คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : DBS :: 11 - LOVE MAZE
“อืม ...”
เป็นเพราะแสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามาภายในห้องนอน เปลือกตาสีมุกจึงขยับยุกยิกก่อนปรือขึ้นแต่ก็ยอมนอนนิ่งๆอยู่ที่เดิม ... วันนี้วันอาทิตย์ ไม่ต้องไปทำงาน
ชานยอลกระชับท่อนแขนเรียวโอบรอบเอวหนาไว้พลางแนบแก้มเข้ากับแผ่นอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเรียบง่ายฟังเพราะที่สุดในโลก ไออุ่นจากร่างกายของคนข้างๆทำให้เขาอมยิ้มอย่างเป็นสุข
... ถ้าตื่นมาแล้วได้นอนกอดกันแบบนี้ทุกเช้าก็คงดี
เมื่อวานหลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว วิคตอเรียก็ขอตัวกลับ เห็นว่าติดธุระอะไรซักอย่างแต่เธอยังอุตส่าห์หย่อนระเบิดลูกโตด้วยการบอกว่าวันนี้ก็จะมาอีก นี่ไม่คิดจะเกรงใจกันบ้างเลยหรือยังไง
ตอนนี้ชานยอลเองก็พอจะคลายความกังวลไปได้เยอะ ไม่คิดมากฟุ้งซ่านเหมือนเก่าเพราะคำพูดของคุณแฟนสุดหล่อแท้ๆ ... แบบนี้จะไม่ให้รักได้ไงล่ะ เล่นขยันหยอดขนาดนี้
นัยน์ตากลมโตไล่พิจารณาใบหน้าของเจ้าชายสุดหล่อตั้งแต่หน้าผากกว้าง คิ้วเข้มดกหนารับกับดวงตาเรียวคมสีน้ำตาลเฮเซลคู่นั้นที่ทำให้เขาตกหลุมรัก สันจมูกโด่งและริมฝีปากหยักที่อวบอิ่มอมสีส้มอย่างคนสุขภาพดี ... จะมองมุมไหนแฟนของปาร์คชานยอลก็หล่อจริงๆ
ว่าแล้วคนขี้แกล้งก็วางทาบมือบนแก้มคร้ามที่เริ่มจะมีไรหนวดขึ้นบางๆ ลูบไล้ไปมาก่อนเลื่อนไปบีบจมูกโด่งๆจนน่าหมั่นไส้ไว้ คนขี้เซานิ่วหน้าน้อยๆเมื่อรู้สึกอึดอัด อ้าปากออกเพื่อหายใจอีกทางแทนแต่ยังไงก็ไม่ยอมตื่น
พรึ่บ!
“ทำอะไรครับ”ชานยอลอ้าปากค้างเมื่อคริสลืมตาขึ้นมาล็อคข้อมือเขาไว้ ระยะห่างเพียงไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือทำให้ชานยอลสามารถมองเห็นเงาสะท้อนในดวงตาคู่สวยอย่างชัดเจนจนรู้สึกใจกระตุก ...
คนตาโตเป็นฝ่ายชะโงกหน้าเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว ค่อยๆแนบริมฝีปากอิ่มเข้ากับกลีบปากนุ่มของคุณแฟนสุดหล่อเนิบช้าก่อนถอนออกมามองแก้มแดงๆของคริสอย่างอารมณ์ดี
“มอร์นิ่งคริสครับ”ชานยอลก้มลงเอาหัวกลมๆซุกแผ่นอกกว้างในเสื้อยืดสีขาวตัวบางพลางถูไถตามประสาคนชอบฟัด แตะจมูกหอมตรงนู้นทีตรงนี้ที ทำเอาคุณแฟนนอนตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิกตัว
... ถึงจะเป็นแฟนกันมาได้ซักพักแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยังคงเรียบง่าย มีจุ๊บกัน กอดกันบ้าง แต่ดีฟคิสและกิจกรรมบนเตียงยังไม่คืบหน้าเลยซักนิด อย่างมากก็แค่นอนกอดกัน ... แค่นั้น
... ชานยอลเคยบอกว่าของพวกนั้นไม่จำเป็น
... แต่มาทำแบบนี้ สงสัยอยากโดนแต่เช้าใช่มั้ย?
