ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ 2Kim ] Short fic

    ลำดับตอนที่ #3 : SF - Beat him at love

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 53


    Title: Beat him at love.... Just beat it !!
    Author: bell27
    Category: Romantic
    Pairing: 2Kim
    Rating: NC - 13, m-preg
    Note : ว่างๆ เบลไปเจอครอบครัวๆนึงมา ทำให้อยากแต่งเรื่องนี้ให้จบไปเลย เป็นเรื่องต่อของ second wife ค่ะ



    Beat him at love


    ชายหนุ่มนักธุรกิจรายใหญ่ เจ้าของกิจการอสังหริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ผู้คนในสังคมต่างรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้แต่งงานแล้วกับทายาทนักธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ต่างคนต่างความคิดอาจจะคิดว่าทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากทีเดียว ทั้งฐานะ ทุกอย่าง คงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแน่นอน แต่ที่จริงแล้ว คิมแจจุง ถูกพ่อกับแม่บังคับให้แต่งงานกับปาร์คยูชอนก้อเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ไม่มีแม้กระทั้งความรัก แจจุงไม่เคยรักยูชอนเลยแม้แต่น้อย แต่อีกฝ่ายทั้งรักและหวงแจจุงหัวปักหัวปำ ในเมื่อเค้าไม่เคยรักคนคนนี้เลยแมแต่น้อย จะแคร์ทำไม หลังจากแต่งงาน บิดามารดาก้อวางมือจากธุรกิจปล่อยให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสืบสานกิจการยักษใหญ่แทน ชายหนุ่มเลยไม่กลัวบิดามารดาแม้แต่น้อย แถบทุกวันเค้าแทบจะไม่กลับบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่เค้าไม่เคยอยากจะอยู่ ที่ยอมทนอยู่ก๊เพราะพ่อแม่จะมาหาเท่านั้น แต่มีอีกที่ที่เค้าคิดว่าเมื่อได้อยู่ก็จะมีแต่ความสุข

    หลังจากแต่งงานไม่ถึงเดือนชายหนุ่มก็ไม่พบกับเลขาคนใหม่ที่พึ่งเรียนจบจากออสเตรเลีย ถึงแม้เค้าจะแสดงออกไม่ค่อยเก่ง แต่คนคนนั้นกลับดูเค้าออก ว่าต้องการอะไรไม่ต้องการอะไร คนคนนั้นดูแลเค้าสาระพัด เป็นคนทำงานดี ช่างพูด ถึงเค้าจะลำคาญอยู่บ้าง แต่ก็ชักชิน จนถึงคืนนั้น เค้าทำผิดพลาด เพียงเพราะความต้องการที่เกิดขึ้นกระทันหัน เมื่อพอได้สำผัส ยิ่งรู้สึกว่าไม่เคยรู้สึกดีเท่ากับคนคนนี้มากก่อน ความสัมพันธ์นั้นก็ดำเนินต่อไป ชายหนุ่มแทบไม่กลับบ้าน เค้ามาอยู่กับอีกคนที่เค้ารู้สึก รัก ถึงแม้จะไม่เคยบอกก็ตาม แต่เค้าคิดว่าสิ่งที่เค้าทำอยู่สามารถบอกได้ การกอดใครซักคนไม่ช่ายกับใครก็ได้ แต่กับจุนซู ต่างออกไป ไม่ใช่ความใคร่ แต่เค้าคิดว่าเป็นความรัก จนกระทั้ง คนที่ชื่อปาร์คยูชอน ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของแจจุงรู้เรื่องนี้ แจจุงไม่สนใจหรอก แต่ที่ทำให้เค้าเดือดดานมากที่สุดคือยูชอนมาอาละวาดถึงบริษัท ทำให้เค้ารู้สึกว่ามันเกินไปมากแล้ว เค้าจึงสั่งห้ามให้ยูชอนยุ่งกับจุนซูอีก ชายหนุ่มจึงเปิดร้านเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงให้กับจุนซู ตอนแรกจะเปิดเป็นบริษัทให้ แต่คิมจุนซูก็ไม่ต้องการ จุนซูต้องการแค่ร้านเล็กๆ เค้าจึงเปิดให้ร้านไม่ใกล้ไม่ไกลกับคอนโดที่เค้าซื้อให้

    ผ่านไปไม่นาน ชีวิตของแจจุงก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะเค้ากลายเป็นพ่อคนไปแล้ว เค้าต้องรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่เค้ารักยิ่งกว่าดวงใจ
    .
    .
    .
    .

    สำหรับวันครอบครัว ร่างสูงหยุดงานเพื่อมาอยู่กับลูกชายตัวน้อยวัยกำลังซนที่อยู่ในช่วงปิดเทอม เค้าสามารถหยุดงานได้แค่วันเดียวเท่านั้น เพราะเค้ายังมีอะไรต้องทำอีกมาก วันนี้จึงเป็นอีกวันที่เค้ารู้สึกผ่อนคลายที่สุด เวลาที่ผ่อนคลายที่สุดคือการได้อยู่กับลูก ในเมื่อหยุดมาเพียงแค่วันเดียว คงไปเที่ยวไหนไกลๆไม่ได้ คงไปแค่ห้างสรรพสินค้านั้นแหล่ะ

    "แดดดี๊ฮะ วันนี้อินฮวานอยากกินพิซซ่าฮะ"เด็กตัวเล็กหน้ากลมน่ารักที่ถูกอุ้มอยู่พูดอ้อนๆ พลางเอาแก้มใสไปถูๆที่แก้มของคุณพ่อไปด้วย

    "ได้สิ๊"ร่างสูงยิ้มให้ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่น แล้วบูบจมูกลูกไปด้วย ทำเอาจุนซูที่เดินอยู่ข้างๆต้องยิ้มไปด้วย

    "คุณ คือจุนซูจะไปซื้อกางเกงยืนส์น่าฮะ ไปที่ร้านก่อน สั่งอะไรไว้เลย เดี๋ยวจุนซูมา" ว่าแล้วจุนซูก้้อยิ้มหวาน มือบางจับมือลูกที่ห้อยอยู่เล่นก้อผละออก ร่างเล็กทำท่าจะเดินไปแต่

    "เดี๋ยว" เสียงทุ่มพูดทำให้จุนซูชะงัก หันหน้ากลับมาเอียงคอมองอย่างสงสัย ร่างสูงใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ใช้ช้อนตัวลูกอุ้ม ตบๆกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบเงินจำนวนมากส่งให้คนน่ารักแอ๊บแบ๊วตรงหน้า "อ่ะ เอาไปซื้อ"

    "ไม่เป็น ร.."จุนซูพูดยังไม่ทันจบก็ถูกขัดเสียก่อน

    "เอาไปเหอะน่า รีบมาละกัน"บอกจุนซูเส็ดก้อหันไปหาลูก "ไปกันดีกว่า เรา " แล้วก้พาลูกเดินแจ้นๆๆๆ ตรงไปชั้นที่มีร้านอาหารเต็มไปหมด ส่วนจุนซูก้ก้มมองเงินในมือพร้อมกับรอยยิ้มร้ายๆก่อนจะฮัมเพลงตรงไปยังร้าน ขายกางเกงยีสน์แชปส์ราคาแพง แถมไปดูเสื้อสวยๆอีกสองสามตัวด้วย ก็สามีให้ตังมาเยอะ ก้ซื้อให้หมดเลยละกัน



    *ด้านสองพ่อลูก

    "จะเอาร้านไหนครับ "แจจุงชักเมื่อยเลยวางให้ลูกลงมาเหยียบพื้นบ้าง

    "อาววววววววว........................"เด็กน้อยลังเลระหว่างร้านฝั่งซ้ายกับฝั่งขวา นิ้วชี้ถูกดูดตรงปลายเพราะกำลังใช้้ความคิด แต่มันไม่รู้อ่าาา ร้านมันไม่ต่างกันเรย งั้นก้อ "จ้ำ จี้ มะเขือเปาะ แปะกระเทาะหน้าแว่น.....นกขุนทองร้องวู้วววววววส์ ร้านนั้นฮะ แดดดี้๊"

    "ปะ "แจจุงอดยิ้มขำไม่ได้ นกขุนทองที่ไหนร้อง วู้ว กันเจ้าลูกชายเค้านี่ชอบทำอะไรให้ขำหรือปะหลาดใจอยู่เรื่อยเรย ร่างสูงเมือถูกดึงด้วยแรงน้อยก้อจำต้องเดินตาม อินฮวานทำหน้ามุ่งมั่นเหมือนจะไปถล่มร้านงั้นแหล่ะ


    "น้องฮะ ป๋มจะสั่งอาหาร"อินฮวานหันไปเรียกพนักงาน ทำเอาแจจุงต้องปิดปากหัวเราะ ไปเรียนพนักงานว่าน้องอีก เจ้าตัวเล็ก แล้วงก้อดูเมนูทั้งๆที่กลับหัวก็ตาม "ป๋มเอาพิซซ่าซีฟูตนะฮะ ขอชีสเยอะๆ ขอบชีส เอาเป็นแบบบาง เอาถาดใหญ่ เอาน้ำ น้ำ แตงโมปั่น แล้วก้อเอาสปาเกตตีคาโบนาร่า ผักโขมอบชีส แล้วก้อลาสัญญ่าฮะ " "แดดดี้สั่งบ้างสิฮะ"

    "เอาโค๊กกมาเหยือกนึง แล้วก็เอาซีซ่าสลัดกุ้งด้วย แค่นี้ล่ะครับ" แจจุงส่งเมนูสองอันให้พนักงานที่ยิ้มปนขำอินฮวานอยู่แน่ๆ พนักงานโค้งน้อยๆ ก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์

    "ทำไมแดดดี๊สั่งแค่นั้นล่ะฮะ จะอิ่มหรอฮะ " อินฮวานเอียงคอถาม ก่อนจะทำหน้าละห้อย เพราะน้ำแปปซี่ของคุณพ่อมาเสิร์ฟก่อนน้ำแตงโมปั่นของตน

