คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โจทย์เก่า
2 วันต่อมา
หลังจากวันเปิดเทอมอันแสนน่าอับอายที่เกิดขึ้นในชีวิตฉันผ่านพ้นไป ฉันก็เลือกจะหนีความอับอายเหล่านั้นด้วยการแกล้งป่วย นอนเล่นอยู่บ้านไปเต็มๆ สองวัน =_= โดยโกหกกับทางโรงเรียนไปว่าไม่สบายต้องนอนที่โรงพยาบาล (การโกหกมันไม่ดีนะค่ะ T^T) ดีนะที่อาฉันเป็นหมอ ฉันเลยพอจะขอร้องให้อาหมอช่วยเขียนใบรับรองแพทย์ให้โดยมีข้อแม้ให้ไปช่วยดูแลคนชราที่บ้านพักคนชรา (ดีแหละที่ไม่ให้ฉันไปดูแลเด็ก เพราะอะไรน่ะเหรอ จะรู้ไปทำไม -_-^)
และในที่สุดของที่สุดวันนี้ฉันก็ทำใจต้องมาโรงเรียน ไม่รู้ชาวบ้านชาวช่องเขาเรียนไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ขืนฉันสอบตกขึ้นมาพ่อแม่ญาติพี่น้องฉันต้องจับฌาปนกิจฉันเป็นแน่แท้ Y_Y
เมื่อฉันเดินผ่านหน้าประตูโรงเรียนเข้ามา จากความคิดฉันทุกคนจะมองมาที่ฉันและนึกถึงภาพเหตุการณ์วันแรกของการเปิดภาคเรียนในวันนั้นแน่ แต่กลับไม่เลย ทุกคนไม่มองมาที่ฉันเลยแม้แต่คนเดียว จริงๆ แม้แต่คนเดียวก็ไม่มี อย่างกับว่าฉันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้อย่างงั้นแหละ
หรือว่า! ฉันจะหายตัวได้แบบไม่รู้ตัว (หันมองรอบตัวว่าส่วนไหนล่องหนได้หรือเปล่า) เลยทำให้ไม่มีใครมองเห็นฉัน OoO
เพ้อเจ้อไปกันใหญ่แหละ! -_-;
ฉันว่าคนพวกนี้แค่เป็นพวกไม่สนใจคนอื่นมากกว่า
...โดยเฉพาะฉัน =_=
แต่ช่างเถอะ ดีแล้วที่ไม่มีใครคิดจะจำเรื่องวันนั้นไว้ ฉันก็ค่อยโล่งอกหน่อยจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้!
ฉันเดินวนหาห้องเรียนตัวเองอยู่นาน แต่สุดท้าย...ก็ยังไม่เจอ YUY ฉันรู้แค่ว่าตัวเองอยู่ปี 1 ห้อง 7 แต่ประเด็นใหญ่เลยคือ...ฉันไม่รู้ห้องอยู่ไหน! ตารางเรียนก็มีเลขห้องบอกอ่ะนะ แต่ฉันดันลืมเอามาซะนี่สิแถมยังจำไม่ได้อีกต่างหาก เลยต้องทำใจต้องการเดินหาห้องเรียนของตนเองต่อไป (อย่างสิ้นหวัง) ก็คิดจะลองถามคนที่ผ่านไปผ่านมาอยู่หรอกนะ แต่ฉันเขินนี่นา >///<
...เพื่อ!?
จนตอนนี้นักเรียนก็เริ่มทยอยกันลงมาจากอาคารเรียนกันแล้ว นั่นหมายความว่าเวลาตอนนี้เข้าช่วงพักเที่ยงแล้ว แต่ฉันยังหาห้องเรียนตัวเองยังไม่เจอเลยอ่ะ
แล้วหนำซ้ำตอนนี้ฉันยังไม่ได้เพื่อนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้สักคนเลย!
ท้ายที่สุดก็ต้องมานั่งกินข้าวคนเดียวให้เปลี่ยวหัวใจ ไว้กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปถามหาห้องก่อนแล้วกัน ตอนนี้ก็ขอกินข้าวก่อนก็แล้วกัน (เรื่องกินต้องมาก่อนค่ะ หุหุ)
ตุบ
ฉันกำลังตักเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ปากอย่างเซ็งๆ จู่ๆ ก็มีจานข้าวมาวางตรงฝั่งตรงข้ามกับฉันเฉยเลย ฉันเงยหน้าขึ้นมองเพื่อจะดูคนเสียมารยาทที่คิดจะมานั่นก็นั่งโดยไม่ขอคนที่นั่งอยู่ก่อนเลย หรือว่านี่ฉันจะหายตัวอีกแล้วเนี่ย แต่เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองไปปั๊มฉันก็แถบอยากจะเอาหน้ามุดถ้วยก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่อยู่หน้าซะเดี๋ยวนั้นเลย เพราะคนที่เสียมารยาทที่มานั่งโต๊ะเดียวกับฉันแบบไม่ขอก่อนนั้นคือ โจทย์เก่าฉันเอง!
