ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter #5 It's Impossible To Avoid You
"เฮ่ย วันนั้นเว่ย กูไปเดินฮงแดกับพี่สาวกู อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาแล้วมาขอเบอร์ กูเลยบอกไปว่า พี่สาวกูมีแฟนแล้ว คงให้ไม่ได้..."
"แล้วไงต่อวะ?" ผมถามไอ้โฮซอกที่กำลังเล่าเรื่องของตัวเองอยู่อย่างอยากรู้อยากเห็นว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
"แต่พอกูปฏิเสธแล้วแม่งก็ไม่ยอมไปเหมือนเดิมว่ะ..."
"แล้วตอนไหนพี่จะเล่าจบเนี่ย?" ครั้งนี้เป็นไอ้จีมินเองที่ถามออกมา ใช่ ตอนไหนมึงจะเล่าจบซักทีวะ วรรคอยู่นั่นแหละ
"แล้วมันก็บอกว่า 'ผมไม่ได้ขอเบอร์พี่ผู้หญิงครับ ผมขอเบอร์พี่'..."
"ห๊ะ? แล้วมึงทำไงวะ? 555555"
"แม่งก็ขนลุกน่ะดิ! กูนี่แทบไปไม่เป็นเลย ขอเบอร์กูเฉยๆ ก็ไม่ใช่ แม่งมาลูบแขนกูด้วย ฮื่ยยยยย กูเลยได้รีบแกะแขนมันออกแล้วโกหกไปว่ากูก็ให้ไม่ได้เหมือนกันเพราะกูมีแฟนแล้ว ฮื่ยยยยยยย ขนลุก!"
"5555555555555 / 55555555555 / 555555 / 555555 / 5555" ทุกคนบนโต๊ะหัวเราะ แต่เดี๋ยว ทำไมยัยพีพีมันไม่หัวเราะด้วยวะ รู้สึกว่ามันจะเงียบไปซักพักแล้ว
"ไอ้จิน ทำไมน้องมึงเงียบจังวะ? ไม่ใช่หลับแล้วหรอน่ะ?" ไอ้นัมจุนมันถาม
ผมมองไม่เห็นหน้ายัยนี่หรอกเพราะหมวกบังหน้ามันไปหมดและมันก็กำลังก้มหน้าอยู่ด้วย ผมเลยลองเขย่าหัวมันดูเบาๆ
"ผีผี... ผีผี ~" แต่แม่งหลับจริงๆ ด้วยว่ะ ไหนบอกไม่ง่วงไง? ธรรมดามันนอนดึกจะตาย แล้วทำไมตอนนี้ถึงหลับง่ายจังวะ สงสัยเพลินกับบรรยากาศที่นี่
"หลับแล้วว่ะ ตอนไหนพวกมึงจะไปส่งพวกกูซักทีวะ มัวแต่คุยจนน้องกูหลับแล้วเนี่ย" ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู ในโทรศัพท์ตอนนี้มันบอกว่าเป็นเวลา 22 นาฬิกา 12 นาทีแล้ว แม่งเบี้ยวกันชัดๆ
"เออๆๆๆ กูก็เริ่มจะเมาแล้วเนี่ย พวกมึงว่าไง กลับกันเลยมั้ย? ไอ้จินมันจะได้กลับไปดูดนมผงนอน" ไอ้นัมจุนมันแซะผม อ่าครับไอ้คนผู้ใหญ่ ก็กูไม่ได้ถนัดเที่ยวกลางคืนเหมือนพวกมึงนิ่ถึงจะกลับ ตี 1 ตี 2 ได้ กวนตีนนนน
"กลับเลยก็ดี พรุ่งนี้พวกผมมีเรียนเช้า ไอ้แทมันจะได้นอนเร็วๆ ด้วย วันก่อนไปดื่มกันมาจนถึง ตี 2 พอตอนเช้ามามันแทบจะลุกไป ม. ไม่ทัน โดน จอง จูริ เล่นงานด้วย กลับตอนนี้แหละดีแล้ว" ไอ้แทฮยองมันมองค้อนไอ้จีมินนิดหน่อยที่เอามันมาเผาแล้วมันก็เสหน้าไปทางอื่นต่ออย่างไม่ได้สนใจใคร
"เออ งั้นมึงไปส่งไอ้วอนอูแล้วกัน กูต้องไปส่งไอ้เงิก ที่เหลือก็มีแค่มึงที่ยังว่าง ไอ้แท มึงไปส่งไอ้จินกับน้องมัน" ไอ้นัมจุนมันบอกแผนการๆ ไปส่งเพื่อนแต่ละคนกับไอ้จีมินแล้วหันไปบอกไอ้แทฮยองต่อ ไหนไอ้โฮซอกมันบอกว่าพวกมึงจะไปส่งกูกับน้องเองไงวะ? แล้วนี่มาโยนความรับผิดชอบไปให้คนอื่นได้ไง
"แล้วทำไมคนที่ไปส่งพี่จินถึงต้องเป็นผมล่ะ? อยู่ตั้งไกล" แม่งไอ้นี่ทำไมมันพูดแบบนี้วะ ไปส่งผมกับน้องแทนไอ้นัมจุนและไอ้โฮซอกแค่นี้หน่อยไม่ได้รึไงวะ เข้าใจว่าการที่มานั่งอยู่นี่มันไม่ได้ทำให้เราสนิทกันขึ้นเลย แต่อย่างน้อยกูกับมึงก็นั่งร่วมวงกันมาตั้งนานป่ะ? เหอะ! กูว่ากูชักจะไม่ชอบขี้หน้ามึงแล้วแหละ
"ไอ้แท มึงก็รู้ว่าบ้านพวกพี่แกอยู่อีกทาง คอนโดกูก็อยู่หลัง ม. ใกล้ๆ กับหอของวอนอู เพราะฉะนั้นกูไปส่งน้องแกนั่นแหละถูกแล้ว ที่เหลือก็มีแค่มึงที่ยังว่าอยู่ ไปส่งพี่แกกับน้อง 2 คนแค่นี้มันจะเป็นไรไปวะ? แค่กังนัมเอง ไม่ได้ไกลขนาดนั้นซักหน่อย" ไอ้แทฮยองมันมองไอ้จีมินด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแล้วหันมามองหน้าผมแทน
"งั้นก็ตามมา..."