    "อิ่มสิ๊ ก็ดูเราสั่งสิ จะกินหมดไหมเนี่ย "แจจุงยกโค๊กมาดื่มแล้วลูบหัวลูกที่กำลังเริ่มซนหยิบเหลือมาเล่นที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    "หมดสิฮะ อินฮวานสะอย่าง หิวไปหมดแล้วฮะ " อินฮวานทำหน้ายู่ หยอดเกลือไส่มือ แล้วเอาลิ้นแตะๆ สงสัยจะหิวมาก ขนาดต้องกัดก้อนเกลือกันเลยทีเดียว

    "ฮ่าฮ่าฮ่า .... หิวก็กินโค๊กพ่อก็ได้ " มือหนาดันแก้วโค๊กไปทางลูก

    "ไม่ได้หรอกฮะ หม่ามี๊บอกว่า ให้กินโค๊กได้อาทิตย์ละแก้วเท่านั้นฮะ หม่ามี๊บอกว่ามันไม่ดี"อินฮวานส่ายหัวดิ๊กๆ แจจุงจึงดึงแก้วกลับมา ในใจก็ชมจุนซูที่รู้จักฝึกนิสัยลูก

    "น้ำแตงโมปั่นได้แล้วค่ะ " พนักงานวางแก้วน้ำแตงโมปั่นที่อินฮวานรอคอย พอแก้วถูกวางบนโต๊ะเด็กชายก็ยิ้มหวาน ยื่นหน้าไปดูดน้ำทีเดียวหมดไปกว่า1ในสามของแก้ว


    จนกระทั้งจานแรกมาเสิร์ฟ นั้นก็คือคาโบนาร่าของโปรด ((อินฮวานโปรดเกือบทุกชนิดแหล่ะค่ะ)) ใบหน้ากลมดิกลอบเลียริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะดึงจานมาไว้หน้าตนเอง

    "จะกินแล้วนะฮะ" พูดจบก็กินเลย เอาซ้อนหมุนเส้นให้พันรอบๆส้อมแล้วนำเข้าปากเขี้ยวหงุบหงับๆเหมือนกำลังอมยิ้ม ตาเล็กหยีแก้มใสกลายเป็นสีชมพู พอเริ่มเขี้ยวละเอียดมือน้อยๆก้อเริ่มใช้ส้อมทำแบบเดิม

    "แดดดี้ อ้าามมม"อินฮวานยื่นส้อมเพื่อจะป้อนคุณพ่อ แจจุงก็กินเข้าไปจนหมด เพราะรอบที่พันให้คุณพ่อเนี่ยเท่ากับที่พันให้ตัวเองสองเท่า แจจุงถึงกับแก้มป่องเต็มไปด้วยเสื้อและไวท์ซอส ลูกชายเองป้อนพ่อพอเป็นพิธีก็ไม่สนใจใครแล้ว ตักจ้วงๆด้วยความหิว

    อาหารอย่างที่สองคือผักโขมอบชีส อาหารจานนี้จึงตกเป็นของแจจุงเพราะเจ้าตัวเล็กยังจัดการกับสปาเก็ตตี้ยังไม่หมด ร่างสองกินไปไม่กี่คำอาหารก็มาอีกสองอย่าง ลาสัญญ่้าเนื้อกับพิซซ่าจานใหญ่ ร่างสูงเริ่มจัดการไปเรื่อยๆ

    "มาแร้วว " แล้วจุนซูก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงสองสามใบจากร้านแบรนดัง ร่างบอบบางไปนั่งข้างๆกับลูกที่กินเป็นหมูมูมมาม มือบางหยิบทิชชู่มาเช็ดปากลูกที่เปื้อนไปหมด

    "หม่าม้ามาช้าจัง ป๋มกินจะหมดแร้ว " อินฮวานหันมาทำหน้ายู๋ยี้ ก้มมองจานคาโบนาร่าที่เหลือแต่คราบครีมเท่านั้น แต่ถึงอย่างงั้น อินฮวานก้อตักลาสันญ่ามาคำไม่มากมาให้จุนซู"หม่ามี้ อะ อ้ามมม" "อร่อยมั๊ยฮะ"

    "อร่อยอยู่แล้ว"จุนซูเอามือบังปากเล็กน้อยเพราะกำลังเขี้ยวอยู่ มองลูกชายที่ยิ้มทั้งวัน และมักจะใส่ใจคนรอบข้าง

    "อ่ะ อันนี้สั่งมาให้"แจจุงดันจานสลัดมาให้จุนซู

    "ขอบคุณครับ"จุนซูก้มมองสลัดที่เค้าชอบ ได้แต่ก้มอมยิ้ม เค้ารู้ดีว่าถ้าเค้าเงยหน้าขึ้นไปแจจุงก้คงต้องหันหน้าไปทางอื่นแน่ เพราะแจจุงเองก็คงเขินอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เขิน ไม่อยากเสียฟอร์มมากกว่า จุนซูรู้ดี

    "คุณแม่ อินฮวานขอกุ้งนะ "พออาหารที่สั่งมาทั้งหมดทั้งมวลเริ่มหร่อยหรอ อินฮวานมองกุ้งในจานของแม่ พร้อมกับคาบช้อน แล้วส่งสายตาอ้อนๆ

    "ได้สิ๊ เดี๋ยวคุณแม่แกะหางก่อนนะ คนเก่ง"จุนซูจัดการแกะหางส่วนที่เป็นเปลือกกุ้งออกก่อนจะป้อนให้คุณลูกเสร็จสรรพ

    "อินฮวานเบาๆก็ได้นะ ไม่มีใครแย่ง" แจจุงปรามเพราะมือนึงที่ถือซ้อมก็จิ้มขอบชีสของพิซซ่า อีกที่ถือช้อนก็ยังตักเนื้อบดที่อยู่ในลาสันญ่า

    "แดดดี๊ หม่ามี๊ อินฮวานจะทำอะไรให้ดูนะ "พอเด็กจอมซนพูดจบ อินฮวานเริ่มปฏิบัติการอะไรแปลกๆอีกแร้ว อินฮวานเทซอสมะเขือเทศชุ่มขอบชีส และลาสันญ่าในช้อน ก่อนจะอ้าปากกว้างแล้วรับเอาทั้งช้อนและส้อมเข้าปากพร้อมกัน แก้มป่องเคี้ยวอย่างชอบใจแล้วยกนิ้วโป้งประมานว่าอร่อยรับประกัน พอเคี้ยวได้ที่ก็กลืนแล้วจ้อต่อ "อร่อยจังเยย ดี๊กะมี๊ลองกินสิฮะ "

    "ครับๆรู้ว่าอร่อย ไม่มีใครทำได้อย่างอินฮวานแน่ๆ"จุนซูยิ้มแหยๆ โอ้ ใครจะสามารถเอาช้อนกับส้อมเข้าปากได้พร้อมกัน

    "แน่นอนฮะ" อินฮวานภูมิใจมากๆ แถมยังทำให้ดูอีกรอบ แจจุงถึงกับส่ายหัว ขำลูกชายคนนี้จริงๆ แจจุงคงได้แต่ดื่นโค๊กต่อไป เพราะเริ่มเลี่ยนตั้งแต่กินพิซซ่าแล้ว ช่วยอินฮวานกินไปสามชิ้น ผักโขม แล้วก็ยังมี ลาสันญ่า ทุกอย่างก็หมด แต่อีกคนคือจุนซูกินแต่สลัดอย่างเดียว ที่เหลืออินฮวานก็กินเกือบหมด นี่ลูกเค้าจะกลายเป็นหมูไหมเนี่ย

    .
    .
    .


    ณ คอนโดหรู

    "แดดดี๊ พรุ่งนี้ป๋มไปที่ทำงานแดดดี๊ได้ไหมฮะ"ระหว่างเวลาเย็นทุกคนอาบน้ำเรียนร้อย แต่กำลังจะดูหนังซายฟายกัน

    "ได้สิ"แจจุงตอบรับอินฮวานที่นั่งอยู่บนตัก

    "เอ๋ ... คุณสะดวกรึป่าว ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะฮะ"จุนซูที่นั่งซบไหล่อยู่ข้างๆถามขึ้นอย่างเกรงใจ

    "เอาเหอะน่า ฉันดูลูกเอง พรุ่งนี้ต้องไปซื้อของเข้าร้านไม่ใช่หรอไง"แจจุงหันไปมองจุนซูที่ซุกที่ไหล่ของเค้า จมูกโด่งเป็นสันสูดกลิ่นผมหอมไปด้วย

    "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะฮะ"จุนซูพูดเบาๆ

    "อื้ม" แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอ้อมไปโอบเอวบางมาแนบชิด "อินฮวาน เริ่มเรียนซัมเมอร์มะรืนนี้ใช่มั๊ย"

    "ฮะ "เด็กชายต้องไปเรียนซัมเมอร์ที่โรงเรียนใหม่ เนื่องจากอินฮวานสามารถสอบเข้าโรงเรียนประถมอำดับหนึ่งได้ด้วยอันดับสองของการสอบ ทั้งๆที่อยู่อนุบาล2 จึงต้องไปเรียนปรับพื้นฐานเสียก่อนเพราะหลักสูตรที่เจ้าตัวเล็กสอบได้คือมัลติลิงกัว นั้นก็ทำให้ทั้งแจจุงและจุนซูต่างปลื้มและภูมิใจกับลูกคนนี้จริงๆ

    "อยากให้พ่อไปส่งไหม"แจจุงลูบพุงน้อยๆของลูก

    "เอาฮะๆๆๆๆๆๆ รักแดดดี๊ที่สุดเล้ยยยย" อินฮวานดีใจกอดแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามด้วยความดีใจก่อนหนังที่เปิดจากแผ่นดีวีดีจะเริ่มเล่น


