ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานจักรพรรดิเทพมังการ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 46


    ศักราชทีเฟรติสที่219 ทั่วโลกอยู่ในภาวะสงคราม หากแต่ยังมีที่แห่งหนึ่ง ที่มิว่าอย่างไร ไม่เคยมีไฟสงครามลามเลียเข้ามาเลยแม้สักครั้ง ที่แห่งนั้น คือ “นครจักรพรรดิ” ศูนย์รวมแห่งเหล่าอัศวินมังกร มหาอาณาจักรที่เข้มแข็งที่สุดบนพื้นพิภพ!



    จ้าวมังกร ผู้เป็นดั่งประมุขของเหล่าอัศวินมังกรทั้งหลาย บัดนี้ นั่งสงบอยู่บนบัลลังก์สีทองสุกสกาว ดวงหน้านั้นขาวซีดผอม สีผมขาวโพลน หากแต่แฝงพลังอำนาจอย่างประหลาด ทว่า สิ่งหนึ่งที่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ชวนมองที่สุดบนใบหน้านั้น ควรเป็นดวงตาที่ประดับบนใบหน้านั้นเอง



    ดวงตาขุ่นมัวราวลูกแก้วสีขาวขุ่น หากแต่ราวกับจะมองทะลุได้ทุกสรรพสิ่ง บัดนี้ ดวงตาคู่นั้น คล้ายกวาดตามองดูอัศวินมังกรโดยรอบ ก่อนจะไปหยุดที่เบื้องหน้าชายหนุ่มผมสีขาว ทว่าใบหน้าอ่อนเยาว์ผู้หนึ่ง แล้วกล่าวว่า



    “เจ้าคิดว่าดวงตาคู่นั้นเป็นผลึกแก้วมังกรศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่?”



    ได้ฟังเช่นนั้น ชายหนุ่มถึงกับนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะกลั้นหายใจครู่หนึ่ง แล้วกล่าวตอบว่า



    “หากแฝงความชั่วร้ายแม้แต่น้อยยังดีเสียกว่า ผมไม่เคยพบดวงตาที่ว่างเปล่าเพียงนั้นมาก่อน ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่าถึงที่สุด มองแล้วเหมือนจะถูกดูดเข้าไป ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณสูญหายไป”



    “อำนาจที่ดึงดูดและสะกดใจคน นั่นเป็นอำนาจทั่วไปของดวงตามังกร หากแต่ผลึกศักดิ์สิทธิ์สะกดได้แม้แต่ผู้มีดวงตามังกรด้วยกัน อำนาจของมันทำให้คนที่จ้องมองแทบบ้าคลั่ง”



    “ดวงตาของผมเป็นดวงตามังกรเช่นกัน แต่ไม่สามารถชนะอำนาจนั่นได้ นั่นเป็นผลึกแก้วมังกรศักดิ์สิทธิ์แน่นอน แต่ผลึกศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรให้ความรู้สึกว่างเปล่าถึงเพียงนี้ ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกเหมือนกับจะทำให้…..”



    “ทำให้อะไร?”



    “เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก….เหมือนกับจะเยือกแข็งไปทั้งตัว พร้อมกับหลอมละลายได้ในคราวเดียว แต่ไม่อาจละสายตาได้ ความรู้สึกอยากมอบชีวิตให้เจ้าของดวงตาคู่นั้นแวบเข้ามาในหัว …..”



    “มังกรขาว….นั่นคืออำนาจของผลึกศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีความชั่วร้ายในตัวเอง ไม่อาจแปดเปื้อนอำนาจปีศาจร้าย แต่มันคือของอันตรายที่อาจทำให้โลกนี้พินาศ”



    “แต่มันเป็นดวงตาของเจ้าชายแห่งเซเรล่า ที่ไม่ทราบที่มา”



    “เราไม่มีอำนาจไปยุ่งกับเรื่องภายในของเซเรล่า แต่ถ้าองค์ชายผู้นั้นเป็นผู้มีเชื้อสายมังกร มันเป็นสิทธิ์ของพวกเราที่จะยุ่ง”



    “ท่านหมายความว่า…..?”



