คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 อาณาจักต้องคำสาป (2)
ตอนที่ 1 ..อาณาจักรต้องคำสาป อีก 50 % นะคับ อัพแปดรอบมันก็ไม่ขึ้นอ๊ะ
เหนื่อยละนะเนี่ย...<<<^^__^^ >>>
“เมื่อกระทำการสิ่งใดลงไปไม่ควรเสียน้ำตา”
ไอ้จิ้งจอกเฒ่านั้นอีกแล้ว เดินมาตั้งแต่เมื่อไรวะ มาร์ตวัดนัยน์ตาเขียวขุ่นไปให้ที่ปรึกษาเจ้าเล่ห์
“ข้าไม่ได้เสียน้ำตา”
เสียงหัวเราะอย่างรู้ทันทุกความคิดของชายหนุ่มทำให้มาร์สูดลมหายใจอย่างอดทนแผงอกหนากระเพื่อมขึ้นลง ตามแรงโทสะ
“ไม่มีใครไม่เคยเสียน้ำตา ”
“ข้ารู้ เจ้าไม่ต้องบอกข้าซ้ำซากหรอกนาธาร์”
“ที่ปรึกษาเหมือนครู ..เมื่อไรที่เจ้าเก่ง มีเหตุผล ข้าบอกแล้วข้าจะไป”
มาร์มองจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์หนวดยาว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วร้อยนิ่งสงบ มาร์ไม่เคยรับรู้ว่าที่ปรึกษาเฒ่ามีครอบครัวที่ไหน ตั้งแต่จำความได้เขาเห็นแต่ที่ปรึกษาจอมเจ้ากี้เจ้าการเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเขาตลอด..ไอ้เรื่องจะมีลูกมีเมียที่ไหนก็สุดกำลังจะตามหา เขาไม่เคยสนใจไอ้หนวดยาวนี้มาตั้งแต่แรก และตอนนี้ก็ไม่ได้คิดจะสนใจมันด้วย คนบ้าๆ อย่างนาธาร์ต่อให้ตายไปเขาก็ไม่เสียดาย...
“น่าจะไปตั้งแต่ตอนนี้”
“แล้วก็ปล่อยให้เจ้ามาชกเสาหินระบายโทสะนี่นะรึมาร์ จำไว้อย่างวินซ์ฝากให้ข้าดูแลลูกชายของเขา หน้าที่ของข้ามีแค่นั้น ถ้าอยากให้ข้าไปเจ้าต้องทำตัวให้ดี”
“ข้าทำตัวดีอยู่แล้ว”
“แต่นางไม่!!!” ที่ปรึกษาหนวดยาวตอบ น้ำเสียงที่จริงจัง เข้มแข็.ของนาธาร์ ทำเอามาร์ชายตาเขียวขุ่นมอง น้อยครั้งนักที่เขาจะได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ บุคคลที่สงบเงียบเคร่งขรึม ครูผู้ประสิทธิประสาทวิชาให้เขา น้อยครั้งที่นาธาร์จะก้าวข้ามเหตุผลมาใช้อารมณ์ เขารู้จักนาธาร์ดี พอๆกับที่ตาเฒ่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์รู้จักเขา
“ราชินีเอซน อยู่ในตำแหน่งพระมารดาของเจ้า...นางไม่มีสิทธิ์มากอดจูบกับบุตรชายของสามี และเจ้าไม่ควรจะอ่อนไหวตามแรงกระตุ้นนั้น”
