คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Code 07 นับศูนย์... มันเริ่มแล้วล่ะ
“อุสาสมาถึง แล้วทั้งที จะไม่ให้ฉันลงมืออะไรหน่อยเหรอ อยู่เฉยๆนานๆมันก็เซ็งเหมือนกันนะ!...” หญิงสาวในเงามืดหัวเราะในลำคอสร้างความรำคาญใจให้ฝ่ายชายไม่น้อย เขาสวมชุดครุมสีดำ ดูลึกลับ และไม่น่าไว้วางใจ มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ได้มีเจตนาที่ดีแน่นอน
เขาหันมามองหญิงสาวก่อนจะเหลือบตามองไปยังโต๊ะทำงานทำจากไม้สลักด้วยลวดลายวิจิตแบบคนนิยมอนุรักษ์ของเก่าเท่านั้นที่จะมีไว้ในครอบครอง บนเก้าอี้ตัวใหญ่ มีเด็กสาวผมสีน้ำตาลทรงทวินเทลถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยเชือกเวท ที่มุมปากของเธอมีเลือดไหลออกมา
สภาพห้องเละเทะ ตู้เก็บเอกสารบุบบี้อยู่มุมห้องทำให้เอกสารต่างๆกระจายเต็มพื้น ชุดถ้วยกาแฟแตกกระจาย ไม่เว้นแม้แต่หนังสือเล่มหนาที่เจ้าของห้องห่วงนักหวงหนาก็หล่นกระจัดกระจายไปทั่วห้องบางเล่มก็ยังสภาพดีแต่บางเล่มก็ฉีกขาด เหมือนมีการต่อสู้เกิดขึ้น เมื่อไม่นานมานี้
จอโฮโลแกรมนับร้อยจอถูกเปิดค้างไว้ที่หน้าข้อมูลนักเรียน แต่ละคนที่พวกมันสนใจ ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีแต่นักเรียนที่มีค่าความสามารถอยู่ในอันดับต้นๆ หรือสูงเป็นพิเศษ
“หนวกหู... แค่มันยังไม่ถึงเวลาอันสมควรเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงเย็นชา หลังจากอ่านข้อมูลนักเรียนตรงหน้าจบ เขาพลักจอโฮโลแกรมนั้นไปให้หญฺงสาวพินิจ
“ชิ น่าเบื่อเป็นบ้า!” หญิงสาวเอนตัวลงนอน หลังจากเห็ข้อมูลในจอ
ในขณะที่ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยบรรยายกาศคึกคักจนตัวเขารู้สึกรำคาญ เสียงหัวเราะนั้น อีกไม่นานจะกลายเป็นเสียงกรีดร้อง ท้องฟ้าสีครามนั้นอีกไม่นาน อีกไม่นานเขาจะย้อมมันให้กลายเป็นสีเลือด
ชายหนุ่มแสยะยิ้มก่อนจะเหลือบตามองจอโฮโลแกรมที่ถูกบันทึกหัวข้อไว้ว่า ‘ฟูว่า’
Code 07 นับศูนย์... มันเริ่มแล้วล่ะ
“5” ก้าวเท้าเข้ามาในเขตรั้วโรงเรียนได้ทันเวลา
“4” แล้วมองไปบรรยายกาศในโรงเรียนที่ดูคึกคักเป็นพิเศษทุกคนพร้อมใจกันสวมชุดกีฬา...
อ๊ะ แต่ผมดันใส่ชุดนักเรียนมาทำไงดีเนี่ย?
ช่างเฮอะ...
