คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Code 04 ไอเท็มต้องสาป
Code: Secret Moon
Code 04 ไอเท็มต้องสาป
ผมลุกขึ้นมาขยี้ตาแล้วมองท้องฟ้าสีครามนอกหน้าต่าง รับลมเย็นๆจากหน้าต่าง เย้... ในที่สุดฝันร้ายของสอบกลางภาคก็จบลงซะที หวังว่า ฟู กับ อัย คงทำข้อสอบได้ดีนะ ผมคิดขณะที่ผลักผ้าห่มออกแล้วเดินไปอาบน้ำแต่งตัว หลังจากที่ฟูต้องเข้าเฝือกเพราะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็ผ่านมาได้แล้วสองเดือนเต็ม! ตอนนี้ก็เริ่มจะเข้าหน้าหนาวแล้วสินะ หลังจากแต่งตัวเสร็จก็บิดขี้เกรียจอีกรอบ ผมหันไปคว้าดาบที่วางไว้ใต้เตียงออกมาสะพาย ก่อนจะรีบดิ่งออกจากบ้านตรงไปยังหน้าโรงเรียนจุดนัดพบของเราสามคน
“ว้า มาซะสายเลยนะนายเห่ย” แน่นอนว่าเสียงใสๆอย่างนี่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากอัย ส่วนเรื่องคำพูดผมจะทำเป็นไม่ได้ยินไปละกัน! วันนี้เธอแต่ตัวดูแปลกๆ ชุดวันพีชสีน้ำตาลดูยับๆ อืมสงสัยชุกน่ารักเกินไปไม่เข้ากับคนใส่มั้ง ส่วน ฟูว่าก็ใส่กางเกงนักเรียนสีดำยาวครุมเขากับเสื้อกันหนาวสัเหลืองดำมีซิบแขนยาวแล้วก็มีฮูทด้วย
“ไปฝึกกันต่อเถอะ” ฟูเสนอเสียงเรียบ ส่วนอัยก็พยักหน้าเห็นด้วย ใช่แล้วหลังจากฝันร้ายยามสอบจบลงพวกเราก็ตัดสินใจชวนกันไปฝึก เพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นพอที่จะสอบซ่อม! เอ๊ะเดี๋ยวดิ... พวกผมสามคนสอบตก แล้วก็ต้องสอบซ่อมงั้นก็หมายความว่า... ฝันร้ายของการสอบยังไม่จบ สินะ...
ม่ายจริง~ ทำไมผมถึงเพิ่งรู้สึกตัวละเนี่ย! ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้มหน้าหงอยๆ เศร้า...
“เป็นไรถอนหายใจนี่มีปัญหาอะไรมิทราบ” อัยพูดจาหาเรื่องอีกแล้ว ส่วนผมที่ไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับใครก็ตอบเสียงอ่อยๆไปว่า เอ้อ แล้วก็เดินนำพวกฟูไปทิ้งให้เขาสองคนมองหน้ากันงงๆ ใครจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่สอบตกซ้ำซากเป็นประจำแต่ก็ยังไม่ชินละ เฮ้อ...
“นี่นายเป็นอะไรรึเปล่า” อัยถามผมอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทำไมเห็นผมซึมแล้วมันแปลกตรงไหนพอรู้ว่าฝันร้ายของการสอบยังคงดำเนินต่อไปเหมือนล้อเกวียนแห่งความหายนะที่เขยื้อนอีกครั้ง! อ้าก! ม่าย~ ผมกุมหัวตัวเอง
“เจอ-ตัว-แล้ว!” หว่า! ผมโดนยัยนั้นกระโดดเข้ามาควงแขนโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว เกือบล้มแน่ะ! ผมหันไปมองเพื่อเช็คให้ชัวร์ เด็กสาวตัวเล็กๆบางๆผมสีบอล์นยาวตรงจนถึงกลางหลัง ผิวขาว ใบหน้าน่ารัก ปากอมชมพูเล็กๆ ดวงตาสีฟ้าดูสดใสตลอดเวลา แน่นอนว่าไม่ใช่น้องสาวผม! ยัยนี่ชื่อ ฮาร์ท เป็นเพื่อนของผมตั้งแต่สมัยเด็ก... เด็กมาก
“ฮาร์ท! อย่าควงสิ” แล้วผมก็เพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้ ทำไมยัยนี่ชอบมาควงแขนผมทุกทีนะ? ผมโดนควงจนชาวบ้านชาวช่องเขาเข้าใจผิดว่าพวกเราเป็นแฟนกันซะแล้ว น่าเศร้า ฮือ... เอ๊ะ หรือจะดีใจดีหว่า?
