คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 : "เลิกงานแล้วกลับบ้านทันที"
“ว้าย เลิกงานแล้ว กูขอไปเติมทินท์แป๊ป”
“เชิญเถอะเพื่อนรัก”
“คุณหัวหน้าอย่าลืมบทสวดสรภัญญะที่ผมวางไว้ให้บนโต๊ะนะครับ อนุโมธนาสาธุครับ”
“โอ้ย วุ่นวายชิบหายเลยครับ มหาจงแดจะรีบไปไหนก็ไปครับ”
... ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็นตรงเป๊ะไม่ต้องเปิดทีวีเช็คเพลงชาติให้เสียเวลา เหล่ามนุษย์เงินเดือนแห่งบริษัท EHA ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามของท่านชายทยอยลุกขึ้นจากเก้าอี้ โผล่หน้าออกมาจากคอกทีละคนๆเหมือนเกมส์ตีหัวตัวตุ่นแถมยังส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายทั้งๆที่เมื่อ 1 นาทีที่แล้วยังนั่งทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้แดกอาหารคลีนอยู่หยกๆ ...
‘โดคยองซู’ หัวหน้าแผนกการตลาดร่างเล็กวัย 25 กดชัตดาวน์คอมพิวเตอร์ ขณะที่กำลังจัดเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะให้เรียบร้อยก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีเสียงดังขึ้นจากด้านบนของกระจกกั้นคอกพอดี “เหนียง วันนี้กูกับอี้จะไปแรดกันที่ผับ Chani ค่ะ ไปด้วยกันมะ สนมะ สนมะ”
ยิ่งคนชวนยื่นหน้าขาววอก ปากแดงแรงฤทธิ์ข้ามคอกมาใกล้ คยองซูยิ่งต้องหดคอหนีคล้ายเต่าตนุป้องกันตัวจากมหันตภัย ... ฟังไม่ผิดหรอก นังนี่มันคือมหันตภัยของชีวิตเขาแน่ๆ โอเซฮุน ... ผู้เจิดจรัสกว่าชะนีคนใดในออฟฟิศ!
คยองซูไม่ตอบรับคำชวนแต่เก็บข้าวของลงกระเป๋าอย่างปลงตกกับชีวิต แผนที่วางไว้ในหัวคร่าวๆว่าเย็นนี้เข้าครัวจะทำสปาเก็ตตี้กิมจิง่ายๆเป็นดินเนอร์ ตบท้ายด้วยทาโกยากิโรยสาหร่ายที่อุตส่าห์ลงทุนซื้อเครื่องมาทำเป็นของทานเล่นระหว่างดูหนังเรื่องโปรด แล้วเข้านอนตรงเวลาเหมือนมนุษย์เงินเดือนปกติทั่วไปดูเหมือนจะพังพินาศย่อยยับเพราะสองเพื่อนสาวแอ๊บแมนได้มายืนดักทางออกไว้ด้วยใบหน้าชั่วร้ายเสียแล้ว ...
“เหนียง มึงอย่าคิดหนี มาให้กูตบแป้งก่อน มึงไปในสภาพหน้ามัน หัวกระเซิงแบบนี้คิดเหรอว่ามึงจะตกเหยื่อได้ ดูอย่างกูนี่ หน้าผ่อง ปากอิ่ม วิบวับตลับเมตรสุด มึงว่ามั้ยอี้?”คยองซูเบ้ปากเป็นสะพายพระรามแปดเพราะคำพูดแทงใจดำของเพื่อนรักที่คบกันมายาวนาน ... และคิดว่าจะเลิกคบเร็วๆนี้
… ผมก็เคยมีความรักนะ! แถมเป็นรักข้างเดียวเปล่าเปลี่ยวพวงไข่อีกด้วย
“เธอดูดีทุกอย่างแล้วเพื่อนรัก. ยกเว้นแสกกลางบนหัว. ถ้าเธอยังไม่เลิกทำทรงนี้ เธออาจหาผัวไม่ได้. จำไว้”อี้ชิงยิ้มอ่อนตอบเซฮุนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง
“มึงมันไม่มีเซ้นส์ ทรงนี้แหละ เด็ดดวงควงสว่านสุด!”เซฮุนส่ายคอไปมาขณะตอบอี้ชิงแบบดีว่า พอดีมีพี่พลอย เฌอมาลย์เป็นไอดอลไง ส่วนนังอี้ก็มีคุณคมศักดิ์ แอดเขียวเหลือบม่วงหรือแอดมะฮอกกานีประกายแดง อะไรซักอย่างเนี่ยล่ะเป็นไอดอล เวลาจะพูดอะไรต้องเติมจุด ยิ้มอ่อน มองแรงอะไรก็ไม่รู้ น่ามคานที่สุด!
