คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : DBS :: 01 - MR.HOODIE
“โอกาสหน้าเชิญใหม่คร้าบ~”
เสียงทุ้มใหญ่ของชายร่างสูงแต่รูปร่างโปร่งบางเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างเป็นเอกลักษณ์เมื่อมองเห็นลูกค้ากำลังเดินผ่านออกจากประตูกระจกบานสวย นัยน์ตากลมโตเบนกลับมาสนใจงานจัดหนังสือตรงหน้าต่ออย่างแข็งขันดังเช่นทุกวัน ...
“พี่ชานยอล~ ขยันตลอดอ่ะ”
“ไม่ขยันแล้วจะเอาอะไรกินล่ะ ไอ้หมา”คนถูกแซวเอ่ยตอบไปอย่างทะเล้นๆ เพราะนิสัยขยัน เอาการเอางาน ร่าเริงและยิ้มเก่งทำให้เขาคนนี้เป็นที่รักของทุกคนในร้านได้ไม่ยาก ...
... ร้านหนังสือขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำให้มีผู้คนมากหน้าหลายตาหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย คุณผู้จัดการร้านก็เลยต้องจ้างคนให้มาประจำแต่ละหมวดหนังสือซึ่งชานยอลเองก็เป็นหนอนหนังสืออยู่แล้ว การได้ทำงานกับสิ่งที่ตัวเองรักจึงถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆในชีวิตอีกอย่างหนึ่ง
... ชีวิตที่ไม่เคยมีอะไรเลย
“อ่า ... อยู่ไหนน้า”กลีบปากอิ่มพึมพำขมุบขมิบกับตัวเองเบาๆเมื่อหาหนังสือที่ลูกค้ามาสั่งจองไว้บนชั้นไม่เจอเสียที ... หรือว่าของจะขาดสต๊อก ต้องไปถามพี่จุนมยอนซะแล้ว
คนตาโตหันกลับมาโดยก้มหน้าก้มตาอ่านกระดาษในมือจึงชนคนตรงหน้าเข้าอย่างจัง มือเรียวลูบสันจมูกตัวเองป้อยๆพลางทำปากเบ้ ... งื้อ ... เจ็บ
“ระวังครับ!”
“หา ...”พูดยังทันจบคำดีเจ้าตัวก็โดนกระชากเข้าไปปะทะกับแผ่นอกกว้าง ร่างของใครคนนั้นโอบรอบตัวของเขาได้มิดพอดี กลิ่นน้ำหอมแนวผู้ชายกลิ่นเย็นอ่อนๆทำให้จมูกโด่งเล็กขยับฟุดฟิดไปมา
... หอมจัง
...
...
ตุบ! ตุบ!
เสียงของตกใส่วัตถุที่ดูเหมือนจะอ่อนนุ่มเพราะฟังดูทึบแปลกๆดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ชานยอลดันอีกฝ่ายออกเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองหนังสือเล่มใหญ่แถมยังหนาชนิดฟาดหัวคนตายกองกระจัดกระจายอยู่ข้างชายร่างสูงคนหนึ่ง ... สูงกว่าเขาเสียอีก
“อ่า ... คุณครับ เป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บมากใช่มั้ย ... ฮือ ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจ”พนักงานตัวเล็กประจำร้านหนังสือ ‘READ ME’ อย่างแบคฮยอนรีบกล่าวคำขอโทษพลางค้อมหลังให้หลายๆรอบจนคนมองมองเวียนหัวแทน ใบหน้าเรียวเล็กนั้นบิดเบ้ราวกับจะร้องไห้... หมาเอ้ย
“โอย ...”คุณลูกค้าพยายามพยุงตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ร้อนถึงพนักงานดีเด่นต้องเข้าไปประคองใกล้ๆ ชานยอลลอบสำรวจชายตรงหน้าที่เริ่มมีท่าทางหลุกหลิกดูประหลาดพลางแอบตั้งข้อกล่าวหาในใจไว้เสร็จสรรพ ...
...