    "เอาแอปเปิ้ลมั๊ย"จุนซููถามพ่อลูกที่กอดกันกลมอยู่บนโซฟา

    "เอาฮะ"เสียงของเด็กชายตอบ ทั้งที่ตายังจ้องทีวีไม่ละ

    จุนซูลุกจากโซฟาเดินไปยังเคาท์เตอร์ครัวแยกตางหาก จุนซูเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่หยิบแอปเปิลผลสีแดงสลับกับเหลืองสองลูกมาหันและตัดส่วนกลางทิ้งแต่เปลือกยังคงเก็บไว้เพราะเปลือกถือว่ามีประโยชน์มากๆ ส่วนที่หันเสร็จแล้ว จุนซูจัดแจงเอาวางไส่จาน ก่อนจะหยิบกล่องนมรสจืดรินใส่แก้ว จุนซูเปิดลิ้นชักหยิบกระปุกบรรจุน้ำผึ้งแล้วเปิดมันออก มือบางหยิบช้อนชาตักน้ำผึ้งไส่นมลงไป3ช้อนคนให้ละลาย ก่อนจะนำทั้งแก้วนมและจานแอปเปิ้ลไปวางที่โต๊ะรับแขก

    แต่ก็ดูเหมือนว่าสองคนกำลังทะลุเข้าไปในจองั้นล่ะ ไม่มองเลยว่าเค้ามาเสิร์ฟของว่างแล้ว จุนซูส่ายหัว มือของคนตัวขาวอวบภายใต้ชุดนอนเสื้อตัวยาวเกือบถึงเหนือหัวเข่ากับกางเกงขาสิ้นตัวเล็กไม่ต่างกับไส่ชั้นในเท่าใหร่ หยิบจานแอปเปิ้ลมาวางไว้บนตัก หลังจากนั้นก็ต้องบริการอย่างดีด้วยการป้อนถึงปาก อินฮวานอ้าปากรอ คาบทั้งชิ้นแล้วเขมือบเข้าปาก

    "เอาอีกๆๆ" เด็กน้อยร้องขอ จุนซูก็ต้องหยิบอีกชิ้นป้อนให้อีก พอเจ้าตัวเล็กเคี้ยวหมดจุนซูก็หยิบอีกชิ้นจะป้อนให้อีกแต่ก็ถูกใครอีกคนดึกแขนไปทางตนแล้ว กินแบบเดียวกันกับอินฮวานนั้นแหล่ะ รู้แล้วว่าท่าเขมือบแบบนี้คุณลูกชายเอามาจากใคร

    จนกระทั้งแอปเปิ้ลในจานหมด จุนซูก็ส่งแก้วนมให้อินฮวานดื่มก่อนจะไปแปรงฟันแล้วเข้านอน เพราะซีดีหนังก็ใกล้จะดำเนินมาถึงจะจบเรื่องแล้ว อินฮวานซดอึกๆจนหมดแล้ว ก่อนจะเลียรอบริมฝีปากที่มีคราบนมจนหมด แล้วจึงส่งแก้วคืนให้กับจุนซู จุนซูก็จัดการนำจานและแก้วนมไปล้างที่ซิ้งน้ำ พอล้างเสร็จร่างเล็กคว่ำแก้วกับจานไว้กับที่ หลังจากนั้นก็เดินกลับไปนั่งเหมือนเดิม

    "หลับแล้วหรอเนี่ย" จุนซูมานั่งก็เห็นอินฮวานหลับปุ๋ยซุกอกแกร่งของร่างสูงไปแล้ว "ยังไม่ได้แปรงฟันเลย"

    "ไม่เป็นไรน่า ให้นอนไปอย่างนี้แหล่ะ" แจจุงที่ลูบหลังลูกบอกจุนซู

    "ไม่ได้นะฮะ ต้องแปรงฟัน เดี๋ยวฟันผุขึ้นมาจะลำบาก " จุนซูทำท่าจะไม่ยอมแล้วจะปลุกลูก

    "ไม่เป็นไรน่า ยังฟันน้ำนมอยู่นี่ จะกลัวทำไม"แจจุงจับมือของจุนซูที่หมายจะไปสะกิดลูก

    "แต่ว่า ยังไงจุนซูอยากให้ลูกรักการแปรงฟันนะฮะ นะฮะ"จุนซูช้อนมองแจจุง แตแจจุงก็ยังนิ่ง ไม่ได้อนุญาต จุนซูเลยต้องยู่ปาก "งั้นคุณทำตามที่จุนซูบอกได้รึป่าว นะๆ จุนซูขอร้อง"

    "อื้อ" แจจุงขานเสียงเข้ม

    "คุณก็ต้อง เปาลมไส่หูอินฮวานเบาๆครั้งนึง แล้วก็บอกว่า ไปแปรงฟันนะเด็กดี ลองสิฮะ"จุนซูกระซิบบอกข้างๆหูของร่างสูง เจ้าของร่างสูงเลยทำทำตาม

    "ไปแปรงฟันนะเด็กดี "แจจุงเป่าลมแล้วกล่าวตามที่จุนซู เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วเด็กตัวเล็กก็ผงกหัวขึ้นแล้วกระโดดลงยืนทั้งที่หลับตา แล้วเดินโซซัดโซเซตรงไปยังห้องน้ำ ทำให้แจจุงประหลาดใจ ลูกนี่ยังสามารถสั่งแม้กระทั้งหลับได้ จุนซูเองพอเห็นอย่างนั้นก็เดินตามไป เตรียมจะแปรงฟันให้เด็กขี้เซา ที่พอสั่งให้อ้าปากก็อ้า บ้วนปากก็บ้วนปาก ทั้งๆที่ยังหลับอีกด้วย


    ระหว่างที่จุนซูพาลูกไปแปรงฟัน แจจุงคิดว่าคงจะถึงเวลาจะต้องนอนของลูกแล้ว เค้าจึงจัดการปิดทีวีปิดไฟต่างๆไว้สลัวๆให้เรียบร้อย จุนซูก็อออกมาจากห้องน้ำจูงลูกเข้าห้องก่อนจะเดินตรงมาหาร่างสูง

    "อื้ม อื้อ....อ "ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปปะทะอกแกร่งก่อนจะถูกประกบจูบอย่างรุนแรง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร่างสูงก็สอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามาอย่างกระหาย จนจุนซูตอบจูบแทบไม่ทัน ลิ้นทิ้งสอบแตะกันและกันพันเกี่ยวกัน แทรกแทรกเข้าหากันและกัน ร่างสูงออกแรงพาร่างเล็กตรงยังโซฟา ก่อนทีทั้งคู่จะล้มลงราบไปกับโซฟา มือหนาแทรกเข้าไปภายใต้ชุดนอน ลูบไปตามหน้าท้องขึ้นมาสะกิดยอดอก เสื้อนอนก็เลิกขึ้นอยู่หนืออกขาว ก่อนที่ร่างสูงจะซุกหน้าลงสูดกลิ่นหอมบริเวณซอกคอ

    "อื้อ อ๊ะ" จุนซูบิดกายเร้าๆแยกขาเรียวออกกว้างให้อีกฝ่ายไอ้สัมผัสอย่างถนัดมือ ร่างเล็กใช้มือบางลูบแผ่นหลังแกร่งลงมาไล้ตรงหว่างขาที่กำลังตื่นตัว แล้วจัดการทำให้มันถึงจุด โดยที่ตนเองก็ถอดกางเกงขาสั้นออกห้อีกฝ่ายจัดการ มือบางบีบที่ยอดอกของตนไปตามอารมณ์

    "อ๊ะ "จุนซูขบริมฝีปากล่างเมื่อร่างสูงกอบกุมส่วนอ่อนไหวขยับขึ้นลง และโลมเลียปากช่องทางร้อน ทำให้จุนซูเสียวซ่านไปทั้งตัว มือบางยิ่งขยับมือแล้วเงียหน้าขึ้นโลมเลียส่วนปลายให้กับร่างสอง


    "อื้ม เบาๆฮะ"เมื่อทุกอย่างพร้อม แจจุงก็ลอบเลียรีมฝีปาก นำนิ้วที่สอดไส่เอาออกซะ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับจุนซูที่ตาหวานกำลังเคลิบเคลิ้ม ร่างสูงจับเรียวขาบางออกให้กว้าง ช่องทางสีชมพูที่ชุ่มไปด้วยน้ำกามลอยเด่น แจจุงไม่รอช้าค่อยๆจับส่วนแข็งขืนที่ขยายใหญ่เต็มที่ไส่เข้าไปในช่องทางภายในครั้งเดียวจนมิด ทำเอาร่างบางครางในลำคอด้วยความเจ็บ ร่างสูงขยับกายเข้าออกเพื่อระบายความต้องการที่อัดแน่นอยู่

    "อ่า ส์"จุนซูโอบรอบแผ่นหลังของแจจุง ยึดเกาะไว้แน่น ลำตัวบางขยับตามแรงกระแทก เสียงหวานปล่อยเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งสองขยับกายสวนกัน ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อปลดปล่อย เสียงพึบ พับๆ ดังถี่ๆ ทั้งสองปรนเปลอซึ่งกันและกันจนกระทั้งไปถึงฝั่งฝัน ก่อนทั้งคุ่จะกอดกันหอบหายใจ สองคนจัดการสวมชุดนอนให้เหมือนเดิม


    "อ๊ะ" จุนซูถูกอีกฝ่ายอุ้มอย่างกระทันหัน จุนซูซบลงกับซอกคออีกฝ่าย ร่างสูงจัดการอุ้มร่างบายเข้าไปยังห้องนอน เพื่อให้พักผ่อนก่อนจะต้องเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้


    .
    .
    .