----- 10% -----
"พีพี ตื่นนน" ผมเขย่าตัวๆ เองให้ยัยนี่ตื่น ในที่สุดมันก็ตื่นซักที จะได้กลับบ้านกัน "ลุกเร็วๆ เราจะกลับกันแล้ว" มันทำหน้างัวเงียนิดหน่อย พอผมลุกขึ้นแล้วมันก็ลุกตาม
"ฝันดีนะพีพี กลับบ้านดีๆ นะ" ไอ้วอนอูมันหันมาบอกยัยนี่แล้วเดินตามไอ้จีมินไป
"ฝันดี นายก็เช่นกัน" ยัยนี่ก็ยิ้มแล้วตอบมันกลับไปเช่นกัน มันหันมายิ้มให้อย่างอบอุ่นแล้วต่อก็เดินต่อไป แลดูเป็นห่วงกันดีนะ 2 คนนี้
ไอ้จีมินและไอ้วอนอูก็ทยอยกลับกันไปแล้ว ส่วนไอ้แทฮยองก็เดินหายไปก่อนเพื่อนด้วยซ้ำ เหลือแค่ผม ยัยพีพี ไอ้โฮซอก แล้วก็ไอ้นัมจุนที่กำลังจัดการกับบิลล์เหล้าอยู่
"พวกกูกลับละ เดี๋ยวตามไอ้แทฮยองไม่ทัน"
"ฮ่ะๆๆๆ น้องพีอาอย่าลืมซักหมวกมาคืนพี่นะคร๊าบบ ไม่ต้องรีบก็ได้ พี่รอได้ ^^" ไอ้เงิกมันพูด เกือบลืมไปเลย พอได้ยินแบบนั้นผมเลยถอดหมวกออกจากหัวยัยพีพีแล้วโยนคืนให้เจ้าของมันทันที
"คงไม่ลืมหรอกครับ เพราะคงไม่ได้เอาไปซักให้เลยต่างหาก" ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์พลางยิ้มมุมปากไปให้มัน มันทำหน้าเสียดายพร้อมกับร้อง 'โหยยยย' ออกมา ยัยพีพีก็หัวเราะกับการกระทำผมเช่นกัน
ผมบอกลาพวกมัน 2 คนแล้วพาน้องออกมาจากโต๊ะทันที น้องมันก็เกาะไหล่ผมไว้ทั้ง 2 ข้างเหมือนเด็กที่กำลังทำท่าขบวนรถไฟแล้วเดินตามผมมาอย่างอารมณ์ดี อารมณ์ดีที่กำลังจะได้กลับบ้านหรืออารมณ์ดีเพราะเพิ่งออกมาจากร้านเหล้ากันนะ แต่ถ้าเป็นอย่างที่ 2 นี่ก็คงจะแปลกนิดนึง ฮ่าๆ
ผมกำลังคิดอยู่พอดีว่าไอ้แทฮยองมันอยู่ที่ไหน ผมเดินออกมาค่อนข้างช้าเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเดินไปทางไหน จะไปหามันได้จากที่ไหนวะ ไม่ใช่มันทิ้งพวกผมไว้ที่นี่แล้วแอบกลับบ้านไปแล้วหรอ ไอ้นี่มันยิ่งไม่สนใจใครอยู่ ถ้าเป็นงั้นจริงๆ ผมคงต้องพาน้องกลับบัสเหมือนเดิมแล้วแหละ แต่มันก็ดึกแล้ว บัสมันยิ่งไม่วิ่งบ่อยเหมือนตอนกลางวัน อากาศตอนดึกก็หนาวขึ้น สำหรับผมๆ ไม่เป็นไรหรอก แต่ห่วงน้องนี่สิ นั่งรอนานๆ เดี๋ยวมันจะหนาว
ในขณะเดียวกันที่ผมและน้องเดินมาถึงหน้าร้านและกำลังยืนมองหาไอ้แทฮยองอยู่ก็มีรถ Hyundai Genesis Coupe 2016 สีดำคันนึงขับมาจอดเทียบหน้าร้านต่อหน้าพวกเรา ผมเลยได้รู้ว่าเป็นรถของไอ้แทฮยองนี่เอง ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นมัน แต่เพราะมันลดกระจกลงมาบอกให้พวกผมขึ้นผมเลยรู้ว่าเป็นมัน ยัยพีพีเองก็งงที่อยู่ดีๆ ไอ้แทฮยองก็ขับรถมารับพวกเรา นั่นแหละมัวแต่หลับ ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
แม่งรถมันสวยดีว่ะ มีความ Sport Car นิดๆ คันเล็กดูคล่องแคล่วว่องไวดี และก็ปีกหลังนั่นด้วย ดีไซน์สวยจริงๆ คงแพงพอสมควร แต่รถมันเป็นแบบ 2 ประตูนะ อย่าบอกนะว่านั่งได้แค่ 2 คน ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆ แล้วจะให้คนที่ 3 นั่งบนหลังคารึไงวะ? ยังไงกัน
พอเดินไปเปิดประตูมันออกแล้วผมถึงได้รู้ว่า มันมีแค่ 2 ประตูจริง แต่มันเป็นแบบ 4 ที่นั่ง -_-' พาโบจริงๆ เลยกู พอเห็นเช่นนั้นแล้วผมจึงผลักเบาะหน้าไปข้างหน้าแล้วบอกให้ยัยพีพีเข้าไปนั่งข้างหลังแทน มันทำหน้างงมากๆ และสีหน้ามันก็บ่งบอกว่ามันกำลังต้องการคำอธิบาย แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร แค่บอกมันว่าไม่ต้องงงแล้วพยักหน้าให้มันเข้าไปนั่งที่เบาะหลังมันจึงยอมเข้าไป ผมเลยปรับเบาะกลับมาเหมือนเดิมแล้วเข้าไปนั่งบ้าง
"รถสวยดีนะ คงแพงน่าดู" พอมันขับออกมาได้สักพัก ผมที่กำลังเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอยู่จึงเอ่ยออกมากลบความเงียบในรถที่นอกจากเสียงเพลงที่มันเปิดแล้วก็ไม่มีเสียงพูดเล็ดลอดออกมาจากปากใครซักคนเลย ถึงมันจะไม่ตอบผมก็ไม่แคร์หรอกนะ แค่อยากบอกเฉยๆ
"ของขวัญสอบเข้ามหาลัยได้จากพ่อน่ะ ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ก็ไม่แพงหรอก" แต่แม่งตอบว่ะ "เพราะบ้านผมอยู่ต่างจังหวัดผมเลยต้องมีรถไว้ใช้" หรอวะ แต่ฐานะมันดีนิ่ ถึงไม่ซื้อให้เป็นของขวัญผมก็ไม่แปลกใจหรอก
"หรอ เป็นคนจังหวัดไหนล่ะ?"
"แทกู" มันพูดแล้วมองทางไปด้วย มันไม่ได้มองหน้าผมแต่ก็ตอบกลับมาเรื่อยๆ
"จริงดิ? พ่อกูก็เป็นคนแทกู ปู่กับย่าก็อยู่ที่นั่น แต่พวกท่านเสียนานแล้วแหละ"
"เสียใจด้วย" ผมมองหน้ามัน ผมแปลกใจที่มันก็คุยดีๆ กับชาวบ้านเขาเป็นด้วย ตามจริงมันคงไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่นี่กลับบอกว่าเสียใจที่ได้ยินเรื่องนี้ ผมหันกลับมามองทางข้างหน้าเหมือนเดิมแล้วก็ได้แต่เงียบไป ผมอยากคุยกับมันต่อนะ แต่ก็ไม่มีอะไรจะพูด
"แล้วพี่ไม่ขับรถหรอ?" แต่มันก็ถามผมขึ้นมาเองซะงั้น
"มีใบขับขี่แต่ไม่มีรถเป็นของตัวเองว่ะ จะว่าไปเห็นรถมึงแล้วก็ชักจะอยากมีรถเป็นของตัวเองบ้างแล้วแหละ"
"พี่ก็ของบจากทางบ้านสิ"
"โห่ ทางบ้านกูไม่ได้รวยเหมือนทางบ้านมึงนะที่จะขอได้ เฮ่อะๆ แล้วอีกอย่างบ้านกูก็มีลูกตั้ง 3 คน แต่ละคนก็เรียนมหาลัยหมด ค่าใช้จ่ายเยอะ แค่นี้พ่อแม่กูก็เหนื่อยพอแล้ว ดีนะที่พ่อกูยังมีเงินเดือนหมออยู่ ไม่งั้นบ้านกูต้องขัดสนกว่านี้แน่นอน เดี๋ยวกูเรียนจบทำงานหางบเอาดีกว่า"
"เฮ่อะๆๆ พี่นี่แลดูกตัญญูดีนะ ก็แล้วแต่พี่แล้วกัน" มันหัวเราะหน่อยๆ แล้วทำหน้าที่ขับรถไปเรื่อยๆ
"แล้วทำไมพี่ถึงซิ่วจากแพทย์มาเบเกอรี่ล่ะ? ได้ยินว่าก่อนนี้พี่เป็นเดือนคณะแพทย์ด้วยนิ่" คำถามของมันทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง มันรู้ด้วยเหรอว่าผมเคยเรียนแพทย์ ตอนนั้นมันยังไม่เข้ามหาลัยด้วยซ้ำ
"มึงรู้ด้วยหรอ? กูนึกว่ามึงไม่สนใจเรื่องชาวบ้านซะอีก"
"ก็ถ้าพี่ไม่ดังผมก็ไม่รู้จักหรอก" เอ้อ ก็จริงของมัน
"เพราะกูเคยฝันอยากเป็นหมอเหมือนพ่อตัวเองไง แต่หัวกูกลับไม่ไปทาง วิทย์-คณิต ตอนนั้นกูปวดหัวทุกวันเลย แม่ง แต่ละคืนแทบนอนไม่หลับ กูฝืนตัวเองต่อไม่ไหวกูเลยซิ่วซะเลย เรียนช้ากว่ารุ่นตัวเอง 2 ปี แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้แฮปปี้ดี ก็ดีเหมือนกัน ยิ่งจบช้ายิ่งมีเวลาอยู่ช่วยน้องเยอะ"