“งั้นจับมือ” พูดจบเธอก็เปลี่ยนจากควงแขนเป็นกุมมือของผมแทน ดวงตากลมโตของเธอจ้องหน้าผมอย่างดีใจที่ได้ผมกัน ใช่แล้วละยัยนี่ เป็นคนที่ผมเคยพูดถึง น่ารัก แล้วก็ สดใส ตลอดเวลา จนน่าแปลกใจนิดๆ
“ไม่ได้” ผมปัฎิเสธเสียงแข็ง
“งั้นจับ...” แล้วเธอก็ก้มลง หา? จะกอดขาแล้วให้ผมลากไปตลอดทางงั้นหรอ หนักตายชัก ไม่ให้! ไม่ให้โว้ย! เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ลากยัยนี่เด็ดขาด!
“ไม่ให้”
“ยังไม่ทันพูดเลยน่า!” เธอทำแก้มป่องดูแล้วน่ารักจนแทบละลายแต่.. ฮึ! นึกหรอว่าผมจะหลงกลอยู่กับยัยนี่มาตั้งนานติดกับจนรู้ทันหมดแล้วเฟ้ย!
“ไม่ได้เด็ดขาด ที่ฉันโสดสนิทมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะเธอนั้นละ” ผมชี้หน้าฮาร์ทอย่างไม่เกร็งใจ เธอสะดุ้ง
“ถึงไม่มีฮาร์ท... ฉันว่า ก็คงไม่มีใครมาจีบนายหรอกนะ” อัยพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน... บาทา
“อืม ฉันว่าจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้นะ ต้องลองดูจากหน้าตา... อืม” แล้วฟูก็ลากเสียงลำบากใจพยายามจะเค้นคำหาคำที่ถนอมน้ำใจที่สุดออกมาพูด
“เอ่อ ว่ายังไงดี ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจนายนะงั้นข้ามไปก่อน” ชัดเจนมากเลยเพื่อน...
“ส่วนเรื่องนิสัยก็...” ฟูลากเสียงเงยหน้านึกอดีตย้อนเทปตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน แล้วก็ตั้งชะงักขมวดคิ้วแน่น มองหน้าผมอย่างลำบากใจ ชัดเจนมากเลย ไม่ต้องพูดอะไรตูก็รู้แล้ว...
“งั้นก็คงไม่ต้องพูดถึงละกัน” ฟูพูดด้วยน้ำเสียงซื่อๆ งั้นก็คงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกันแล้วสินะ...
“ไม่จริงหรอก เวห์น่ะนิสัยน่ารักจะตาย!” ฮาร์ทเถียง แก้มป่องแต่... “อย่าถือวิสาสะมาควงแขนฉันสิ”
ผ่านไปซักพัก...
“อืม ที่แท้ ก็มาเพื่อชวนฉันไปงานโรงเรียนงั้นสิ” ผมกอดอกพยักหน้า ตอนนี้พวกเราย้ายมานั่งเล่นอยู่ในสวนสธรณะ นั่งฟังเรื่องที่ฮาร์ทเล่าอย่างตั้งใจ เอ๊ย ทำไมผมต้องใส่ใจยัยนี่ด้วย ไม่สิพูดอย่างนี้เหมือนยอมรับยังไงไม่รู้ ไม่สนซักนิดๆๆๆ!
“อื้ม! ชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ” ฮาร์ทยิ้มอย่างร่าเริง งั้นก็แสดงว่าวันนี้พวกเราจะโดดตั้งแต่วันแรกที่จะฝึกเลยสินะ อ่า เห็นแววหายนะมาแต่ไกลเลยแฮะ...
“ฉันชื่อ อัย ส่วนคนนี้ชื่อ ฟูว่า” อัยรีบแนะนำตัวอย่างร่าเริง
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ จะว่าไปคิดถึงเวห์จังเลย”เธอพูดอย่างร่าเริง อันที่จริงแล้วผมเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันกับฮาร์ทมาก่อน แต่โดนไล่ออกมา ดันนั้นเมื่อผมย้ายโรงเรียนก็เลยไม่ค่อยได้เจอกับฮาร์ทคงเป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนจะคิดถึงกัน แต่... ก็ไม่ต้องถึงขนาดกอดจนผมแทบไส้ปลิ้นเลยนี้ ฮือ...