    " อินฮวานเสร็จรึยัง" ตอนเช้าจุนซูรีบตื่นมาทำต้มซุปให้ลูกแต่เช้า พอตื่นมา แจจุงก็เตรียมตัวอาบน้ำไปทำงานแล้ว ส่วนอินฮวานหลับอุตุขดเป็นก้อนกลมๆอยู่บนเตียง กว่าจะขุดมาอาบน้ำได้จุนซูก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน

    " แปปนะฮะ ป๋มไส่เสื้ออยู่"อินฮวานตะโกนออกมาจากห้องน้ำ จุนซูก็อมยิ้มก่อนจะมาทำหน้าที่เหมือนทุุกครั้งที่แจจุงมา คือ ผูกเนคไท

    "จุนซู "

    "ฮะ ?"จุนซูกำลังผูกก็ต้องเงยหน้ามอง

    " วันนี้เดี่ยวชั้นจะกลับมาทำกับข้าว เตรียมเนื้อกับผักไว้ด้วย"แจจุงไม่มองตาจุนซูแต่มองไปทางอื่น จุนซูยิ้ม

    "ฮะ จุนซูกลัวตัวแสบจะซนจังเลยอ่ะ ไม่อยากให้คุณเสียสมาธิ" จุนซูผูกเนคไทเสร็จก็มาจัดความเรียบของสูทราคาแพง

    "ไม่หรอกน่า"

    "เส็ดแร้ววว "เด็กชายชื่อคิม อินฮวานวิ่งปรู้ดดออกมาจากห้องน้ำ เด็กชายสวมเสื้อสีเทาลายแบทแมน กางเกงบิลลาบองสีขาว พร้อมกระเป๋าสีเขียวลายเบนเท็นสะพายอยู่ข้างหลัง มือนึงถือรองเท้าหุ้มข้อสีดำ อีกมือถือกล่องสีกล่องใหญ่กับสะมุดวาดเขียน เพราะสองอย่างนี้ไม่สามารถยัดลงไปในกระเป๋าได้

    "ไปกันดีกว่า"ร่างสูงเดินไปหยิบกล่องสีกับสมุดวาดเขียนมาถือ ให้เด็กชายสวมรองเท้าให้เรียบร้อย

    "อินฮวาน กินในรถนะครับ เดี๋ยวคุณพ่อมีงานแต่เช้า"จุนซูส่งทับเปอร์แวร์ไส่โจ๊กสำหรับมือเช้าให้ลูก

    "ฮะ แดดดี๊ Let's go !!" สวมรองเท้าเสร็จก็จูงแขนป๊ะป๋า แจจุงถือกระเป๋าเอกสารเดินตาม ข้างในมีของสำคัญมากมาย ทั้งแมคบุ๊ก เอกสารวาระการประชุม เอกสารผลประเมินมากมาย เดินตามลูกไป สองพ่อลูกลงลิฟท์ไปยังที่จอดรถ รถบีเอ็มซี4ดีไซน์สปอร์ทหรูโดยแจจุงเป็นคนขับ อินฮวานครองที่ข้างคนขับ สงสัยจะหิวจัด พอนั่งปุ๊บก็หยิบโจ๊กที่คุณแม่จุนซูทำให้ กิน กิน ๆๆ ดีที่วันนี้แจจุงเอาผ้ากันเปื้อนสำหรับเด็กมา เพราะเค้าพึ่งเอารถคันนี้มาใช้ ดีที่เอาติดมาด้วย ร่างสูงไส่ให้ลูกก่อนรถจะเคลื่อนตัวไปยังบริษัทของเค้า

    .
    .
    .

    ณ ชั้นบนสุดของ คิม กรุ๊ป


    ประธานบริษัท นั้นก็คือคิมแจจุง ผู้ที่กำลังอ่านเกี่ยวกับผลกำไรอันมหาศาลที่บริษัทของเค้าทำได้ ร่างสูงเซ็นเอกสารต่างๆไปเรื่อยๆ วันนี้ดีหน่อยที่ไม่มีการประชุม พอเคลียเอกสารหมด เค้าก็เปิดไฟล์งานในคอมดู สายตาคมมองเด็กน้อยวัย 6 ขวบที่ระบายสีด้วยรอยยิ้มอยู่เก้าอี้ที่หันเข้าหาเค้า

    "วาดรูปอะไร หะเรา"แจจุงละจากจอคอมมาท้าวคางมองมือเล็กๆที่กำลังตัดขอบเส้น

    "อันนี้แดดดี๊ อันนี้หม่ามี้ อันนี้อินฮวาน อันนี้บ้านของเราฮะ"อินฮวานชี้ในกระดาดแผ่นใหญ่ รู้ของแจจุง จุนซู และตัวเอง พร้อมข้างหลังยังมีบ้านหลังเล็ก มีต้นไม้สองต้น และท้องฟ้าที่มีสายรุ้งสีสวย

    "อืม "แจจุงมองในรูปก็ทำให้เค้าปวดที่อก มันไม่ง่ายนักที่จะทำให้อย่างในรูปที่อินฮวานจะเกิดขึ้นได้ เค้ามองลูกที่กำลังเริ่มระบายสีต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกผิดมากกว่าเดิม แจจุงมองลูกวาดรูปไปเรื่อยๆ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเลขาถึงเจ้าตัวจะตั้งสติได้

    // ท่านประธานคะ รายการสั่งซื้อที่ดินมาถึงแล้วนะคะ จะให้ดิฉันเอาเข้าไปให้เลยรึป่าวคะ//

    "อืม เข้ามาได้เลย" แจจุงกดปุ่มวางก่อนจะกลับมาสนในงายต่อ ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก กับหญิงสาวเลขาหน้าห้องของแจจุง ที่ทำงานตั้งแต่จุนซูลาออก หญิงสาวผู้นี้ก็มาทำงานแทนตั้งแต่นั้น หล่อนวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ พร้อมกับยิ้มให้กับเจ้านายและเด็กน้อย

    "คุณป้ากาอินฮะ อินฮวานวาดรูปสวยมั๊ย"เด็กน้อยเกงสมุดเปิดหน้าที่วาดอยู่ให้เลขาคนสวยที่อินฮวานรู้จัก เพราะซนกาอินมีศักดิ์เป็นพี่สาวของจุนซู

    "จ้าา อยากกินอะไรมั๊ย เดี๋ยวป้าไปซื้อมาให้"กาอินลูบหัวหลาน

    "กาอิน งั้นซื้อเอ็กซเพรสโซ่เย็นร้านข้างล่างให้ผมแก้วนึง เพราะผมคงไม่ลงไปกินข้าวกลางวัน งั้นอินฮวานลงไปกับกาอินละกัน"แจจุงกล่าวจบก็ส่งเงินให้กาอินไว้สำหรับค่าอาหารทั้งของเจ้าหล่อนและของลูก

    "ได้ค่ะท่านประธาน"กาอินได้รับคำสั่งก็ก็ยิ้มให้กับอินฮวานที่ทำหน้ายู๋ๆ

    "แดดดี๊ไม่กินข้าวหรอฮะ "อินฮวานจับมือพ่อทำหน้าน้อยใจ

    "พ่อต้องรีบเคลียงาน วันนี้จะได้กลับบ้านกันไวไวไง จะซื้อข้าวมาให้พ่อก็ได้" แจจุงอุ้มเด็กที่เริ่มจะอ้วนน้อยๆมาวางไว้บนตัก หอมแก้มใสเบาๆ

    "แดดดี์จะกินอะไรฮะ เดี๋ยวป๋มซื้อมาให้นะ"อินฮวานมองคุณพ่อตาแป๋ว

    " อะไรก็ได้ ถ้าอินฮวานซื้อพ่อกินได้ทั้งนั้นแหล่ะ เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวเถอะ ถ้ากินไม่ตรงเวลาแม่เราบ่นพ่อแน่เลย โอเคมั๊ย"แจจุงพอเห็นลูกทำตาแป๋ว ก็อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ เค้ายีหัวลูกกับความน่ารักน่าชัก เค้ารู้ว่าลูกเค้าเป็นเด็กที่ จิงๆแล้วเป็นเด็กเจ้าเหล่ห์ช่ายย่อย แต่ชอบทำหน้าเป็นไม่รู้เรื่อง แต่พ่อแม่ย่อมรู้ทางลูกอยู่ดีแหล่ะ

    " ฮะ "

    "มาหอมก่อน " แจจุงเห็นลูกกำลังจะลงไปยืน รีบจับแกมใสหันมาให้หอมแรงๆอีกที ก่อนจะให้ลูกเดินไปกับเลขา

    "เดี๋ยว กาอิน ห้ามให้ใครเข้ามาพบชั้นนะวันนี้ ยูชอนก็ด้วย" แจจุงหันมาสั่งอีกครั้ง

    "ค่ะ " เลขาคนสวยโค้งรับคำสั่ง ก่อนจะจูงเด็กชายที่โบกไม้โบกมือบ๊ายบายป๊ะป๋า มีส่งจูบด้วย ทำเอากลางวันนี้แจจุงนั่งทำงานด้วยรอยยี้มเลยทีเดียว




    "ป้ากาอิน ป๋มปวดฉิ้งฉ่องอ่ะ"หลังจากพาไปกินข้าวแล้ว ทั้งป้าหลานไปซื้อของจากร้านข้างล่าง อินฮวานก็หยุดเดินและเขย่ามือกาอิน

    "งั้นป้าไปซื้อกาแฟให้คุณแจจุงร้านตรงนั้นนะคะ" นิ้วเรียวที่ถูกทาด้วยยาทาเล็บสีฟ้าชี้ไปที่ร้านใกล้ๆเสาต้นหนึ่งไม่ห่างจากห้องน้ำมาก

    "ครับป๋ม" มือเล็กวางที่เหนือคิ้ว เหมือนทหารไม่ก็ตำรวจ หลังจากนั้นก็วิ่งปรู๊ดดไปยังห้องน้ำ เพราะถ้าช้ากว่านี้อาจจะลาดได้



    *ปั๊ก

    "ขอโทษฮะ"สงสัยจะวิ่งเร็วไปหน่อย เลยไม่ทันได้มอง เด็กตัวเล็กวิ่งชนคนที่พึ่งเดินออกจากห้องน้ำ