... สภาพเสื้อฮู้ดสีดำสนิทสวมหมวกคลุมใบหน้าทับด้วยมาส์กปิดปากอีกชั้น กางเกงยีนส์ขาเดฟสีซีด ดูรวมๆแล้วมันก็โอเคแต่ว่ามันไม่ลึกลับไปหน่อยหรือ ? ...
...
“คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”
“อะ ... เอ่อ ... ไม่เป็นไรครับ”คุณฮู้ดดี้ (ชื่อที่เขาเพิ่งตั้งให้เองสดๆร้อนๆเมื่อกี้) ตอบเสียงตะกุกตะกัก นัยน์ตาที่โผล่พ้นขอบมาส์กปิดปากออกมาสะกดชานยอลไว้นิ่งงันเมื่อเผลอไปจ้องมอง ...
...
...
... ตา
... โครตสวย
... หน่วยตาเรียวคมที่พาดเฉียงเหนือผ้าปิดปากทอประกายอ่อนจางเป็นสีเฮเซลนัททั้งดูอบอุ่น หวานละมุนไปในเวลาเดียวกัน ...
“... ผม ... ขอตัวก่อนนะครับ”เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องเขาตาค้าง คุณฮู้ดดี้ก็รีบก้มหน้างุดๆ เดินลิ่วจากไปทิ้งไว้เพียงไออุ่นเจือกลิ่นหอมจางๆไว้ในอากาศ ...
...
... อ้าว ยังไม่ทันได้ขอบคุณเลยนี่หว่า
...
“พี่ชานยอล~ เป็นอะไรมากเปล่า~ เค้าขอโทษ~”ไอ้หมาน้อยตรงเข้ามาสวมกอดเต็มแรงจนคนถูกกอดเซไปนิดแต่ก็ยกมือขึ้นมาขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว ดูทำหน้าอ้อนเข้าสิ หมาชัดๆ
“เดินระวังๆหน่อย ... หนังสือมันหนักทำไมไม่เรียกพี่ไปช่วย หืม ... คราวหลังต้องเรียกนะรู้มั้ย”
“คร้าบๆ บยอนคนนี้จะเชื่อฟังลูกพี่ชานคนเดียวเล้ย~”คนตัวเล็กยิ้มแฉ่งโชว์เขี้ยวเสน่ห์ที่มุมปากเลยได้หัวฟูเป็นรังนกอีกรอบเพราะโดนขยี้ด้วยความหมั่นไส้
“ไปทำงานต่อได้แล้ว รู้นะว่าหาเรื่องอู้”
“เบื่อคนรู้ทันว่ะ”ก่อนจะไปยังไม่วายหันมายิ้มปากสี่เหลี่ยมใส่อีกรอบ ทำให้ชานยอลได้แต่มองอย่างระอากับรุ่นน้องหน้าเป็นคนนี้
... เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางแล้ว นัยน์ตากลมก็เพิ่งสังเกตุเห็นใบแจ้งสั่งหนังสือตกอยู่บนพื้น กระดาษสีขาวเรียบๆถูกยกขึ้นมากวาดตาอ่านอย่างรวดเร็วและพบว่าเป็นหนังสือหมวดที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ ... หมวดการ์ตูนนั่นเอง
“ของคุณฮู้ดดี้รึเปล่านะ”กลีบปากอิ่มเบะออกยื่นมาข้างหน้าน้อยๆเป็นท่าประจำเวลาใช้ความคิด เจ้าแบคฮยอนเรียกการกระทำแบบนี้ของชานยอลว่า ‘อุ๋ง’ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่มีคนบอกว่าน่ารักก็คงจะโอเค ...
... เอาไว้จะสั่งให้แทนคำขอบคุณแล้วกันนะคุณฮู้ดดี้
...
...
... ถ้าได้เจอกันอีกน่ะนะ
...
...