ณ โรงเรียน
“ว้าว สมกับเป็นงานเทศกาล” อัยมองโรงเรียนด้วยสายตาอึ้งๆ ทั้งร้านขายของที่นักเรียนจัดขึ้น ตั้งอยู่เต็มไปหมด มีทั้งร้านขายอาการ ขนม พวกเกมงานวัดต่างๆ ร้านขายของเล่นก็มี ก็เหมือนงานเทศกาลทั่วไปละฟะ ทุกๆปีก็เป็นอย่างนี้
“เฮอะ! งั้นๆละ” แต่สำหรับผมที่มีเรื่องกะ ผ.อ. โรงเรียนนี้เลยรู้สึกไม่ชอบซักอย่าง! ผมกอดอกไม่ยอกรับภาพตรงหน้าอย่างแรง
“งั้นไปดูร้านของเราป่าว” มันเหมือนไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่นี่มันประโยคคำสั่งชัดๆ! ยัยฮาร์ทพูดจบก็ลากผมผ่านร้านขายอาหารโซนหน้าไปยังโซนหลังที่เป็นร้านขายของชำต่างๆแล้วก็เกม ตอนนี้ผมมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยเอ่อ... หน้ากาก ทั้งหน้ากาก หมาจิ้งจอกหน้ากาก แม่มด หน้ากากไม้ หน้ากากพลาสติด หน้ากากยาง มีขายให้เพียบ แค่นั้นมันยังไม่พอสำหรับร้านนี้ ที่มีมีดทำครัว เขียง โถใส่ลูกตาดอง ผ้าครุมสีดำสำหรับพ่อมด แถมมีขายไม้กวาดด้วย ดูๆแล้วนี่มันร้านต้องสาปชัดๆ...
ผมสำผัสได้ถึงกลิ่นอายของความสยองขวัญแผ่ออกมาจากร้านของฮาร์ท น่ากลัว...
“เป็นไงร้านเรา”
“สยองมาก” ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเพราะตอนนี้ขนแขนมันสแตนอัพกันหมดแล้ว... เมื่อได้คำตอบเธอก็หันมามองผมขมวดคิ้วสงสัยแล้วก็รีบแย้งทันที
“ไม่ใช่ร้านนั้น นั้นมันร้านของรุ่นพี่แมวเค้า” หา... รุ่นพี่แมว ชื่อฟังดูคุ้นๆหูนะ ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ในสุดของร้านในชุดครุมสีดำพร้อมหมวดพ่อมดทรงยาวจนห้อยไปทางด้านหลัง เมื่อรุ่นพี่เขาเห็นผมก็ฉีกยิ้มสยองให้ ตอนนี้ผม... กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วละ...
“ไงเวห์ ได้ข่าวว่าโดนไล่ออกแล้วสินะตอนนี้เรียนอยู่ที่ไหนน่ะคิดถึงจังเลย...” อย่าคิดถึงป๋มเลยพี่ป๋มเกรงจายยย
“นั้นเพื่อน หรอก น่ารักดีนะ ฮึๆๆๆๆ” พี่แมวมองไปทางอัยกับฟูที่ยืนคนกับร้านตรงข้ามอยู่ ผมรีบหันไปพยักหน้างึกๆกล้าๆกลัวๆ ผมเคยได้ข่าวมาว่าพี่แกสามารถสาปคนให้นอนซมไปเดือนหนึ่งได้เลยน่ากลัวมาก แต่ที่จริงแล้ว พี่เขาก็เป็นคนอ่อนโยนนะ เอ่อ... คิดว่างั้นนะ พิอผมเห็นพี่แมวลูบมีดคมๆอย่างหลงใหลก็เริ่มไม่แน่ใจในความคิดตัวเองซะแล้วสิ
“งั้น ผมไปก่อนนะ” ผมยิ้มก่อนจะเดินไปหาฮาร์ทที่ร้านฝั่งตรงข้ามนอกจาก ฮาร์ทกับพี่แมว ผมก็ไม่รู้จักใครอีกเลยในโรงเรียนนี้ เหมือนไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยกับผมซะมากกว่า เพราะคนที่มาคบค้าสมาคมกับผมที่ไร เป็นต้องโดนเจ้านั่นเล่นงานทุกที