    “เจ้าจงไปที่นั่น นำองค์ชายผู้นั้นกลับมาที่นี่ เพื่อเข้าพิธีชำระบาป”



    ……………………………………………………………………………………………………………



    \"นครจักรพรรดิ\" คือนามแห่งนครของเหล่ามังกรทั้งหลาย ความเข้มแข็งเป็นอันดับหนึ่ง ทรงอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด เพราะเนื่องจากว่า ไม่ว่าเหล่าเทพหรือมนุษย์ ล้วนต้องพึ่งพากำลังรบอันกล้าแข็งของอัศวินมังกร แม่ทัพในนครทั้งหลายที่มีชื่อเสียง ส่วนมากแล้วแต่เป็นเผ่ามังกรทั้งสิ้น



    เซราล่าเป็นนครแห่งเหล่ามนุษย์ที่มีขนาดใหญ่มิน้อย นับเป็นอาณาจักรที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง หากทว่าบัดนี้ เหล่าชาวประชาแห่งเซเรล่า ล้วนแล้วแต่ต้องตื่นตระหนก เมื่อได้รับการมาเยือนจากกองทัพศักดิ์สิทธิ์แห่งนครจักรพรรดิ



    เพียงสามวันนับแต่รับคำสั่ง ที่เซเรล่าพลันปรากฏเหล่ามังกรนับร้อย ที่บินมาท่ามกลางฟ้าสีคราม ราวกับจะแปรเปลี่ยนให้ท้องนภาดำมืดด้วยเงาของเหล่ามังกร ก่อนจะค่อยๆลงสู่พื้น แล้วกลายร่างเป็นกองทัพนักรบที่ดูเข้มแข็งในชุดเกราะ



    พระราชาแห่งเซเรล่าเสด็จมาถึงในไม่ช้านัก ด้วยดวงพระพักตร์แสดงถึงความตกใจอย่างยิ่ง ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวผู้หนึ่ง ค่อยก้าวออกมาปรากฏกายเบื้องหน้าองค์ราชานั้น ก่อนจะโค้งกายลงคำนับ แล้วกล่าวว่า



    \"หม่อมฉันเป็นตัวแทนจากนครจักรพรรดิ ได้รับคำสั่งจากจ้าวมังกรให้มาพบเจ้าชายแห่งเซเรล่า\"



    \"ข้า…\"



    ชายหนุ่มนั้นเพียงเหลือบมององค์ราชาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีแม้แต่จะหยุดฟังคำกล่าวอันใดของพระราชา ดวงตาสีเขียวเปล่งประกายประหลาดนั้น มององค์ราชาเพียงแค่หางตา ก่อนกล่าวต่อไปว่า



    \"แน่นอนว่าองค์ชายที่หม่อมฉันต้องการพบคือองค์ชายที่มีนามว่าไรอา มิใช่องค์ชายวีกัซ เมื่อสามปีก่อน หม่อมฉันมาที่นี่เพื่อยืนยันว่าดวงตาคู่นั้นเป็นดวงตามังกร แต่ครั้งนี้ เพราะท่านจ้าวมังกรมีบัญชาให้มาพิสูจน์ว่าดวงตาคู่นั้นเป็นผลึกแก้วมังกรศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่\"



    \"ทำไม..\"



    \"ผลึกแก้วมังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติของเผ่ามังกร ทรงอานุภาพเหนือเทพและปีศาจ คนที่มีดวงตาคู่นั้นนับแต่อดีตกาลมา มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นในหนึ่งยุคสมัย หากว่าองค์ชายเป็นผู้ครองผลึกศักดิ์สิทธิ์ ย่อมหมายความว่าจะไม่มีผู้ครองผลึกผู้อื่น หากไม่ได้รับการขัดเกลาที่ถูกต้อง ผลึกศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพพอที่จะทำลายล้างโลกได้โดยไม่ยาก\"



    \"แต่ท่านเคยมองดูดวงตาของเด็กคนนั้นมาหนหนึ่งแล้ว ทำไมต้องดูอีกครั้ง แล้วทำไมถึงต้องยกกองทัพมาถึงขนาดนี้ ท่านคิดที่จะ..\"



    \"คำบัญชาคือให้พาองค์ชายไปที่นครจักรพรรดิ กองทัพที่ยกมาเพื่อคุ้มครองนครแห่งนี้ระหว่างที่องค์ชายไม่อยู่\"



    อัศวินมังกรผู้มีเรือนผมสีขาวกล่าวจบเช่นนี้ ก่อนจะสาวเท้านำหน้าพระราชาไปยังที่ประทับขององค์ชาย ประหนึ่งตนเองเป็นเจ้าผู้ครองนครในทันที!



    ……………………………………………………………………………………………………….



    ที่ห้องพักของไรอานั้น ด้านหนึ่งอยู่ติดกับอุทยานของพระราชวัง ดังนั้นตามปรกติแล้วย่อมมีเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วอยู่ทุกวันไม่ขาด



    หากแต่วันนี้ เสียงเหล่านกน้อยนั้น กลับเงียบหายไป….



