางๆซะทีนึง
จุ๊บ!
“เฮ้ ทำอะไรเนี่ยคริส”คนถูกขโมยหอมแก้มโวยวายเบาๆพลางกลอกตามองซ้ายมองขวา พอเห็นสายตาล้อเลียนของพี่จุนและแบคฮยอนก็อยากจะเอาหน้าแทรกพื้นลงไปเดี๋ยวนั้น ยังไม่นับรวมลูกค้าประจำที่หันมาส่งยิ้มกริ่มให้ โอย ...
“หอมแก้มคุณแฟนไงครับ”ตัวต้นเหตุเอาแต่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ชานยอลเพิ่งจะเห็นว่าวันนี้สุดหล่อของเขาแต่งตัวแบดบอย มาดเข้มสุดๆทั้งที่เมื่อก่อนมาแนวคุณชายแท้ๆ ... เสื้อยืดสีดำแขนสั้นขับเน้นผิวสีอ่อนให้ยิ่งสว่างออร่า รอยสักเล็กๆบริเวณกล้ามแขนเด่นชัด ใส่เครื่องประดับจำพวกสร้อยเงิน แหวน กำไล ผ้ารัดข้อมือพ่วงด้วยกระเป๋าสะพายแนวสปอร์ตสีดำสนิทอีกใบ .. บอกเลยว่าหล่อไม่ทน!
“ไม่หล่อเหรอครับ นึกว่าคุณแฟนจะชอบแบบนี้ซะอีก”คริสเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าชานยอลเอาแต่จ้อง ดวงตากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างก่อนกระพริบปริบๆ คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจับไหล่กว้างหมุนซ้ายหมุนขวา เอามือกอดอกราวกับผู้เชี่ยวชาญ
“ก็ดี แต่ไม่ชอบ”
“อ่า ... ทำไมล่ะครับ”นัยน์ตาเรียวคมสลดลงวูบหนึ่งเมื่อได้ยินคำตำหนิของคนรักแต่แล้วรอยยิ้มกว้างก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้งจากถ้อยคำที่กระซิบตรงข้างหูพร้อมแรงกดเบาๆที่แก้ม ...
“หล่อให้คุณแฟนมองคนเดียวก็พอแล้วครับ ;D”
...
...
...
เวลาได้ล่วงเลยมาเรื่อยๆจนตอนนี้เกือบจะได้เวลาเลิกงานแล้ว ชานยอลอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีขณะตรวจเช็คหนังสือล็อตสุดท้ยของวันนี้ ส่วนคริสถูกไล่ให้ไปนั่งรอที่คอฟฟี่ช็อปร้านเดิมที่เคยพาคริสไปเลี้ยงเค้กเพราะขืนอยู่ไปก็มีแต่จะมาขัดขวางการทำงานของคุณพนักงานดีเด่นเสียเปล่าๆ ...
“อืม ... เย็นนี้กินอะไรดีน้อ~”ปากอิ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆขณะเดินตรงไปหาคุณแฟนที่คงจะยังนั่งรออยู่ ไม่นานร้านค๊อฟฟี่ช็อปขนาดย่อม ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลครีมอบอุ่น ประดับประดาด้วยพุ่มดอกไม้เล็กๆน่ารักก็ปรากฏให้เห็น
มือเรียวผลักบานประตูกระจกใสให้เปิดออก ยิ้มน้อยๆกับเสียงกล่าวต้อนรับอย่างแข็งขันของพนักงานพลางกลอกตามองหาคนตัวสูง ชานยอลเลิกคิ้วขึ้นสูงขณะสาวเท้าเข้าไปบริเวณมุมหนึ่งของร้าน ...
... คริสนั่งอยู่กับสาวสวยคนหนึ่ง
นัยน์ตาคมเฉี่ยวของหญิงสาวฉายแววงุนงงเมื่อมีคนมายืนจ้องเธอกับคริส ถึงจะแค่ยืนมองเงียบๆแต่ก็ถือว่าเสียมารยาทมาก จนกระทั่ง ...