“3” วันนี้นักเรียนชายดูคึกเป็นพิเศษถึงกับเรียกอาวุธที่ดัดแปลงออกมาอวดเพื่อนๆ
“2” สายลมพัดปะทะหน้าผมจนรู้สึกเคืองตานิดๆ
“1” รู้ตัวอีกทีก็เห็นไคท์กระโดดโบกมือให้โดยมัอัยและเวห์ยืนอยู่ข้างๆ
“0!!” สิ้นเสียงประกาศออกลำโพง เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นจนเสียงคุยเจือแจ้วเงียบหายไป
“เอาล่ะ... สวัสดีค่ะ ผุ้เยี่ยมเยือนทุกท่าน อาจารย์ และเพื่อนๆทุกคน ฉัน แครอท จะมาเป็นผู้บรรยายการแข่งขัน ‘ศึกชิงมงกุฏในวันนี้นะค้า~’ ดูเหมือนวันนี้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะเตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดีพร้อมลุยรึยังค้า~!” เสียงเล็กๆแหลมๆ ดังออกมาจากลำโพงก้องไปตัวโรงเรียน เรียกเสียงตอบรับจากนักเรียนชายเป็นอย่างดี
“ใจร้อนไปไหนน้องแครอท มันเริ่มแข่งตอนแปดโมง นี่เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเองให้ผู้เข้าแข่งขันเขาเตรียมตัวกันก่อนสิ อ๊ะ! สวัสดีครับ ผมชื่อ ชิลลิ จะมาเป็นผู้บรรยายคู่กับน้องแครอท อิจฉาล่ะซี๋~~~” เสียงกวนโอ๊ยฟังแล้วรู้สึกน่ารำคาญดังตามเสียงสาวน้อยมาติดๆ
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาไคท์ พร้อมกับล้วง เอาของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“เอ๋~ อะไรค่ะเนี่ยคุณฟูว่า” ไคท์ มองสร้อยข้อมือในมือผมดวงตาเป็นประกาย ไม่เคยเห็นตอนเธอสวมชุดกีฬาเลย ชุดกีฬาเป็นเสื้อยืดกับกับกางเกงวอม เข้ากับไคท์ได้อย่างน่าประหลาด หมายถึง ใส่แล้วก็ดูน่ารักดี
“นี่เป็นเครื่องรางน่ะ... ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อวานเลยนั่งถักจนถึงเที่ยงคืน” พอเห็นผมพูดอย่างนี้ทุกคนก็ทำหน้าเศร้าไปตามๆกัน คงมีแต่เวห์เท่านั้นล่ะที่ยิ้มออก เพราะ เวห์ยังไม่รู้เรื่องนี้
อย่าว่าแต่รู้เรื่องนี้เลย แค่ชุดกีฬาเขายังไม่ได้ใส่มาด้วยซ้ำ เอ่อ... ผมก็ด้วยล่ะ
และอีกอย่าง ผม ก็ไม่ต้องการให้เขาเข้ามาเกี่ยวด้วย ...เพื่อตัวเขาเอง
“ก็แค่... อยากให้ทุกคนพกเอาไว้น่ะ” ผมพยายามคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะส่งสร้อยข้อมือที่ถักจากรากต้นไม้อะไรซักอย่างที่ปะป๋าบอกว่าเป็นต้นไม้นำโชคให้ไคท์ สร้อยที่เธอได้มีลูกปักทำจากคริสตัลสีเขียวที่ไปซื้อมาเมื่อตอนไปฝึกเมื่อสองสัปดาห์ก่อนร้อยเอาไว้ด้วย
พอรู้ว่าที่บ้านมีต้นไม้ที่ทำเป็นเครื่องรางได้ ผมก็ขอป๊าถอนออกมาทำเป็นสร้อยข้อมือไว้นำโชค ให้การแข่งขันครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี ผมมองลูกปัดสีฟ้าที่สะท้อนแสงแดดส่องประกาย ก่อนจะส่งมันให้แก่เวห์ เขาดูท่าทางมีความสุขมากแถมยังตะโกนเสียงดังอีก
“ได้เครื่องรางของขลังมาแบบนี้ ถึงฝีมือจะแย่แค่ให้ก็ต้องชนะแน่ๆ” เวห์หัวเราะ พอผมเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมา
“เรื่องนั้นช่างมันดีกว่า... มาสนุกกันงานบ้าๆนี่ให้เต็มที่กันดีกว่า!” จู่ๆ อัยก็หัวเราะออกมา อัยพูดถูก กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น เครียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา โอกาศที่มันจะเป็นจริงก็แค่ครึ่งๆ
“อื้ม!” พวกเราพยักหน้าก่อนจะมุ่งไปยังสนาม
ลองนึกย้อนกลับไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน...