"พี่แลดูหวงน้องตัวเองมากนะ"
"เห่อะ มันก็แน่อยู่แล้ว ถ้ามึงมีน้องสาวมึงจะเข้าใจ ยิ่งถ้าน้องสาวมึงมีผู้ชายมาเกาะแกะเยอะนะมึงยิ่งจะรู้สึกเหมือนกู ที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงพวกมันทั้งนั้นแหละ กลัวพวกมันจะเจอคนไม่ดีแล้วเสียใจเอาทีหลัง น้องใครๆ ก็รัก มึงนี่ไม่น่าถามเลย"
"เฮ่อะๆๆ ผมก็มีน้องสาวนะ ไม่เห็นจะต้องเป็นห่วงเท่าพี่เลย"
"หึ่ ถ้าน้องสาวมึงน่าเป็นห่วงเหมือนน้องสาวกูแล้วมึงจะเข้าใจเอง" ผมพูดแค่นั้นแล้วหันหน้ากลับมามองข้างหน้าเหมือนเดิมแต่ก็แอบเห็นว่ามันขมวดคิ้วกับคำพูดของผม แต่สักพักมันก็กลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม
"ผมจะแวะร้านสะดวกซื้อนะ พี่กินข้าวยัง? เอาอะไรมั้ย?" มันถามแล้วตีไฟเลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านสะดวกซื้อร้านนึงที่อยู่แถวนี้ทันที
"ไม่ว่ะ ก่อนไปร้านเหล้ากูกินมาแล้ว มึงคงจะยังไม่กินสินะ เรียนเสร็จแล้วไปหาพวกกูเลย มึงไปหาไรกินเถอะ" ผมพูดจบแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดเล่น
"แล้ว... น้องพี่ล่ะ?" มันเหล่ตาไปข้างหลังนิดๆ บ่งบอกว่ามันกำลังหมายถึงคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง ผมหันไปมองว่ายัยพีพีมันกำลังทำอะไรอยู่ เงียบมาตลอดทางเลย แต่แม่ง หลับอีกแล้ว แต่ดีแล้วแหละ มันจะได้ไม่ต้องได้ยินสิ่งที่ผมพูดถึงมัน ฮ่าาๆๆๆ
"มันกินกับเพื่อนมันมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วง" พอได้รับคำตอบแล้วไอ้แทฮยองมันเลยพยักหน้าเข้าใจแล้วลงรถตรงไปยังร้านสะดวกซื้อทันที ผมมองตามหลังจนมันหายเข้าไปในร้านแล้วก็ได้แต่ผุดยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย มันก็รู้จักใส่ใจคนอื่นอยู่นี่หว่า ต่างจากเวลาที่ผมเคยเห็นมันอย่างสิ้นเชิง ความจริงมันอาจจะนิสัยดีกว่าที่ผมคิดก็ได้นะ
ที่กูเคยบอกว่าเกือบจะไม่ชอบมึงแล้วน่ะ กูขอคืนคำแล้วกันนะ ไอ้แทฮยอง...
End Part: Jin
----- 30% -----
Part: PP
"พีพีตื่นนนน... ตื่นนนนนนน"
ป๊อก! ~
"โอ๊ยยย!"
"ตื่นได้แล้ว!"
ฉันที่กำลังงัวเงียอยู่ก็ต้องลืมตาขึ้นมากระทันหันแล้วยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาลูบๆ หน้าผากตัวเองทันที ก็พี่จินน่ะสิ เล่นดีดหน้าผากฉันซะแรงจนดังป๊อก! แล้วตัวเองก็เดินไปไขกุญแจบ้านเฉยเลย ฉันเห็นพี่แทฮยองแอบหัวเราะหน่อยๆ ผ่านจระจกหลังด้วยแหละ ฮ่ะๆๆๆ พอหัวเราะเสร็จแล้วพี่แกก็กลับไปทำสีหน้าเหมือนเดิม ธรรมดาฉันแทบจะไม่เคยเห็นพี่แกหัวเราะเลยด้วยซ้ำนะ เป็นบุญตาปะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แต่ฉันก็อายคนอื่นเป็นนะ ไอ้พี่คนแก่นิ่ มาดีดหน้าผากฉันโชว์คนอื่นแบบนี้ได้ไง! โด่วว์
แต่พอฉันหันไปดูข้างนอกด้านขวาก็ถึงได้รู้ว่าตัวเองถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว
"จะไม่ลงหรอ? จะกลับด้วยรึไง?" พี่แทฮยองแกหันมาถามฉันแบบกวนๆ แล้วก็หัวเราะออกมาแบบอารมณ์ดี หัวเราะอีกแล้ว ฉันแปลกใจนะเนี่ย
"เอ่อ..." แต่พอฉันจะตอบพี่แกก็ขัดขึ้นมาซะงั้น
"นี่จะไม่ลงจริงๆ ใช่มั้ย? จะออกรถแล้วนะ" พี่แกพูดแล้วก็ทำท่าจะขับรถออกไปจริงๆ ฉันเลยรีบลุกจากที่นั่งแล้วออกไปยืนข้างนอกทันที ไรล่ะ! จะลงอยู่หรอก แค่ยังไม่ลงเฉยๆ ฮึ่ย อะไรกัน ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่แกเป็นคนขี้กวนแบบนี้
ฉันกำลังจะปิดประตูรถแล้วก็เดินเข้าบ้านไปแต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ขอบคุณที่พี่แกมาส่งเลยนิ่ งั้นบอกเลยแล้วกัน
"เอ่อ ขอบคุณค่ะ... ที่มาส่ง" ฉันก้มลงบอกพี่แกแค่นั้นแล้วก็ปิดประตูเดินเข้าบ้านไปเลย ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่แกทำสีหน้ายังไงเพราะไม่ได้หันไปดู
แต่พอจะเดินเข้าบ้านเท่านั้นแหละก็โดนพี่จินที่ยืนรออยู่ประตูแขวะใส่ทันทีเลย
"นึกว่าจะไม่ลงซะแล้ว นานโคตร เปิดประตูรอจนยุงจะยกฝูงเข้าบ้านอยู่แล้ว"
"นานไรล่ะ แป๊บเดียวเอง" ฉันมองค้อนใส่พี่แก พูดโอเว่อร์ไปได้
"งั้นก็เข้ามาดิ โด่วว์ หนาวนะเนี่ย" ฉันจึงเดินเข้าบ้านไปตามที่พี่แกบอกแล้วขึ้นชั้นบนไปเลย
ฉันเตรียมเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำพร้อมอาบน้ำแล้วเรียบร้อย แต่พอจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลงฟังขณะอาบน้ำฉันกลับหามันไม่เจอ
"เชี่ยย ลืมไว้ไหนวะ อย่าบอกนะว่าลืมที่ร้านเหล้า??" แต่ก็ไม่ใช่นิ่ ฉันจำได้ว่าตอนขึ้นรถมาฉันยังเอามันยัดใส่กระเป๋าเสื้อแขนยาวตัวเองไว้อยู่เลย
พอคิดได้แบบนั้นฉันจึงรีบวิ่งไปดูเสื้อแขนยาวตัวเองที่แขวนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าทันที ฉันค้นดูกระเป๋าเสื้อทั้ง 2 ข้างแต่ก็ไม่เจอมันเลย ฮอยยยยย มันต้องหล่นลงเบาะรถตอนที่ฉันหลับแน่เลย โฮยยยยยย งั้นโทรศัพท์ฉันก็ต้องอยู่ที่รถพี่แทฮยองสิ T^T โอยยยยยย ฉันน่าจะเช็คดูข้าวของตัวเองก่อนลงรถให้ดีๆ ก่อนค่อยลง เบื่อความขี้ลืมของตัวเองจริงๆ เลย ฮึ่ย!
แล้วฉันจะทำไงดีเนี่ย เบอร์พี่แทฮยองก็ไม่มี จะไปถามเอากับพี่จินหรอ? แต่พี่จินจะมีหร๊อ? พี่จินไม่ได้สนิทกับพี่แทฮยองนิ่ เฮ้อออออ ทำไงดีวะ... หรือจะบอกให้พี่จินโทรบอกพี่นัมจุนให้บอกพี่แทฮยองให้วะ? แต่มันจะ 5 ทุ่มครึ่งแล้วอะ พี่นัมจุนจะนอนแล้วรึยัง
โอ้ยยยยย ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้วะ แต่ยังไงฉันก็ต้องทำอะไรซักอย่างแหละ ถ้าโทรศัพท์ฉันมันอยู่ในรถพี่แทฮยองเหมือนเดิมก็คงไม่มีใครเอาไปได้หรอกนอกซะจากพี่แกเอง แต่ยังไงฉันก็ยังเป็นห่วงมันอยู่ดี เพราะฉะนั้นไปถามพี่จินดูดีกว่า
พี่จินที่กำลังจะห่มผ้าเตรียมตัวนอน เมื่อเห็นฉันเปิดประตูแง้มหน้าเข้าไปก็ถามออกมา
"มีอะไร?"