...
...
สรุปคือเมื่อเช้าก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น (พวกคุณคาดหวังอะไรกันอยู่ ผมรู้นะ!) ต่างฝ่ายต่างทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เสร็จแล้วก็ออกมาช่วยกันทำอาหารเช้าควบอาหารกลางวันเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายเข้าไปแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเรียบง่ายแต่แฝงความอบอุ่นไว้เต็มเปี่ยม ...
“นี่คริส ไม่กลับบ้านบ้างเหรอ ลู่หานอยู่บ้านคนเดียว จะเหงารึเปล่าก็ไม่รู้”ชานยอลพูดขึ้นขณะนั่งดูทีวีกันอยู่บนโซฟาโดยมีคริสนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ท่อนแขนแกร่งโอบรอบร่างโปร่งของคนขี้แกล้งไว้แนบอก กดปลายคางเข้ากับไหล่ลาดมนเบาๆ
“หึ ไม่ล่ะครับ รายนั้นเขามีอะไรสนุกๆให้ทำทุกวันอยู่แล้ว ... นี่เมื่อวานยังโทรมาบอกว่าไม่ต้องกลับบ้านด้วยซ้ำ เปลืองค่าน้ำค่าไฟ”
“แล้วไม่กลัวฉันเปลืองบ้างเหรอ”ใบหน้าหวานแหงนขึ้นจุ๊บปลายคางแหลมเป็นการขอบคุณเมื่ออีกฝ่ายส่งขนมมาให้อย่างรู้ใจ แก้มขาวกลมป่องขึ้นน้อยๆจากบรรดาขนมที่เจ้าตัวยัดเข้าไปทำให้คริสอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดแรงๆซักที
“ไม่ครับ แฟนผม ผมเลี้ยงได้ ... แล้วก็จะเลี้ยงไปตลอดชีวิตเลยด้วย”
“ปากหวานนะคนเรา”ชานยอลก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆไว้ไม่ให้คนปากหวานเห็น แต่ยังไม่ทันจะซึมซับบรรยากาศหวานๆ เสียงออดหน้าประตูที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้เจ้าของห้องถึงกับถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย
“ไม่ต้องลุกหรอกครับ เดี๋ยวผมไปเปิดให้เอง”ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครมา ฝั่งคริสที่เห็นว่าคุณแฟนไม่ค่อยจะปลื้มเพื่อนสมัยเด็กซักเท่าไหร่จึงอยากอาสาทำตัวเป็นกาวใจซะเลย
“ขอบคุณครับ”คุณแฟนสุดหล่อเดินตัวลอยไปเปิดประตูหลังจากได้รับจุ๊บหวานๆจากคนน่ารัก แบบนี้จะให้เปิดประตูอีกซักกี่บานก็ยอม อู๋สู้ไม่ถอยเลยครับ
“ฮาย คริส~”
“มาอีกแล้ว ไม่เบื่อบ้างรึไง หืม ยัยตัวแสบ”
ชานยอลอยากจะกระโดดกอดคริสแรงๆเป็นรางวัลสำหรับคำพูดแสนตรงใจ แต่ก็แอบเคืองนิดๆ ... คือคุณแฟนไม่ต้องอ่อนโยนกับผู้หญิงทุกคนก็ได้นะครับ ไม่รู้บ้างรึไงว่าหึง!
“เห ทำไมต้องเบื่อล่ะ สนุกดีออก”
... เออ เอาเข้าไป มาป่วนคนอื่น แต่คนอื่นเขาไม่สนุกด้วยนะเธอ
“วันนี้เราออกไปข้างนอกกันมั้ย ไปเที่ยวกัน ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศเนอะ”วิคตอเรียกอดแขนคริสไว้ จงใจใช้หน้าอกบดเบียดเบาๆจนคริสรู้สึกกระอักกระอ่วน ทำอะไรไม่ถูก
“เอ่อ ...”
