ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานจักรพรรดิเทพมังการ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 46


    นำเรื่อง



    \"วิเอ จาอิส เนอิลเดอร์ เอนดิคาลุส เดเปรอามิเยร์\"



    เราจะเดินทางไม่สิ้นสุดชั่วนิรันดร์



    \"อินเดอร์อาเล่ เอเลเวนด้า เลวิเอโร\"



    ค้นหารักจากพิภพสู่สวรรค์



    \"อิคารอส เนอิลเดอร์ เอนดิคาลุส เอเซนทีซัส ซีเวนอาร์เฟนน่า\"



    และเพื่อให้ได้มาซึ่งปีกแห่งนิรันดร์



    \"เวเอนเซอร์เอนดิอุส คาลิส แกรนดิอัส เลวิลีโต้\"



    นำพาทั่วทุกภพ พ้นการล่มสลายและความตาย



    …………………………………………………………………………………………………….



    ศักราชทีเฟรติสที่207 ทุกสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเด็กชาย ล้วนตกอยู่ในความมืดมิด แม้ว่าเปลวเพลิงที่แผดเผาทุกสรรพสิ่งจะอยู่เบื้องหน้า แต่ในสายตาเด็กชาย ทุกสิ่งล้วนดังอยู่ในความมืดมิดชั่วนิรันดร์



    สายตาของเด็กชาย ไร้ซึ่งความรู้สึก ดวงตาสีฟ้าเข้มลึกล้ำดูว่างเปล่า หากแต่แฝงด้วยอำนาจลี้ลับอย่างน่าประหลาด ราวห้วงน้ำลึกที่ยากหยั่งถึง



    เด็กชายเรือนผมสีทองนั้น ถูกโอบกอดด้วยมือคู่ที่แข็งแรงคู่หนึ่ง ของบุรุษผู้มีเรือนผมสีดำสนิท แววตาของเด็กน้อยดูว่างเปล่า หากแต่ดวงตาของคนผู้นั้น กลับแฝงด้วยความปวดร้าวจนประมาณไม่ได้



    ใบหน้าครึ่งซีกของคนผู้นั้น ถูกเผาจนไหม้เกรียมไปข้างหนึ่ง หากแต่คนผู้นั้นกลับยังมีชีวิตอยู่ ทั่วร่างของเด็กน้อยกลายเป็นสีแดงด้วยหยาดโลหิตแปดเปื้อนทั่วร่าง บริเวณโดยรอบล้วนแต่เต็มไปด้วยซากศพ



    \"เจ้าจงติดตามเหล่าพวกมนุษย์ไป และอย่าได้ลืมการกระทำของมันต่อพวกเราในวันนี้…\"



    ชายผู้นั้นกล่าว ด้วยสายตาแสดงความเคียดแค้นเหลือประมาณ หากเด็กน้อยได้แต่เอ่ยถาม ด้วยเสียงแผ่วๆ พร้อมกับแววตาที่ดูไร้ความรู้สึกที่จ้องมองคนผู้นั้น กล่าวว่า



    \"เหตุใดท่านพ่อต้องให้ข้าเติบโตกับเหล่าผู้มีชีวิตจำกัดที่แสนน่าชัง?\"



    \"ทั้งข้าและเจ้า ก็มีชีวิตจำกัดเฉกเดียวกัน เพียงแต่ยืนยาวกว่ามากนัก\"



    \"ท่านพ่อ?\"



    \"จงเรียนรู้พวกมัน ใช้ประโยชน์จากพวกมัน อย่าให้มันเข้าไปทำให้เจ้าเกิดช่องว่างในจิตใจ เกิดน้ำใจต่อพวกมัน เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นอาวุธทำลายล้างสิ่งที่เรียกว่าคุณธรรมของพวกมัน ผลาญชีวิตของมันให้แหลกเหลว พวกเราไม่ได้เกิดมาเป็นเหยื่อ!\"



    ………………………………………………………………………………………….





