ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hooroo สายลับไฮสคูล ภารกิจที่ 1

    ลำดับตอนที่ #3 : ภารกิจที่1 ขั้นตอนที่2: สืบเรื่องจากคนที่คิดว่ารู้

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 55


    B B

     

    ภารกิจที่ 1 ขั้นตอนที่ 2

    สืบเรื่องจากคนที่คิดว่ารู้

     

       เวลา 10.20 .

    ตอนนี้นักเรียนในคาบสังคมกำลังออกไปเรียนวิชาสุขศึกษาต่อไป เหลือก็แต่ลี ที่ยังคงอยู่ในห้อง

    อ้าวฤดี เธอไม่ไปเรียนคาบต่อไปเหรออาจารย์สมชายเก็บของกำลังออกจากห้องเห็นว่าลียังไม่ออกจากห้องเลยทักขึ้น

    อ่อ วันนี้หนูป่วยนิดหน่อยอะค่ะ บอกอาจารย์สรชัยไว้แล้วอะค่ะ^^”ลีโกหกหน้าตาย

    อ่อ ถ้างั้นก็หายากินซะนะ ครูไปล่ะ

    เดี๋ยวค่ะอาจารย์ลีรีบทักอาจารย์สมชายไว้

    มีอะไรเหรอฤดี

    เอ่อ คือว่าหนูอยากรู้เรื่องที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังเมื่อหลายวันก่อนอะค่ะ หนูอยากรู้ให้มากกว่านี้

    นี่ ฤดี เรื่องบางเรื่องถ้าเธอรู้ มันจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง

    แต่หนูอยากรู้จริงๆนะคะอาจารย์อาจารย์สมชายลังเลไปพักนึง ก่อนที่จะล็อคประตูห้องอย่างมิดชิดและเดินกลับมาหาลี

    ถ้าเธออยากจะรู้จริงๆ ครูก็จะบอกเธอ เมื่อสามสิบปีก่อน เกิดเหตุนักเรียนผูกคอตายที่ชั้นหกของโรงเรียนเรา เย็นของวันนั้นครูกับ ผอ.เดินตรวจดูตามห้องเรียนของทุกๆชั้นด้วยตัวเอง พอเดินไปถึงชั้นหก ห้องสุดท้าย ก็เห็นนักเรียนคนนึงผูกคอตาย ครูกับ ผอ.เลยรีบโทรแจ้งตำรวจ และก็ดันไปเห็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่พอ จะจับตัวคนร้ายได้ แต่มันนานมากแล้ว ครูจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่ ผอ.ท่านบอกว่าท่านรู้ และท่านจะสืบเรื่องเองอาจารย์สมชายอธิบายทุกอย่างให้ลีฟัง

    แล้วที่อาจารย์เคยบอกหนูว่า คนทำยังอยู่ คนอยู่ยังรู้ และคนรู้กำลังจะไม่มีที่อยู่ มันหมายความว่ายังไงเหรอคะอาจารย์

    นอกจาก ผอ.แล้ว ก็มีครู และก็อาจารย์อีกท่านนึง ที่รู้เรื่องนี้ หลังจากที่ ผอ.เสียชีวิต ครูกับอาจารย์ท่านนั้นก็ช่วยกันสืบเรื่องต่อ แต่ยังไม่ทันรู้ว่าใครเป็นคนทำ อาจารย์ท่านนั้นดันมาเสียชีวิตลงเพราะจมน้ำตาย เหอะๆ มันน่าขำไหมล่ะ คนที่ว่ายน้ำเก่งจะมาจมน้ำตาย พองานศพของอาจารย์ท่านนั้นครูเลยบวชให้ และก็ถือโอกาสลาบวชยาว ครูลาบวชไปสองปีได้ ก่อนที่จะกลับมาสอนใหม่อีกครั้ง

    แล้วทำไมอาจารย์ถึงไม่ย้ายไปสอนที่อื่นละคะ ทั้งที่ก็รู้ว่าอยู่ที่นี่ต้องไม่ปลอดภัย

    ครูก็อยากจะย้ายนะ เพียงแต่ครูมีลางสังหรณ์ ว่าสักวันครูจะรู้ว่าใครคือคนทำ ครูเลยอยากจะอยู่รอดูหน้าคนคนนั้น

    ถ้ามันเป็นอย่างนั้นตามที่อาจารย์เล่า แล้ว….อาจารย์สงสัยใครบ้างเหรอคะคำถามของลีสร้างความตกใจให้อาจารย์สมชายเป็นอย่างมาก

    ถ้าครูบอกเธอแล้ว ห้ามไปพูดให้ใครฟังเชียวนะ เพราะมันก็แค่ความสงสัยของครูอาจารย์สมชายพูดเสียงเบาลงด้วยความหวาดระแวง