“คุณชานยอลก็ไปด้วยกันสิคะ”พอเห็นคนตัวสูงไม่ยอมตอบ เธอจึงเบนเป้าหมายไปทางคนตาโตที่นั่งสังเกตุการณ์เงียบๆบนโซฟาแทน ชานยอลจ้องมองคริสที่ถูกกักตัวไว้ด้วยความรู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า ... ทั้งหงุดหงิด ทั้งไม่พอใจ
“หรือว่าคุณอึดอัด ... งั้นฉันขอยืมตัวคริสวันนึงแล้วนะคะ พอดีนัดเพื่อนๆไว้ ว่าจะพาคริสไปอวดซักหน่อย ...”
...
...
“ไม่ล่ะครับ ... แฟนผมทั้งคน จะให้ไปคนเดียวได้ไง :D”
... เอาวะ พูดมาขนาดนี้ ปาร์คชานยอลพร้อมรับสารท้ารบเสมอ!
…
…
ถนนย่านอับกูจองยามเย็นคราคร่ำไปด้วยผู้คนตามคาด ชานยอลในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วนตามสภาพอากาศที่ไม่ได้หนาวจนเกินไปพร้อมหมวกแสน็ปแบ็คใบเก่งกำลังยืนพ่นลมออกทางปากจนแก้มกลมๆพองขึ้น นัยน์ตากลมหลุบลงมองพื้นทางเท้าที่ปูด้วยอิฐบล็อกคดเคี้ยวด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
“ตกลงเอาร้านนี้นะคริส”
“อือ ตามใจเธอ”
กลีบปากอิ่มส่งเสียงจิ๊จ้ะเบาๆเมื่อเห็นว่าคุณแฟนจอมซื่อบื้อดูจะเออออตามเพื่อนสาว(แถมสวยซะด้วย)ไปหมดซะทุกเรื่อง นี่แฟนยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคนนะ คริสอู๋!
“ทำหน้าบึ้งทำไมเอ่ย ยิ้มหน่อยได้มั้ยครับคนดี”โถ ... ยืนตั้งนานเพิ่งจะมานึกสนใจกัน คนหน้าบึ้งเชิดหน้า กอดอกฉับ แสดงออกว่างอนเต็มขั้น ร้อนถึงคุณแฟนตัวดีต้องรีบง้อแทบไม่ทัน
“คุณแฟนอ่า~ งอนอะไรครับ คริสขอโทษนะๆ ดีกันนะๆ”ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลแต่คริสอู๋คนนี้ก็ถือคติแฟนถูกเสมอมาก่อนสิ่งอื่นใด คนตัวสูงตรงรี่เข้าไปสวมกอดคนขี้งอนทางด้านหลัง มือหนาสอดเข้าไปในอุ้งมือเล็กเพื่อง้างนิ้วก้อยให้มาเกี่ยวกันพลางทำเสียงเล็กเสียงน้อย ... อืม ในเมื่อคุณแฟนง้อแล้วจะหายงอนก็ได้
... ไม่ได้ง่ายนะครับ
... แต่ก็ได้ไม่ยาก ;P
“อะแฮ่ม ... เข้าร้านได้ล่ะมั้งคริส”
ชานยอลแกล้งเหลือบมองเธอนิดหน่อยแล้วคว้ามือคนข้างๆมากุมไว้ เดินเฉิดฉายเข้าไปในร้านด้วยท่าทางที่คิดว่าน่ารักมุ้งมิ้งที่สุด ... มาเลย วิคตอเรีย สู้ได้ก็เอาสิ