เพื่อนร่างเล็กที่ได้แต่ยืนดูอยู่เงียบๆเตรียมจะย่องออกไปแต่ก็ถูกมือมารยื่นมาหิ้วคอเสื้อไว้ ผลัดกันลากๆจูงๆมาให้ประโคมเครื่องประทินโฉมลงบนหน้าจนฟรุ้งฟริ้งถูกใจแล้วจึงได้ฤกษ์ขึ้นรถไปหาเหยื่อเนื้อนุ่มๆ หน้าตาน่าขบมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ... แต่ระดับเซฮุนและอี้ชิงต้องบอกว่าเห็นคนหล่อทีไรเป็นต้องน้ำเดินทุกทีค่ะ ... ไม่รู้คำแปลไปถามคุณแม่นะคะเด็กๆ *จือปากอ่อน*
... ค่ำคืนนี้อาจเป็นคืนที่เย้เฮทโอโฮรัทของเพื่อนสาวทั้งสอง
... แต่อาจเป็นคืนวินาศสันตะโรของโดคยองซูผู้อาภัพรักก็เป็นได้!
“ตื่นเดี๋ยวนี้นังเหนียง ถึงบ้านกูละค่ะ”
คยองซูในชุดทำงานชุดเดิม(เสื้อเชิ้ตสีชมพูยับๆกับกางเกงแสล็คฟิตตูด)ปรือตาขึ้นมองออกไปนอกกระจกหลังจากเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการกรำงานหนักทั้งวัน ตาโตเกือบเหลือกมองป้ายไฟสว่างโร่มีดวงไฟวิ่งรอบตัวหนังสือโดดเด่นเป็นสง่าอ่านได้ว่า ‘chani’ มองเผินๆก็ดีอยู่หรอกแต่อ่านเป็นภาษาไทยแล้วต้องบอกว่ามันช่างเป็นที่ที่ไม่เหมาะกับเซฮุนและอี้ชิงเอาเสียเลย ... ก็พวกนี้มันตุ๊ดหัวโปก ตุ๊ดวันนาบีชัดๆ
“แหม ... เพื่อนรัก ถ้านี่บ้านมึง. บ้านกูก็คงอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่มั้ง. ผู้ชายเยอะพอกัน”เจ้าของรถดับเครื่องก่อนจะไล่เพื่อนๆลงจากรถ ก่อนลงก็ไม่ลืมเช็คเรตติ้งด้วยการปลดกระดุมเสื้อซักเม็ดสองเม็ด อะไรๆก็อ่อนได้ แต่อี้ชิงต้องเซ็กซี่แรงนะเพื่อนรัก. จำไว้
บริเวณด้านหน้าของผับซึ่งติดกับถนนใหญ่เต็มไปด้วยบรรดานักท่องเที่ยวยามราตรีที่นุ่งน้อยห่มกันเหลือเกินยืนออกันอยู่แน่นขนัด บ้างก็มากันเป็นก๊วนอยากชวนเธอมาเลิฟ บ้างก็ฉายเดี่ยวเฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว ไม่ต้องเดาสภาพในร้านก็พอจะรู้ว่าถ้าเข้าไปได้ กว่าจะได้นั่งที่โต๊ะคงโดนสีอย่างนับไม่ถ้วนจนอาจเกิดเพลิงไหม้เลยทีเดียว
“สามที่ครับ” คยองซูยืนรอเซฮุนและอี้ชิงที่เดินไปจองโต๊ะกับบริกรหล่อล่ำ สวมยูนิฟอร์มเป็นเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีขาวพร้อมหูกระต่ายสีแดงสด โชว์กล้ามแขนเฟิร์มๆไร้ก้อนไขมันกวนใจ ทำเอาสองสาวถึงกับแลบลิ้นเลียปากกันแผล่บๆเหมือนกบหิวแมลง รีบเดินตามเขาไปต้อยๆทิ้งให้เพื่อนตัวเตี้ยยืนเคว้งคว้างท่ามกลางผู้คนมากล้นในคืนหลอกลวงเพียงลำพัง
... ผมว่าฟิคเรื่องนี้ชักจะไปกันใหญ่
“โอ๊ะ ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่าเอ่ย” ยืนงงในดงกล้วย(มีทั้งใหญ่และเล็กคละกันไป)ได้ไม่นานก็มีเหยื่อหน้าตาพอรับไหวเดินเข้ามาชนแบบเนียนๆ แต่ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันมากไปทำให้คยองซูคนเตี้ยตันถึงกับเซไปชนใครอีกคนล้มเป็นโดมิโน่ ตากลมโตตวัดมองชายผู้ก่อเหตุอย่างขุ่นเคือง ในใจมโนภาพตัวเองรัวไม้หน้าสามลงบนหัวเรียบแปล้หัวนั้นนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะตอบไปเนิบๆ
“ไม่เป็นไรครับ” คยองซูยิ้มอ่อน
ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าคบกับใครไปนานๆจะติดนิสัยคนๆนั้นมาด้วย แต่ให้ติดนิสัยประหลาดๆจากนังสองสาวแอ๊บแมนมาก็ไม่ไหวนะ ...