“ข้าแค่อยากทำให้นางหลาบจำ” มาร์เถียง เสียงดังลั่น ...เขาไม่ได้รักนาง อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขามีกับเอเซนคือรอยร้าวของหัวใจที่ต้องการเยี่ยวยา และยานั้นก็คือความเจ็บปวดของนาง ราชินีทรยศ
“ข้าเป็นหนุ่มมาก่อนเจ้าหลายพันปี”
“จะบอกอะไรกั บข้านาธาร์ ท่านไม่ต้องมาโยกโย้กับข้า “
“อันที่ใดมีสตรี ...ที่นั่นจะมีความวุ่นวายตามมา สงครามหลายครั้งมีต้นเหตุเพราะสตรีเพศและสงบได้ด้วยสตรีเช่นกัน ข้าอาจจะแก่เกินไปสำหรับที่จะกล่าวเรื่องหนุ่มสาว แต่ถ้าในฐานะที่ปรึกษาสมองของข้ายังใช้งานได้ดีอยู่ ราชินีเอเซนแต่งงานกับพ่อของเจ้าพระนางเลือกเอง”
“ท่านจะบอกว่า”
“เมื่อกระทำการสิ่งใดลงไปแล้วไม่ควรเสียน้ำตา”
“อดีตมีไว้เพื่อจดจำ หรือทำลายอยู่ที่เจ้าเป็นคนเลือก เส้นทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เจ้าจะคาดเดาได้จากการตัดสินใจเดินของตัวเอง ..ทหารองครักษ์คงไม่พอใจนักที่เห็นนายอันเป็นที่รักของพวกเขาต้องมาหมกมุ่นกับอิสตรีอันเป็นคู่รักเก่าและตอนนี้คือราชินีของพวกเขา สิ่งที่ต้องทำคือรักษาอาณาจักรสุริยะ แม้เจ้าไม่ต้องการแต่มันคือหน้าที่ของผู้นำ เมื่อตัดสินใจจงทำ และทำให้ดีที่สุด”
“ข้าไม่ต้องการ!!”
“เจ้าถูกกำหนดมาร์”
“ทำไมต้องเป็นข้า!!”
“สายเลือดแห่งสุริยะอยู่ที่เจ้า พระเบื้องบนทรงเลือกแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน เจ้าคือสุริยะ”
“ข้า!!...ข้าไม่!!!”
มาร์สะบัดใบหน้าไปมา คลายความสับสนปั่นป่วนที่อยู่ในหัวใจ นานมากแล้วที่เขาต้องต่อสู้กับจิตใจของตนเอง ต่อสู้กับอำนาจมืดดำที่ฝั่งอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ...แต่ไม่มีสักครั้งที่หัวใจอันเจ็บปวดจะได้รับการเยี่ยวยารักษา
แม่...ผู้หญิงที่อ่อนโยนแสนดีคนนั้น ..จะมีอีกไหมที่เขาจะสัมผัสกับอ้อมกอดอบอุ่นของท่าน อ้อมกอดที่ทำให้มาร์รู้ว่าเขาจะไม่มีอันตราย เขาจะถูกปกป้อง ปลอดภัยด้วยสองแขนอบอุ่นคู่นั้น...
“ ความมืดจะอยู่กับเราเมื่อเจ้าหลับตา”
ดวงตาสีเทาเข้ม แลมองดวงตาสีเขียวขุ่น .....เป็นครั้งแรกที่มาร์เห็นดวงตาคู่นั้นอ่อนแสงลง นัยน์ตาจิ้กจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่เปล่งแสงสีเทาเรืองรองเหมือนที่ครั้งหนึ่งวินซ์ผู้เป็นบิดาเคยมองเขา หากเพียงเศษเสี้ยววินาทีร่างสูงของนาธาร์ก็ก้าวข้ามธรณีเข้าไปในปราสาท...