"พี่ไม่อาบน้ำหรอ?"
"ไม่ ดึกมากแล้วขี้เกียจ มาถามแค่นี้หรอ?"
"เปล่า พี่มีเบอร์พี่แทฮยองมั้ย?" นั่น เอาอีกละ พี่แกมองฉันอย่างล้อเลียนแล้วก็พูดแซวออกมา -_-
"ทำไม? จะเอาเบอร์มันไปทำอะไร? ชอบมันเหรออออ? ออกตัวแรงนะแก" จ่ะ หน้าตาแบบนั้นน่ะ ฉันวิ่งไปเอาหมอนอุดหน้าพี่แกเลยได้มั้ยเนี่ย
"บ้า ไม่ใช่ซักหน่อย แต่พีลืมโทรศัพท์ไว้ในรถพี่แกอะ กลัวมันหาย สรุปพี่มีเบอร์พี่แทฮยองมั้ยเนี่ย?"
"ไม่มี แล้วแกจะโทรไปเบอร์มันทำไมล่ะ? โทรไปเบอร์แกสิ" เออ ใช่ว่ะ ลืมไปเลย ไม่มีเบอร์พี่แทฮยองแต่ก็โทรไปเบอร์ตัวเองก็ได้นิ่ โฮ๊ยย ทำไมฉันบ๊องแบบนี้วะ
"อ้อ ลืม เฮ่ะๆ ฝันดีนะพี่" ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็ตรงไปหาโทรศัพท์บ้านที่อยู่ด้านล่างทันที
ฉันกดเบอร์ตัวเองแล้วโทรออก เสียงมันตื๊ดได้สักพักแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครรับเลย โหยยยยย อย่าบอกนะว่ามันยังอยู่ในรถพี่แกอยู่ โฮยยยยย ฉันกลัว่าพี่แกไม่เห็นแล้วมันจะหายจริงๆ นะเนี่ย
ฉันลองกดโทรไปอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันโทรได้ไม่ถึง 5 วิด้วยซ้ำก็มีคนรับแล้ว Thank god!
[ยอโบเซโย] ใช่แล้ว เสียงแบบนี้แหละพี่แทฮยองชัวร์
"พี่แทฮยองใช่มั้ย? นี่เจ้าของโทรศัพท์นะ พอดีหนูลืมไว้ พี่เก็บไว้ให้หน่อยนะ กลัวมันหายน่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเอาคืน"
[ใคร?] เอ้า กวนปะเนี่ย? พี่แกรับจ้างขนส่งคนรึไงถึงได้ไม่รู้ว่านี่ใครพูด
"คิม-พี-อา น้องพี่จินไง"
[อื้มมแล้วไง?] อ้าว ก็เพิ่งบอกไปหยกๆ นี่พี่เข้าใจอะไรบ้างมั้ยเนี่ย?
"ก็ เก็บไว้ให้หน่อย เดี๋ยวหนูไปเอาคืน"
[ที่ไหน?]
"งั้นพรุ่งนี้พี่เอาไป ม. ด้วยนะ แล้ว... พี่เรียนที่ไหน กี่โมงอะ?"
[ก็ที่ตึกบริหารนั่นแหละ ขึ้นบันไดฝั่งขวามาชั้น 2 แล้วเลี้ยวขวาก็เจอเลย ห้องแรกทางด้านขวา 9 โมงถึงเที่ยง] โอเคเกือบงง อะไรนะ เดินขึ้นบันไดฝั่งขวาของตึกไปชั้น 2 แล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอเลย... เป็นห้องแรกที่อยู่ด้านขวา โอเคร จำได้
[เข้าใจรึยัง? ถ้าไม่มีไรแล้วก็แค่นี้นะ จะขับรถต่อ] อ้อ สงสัยยังไม่ถึงบ้านสินะ
"อ้อ จำได้ค่ะ งั้นก็... ขอบคุณนะคะ"
[อื้ม] พี่แกพูดแค่นั้นแหละแล้วก็วางสายไปเลย ฮู่วว์ โล่งใจไปนิด อย่างน้อยโทรศัพท์ฉันก็ปลอดภัยอ่ะนะ
ฮ่ะๆๆๆ ทำไมฉันถึงได้มีแต่เรื่องตลอดเลยนะ เมื่อวันก่อนก็ทำไอติมหกใส่เสื้อพี่แก วันนี้ก็ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถพี่แกอีก ฮ่าาๆๆๆ มันคงไม่ใช่พรหมลิขิตหรอกใช่มั้ย? หิหิ แต่ฉันก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ มันคงเป็นเรื่องบังเอิญแหละมั้ง ฮ่ะๆๆ ใช่ มันคงเป็นเรื่องบังเอิญแหละ เรื่องบังเอิญในโลกนี้มันมีเยอะจะตายไป คงไม่แปลกหรอก
แต่ฉันก็ดีใจนะที่มันมีเรื่องมาทำให้เราได้ใกล้ชิดกัน ถึงมันจะแค่เรื่องบังเอิญก็เถอะ อิอิอิ บอกตามตรงว่าเวลาที่อยู่ใกล้พี่แกแล้วหัวใจฉันมันเต้นแรงมากเลยนะ ตามจริง ที่ฉันพูดอะไรแบบนี้ฉันก็อายนะเนี่ย เฮ่ะๆ แต่ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ ทำไมกัน ทำไมเดี่ยวนี้ฉันถึงเริ่มมีความรู้สึกแบบนั้นทุกทีเลยเวลาเจอหน้าพี่แก วันนี้ตอนที่นั่งตรงข้ามพี่แกอยู่ร้านเหล้าฉันก็ไม่กล้าสบตาพี่แกเลยด้วยซ้ำถ้าไม่จำเป็น ฉันเลยตัดปัญหาด้วยการนอนซะเลย 5555 อย่าบอกนะว่าฉันจะชอบพี่แกเหมือนที่พี่โบว่าจริงๆ? ฉันว่าฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ 555555555
----- 50% -----
ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว ฉันกับซานะกำลังเดินขึ้นตึกบริหารเพื่อที่จะไปยังห้องที่ได้นัดหมายเอาไว้ ตามจริงพวกฉันมีเรียนแค่ตอนบ่าย แต่ฉันรีบมาก่อนเพราะเดี๋ยวจะคลาดกันกับพี่แทฮยอง ถ้าพี่แกกลับก่อนฉันก็ไม่ได้โทรศัพท์คืนพอดี
ตลอดทางที่เดินมาฉันก็รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาเลย ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยเนี่ย ก็แค่จะเจอหน้าพี่แกเอง โฮ๊ยยยย บอกตามตรงฉันทำตัวไม่ถูก
แต่อ้าว ทำไมห้องมันว่างอย่างงี้ล่ะ? ฉันกับซานะมองหน้ากันอย่างงงงวย
"ห้องทางด้านขวา ก็ถูกแล้วนิ่" ซานะพูดออกมาอย่างแปลกใจ
"ใช่ ฉันก็ไม่ได้จำผิดนะ หรือว่าพี่แกจะกลับไปแล้ว?" พอมองดูเวลาที่โทรศัพท์มันก็บอกว่ายังไม่ถึงเที่ยงนิ่ "แต่มันเพิ่งจะ 11 โมง 40 เองนะ ยังไม่ถึงเวลาเลิกพี่แกนิ่"
"งั้นก็โทรไปถามเลยว่าอยู่ไหนกันแน่" ซานะยื่นโทรศัพท์ตัวเองมาให้ฉันๆ จึงรับมาแล้วกดโทรออกเบอร์ตัวเอง
"ไม่มีใครรับเลยอะ" ฉันพูดไปแล้วขมวดคิ้วไปด้วย
"พี่แกคงกลับไปแล้วมั้ง ป่ะเราไปโรงอาหารกันเถอะ เผื่อจะมีเพื่อนอยู่ที่นั่น เดี๋ยวค่อยโทรไปใหม่ก็ได้ เนอะ ยิ้มๆๆๆ" พอพูดจบแล้วยัยนะ... หรือจะเรียกว่าซาดีวะ... โฮ๊ยยยย ชั่งเถอะ พอพูดจบแล้วซานะก็เอามือตัวเองมาทำให้ปากฉันฉีกยิ้ม มันก็ยากอยู่นะที่จะยิ้มตอนนี้อะ เพราะฉันกำลังหัวเสีย แต่ยังไงฉันก็ยอมยิ้มให้มันเหมือนเดิมแหละ
"พอแล้ว ไปได้แล่ว!" ฉันพูดออกมาอย่างหงุงหงิง ถ้าไม่ใช่เพื่อนผู้หญิงหรือคนที่สนิทมากจริงๆ ฉันก็ไม่กล้าทำแบบนี้ด้วยหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ ก็มันน่าอายนิ่
"หวัดดี เมื่อคืนเมามั้ย?" ฉันเอ่ยทักวอนอูขึ้นมาอย่างยิ้มๆ ติดกวนนิดๆ พร้อมกับนั่งลงข้างจุนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับมัน
"เมาไรล่ะ ไม่ได้ดื่มเยอะซักหน่อย" มันก็ตอบออกมาแบบยิ้มๆ เหมือนกัน เสร็จแล้วมันก็ยิ้มให้ซานะต่อ ซานะก็ยิ้มตอบมันเช่นกัน
"ฮ่ะๆๆ ก็นึกว่าพี่นัมจุนจะยัดเยียดเหล้าให้จนเมาซะอีก"
"พูดถึงไรวะ? เมื่อคืนมึงไปดื่มต่อเหรอ?"