“มาสิครับ เดี๋ยวผมช่วย”ชายคนดังกล่าวยังไม่ละความพยายาม ยื่นมือกร้านๆออกมาตรงหน้าสิ่งมีชีวิตหัวกลม ตาเหลือกโตพร้อมจะกัดแขนผู้เคราะห์ร้ายให้ขาดได้ทุกเมื่อ ... ตกลงคยองซูเป็นตัวอะไรกันแน่เพื่อนรัก. คนร่างเล็กไม่ตอบแต่ยันตัวขึ้นจากพื้นด้วยตัวเอง แม่สอนว่าให้ช่วยเหลือตัวเอง ถ้าอยากก็ช่วยตัวเอง ถ้าไม่อยากช่วยตัวเองค่อยไปหาคนมาช่วยเรา.จำไว้จะได้ไม่เมื่อยมือ
คนอ่านคิดว่ามันแปลกๆและไร้สาระใช่มั้ยเพื่อนรัก. คนเขียนก็เช่นกัน / ทุกคนกระโดดเอาหน้าโหม่งเตียงอ่อนพร้อมกัน นึง ส่อง ซั่ม! ...
ท่านหัวหน้าแผนกคนเก่งค่อยๆกระดึ๊บตัวหนีมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงหน้าบาร์เครื่องดื่มท่ามกลางดนตรีจังหวะอิเล็กโทรสุดตื้ดชวนดิ้น กระโดดเทคตัวขึ้นไปแหมะก้นอวบอิ่มลงบนเก้าอี้ขาเดียวตัวสูงลิ่ว พอเงยหน้าขึ้นก็พบนัยน์ตาวิบวับของบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา ชายหนุ่มหุ่นล่ำโปรยยิ้มมุมปาก เท้าศอกกับเคาน์ทเตอร์บาร์พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ...
“ดื่มอะไรดีครับคนสวย” ตากลมโตเกือบเหลือกจ้องใบหน้าของคนพูดนิ่งก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาไปเสียเอง คือก็เขินเป็นไง เห็นสายโหดงี้โดนยอตรงๆก็เขินครับ จึงตอบไปแบบไม่มองหน้า “อะไรก็ได้ครับ”
“งั้นรับ ‘บาร์เทนเดอร์’ ห่อใส่ถุงกลับบ้านมั้ยครับ”
อห ...
กรณีนี้ต้องใช้ ‘อห’ เพราะมันแปลได้หลายอย่าง เช่น ไอ้หรรม ไอ้หอย ไอ้เหียก เป็นต้น ...