    แทนที่ฝูงนก เหล่าอสรพิษสีดำสนิทหลายร้อยตัว ถึงกับรายล้อมอยู่รอบห้องจนพื้นกลายเป็นสีดำ หากที่น่าสยดสยองที่สุด คือเหล่าอสรพิษนั้น กำลังค่อยๆกลืนกินร่างของเหล่านกน้อยอย่างเชื่องช้า



    ไรอาไม่ได้หลับ หากแต่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงนอน ดวงตาคู่นั้นยังดูว่างเปล่าไร้ความรู้สึก อสรพิษสีดำตัวใหญ่ที่สุดที่อยู่ในห้องค่อยๆเลื้อยอย่างเชื่องช้ามาพันรอบแขนของไรอาไว้ เจ้าชายผู้นี้เพียงแค่ยกแขนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมองดูชีวิตสีดำที่พันอยู่รอบแขนนั้นด้วยแววตาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม แล้วกล่าวกับมันว่า



    \"ไปได้แล้ว อิมัลเซ่ มีคนมาหาข้าแล้ว\"



    ……………………………………………………………………………………………………



    เหล่าฝูงอสรพิษรอบห้องพากันเลื้อยหายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่ประตูห้องเปิดออก เผยให้เห็นถึงชายหนุ่มผู้มีผมสีขาว ดวงตาสีเขียวผู้หนึ่งเดินเข้าห้องมาพร้อมกับพระราชา องค์ราชานั้น เห็นไรอาตื่นอยู่ ท่าทางคล้ายจะดีพระทัยขึ้นเล็กน้อย รีบตรัสขึ้นว่า



    \"ไรอา เจ้าตื่นจนได้ พ่อคิดว่าจะเกิดปัญหาขึ้นเสียแล้ว\"



    ไรอาได้ฟังเช่นนั้น เพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ตอบสิ่งใดออกมา ชายหนุ่มผมขาวที่มากับพระราชา กลับเป็นผู้ที่มองดูที่พื้นห้องนั้น ก่อนจะมองไรอาอย่างขึ้งเครียด แล้วกล่าวว่า



    \"องค์ชาย หม่อมฉันไม่ทราบงานอดิเรกของท่าน แต่ในห้องนี้มีกลิ่นไอของปีศาจ ยิ่งกว่านั้น ทั้งที่อยู่ติดกับอุทยาน กลับไม่มีเสียงนกเลยแม้แต่ตัวเดียว\"



    สิ้นเสียงของชายหนุ่มนั้น ไรอาค่อยพลันยิ้มขึ้น แล้วกล่าวว่า



    \"ท่านคือมังกรขาว ผู้ล่วงรู้สรรพสิ่ง ถูกต้อง ในห้องนี้มีปีศาจจริงๆ \"



    พระราชาได้ฟังเช่นนั้น ถึงกับตกพระทัยขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ไรอากล่าวขึ้นว่า \"อิมัลเซ่\" เพียงชั่วพริบตานั้น อสรพิษสีดำก็ถึงกับเลื้อยมาปรากฏเต็มพื้นห้องในทันที



    องค์ราชามองดูอสรพิษสีดำเหล่านี้ด้วยสายตารังเกียจปนกับขยะแขยง ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีขาวนั้นเองยังถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ หากแต่ไรอาเพียงแต่ยิ้มขึ้นนิดๆ ก่อนจะหัวเราะแล้วกล่าวกับมังกรขาวว่า



    \"ไม่น่าตกใจอะไร ท่านคิดว่าพวกมันน่ารังเกียจหรือไร? ที่จริงมันก็ไม่ได้ทำความผิดอะไรมากนอกจากกินนกเข้าไปไม่กี่ตัวเท่านั้น\"



    \"เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ? ไรอา!?\"



    องค์ราชาตรัสถามด้วยสีพระพักตร์ที่ซีดสลด ไรอาเพียงแต่ยิ้มไม่ตอบอะไร มังกรขาวเอง กลับเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า



    \"เท่าที่ข้าจำได้ ทุกครั้งที่เห็นท่าน ดวงตาคู่นั้นยังดูว่างเปล่า และครั้งนี้ก็เช่นกัน การที่งูจะกินนกสักตัวไม่ใช่เรื่องแปลก ถึงนกจะมีปีกบินได้ แต่ที่แปลกคือท่านทำไปเพื่ออะไร?\"



    \"ข้าทำอะไร?\"



    \"ไม่มีปีศาจตนไหนสะกดนกทั้งฝูงลงมาแบบนี้ได้ นอกจากดวงตาของท่านเท่านั้น\"



    \"ใช่… แล้วมันเป็นอะไรไปได้?\"



    \"เพื่ออะไร? นกพวกนี้ไม่ใช่อยู่เป็นเพื่อนท่านตลอดมาหรอกหรือ?\"



    \"เพราะว่าไม่รู้…\"



    \"ท่าน?\"



    \"ใช่… และนั่นคือคำตอบ..มังกรขาว ข้าไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร\"



    \"ทำไม..\"



    \"ท่านมาพาข้าไปนครจักรพรรดิไม่ใช่หรือ?\"



    \"ใช่..\"



    \"รีบไปสิ ก่อนที่ข้าจะคลุ้มคลั่ง ท่านมังกรขาวผู้หยั่งรู้\"



    \"ข้าไม่เข้าใจ….\"



    …………………………………………………………………………………………………………….