"เออ ที่ร้านข้างๆ อะ กูนั่งเป็นเพื่อนพีพีอยู่พี่ซอกจินเลยมาชวนกูไปนั่งด้วย"
"โหยยย ทำไมไม่ชวนกูบ้างวะ?"
"ชวนไรล่ะ? ตอนนั้นพวกมึงกลับไปตั้งนานละ"
จุนมันทำหน้าอย่างเสียดายแล้วก็หันไปทำหน้าเซ็งแทน โว๊ะ! สงสัยจะชอบดื่มนะเนี่ย แต่สำหรับผู้ชายมันก็ธรรมดาล่ะมั้ง ถึงจะไม่ได้ดื่มเป็นประจำแต่ก็ต้องดื่มบ้างแหละเวลาที่เพื่อนชวน โดยเฉพาะถ้ารุ่นพี่ชวน ไม่งั้นจะถือว่าไม่ให้เกียรติ ยุ่งยากจริงๆ เลยประเพณีการกินเหล้าเนี่ย ดีนะที่ฉันเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายนี่ต้องโดนเพื่อนบังคับให้ไปกินเหล้าด้วยบ่อยแน่ๆ เลย
"พวกเธอไม่กินข้าวกันหรอ?" วอนอูมันถามขึ้นมาพร้อมกับหน้าตาเฉื่อยๆ ของมันพลางมือก็คีบรามยอนจากถ้วยเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ไปด้วย
"พวกเรากินมาจากบ้านแล้วแหละ วอนอูกินไปเลย ไม่ต้องห่วง ^^" เพราะฉันมัวแต่เช็คเฟสตัวเองจากโทรศัพท์ของซานะที่ฉันยืมมาอยู่อย่างไม่ได้สนใจใครซานะจึงตอบไปแทน
พอฉันเข้าเช็คดูก็เห็นแจ้งเตือนมันบอกว่ามีคนมาขอเป็นเพื่อน 23 คน และก็มีคนมาไลค์รูปและโพสต์ 58 ครั้ง แปลกแฮ๊ะ
พอกดเข้าไปดูคนที่มาขอเป็นเพื่อนก็เห็นว่ามีแต่คนแปลกหน้าทั้งนั้นเลย มีแค่ 2-3 คนที่คุ้นหน้า พวกนี้จากสาขาฉันเองแหละ ธรรมดาฉันก็ไม่รับหรอกนะถ้าไม่ใช่คนรู้จักหรือติ่งแบบเดียวกันกับฉัน อิอิอิอิ แต่อ้าว 2 คนข้างล่างนี่พี่โฮซอกกับพี่นัมจุนนิ่ รับเลยแล้วกัน
ฉันเลื่อนดูแจ้งเตือนตั้งแต่ข้างล่างขึ้นข้างบน มีทั้งคนมาไลค์รูปและโพสต์ของฉันตามธรรมดา แต่ที่ฉันแปลกใจก็คือ รูปโปรไฟล์ล่าสุดของฉันที่มีคนมาไลค์ตั้ง 500 กว่าคน ธรรมดารูปฉันไลค์เยอะสุดแค่ 300 กว่า นี่แปลกมากจริงๆ นะ และฉันจำได้ว่าที่ฉันเช็คดูเมื่อวานล่าสุดก็ยังมีคนไลค์แค่ 300 ต้นๆ เอง แปลกมาก รูปนี้มันก็ตั้งแต่ 2 อาทิตย์ก่อนแล้ว พอรูปมันนานแล้วคนเขาก็เลิกไลค์ไปเองตามธรรมดา แต่นี่คนกลับไลค์ตั้ง 200 กว่าภายในข้ามคืน หรือว่าจะเป็นแบบที่พี่จินว่านะ
Kim Bo Na และคนอื่นๆ อีก 563 คน 13 ความคิดเห็น
งั้นพี่มินอานั่นก็เอารูปที่ถ่ายฉันกับพี่จินไปลงแล้วดิ ฉันชักจะอยากเห็นละ จะหาดูได้จากที่ไหนเนี่ย
น่ะชัดเจนเลย มีผู้หญิงคนนึงมาเม้นท์ใต้รูปฉันว่า 'น้องเป็นอะไรกับ คิม ซอกจิน คะ?' ชื่อเฟสชื่อ 'Jiyoungie Kang Kang' ทำไมคำถามนี้มันแลดูไม่เป็นมิตรเลยนะ แล้วนี่พี่มินอาไม่ได้ใส่แคปชั่นไปด้วยรึไงว่าฉันเป็นน้องของพี่จิน ชักจะงงละ แต่ฉันไม่ตอบหรอกนะ เพราะไม่รู้จัก เป็นเพื่อนในเฟสมั้ยก็ไม่ใช่
"เฮ๊ยยยยๆๆ พวกมึง! พีพี! ดูนี่ๆ" อยู่ดีๆ ไอ้ซูนยองมันก็แหกปากโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้แล้วนั่งลงข้างๆ ฉันพร้อมกับวาง iPhone 7 สีเงิน ของตัวเองลงตรงหน้าฉันด้วย ฉันก็งงนะที่อยู่ดีๆ มันก็ทำแบบนี้ คนอื่นๆ บนโต๊ะก็งงเช่นกัน ไม่ใช่โต๊ะอื่นเขามองกันหมดแล้วหรอเนี่ย ตั้งแต่มานั่งที่นี่ก็พากันเสียงดังทุกวันเลย ฮ่ะๆ ตอนนี้พวกเราบนโต๊ะทุกคนกำลังพร้อมหน้าพร้อมตา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไทยมุงกันอยู่ที่โทรศัพท์ของไอ้ซูนยองเป็นตาเดียวกัน
สิ่งที่โชว์เด่นหราอยู่หน้าจอโทรศัพท์มันตอนนี้ก็คือรูปจากเมื่อคืนตอนที่ฉันกำลังหลับคาบ่าพี่จินอยู่ที่ร้านเหล้านั่น พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า
'ชัดเจนเลย! เรื่องที่แอดมินจะเอามานำเสนอวันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้กันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ แต่แอดคาดว่าเรื่องนี้น่าจะกลายเป็น Hot Issue ของชาว SU ได้ภายในเร็วๆ นี้แน่นอน!
เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมาสายของแอดรายงานมาว่าได้เจออดีตเดือนคณะแพทยศาสตร์หรือออลจังคนดัง "คิม ซอกจิน" ของเรานั่นเองกำลังนั่งสวีทกับสาวปริศนาคนหนึ่งท่ามกลางกลุ่มผองเพื่อนผู้ชายทั้ง 6 คนที่บาร์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก SU ของเรา
และ 1 ในเพื่อนชายที่นั่งร่วมโต๊ะกับ คิม ซอกจิน ที่นั่งหันหลังอยู่ทางด้านซ้ายของรูปก็คือหนุ่มสุดฮอต "คิม แทฮยอง" ออลจังและเดือนคณะบริหาร ปี 2 ของพวกเรานั่นเอง คาดว่าทั้ง 2 น่าจะอยู่แก๊งเดียวกัน แต่! นั่นไม่ใช่ประเด็นที่แอดจะเอามานำเสนอให้พวกเราชาวเพจ คนดัง SU ได้อ่านกันในวันนี้!
ประเด็นที่แอดจะพูดถึงจริงๆ ก็คือ! หนุ่ม คิม ซอกจิน และหญิงสาวปริศนาคนนั้นต่างหาก! สายแอดบอกว่าทั้ง 2 นัดเจอกันที่นั่นและก็แลดูสนิทกันมากด้วย นอกจากนั้นหนุ่มซอกจินยังทำท่าทางหึงหวงสาวปริศนาคนนั้นออกหน้าออกตามากด้วย ไม่ยอมให้เพื่อนๆ ได้แตะต้องหรือเข้าใกล้เธอแม้แต่คนเดียวเลยด้วยซ้ำ
จากในรูปแอดไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าที่จริงแล้วเธอหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สายแอดบอกว่าสวยใช้ได้เลยทีเดียว! และเธอก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นหนึ่งในเฟรชชี่ของ SU เรานี่เอง! ฮุ่ๆๆๆ คาดว่าคงจะเป็นคนที่หนุ่มซอกจินกำลัง In Love อยู่ในขณะนี้แน่น่อน
จากที่โสดสนิทให้สาวๆ ได้กรี๊ดกันมานานแต่ตอนนี้หนุ่มซอกจินกลับมีคนรักซะแล้ว ฮอล ~ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ สาวๆ ทีมซอกจินของพวกเราก็คงต้องอกหักกันเป็นแถวเลยสิ แอดก็ใจหายเช่นกัน ซอกจินของพวกเรา TT
แต่ถึงอย่างไรแอดก็ต้องขอแสดงความยินดีกับซอกจินของพวกเราด้วยที่ได้เจอคนที่ตัวเองรักแล้ว #เพราะความสุขของซอกจินคือความสุขของเรา #ทีมซอกจิน'
หลังจากที่ฉันอ่านแคปชั่นเสร็จ จากตอนแรกที่กำลังซีเรียสๆ อยู่ก็เป็นต้องขำพรืดออกมาทันที
"555555555 ใครเป็นคนเขียนวะ? ตลกชิบ" ใช่ ใครเป็นคนเขียนวะ ฉันเนี่ยนะแฟนพี่จิน? ฮว๊ายยย เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว และอีกอย่างยังมีแท็กแบบนั้นอีก แอดมินคนนี้เป็น Fc พี่จินชัวร์ 100% ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันก็เพิ่งสัมผัสได้ถึงความดังของพี่จินแบบจริงๆ จังๆ วันนี้แหละ
"ไหน เขียนว่าอะไรบ้าง?" ซานะที่ยังเห็นโพสต์ไม่ชัดเจนนักเพราะนั่งฝั่งตรงข้ามกับวอนอูก็ขอโทรศัพท์ไปดูบ้าง
"เฮ้ยนี่เธอเสียหายนะ ทำไมตลกล่ะ?" ไอ้ซูนยองมันว่า ฉันทำท่าครุ่นคิดนิดนึง อื้อ ก็จริงของมันนะ คนก็ไลค์โพสต์นี้ตั้งหลายพัน เกือบหมื่นแล้วเนี่ย ซักหน่อยคงต้องหมื่นขึ้นแน่นอน ทำไมคนต้องสนใจเยอะขนาดนี้ด้วยเนี่ย แล้วในรูปยิ่งมีผู้หญิงแค่คนเดียวที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชายคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งก็คือฉันเอง! โอ้ยยยยยยยยย! ชักจะไม่พอใจคนปล่อยข่าวแล้วนะ ทำไมแลดูขี้เผือกแบบนี้ เขียนแบบนี้ฉันเสียหายมากนะรู้มั้ย แต่ถ้าฉันไม่ไปนั่งตรงนั้นเองก็คงไม่มีใครเอาไปทำข่าวได้อะนะ TT
แล้วอีกอย่าง นี่มันไม่ใช่รูปที่พี่มินอาถ่ายนี่ แล้วใครเป็นคนถ่ายวะ? โฮ้ยยยยยย! สนิทกับคนดังนี่มันก็ยุ่งยากจริงๆ แหละ เพราะแบบนี้แหละฉันเลยไม่อยากบอกใครว่าตัวเองเป็นพี่น้องกับทั้งพี่โบและพี่จิน พี่โบไม่เท่าไหร่เพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่กับพี่จินนี่สิ โอยยยย ถ้าจะมี Fc พี่แกมาวุ่นวายฉันก็ยังพอโอเคอยู่นะ แต่นี่กลับมีเรื่องมาทำให้เข้าใจผิดไปด้วยซะงั้น '-_- ไม่น่าล่ะ ก่อนหน้านี้ที่ฉันกับซานะเดินไปเดินมาอยู่แถวนี้เลยมีแต่คนมอง แต่ก็ไม่ได้เยอะไปกว่าธรรมดาเท่าไหร่หรอก เพราะธรรมดาคนพวกนั้นชอบมองฉันอยู่แล้วฉันเลยไม่ทันได้สังเกตว่าสายตาที่คนพวกนั้นใช้มองฉันในวันนี้มันต่างออกไปจากวันอื่นๆ พอสมควร ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าคนพวกนั้นจะมองอะไรกันนักหนา ฉันไม่ชอบเลย เพราะมันทำให้ฉันเสียความมั่นใจในตัวเอง มันให้ความรู้สึกเหมือนเราไปทำอะไรผิดมา แล้วนี่ไม่มีใครคิดจะไปแก้ข่าวให้กันบ้างเลยหรอ?