    ได้เลยค่ะอาจารย์

    คนที่ครูสงสัยน่ะก็คือนายแดง ภารโรงที่เขาว่ากันว่าบ้า เพราะหลังจากที่ ผอ.เสียชีวิต นายแดงก็เสียสติไปเลย

    แล้วเขามีเหตุผลอะไรที่ต้องไปฆ่านักเรียนคนนั้น

    อันนั้นครูก็ไม่รู้นะ เพราะครูก็แค่สงสัยเขาเท่านั้น ครูก็รู้แค่นี้เดี๋ยวครูต้องไปเข้าคาบใหม่แล้วล่ะ สายมากแล้วพูดจบอาจารย์สมชายก็เก็บข้าวของเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ลียืนคิดเรื่องของนายแดงอยุ่คนเดียว

        เย็นของวันนั้น

    เป็นไงบ้างลี ได้เรื่องไหมมะลิเดินเข้ามาหาลีทันทีที่ลีขึ้นมาถึงชั้นหก และทุกคนก็เข้ามารอเธออยู่ในห้องหมดแล้ว

    ได้เรื่องมาเยอะเลยล่ะ!ลียิ้มมุมปาก พร้อมกับเล่าเรื่องทุกอย่างที่ได้ฟังมาทั้งหมดให้ทุกคนฟัง หลังจากที่พวกเขาฟังจนหมดก็พากันสงสัยไปต่างๆนาๆ

    ตอนนี้ฉันว่าเราน่าจะหาทางสืบเรื่องของนายแดงให้ได้ก่อน ใช่หรือไม่แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีซันพูด

    แล้วจะทำยังไงล่ะลีถามอย่างสงสัย เพราะตอนนี้หัวสมองเธอตันไปหมด

    ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จับตาดูนายแดงไว้ให้ดีๆ แล้วค่อยดูว่าหมอนั่นทำอะไร กับใคร ที่ไหนซันบอกพรางมองไปที่จอภาพที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งโรงเรียน

    ฉันว่ามันจะดีกว่านี้อีก ถ้าเราติดกล้องไว้ในห้องพักของนายแดง^^” นัทพูดพร้อมชูกล้องจิ๋วขึ้นมาโชว์ทุกคน

    เฮ้ยแกไปเอามาจากไหนวะ ซันถามนัทอย่างแปลกใจนิดหน่อย

    ก็เมื่อวานฉันอยู่หาข้อมูลจนเสร็จ ก็เลยลองรื้อของในห้องดู ก็ไปเจอไอ้ตัวนี้ เห็นมันเข้าท่าดี ก็เลยเอามาเก็บไว้นัทพูดพรางจับกล้องจิ๋วไปมา

    นี่นายคงไม่ได้เอาไว้ถ้ำมองสาวๆอาบน้ำหรอกนะ!O_O” ลีถามนัทอย่างจริงจังจนนัทถึงกับหัวเราะออกมา

    ฮ่าๆ ฉันไม่ใช่คนแบบซันสักหน่อย^^” นัทพูดพรางเบ้ปากไปทางซัน ที่ยังตั้งตัวไม่ทันกับมุขของเขา ซันได้แต่โบกมือไปมาเป็นเชิงว่าฉันไม่ได้ทำ

    นี่แล้วเราจะเข้าไปติดกล้องนี้ยังไงล่ะมะลิถามบ้าง

    “……” ทุกคนเงียบเพราะกำลังใช้ความคิด

    อือ….ฉันว่าไม่ยากเท่าไรหรอกนะเอริคพูดจบก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม ทุกคนในห้องมองเขาอย่างสับสนฉงนและสงสัย -*-

    เช้าวันรุ่งขึ้น

           ผอ.เรียกนักการภารโรงเข้าประชุมแล้วบอกกับทุกคนว่า วันนี้จะมีการซ่อมแซมบ้านพัก เพราะอย่างนั้นจึงอยากให้ทุกคนห้ามเข้าบ้านพักจนกว่าจะถึงหกโมงเย็น จริงๆแล้ว มันคือแผนของเอริคลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่าน ผอ.เท่านั้นเอง

           พวกเขาและเธอทั้งหกคนกำลังปลอมตัวอยู่ที่ห้องปฏิบัติการ และเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือในการติดตั้งกล้องและการซ่อมแซมบ้านพัก….. ใช่แล้วล่ะ !พวกเขาจะต้องซ่อมแซมบ้านพักกันจริงๆ เพื่อไม่ให้มีใครสงสัย