หมอนี่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย!?
“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”ฉันถามออกไปด้วยเสียงตกใจปนแปลกใจที่เห็นหมอนี่มาอยู่ที่นี่ตรงหน้าฉันตอนนี้
“ฉันก็มาเรียนสิถามได้” กวนได้กวนดีจริงๆ อีตานี่
สงสัยกันมั้ยเอ่ยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าฉันนี่เป็นใคร ทำไมฉันถึงพูดคุยอย่างสนิทสนมกันอย่างกับรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนงั้นแหละ แต่เปล่าเลยซักนิด นายนี่ชื่อ “บีบอย” เป็นคนที่ฉันเคยแอบชอบเมื่อตอนสมัยเรียนมัธยม แต่ตอนนี้น่ะเหรอฉันเปลี่ยนจากคำว่าชอบมาเป็นคำว่า ‘เกลียดขี้หน้า’ นายนี่แทนแล้วล่ะ หลังจากที่หมอนี่หักอกด้วยการปฏิเสธฉัน ด้วยการพูดแบบไม่มีการถนอมน้ำใจกันเลยสักนิด ด้วยคำพูดที่ว่า ‘หน้าตาอย่างเธอเนี่ยนะจะมาขอความรักจากฉัน กระจกบ้านเธอคงไม่มีสินะ ฉันขอแนะนำเธอนะว่าให้เธอไปซื้อกระจกบานใหญ่ๆ มาส่องดูตัวเองดู (ตอนนั้นหน้าตาฉันออกจะไม่ดีเท่าไร แถมไม่ตรงกับสาวในฝันนายนี่ด้วยล่ะมั้ง =_=^) ว่าหน้าตาอย่างเธอเนี่ยน่ะจะมาเป็นแฟนฉันได้ ฝันไปเถะ!’ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าประโยคนี้ใครจะฟังแล้วจะรู้สึกยังไง แต่ฉันฟังแล้วมันฝังใจมากแล้วรู้สึกแค้นใจตงิดๆ
ฉากจบในตอนนั้นก็จบลงที่ขาฉันกระตุกกะทันหันมันเลยส่งผลทำให้ขาฉันพุ่งตรงไปยังจุดศูนย์กลางลำตัวของอีตานั่นอย่างไม่ออมแรง!
คิดถึงตอนนั้นแล้วฉันยังสะใจไม่หาย ตอนนั้นนะหน้านายนั่นเขียวยี้เลยล่ะ วะฮ่าฮะ ^()^
ดีนะที่ตอนนั้นเป็นวันจบปีการศึกษาชั้นมัธยมแล้วพอดี (ฉันนิยมสารภาพรักในตอนที่เรียนจบน่ะ เผื่อผลออกมาไม่ดี เราจะได้ไม่ต้องเจอหน้าเขาอีก) ฉันเลยไม่ต้องเจอนายนั่นอีกตั้งแต่นั่นมา
แต่ฉันคิดผิด ที่ดวงซวยมาเจอหมอนี่ในโรงเรียนนี้ และลางสังหรณ์ฉันบอกว่าฉันจะต้องเจอนายนี่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปอย่างแน่นอน T T
“เหรอ” ฉันบอกกลับไปแบบลอยหน้าลอยตา ก่อนจะวางช้อนลงแล้วลุกขึ้นเพื่อจะได้ไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ตอนนี้ฉันชักจะอยากล่องหนได้จริงๆ ซะแล้วสิ
“ใครอนุญาตให้เธอไปไม่ทราบ” ไอ้บ้าบีบอยพูดพร้อมกับยึดแขนฉันไว้ไม่ให้ลุกหนีไปไหน
“ใครก็ได้ที่ไม่ใช่นาย” ฉันพูดพลางสะบัดแขนข้างที่นายนั่นยึดไว้ แต่มันบังเอิญ (นะ) ที่ชามก๋วยเตี๋ยวที่ฉันเตรียมจะถือไปเก็บอยู่ในมือข้างที่นายบีบอยยึดแขนไว้ ทำให้น้ำตกแสนอร่อยในชามก๋วยเตี๋ยวในมือฉัน...ลงไปนอนเล่นบนนักเรียนของนายนั่นเต็มๆ แบบเหมาหมดชาม (ดีนะที่น้ำก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยของฉันเริ่มเย็นแล้ว ไม่งั้นคงได้ยินว่าฉ่า~ แน่ๆ)
“!!!” ทั้งโรงอาหารเงียบเกิบ อย่างกับพร้อมใจกันเป็นใบ้ทั้งโรงเรียน สายตาทุกคู่ในโรงอาหารต่างมองมายังจุดเดียวกันนั่นคือโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่!
ปีนี้ฉันจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ หรือไม่ก็ลาชีวิตนี้ไปบวชซะเลยให้รู้กันไป เผื่อนั่นจะช่วยทำให้ฉันไม่ต้องเจอความอับอายแล้วอับอายอีกแบบนี้!!! ซวยแล้วซวยอีกจริงๆ ฉัน!
ความคิดเห็น