"เธอควรจะไปแก้ข่าวนะ" วอนอูมันบอก ฉันมองหน้ามัน
"จะให้ฉันไปแก้ยังไงล่ะ? ไปเม้นท์ใต้รูปว่าฉันไม่ได้เป็นคนรักแต่เป็นน้องพี่แกแทนงี้หรอ? คนเขาก็รู้จักเฟสฉันหมดดิ มันจะวุ่นวาย ฉันไม่ชอบ นี่ขนาดในโพสต์ไม่ได้บอกชื่อฉันแต่ยังมีคนหาเฟสฉันเจอเลยนะ"
"จริงดิ? ไหน??" ฉันยื่นโทรศัพท์คืนให้ซานะได้ดูบ้าง
"ใครก็ไม่รู้ ชื่อ Jiyoungie Kang Kang มาถามฉันว่าฉันเป็นอะไรกับพี่จิน แต่ฉันไม่ได้ตอบหรอกเพราะไม่รู้จัก และอีกอย่างเม้นท์พี่แกก็แลดูไม่เป็นมิตรด้วย"
"โห เม้นท์ตั้งแต่เมื่อคืนด้วย เร็วว่ะ" ไอ้ซูนยองมันพูด สงสัยมันเช็คดูเฟสฉันจากโทรศัพท์ของตัวเองด้วยล่ะมั้ง ฉันได้แต่พยักหน้าให้มัน
"เฮ้ยนี่ไง มีคนมาแก้ข่าวให้เธอแล้ว"
"ไหน??" ฉันขอจุนดูด้วยบ้าง มันจึงยื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ฉันดู
โพสต์นี้ก็ถูกโพสต์ลงไปในเพจ 'คนดัง SU' เช่นกัน เพิ่งโพสต์ได้ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ สงสัยจุนมันกำลังส่องอยู่มันเลยเห็นเข้าพอดี
โพสต์นี้พี่มินอาเป็นคนโพสต์เอง เป็นรูปจากตอนที่พี่แกถ่ายฉันกับพี่จิน พื้นหลังเป็นร้านไอติม พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า
'อันนยอง ~ เรา ควอน มินอา ปี 4 เอง เราขอแก้ข่าวของซอกจินที่แอดมินของเพจเอามาลงเมื่อคืนหน่อยนะ
คือว่าเมื่อคืนเราก็ไปเจอซอกจินที่บาร์นั่นมาเหมือนกัน และผู้หญิงในรูปข้างซอกจินที่เราถ่ายมาเนี่ยคือน้องผู้หญิงคนที่แอดมินบอกว่าเป็นคนรักของซอกจินนั่นแหละ
แต่ที่เราจะบอกจริงๆ คือ น้องคนนี้ไม่ใช่แฟนของซอกจินนะ แต่เป็นน้องสาวของซอกจินเอง งงกันล่ะสิ ใช่ ตอนแรกเราก็งงมากกกกกกกที่ได้รู้ว่าซอกจินมีน้องสาวด้วยเพราะเราก็รู้จักซอกจินมาตั้งนานแต่ก็เพิ่งมารู้ >< แต่ตอนนี้หายงงแล้ว
และอีกอย่างน้องแกก็น่ารักด้วย มารยาทดี อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่หยิ่งด้วย แต่น่าเสียดายไม่ได้ถามชื่อ ใครรู้จักก็บอกหน่อยละกันนะ ไปละ อันนยอง ~
#SeokJinTeam'
"ฮู่วว์" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ จากที่กำลังอยู่ในโหมดเครียดอยู่ก็ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง ฉันต้องขอบคุณพี่มินอามากๆ ที่ขี่ม้าขาวมาช่วยฉัน ไม่งั้นพวก Fc พี่จินต้องโยนคำถามมาใส่ฉันอีกหลายคำถามแน่ๆ
"ในที่สุดพี่แกก็มาโพสต์สินะ ดีนะพี่แกมาแก้ข่าวให้"
"อื้ม" ฉันตอบวอนอูไปแบบยิ้มๆ แล้วยืมโทรศัพท์ซานะมาใช้ต่อ พอฉันจะเข้าไปขอบคุณพี่แกซักหน่อยก็เห็นว่าพี่แกได้ลงรูปที่ถ่ายฉันกับพี่จินไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วพร้อมกับบอกว่าฉันเป็นน้องของพี่จินเสร็จสรรพ แต่สงสัยคนส่วนมากไม่เห็นโพสต์นี้กันเลยไปฮือฮากับโพสต์ที่แอดมินนั่นอัพลงแทน
"โห ครอบครัวเธอนี่มีแต่คนหน้าตาดีๆ นะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย น่าอิจฉาจัง"
"ฮ่ะๆๆ ตามจริงฉันมีพี่สาวอีกคนนะ ฉันขี้เหร่สุดในบ้าน" ฉันตอบจุนออกไปยิ้มๆ
"ห๊ะ??! เธอนี่นะขี้เหร่สุดในบ้าน??? งั้นหน้าอย่างฉันก็คงดูไม่ได้แล้วแหละ" คำพูดของไอ้ซูนยองทำเอาทุกคนบนโต๊ะหัวเราะกันหมด รวมถึงฉันด้วย
"จริงๆ นะ ถ้าพวกแกเห็นพี่สาวฉันแล้วจะตาค้างเลยแหละ มาจากโรงเรียนเดียวกันกับซานะด้วยนะ" ฉันพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
"ห๊ะะ?! หญิงล้วนมยองดูคคคคคค??? ใครอ่ะๆ?" ไอ้แฮมสเตอร์มันถามออกมาอย่างตื่นเต้นสุดชีวิตพลางทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนน้องหมาที่กำลังแกว่งหางไปมาๆ อยู่ด้วย ฉันแทบจะเห็นหางโผล่ออกมาจากตูดมันแล้วเนี่ย
"แถมยังเป็นออลจังอีกคนด้วยนะ" คราวนี้ฉันไม่ได้ตอบแต่ซานะก็พูดเสริมฉันขึ้นมาด้วย ฉันกับซานะมองหน้ากันอย่างรู้ใจ
"ห๊ะะะ?!! ออลจังอีกคน???" อ่าจ้ะ รู้สึกว่าอะเดรนาลีนในร่างกายมันจะเยอะเกินไปนะ รีแอคชั่นแต่ละทีนี่ใหญ่เท่ากองภูเขาเอฟเวอร์เรสเลย
"เบาๆ ดิ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ปาร้องเท้าใส่เราหรอก" ถ้าวอนอูไม่เอ็ดมันๆ ก็คงจะไม่รู้ว่าตัวเองเสียงดังแค่ไหน พอคิดได้แบบนั้นมันจึงถามออกมาอย่างเบาๆ
"หญิงล้วนมยองดูค... ก็มีออลจังหลายคนนะ" มันทำท่าครุ่นคิด "รุ่นพี่ คิม อายอง หรอ?"
"ไม่"
"รุ่นพี่ คิม ดาซม?"
"ไม่ใช่"
"งั้นรุ่นพี่ เบ จูฮยอน?" ใครวะ? บอกตามตรงตั้งแต่มันร่ายชื่อแต่ละคนมาเนี่ยฉันไม่รู้จักซักคนเลย
"พี่ของพีพีก็ต้องนามสกุลคิมเหมือนกันป่ะมึง?" ฮ่าๆ ก็อย่างที่จุนว่าไง ก็ต้องคิมเหมือนกันสิ ไอ้นี่มันก็ถามบ้าๆ
"อ่อ งั้นรุ่นพี่ คิม จีซู?"
"ทำไมแกรู้จักคนเยอะจังวะ? แต่ก็ยังไม่ใช่"
"โหยยยย นี่ฉันพูดมาแทบหมดทุกคนแล้วนะ" อยู่ๆ มันก็นิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างออก "หรือว่าจะเป็นรุ่นพี่ คิม โบนา?!" ในที่สุดก็ตอบถูกสินะ ฉันกับซานะมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา
"Congratulations! You finally got it right!" ฉันตอบออกไปอย่างยินดีกับมันจากใจจริง ก็จะไม่ให้รู้สึกอย่างนั้นได้ไงล่ะ นั่งรอให้มันตอบถูกจนจะหลับแล้วเนี่ย
"ห๊ะ? หมายความว่าไง?" อ่าจ่ะ มันทำหน้างงมากแล้วก็หันไปถามคนอื่นๆ รอบตัวเอง ฉันก็นึกว่ามันจะฟังออก สรุปฉันไม่ควรจะพูดภาษาอังกฤษกับมันตั้งแต่แรกแล้วสินะ
"ยินดีด้วย มึงหายโง่แล้ว"
"โฮยยยยยย นี่พีพีว่าเราโง่จริงๆ หรอ? ทำไมใจร้ายอ่าาา" ไอ้ซูนยองมันทำหน้าเศร้าเหมือนน้องหมาอยากได้ขนมแล้วตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบจากฉันอย่างจริงจัง
"ฮ่าาาๆๆ หาว่าเพื่อน" ซานะหัวเราะออกมาแล้วผลักไหล่วอนอูที่มันหลอกว่าไอ้ซูนยอง ฮ่าาๆ มันหัวเราะพร้อมกับย่นจมูกอย่างหน้าแมวๆ ออกมาให้ซานะ ฮ่าาๆๆๆ ฉันว่าเวลา 2 คนนี้อยู่ด้วยกันก็น่ารักดีนะ ฮ่ะๆ
"บ้าหรอ ฉันบอกว่าในที่สุดแกก็ตอบถูกซักทีต่างหาก" พอไอ้ซูนยองมันรู้ความจริงแล้วมันจึงหันไปทำเป็นหาเรื่องคนที่หลอกด่ามัน