    " หึ กองไว้ตรงนั้นแหล่ะ" คำตอบของหนุ่มที่มีร่างบางสวมเสื้อยืดกับกางเกงลายสก๊อตพับขาขึ้นเล็กน้อย สวมแว่นกันแดด ทำเอาเด็กพึ่งจบอนุบาลถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก

    "ฮึก.." น้ำตาเริ่มคลอที่เบ้าด้วยความตกใจ ลืมอาการปวดปัสสะวะไปชั่วขณะ

    "อย่ามาทำสำออยหน่อยเรย คงได้เชื้อแม่มาล่ะสิ จะไปไหนก็ไป"คำพูดร้ายๆทำให้เด็กชายรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ส่วนคนที่เป็นคนพูด ก็ มองเด็ก ด้วยหางตา หึ ลูกชู้ มันกล้าเอามาถึงบริษัทเชียวหรอ


    "มาแร้วฮะ" อินฮวานก้มหน้าเดินมาหากาอินที่นั่งรออยู่ที่ร้านคอฟฟี่ช๊อป

    "นานจัง เลย ไปอึอึ๊หรือเรา"กาอินลุกขึ้นยืนจูงมืออินฮวานข้างนึง ที่เหลือก็ถือของที่พึ่งไปช๊อปมา

    " ประมาณนั้นแหล่ะฮะ ป้ากาอินไปกันดีกว่า เดี๋ยวแดดดี๊จะหิว" อินฮวานเดินลากกาอินเดินตาม เด็กน้อยก้มหน้าก้มตาเดินนำไป กว่าลิฟท์จะมา สองคนเดินเข้าไปในลิฟท์ที่มีคนเกียบจะเต็ม ลิฟท์ไปทีหยุดในหลายๆชั้นเพราะมีคนที่ออกไปทุกชั้นๆ กว่าจะถึงชั้นสุดท้ายได้ก็นานอยู่


    "แดดดี๊ อินฮวานซื้อซุชิมาฝากฮะ"อินฮวานเดินเข้ามาในห้องเพียงคนเดียว ในมือถือแก้วเอ็กเพสโซ่และถุงซูชิจากภัตตาคารอาหารชั้นล่าง ตรงมานั่งประจำที่เดิม น้ำกล่องซูชิมาวางไว้ให้ตรงหน้าร่างสูง

    "พ่อทำงานอยู่ ป้อนได้มั๊ย คนเก่ง"อินฮวานยิ้มขึ้นมา เมื่อเห็นคนพ่อยิ้ม

    "ได้สิฮะ " เด็กชายจัดการฉีกซองโชยุเทลงบนอีกด้านของกล่อง "เอาวาซาบิมั๊ยฮะ"

    "ไม่ไส่" ที่เค้าไม่ไส่เพราะเพื่อเจ้าตัวเล็กอยากจะกินด้วย จะได้กินได้

    "ครับป๋ม " อินฮวานเอาซองวาซาบิกลับใส่ถุงอย่างเดิม นิ้วสั้นๆฉีกตะเกียบที่แพคติดกันออก ก่อนจะคีบชิ้นที่เป็นหน้าปลาซาบะดอง จิ้มโชยุจนชุ่มแล้วส่งให้คนที่กำลังพิมงานแล้วอ้าปากรอ

    "อร่อยจัง"ประธานคิมเคี้ยวเข้าไปเข็มปาก "พ่อว่ามานั่งนี่ดีกว่า" แจจุงเห็นว่า น้ำโชยุมันหกเป็นทาง ถ้าให้นั่งตักน่าจะดี

    "ฮะ"อินฮวานกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวสูง แล้วเดินวนไปหาเจ้าของร่างสูง โดยแจจุงก็อุ้มเด็กชายมานั่งบนตัก


    ช่วงบ่ายแจจุงก็นั่งเช็คไฟล์งานต่างๆ โดยมีอินฮวานที่คอยป้อนซูชิให้ ป้อนให้ก็เฉพาะอันที่ตัวเองไม่กินซะงั้น ครึ่งกล่องเป็นของอินฮวาน ส่วนที่เหลือที่ไม่เคยกินก็จะป้อนให้ พอหมดอินฮวานจัดการเก็บกล่องเอาไส่ถุงมัดอย่างดี แจจุงก็เป็นคนหยิบทิ้งลงที่ถังขยะข้างๆ หลังจากนั้นไม่นาน แจจุงก็รู้สึกได้ว่าคนที่กอดเค้าแล้วเอาหน้าซุกอกเค้าอยู่ไปเฝ้าพระอินทร์ซะแล้ว ใบหน้าคมส่ายหน้าๆ แล้วจึงช้อนเจ้าตัวอวบๆขึ้นมาอุ้ม ตบก้นไปด้วย เพราะเค้ารู้ว่าอินฮวานชอบให้เค้าตบก้น พอตบแล้วจะหลับง่าย เค้าพาร่างของเด็กซนมาวางที่โซฟาที่อยู่ในห้องของตน ก่อนจะไปหยิบแมคบุ๊กเปลี่ยนที่ทำงานจากโต๊ะทำงานมาเป็นโซฟาแทน อินฮวานหนุนตักแจจุงแทนหมอน ร่างสูงถอดสูทเนื้อดีมาห่มให้แล้วก็กลับมาสนใจงานต่อ

    .
    .
    .



    "กลับมาแร้วฮะ" อินฮวานวิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับค่อยถอดเชือกรองเท้าออกแล้วตรงไปหอมแก้มคุณแม่ที่กำลังจัดแจกันดอกไม้อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

    "เร็วจัง " จุนซูหอมแก้มลูกกลับก่อนจะมองนาฬิกา ไม่คิดว่าจะกลับเร็ว ปกติแจจุงต้องกลับหลังจากนี้

    "วันนี้ไม่มีประชุม ก็เลยเคลียงาน" อีกคนที่เดินตามมาคลายไทด์ออก แล้วนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

    "อ๋อ จุนซูซื้อเนื้อกับผักมาแล้วนะฮะ อยู่ในตู้เย็น คุณจะทำอะไรกินฮะ" ร่างบางเทน้ำแร่ใส่แก้วกระจกใส ดีไซน์สวยวางลงที่หัวโต๊ะ

    "พาจอน" แจจุงถอดสูทออก แล้วดื่มน้ำจนหมดแก้ว นักธุรกิจหนุ่มผู้นี้นอกจากถูกจับตามองเรื่องการทำธุรกิจ ยังเป็นคนที่ชอบทำอาหารอีกด้วย ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ทำบ่อยมากนัก เพราะงานมากมายและภาระหลายๆอย่าง แต่ถ้ามีโอกาสเค้าก็อยากจะทำ ฝีมือการทำอาหารถือว่าอร่อยทีเดียว ทั้งจุนซูและอินฮวานก็ชอบกาทำอาหารของเค้า

    "อ๊าาๆๆ ป๋มอยากกิน แดดดี๊ทำไวไวนะ"อินฮวานที่นั่งจุ้มปุกท้าวคางตาเป็นประกาย

    "งั้น ถ้าอยากให้เสร็จไวไวก็มาช่วยพ่อสิ ได้มั๊ย"

    "คิม อินฮวานจัดให้" เด็นคนนี้ก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน

    "งั้นจุนซูเตรียมวัตถุดิบละกัน อินฮวานปะ" แล้วร่างสูงก็เดินไปพร้อมกับอินฮวานไปทีห้องแต่งตัวซะก่อน ก่อนที่จะไปทำอาหารเย็น

    ระหว่างที่แจจุงกับอินฮวานกำลังไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จุนซูก็เตรียม กุ้ง หอย ปลาหมึก ต้นหอม พริก ออกจากตูเย็น จุนซูเริ่มจากกุ้งจุนซูปลอกเปลือกกุ้งออกแล้วเอาขี้ที่อยู่ตรงหลักออกทีละตัวๆ

    "หม่ามี๊ เดี๋ยวป๋มช่วยนะ" อินฮวานวิ่งออกมายืนข้างๆจุน แขย่งเพื่อมองบนเคาท์เตอร์ครัวดูว่าคุณแม่คนสวยจะทำอะไร

    "ก็เอาแป้งตรงนั้นเทแล้วก็เอากุ้งไปคลุกจ้า"จุนซูชี้ไปที่ แป้งมันที่อยู่ข้างๆเตาแก๊สไฟฟ้า เพราะเมื่อนำกุ้งไปแช่ในแป้งจะทำให้กุ้งกรอบขึ้น " ล้างมือยังเนี่ย "

    "แหะๆ ลืม" ตัวเล็กเกาหัวแกรกๆ เดินไปที่ซิ้งพี่ล้างมือแล้วเดินกลับมาทำตามที่แม่สั่ง อินฮวานหยิบแป้งมาเทๆไส่ในถ้วยแก้วอันเล็ก แล้วเอากุ้งที่จุนซูทำเสร็จแล้วมาคลุกจนทั่ว พอจุนซูจัดการกุ้งเสร็จก็เอาไปให้อินฮวานจะกำคลิก ส่วนตัวเค้าเองก็มาจัดการเอาแกนปลาหมึกออกแล้วทั่นเป็นแผ่นๆ กรีดเป็นลายตาราง

    "แดดดี๊ นี่ อินฮวานทำเอง"พอร่างสูงที่พึ่งเปลี่ยนจากสูทกับเสื้อเชิ้ดทำงานมาเป็นเสื้อกล้ามสีเหลืองกับกางเกงยางยืดขายาวสบายๆเดินมาบริเวณครัว อินฮวานก็ถือถ้วยที่ตัวเองคลุกกุ้งให้แจจุงดู

    "อืม"ร่างสูงนำกุ้งมาดู แล้วยกนิ้วโป้งให้อินฮวาน ทำให้เกิดรอยยิ้มเต็มแก้มใส " จุนซูหั่นเสร็จยัง"