... แต่พอเข้ามาในร้าน ชานยอลกลับต้องด้วยกระอักกระอ่วนใจอีกครั้งเมื่อร้านอาหารฝรั่งเศสนี้หรูหราเกินไป คนแต่งตัวกะโปโลเสื้อยืด กางเกงไม่สุภาพแบบเขาก็ถูกมองสายตาเหยียดๆเป็นเรื่องธรรมดา ... ถึงจะคิดบวก แต่จะให้มานั่งกินในสภาพแบบนี้ก็อึดอัดเหมือนกัน
“คุณแฟนของผมน่ารักที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปสนใจสายตาใครหรอกนะครับ”คริสกระซิบข้างใบหูขาวพร้อมกับใช้มือนวดคลึงหว่างคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นเบาๆด้วยรอยยิ้ม ทำเอาคนต้นคิดในการมาเที่ยวครั้งนี้ส่งเสียงสบถเบาๆในลำคอ
“สั่งอาหารกันซักทีเถอะ ก่อนที่ฉันต้องหากระโถนมาตั้งแทนจานข้าว ... นะคะ”
... ช่วยไม่ได้อ่ะครับ ข้าวใหม่ปลามันก็เงี้ย ;P
ระหว่างที่ชานยอลกำลังเอ็นจอยกับเสต็กชิ้นโต ตับห่านฟัวกรานุ่มลิ้มที่คิดว่าชาตินี้คงได้เห็นแค่ในทีวีก็มีบ้างที่คุณแฟนสุดหล่อจะสร้างโมเมนต์แบบในละครด้วยการเอื้อมมาเช็ดมุมปากเปื้อนคราบซอสให้ สิ่งที่ได้รับเป็นค่าตอบแทนก็มีแทนรอยยิ้มแก้มป่องๆแค่นี้คริสอู๋ก็สุขใจแล้ว
นัยน์ตาคมเฉี่ยวใต้อายแชโดว์สีเข้มเหลือบมองทั้งคู่เป็นระยะด้วยสายตาที่ชานยอลเองก็บอกไม่ถูก แต่เธอก็ไม่ได้มายุ่มย่ามอะไรมาก สงสัยจะยอมแพ้แล้ว ...
“ฮาย วิคตอเรีย ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอเธอที่นี่น่ะ”
ชานยอลที่ตอนนี้แก้มตุ่ยไปด้วยอาหารเงยหน้าขึ้นมองบรรดาสาวๆในชุดเดรสหลากสีทั้ง 4 คนด้วยความงุนงง และรู้สึกเฟลกว่าเดิมเมื่อคริสยิ้มให้พวกเธอและทักทายอย่างเป็นกันเอง
“ว้าว คริส นายหล่อขึ้นมากๆเลย!”
“ขอบคุณครับสเตลล่า “หลังจากนั้นไม่นานแก๊งค์สี่สาวก็ทำลายบรรยากาศสงบสุขให้หมดไปโดยสิ้นเชิงจากเสียงพูดคุยดังจ้อกแจ้กของพวกเธอ ส่วนแกนนำไม่ใช่ใครที่ไหน ... วิคตอเรียทั้งนั้น
“อิ่มแล้วเหรอครับ”คริสเอ่ยถามคนข้างๆที่ดูจะอารมณ์บูดมาตั้งแต่ออกจากแมนชั่น ชานยอลพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้คริสต้องลำบากใจ ยอมรับว่ามันจากงี่เง่านิดหน่อยแต่โมเมนต์แบบนี้เป็นใครก็ต้องจากจะออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“อยากกลั ...”