คยองซูนิ่งอึ้งก่อนจะเผยอรอยยิ้มรูปหัวใจน่ารัก ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล จิกตาอ่อนตามที่เพื่อนรักได้สั่งสอนมา เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเป็นไก่อ่อน ต้องทำให้เขารู้ว่าเราเป็นไก่แข็ง! “งั้นขอออนเดอะร็อกแก้วนึงแล้วกันครับ ส่วนคุณผมคิดว่าคงไม่น่าอร่อยเท่าไหร่”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อหนุ่มน้อยหน้าใสแถมยังตัวเล็กซะจนนึกว่าเป็นเด็กมัธยมสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรงไม่สมตัว แต่ในฐานะบาร์เทนเดอร์ ลูกค้าสั่งอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น เผลอๆคืนนี้อาจจะได้คนสวยไปเชยชมด้วยสิ ถ้าไม่โดนใครแย่งไปก่อนผับจะปิดซะก่อนนะ
ไม่นานเครื่องดื่มสีอำพันอ่อนในแก้วทรงสูงก็ถูกเสิร์ฟตรงหน้า คยองซูยกยิ้มเป็นเชิงขอบคุณแล้วยกแก้วขึ้นมาจิบเล็กๆ ขยับข้อนิ้วไปตามจังหวะดนตรีเพลินๆ กวาดสายมองไปที่บรรดาผีเสื้อราตรีที่กำลังสยายปีกเริงร่ากันเต็มที่เพื่อหานังเพื่อนทรพีทั้งสอง นั่นไง เจอละ ... เซฮุนกำลังยืนเต๊าะเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งอยู่หลังเครื่องเสียง มือไม้นี่อยู่ไม่สุขลูบไล้โลมเล้าเหมือนต้องการเขามาก ช่างน่าสงสารเด็กคนนั้นจริงๆ ...
ส่วนอี้ชิง รายนั้นเขามาเงียบๆแต่เก็บเรียบ ตอนนี้ก็กำลังยืนทำหน้าแอ๊บใสใส่ผู้ชายดูท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งที่เข้ามาเต๊าะ บอกเลยว่าหล่อนนี่มันแรดแรง เพื่อนรัก ...
“ตรงนี้มีคนนั่งมั้ยครับ”
คยองซูหันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มเป็นชายหนุ่มรูปร่างพอๆกับเขาเพียงแต่สูงกว่าเล็กน้อย แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทปลดกระดุมเม็ดบนออก 2-3 โชว์ช่วงไหล่กว้างกับกางเกงแสล็คเข้ารูปสีเดียวกัน เรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลถูกเซ็ตให้ตั้งขึ้นเปิดหน้าผาก นัยน์ตาเรียวรับกับจมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางยกยิ้มน้อยๆ มองรวมๆแล้วก็หล่อดี ... แต่คยองซูไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้ กระทั่งอีกฝ่ายเอามือมาโบกตรงหน้าจึงได้สติ รีบตอบกลับไปโดยไม่สบตา กลิ่นน้ำหอมสปอร์ตหอมเย็นโชยเข้าจมูกทำให้ลิ้นแข็งพูดอะไรไม่ออกดื้อๆ “อ่า ... ไม่มีครับ”
เหลือบมองจากหางตาก็เห็นว่าหนุ่มตี๋คนนั้นทรุดตัวลงนั่งข้างๆ คยองซูรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในเอ็มวีเพลงฝรั่งที่นางเอกกับพระเอกมาเจอกันในผับ ต่างกันแค่เขาไม่มีนมอึ๋มๆใส่กระโปรงสั้นๆและหมอนี่ก็ตัวเตี้ยไปหน่อย แล้วตอนนี้ควรจะทำอะไรดี เอาออนเดอะร็อคราดตัวเอง กัดปาก ทำตาปรือเหมือนโดนผึ้งต่อย ดีมั้ย?
“มาคนเดียวเหรอครับ” คนข้างๆเอ่ยถามขึ้นหลังจากละเอียดจิบมาร์ตินี่ที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มนำมาเสิร์ฟให้ ชายหนุ่มนั่งหลังตรง เท้าศอกกับเคานท์เตอร์บาร์ หันมามองเขาด้วยนัยน์ตาพราวระยับที่สื่อความหมายบางอย่าง ... บางอย่างคยองซูรู้ว่าอี้ชิงกับเซฮุนต้องกรื๊ดแตกแน่นอน ...
“มากับเพื่อนครับ”
“แล้วเพื่อนไปไหนซะล่ะครับ นั่งคนเดียวเหงาแย่” น้ำเสียงทอดอ่อนพูดเอื่อยๆอย่างไม่ใส่ใจนักแต่กลับไม่ละสายตาจากใบหน้าคนตัวเล็กทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบ คอปกเสื้อที่ไม่ได้กลัดกระดุมแบะออกทำให้คยองซูต้องเบนสายตาไปที่แก้วออนเดอะร็อคของตัวเองราวกับว่ามันน่าสนใจเสียเต็มประดา...