    "เหลือซอยพริก กับผสมแป้งฮะ"จุนซูหั่นปลาหมึกอยู่บอก

    "งั้น อินฮวานผสมแป้ง" แจจุงหยิบแป้งสาลีออกจากลิ้นชัก อินฮวานรับไว้ แจจุงเชื่อฝีมือลูก จึงไม่บอกว่าควรจะเทเท่าไหน อยากจะให้ลูกรู้เอง เค้าจึงมาจัดการซอยพริกเอง

    "เสร็จแล้วฮะ" อินฮวานผสมแป้งกับน้ำจนเข้ากันบอก

    "งั้นเรามาเริ่มกันเลย" แจจุงเห็นว่าทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มลงมือ เค้าเปิดเตาไฟฟ้า วางกระทะ "อินฮวานขอน้ำมันหน่อย"

    "ฮะ" อินฮวานหันไปหยิบขวดน้ำมันส่งให้ แจจุงเทน้ำมันลงไปครึ่งขวด

    พอน้ำมันร้อนแล้ว ร่างสูงก็วางต้นหอมทั้งต้นลงไปต่อกันให้มันเป็นแพ แล้วราดแป้งสาลีผสมน้ำลงไปให้ทั่วต้นหอม จุนซูส่งกุ้งแช่แป้งกับปลาหมึกและหอยแมลงภู่ที่ล้างสะอาดราดลงไปบนต้นหอม แล้ววางพริกลงไป ทอดให้ด้านล่างกรอบก่อน พลิกกลับลงไปอีกข้าง รอจนกรอบแล้วเอาขึ้นจากกระทะมาไส่จานที่จุนซูเอาทิชชู่วางรองไว้ เป็นอันเสร็จ

    "โห น่ากินจังฮะ" อินฮวานมองอาหารที่จุนซูเอามาวางบนโต๊ะอาหาร ส่วนแจจุงก็กำลังปรุ่งน้ำจิ้มสำหรับทานด้วยกัน

    "เดี๋ยวคุณแม่มานะ" จุนซูเดินกลับไปยกครัว แจจุงปรุงน้ำจิ้มเสร็จแล้ว แต่ว่ากำลังทำอาหารเพิ่มอีกอย่าง

    "จุนซู มีมอสสาเลล่าชีสมั๊ย"แจจุงนำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์มาวางเรียงไว้บนจานกระเบื้อง

    "มีฮะ แปปนะ" จุนซูเปิดตู้เย็นหยิบมอสสาเลล่าชีสที่เป็นชนิดหั่นฝอยวางไว้ข้างๆมือแจจุง "นี่ฮะ"

    "อื้อ เอาน้ำจิ้มไปให้ลูกกินก่อน" แจจุงเอาน้ำจิ้มส่งให้จุนซู ร่างบอบบางรับมาแล้วเดินเอาทั้งถ้วยน้ำจิ้มและช้อนซ้อมไปให้อินฮวานที่รินน้ำใส่แก้วสามแก้วรอ

    "กินก่อนนะครับ คุณพ่อบอกว่าเดี๋ยวตามมากินด้วย"จุนซูเอาน้ำจิ้มมาวางบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับอินฮวานที่นั่งจ้องแต่จานหอยทอดเกาหลี

    "ไม่เอาฮะ ป๋มจะกินพร้อมแดดดี๊"อินฮวานส่ายหัวรัว จุนซูเห็นอย่างนั้นก็ต้องตามใจ


    "อ้าว ทำไมยังไม่กินล่ะ" ร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับจานอาหารอีกอย่าง

    "ก็รอแดดดี๊ฮะ ว๊าวว ^o^ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีสส"แจจุงวางจานลงปุ๊บ พออินฮวานเห็นก็ทำตาโต นี่คือของโปรดอีกอย่างนึง

    "งั้นก็กินกันได้แล้ว" แจจุงนั่งลงที่หัวโต๊ะ ที่ประจำ

    "งั้น ทานล่ะนะคร๊าบบบ"พูดจบก็ตั้งหน้าตั้งตากินไม่สนใจใคร ตั้งหอยชิ้นโตที่มีชีสยีดๆเข้าทีเดียวหมดทั้งตัว เรียกสายตาของผู้ปกครองทั้งสองให้ตกใจอีกรอบ กับนิสัยการกินที่ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน


    .
    .
    .

    เช้าวันรุ่งขึ้น ในการเปิดเรียนซัมเมอร์ ครั้งแรกจะต้องสวมชุดนักเรียนให้เรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน จุนซูต้องมานั่งช่วยตัวยุ่งทั้งอาบน้ำและไส่เสื้อผ้า ส่วนคนพ่อก็เหมือนเดิม นั่งกินกาแฟดำอ่านหนังสือพิมพ์รอที่โต๊ะอาหาร

    "คุณแจจุง คือว่าอาทิตย์ที่แล้วจุนซูไปประชุมผู้ปกครองมา ทางโรงเรียนมีมาตรการเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรนฮะ เค้าจะทำบัตรรับให้สองใบ ต้องถือบัตรนี้ถึงจะรับลูกได้"จุนซูส่งบัตรรับนักเรียนที่มีชื่อและรูปของอินฮวานให้แจจุง

    "อืม " แจจุงรับบัตรนั้นมาไส่ กระเป๋าตังที่ทำจากหนังจรเข้ "อินฮวาน เสร็จยัง " เค้าตะโกน

    "เสร็จแล้วฮะ" กระเป๋านักเรียนใบใหม่ดูนำข้าวของไปไส่จนตุงแน่น ไม่รู้ว่าไปเรียนหรือจะไปเล่นของเล่นล่ะเนี่ย

    "ไปได้แล้วคนเก่ง เดี๋ยวพ่อเราเค้ามีงานวันนี้แต่เช้า" จุนซูหอมแก้มลูกฟอดใหญ่

    "ฮะ วันนี้อินฮวานจะตั้งใจเรียน ไม่ดื้อกับคุณครู แล้วก็จะไม่ซนฮะ" อินฮวานยิ้มหวาน

    "คุณแม่รักหนูนะ แล้วอย่าไปแกล้งเพื่อนล่ะ"จุนซูจัดการจูงเดินไปหาแจจุงที่ยืนคอยอยู่ที่หน้าประตู

    "วันนี้นายรับละกันนะ วันนี้ชั้นมีประชุม"

    "ได้ฮะ"จุนซูรับคำก่อนจะปิดประตูห้องแล้วกลับเข้าไปด้านใน

    .
    .
    .



    "เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู" เสียทุ้มเงยหน้าจากคอมก็เห็นร่างบางที่สวมเสื้อคอกว้างเห็นไหปาหร้าและไหล่ขาวนวล

    "ก็ผมเป็นภรรยาของพี่นะครับ"ยูชอนเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเจ้าของห้อง

    "ถ้ามานั่งหายใจทิ้งก็กลับไปเถอะ"คนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานเงยหน้ามามองเพียงแปปเดียว

    "อย่าทำเย็นชาสี๊ ไม่ได้มาเฉยๆซะหน่อย เอาเรื่องเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์มาให้"ยูชอนเอารูปเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่เกี่ยวกับโครงการหมู่บ้านแห่งใหม่

    "อืม กลับไปได้แล้วชั้นมีประชุม ขอตัว"แจจุงไม่อยากจะอยู่ร่วมกับยูชอนซักเท่าไหร่ เค้าหยิมคอมพิวเตอร์ไปด้วยพร้อมกับเอกสารสำรับประชุมวันนี้

    "ไปเถอะครับ เดี๋ยวผมก็กลับแล้ว"แจจุงหันมามองยูชอนที่นั่งทำตามองนู้นนี่ ไม่สนใจตน แจจุงถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปเป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับ แผนดำเนินการสร้างคอนโดมิเนี่ยมแห่งใหม่ โดยไม่ได้สังเกตุรอยยิ้มที่มุมปากของอีกคนเลย

    .
    .
    .
    +++++++++++++++++


    โรงเรียนประถมอันมีชื่อเสียงในด้านต่างๆไม่ว่าทั้งภาษาที่มีการสอนถึง4ภาษา วิชาการที่เข้มแข็งเพื่อปูพื้นฐานในระดับชั้นต่อๆไป โรงเรียนที่อยู่ใจกลางมือแห่งนี้เป็นโรงเรียนในฝันของใครหลายๆคน นอกจากจะสอบเข้ายากแล้ว ยังมีการดูฐานะและสติปัญญาของผู้ปกครองก่อน ถึงจะรับไปเรียนได้ ซึ่งสำหรับอินฮวานแล้วผลการสอบออกมาได้ที่สองจากจำนวนกว่าสองพันคน แล้วยังมีบิดาซึ่งจบจากบอสตันและมารดาที่จบจากออสเตรเรียสาขาอินทิเรียเกียรตินิยม ยิ่งทำให้โรงเรียนต้องการมาเป็นหน้าตาของโรงเรียนเข้าไปอีก บรรยาการภายในโรงเรียนกว้างมาก มีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ และมีสระว่ายน้ำครบครัน จุนซูอาจจะไม่พอใจอยูบ้างที่ลูกต้องเรียนห้องแอร์กัวว่าถ้าเกิดมีโรคระบาดแล้วอาจจะไปกันใหญ่ แต่ว่าเรียนในห้องแอร์ก็มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ลูกจะห่างไกลมลพิษ ค่าเทอมในแต่ละเทอมถือว่าสูงมากๆสำหรับหลายๆครอบครัว แต่สำหรับครอบครัวนี้ไม่เป็นปัญหา

    "มารับลูกกรับ คิมอินฮวาน" จุนซูเดินมายังห้องเรียนของอินฮวาน ที่โรงเรียนจะมีมาตรการต้องแสดงบัตรรับ แล้วถึงจะเซ็นรับเด็กกลับบ้านได้ ครูประจำชั้นนั่งยิ้มต้อนรับผู้ปกครองอยู่เสมอ มือบางส่งบัตรรับให้คุณครูดู