ผมรีบวิ่งตามเวห์ที่กลิ้งลงบรรไดไปพอเห็นว่า เวห์กำลังถูกปีศาจตัวสีดำทำร้ายก็เรียกดาบออกมาไว้ในมือกรรโดดง้างดาบตัดหัวมัน ทำให้ไอสีดำละลักออกมาจากคอของมัน
“ไม่เป็นไรนะ...” ผมมองมือของเวห์ที่ถูกต้นไม้ทับจนกระดูกแตกมีเลือดไหลออกมา อาการท่าจะหนัก
“ตัวอะไร...” เวห์พึมพำ ดวงตาของเขาดูว่างเปล่าราวกับจมลงไปในห้วงคำนึง
ผมรีบสะบัดหัวทิ้ง เราต้องมีสมาธิอยู่กับการแข่ง...
รอบแรกมีการแข่งสามอย่าง อย่างแรกเป็นการแข่งขันความเร็ว วิ่งผลัดไม้ ห้าร้อยเมตร ทีมละห้าคน คนละร้อยเมตร แต่ว่าทีมของผมขาดไปคนนึงจึงต้องแบ่งกันไปอีกคนละนิดคนละหน่อย คนแรกที่ลงก็คือ ไคท์ เธอวิ่งเร็วที่สุดในกลุ่มจึงเป็นคนวิ่งคนแรก ความเร็วของเธอยากนักที่จะมองตามทัน ห้าวินาทีแรกทีมผมจึงเป็นฝ่ายนำ คนแรกผ่านไปตามด้วยอัยที่มีความเร็วเป็นอันดับสองของกลุ่ม เธอตั้งท่ารอรับไม้อยู่นาน พอได้ไม้ปุ้บก็ออกตัวทันที เรียกเสียงฮือฮาจากพวกกลุ่มนักเรียนชายจนเฮลั่นสนาม บางคนก็ทำตาเยิ้ม มองอะไรกันนะ?
พอถึงตอนส่งไม้ให้เวห์ เธอก็พลาดทำไม้หล่นกระเด้งเข้าตาเวห์เต็มๆ แต่สุดท้าย เวห์ที่ความเร็วสุดฝีเท้าไม่ต่างกับตอนเดิน แถมยังต้องแบกดาบเล่มยักษ์วิ่งไปด้วย อุสาสต์ฟิตกลั้นใจเก็บไม้วิ่งมาส่งให้ผม ก่อนจะลงไปกองกับพื้น
“ทำได้ดีมาก” ผมยิ้มก่อนจะสูดหายใจเข้าให้เต็มปอด ช่วงที่เวห์วิ่งก็โดนคนแซงไปหลายคน ตอนนี้โดนนำไปแล้วสิบทีมจากยี่สิบ ยังอยู่ลำดับกลางๆ อย่างน้อยก็ต้องติดหนึ่งในสิบอันดับ จะได้เข้ารอบถัดไป!
ผมขมวดคิ้วแน่นถอยหลังก่อนจะออกตัววิ่งกระถีบเท้าสุดแรงดีดตัวพุ่งไปข้างหน้าเหมือนเหาะออกไปและตีลังกากลับลงมาวิ่งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมหลายเท่า แซงสองทีมที่วิ่งประกบอยู่จนโดนมองตามหลังด้วยสายตางงๆ
“กรี๊ด~ ท่าน ‘ฟูว่า’ วิ่งนำมาแล้วค่า!!!!!” เสียงกรี๊ดออกไมค์แสบแก้วหูทำผมเซไปเล็กน้อย อันตรายนะเนี่ยความเร็วระดับนี้ป๋าเคยบอกว่าล้มที่มีแหกแน่ ผมหันไปมองต้นเหตุที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะผู้พากษ์สนาม แครอท กรี๊ดตื่นเต้นอะไรซักอย่างพร้อมกับโปกธง ที่เขียนชื่อผมตามด้วย FC นั่นไม่ใช่นามสกุลของผมซักหน่อย ตัวย่อก็ไม่ใช่
“มัวเหม่ออะไรอยู่ ฟูว่า” ผมสีแดงยาวถูกรวบเป็นหางม้าพริ้วไหวลู่ลมสะบัดเข้าตาผมเต็มๆ รุ่นพี่เคนชินวิ่งแซงผมไปในความเร็วพอๆกันกับไคท์ แบบนี้ท่าจะแย่พวกที่โดนนำวิ่งใกล้เข้ามาแล้ว ผมกัดฟันเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกจนเทียบกับรุ่นพี่เคนชิน
“ใจสู้ดีนี่แต่เรื่องความเร็ว นายสู่ฉันไม่ได้หรอก” รุ่นพี่แสยะยิ้มก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นจนผมตามไม่ทัน ขนาดผมเร่งสุดฝีเท้าแล้วระยะห่างยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้...