“ไปเต้นครับ เดี๋ยวก็คงกลับมา”
เครื่องดื่มหมดลงแก้วแล้วแก้วเล่า เซฮุนและอี้ชิงก็ไม่มีวี่แววจะเดินมาหาเพื่อนตัวเล็กที่รออย่างกระสับกระส่าย รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าถูกจ้องมองโดยคนข้างๆ สายตาที่โลมเลียเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าผ่านเสื้อผ้าคล้ายกับกำลังประเมิณว่าจะถอดมันด้วยวิธีไหนจึงจะเร้าใจที่สุด เหงื่อกาฬไหลซึมตามไรผมจนเปียกชุ่ม แอลกฮอล์ที่ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปตามกระแสเลือดดูเหมือนกำลังทำหน้าที่ของมันอย่างช้าๆ ...
“ร้อนเหรอครับ ...” คยองซูสะดุ้งน้อยๆเมื่อมือเรียวสวยของคนข้างๆเอื้อมมาเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กตรงข้างแก้มแดงจัดเบาๆ รอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ชอบกลแต่ก็มีเสน่ห์อย่างเหลือร้ายถูกส่งมาให้ครั้งอีกครั้ง สัมผัสบางเบานั้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด คนตัวเล็กเผลอแนบแก้มเข้าหามือนั้นมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวทั้งๆที่ปกติไอ้คนที่มาทำแบบนี้ต้องได้กระดูกหักซักส่วนถึงจะสาสม
“ชอบเหรอครับ” ได้ยินเสียงแตกพร่าของอีกฝ่ายดังแผ่วๆ ตอนนี้สมองของเขาขาวโพลน ภาพที่มองเห็นโคลงเคลงไปมาเหมือนเรือถูกคลื่นซัด ปกติคยองซูไม่ใช่คนคออ่อน เรียกได้ว่าคอทองแดง(แต่ไม่ใช่คนใต้นะครับ)ด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่าระหว่างที่รอสองเพื่อนทรพีจะกระดกเพลินไปนิดและท้องว่างจึงทำให้มึนง่ายกว่าปกติ
“อือ ... หยิบโทรศัพท์ให้ อึ้ก ... หน่อย” คนตัวเล็กเริ่มสะอึก ดวงตากลมโตปรือปรอยครึ่งหลับครึ่งตื่นจ้องมองคนตรงหน้าเขม็งก่อนจะจับมือเรียวที่เอาแต่ลูบแก้มแดงๆของเขาไปมาให้ล้วงเข้าไปในกางเกงแสล็คสำหรับใส่ทำงานของตัวเอง
“อยู่ไหนวะ” กลีบปากอวบอิ่มสีชมพูบ่นงึมงำ ขณะใช้มืออีกคนควานหาไปเรื่อยทั้งที่กระเป๋ากางเกงก็เล็กนิดเดียวแถมยังฟิตตูดจนในที่สุดก็หยิบเจ้าไอโฟนลูกรักที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงออกมาได้สำเร็จก่อนจะสะบัดมือที่จับอยู่ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“สะโพกคุณแน่นดีนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มกริ่มขณะมองคนตัวเล็กแก้มแดงน่าเอ็นดูกดมือถือแบบเมาๆ ต้องบอกว่าแบบเมาๆนั่นแหละถูกแล้ว เมื่อกี้เห็นยังอายๆอยู่ ทำแบบนี้ได้แสดงว่าเมาชัวร์ ประสบการณ์ของเขามันบอกแบบนั้น
