คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เพื่อนใหม่
ตอนเย็น (หลังเลิกเรียน)
ฉันกำลังเดินไปที่หน้าประตูเพื่อที่จะขึ้นรถจากที่บ้านที่มารอรับ แต่จู่ๆ ก็มีคนมากระโดดกอดคอฉันไว้จากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็รู้ว่าเห็นบีนาเล่นั้นเอง และข้างๆ กันนั้นก็มีเอเชียเดินทำหน้าละอากับนิสัยของเพื่อน และด้านหลังทั้งสองนั้นก็มีอีกคนเดินตามมาอย่างเงียบ และทำหน้าเรียบเฉยเหมือนเคย
“ทำไมรีบออกล่ะ พวกเรายังคุยกันยังไม่เสร็จเลยนะ” บีนาเล่พูด
“คือรถที่บ้านมารอรับแล้วน่ะฉันเลยต้องออกมา”
“อ้าวเหรอ ว้าวนี่เธอมีรถที่บ้านมารับด้วยเหรอเนี่ย บ้านรวยเหมือนกันนะเรา ^^” บีนาเล่พูดพลางมองออกไปยังหน้าประตูโรงเรียนตรงที่มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ และนั่นก็คือรถอาหมอนั่งเอง
อาหมอจะมารับส่งฉันตั้งแต่เข้าโรงเรียนใหม่นี้เป็นต้นไปเพราะโรงเพยาบาลของอาหมอนั้นอยู่ใกล้กับโรงเรียนฉัน ปกติอาหมอจะมารับตอนบ่ายสองโมงครึ่ง (โรงเรียนเลิกบ่ายสอง) แต่ที่วันนี้มารับเร็วก็เนื่องจากที่ฉันเคยให้อาหมอช่วยเรื่องใบรับรองแพทย์นั่นแหละ วันนี้ฉันจึงต้องไปช่วยดูแลคนเฒ่าคนแก่ที่บ้านพักคนชรา
“ไม่ได้รวยอะไรหรอก นั่นรถอาฉันมารอรับเท่านั้นเอง” เสียงบีบแตรจากรถอาหมอดังเรียกให้ฉันเข้ารถเร็วๆ “อาฉันเรียกแล้วงั้นฉันขอตัวก่อนนะ บายพรุ่งนี้เจอกัน” ฉันเอ่ยลาพร้อมกับโบกมือลาเพื่อนใหม่ไปด้วยแล้วจึงรีบวิ่งขึ้นรถอาหมอไป
อีกด้านหนึ่งทางเพื่อนใหม่
“โอเปียนี่น่ารักดีนะ เราน่าจะชวนเธอมาร่วมกลุ่มกับเรานะ ว่ามั้ยบี” เอเชียพูดขึ้น พร้อมกับถามเพื่อนซี้
“อืม ความคิดเข้าท่า แต่เราต้องภาวนาในโอเปียกรุ๊ปเลือดโอนะ เพราะกลุ่มขาดเพียงแต่กรุ๊ปโอกรุ๊ปเดียว แต่ต้องดูนิสัยอีกว่าโอเปียเป็นยังไง” บีนาเล่บอก
“จะเอาไงก็เอาเถอะ ฉันขอเพียงให้พวกเธอตั้งชมรมกันเสียที” ผู้ชายคนเดียวในกลุ่มพูดบ้าง เอเดย์เป็นเพื่อนกับเอเชียและบีนาเล่ตั้งแต่สมัยเด็กพวกเขาจึงสนิทกันมากและพูดคุยกันอย่างไม่มีอะไรต้องปิดบัง แต่คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่รู้จักกับเอเดย์นั่นจะคิดว่าเขาเป็นคนเงียบๆ โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงนั่นเอเดย์เป็นคนกันเอง เฮอาได้ (เฉพาะตอนอยู่กับคนที่สนิทกัน) และก็กวนประกวนแบบซื่อๆ ด้วย
“เออๆ อีกไม่นานนายก็มีชมรมอยู่แล้วน่าเอเดย์ รออีกนิดนะเพื่อน ^^” บีนาเล่เดินไปจับไหล่เพื่อนอย่างปลอบใจ
“งั้นเราไปกินข้าวร้านป้าอินร้านประจำเราดีกว่า” บีนาเล่พูดพลางลากแขนเพื่อนรักทั้งสองไปด้วย
โดยที่เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันแล้วส่ายหัวและต่างคิดเหมือนกันตรงที่ ‘เฮ้อ~ ยัยนี่ก็เห็นแก่กินไม่เคยเปลี่ยน’
วันต่อมา
ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนตอนเวลาหกโมงเช้าเวลานี้ยังไม่ค่อยมีใครมารอบๆ ข้างจึงเงียบไปซักหน่อย จู่ๆ ก็มีคนมาชุกข้อมือฉันไว้แล้วลากพาฉันไปด้านหลังโรงเรียนซึ่งไม่ค่อยมีคน (เพราะตอนนี้เช้ามาก) และฉันก็พอจะเดาออกว่าคนที่ชุกแขนฉันมานั้นเป็นใคร จะเป็นใครซะอีกล่ะ นอกจากนายบีบอยที่ชอบมาจับข้อมือฉันจัง
“เมื่อวานฉันยังคุยกับเธอไม่จบ” นายบีบอยเริ่มต้นการสนทนาก่อน
“...” ฉันเลือกที่จะไม่ตอบอะไร เพราะรำคาญกับเรื่องที่นายนี่พูดเต็มทน
“เธอรู้จักกับเอเดย์ด้วยเหรอ” ดูท่านายนี่จะพอดูออกว่าฉันไม่อยากคุย เลยเปลี่ยนเรื่อง
“...เพิ่งรู้จัก”
“ฉันไม่เชื่อ” พอนายนั่นพูดออกมาแบบนั่นฉันถึงกับเงยหน้ามองนายนั่นทันที
“ไม่เชื่อ? แล้วจะถามทำไม” แล้วนายนี่มายุ่งอะไรด้วย วันนี้อุตส่าห์อารมณ์ตั้งแต่เช้าแล้วแท้ๆ แต่พอเข้าโรงเรียนมาก็มีเรื่องมาให้หงุดหงิดตั้งแต่เช้าเลย ให้ตายสิ!
“ฉันขอเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับหมอนั่นเลย เชื่อฉัน”
“คำพูดนั่นนายเอาไปบอกตัวนายเองเถอะ เชื่อฉัน” ฉันบอกออกไปเพียงเท่านั้นก่อนจะสะบัดข้อมือออกจากมือนายบีบอยก่อนจะเดินหนีออกมาจากตรงนั้น
นายนี่จะมายุ่งอะไรกับฉันกะนักกะหนาหรือนายนี่จะมาแก้แค้นเรื่องที่ฉันทำร้ายน้องชายเขา แต่จะมาแก้แค้นหรือมาทำอะไรฉันก็ช่าง แต่ฉันจะไม่ยอมง่ายๆ หรอก L
ความคิดเห็น