“นี่ใครเหรอคริส หน้าตาน่ารักจัง ญาตินายเหรอ?”ยังไม่ทันพูดจบ หญิงสาวที่ชานยอลพอจำได้ลางๆว่าชื่อสเตลล่าก็ขัดขึ้นมา เธอไล่มองเขาตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า ทิ้งสายตาหยามเหยียดไว้ให้ปวดใจเล่นๆ
... ถ้าคำตอบไม่ถูกใจมีงอนยาวแน่
“ไม่ใช่ญาติ ... เอ่อ ... นี่ชานยอล แฟนของผมเอง”คนขี้อายยกมือขึ้นเกาหัวพลางหลบตาเขินส่วนอีกฝ่ายที่ถูกแนะนำว่าเป็นแฟนก็อมยิ้มจนแก้มพองเพราะท่าทางของคนข้างๆ ... อ่า คริสขี้อายคนเดิมกลับมาแล้วสิ
แล้วผู้ชายที่มีอยู่เพียงสองคนในโต๊ะก็สร้างโลกส่วนตัว กระหนุงกระหนิงกันโดยไม่แคร์สายตาจิกทึ้งของสาวๆแม้แต่น้อย วิคตอเรียแค่นยิ้มก่อนบุ้ยใบ้ไปทางสเตลล่า หล่อนจึงกระแอมไอเบาๆเพื่อขัดจังหวะคู่รักตรงหน้า
“เอ่อ ขอโทษนะคะคุณชานยอล คือพวกฉันอยากจะชวนคริสไปเที่ยวต่อซักหน่อยตามประสาคนรู้ใจกันมานานน่ะค่ะ”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นน้อยๆกับคำขอที่แสนจะไม่เป็นมิตรนั้น แต่ชานยอลก็ไม่ได้แสดงท่าทางขัดข้องอะไรนอกจากแย้มยิ้มบางทั้งที่ในใจมันร้องประท้วง อยากจะลงไปนอนตีขาคู่ที่พื้นแล้วงอแงให้คริสพากลับบ้านเหลือเกิน
“หวังว่าคุณชานยอลคงจะไม่ถือสานะคะ พอดีว่าพวกเราเคยไปไนท์คลับด้วยกันสมัยอยู่แวนคูเวอร์ด้วยกันบ่อยๆ ก็เลยอยากจะมีผู้ชายไว้คนนึงในกลุ่มเพื่อความปลอดภัยเวลากลับบ้าน ฉันเชื่อว่าอย่างคุณชานยอลเนี่ยคงไม่ใช่ประเภทหึงไม่เข้าท่าหรอกจริงมั้ยคะ”เจอแบบนี้เข้าไป ถึงจะเป็นปาร์คชานยอลก็สะอึกเป็นเหมือนกัน มันไม่ได้ไม่เข้าท่านะ แค่ไม่อยากให้แฟนไปกับคนอื่นอ่ะ ผิดมากรึไง!
“อ้อ ได้อยู่แล้วล่ะครับเพราะผมเชื่อใจคริสเขา”ว่าแล้วก็หันไปส่งยิ้มจืดๆให้คุณแฟนที่เอาแต่นั่งบื้ออยู่ข้างๆ คริสเองก็พอจะสังเกตุแววตาหม่นซึมของคนน่ารักได้ไม่ยากนักจึงทำท่าจะปฏิเสธสาวๆแต่กลับถูกชานยอลคว้ามือไว้ใต้โต๊ะ แรงบีบกระชับทำให้คริสรู้ความหมายที่ชานยอลต้องการจะสื่อ ...
“นี่ก็มืดแล้ว พวกคุณรีบไปกันเถอะครับ”
“แล้วชานยอลจะก ...”
“ฉันกลับเองได้น่าคริส อย่าลืมว่าฉันเป็นผู้ชาย ไปเที่ยวให้สนุกเถอะ ... อ้อ แล้วคืนนี้ไม่ต้องกลับมานะ ไปส่งสาวๆให้ถึงบ้านด้วยล่ะ”คนตาโตฝืนฉีกยิ้มยิงฟันให้คุณแฟนพลางรุนแผ่นหลังกว้างนั้นให้ก้าวเดินไปตามเหล่าสาวๆที่ยืนรออยู่ คนตัวสูงขมวดคิ้วมุ่นชักเริ่มไม่ชอบใจที่ชานยอลไม่ถามความสมัครใจของเขาเลย ... ผมไม่ได้อยากไปซักหน่อย
... ผมอยากกลับบ้านไปนอนกอดคุณแฟนต่างหาก
ถึงจะคิดแบบนั้นก็ป่วยการจะปฏิเสธ มีแต่จะทำให้ชานยอลดูไม่ดีในสายตาคนอื่นเปล่าๆ คริสจึงทำได้เพียงถอนใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย มองตามร่างสูงเพรียวนั้นลับหายเข้าไปรถแท็กซี่โดยไม่ลืมจำเลขทะเบียนไว้
... ทำไมถึงชอบผลักไสกันนักล่ะ
...