ชะโงกหน้าไปดูว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็เห็นว่านิ้วป้อมที่มีร่องรอยการแทะเล็บกดๆจิ้มๆพิมพ์บางอย่างในแอพพลิเคชั่นไลน์ ห้องสนทนาชื่อ ‘my boss’ ... อืม เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดีนักหรอกแต่ก็ตลกดีแฮะ
“ผมชอบคูณ ... ชอบมาต้างนาน ทามมายคูณไม่รู้เรื่องเลยอ่า ไอ้โง่! ไอ้ซื่อบื้อ! ไอ้เบื้อกเอ้ย!” ตอนแรกก็พูดเสียงยานคานอยู่หรอกพอมาถึงกลางๆเริ่มเพิ่มวอลุ่มจนกลายเป็นตะเบ็งเสียงใส่โทรศัพท์มือถืออย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่าถูกมันแอบจับตูด คนตัวเล็กกระแทกไอโฟนกับเคานท์เตอร์บาร์ด้วยความความหงุดหงิด ริมฝีปากบิดเบ้ น้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตากลมโตอย่างน่าสงสาร ส่งเสียงครางฮือในลำคอเหมือนเด็กเล็ก
“ไม่ร้องนะครับ คนเก่ง ร้องไห้เดี๋ยวตาเจ็บนะครับ” คนตัวสูงกว่าปลอบเสียงนุ่ม โอบไหล่เล็กเข้ามาซบอกกว้าง หัวกลมๆซุกหน้ากับเสื้อเชิ้ตจนเปียกชุ่มน้ำตาก่อนจะพูดเสียงสั่นเครือปนสะอื้น “นายอย่าทำอะไรตาเรานะ ฮึก ถ้าตาเราเจ็บแล้วยายจะอยู่ยังไงอ่ะ ใครจะให้อาหารไก่ล่ะ ฮืออออ”
ชายหนุ่มหัวเราะพรืด ได้แต่พยักหน้าเออออตามน้ำไป แอบฝังจมูกสูดกลิ่นแชมพูเด็กอ่อนๆบนกลุ่มผมนิ่มสีน้ำตาลเข้มเบาๆ ทั้งหน้าเด็ก กลิ่นเหมือนเด็ก ร้องไห้งอแงดูยังไงก็เด็กชัดๆ ไม่น่าจะอายุถึงที่จะเข้าผับด้วยซ้ำ กลับบ้านไปกินนมนอนดีกว่ามั้งครับเนี่ยตัวเล็ก
“อะแฮ่ม โทษนะครับ เพื่อนผมเป็นอะไรเหรอครับ?” เซฮุนจ้องชายหนุ่มผมน้ำตาลเชิ้ตดำสุดฮอทที่กำลังโอบกอดนังคยองซูไว้ในอ้อมแขนตาวาว หันไปมองหน้าอี้ชิงก็พบว่าอีกฝ่ายก็มีสายตาไม่ต่างกัน ... นังไวไฟ เห็นหงิมๆงี้ได้ของเด็ดอ่ะ! ดูไหล่กว้างๆน่าซบกับตาตี่ๆตี๋อินเทรนด์ โอ้ย เซฮุนกับอี้ชิงไม่รู้จริงๆว่าตัวเองพลาดผู้ชายคนนี้ไปได้ยังไง อบอุ่นแต่ร้อนแรง คืออยากได้มาก!
“อ๋อ คุณเป็นเพื่อนกับเขาใช่มั้ยครับ ดูเหมือนเขาจะดื่มหนักไปหน่อยครับก็เลยเมา” หนุ่มตี๋ก้มลงไปปัดผมหน้าม้าที่ปรกหน้าปรกตาคนตัวเล็กในอ้อมกอดเบาๆ “พวกคุณเอารถมามั้ยครับ เดี๋ยวผมช่วยพยุงไปส่ง”
เซฮุนและอี้ชิงที่เหม่อมองหนุ่มหล่อ ขาว ตี๋ตาเยิ้มรีบหันขวับมาประชุมกันทางโทรจิต ทิ้งให้คยองซูนั่งตาปรือ โบกมือทักทายสปอร์ตไลท์กลางฟลอร์เต้นพลางหัวเราะคิกคัก แก้มแดงจัดด้วยฤทธิ์แอลกฮอล์ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุป ...
ขอโทษนะเพื่อน แต่กูเห็นมึงเหงามานานแล้ว
“พวกผมไม่ได้เอารถมาหรอกครับ บ้านพวกเราอยู่คนละทางกันซะด้วยสิ” เซฮุนพูดเสียงอ่อย ส่วนอี้ชิงรีบพนักหน้าหงึกหงักเสริม “ฝากคุณสุดหล่อไปส่งเพื่อนเราหน่อยได้มั้ยฮะ”
มีผัวซะเถอะเพื่อนรัก!