“ไงเวห์” เด็กสาวร้านเดียวกันกับฮาร์ทฉีกยิ้มหวานเหมือนสนิทกันมานาน ผมเลยยิ้มๆตอบกลับไปอย่างสุภาพตามสันดานจากชาติก่อนว่า “(มึงอ่ะ) ใครวะ” แล้วเด็กสาวที่ทักผมก็นิ่งไปเลย ฮ่าๆ สะใจ ผมสำรวจดูว่าร้านนี้ขายอะไรมั่ง ส่วนใหญ่ก็เป็นของหวานพวกลูกกวาดกับอมยิ้ม แล้วก็มาสเมลโล่ว น่ากินทั้งนั้นเลย
“เฮ้อ... กลับดีกว่า” แล้วผมก็ตัดใจเดินลูบไททอยตัวเองไปทางออก แต่ก็โดนรั้งไว้ “เวห์ช่วยขายหน่อยดิ!” ฮาร์ทหลับตาปี๋กอดแขนผมแน่นจนเลือดไม่เดิน แขนเริ่มซีด “โว้ย! ก็ได้”
สุดท้ายก็ลงเอยตรงที่ผมนั่งเฝ้าร้านกับฮาร์ทสองคนส่วนคนที่เหลือก็ออกไปแรด! โคตรเกลียดเลยอ่ะ คนนิสัยอย่างนี้ แย่จริงๆ ความเงียบกินเวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มที่เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน แถมยังไม่มีลูกค้ามาอีก “เธอคิดยังไงถึงไปจับกลุ่มกับพวกนั้น” ในที่สุดผมก็ทำลายความเงียบลง มองไปบนท้องฟ้าอย่างใจลอย แต่ปากก็พยายามชวนฮาร์ทคุย
“ก็พอนายไม่อยู่ฉันก็เลยไม่มีกลุ่ม แล้วทีนี้พวกนั้นก็เลยชวนฉัน...” เข้าใจล่ะชวนมาเพื่อที่จะหลอกใช้สินะงี่เง่าจริงๆ! ผมถอนหายใจกอดอก คิดว่าพอยัยพวกนั้นกลับมาจะตื้บซะให้เข็ด จากนั้นก็ฆ่า หั่นศพ แล้วไปซ่อนไว้ที่ไหนซักแห่ง บ้าหรอใครจะไปทำอย่างนั้นลงฟะ ตั้งแต่ตื้บแล้วมีหวังโดนแฟนยัยพวกนั้นรุมตื้บแทนอ่ะดิ! ผมคิดเล่นๆก่อนจะหันไปมองฮาร์ทที่นั่งก้มหน้ามาตั้งนานไม่พูดอะไร แล้วหลังจากที่ฟูเดินไปสำรวจรอบๆก็หอบขนมกลับมาตรึมพลางเอ่ยปากชวนให้มากินด้วยกัน
โห... ที่แท้นายก็ไปซื้อของมาเลี้ยงฉันสินะซึ้งใจอ่ะ! ผมมองฮาร์ทที่ก้มหน้าซึม ใจเธอเองคงไม่อยากให้คนนอกอย่างผมต้องมาช่วยสินะ...
“นี่... เรามาช่วยฮาร์ทขายของกันเถอะ พอเข้าช่วงบ่าย ทุกปีทางโรงเรียนจะอนุญาติให้ เร่ขายของได้ ใช่มะ ฮาร์ท” ผมหันไปยิ้มให้ฮาร์ทที่เงยหน้าขึ้นมาน้ำตาคลอ เบ้า นี่ผมทำอะไรผิดอีกล่ะ!?
“ซึ้งใจอ่ะ!” แล้วก็โดนกอดจนไส้แทบปลิ้น เลยต้องรีบพูดกล่อมฮาร์ทโดยเร็ว “ไม่เป็นไร เพื่อนกันแค่นี้จิบๆน่า!” พูดไปก็พยายามงัดยัยนี่ออกจากตัวด้วย แล้วผมก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นจากทางหน้าประตูโรงเรียน เสียงใครซักคนกำลังวิ่งฝุ่นตลบมาทางด้านหลัง...