ความรู้สึกขุ่นมัวอัดแน่นหน้าอกไปหมด มันคืออะไรกันนะ รู้สึกไม่ดีเลย อยากวิ่งแซงรุ่นพี่ให้ได้ อยากให้รุ่นพีแพ้ๆไปซะ!
ปี๊ดดดดดด!!!! เสียงนกหวีดังขึ้นบอกเวลาเตรียมตัวก่อนเริ่มการแข่งขันรอบที่สอง
“อย่าเศร้าไปเลย ฟูว่า ยังไงซะนายก็ทำดีที่สุดแล้วได้ตั้งที่ห้าเชียวนะ!” เวห์รีบวิ่งเข้ามาปลอบใจ พร้อมกับไคท์ที่ยืนยิ้มโอบป็อปคอนถุงใหญ่ไว้ ขานี่เวลาแค้นแล้วจะไม่แสดงออก ถึงไคท์จะบอกไม่เป็นไรแต่เสียงป็อปคอนโดนเขี้ยวอย่างโหดร้ายบอกได้อย่างชัดเจนว่ากำลัง แค้นสุดๆ
“ยังไงซะ คะแนนก็ต้องเอาไปรวมกับสองรอบที่เหลือ ยังมีโอกาศอยู่นะ” อัยยกขาเตะเสยคางเวห์แต่เขาหลบได้พร้อมใช้มือรับไว้ในระดับอก อัยไม่สนเสียงโวยวายของเวห์เลยแม้แต่น้อย เธอโน้มตัวลงผูกเชือกร้องเท้าทำเหมือนคนที่เธอพาดเท้าอยู่เป็นเพียงเก้าอี้ปูน
“นั้นล่ะที่ฉันจะบอก!” เวห์รีบตะโกน เมื่อเห็นว่าอัยผูกเชือกเสร็จเขาก็เหวี่ยงขาเธอทิ้งทันที
“ถ้าผ่านรอบคัดเลือกได้ก็สบายแล้วล่ะค่ะ!” ไคท์ยังเคี้ยวป๊อปคอนไม่เลิก ยิ่งพูดก็ยิ่งแค้นยิ่งแค้นก็ยิ่งมันเขี้ยวยิ่งมันเขียวก็ยิ่งอยากเคี้ยวป็อปคอนสินะ ผมผยักหน้าพยายามเข้าใจกัยสิ่งที่เกิดขึ้น
“รอบคัดเลือกนี่เขาจะเอาเท่าไหร่นะ” เวห์เดินมาหยิบป็อปคอนไปกินกำนึงแบบเนียนๆ
“ห้าทีมค่ะ!” ไคท์กระแทกเสียงใส่เวห์ทำให้เศษป็อปคอนที่ผสมกับน้ำลายจนได้ที่กระจายเต็มหน้าเวห์ เห็นแล้วคลื่นไส้แทนคนโดนเลยล่ะ
“ฟูว่า... ฉันขอไปล้างหน้าก่อนนะ เดี๋ยวสิวขึ้น~~~!!!” แล้วเวห์ก็วิ่งหายไปหลังอาคาร ทีงี้วิ่งเร็วกว่าตอนแข่งอีก
“เอาล่ะ การแข่งขันจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมงนะค้า~ ขอให้ผู้เช้าแข่งขันพักผ่อนกันให้เต็มที่ ระหว่างเค้าไปหาท่านฟู... เอ๊ย... ไปทานข้าวเช้านะค้า” แครอทหัวเราะแห้งๆ ตบท้าย
ข้าวเช้างั้นหรอ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ
“ข้าวเช้าก็ทานเบิ้ลไปกับข้าวเที่ยงแล้วนี่ครับ” ชิลลิรีบแทรก
“ยุ่งน่า!!!!” เสียงเล็กๆแหลมๆดังก้องไปทั่วโรงเรียนก่อนจะปิดท้ายด้วยเสียงของแข็งฟาดเข้ากับเนื้อจนดังกร๊อบ ฟังแล้วขนลุก สยอง...