...
บานประตูสีขาวที่คุ้นเคยถูกผลักเปิดออกด้วยเท้า เจ้าของห้องสลัดรองเท้าผ้าใบออกก่อนตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง นัยน์ตากลมโตแวววับกลอกมองไปทั่วห้อง ... ทั้งๆที่อยู่มาเกือบ 6 ปี แต่วันนี้มันกลับเงียบงัน ... เงียบจนเหงา
ไม่ใช่เพราะห้องเปลี่ยนไปแต่เป็นเพราะหัวใจของเจ้าของต่างหากที่เอาพะวงหาใครอีกคนตลอดเวลา แค่คิดว่าคืนนี้ต้องนอนคนเดียวก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาโดยไร้เหตุผล
ชานยอลกลิ้งตัวไปมาบนเตียงหลังเดิมด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เพิ่งจะหัวค่ำ ... อะไรกันเนี่ย เพิ่งจากกันมาแค่ไม่ถึงชั่วโมง ผมก็คิดถึงคริสอีกแล้ว
กลีบปากอิ่มเบะออกนิดๆอย่างขัดใจก่อนที่ร่างโปร่งจะเด้งตัวขึ้นจากฟูกนุ่มเข้าไปอาบน้ำคลายความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน บอกเลยว่าแค่วิคตอเรียคนเดียวก็พอจะรับมือไหวแต่ยกมาทั้งเก๊งค์แบบนี้ชานยอลก็ขอบายครับ
... ก็บอกแล้วว่าเป็นผู้ชาย
... และผู้ชายก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ชอบคิดเล็กคิดน้อย
... เพราะฉะนั้นปาร์คชานยอลควรหยุดฟุ้งซ่านได้แล้ว
คนคิดมากเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวลายรีลัคคุมะปะแป้งเด็กหอมฉุย ใส่ไว้เผื่อจะหายคิดถึงคนให้ ...
ยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอน เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น ทำให้ชานยอลได้แต่สบถอย่างหงุดหงิด ... ใครมาตอนนี้อีกเนี่ย!
คุณเจ้าของห้องขยี้กลุ่มผมนุ่มจนฟูไม่เป็นทรงขณะเดินไปที่ประตู เหตุผลไม่ดีจะด่าให้ คนยิ่งกำลังเฟลๆอยู่ ...
“ใครวะ! ...”เสียงทุ้มแหบถูกดูดกลับเข้าไปในลำคอเมื่อคนตรงหน้าสวมกอดเขาไว้แนบอก อุ้งมือหนาช้อนประคองท้ายทอยขาวพลางกดจูบบนขมับอย่างอ่อนโยน กลิ่นน้ำหอมแบบนี้ สีผมแบบนี้ ... ไม่ต้องทายก็รู้ว่าใคร
…
…
…
“ผมกลับมาแล้วครับ”
TBC.
- ไม่เคยจะให้ดราม่าเกิน 1 ตอนจริงๆ สงสารยอล ไม่อยากให้น้องร้องไห้ ;___;
- โอเค สารภาพว่าเริ่มหมดมุกเพราะออกนอกพล็อตไปไกลถึงสุดขอบโลก แต่พยายามเข็นให้จบ กากหน่อนก็อย่าว่ากันนะฮ้าบ เค้าเป็นมือใหม่ ;___;
- ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ รักทุกคนจ้า <3 เม้นน้อยลงก็ไม่ค่อยเฟลละ เข้าใจมันเริ่มซ้ำซาก แต่ทนๆอ่านกันหน่อยน้า คาดว่าใกล้จะจบแล้วล่ะ
- ติ ชม ด่า ปลอบใจ ได้ที่ >> @BELLKYULO96
- แท็กเดิม >> #คริสขี้อาย
ความคิดเห็น