“ฮาร์ท พี่มาแล้วจ้า!” หา?... เฮ้ย! พอพี่แกมาถึงก็กระโดดกอดฮาร์ทอย่างไม่สนใจผมที่โดนโอบไปด้วยจนล้มหงายหลังไปกองกับพื้น โอ๊ย มึนเลยอ่ะ
“อ้าวแล้วนี่ใครล่ะเนี่ย” เธอที่นั่งค่อมผมกับฮาร์ทอยู่ชี้หน้าผมงงๆ แต่ก่อนื่อน “คือ... ช่วยออกไปจากตัวฉันก่อนได้มะ!” ผมตวาดแหวเสียงดัง
“เอ๋อ คนนี่นะหรอเวห์ที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ” เมื่อ ชิลลี่ เพื่อนของฮาร์ทเก็ต เธอก็ยิ้มแป้น น่ารักซะไม่มีละ ในที่สุดหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จร้านของเราก็ประชุมกันเพราะตั้งแต่เช้ามายังไม่มีลูกค้าเลยซักคน ดั่งนั้นพอเข้าช่วงบ่ายก็ต้องรีบหน่อยแล้ว โดยจับกลุ่ม ผมกับฟู อัยกับฮาร์ท ส่วน ชิลลี่ จะเฝ้าร้านให้เอง
“เอาล่ะถ้าเข้าใจแล้วก็เริ่มได้!” แต่ผมสงสัยจริงๆเอาคนคิดเลขไม่เก่งอย่างผมไปรวมกับคนเขียนหนังสือไม่เป็นอย่างฟูจะดีเร้อ แบบนี้มันดับเบิ้ลพลังความห่วยชัดๆ!
เริ่มแรกเราสองคนก็กะจะเดินขึ้นไปบนอาคารเรียนก่อน แต่ว่าพอทราบมาลางๆว่า ลูกผ.อ.โรงเรียนนี้กำลังนั่งก้งเหล้าอยู่บนตึกเรียน เราก็เลยเปลี่ยนแผน เดินขายตามสนามบอลที่มีคนกำลังดูบอลอย่างเมามันส์ เริ่มแรกเราก็โดนผู้ชายคนนึงที่ดูบอลอยู่ด่า ว่า เข้ามาทำซากไรว่ะ แต่เพียง ฟูเหลือบสายตาเย็นชาไปมองมันก็โดนแช่แข็งนิ่งเงียบไปเลย ส่วนสาวๆก็ปิ้งฟูรีบวิ่งเข้ามาหาโอกาศใก้ลชิดโดยเข้ามาซื้อขนมของพวกเรา
พอเข้าใจล่ะ ทำไมภถึงให้ผมอยู่กับฟูข้อแรก ด้วยหน้าตาของผมจะทำให้ฟูที่หล่อโฮกอยู่แล้วดูหล่อขึ้นไปอีก.. ที่นายดูหล่อได้เพราะมีคนหน้าตาอย่างฉันอยู่นะเฟ้ย! นอกจากจะสามารถเรียกลูกค้าสาวน้อยช่างฝันได้แล้วเรายังสามารถเรียกลูกค้าที่เป็นคู่รักได้อีกด้วยพอแฟนชายจะปัฎิเสธ ฝ่ายหญิงที่ปลื้มใบหน้าของฟูก็ง้อขอซื้อขนม สรุปที่คู่รักของเขาหวานแหววได้ขนาดนี้ก็ต้องขอบคุณพวกเราอีกเช่นกัน
เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเราก็ต้องเดินกลับไปเติมสินค้าที่ร้านไม่ต่ำกว่าสิบรอบ บางทีระหว่างทางก็เดินสวนกับพวกอัย ทางฝ่ายเธอก็ขายดีไปแพ้กันเผลอๆอาจจะขายดีกว่าพวกผมเสียด้วยซ้ำ! อันที่จริงพวกเธอแทบไม่ต้องเดินไปไหนเลยพวกผู้ชายหน้าหม้อก็เดินเข้ามาหลี่เพียบ คงเป็นเพราะความน่ารักสดใสของฮาร์ท บวก กับความสวยของอัยละมั้ง ส่วยฟูก็โดนรุมล้อมไม่แพ้กัน ตอนนี้พวกเธอดูไม่ค่อยต่างจากหมาป่าผู้หิวโหยกำลังล่าเนื้ออย่างฟู พอเห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกตัวเองโชคดียังไงก็ไม่รู้แฮะ