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว ชายร่างสูงคนนั้นแวะเวียนมาที่ร้าน ... อืม ... น่าจะแทบทุกวัน เท่าที่เขาเห็น ตอนแรกพี่จุนมยอนเดินมาด้อมๆมองๆเพราะกลัวว่าจะเป็นขโมยแต่ชานยอลขออาสาเฝ้าสังเกตุการณ์ให้เอง
... เท่าๆที่ดูก็ไม่ใช่คนเลวร้ายนะ
... เป็นคนใจดีซะด้วยซ้ำ
“คุณๆ ... หนังสือที่คุณจองไว้ ผมเอามาให้แล้วนะครับอยู่ตรงเคานท์เตอร์”
“อ่ะ ... ขอบคุณครับ”เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับโค้งหลังนิดๆ นัยน์ตาคมๆคู่นั้นกลอกหลุกหลิกไปมาทุกครั้งที่เขาเข้ามาทักด้วย ... สงสัยจะขี้อาย
... น่ารักแฮะ
คนตาโตจ้องมองผู้ต้องหาที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าชั้นหนังสือการ์ตูนแอ็คชั่น เผลอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อสาวน้อยวัยมัธยมคนหนึ่งเผลอหันไปจ้องตากับคนที่ยืนอยู่ข้างๆและประสบกับภาวะเดียวกับเขาไม่มีผิด ...
...
... นิ่ง อึ้ง ทำอะไรไม่ถูก
... จมดิ่งลงในห้วงภวังค์
...
สาวน้อยรีบยัดหนังสือการ์ตูนในมือใส่ในชั้นอย่างลวกๆด้วยใบหน้าแดงก่ำ ชานยอลยู่ปากด้วยความเบื่อหน่ายเพราะลูกค้าในร้านไม่ค่อยจะรักษาระเบียบกันเอาเสียเลย เลขเล่มก็มีบอกอยู่ตรงสัน จะใส่ให้มันเรียงกันซักหน่อยจะเป็นไรไป ...
... บ่นกับตัวเองได้ไม่นาน หันมาอีกทีก็พบว่ามือเรียวสวยที่โผล่พ้นชายเสื้อฮู้ดสีดำสนิทกำลังหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาแล้วจัดเรียงเข้าที่ของมันอย่างเป็นระเบียบ ... ใจดีจัง
“ขอบคุณนะ”ชานยอลพึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มกว้างจนดวงตายิบหยี นั่งมองแผ่นกว้างอยู่เพลินๆสักพักใหญ่ คุณฮู้ดดี้ก็เดินออกไปที่หน้าร้าน ท่าทางจะนัดเพื่อนเอาไว้ ... หรือไม่ก็แฟน
... แต่คำสันนิษฐานที่สองดูเหมือนจะมีแนวโน้มมากกว่าเพราะชายหนุ่มร่างเล็ก ดวงตาใสแป๋วมีประกายราวกับลูกกวางตัวน้อย ประกอบกับจมูกโด่งเล็กรับริมฝีปากจุ๋มจิ๋มสีเรื่อๆมองดูแล้วน่ารักน่าชังไม่ต่างจากตุ๊กตาฟาดฝ่ามือลงบนบั้นท้ายของคนตัวสูงกว่าเต็มแรงทันทีที่อีกฝ่ายเดินไปถึง ...
“งานการไม่มีทำรึไง วันๆขลุกอยู่แต่ร้านหนังสือเนี่ย เมื่อก่อนไม่เห็นมาบ่อยขนาดนี้เลยนะ”
“ชู่ว ... เบาๆหน่อย”ชานยอลมองท่าทางเอานิ้วชี้ยกขึ้นมาจรดริมฝีปากใต้มาส์กปิดปากอันเดิมอย่างสนใจ ท่าทางทั้งสองคนนี้คงต้องเป็นแฟนกันแน่นอนถึงได้กล้าฟาดก้นกันหน้าร้านขนาดนี้ ... อย่าหาว่าเขาสอดเรื่องชาวบ้านเลยนะ ก็นั่งเฝ้าเคานท์เตอร์มันน่าเบื่อนี่นา ...
“ปาร์คชานยอล เหม่อนักเดี๋ยวพี่หักเงินเดือนซะเลยดีมั้ย!”
...
...
... อ่า ขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่าครับ
...
...
...