หลังจากตกลงกันเรียบร้อย สองเพื่อนสาวก็ได้แต่มองคุณสุดหล่อโอบเอวนังคยองซูฝ่าดงซอมบี้ออกจากผับน้ำลายยืด เดือดร้อนกันอยู่นานเมื่อคนเมาแหกปากโวยวายเสียงดังลั่น สะบัดตัวออกจากวงแขน วิ่งตื้อไปคว้าเอากรวยจราจรมากอดไว้แนบอก ดึงออกก็ไม่ยอมจะเอากลับบ้านให้ได้ท่าเดียวจนต้องโบกเรียกแท็กซี่แล้วทำทีเป็นยัดกรวยสีส้มแปร๊ดเข้ากระโปรงหลังรถ คยองซูถึงพอใจ ยกนิ้วโป้งให้เพื่อนรักพลางยิ้มแฉ่ง กระโดดดึ๋งขึ้นรถไปโดยสวัสดิภาพ
“ไปไหนครับ” ลุงคนขับแท็กซี่หันหลังมาถามผู้โดยสารทั้งสอง คนตัวสูงกว่าที่ยังมีสติครบถ้วนเขย่าไหล่เล็กเบาๆขณะที่คยองซูกำลังร้องไห้งอแง บ่นเรื่องเน็ตช้า wi-fi ไม่ขึ้นงึมงำ “ตัวเล็กครับ บ้านอยู่ไหน จำได้มั้ยครับ หืม”
ถามจบลุงคนขับก็จ้องหน้าเขาเขม็งเหมือนเขาเป็นผู้ต้องหาลักพาตัวเด็กประถมไปขายอวัยวะแถวชายแดน ความจริงจะถูกมองแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก ขนาดชื่อเขาคนตัวเล็กนี่ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เพื่อนๆของเจ้าตัวก็ดูจะไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงเรียงนามอะไรเลย เกิดเขาเป็นโจรปล้นฆ่าร้อยศพป่านนี้คนข้างๆคงได้กลายเป็นร่างวิญญานแถวพงหญ้าที่ไหนซักที่ไปแล้วมั้งครับเนี่ย
“บ้าน บ้านแม่อยู่โซล บ้านพ่ออยู่ปูซาน บ้านปู่กับย่าอยู่ .. อยู่ไหนอ่ะ ผมจำไม่ได้ ฮือออออ”
คยองซูเบะปากร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆ ดวงตากลมโตฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำใส จมูกแดงก่ำเหมือนกวางรูดอล์ฟ น่ากลัวว่าพรุ่งนี้จะตาบวมปูดจนลืมไม่ขึ้น แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ บ้านมึงอยู่ไหน ...
ยื้อกันไปยื้อกันมาบนแท็กซี่อยู่นาน ลุงแท็กซี่ก็พามาถึงหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ขับผ่านสนามเด็กเล่นและสวนสาธารณะเล็กกระทั่งเจ้าตัวเล็กโวยวายให้จอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังแรกตรงหัวมุมถนนนั่นแหละ ถึงได้ฤกษ์ลงจากรถซักที ชายหนุ่มถือวิสาสะล้วงกระเป๋าสตางค์ที่จำได้ว่าอยู่ในกระเป๋ากางเกงของคยองซูออกมาหยิบเงินให้ลุงแท็กซี่ ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะขโมย ถึง ‘อาชีพ’ ของเขาจะไม่สุจริตเท่าไหร่แต่ก็ขอรับเงินจากนายจ้างหรือลูกค้าก็พอ
“ลงมาครับ ตัวเล็ก” คยองซูเดินโย้ไปโย้มาหวิดได้ลงไปจูบพื้นหลายทีด้วยอาการเมาแรง ดวงตากลมโตหรี่ปรือ สติเลือนรางเต็มทีแต่ก็ยังเปิดรั้วบ้านเดินเข้าไปแตะบัตรที่หน้าประตูชั้นในได้ คนตัวสูงกว่าเห็นดังนั้นก็ว่าจะขอตัวกลับบ้านเพราะเจตนาจะมาส่งเฉยๆ วันนี้เป็นวันหยุดของเขา ขอไม่รับลูกค้าซักวันแล้วกัน
ตึง!
“แง้งงงงงงงงงงงงง!!!” คนที่กำลังเดินผ่านรั้วบ้านออกไปรีบวิ่งกลับมาหน้าตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงของหนักกระแทกพื้นและเสียงร้องไห้จ้าดังมาจากในบ้าน เปิดประตูเข้าไปดูก็พบคยองซูนอนแผ่เอาหน้าคว่ำกับพื้น แว่วเสียงพึมพำบทสวดสรภัญญะปนเสียงสะอื้นดังลอดมาทำให้เขาต้องพยุงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืน “เฮ้ย จมูกคุณ เลือดไหล!”