    บทที่1





    ศักราชทีเฟรติสที่219 สงครามระบาดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า สงครามศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพทั้งสอง คือทัพของเหล่าเทพ มังกร และมนุษย์ กับทัพของเหล่า ภูต ปีศาจ และอสุรกาย ทั้งสองทัพล้วนห้ำหั่นกัน จนโลหิตแดงฉานทั่วพิภพ



    เทพคือเผ่าซึ่งมีอำนาจมหาศาล สามารถดึงพลังศักดิ์สิทธิ์มาใช้ได้ และมีปีกสีขาวอันผุดผ่อง



    มังกร คือเผ่าพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้หาญกล้า แบ่งเป็นสองประเภท คือมังกรชั้นต่ำ ซึ่งยินยอมให้มนุษย์ใช้งาน และมังกรชั้นสูง ที่มีร่างอีกร่างเป็นดั่งมนุษย์ทั่วไป เรียกขานว่า \"อัศวินมังกร\" หากยังมีมังกรชั้นต่ำบางพวก รับใช้เผ่าปีศาจ



    มนุษย์ คือเผ่าพันธุ์ที่อายุสั้น แต่มีจำนวนมหาศาล รู้จักใช้เวทย์มนต์และอาคม มนุษย์ที่ฝึกอาคมชั้นสูงได้ดี จะมีสถานะใกล้เคียงกับเทพ



    ภูต เป็นชีวิตที่สวยงาม ไร้เพศ หากแต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงเข้ากับเผ่าปีศาจ



    ปีศาจ คือสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย พวกมันมีรูปลักษณ์ที่งดงาม ต่างกับเหล่าอสุรกายอันชั่วร้ายทุรลักษณ์ หากแต่ปีศาจยิ่งมีอำนาจมาก กลับยิ่งงดงาม



    อสุรกาย คือชีวิตที่กระหายเลือด ต่ำช้า ทุรลักษณ์ และน่าชิงชัง!



    …………………………………………………………………………………………………………….



    ในห้องเรียนแห่งหนึ่ง อาจารย์ผู้สอนเคราสีขาว ได้แต่ชำเลืองมองดูเด็กหนุ่มที่ฟุบหลับอยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าพิกลนัก ทุกคนท่าทางตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ยกเว้นเด็กหนุ่มผู้นี้ผู้เดียว สายตาของอาจารย์ยังเหลือบมองต่อไป ก่อนจะกล่าวออกมา คล้ายจะบอกให้เด็กหนุ่มผู้นั้น ฟังแต่เพียงผู้เดียวว่า



    \"เรามาถึงบทเรียนว่าด้วยการจำศีล พวกที่จำศีลมีสองพวก คือปีศาจกับมังกร เวลาที่เริ่มเปลี่ยนวัย ปีศาจและมังกรมีจุดที่เหมือนกันคือมีการจำศีล อาการที่เกิดขึ้นคือง่วงนอนทั้งวัน อาการนี้จะเกิดขึ้นไม่เท่ากัน บางตนอาจไม่กี่วัน แต่บางตนอาจนานหลายร้อยปี หลังจากอาการง่วงนอนทั้งวันแล้ว อาจจะหลับรวดเดียวหลายเดือนหรือหลายร้อยปีโดยไม่ตื่นอีกเลยจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่เต็มที่\"



    อาจารย์เคราขาวถือตำราเล่มใหญ่มาวางโครมลงเบื้องหน้าเด็กหนุ่มแล้ว หากแต่เด็กหนุ่มนั้นยังคงหลับต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เด็กหนุ่มผมดำคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง มองอาจารย์ของตนทำท่าทางเช่นนั้น ก่อนจะทำหน้าทะเล้น แล้วกล่าวขึ้นว่า



    \"อาจารย์ครับ เจ้าชายไม่ตื่นง่ายๆหรอก บางทีอาจเป็นอย่างที่อาจารย์ว่า คงเข้าถึงช่วงเปลี่ยนวัยแล้ว ทำอย่างนี้เสียเวลาเปล่าน่า\"