    "คุณแม่คะ คือว่ามีคนรับน้องเค้าไปแล้วค่ะ "คุณครูหุ่นกลมๆดูใจดี บอกกับร่างบางที่สวมเสื้อกล้ามสีชมพูแล้วสวมทับด้วยเสื้อคลุมแขนตุ๊กตา กับสกินนี่สีดำ

    "เอ๋ หรอครับ"จุนซูคิ้วขมวด

    "ค่ะ " คุณครูยังคงยิ้มเหมือนเช่นเคย

    "งั้นไม่เป็นไรครับ " จุนซูโค้งเล็กน้อย สงสัยพี่แจจุงคงจะรับไปแล้วมั๊ง มือบางหยิบโทรศัพท์ที่มีการดีไซด์จากพราด้าขึ้นมาโทรหาคนที่กำลังนึกถึง

    "คุณรับลูกไปแล้วหรอฮะ"จุนซูที่กำลังเดินลงบันไดพอปลายสายรับ เค้าก็รีบถามทันที

    //ปล่าว ไม่ได้รับ เดี๋ยวชั้นประชุมอยู่"//

    "ห๊ะ ถ้าคุณไม่ได้รับแร้วใครรับ คุณครูบอกว่ามีคนรับลูกไปแล้ว " จุนซูเริ่มหน้าซีดขึ้นมา

    //หือ ไม่ตลกนะจุนซู// เสียงจากปลายสายเริ่มดูจะเครียดกว่าเดิม

    "ไม่ได้ล้อเล่นนะ ในเมื่อไม่ใช่คุณแล้วใครจะรับได้ล่ะฮะ บัตรรับมีแค่สองใบ ...ฮึก คุณไม่ได้หลอกผมนะ " จุนซูเข่าอ่อนขึ้นมาทันทีเริ่มจะเครียดและน้ำตาคลอ

    //ชั้นจะไปหลอกนายทำไม รออยู่ที่โรงเรียนลูกนะ แร้วชั้นจะรีบไป//

    "ฮึก ๆ"จุนซูก้าวขาอย่างลำบากไปนั่งที่ระเบียงชั้นล่างของโรงเรียน เค้ากลัวจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

    .
    .
    .

    ด้านแจจุง พอรับจากโทรศัพท์จากจุนซู ก็บอกยกเลิกการประชุมกระทันหันก่อนจะรีบวิ่งออกไปเอากุญแจรถกับกระเป๋าตังที่อยู่ในห้องทำงานแล้วมุ่งหน้าไปยังรถที่จอดอยู่บนลานจอดรถให้เร็วที่สุดเพื่อไปยังโรงเรียนที่ถัดจากบริษัทไปสองแยกไฟแดง

    เวลาเริ่มเย็นรถติดอยู่พอสมควค ใจเค้าไม่ดีพอกัน เค้ารีบโทรศัพท์ติดต่อจุนซูก็ได้ยินแต่เสียงกระวนกระวายปนร้องไห้ของจุนซู เพราะจุนซูบอกว่าคุยกับคุณครูประจำชั้น เค้าบอกว่าคนที่มารับมีบัตรรับ ทำให้โรงเรียนไม่สามารถรับผิดชอบได้ ร่างสูงได้ยินอย่างนั้นก็รีบเร่งเครื่องตรงไปยังโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เค้าล้วงกระเป๋าตังที่เค้านำบัตรรับลูกไส่ไว้ก็พบว่ามันไม่อยู่ในนั้นแล้ว นำหัวนึกถึง ..... ปาร์ค ยูชอน


    "ฮึก คุณแจจุง จุนซูกลัว" พอร่างสูงที่รอคอยเดินตรงมาหาเค้า ร่างบางรีบตรงไปกอดด้วยความกลัว

    "ชั้นพอจะรู้แล้วว่าใคร" แจจุงลูบหัวจุนซูก่อนจะโอบจุนซูที่เดินแถบจะไม่ไหวไปนั่งลงที่เบาะหน้าของรถตน เค้าจัดการรัดเข็มขัด

    "แล้วรถจุนซู" ร่างบางขืนเล็กน้อย

    "ถ้าอารมณยังเป็นแบบนี้อย่าขับรถ มันอันตรายเข้าใจไหม จอดไว้นี่แหล่ะ"แจจุงลดเบรคมือลงก่อนจะเหยี่ยบคันเร่งจนสุด เพราะเค้าก็เป็นห่วงอินฮวานไม่แพ้กัน

    "ฮึก.. คุณรู้หรอว่าใคร ใครเอาตัวลูกไป "จุนซูร้องไห้ฟุ้งซ่าน

    "ใจเย็นๆจุนซู"มือที่บังคับพวงมาลัยข้างนึงมากุมมือจุนซูหลวมๆ

    "แล้วใครฮะ"จุนซูถามคนที่ทำหน้าที่ขับอยู่ แจจุงไม่ตอบเค้าเพียงแต่เร่งเครื่องยนให้เร็วขึ้นอีก ร่างบางมองเส้นทางที่แจจุงกำลังขับไปทางนี้จุนซูก็เริ่มรู้คำตอบแล้ว


    "รอในรถนะ อย่าให้ใครเห็น"แจจุงแจจุงน้ำรถมาจอดตรงลานจอดรถของบ้านเค้า เค้ากำชับจุนซูเพราะเค้าจะไปดูว่าปาร์คยูชอนมีพิรุธรึป่าว จุนซูพยักหน้าหน้าก่อนจะน้ำผ้าห่มที่ติดอยู่ในรถของแจจุงมาห่มปิดบังเอาไว้ บวกกับรถแจจุงที่เป็นฟิลม์ดำคิดว่าไม่น่าจะมองเห็นเค้า

    ร่างสูงก้าวลงจากรถ รถของยูชอนยังอยู่ดี ร่างสูงรู้ว่าคนอย่างยูชอนไม่ค่อยฉลาดนักหรอก ชอบทำอะไรตามอารมณ์ เป็นอะไรที่แจจุงไม่ชอบที่สุด ขายาวเดินลัดสวนข้างบ้านเพื่อจะเดินเข้าทางด้นหลัง เค้าลอบมองจากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ราคาแพงก็พบว่า ไม่เห็นแม้แต่เงาของยูชอน เค้าจึงตัดสินใจเดินเข้าไปภายในบ้านร่างสูงเดินอย่างเบาที่สุดไปยังชั้นบนด้วยบนไดวนที่ปูด้วยหินอ่อนสีขาว ห้องห้าห้องที่ปิดสนิท ห้องริมสุดคือห้องนอนของเค้ากับยูชอน แต่มันเป็นห้องของยูชอนมากกว่า เพราะเค้าไม่คิดจะนอนด้วยหรอก ห้องข้างๆก็เป็นห้องนอนรับรองสองห้องที่อยู่ติดกันนั้นแหล่ะ อีกสองห้องเป็นห้องสมุดกับห้องปล่าว แต่นั้นคงไม่สำคัญเท่ากับเสียงร้องให้ที่ดังจากห้องว่าง ร่างสูงค่อยๆเอาหูเข้าไปใกล้ๆ เค้าได้ยินเสียงหัวเราะจากเสียงที่เค้าได้ยินบ่อยๆ มือหนากำมือแน่นก่อนจะลองบิดกลอนประตู แต่มันกลับถูกล๊อกไว้ ตอนนี้แจจุงทั้งเดือนดานมากแต่เมื่อเสียงหัวเราะนั้นหยุดลงพร้อมกับประโยคที่ว่า -ร้องไห้ซะให้พอ ชั้นไปล่ะ หึ - ทำให้นักธุรกิจหนุ่มรีบย้ายร่างกายไปอยู่ในห้องสมุดข้าง ๆ จนกระทั้งได้ยินเสียงปิดประตูดังนั้นแหล่ะ เค้ารอก่อนซักพักแล้วจึงแง้มประตูออกมาเห็นยูชอนเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว เค้ารีบเข้าไปอีกห้องทันที ไฟของห้องปิดสนิท แจจุงรีบเดินไปเปิดไฟ ก็พบว่าอินฮวานถูกผ้าดำผิดปิดตาเอาไว้มือน้อยๆถูกเชือกผูกเอาไว้ เด็กชายร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทำเอาแจจุงเจ็บอกทรมานใครจะอยากเห็นลูกถูกมันแบบนี้ เค้าไม่รอช้าขายาวสาวเท้าเดินไปหาลูก แจจุงรีบแกะผ้าปิดตา

    "ฮือ ฮือ แดดดี๊ ฮือ ฮึก..ฮึก... อินฮวานกลัว ฮืออ"อินฮวานน้ำตาไหลพรากเพราะเป็นคนกลัวความมืด แจจุงรีบแก้มัดเชือกเส้นเล็กออก ก่อนจะกอดอินฮวานแน่น

    "ไม่เป็นไร พ่ออยู่นี่ "แจจุงลูบหลังที่สั่นเพราะแรงสะอื้น ร่างสูงอุ้มเด็กตัวเล็กขึ้นมา หัวกลมๆซุกบ่าด้วยความที่ยังไม่หายหวาดกลัว แจจุงบรรจงลูบกลุ่มผมนุ่มเบา สายตาคมมองไปยังห้องนอนใหญ่สุดของบ้านด้วยสายตาที่แทบจะฆ่าคนได้เลยทีเดียว ร่างสูงอุ้มลูกเดินลงบันไดไปชั้นล่างเพื่อพาอินฮวานไปอยู่กับจุนซู ส่วนตัวเค้าต้องไปจัดการกับคนที่ทำให้เค้าโกรธขนาดนี้


    "ปาร์ค ยูชอน"เสียงทุ้มเย็นๆ ทำให้คนที่นอนอ่านนิตยสารอยู่บนเตียงต้องหันมอง

    "อ๊ะ อย่าลืมสิว่าผมน่ะ คือ คิมยูชอน น่าจะชินได้แล้วนะฮะ"ร่างบางที่พึ่งอาบน้ำเสร็จสวมชุดคลุมอาบน้ำลุกจากเตียงมาใช้แขนเรียวโอบคอร่างสูง