          ทั้งหกคนพากันเดินไปที่บ้านพัก และจัดการติดตั้งกล้องอย่างเชียวชาญจากนัท พ่อหนุ่มไฮเทคนั่นเอง เขาใช้เวลาไม่นานในการติดตั้ง ทำให้มีเวลาเหลือเฟือในการซ่อมแซมบ้านพัก แต่มะลิหญิงสาวผู้มีไหวพริบและสัญชาตญาณของสายลับ ดันไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่บนหลังตู้เสื้อผ้า

         มันคือเศษการดาษอะไรบางอย่าง ที่ค่อนข้างที่จะเก่ามากๆแล้ว เมื่อเธอเปิดอ่าน ในสมองเธอก็มีแต่ความสงสัยเพราะกระดาษระบุไว้แค่ว่า

    ถ้าแกคิดว่าแกเป็นพ่อที่ดีของฉัน เรื่องแค่นี้ทำไมแกจะทำไม่ได้

        มะลิคิดในใจว่าใครกันนะที่ส่งจดหมายแบบนี้มาให้พ่อตัวเอง  เธอได้แต่เก็บความสงสัยนั่นไว้ และเปลี่ยนจากการซ่อมแซมห้องนั้นมาเป็น ค้นหาข้อมูลอย่างอื่นแทน 

          เธอค้นจนทั่วห้อง และในที่สุดก็เจอ มีรูปเด็กผู้หญิงสองคนถ่ายรูปคู่กัน ทั้งสองคนใส่ชุดนักเรียนของไฮสคูลแห่งนี้ กอดคอกันและยิ้มอย่างมีความสุข มะลิไม่รอช้า รีบเอามือถือของตัวเองมาถ่ายรูปนั่นไว้ทันที เพราะลางสังหรณ์ของเธอบอกว่า นี่อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญน่ะสิ

        เป็นเวลาเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว  พวกเขาและเธอทั้งหกคน ซ่อมแซมบ้านพักจนเสร็จ และค่อยๆแอบย่องขึ้นไปที่ชั้นหก หรือห้องปฏิบัติการนั่นเอง

    นี่!! ฉันเจออะไรบ้างอย่างในห้องริมสุดด้วยล่ะ ดูสิเมื่อทุกคนกลับเข้ามาในห้อง มะลิก็รีบเอากระดาษแผ่นนั้นที่เธอหยิบมาจากบ้านพักภารโรงในทุกคนดู

         ทุกคนต่างทำหน้าสงสัย ว่ามันมีประโยชน์อะไร จนมะลิต้องอธิบาย

    ทุกคนไม่เข้าใจจริงๆเหรอ ลองคิดดูสิ ว่าลูกที่ไหนเขาคุยกับพ่ออย่างนี้บ้างมะลิพูด แต่ทุกคนก็ยังทำหน้าแบบเดิม

    พวกเราสงสัยนายแดง และห้องนั่นก็อาจจะเป็นห้องของนายแดงก็ได้ และก็เหมือนกับว่าลูกของเขาสั่งให้เขาทำอะไรที่ไม่อยากทำ พวกเธอลองจินตนาการดูสิ ถ้าเกิดว่านายแดงเป็นฆาตกร มันก็ไม่น่าจะมีแรงจูงใจอื่น นอกจากจะเป็นคำสั่งของของที่คนเขารักในกระดาษนั่นน่ะ แล้วฉันก็เจออีกอย่างหนึ่ง….” มะลิพูดค้างไว้แล้วเอามือถือตัวเองขึ้นมากดเปิดรูปในพวกเขาดู

    ฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆเกี่ยวกับรูปนี้มาก ฉันว่าใครคนใดคนหนึ่งในรูปคือคนที่ถูกฆ่าผูกคอแน่ๆทุกคนมองหน้ามะลิอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่อะไร มันเป็นเพราะเธอเดาได้เป็นเรื่องเป็นราวมากเลยน่ะสิ -O-

    อือ งั้นฉันจะหาข้อมูลคนในรูปให้แล้วกัน แต่ว่าตอนนี้ เรามาดูกันดีกว่าไหม ว่าห้องเองนั้นน่ะ มันเป็นห้องของใครกันแน่นัทพูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองที่จอฉายจากกล้องวงจรปิด

          มันเป็นอย่างที่มะลิพูดไม่มีผิด ห้องนั่นเป็นของนายแดงจริงๆทุกคนเริ่มหันมามองหน้ามะลิอย่างเหลือเชื่ออีกครั้งก่อนจะหันกลับไปมองที่จอภาพนั่น

         นายแดงเดินเข้ามาในห้องได้สักพัก เขานั่งอยู่นิ่งๆบนเตียงฉันตัวเอง และเหมือนกำลังพูดอะไรสักอย่างที่พวกเขาและเธอไม่ได้ยิน  น้ำตาของนายแดงไหลออกมา ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบรูปภาพ ที่อยู่ใต้หมอนออกมาดู  นายแดงเอาแต่ร้องไห้และพูดคนเดียว ตอนนี้พวกเขาและเธอทั้งหกคนขมวดคิ้วกันหมด 