“อ้าว เลิกงานแล้วทำไมไม่โทรมาล่ะครับ ผมจะได้ไปรับ”คนตัวสูงเอ่ยทักชานยอลที่ยืนทำหน้าตึงอยู่หลังพุ่มไม้เล็กๆภายในร้าน แต่เพียงชั่วพริบตาคุณพนักงานดีเด่นก็ปรับสีหน้าให้กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม ...
... เอาน่า เพื่อนกัน
“นี่วิคตอเรีย เป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมเอง ... ส่วนนี่ชานยอลครับ รู้จักกันไว้นะ”คริสยิ้มกว้างขณะมองคนรักและเพื่อนสนิทค้อมหัวให้กันก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะทนอั้นมานาน กลัวว่าถ้าตัวเองไปห้องน้ำเดี๋ยวชานยอลจะมาถึงแล้วไม่เจอ ...
เมื่อความเงียบโรยตัวอยู่ในบรรยากาศ ชานยอลก็ได้แต่บีบมือเข้าหากันไปมาอย่างอึดอัด พยายามมองออกไปนอกกระจกบานใสแต่จนแล้วจนรอดก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาทิ่มแทงทะลุทะลวงของอีกฝ่าย
“คุณชานยอลคะ คุณเป็นอะไรกับคริสกันแน่”และแล้วหญิงสาวชาวจีนก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเชิดๆสมหน้าตาสวยคมของเธอ คนตาโตหันมาเอียงคองงๆให้ก่อนที่สมองจะประมวลผลคำถามเมื่อครู่ ...
“แล้ว ... คริสบอกคุณวิคตอเรียว่าผมเป็นอะไรกับเขาล่ะครับ”
คือนี่ไม่ได้จงใจจะยอกย้อน แต่เขาอยากรู้จริงๆว่าคำพูดลับหลังคริสจะพูดถึงคุณแฟนสุดที่รักว่าอย่างไรบ้าง เห็นต่อหน้าอ้อนอย่างนู้นอย่างนี้ แอบแซบสาวไว้รึเปล่าก็ไม่รู้!
… แต่ยังไงก็คงไม่มีทาง ขี้อาย ไก่อ่อนแบบนั้นคงมีสาวมาติดอยู่หรอก ;P
“ก็ ... เขาบอกกับฉันว่าคุณชานยอลน่ะ เป็นคนที่เขาคบด้วยอยู่ ... แต่คบเป็นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ”
“...”
“... พวกคุณคง ... เป็นแค่เพื่อนกันสินะคะ?”
“คุณวิคตอเรียจะพูดอะไรก็พูดมาเลยดีกว่าครับ”ชานยอลถอนหายใจยาว ถึงนิสัยเขาจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือพูดง่ายๆว่าโลกสวยนั่นแหละ แต่พวกมันก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่ใช้ปิดบังความเศร้าหมองในจิตใจตั้งแต่คุณพ่อและคุณแม่จากไป ทั้งคนรักที่ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อกันคนแล้วคนเล่า ทไให้ปาร์คชานยอลเกลียดการโกหกและการจากลาที่สุด ...
... แต่มันจำเป็นล่ะ?
“งั้นฉันขอเข้าประเด็นเลยแล้วกันนะคะ ...”
“ครับ”
...
...
“คุณคิดดีแล้วจริงๆเหรอคะ ... ว่าคุณน่ะเหมาะสมกับคริส”
...
... สิ่งที่เธอพูดเป็นสิ่งที่ผมกลัวมาตลอด
...
... ถูกต้องแล้ว
...
... ผมไม่มีคุณสมบัตินั้นแม้แต่ข้อเดียว
“ว่ายังไงละคะ”หญิงสาวเท้าแขนลงกับโต๊ะพลางโน้มตัวมาหน้าอีกนิดเพื่อกดดันฝ่ายตรงข้าม เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น สีหน้าเริ่มเจื่อนลงเมื่อจู่ๆก็เกิดหาเสียงตัวเองไม่เจอขึ้นมาชั่วคราว มือเรียวเย็นเฉียบ ความรู้สึกชาแปลบปลาบแล่นไปทั่วตัว คมฟันขาวขบกัดกลีบปากอิ่มจนแดงช้ำ ...