“ขาย-หมด-เกลี้ยง! แล้วจ้า!” ชิวลี่ชูสองนิ้วขึ้นฟ้าพาพวกอัยร้องเฮตามอย่างดีใจ เฮ้อ... ผมที่เป็นทั้งคนถือตระกร้าก็อดเหนื่อยไม่ได้ แต่ในที่สุดพวกเราก็ขายเสร็จทันเวลาเลิกร้านเป๊ะ! พอเห็นพวกเราขายหมดยัยพวกนั้นก็ทำฟอร์มจะเดินเข้ามาช่วย แล้วหนึ่งในพวกงี่เง่าก็เข้ามากอดไหลฮาร์ทกระซิบขู่ไม่ให้บอกอาจารย์เรื่องที่พวกมันหนีเที่ยว โห... อย่างเลวอ่ะ =_=
“เนี่ยนะ ฉันน่ะ...” ยังไม่ทันที่พวกงี่เง่ายังไม่ทันพูดจบผมก็แทรก “บลา บลา บลา พล่ามไปเฮอะ” ผมพูดเสียงเนื่อยๆทำมือเป็นปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง
“ไม่ช่วย... ก็อย่ามากวน ไสหัวไปได้แล้ว” ฟูพูดเรียบๆพร้อมกับช่วยชิลลี่เก็บของ เมื่อพวกงี่เง่าโดนคนหล่อไล่ก็หน้าจ๋อยรีบวิ่งปรูดหายไปในกลีบเมฆ...
“เมื่อกี้พูดแรงไปรึเปล่านะ” ฟูหันไปมองทิศที่พวกยัยงี่เง่าวิ่งไป “ไม่ต้องสนหรอก!” ผมกระแทกเสียง “ตัดชื่อมันทิ้งเลย!” สมควรแล้วไม่ได้ช่วยอะไรก็ไม่ควรมีชื่ออยู่ในกลุ่ม แล้วก็ไม่ต้องเอาคะแนนด้วย!
“ขอบใจนะ แต่ถ้าพวกเขาไม่มีคะแนนคงน่าสงสารแย่” ฮาร์ทก้มหน้าพูดยิ้มเศร้าๆ เฮ้อช่วยไม่ได้ผมยกมือขึ้นลูบหัวเธอก่อนจะเดินไปช่วยฟูเก็บของพลางพูดเบาๆว่า “แล้วแต่เธอละกัน”
เมื่อเก็บร้านเสร็จเรียบร้อย รุ่นพี่แมวก็เรียกผมไปคุยแล้วก็มอบหน้ากากแมวเมี้ยวสีเทาสุดน่ารักให้ บอกว่าเป็นของรางวัลที่ช่วยฮาร์ทขายของ ผมเลยลองใส่ดู ลองคาดปิดตาด้านซ้ายๆอืมๆ เท่ ปิดตากข้างขวาอืม เท่ๆ งั้นปิดหูซ้ายอ้า ใส่แบบนี้ก็ไม่เลวแฮะ... ว่าแต่ของที่พี่แมวให้หวังว่าคงไม่ใช่... “อ้าว เวห์เอาไปใส่ทำไมอันนั้นพี่ให้เอาไปแกล้งคนอื่นนะ ฮึๆๆ” แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ละฟะ! ผมพยายามถอดออกแต่ก็ถอดไม่ได้
“แถมมันยังลดค่าสเตตัสด้วยนะ” พี่แมวบอก ลดค่าสเตตัส นี่มันไอเท็มต้องสาปชัดๆ! “ไม่จริ๊ง!” ผมร้องเสียงหลง
แล้วงานโรงเรียนก็จบลงด้วยการที่ผมโดนหน้ากากแมวต้องสาป ติดอยู่บนหัวตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่อาบน้ำ ดังนั้นเวลาสระผมจึงเป็นอะไรที่ลำบากที่สุดของกิจวัตรประจำวัน แล้วมันก็เป็นอะไรที่น่ารำคาญสุดๆเวลานอน จนถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังถอดมันไม่ออก ด้วยความที่ว่าพี่แมวก็ไปเจอมาในห้องเก็บของ เก่าซึ่งตกทอดกันมาเป็นรุ่นๆก็เลยไม่ค่อยมีข้อมูลมากนัก แถมยังไปเป็นข้อมูลวิธีถินคำสาปซะด้วย... มันเลยติดอยู่บนหัวผมจนถึงทุกวันนี้
ความคิดเห็น