“มาแล้ว!” ก่อนการแข่งขันจะเริ่มหนึ่งนาทีในที่สุดเวห์ก็กลับมาทัน
การแข่งขันรอบต่อไป...
“เก้าอี้ดนตรีค่า!” แครอทตะโกนเสียงดัง แบ่งเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มล่ะห้าทีม ทีมไหนเหลือเป็นคนสุดท้ายก็ได้ไปต่อ
เพลงแรกจบลงผมยังยืนเหม่ออยู่หน้าเก้าอี้ในขณะที่ทีมอื่นแย่งกันนั่งเลือดตาแทบกระเด็นจะว่าไป “เพลงเพราะดีเนอะ” ผมหันไปขอความเห็นจากอัยที่ทำหน้าบูดเพราะโดนแย่งเก้าอี้ไปต่อหน้าต่อตา
เพลงที่สองจบคนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะไวสู้คนอื่นไม่ทันก็มายืนน้ำตาซึมอยู่ข้างๆผม ไคท์นั้นเอง
“ทำไม... ทำไม...” ไคท์ปาดน้ำตาก่อนจะตวัดนิ้วชี้ไปยังเวห์ที่นั่งไขว้ห้างทำหน้าเยาะเย้ยทีมอื่นที่โดนเขาแย่งเก้าอี้ไป “ทำไมเวห์ถึงรอดเป็นคนสุดท้ายได้ล่ะ!!!! ฮือ~ น่าอับอายที่สุด! หนูแพ้ ไอ้ขี้แพ้งั้นเหรอ” เธอร้องเพราะเรื่องนี้หรอกเรอะ...
ว่าแต่ทำไมเวห์ถึงอยู่มาได้จนถึงสองคนสุดท้ายของกลุ่มแรกได้ละเนี่ย?
“เอาล่ะ เพลงสุดท้าย Start! ~” สิ้นเสียงแหลมๆของแครอท เพลงแนวเฮฟวี้เมทัลก็เปิดดังสนั่นโรงเรียน เวห์เดินกอดอกฉีกยิ้มราวกับผู้มีชัยชนะอยู่ในกำมือตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
กึก! เสียงเพลงหยุดลงเวห์หมุนตัวเอาปลายดาบทิ่มก้นฝ่ายตรงข้ามที่จะนั่งก่อนเบียดตัวหย่อนก้นลงบนเก้าอี้...
“แบบนี้มันผิดกฏชัดๆ!” เด็กสาวที่โดนเวห์แย่งเก้าอี้หันไปโวยกับกรรมการ
“ใครว่าโกงดาบมันสะบัดไปโดนเองต่างหาก ถ้าจะเอาเรื่องก็ไปเอาเรื่องกับคนที่สั่งให้ฉันสะพายดาบตลอดเวลาเซ่!” เวห์แลบลิ้นคว่ำนิ้วโป้งใส่ เด็กสาวที่โกรธจนหน้าแดง นี่นายโยนความผิดให้ ผอ. เลยเรอะ
สุดท้ายทีมเราก็คว้าอันดับหนึ่งของเก้าอี้ดนตรีมาจนได้ ด้วยฝีมือของเวห์ (และอำนาจของดาบของผอ.) ล้วนๆ
“การแข่งขันรอบต่อไป... แข่ง! ต่อตัวค่ะ!” แข่งต่อตัว?