มาร์มองตามย่างก้าวของชายร่างสูงบึกบึนที่ลับหายไปกับเงามืดด้วยความสับสน นาธาร์กำลังเล่นปรัชญาการเมืองอะไรกับเขาอีก ไม่อยากจะเชื่อน้ำหน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างนาธาร์เท่าไรหรอก ไม่มีครั้งไหนที่ชายผู้มีดวงตาสีเทาหนวดเครายาวคนนี้จะทำอะไรโดยไม่หวังผล ...ผู้ชายที่มีอำนาจเหนืออำนาจทั้งปวงแห่งสุริยะ...ผู้ชายที่เขาไม่เคยรู้จักตัวตน
ชายผู้เคยทิ้งเขาไว้ในป่าดงดิบท่ามกลางสัตว์ร้ายด้วยวัยเพียงสิบขวบ ชายผู้ปล่อยให้เขาหิวโหยท่ามกลางทะเลทราย ร้อนระอุ เขาร่ำร้อง เขาหวาดกลัว และสียน้ำตามากมายกับเงามืดดำที่ตามไล่ล่าทั้งยามและหลับยามตื่น เด็กชายวัยสิบขวบที่เกือบโดนเสือยักษ์เขี้ยวโง้ง.ฆ่าตายเพราะความอ่อนเพลีย กระเสือกกระสนเพราะความหิวโหย
นาธาร์ไม่เคยสนใจ สายตาสีเทาดำที่มองลงมาจากฟากฟ้า เงียบสงบ นิ่งดั่งผืนน้ำในทะเลทราย
ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มีที่ซุกหัวนอน สิ่งที่เขามีคือร่างกายที่บอบช้ำ ค่ำคืนที่รอนแรมในป่าดงดิบเด็กชายวัยสิบขวบต้องประทะกับเหล่าสัตว์นานาชนิด ไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าจนมองไม่เห็นแสงสว่างแผ่คลุมเต็มท้องฟ้า พืชที่สามารถกลืนกินเขาไปได้ทั้งตัวโน้มเอนลงมาหาอาหาร ...ทันทีที่สุริยะลับขอบฟ้านั้นคือช่วงเวลาที่เขาทรมานกับความหนาวเหน็บ ทรมานกับความหิวจนแทบขาดใจ บางคืนเขานอนสลบบนพื้นน้ำแข็ง บางวันเขาเดินฝ่าทะเลทรายร้อนระอุ ...แม่...คำเดียวที่เขาเรียกร้อง แต่แม่ก็ไม่สามารถห้ามปรามบุรุษผู้นี้ได้ แม้แต่พ่อเจ้าแห่งสุริยะยังต้องฟังเมื่อนาธาร์เอื้อนเอ่ย ...
สามสิบตะวันขึ้นลงตามที่นาธาร์สัญญา เขาฟื้นในห้องนอนอีกครั้ง ..สภาพที่ตื่นขึ้นมาอยู่ท่ามกลางเตียงกว้างแพรพรรณลื่นสวยงามละลานตา เด็กชายวัยสิบขวบลุกขึ้น พร้อมโหยหาอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ...อ้อมกอดที่เขาใฝ่หา....หญิงสาวร่างเล็กผมยาวสลวยถักเปียยาวจนถึงสะโพกในชุดที่ครีมบางเบา ใบหน้างามล้ำของมารดาจุมพิตบนหน้าผากของเขา มอบความกล้าหาญและอบอุ่น กอดปลอบเขาไว้ในอ้อมแขน..
แม่...ผู้หญิงคนเดียวที่มีรักให้เขาด้วยความบริสุทธิ์...แม่ที่จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ ..
มาร์เดินทอดขาตามแสงโคมไฟในปราสาท ....เงามือสว่างสลับกันก่อเกิดภาพวูบวาบน่ากลัว ตะไคร้น้ำจับอยู่ตามขอบกำแพง ละอองเกลือเค็มติดอยู่ตามเนื้อหิน...กำแพงสูงใหญ่ทอดยาวไปตาแนวหุบเขาสูง สุริยะท่ามกลางทะเลลึก สุริยะท่ามกลางการปกครองอาณาจักรแห่งเทพ...ท่านแม่ข้ารักษาสุริยะให้ยืนยงอย่างที่ท่าต้องการ
อา...ฤาเทพต้องการให้เขาปลดปล่อย....ความมืดมิดทั้งมวล เพื่อรับแสงสว่างแห่งองค์สุรืยะ...
“มาร์ เจ้าถูกกำหนดมาแล้ว” ถ้อยคำของนาธาร์สะกดลึกในหัวใจ
“ทุกชีวิตถูกกำหนดตั้งแต่แรกเกิด” .ข้าจะชื่อท่านสักครั้งนาธาร์ ย่างก้าวของร่างสูงใหญ่หายลับไปกับซอกมืดของปราสาทท่ามกลางดวงตาลุกโชนสีแดงเพลิงในปรากายไฟบนคบเพลิง
ความคิดเห็น