“กลับบ้านดีๆนะทุกคน~”
เสียงพี่จุนมยอนดังไล่หลังมาจากร้านหนังสือที่กำลังปิดประตูเหล็กลงกุญแจเรียบร้อย ร่มคันใหญ่ที่ได้แถมมาจากร้านสะดวกซื้อถูกกางเพราะบัดนี้หยาดน้ำเม็ดโตค่อยๆร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าสีทะมึนจนกระทั่งเทลงมาห่าใหญ่ต้อนรับเวลาเลิกงานของเขาพอดี
... ทุกทีเลย! ทำไมฝนต้องมาตกตอนเลิกงานทุกที!
ชานยอลพ่นลมออกมาเป่าผมหน้าม้าของตัวเองเบาๆอย่างหงุดหงิด แอ่งน้ำที่ขังนองตามพื้นทำให้เขาต้องเสียเวลาซักผ้านานขึ้น นั่นหมายความว่าเวลาอ่านหนังสือก็จะลดลงตามไปด้วย แค่คิดก็อารมณ์บูดแล้ว ...
เมื่อเดินมาจนถึงสี่แยกของถนน แสงไฟสีเขียวเป็นสัญญานให้เรียวขายาวใต้กางเกงผ้าสามส่วนสบายๆออกเคลื่อนตัวข้ามไปยังอีกฝั่ง แต่ยังเดินไปไม่ทันถึงตากลมๆของเจ้าตัวก็มองเห็นคนตัวสูงโดดเด่นในกลุ่มผู้คนกำลังเดินอยู่ข้างหน้าพอดี ...
... เข้าไปทักดีมั้ยนะ
... คิดไปคิดมาอีกฝ่ายก็เลี้ยวหายเข้าไปในซอกตึกใกล้ๆ ชานยอลขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจว่าจะเข้าไปทำอะไรในนั้น ... หรือว่า ...
...
... ยกพวกตีกันเหรอ!
ตาที่โตอยู่แล้วเบิกขึ้นอีกนิดกับความคิดของตัวเอง ชานยอลตัดสินเดินตามเข้าไปอย่างเงียบๆเพราะเป็นห่วงว่าคุณฮู้ดดี้จะเข้าไปทำเรื่องไม่ดี ...
... เผื่อมีอะไรจะได้เรียกพี่ปอทัน
... ปอเต๊กตึ๊งอ่ะครับ
...
...
...
“อ้าว ...”
คนชอบสอด (อย่ามาว่าผมนะ! / ชานยอล) พึมพำออกมาเบาๆเมื่อภาพตรงหน้าไม่ได้ใกล้เคียงกับที่มโนไว้เลยแม้แต่น้อย ...
“เมี้ยว ... เมี้ยว ... หง่าว~”
ดูเหมือนคุนฮู้ดดี้ก็คงจะตกใจเช่นกันที่มาเจอเขาในซอกตึกนี่ มือใหญ่ๆทั้งสองข้างกำลังโอบอุ้มสิ่งมีชีวิตตากลมแป๋ว ส่งเสียงร้องครางด้วยความหนาวเหน็บเพราะสายฝนทำให้ขนสีขาวสะอาดของมันเปียกลู่ลงแนบตัวอย่างน่าสงสาร ชานยอลจึงแบ่งร่มซีกหนึ่งให้คนตัวสูงที่นั่งยองๆอยู่บนพื้นเพื่อไม่ให้เปียกไปมากกว่านี้
“คือว่า ... ผมอยากจะเลี้ยงมันแต่ว่าคนที่บ้านต้องว่าแน่ๆ ... รบกวนคุณ ...”พอเห็นอีกฝ่ายเกาหัวเกาหูให้วุ่น พูดเสียงตะกุกตะกักเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน คนตาโตก็พอจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร มือเรียวจัดการยื่นร่มให้คนตัวสูงกว่าถือไว้ส่วนตัวเองก็อุ้มสิ่งมีชีวิตตัวน้อย 2 ตัวไว้ในอ้อมแขน ก่อนดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาคลุมตัวพวกมันไว้
“ผมจะเลี้ยงพวกมันเอง คุณไม่ต้องห่วงนะ”รอยยิ้มหวานๆแบบเห็นฟันเรียงตัวสวยเป็นเม็ดข้าวโพดของชานยอลถูกส่งไปให้คนฟังได้มั่นใจ แต่คนได้รับกลับรีบก้มหน้างุดๆจนเผลอดึงร่มออกจากรัศมี ทำให้คนตัวเล็กกว่าเปียกไปครึ่งซีก ...