"ไอ่สลอธมึงหลอกด่าว่ากูโง่หรออ?" มันทำเป็นโหดจับคอเสื้อวอนอูขึ้นมาแล้วแยกเขี้ยวใส่ด้วย
"มันก็จริงมั้ยล่ะไอ้สัตว์ฟันแทะ?" สัตว์ฟันแทะ?? 5555555555 ฮาสัส แต่ก็จริงของวอนอูมันอ่ะนะ ก็หน้ามันเป็นแบบนั้นอะ ไม่งั้นฉันจะเรียกมันว่าแฮมสเตอร์หรอ อิอิ ในขณะที่วอนอูไม่ได้ทำสีหน้าอะไรออกไปนอกจากสีหน้าเหรอหราไอ้ซูนยองมันกลับทำหน้าตาโหดขึ้นๆ เรื่อยๆ พร้อมกับทำท่าจะต่อยหน้าวอนอูให้ได้จริงๆ
"นี่ พอได้แล้วมั้ง วอนอูมันก็แค่ล้อเล่นเอง กลับมากินเมล็ดทานตะวันของแกได้แล้ว" ฮ่าาาๆๆๆ แต่ฉันก็อดที่จะแกล้งมันไม่ได้เหมือนกันแหละ
"โหยยยย พีพีก็อีกคนอะ" มันก็พูดเสียงงอนไปงั้นแหละ แต่ก็ยอมผละออกมา แต่ฉันก็รู้นะว่ามันไม่ได้งอนจริงๆ หรอก "สรุปพี่สาวเธอคือรุ่นพี่ คิม โบนา จริงๆ หรอ?" มันกลับมาแกว่งหางตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบจากฉันอีกครั้ง
"ก็ใช่ไง แต่พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ หรอก ป้าฉันแต่งงานกับพ่อของพี่โบและพี่จินน่ะ ฉันเลยได้ย้ายมาอยู่ด้วย"
"อ้าว แล้วทำไมเธอถึงย้ายมาอยู่กับป้าล่ะ? ทำไมถึงไม่อยู่กับพ่อแม่?" หลังจากที่ได้ยินคำถามนี้สีหน้าฉันก็เจื่อนลงนิดหน่อย ฉันเคยโดนถามแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่มันก็ยังไม่ชินอยู่ดี
"พีพีโอเครึเปล่า?" ซานะที่รู้คำตอบอยู่แล้วก็ถามฉันออกมาอย่างเป็นห่วง ฉันจึงพยักหน้าให้ซานะนิดหน่อยแล้วตอบไอ้ซูนยองออกไป
"พ่อแม่ฉันเสียหมดแล้วน่ะ น้องชายฉันด้วย ฉันเลยได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรเลย"
"เฮ้ย ฉันขอโทษนะที่ถามอะ ฉันไม่รู้ว่าเธอเคยเจออะไรมาบ้าง ขอโทษจริงๆ นะ" ไอ้ซูนยองมันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดปนเป็นห่วงฉันไปด้วย
"อื้ม ไม่เป็นไร มันก็นานมาแล้วแหละ ฉันทำใจได้ตั้งนานแล้ว แต่แค่ยังคิดถึงทุกคนอยู่"
"เฮ่ อย่าเศร้าไปเลยนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงไอติม" คำปลอบของไอ้สลอธทำเอาฉันหัวเราะออกมาได้
"ฮ่าๆๆๆ นี่พวกนายเห็นฉันเป็นเด็กอนุบาลกันรึไง? เอะอะๆ ก็จะเลี้ยงไอติม"
"ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอเศร้าเอง"
ฉันหัวเราะออกไปให้มันนิดหน่อย คงจะเป็นวิธีปลอบใจคนอื่นของมันสินะ...
ตอนนี้ฉันกับซานะถึงห้อง เตรียมเรียนกันเรียบร้อยแล้ว คลาสจะเริ่มภายในอีกไม่นาน เหลือแค่ไอ้ซูนยองที่ยังไม่ถึงห้องเพราะมันแวะไปเข้าห้องน้ำก่อน
ฉันกดโทรศัพท์ซานะที่ตัวเองยืมมาพยายามต่อสายไปยังเบอร์ตัวเองอีกครั้ง และครั้งนี้คนปลายสายก็รับเร็วด้วย
[ยอโบเซโย]
"ฮัลโหล นี่พีอาเองนะ ก่อนนี้หนูไปตามห้องที่พี่บอกแล้วแต่ไม่เห็นใครเลย สรุปพี่อยู่ที่ไหนกันแน่???"
[วันนี้อาจารย์ยกคลาสฉันเลยกลับคอนโดมาแล้ว]
"ห๊าาาา?" อะไรนะ? อาจารย์ยกคลาสเลยกลับไปแล้วงั้นหรอ??? แล้วนี่ฉันจะทำยังไง??? ไหนบอกจะเอาโทรศัพท์มาคืนฉันไง? ฉันก็รอตั้งนาน แต่สุดท้ายกลับมาบอกว่ากลับคอนโดไปแล้ว? แล้วทำแบบนี้ฉันจะได้โทรศัพท์คืนได้ไง?
"ไหนพี่บอกว่าจะเอาโทรศัพท์มาคืนหนูไง? แล้วทำไมถึงกลับก่อนแบบนี้?? ทำไมไม่รอให้หนูมาเอาโทรศัพท์ก่อนค่อยกลับ???" ตอนนี้ฉันหัวเสียไปแล้วเรียบร้อย รู้สึกหงุดหงิดมากเลย ซานะเองก็ตกใจพอสมควรที่ฉันค่อนข้างโวยวายออกมา
[นี่ อย่าโวยวายได้มั้ย? ฉันไม่ชอบ และอีกอย่างแค่ฉันกลับคอนโดมาเฉยๆ ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่ได้โทรศัพท์คืนซักหน่อย พรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย]
"ไม่ หนูจะเอาวันนี้" ฉันพูดพร้อมกับกดเสียงต่ำ เวลาไม่พอใจอะไรฉันก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ฉันก็คงต้องโวยวายออกไปแทน ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากทำเลย ฉันไม่ได้ชอบโวยวาย นอกซะจากว่าจะทนไม่ไหวจริงๆ อ่ะนะ เพราะฉะนั้นฉันเลยชอบข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้มากกว่า แต่ก็ปิดไม่มิดตลอด งี้แหละคนกรุ๊ป O
[...]
"พี่เอามาคืนหนูเลย ภายในวันนี้ด้วย!" แต่ตอนนี้ฉันก็โวยวายพอสมควร แลดูเอาแต่ใจตัวเองด้วย ธรรมดาฉันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกนะ คงเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงอาทิตย์นั้นของเดือนมั้ง งี้แหละมนุษย์เมนส์ -_-'
[ไม่ อย่ามาสั่งฉัน ถ้าเธออยากได้มันคืนมากก็มาเอาเอง เพราะฉันคงไม่เสียเวลาเอามันออกไปให้เธออีกแน่] ฮโว้ยยยยยยย! อยากตะโกนโว้ยยยยยย!!!! หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิดดดดดด! [และอีกอย่างเธอก็เป็นคนลืมมันไว้ในรถฉันเอง แค่จะเอาไปคืนให้เธอฉันก็ใจกว้างมากพอแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับมาโวยวายใส่ฉัน อย่าหวังเลยว่าฉันจะเอามันออกไปให้อีก] โฮ้ยยยยยย!!! หงุดหงิดดดดดด!! ฮึ่ยยๆๆๆ! แต่ฉันจะทำไงได้ล่ะ จะโกรธพี่แกก็ไม่ใช่เพราะฉันเป็นคนลืมมันไว้เอง จะโทษใครได้ล่ะนอกจากตัวฉันเอง T T
"ก็ได้ จะให้ไปเอาคืนที่ไหน?" ฉันสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วแต่ก็พูดออกไปอย่างบึ้งตึงเหมือนเดิม
[ที่คอนโดฉัน] ห๊ะะะ??!
. . .
----- 100% -----
Yo! ครบ 100% แล้วค่าา
ไรท์ต้องขอโทษด้วยที่มาแต่ละครั้งก็มาอัพแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เอง
แต่ตอนนี้ก็ครบ 100% แล้วเน้อ รีดๆ อ่านให้สนุกกันน๊าา
ตามจริงไรท์ว่าจะเขียนตอนนี้ให้แทฮยองได้มีพาร์ทมากกว่านี้นะ แต่แค่นี้มันก็ยาวมากพอแล้ว
ถ้าเขียนยาวเกินไปรีดก็คงขี้เกียจอ่านกันพอดี
และแค่การเล่าถึงตัวละครอื่นๆ มันก็เยอะมากพอแล้ว
รีดคงจะอยากอ่านพาร์ทพระเอกนางเอกมากกว่า
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ไรท์จะเขียนถึงแทแทของเราให้มากขึ้นกว่านี้บ้างแล้วเด้อ ~
เจอกัน Next Chapter ได้เลยยยย ~
C U !
- - - - - - - - - -
แก้คำผิด: 2017/04/25
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น