    "กลับไปใช้ปาร์คนั้นแหล่ะ ชั้นว่าดีแล้ว " แจจุงปัดมือที่โอบรอบคอเค้าออกไป

    "แต่ยูชอนอยากใช้คิมนี่ "

    "หึ ก็ชั้นจะไม่ให้นายได้ใช้อีกแล้ว ปาร์คยูชอน" แจจุงผลักอกบางจนไปนั่งแหม่ะอยู่บนเตียง

    "พี่แจจุงหมายความว่ายังไงฮะ"ยูชอนลุกมามองหน้าแจจุงที่ทำหน้านิ่ง ตาคมไม่สามารถบอกอะไรได้ มีแต่สายตาที่เย็นชาเท่านนั้นที่ยูชอนมองเห็น

    "แค่นี้ยังคิดไม่ได้รึงัย"แจจุงยิ้มที่มุมปาก

    "จะหย่าหรอ"ยูชอนตาโต

    "ใช่ ภายในพรุ่งนี้ เราจะไปจดทะเบียนหย่า"

    "ไม่นะ ไม่นะพี่แจจุง อีเมียน้อยพี่มันมาเป่าหูอะไรพี่ใช่มั๊ย ยังไงผมก็ไม่หย่า"ยูชอนยีนโวยวายเสียงดัง

    "หึ ถามตัวเองก่อนว่าทำอะไรไว้ "แจจุงยังคงนิ่งเฉย

    "หึ รู้แล้วหรอว่าผมขังไอ้ลูกเมียน้อยของคุณเอาไว้ แล้วไง"ยูชอนเลิกโวยวาย แต่เปลี่ยนมากอดอกแทน

    "ก็ถ้าอยากทำอะไรก็ทำ แต่มาทำกับลูกชั้น ชั้นเคยบอกนายแล้วไม่ใช่หรอไง "แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามยกขึ้น มือหนากำรอบคอขาวออกแรงบีบเพราะความที่พยายามยามเก็บอารมณ์มานาน

    "แค่กๆ.. ปะ..ปล่อย ก่อ..น"ยูชอนแถบขาดอากาศหายใจ มือบางพยายามจะง้างมือของแจจุงให้หลุดออก แต่ก็ไม่เป็นผล

    "แต่ถ้านายขื่นยังมายุ่งกับลูกชั้นอีกละก็ ชั้นไม่ปล่อยแกไว้แน่ " แจจุงพูดจบก็ผละมือออก แล้วก้มมองคนที่นั่งหมดแรงอยู่กับพื้น " ไสหัวออกไปซะ "

    "ไม่ แค่กๆ ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น" ยูชอนยังกล้าตอบ

    "งั้นก็เชิญอยู่ไปคนเดียว ชั้นยกให้ " พูดจบเจ้าร่างสูงก็เดินออกไปปิดประตูแรง ไม่รอให้อีกฝ่ายได้รั้งหรือร้องขอแม้แต่นิดเดียว


    คิมแจจุงรีบกลับมาที่รถ จุนซูกำลังร้องเพลงกล่อมอินฮวานให้หลับ ตากลมหลับแต่ตาก็ยังบวมช้ำเพราะพึ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แจจุงไปพูดอะไรเพียงแต่ถอยรถที่สตาร์ทไว้อยู่แล้วเพื่อออกจากบ้านหลังนี้และจะไม่มาเหยียบอีกต่อไป จุนซูเพียงแต่มองหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายที่แน่นิ่งทำให้ไม่กล้าพูดอะไรมากนัก จึงต้องร้องเพลงกอดและลูบหลังลูกจนกว่าจะถึงบ้านนั้นแหล่ะ

    .
    .
    .

    "จุนซู" แจจุงที่นั่งอยู่ข้างๆกับร่างบางที่กำลังเช็ดตัวลูกกำลังค่อยๆจับมือบางขึ้นมากุม

    "ว่ายังไงฮะ"จุนซูวางผ้าไว้บนหัวหน้าผากอินฮวานเพราะเหมือนว่าอินฮวานเหมือนจะมีไข้น้อยๆ

    "ไปคุยกันข้าหนอก" ที่ต้องไปคุยกันข้างนอก เพราะเรื่องที่ว่าแจจุงมีภรรยาก่อนจะมีจุนซูนั้น อินฮวานไม่เคยรู้มาก่อน เค้าจึงอยากจะพูดกับจุนซูเป็นการส่วนตัว ร่างสูงจับมือบางเพื่อจูงจุนซูให้ออกมาคุยกันข้างนอก

    "ว่ายังไงฮะ" พอออกมาข้างนอก จุนซูเงยหน้ามองร่างสูง ในหน้าหวานพยายามยิ้ม แต่สีหน้ายังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

    "พรุ่งนี้ชั้นจะหย่ากับยูชอน ...และ"แจจุงเว้นวรรค เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง จุนซูเอียงคอรอฟังว่าแจจุงจะพูดอะไรต่อ "จุนซู....เอ่อ "

    "ฮะ ?" จุนซูกุมมือแจจุงหลวมๆ ยิ้ม เพื่อให้แจจุงไม่ต้องเกร็งและยอมพูดออกมา

    "เราไปจดทะเบียนกัน"แจจุงเบียนหน้าหนี เพราะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้มาก่อน

    "ฮะ" จุนซูยิ้มหวานเพื่อแจจุงจะได้ไม่ต้องเขิน เค้าไม่เคยเห็นร่างสูงมีสีหน้าเป็นแบบนี้มาก่อน ใบหน้าคมแดงระเรื่อ จุนซูยิ่งยิ้มหวานเพื่อให้แจจุงสบายใจก่อนจะไปโอบกอดร่างสูงด้วยความดีใจ แจจุงก็เผลอยิ้มและโอบร่างเช่นกัน

    .
    .
    .
    +++++++++++++++++

    4เดือนต่อมา

    แจจุงจัดการสร้างบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในโครงการของเค้าเป็นบ้านที่มีคิมแจจุง คิมจุนซู และดิมอินฮวานอยู่ด้วยกันสามคน อินฮวานเคยบอกว่าอยากเลี้ยงน้องหมา ก็สามารถเลี้ยงได้อย่างที่ต้องการ ส่วนจุนซูกลายเป็นถึงภรรยาของเจ้าของบริษัทแห่งนี้ และทุกเย็กก็จะจูงลูกมารอสามีเลิกงาน และจุนซูยังเคยทำงานที่นี่ทำให้หลายคนรู้จักดีอยู่แล้ว ยิ่งผ่านไปกว่าสี่เดือน พนักงานทั้งหลายก็ชอบและยินดีที่มีจุนซูเป็นภรรยาของท่านประทาน เพราะบ่อยครั้งที่จุนซูจะซื้อของมาตอบแทนพนักงานและช่วยท่านประธานดูแลเรื่องสวัสดิการของพนักงาน และเมื่อเทียบกันคนเก่าแล้วมันคนละเรื่อง แต่เรื่องบริษัทเฟอร์นิเจอร์ก็ยังคงเป็นของตระกูลปาร์คเหมือนเดิม เพราะพ่อแม่ของปาร์คยูชอนยังเอ็นดูแจจุงอยู่

    "อุ๊ย ต๊ายตาย ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่ เป็นยังไง สบายดีมั๊ยครับ"จุนซูที่กำลังจะไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สวนทางกับใครบางคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

    "หึ ก็ดี ก็แค่ถูกคนบางคนแย่งสามีไปหน้าด้านๆ แค่นี้ไม่ตายหรอก "

    "หรออ ใครเค้าจะไปแย่งล่ะ ในเมื่อสามีคุณเนี่ย ไม่แม้แต่มีคุณอยู่ในสายตาเลย เค้าไม่ได้เรียกว่าแย่งหรอกนะฮะ"จุนซูกอดอกมองยูชอนด้วยสายตาเย้ยหยัน

    "แก ปากดี"ยูชอนชี้หน้าจุนซู

    "อุ้ยย ที่บ้านไม่สอนมารยาทหรือไงกัน"จุนซูปัดมือที่ชี้หน้าตนออกไป "อ้อ ลืมไปว่า.. ที่นี่คือที่ทำงานนะฮะ จะมาเอะอะโวยวายเหมือนหน้าร้านผมไม่ได้ ช่วยสงบปากสงบคำด้วยฮะ"

    "หึ่ย" ยูชอนหายใจฮึดฮัดมองหน้าจุนซู แล้วกระทืบเท้าเดินออกไป

    "ฮิย๊ะฮ่าฮ่าๆ " จุนซูมองคนที่เมื่อชอบมาใช้เรื่องคำว่า เมียหลวง เมียน้อยกับเค้า ตอนนี้ต้องมาเสียทีเพราะการกระทำโง่ของตัวเอง ขาเรียวเดินตรงไปหาอินฮวานที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือของเค้าอยู่ที่โต๊ะของกาอินลูกพี่ลูกน้องของจุนซู



    "ปะ คุณพ่อประชุมเสร็จแล้วกลับบ้านกันดีเถอะ"จุนซูเดินมาสะกิดอินฮวานที่ตอนนี้แทบจะเข้าไปอยู่ในเกมอยู่แล้ว "พี่กาอิน จุนซูไปแล้วนะ"

    "จ้า บ๊ายบายนะอินฮวาน"กาอินลูบหัวอินฮวานอย่างเอ็นดู

    "บะบาย จุ๊บๆฮะ" อินฮวานยิ้ม เด็กชายขวัญใจพนักงานทั้งบริษัท ทั้งน่ารักและสมวัย จุนซูเดินคู่กับอินวานเพื่อตรงไปหาร่างสูงที่ยืนรออยู่แล้ว


    "กลับบ้านกันเนอะ"เสียงทุ้มอบอุ่นจับมืออกข้างแล้วเดินไปพร้อมๆกัน

    .
    .
    .

    จบแร้วววว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×