    เด็กหนุ่มนั้นยังคงหลับต่อไป อาจารย์เคราขาวค่อยได้ยินเสียงเด็กหนุ่มอีกคนตะโกนขึ้นว่า



    \"อาจารย์ครับ เจ้าชายนิทราของเราเป็นปีศาจหรือมังกร\"



    เสียงในห้องดังขึ้นเซ็งแซ่ครู่ใหญ่ที่เดียว อาจารย์เคราขาวนั้น ค่อยถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า



    \"องค์ชายวีกัซ หม่อมฉันเคยบอกมาหลายครั้งแล้ว พี่ชายของพระองค์เป็นพวกมีเชื้อสายเผ่ามังกร ดูได้จากดวงตาคู่นั้น เราเรียกมันว่าตามังกร เป็นคุณสมบัติที่หายาก แม้แต่ในหมู่พวกเผ่ามังกรสายเลือดบริสุทธิ์ ดวงตาคู่นั้นมีอำนาจพิเศษ และเป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นเผ่ามังกร\"



    \"ใครว่ามันเป็นพี่ชายข้า!! ก็แค่ลูกติดจากมเหสีคนก่อน!!\"



    \"องค์ชายก็เป็นลูกติดของมเหสีปัจจุบัน องค์ราชาไม่มีบุตรชาย จึงตั้งท่านและองค์ชายนิทราของเราไว้ในตำแหน่งเจ้าชายสถาปนา ผู้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์คือองค์หญิงรัชทายาทอิลเร่\"



    \"แต่มันแต่งกับอิลเร่ไม่ได้เพราะเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน อิลเร่เป็นของข้า วีกัซผู้นี้!!\"



    เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดังนั้น พร้อมๆกับที่เด็กหนุ่มผมดำที่ทำหน้าทะเล้นเมื่อครู่ลุกขึ้น พร้อมกับผลักวีกัซล้มลง วีกัซพยายามชกหน้าเด็กหนุ่มผมดำนั้น เด็กหนุ่มผมดำโต้ตอบจนเป็นที่ชุลมุน จนในที่สุด ค่อยได้ยินเสียงอาจารย์เคราขาวตวาดขึ้นว่า



    \"หยุด!! เอริค! จะก่อความวุ่นวายในชั้นเรียนเรอะไง\"



    \"แต่ไอ้บ้านั่นมันปากเสียกับไรอา แล้วใครว่าอิลเร่เป็นของไอ้หน้าเสี้ยมแบบมัน!\"



    \"พอๆ พอได้แล้ว ไทรารอสกับเซรุส เธอสองคนพาเจ้าชายนิทราของเราไปนอนได้แล้ว คงเข้าช่วงเปลี่ยนวัยแล้วจริงๆ ไม่รู้จะมานั่งทำไมให้ลำบากเปล่าๆ เอริค เธอเป็นลูกชายแม่ทัพแต่ทำเสียมารยาท ท่านวีกัซยังไงก็เป็นเจ้าชายสถาปนา วันนี้ต้องไปยืนสำนึกผิดที่หน้าแท่นบูชา\"



    \"ผมไม่ผิด!!\"



    \"ผิดก็คือผิด ห้ามทะเลาะกันในห้องเรียน ท่านวีกัซ วันหน้าห้ามลบหลู่พี่ชายของพระองค์อีก\"



    \"แล้วจะทำอะไรข้าได้?\"



    วีกัซกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างยียวน อาจารย์เคราขาวผู้นั้น กลับได้แต่ถอนหายใจ



    …………………………………………………………………………………………………….