“โดยกติกาก็แสนจะง่ายเล่นสนุ๊กสนุก ผู้เข้าแข่งขันต้องต่อตัวบนกระดาษหนังสือพิมพ์ ให้เหลือเท้าบนหนังสือพิมพ์ตามที่โจทย์กำหนดค่ะ ห้ามว่าเท้านอกหนังสือพิมพ์นะค่ะ ไม่งั้นปรับฟาวด์! ตามกฏแน่นอนว่าทุกคนต้องสำผัสตัวกันอย่างน้อยหนึ่งคนค่ะ และ จะให้ต่อตัวไปเรื่อยๆจนถึงทีมสุดท้าย ขอให้โชคดีนะค่ะท่านฟูว... หมายถึง... โชคดีนะค่ะทุกคน~” เสียงจุ๊บส่งท้ายเรียกขวัญกำลังใจจากเหล่านักเรียนชายจนสนามบอลร้อนละอุ
“ข้อแรก แปดขา!” ทีมผมก็ยืนกอดกันกลมเกลี้ยวด้วยความที่ว่าทุกคนตัวบางอยู่แล่วจึงรอดไป
“เดี๋ยวเด่!” จู่ๆ นักเรียนชายทีมข้างๆ ก็ตะโกนเสียงดัง พร้อมกับชี้มาทางทีมผม
“ทีมไอ้นี่มันมีสี่คนอย่างนี้มันก็ได้เปรียบดิ! ไม่ยุติธรรม! ปรับฟาวด์ไปเลย”
“ใจเย็นๆคะ เรื่องนี้เครียร์ได้~” อาจารย์ฟา เดินมาพร้อมกับสายไหมสามไม้และแก้วน้ำอัดลมไซต์เอ็กซ์แอล เพราะดื่มน้ำอัดลมเยอะเกินไปตัวถึงได้สูงแค่นี้ไง
“ว่าไงนะ!” อาจารย์ฟา หันมาแว๊ดใส่ผมก่อนจะไอกระแอม แล้วหลับตาลงเปล่งเสียงใสออกมาดังกังวาน ทุกคนในโรงเรียนสามารถได้ยินเสียงของเธอ
“ให้ทุกทีมเอาคนออกให้เหลือสี่คน แบบนี้พอใจรึยังค่ะ?” ไม่รอคำตอบอาจารย์ฟาก็หันหลังตรงไปยังสุ่มขายสายไหมก่อนจะเหมาเพิ่มมาอีกสามไม้
“ตามนั้นค่ะ ผู้อำนวยการ ฟา ทีนี้ก็เหลือคนในทีมเพียงสี่คนเพื่อต่อตัวน....”
ตูมมมมมมม! เสียงระเบิดดังขึ้นสร้างความแตกตื่นแก่ผู้ชมไม่น้อย ผมหันไปทางต้นเสียง ตรงที่นั่งของ ผู้พากษ์สนาม ที่ถูกปกครุมควันสีแดงจากการระเบิดเมื่อครู่
ในความวุ่นวายของเหล่านักเรียน ธงที่เขียนชื่อผมเอาไว้ตกลงบนพื้น เมื่อควันจางลงสิ่งที่เห็นก็คือ พิธีกรแครอท ถูกคนในชุดครุมสีดำล็อกคอ พร้อมกับเอาคมดาบจ่อคอไว้ คนพวกนี้เป็นใคร?