... จนปัญญา ไม่มีอะไรจะตอบ
“คุยอะไรกันครับ ท่าทางเครียดเชียว”
คริสที่เพิ่งเดินมาถึงยิ้มแต้ให้คนสำคัญทั้งสองอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ชานยอลหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคนเป็นแฟนแล้วก็ได้แต่เม้มปากแน่นกับความคิดต่างๆนานาที่วิ่งวนในหัว เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมตามไรผมนุ่มโดยไม่รู้ตัว
“ไม่มีอะไรหรอก นายกลับบ้านไปเถอะ ดูแฟนนายคงจะไม่ไหวแล้วล่ะ”วิคตอเรียพูดเสียงเรียบพลางจัดทรงผมลอนสวยของเธอให้เข้าทรงอีกนิดก่อนลุกขึ้นสะพายกระเป๋าใบเล็กดีไซน์เก๋ โบกมือลานิดๆแล้วเดินจากไป
นัยน์ตากลมโตที่เคยส่องประกายมองตามร่างสูงโปร่งสมส่วนในชุดเดรสสีหวานนิ่งงันจนคริสที่ลุกขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ยื่นมือมาโบกไปมาตรงหน้าถึงได้รู้สึกตัว
“เหม่ออะไรครับคุณแฟน แอบมองสาวเหรอ ผมหึงนะ”คนตัวสูงเชิดคาง ทำปากยู่เป็นออฟชั่นเสริม ทำให้ชานยอลยิ้มออกมาได้อีกครั้งกับความน่ารักที่ดูไม่ขัดตาแม้แต่น้อย ... มีแต่จะทำให้รักมากขึ้นทุกวัน
“กลับบ้านเรากันนะครับ ที่รัก”ชานยอลวางมือลงบนฝ่ามือใหญ่และกระชับไว้แน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะสลายหายไปเพียงเขาหลับตาลง ...
“อื้ม กลับบ้านกันเถอะ”
...
...
...
ก๊อก ก๊อก
“คร้าบ รอแป๊ปนึงคร้าบ~”
เจ้าของห้องในแมนชั่นขนาดกลางวางมือจากซุปกิมจิในหม้อใบเล็ก รีบวิ่งไปเปิดประตูจนคริสต้องเอ็ดเบาๆเพราะกลัวว่าจะหกล้มเข้าแต่สิ่งที่ได้รับยิ้มแฉ่งๆของเด็กจอมซนมาซะอย่างนั้น
“สวัสดีค่ะยามบ่ายค่ะคุณชานยอล รบกวนด้วยนะคะ”จากสีหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนไปเป็นเรียบเฉยอย่างกระทันหันเพราะแขกไม่ได้รับเชิญคนนี้
ชานยอลยิ้มจืดให้หญิงสาวที่วันนี้มาในชุดเสื้อโค๊ตคัดติ้งสีน้ำตาลเข้มเข้ารูปพร้อมข้าวของพะรุงพะรังในมือ คนตาโตรับบรรดาถุงช็อปปิ้งมาช่วยถือขณะยืนรอเจ้าหล่อนถอดรองเท้าบูทออกวางไว้บนชั้นวางอย่างคุ้นเคยก่อนเดินตามหลังไปที่โต๊ะกินข้าวตัวใหม่ที่คริสซื้อให้ตรงกลางห้อง
หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์แล้วที่วิคตอเรียมักจะแวะเวียนมาหาคริสที่แมนชั่นของชานยอล ทั้งสองมักจะคุยกันแต่เรื่องที่เขาไม่รู้อย่างเรื่องไปเที่ยวซัมเมอร์ด้วยกันที่แคนคูเว่อร์ คริสเคยถูกกระเทยแอบจับก้นบนรถประจำทาง หรืออะไรซักอย่าง ...
... ที่ผมฟังแล้วรู้สึกเป็นส่วนเกิน
ถ้าให้ชานยอลเดาว่าวิคตอเรียคนนี้ทำอาชีพอะไร เขาคงตอบว่าหมอจิตเวชอย่างไม่ต้องคิดเลยทีเดียว การกระทำของเธอดูธรรมดาก็จริงแต่มันแอบซ่อนอาวุธลับเล็กที่พร้อมจะทิ่มแทงเขาได้ทุกเมื่อ ... ตอนนี้ก็ด้วย
“คริส ฉันซื้อคาโบนาร่าของโปรดนายมาด้วยล่ะ รีบมากินเร็ว”หญิงสาวคว้าแขนร่างสูงที่นั่งเล่นกับเจ้าเหมียวตัวอ้วนกลมให้ไปที่โต๊ะ คนตาโตได้แต่มองภาพนั้นอย่างเหม่อลอยขณะคนแกงกิมจิในหม้อ ...
... ทำไมผมถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคริสเลย
ยิ่งเห็นท่าทางเริงร่าของคริสที่กำลังยิ้มร่าดีใจกับเจ้าอาหารสุดหรูในแพ็คเกจอย่างดี ชานยอลยิ่งแค่นหัวเราะกับตัวเอง ... อาหารที่เขาทำคงเป็นหม้ายซะแล้วล่ะ
“ไม่ทราบว่าจานเก็บไว้ตรงไหนคะ”วิคตอเรียเดินตรงมาทางโซนครัวเล็กๆหลังจากนำเสนอสิ่งที่ตัวเองหอบหิ้วมาจนเป็นที่พอใจแล้ว ชานยอลเพียงหันไปมองเธอแล้วรับถุงอาหารมาจัดเตรียมใส่จานให้เรียบร้อย
“คุณรู้มั้ยคะว่าคริสแพ้อาหารบางอย่าง ต้องระวังให้มากๆด้วยนะคะ”
“... ครับ”
นัยน์ตากลมใสยิ่งหม่นแสงลงกว่าเดิมแต่เจ้าตัวก็รีบสลัดความเศร้าหมองออกแล้วเดินถือจานตามร่างเพรียวบางไป
“ชานยอลครับ มากินด้วยกันนะ นั่งเร็ว”คริสเอ่ยชวนคุณแฟนที่ช่วงนี้ดูเงียบๆเหม่อๆเสียงนุ่ม มือหนาดึงข้อแขนเรียวเบาๆเป็นเชิงบังคับให้นั่งลงข้างตัว
“ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ซื้อมาเผื่อ พอดีไม่ทันได้คิดน่ะค่ะ”วิคตอเรียทำหน้ารู้สึกผิดเสียเต็มประดาจนชานยอลต้องรีบส่ายหัวให้พลางทำหน้าเจื่อน ...
... ไม่ทันได้คิดอะไร คุณเธอมาห้องนี้เป็นอาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ
“ไม่เป็นไรครับ”
“อ้อ คริส ... น้ำหอมที่นายใช้ประจำใกล้หมดแล้วใช่มั้ยล่ะ ฉันซื้อมาให้แล้วนะ”
“อ่า ขอบคุณมากนะ เธอนี่รู้ใจฉันจริงๆ”
... เธอนี่รู้ใจฉันจริงๆ
... เธอนี่รู้ใจฉันจริงๆ
ชานยอลผุดลุกขึ้นเดินไปทางโซนครัวอีกครั้งโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคริส รู้สึกแย่ ... แย่ที่สุด ... เหมือนถูกแย่งความสนใจไป
... เขารู้ตัวดีว่าทั้งตัวเองและคริสก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วทั้งคู่แต่อดีตอันเลวร้ายจากการถูกทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่ากำลังตามมาหลอกหลอนเขาไม่หยุด เขาไม่อยากจะรอความหวังจากใครอีกแล้ว ... ไม่อยากจะมานั่งคิดมาก จิตตกอยู่คนเดียวอีกต่อไป ...
... ต้องทำตัวให้ดี จะได้ไม่โดนทิ้ง
... แต่นี่อะไร แม้แต่ของที่คริสผมยังไม่รู้
... แล้วแบบนี้จะโดนทิ้งรึเปล่า
ถึงจะคบกันมาได้ซักพักหนึ่งแล้วแต่ทุกครั้งที่กลับมาถึงห้องแล้วชานยอลก็ดีใจที่รู้ว่ามีอ้อมกอดอุ่นๆ เสียงนุ่มๆที่คอยเอ่ยถามนู่นถามนี่อย่างห่วงใยรออยู่ ...