    เซเรล่าเป็นประเทศใหญ่แห่งหนึ่งของเหล่ามนุษย์ ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ ด้วยเหตุว่าผู้นำปัจจุบันไม่มีบุตรชาย จึงตั้งเจ้าชายสถาปนาไว้สององค์คือวีกัซและไรอา



    วีกัซหน้าตาอัปลักษณ์ นิสัยเห็นแก่ตัวและปากพล่อย ต่างกับไรอาที่มีรอยยิ้มอันอ่อนโยนและใบหน้าที่ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงต่างก็ยอมรับว่าเป็นผู้ชายที่หล่ออย่างสมบูรณ์แบบราวฟ้ากับดิน ไม่ว่าใครต่างก็ชอบที่จะคุยกับไรอามากกว่าวีกัซ หลายคนบอกว่าวีกัซเป็นได้อย่างมากแค่หัวหน้าอันธพาลเท่านั้น ยิ่งไม่รู้ว่าทำไม มเหสีที่งดงามเช่นนี้จึงมีลูกชายอัปลักษณ์ปานนี้ได้



    แต่สิ่งที่ทำให้เป็นปัญหาก็คือ ไรอาแต่งงานกับองค์หญิงรัชทายาทไม่ได้!



    ทั้งสองคน ใครๆก็รู้ว่าเป็นพี่น้องจากแม่เดียวกัน ดังนั้น คนที่เป็นความหวังก็คือ เอริค ลูกชายแม่ทัพใหญ่ และเซรุส ที่เป็นถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการ แม้จะอายุน้อยและยังต้องเรียนรู้อีกมาก



    ปรกติแล้ว ถ้าไรอาตื่นนอน วีกัซจะไม่กล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนี้ เพราะไรอามีดวงตาที่มีอำนาจประหลาดอยู่ แน่นอนว่า ใครๆก็คิดว่าไรอาได้ดวงตาคู่นี้มาจากพ่อที่มีเชื้อสายมังกร จึงไม่มีใครตั้งข้อรังเกียจ เพราะทุกคนรู้ว่ามีแต่เชื้อสายชั้นสูง ที่จะมีดวงตามังกรได้ แม้จะไม่รู้ว่าพ่อที่แท้จริงเป็นใคร แต่ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน



    ไรอาเป็นที่รักของเพื่อนทุกคน ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง อาจารย์ยังไม่ต้องเปลืองแรงมาก เพียงแต่ให้ไรอาให้ดวงตานั้นปรามผู้อื่นก็หมดปัญหา



    แต่ตอนนี้ ไรอาหลับอยู่แล้ว จะทำอย่างไรดีเล่า?



    หากถึงช่วงเปลี่ยนวัยจริงๆ ถ้าไรอาไม่ตื่น หากเอริคไม่มีไรอาหนุนหลัง ถ้าวีกัซได้เป็นพระราชาเพราะมีมเหสีปัจจุบันหนุนหลัง ต้องเป็นหายนะของเมืองแน่!



    …………………………………………………………………………………………………………….



    ดวงตาของไรอายังหลับพริ้มอยู่ มีแต่ดวงตาของคนรอบข้างเท่านั้น ที่ยังลืมโพลงอยู่



    เอริคไม่ยอมไปยืนสำนึกผิดเด็ดขาด ดังนั้น ตอนนี้ ได้แต่เฝ้าดูไรอาที่หลับด้วยท่าทางไม่รับรู้เรื่องราว



    หรือจะถึงช่วงเปลี่ยนวัยแล้ว?



    ข่าวเรื่องนี้ ไปถึงพระราชาและมเหสีปัจจุบันในเวลาไม่นานจริงๆ ทั้งสองคนต่างรุดมาเพื่อดูอาการของไรอา แม้แต่พระมเหสีที่ไม่ค่อยชอบไรอานักยังต้องห่วงใย เพราะไรอาเป็นเหมือนหมากสำคัญที่ทำให้เมืองนี้ ไม่ถูกรุกรานจากเผ่าปีศาจ ด้วยเหตุว่ามนต์มายาทุกชนิด ล้วนถูกทำลายลงภายใต้ดวงตามังกร



    ขอเพียงไรอาอยู่ที่นี่ ด้วยดวงตาคู่นั้น และพลังเวทย์อันกล้าแข็ง ไม่มีปีศาจทัพใดที่กล้ามารุกรานที่นี่



    แต่ช่วงเปลี่ยนวัยมาถึง แล้วจะทำอย่างไรดี….