นัยน์ตาเรียวมองหาเครื่องมือปฐมพยาบาลและก็พบตู้เก็บยาเล็กๆในห้องนั่งเล่นพอดีจึงพาคยองซูที่ยังสวดสรภัญญะไม่เลิกไปนั่งแหมะบนโซฟาบุกำมะหยี่สีดำสนิทตัวโปรดแล้วเดินไปหยิบสำลี เจลทาแก้ฟกช้ำติดมือมาด้วย “ทายาก่อนนะครับ จมูกบวมหมดเลย”
เขาป้ายสำลีเช็ดคราบเลือดที่ติดตรงใต้จมูกออก ป้ายเจลลงบนสันจมูกนุ่มนิ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงก่ำและเขาแน่ใจว่าพรุ่งนี้มันต้องเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างเบามือ คยองซูหลับตาพริ้ม คิ้วดกหนาขมวดสลับคลายเมื่อรู้สึกเจ็บจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
“ผมไปก่อนนะครับ นอนได้แล้วนะ” จังหวะที่เขากำลังลุกขึ้นจากพื้นข้างโซฟา เจ้าตัวเล็กก็โผเข้ามาโถมกอดคนตัวสูงกว่าไว้ทั้งตัว กอดแล้วหมุนไปหมุนมาจนล้มลงบนโซฟาด้วยกันทั้งคู่ ชายหนุ่มชะงักค้างเมื่อพบว่าตัวเองถูกลูกหมูน้อยทับไว้ทั้งตัว ใบหน้าห่างกันเพียงลมหายใจคั่น แต่คนเมาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไร ไถลตัวลงมานอนซุกแผ่นอกกว้างใต้เสื้อเชื้ตสีดำ ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ ยกนิ้วโป้งขึ้นมาแตะไว้ที่ปากอิ่มเหมือนเด็กน้อยเวลานอนหลับ
คนถูกทับยกลำตัวขึ้นมองคยองซูที่หลับคาอกตัวเองไปแล้วก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ สร้างปัญหาให้ตัวเองแท้ๆ วันหยุดทั้งทีแทนที่จะได้นอนอยู่บ้านตกเย็นจิบเหล้าเพลินๆให้พอหลับสบาย ไหงมาเจอเรื่องแบบนี้ซะงั้น เฮ้อ ...
ไหนๆก็นอนที่นี่เลยแล้วกันวะ!
ไม่นานโซฟากำมะหยี่ตัวใหญ่ก็ถูกใช้เป็นเตียงสำหรับคนทั้งสองในค่ำคืนนี้ คยองซูเคี้ยวปากแจ๊บๆขณะยกท่อนขาขึ้นก่ายร่างอุ่นๆที่นอนกอดอยู่พลางอมยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาเจอกับอะไรบ้าง จอโทรศัพท์สว่างวาบขึ้นในกระเป๋ากางเกงพร้อมเสียงป๊อปอัพเสียงขึ้นเบาๆในความเงียบ ...
พรุ่งนี้คงเป็นวันที่ ‘ดี’ …
คิดว่างั้นมั้ยครับ ?
TBC.
ฮี่ๆ อัพให้ตอนเที่ยงเลย สรุปคยองซูก็ยังไม่มีผัว อี้ชิงและเซฮุนจะต้องผิดหวังแรง.เพื่อนรัก. ดีใจที่ทุกคนชอบ เราอยากแต่งพี่แบคทำอาชีพนี้มานานแล้ว(?) เดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นอะไร ฮ่าๆ ส่วนบอสที่คยองซูแอบรักคือใคร ไปเจอกันตอนหน้าฮับ ดีใจที่ทุกคนชอบน้า บังคับเราเยอะๆเลยเราเป็นพวกขี้เกียจก็จริงแต่ถ้ามีไฟใครจะหยุดเราได้ ฮริ้ง
รักคนเม้นท์ + คนแท็ก *จับเด้าอีกรอบ* ฝาก #BDคนโสด ด้วยฮับ
ไรท์เบล (คนฉวย).
ความคิดเห็น