เรื่องนั้นไว้ก่อนตอนนี้ผมต้องช่วยแครอท ดูท่าพวกนั้นจะไม่ได้แค่เล่นๆด้วย ผมสะบัดมือขวาเรียกดาบออกมาพอจะก้าวเท้า สิงโตสีดำก็กระโดดมาขวางเอาไว้ ดวงตาสีเหลืองของมันทอประกายมุ่งร้าย ตอนนี้โรงเรียนถูกพวกชุดครุมสีดำล้อมไว้ นักเรียนที่พยายามจะหนีออกจากโรงเรียนก็โดนทำร้ายจนลงไปกองกับพื้น
บาเรียสีแดงโปร่งแสงมีลักษณะเหมือนกระจกสามเหลี่ยมถูกสร้างขึ้นเหนือโรงเรียนก่อนจะกางออกเป็นหกเหลี่ยมกระจากออกเป็นร้อยๆแผ่นปิดล้อมโรงเรียนไว้ไม่ต่างจากโดมแก้ว ย้อมแสงที่ผ่านเข้ามาให้เป็นสีเลือด
สิงโตกระโดดใส่ผม แม้จะยกดาบขึ้นกันได้ทันแต่ก็โดนแรงกระแทกผลักจนเซไปด้านหลัง พอผมตวัดดาบกลับมันก็กระโดดถอยหลังแล้วหันไปเล่นงานอาจารย์ฟาแทน
“อาจารย์ฟา!” ผมรีบวิ่งเข้าไปรับการโจมตีแทน อกของผมโดนตะบบจนร่างกระแทกกับพื้น มันกระโดดออกไปดูเชิงส่วนผมก็ปักดาบยันตัวขึ้นมายืน “อาจารย์ฟาไม่เ)นไรนะครับ”
แต่
อาจารย์แสยะยิ้ม ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเหลืองวาวโรจน์ “ใครเป็นอาจารย์ของนายกันจ๊ะ” เธอตวัดดาบสีแดงมาอยางรวดเร็วจนเห้นเป็นเพียงเส้นแสง ผมดึงดาบขึ้นมากัน เสียงปะทะดังขึ้นเหมือนเสียงกระดิ่งลม ผมโดนแรงกระแทกดีดให้ลอย พิอตั้งหลักกลับมายืนได้ อาจารย์ฟาก็ดึงเอาที่มัดผมออกปล่อยผมยาวพริ้วไหวไปตามกระแสลมที่รุนแรงขึ้นทีละน้อย
“แหม ตอบโต้ได้แบบนี้ก็แย่สิจ๊ะ ขอริบไปล่ะนะดาบของแก!” อาจารย์ฟากำมือตัดการเชื่อมต่อพันธสัญญาทำให้ดาบของผมสลายไป พยายามเรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมออกมา รู้ตัวอีกทีปลายดาบสีแดงก็มาจ่ออยู่ที่คอหอยซะแล้ว
“อาจารย์...” เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ฟากันแน่?
“ก็บอกอยู่ว่า ฉัน-ไม่-ใช่-อา-จารย์ของแก เข้าใจที่พูดไหมเนี่ย” เธอแสยะยิ้มอย่างโรคจิต ก่อนจะชูมือขึ้นฟ้าระเบิดไอสีดำออกมาเป้นวงล้อมผมไว้ ไอสีดำค่อยๆรวมตัวกลายเป็นสิงโตแปดตัว พวกมันแยกเคี้ยวใส่ผมราวกับจะขู่เตือน
ดีดนิ้วดังโป๊ะ กังวานไปทั่ว เรียกทุกสายตาในโรงเรียนให้จ้องมายังคนชุดครุมสี่ดำที่ยืนอยู่เหนือทุกคน ร่างของเขาลอยไปอยู่ตรงหน้านาฬิกาของหอคอยกลางโรงเรียนเพื่อให้ทุกคนเห็นตัวเขาได้อย่างชัดเจน ผ้าครุมหน้าถูกปลดลง ผมสีเงินกระด้างขยับไปตามสายลมที่พัดผ่าน ดวงตาสีเขียวฟ้าประกายเหลืองเหมือนสัตว์ร้ายจ้องมายังพวกผมและแสยะยิ้ม
“พวกเจ้าทั้งหลายจงเงียบและเงี่ยหูฟังข้า ในนามของ ‘เทร่า’ แห่ง หัวใจทมิฬ”
“ข้าขอเปิด ศึกชิงมงกุฏ กับพวกเจ้าอย่างเป็นทางการ...” เสียงของชายคนนี้ดังกังวานเหมือนมีพลังอันยิ่งใหญ่ที่แม้แต่ใครก็ไม่สามารถชนะได้ ความรู้สึกที่สำผัสได้จากตัวเขาทำให้ผมหวาดกลัว
ประกายสีแดงสลายออกมาจากเหล่านักเรียนที่ถูกทำร้ายจนสลบ ประกายเหล่านั้นปลิวไปตามกระแสลมจนดูเหมือนกาแล็กซี่กังหัน ที่มีดาวฤกษ์เป็นร้อยเป็นพัน หรืออาจจะเป็นแสนๆล้านดวง
แต่ทว่าประกายสีแดง กำลังถูกดูดไปรวมกัน ณ เพียงจุดเดียว
เพื่อสร้าง
.
.
.
.
บังลังค์ สีเลือด
ความคิดเห็น