    เมื่อไม่ใครสามารถทำอะไรได้ จึงทำได้แค่ปล่อยให้ไรอานอนหลับต่อไปเท่านั้น



    ………………………………………………………………………………………………..



    ทุกสิ่งตกอยู่ในความมืด และความเงียบสงัด



    ไม่มีปีศาจตนใดกล้ามาที่นี่จริงหรือ?



    ตอนนี้ กลับมีปีศาจอีกตน อยู่ที่นี่แล้ว!



    ดวงหน้าข้างหนึ่งของมันปิดไว้ด้วยหน้ากากเหล็ก หากแต่อีกข้างปรากฏเป็นใบหน้าของบุรุษอันงดงาม ปีศาจตนนี้ ค่อยปรากฏตัวในห้องของเจ้าชายผู้นิทราอย่างสงบ ด้วยท่าทางคุ้นเคยอย่างยิ่ง



    ชั่วพริบตาที่มันปรากฏขึ้น เจ้าชายที่หลับไม่ไหวติงเมื่อครู่ ถึงกับลืมตาโพลง ยันร่างขึ้นนั่งบนเตียงในทันที!



    เจ้าปีศาจตนนั้น แสยะยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมองร่างขององค์ชายผู้นี้ ด้วยแววตาแสดงความภูมิใจ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ แล้วกล่าวขึ้นว่า



    \"ข้ารอเวลาที่เจ้าจะเปลี่ยนวัยมานานมากแล้ว\"



    มันกล่าวเช่นนี้ พลางหยิบเอาขวดโลหะสีเงินเล็กๆออกมาขวดหนึ่ง เมื่อเปิดขวดออก เผยให้เห็นไอสีน้ำเงินลอยออกจากปากขวดเป็นกลิ่นคาวเลือดที่น่าสะอิดสะเอียนนัก ไรอามองดูขวดสีเงินนั้น ด้วยสายตาที่ดูไร้ความรู้สึก ก่อนจะกล่าวว่า



    \"แน่ใจได้อย่างไร ว่าไม่ใช่การเปลี่ยนวัยของเผ่ามังกร?\"



    \"แน่ใจได้ ดวงตาของเจ้าไม่ใช่แค่ดวงตามังกร แต่รวมอำนาจแฝงเร้นของเผ่าปีศาจที่หาได้ยากยิ่ง เจ้าทราบหรือไม่ ถ้าเป็นการเปลี่ยนวัยของเผ่ามังกร เจ้าจะไม่ตื่นขึ้นเพราะกลิ่นคาวเลือดนี้\"



    \"ขวดนี่คือ?\"



    \"ขวดหยาดโลหิต ตั้งแต่เข้าช่วงเปลี่ยนวัยเป็นต้นไปจนเติบโตเต็มที่ เผ่าปีศาจไม่อาจอยู่โดยขาดโลหิตได้ เจ้าดื่มเลือดในขวดนี้แทนการดื่มเลือดสดๆจากพวกมนุษย์ โลหิตในขวดนี่มีพลังของจอมราชาปีศาจแฝงอยู่ มันจะทำให้จิตปีศาจของเจ้ากล้าแข็งยิ่งขึ้น\"



    \"ไม่เกรงว่าจิตปีศาจจะทำให้ความลับแตกหรือไร?\"



    \"ยิ่งจิตปีศาจของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น พวกหน้าโง่นั่นยิ่งดูไม่ออก ข้ากลัวแต่เจ้าจะใจอ่อนเท่านั้น\"



    \"ท่านพ่อ?\"



    \"ไรอา… ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีวันใจอ่อน เพราะเจ้าไร้ความรู้สึกนับแต่วันนั้น เจ้าทำตามคำสั่งของข้าทุกอย่าง ที่แสดงออกภายนอกล้วนแต่เป็นการเสแสร้ง แต่ข้าก็กลัวเจ้าจะพลาดท่า\"