“นี่คุณ ... ช่วยเอาผมออกจากตาให้ผมหน่อยได้มั้ย”ผมหน้าม้ายาวเกือบเลยคิ้วของเขาพอโดนฝนมันก็ห้อยลงมาเป็นช่อแหลมทำท่าจะแทงตากลมๆอยู่รอมร่อ ดูเหมือนคนถูกไหว้วานจะไม่ค่อยเข้าใจ ชานยอลจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเล่นเอาอีกฝ่ายผงะไปด้านหลัง
... เฮ้ ผมไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะ
“เอาผมออกให้หน่อยครับ”
“คะ ... ครับ”มือหนาเอื้อมขึ้นมาใกล้ดวงหน้าขาวช้าๆ ค่อยๆเกลี่ยปัดเส้นผมสีเข้มที่ดูนุ่มลื่นให้พ้นจากดวงตากลมโต แค่เสี้ยววินาทีที่รับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ผิวแก้มเนียน ชานยอลก็ยืนนิ่งงันเพราะความอบอุ่นจากปลายนิ้วของมือคู่นั้น ...
...
... แผ่วหวานในความรู้สึก
...
ตึก ... ตึก ... ตึก
นัยน์ตาเรียวคมสีเฮเซลนัทอ่อนจางทอดมองมาเงียบๆ เพียงแค่นั้นหัวใจไม่รักดีก็เต้นรัวแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก ... ปาร์คชานยอลไม่ได้ประสบกับอาการแบบนี้มาได้เกือบๆ 5 ปีแล้ว ... และเจ้าตัวก็รู้ดีที่สุดว่ามันคืออาการอะไร ...
...
“เมี้ยว ... ~”
เสียงครางเล็กๆของเจ้าขนฟูในอ้อมกอดดังประท้วงเบาๆทำให้คนตาโตได้สติกลับคืนมา กลีบปากอิ่มเริ่มกลายเป็นสีชมพูซีดเนื่องจากความหนาวฉีกยิ้มแหยๆให้อีกฝ่ายแก้เก้อ ... เหม่ออะไรเนี่ย น่าอายชะมัด
“อ่า ... ขอบคุณมากนะ”ชานยอลเลือกที่จะไม่ใช่คำสุภาพเหมือนตอนที่อยู่ในร้านเพราะมันดูเกร็งๆ ... ถึงตอนนี้จะยิ่งเกร็งกว่าเดิมก็เถอะนะ
“ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อร่างสูงโปร่งทำท่าจะหมุนตัวกลับเดินออกจากซอกตึก ก็นึกขึ้นได้ว่ามือไม่ว่างทั้งสองข้างแถมฝนก็ยังตกหนักมืดฟ้ามัวดิน ถ้าเดินตากฝนกว่าจะไปถึงแมนชั่นก็คงไม่สบายกันพอดี ...
... ผมคงไว้ใจคุณได้ใช่มั้ยคุณฮู้ดดี้
...
...
...
“คือผมมีอะไรจะวานหน่อย ...”
“ครับ?”
...
...
“ถ้าไม่รบกวนเกินไป ช่วยเดินไปส่งหน่อยได้มั้ย”
TBC.
- มาเปิดเรื่องใหม่จนได้ สวัสดีจ้าคนอ่านทั้งที่เพิ่งเข้ามาใหม่และตามมาจากเรื่องแรก
- ติดต่อได้ที่ @BELLKYULO96
- มันเป็นฟิคละมุนๆ ของอุ๋งยิ้มหวานกับฟ่านขี้อายนะ xD
- Plz tag #คริสขี้อาย
ความคิดเห็น