... คริสแย่มากที่มาทำให้ชีวิตตัวคนเดียวของผมเปลี่ยนไป
... แย่ที่สุด
คนตาโตถอนหายใจยาว ขยับมือไปจับด้ามหม้อแกงกิมจิไว้ คิดว่าจะเททิ้งเพราะยังไงก็คงไม่มีใครกินอยู่แล้ว ติดอยู่ที่มีมือของใครบางคนมาขัดไว้เสียก่อน ...
“เป็นอะไรครับคนดี ... โกรธอะไรผมรึเปล่า”เสียงทุ้มๆที่กระซิบชิดริมใบหูพร้อมแรงกดจูบข้างขมับ คริสที่สังเกตุมานานประคองแก้มขาวให้ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาสบตาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความกังวลที่ฉายชัดอยู่ในนั้นทำให้คนตัวสูงแนบริมฝีปากบนเปลือกตาสีมุกเบาๆ ... ขอให้คุณชานยอลที่น่ารักสดใสคนเดิมกลับมาทีเถอะ
“ฉันต่างหากที่ต้องถามคริส ... มีอะไรที่ฉันทำตัวไม่ดีบ้างรึเปล่าหรือว่าไม่ถูกใจตรงไหน แล้วก็ ...”ยังพูดไม่ทันจบร่างโปร่งบางก็จมลงในอ้อมกอดอุ่นๆของอีกฝ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว คริสอมยิ้มนิดๆกับท่าทางเลิกลั่กของคุณแฟนก่อนจะพูดออกมาลอยๆเพราะรู้อยู่แล้วว่าชานยอลเป็นอะไร
“ผมชื่อคริสอู๋ ... เกิดวันที่ xx เดือน xx อายุ 21 บ้านเกิดอยู่ที่เมืองกวางโจว เป็นลูกครึ่งแคนาดา อาหารที่ชอบคืออาหารอิตาลี ส่วนสัดส่วนนี่ต้องลองสัมผัสเอง โอ๊ย ... เจ็บนะครับ”ร่างสูงโอดครวญเมื่อถูกฝ่ามือน้อยๆฟาดเข้าให้ขณะสาธยายโปรไฟล์ของตัวเองให้ฟัง พักนี้ชอบแกล้งกลับนักนะ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย ฮึ!
“และสุดท้ายตั้งใจแล้วจำไว้ให้ดีๆนะครับ ถ้าลืมล่ะก็ผมโกรธแน่ ...”
“หือ? อะไรอ่ะๆ”
คริสจ้องมองใบหน้าน่ารักที่อยู่ห่างเพียงคืบด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นว่านัยน์ตากลมโตใสแจ๋วคู่นั้นเบิกโตอย่างตั้งใจ ค่อยๆข่มความขลาดเขินไว้ก่อนแนบจูบแผ่วหวานที่ไร้การรุกล้ำเนิ่นนาน สัมผัสอ่อนนุ่มที่มีเพียงกลีบปากแตะกันเฉยๆกลับทำให้ชานยอลใจเต้นแรง อาการผีเสื้อบินในท้องรุมเร้าจนแข้งขาอ่อนแทบยืนไม่อยู่ ...
...
...
“ไม่มีอะไรที่ผมชอบไปมากว่าคุณแฟนแล้วล่ะครับ”
TBC.
- โห เกือบตายรู้ป่ะ คอมดับ! คิดว่าที่พิมพ์ไว้หายหมดแล้วแต่มันยังอยู่ เย้~ ตอนนั่งรอเครื่องรีสตาร์ทนี่นึกถึงหน้าชานยอลตลอดเลย ไม่เอา ไม่อยากให้อุ๋งเสียใจนาน ไม่เหมาะ ดราม่าไม่ควรบังเกิดนานเกินไป เอานิดหน่อยพอขมคอ
- ขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเมนท์ ช่วงนี้เนื้อเรื่องอาจจะยังเรื่อยๆแต่อีกไม่นาน ฮึๆ มันก็จะมาอีกครั้ง!
เข้าใจแล้วว่าทำไมไม่ทวงฟิค คำตอบน่ารักมาก เอาใจเค้าไปเยย~
- ติ ชม ชวนคุย ให้กำลังใจได้ที่ @ฺBELLKYULO96
- #คริสขี้อาย <<< แก็บซอง~
ความคิดเห็น