    มังกรขาวไม่อาจเข้าใจการกระทำของไรอาได้ หากแต่ชั่วขณะที่ทุกสิ่งกำลังสับสนนั้นเอง ทางเบื้องนอกพลันเกิดเสียงอึกทึกขึ้น พร้อมกับเสียงตะโกนดังเอะอะ



    เอริคเป็นคนที่เปิดประตูห้องผลักเข้ามาเป็นคนแรก พร้อมๆกับผลักองค์ชายวีกัซล้มลงกับพื้น!



    \"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?\"



    องค์ราชาตะโกนถาม ท่ามกลางความวุ่นวายสับสน เอริคค่อยถวายคำนับต่อองค์ราชา ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ยามมองดูร่างของวีกัซว่า



    \"วีกัซเป็นคนวางยาไรอา\"



    \"อะไรนะ!?\"



    \"สี่วันก่อน ไรอาง่วงนอนตลอดทั้งวัน แต่นั่นไม่ใช่การเปลี่ยนวัยของเผ่ามังกร\"



    \"หมายความว่าอย่างไร..\"



    \"ไททารอสพบยาที่มีส่วนผสมของเลือดมนุษย์ที่ห้องวีกัซ และเมื่อสองวันที่ผ่านมา เซรุสเห็นชัดว่าวีกัซกำลังติดต่อกับเผ่าปีศาจ\"



    เอริคกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้งเครียด ก่อนที่วีกัซจะเป็นฝ่ายร้องตะโกนขึ้นว่า



    \"ข้าบริสุทธิ์!! พวกแกมันก็พวกเดียวกับไรอา!! \"



    \"หลักฐานมัดตัวแน่น ยาที่ใช้มีผลกระตุ้นจิตชั่วร้ายในเผ่ามังกรให้ใกล้เคียงกับปีศาจ ถ้าหากว่าไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมกระทั่งนางกำนัลยังกล้ายืนยัน ว่าเป็นท่าน?\"



    เอริคกล่าวย้อนถามเช่นนี้ วีกัซถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง คล้ายจนด้วยคำพูด หากแต่เพียงครู่หนึ่งเท่านั้นจริงๆ เพียงไม่ช้า วีกัซก็โพล่งออกมาว่า



    \"เพราะพวกนางหลงรูปของมัน พวกนางเกลียดข้า!!\"



    \"กระทั่งน้องสาวสุดที่รักที่ยืนยัน? กระทั่งเสด็จแม่ที่รัก?\"



    \"เสด็จแม่ยืนยัน!?\"



    \"หมดทางดิ้นแล้ว วีกัซ ยาแก้พิษอยู่ที่ไหน?\"



    \"ข้าไม่รู้….ข้าไม่ได้ทำ….\"



    วีกัซกล่าวเช่นนี้ พลางเริ่มร่ำไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ทว่า น้ำตานี้ กลับต้องเหือดแห้งหายไปในชั่วพริบตา พร้อมกับแววตาโกรธแค้นปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อวีกัซได้ยินเสียงๆหนึ่ง กล่าวว่า



    \"ยาแก้พิษอยู่ที่ข้าแล้ว เมื่อคืนนี้ลูกไม่รักดีคนนี้เอามาฝากไว้ที่ข้าเอง..\"



    เสียงๆนั้น เพียงเสียงสตรีที่ไพเราะนัก คราวนี้เอง วีกัซจึงรู้สึกคล้ายชีวิตดับสลายลงแล้ว เมื่อเห็นใบหน้าของสตรีนางนั้น ใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างยิ่ง



    \"เสด็จแม่…\"



    …………………………………………………………………………………………………………….



    เพราะเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้มังกรขาวไม่อาจพาตัวไรอาไปยังนครจักรพรรดิได้ จำต้องรั้งรออยู่อีก เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น



    ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจไรอา แต่มังกรขาวยังไม่เชื่อ ว่าวีกัซจะกระทำเรื่องเช่นนี้ได้



    คนอย่างวีกัซกล้าถึงขนาดนั้นหรือ?



    แล้วถ้าไม่ใช่ ทำไมมารดาจึงปรักปรำบุตรด้วยตนเอง?



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×