    \"พลาดท่า?\"



    \"ดื่มโลหิตในขวดนี้เสีย ข้ารู้ว่าตอนนี้ เจ้าร้อนไปทั่วร่าง รู้ดีว่าอาการจากสัญชาติญาณกำลังเกิดกับเจ้าเป็นครั้งแรก กลิ่นคาวเลือดจะปลุกให้ปีศาจในตัวของเจ้าตื่น\"



    \"ไม่คิดว่าพวกนั้นจะรู้สึกตัวเพราะกลิ่นคาวเลือดหรือ?\"



    \"ไม่มีวัน เพราะโลหิตนี้แฝงพลังของจอมราชาปีศาจ อย่าว่าแต่กว่าพวกมันจะรู้ก็คงสายเกินไป\"



    ปีศาจตนนั้นกล่าวขึ้น พลางแสยะยิ้มด้วยท่าทางคล้ายคลุ้มคลั่ง ก่อนถอดเอาหน้ากากเหล็กออก เผยให้เห็นรอยไหม้ที่ใบหน้าครึ่งซีก รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏเมื่อมองไรอาเพียงวูบเดียวเท่านั้น ก่อนจะกลายเป็นสีหน้าแสดงความเคียดแค้น โอบกอดร่างบุตรชายไว้แน่น แล้วกล่าวว่า



    \"จำไว้ เจ้าอยู่กับพวกมันเพื่อเรียนรู้และแก้แค้นเท่านั้น!!\"



    ………………………………………………………………………………………………………



    ปีศาจตนนั้นจากไปแล้ว มีเพียงไรอาที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ ดวงตาของไรอายังดูว่างเปล่า หากแต่จ้องมองขวดใบนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดื่มโลหิตในขวดลงไป



    ขวดใบไม่ใหญ่เลย เป็นเพียงขวดใบน้อย หากแต่หยาดโลหิตไหลออกมาไม่สิ้นสุด ตามปรกติไรอายังรับรู้ว่ากลิ่นนี้คาวจนน่าคลื่นไส้ แต่หากบัดนี้ กลับรู้สึกคล้ายเป็นน้ำที่หอมหวาน



    ของเหลวข้นล่วงลงคอ ความรู้สึกร้อนวูบไปทั่วร่าง จากท้องน้อยแผ่ซ่านไปถึงปลายนิ้วพร้อมๆกันนั้น เกิดความปรารถนาอยากทำลายชีวิตแวบเข้ามาในทันที



    จะทำอย่างไรดี? หากทำเช่นนั้นลงไป ความลับจะไม่แตกหรือไร?



    ไรอาคิดได้เช่นนั้น ค่อยพยายามระงับสัญชาติญาณของตัวเองอย่างเต็มที่ ก่อนจะร่ายมนต์ซ่อนขวดหยาดโลหิตไว้ แล้วกดประสาทของตน เพื่อให้กลับลงสู่ห้วงนิทรา



    …………………………………………………………………………………………….



    ไรอาหลับตาพริ้มลงแล้ว ทั่วทุกแห่งมีแต่คนที่หลับแล้ว หากมีคนผู้หนึ่งยังไม่หลับ



    คนผู้นี้ เพ่งมองลูกแก้ว ด้วยดวงตาขุ่นมัว หากแต่แววตานั้น ดูทั้งลี้ลับทั้งแสนเศร้ารันทดใจ



    ภาพเมื่อครู่ ล้วนสะท้อนในสายตาที่ขุ่นมัวนี้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นความลับ



    ชายชราผมขาวโพลน เก็บตัวในห้องอันมืดมิด บัดนี้ ได้แต่รำพึงกับตนเองว่า



    \"หลานข้าเอ๋ย อย่าได้ถลำตัวลงสู่หนทางแห่งปีศาจและการแก้แค้นเลย\"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×