    เฮ้ย นัท ฉันว่าแกต้องรีบสืบแล้ววะ ว่าสองคนในรูปน่ะคือใครซันพูด ในขณะที่สายตาของเขายังมองไปที่จอนั่นไม่วางตา นัทพยักหน้ารักเบาๆก่อนจะเดินไปที่คอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ โดยมีมะลิเดินตามไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น

    นัทเข้าไปที่ข้อมูลของนักเรียนเมื่อสามสิบปีก่อน  ซึ่งหาได้ไม่ยากเท่าไรนัก เพราะคอมพิวเตอร์ในห้องนี้มีข้อมูลของไฮสคูลนี้ตั้งแต่ก่อตั้ง  นัทไล่ดูรูปนักเรียนหญิงไปทีละคน ก่อนจะเจอ สองหญิงสาวในรูปที่มะลิเอาให้ดู

    คนที่ยืนอยู่ด้านซ้าย ชื่อ ณัฐชา  กลิ่นเกศร เป็นถึงประธานนักเรียนและหัวหน้าห้อง ส่วนคนที่อยู่ด้านขวาของรูปชื่อว่า  กวินธิดา  สายชล เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน สามปีซ้อน 

    หว่า….ทำยังไงจะรู้ล่ะ ว่าใครคือคนที่ตายน่ะมะลิพูด

    ฉันว่าน่าจะให้เอริคไปถามพ่อของเขาดูนะ เผื่อว่าจะรู้อะไรบ้างมะลิพยักหน้าเบาๆก่อนจะทำปากจู๋และเดินออกไปจากห้องปฏิบัติการอย่างผิดหวัง    นัทเดินตามมะลิมาติดๆ เพราะดูออกว่ามะลิรู้สึกแย่ตั้งแต่ที่ทุกคนมองตอนเธอสันนิษฐาน

    เฮ้!! มะลิ เธอลืมกระเป๋าน่ะ !!” มะลิไม่แม้แต่หันมามองนัทเลยสักนิด เธอเดินต่อไปอย่างคนที่ไร้วิญญาณ เธอคิดว่าเธอจะทำเรื่องนี้ได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆ แต่ว่าไม่เลย เธอช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย มะลิคิดอย่างนั้น น้ำตาของเธอค่อยๆไหลออกมาภายใต้แว่นตาหนาเตอะ

    นี่ มะลิ ร้องไห้ทำไม ??” นัทถามขึ้นเมื่อเขาวิ่งมาหยุดเดินข้างๆกับเธอ

    ฉะ..ฉันเปล่านะ ฮือๆๆๆถึงจะพูดอย่างนั้น แต่มะลิก็ยังร้องไห้ไม่หยุด จนนัทถอนหายใจออกมาเบาๆ

    นี่ การสันนิษฐานของเธอมันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ อย่าคิดมากสิ ตอนนี้เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคนที่ตายไปน่ะ 

    ไม่รู้สิ ฉันว่าฉันเชื่อลางสังหรณ์ตัวเองมากไป….” มะลิพูดเศร้าๆ แต่ตอนนี้น้ำตาของเธอหยุดไหลแล้วล่ะ

    ไม่หรอกน่า….สันนิษฐานไว้น่ะดีแล้ว ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ เดี๋ยวมันก็ดีเองแหละ ^^” นัทพูดพรางยิ้มให้มะลิน้อยๆ

    นายใจเย็นจัง ไม่คิดจะอยากรู้บ้างเหรอ ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไงน่ะมะลิถามอย่างสงสัย เพราะนัทนิสัยต่างจากเธอมาก เขาเป็นคนง่ายๆสบายๆแต่กับเธอ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่คิดเสมอ ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น เธอจะรู้สึกผิดหวังเอามากๆ

    ก็อยากรู้นะ แต่ฉันว่าเราค่อยๆสืบกับไป เดี๋ยวมันก็ดีเองแหละ อย่าไปคิดมาก^^” เมื่อเห็นรอยยิ้มของนัท มะลิก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

    อยากให้ฉันไปส่งหรือเปล่า^^” นัทถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามะลิเริ่มยิ้ม

    เอ่อ..คือ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันกลับเองก็ได้ ^^”

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่บ้านเอง^^”

    นัทไม่รอฟังคำตอบจากมะลิ เขาเดินนำหน้าเธอไปพร้อมกับกระเป๋าของเธอด้วย มะลิได้แต่ยิ้มออกมาเล็กๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร เธอเดินตามนัทไปอย่างเงียบๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×