ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❃ M I S S.. P O R M I S E ❃ [ YAOI ]

    ลำดับตอนที่ #3 : C H A P T E R T W O ❃

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 56


    Supercell


    CHAPTER  TWO
        
            

     

       


    ถ้าหากผมสามารถหยุดเวลาได้ ผมจะทำ..




    โอ้วมัม.. บอกไอ้ชาญทีว่าคนตรงหน้านี่คือ เฌอ จริงๆ

        

             บอกตามตรงถึงผมกับเฌอจะอยู่หอเดียวกัน แต่ถึงยังไงก็ไม่เคยจะได้อาบน้ำด้วยกันสองต่อสองอยู่ดี อะ..เอ่อ ผมหมายถึงเวลาเปิดเรียนปกติห้องน้ำมันก็ต้องมีคนพลุกพล่านไม่มีเวลามาจับจ้องใครหรอกครับต้องรีบอาบและออกจาก   ล็อคฝักบัวเพื่อให้คนอื่นที่รออาบเข้ามาต่อวุ่นวายจะตายครับ

    ''อ๊ะ..'' ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สีกตัวว่าจ้องเฌอมากเกินไปเลยต้องเสตากลับมามองที่ผนังห้องน้ำ  อย่างเดิม แต่ถึงยังไงผมก็ยังชำเลืองตามองเฌออยู่ดี(ผมเปล่าหื่นนะ..)               เฌอค่อยๆเดินตรงไปยังราวแขวนผ้าเช็ดตัวปลดผ้าที่เอวออกและแขวนมันไว้ที่ราวก่อนจะเดินไปที่ล็อคฝักบัวที่อยู่ห่างจากผมไปสองล็อค เป็นเพราะที่นี่เป็นโรงเรียนชายล้วนการที่อาบน้ำด้วยกันของเด็กผู้ยายคงไม่ใช่เรื่องแปลกและนั่นคือสาเหตุที่โรงเรียนไม่ทำบล็อคกำแพงกั้นแต่ละฝักบัว..

              ผิวของเฌอขาวและซีดมากจนผมคิดว่าน่าจะใกล้เคียงกับสีกระดาษเลยทีเดียวใบหน้าเล็กนั่นเงยขึ้นรับสายน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัว ผมสีดำสนิทที่ถูกตัดเป็นทรงยาวประบ่าลู่ลงไปตามน้ำ ปากแดงๆนั่นเม้มเข้าหากันเล็กน้อย แพรขนตายาวมี   หยดน้ำเกาะขับให้หน้าหวานๆของเฌอดูเป็นประกายมากขึ้นผมเลื่อนสายตาลงมาตามคอระหงส์ ไหล่มนที่ดูจะบอบบางมากกว่าผู้ชายทั่วไป เอวคอดที่ผมลองกะดูคร่าวๆแล้วว่าแขนของผมข้างเดียวก็โอบรอบ สายตาของผมไล่ไปเรื่อยๆจนถึง..

    ''ถ้ายังไม่เลิกมองฉันด้วยสายตาทุเรศๆแบบนั้น.. อย่าหาว่าฉันไม่เตือน'' ดวงตากลมที่ตอนแรกหลับสนิทค่อยๆลืมและหันมามองผมด้วยสายตาราบเรียบจนผมขนลุก

    ''หึ.. ทำไม? เขินหรอ? ฮ่าๆ'' ผมอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ พูดอะไรที่ดูถูกเฌออีกแล้ว เป็นแบบนี้ทุกทีแหละครับผมเป็นคนปากไวและกวนประสาท และยิ่งกับคนที่ชอบ.. ผมยิ่งกวนเข้าไปใหญ่

    ''..ยังไม่เข็ด?''

    ''ห๊ะ? อะไรนะ?''ผมปิดฝักบัวก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆเฌอซึ่งเมื่อกี้พึมพำอะไรไม่รู้.. นี่ ผมไม่ได้ยินจริงๆนะ!

    ''อย่าเข้ามา..''เฌอพูดขึ้นมาเบาๆแต่ผมก็ยังพอได้ยินก่อนที่จะเดินถอยหลังออกห่างจากผม อืม.. หรือเมื่อตอนเย็นผมจะกวนประสาทเค้ามากไป บางทีเฌออาจจะเกลียดผมแล้วก็ได้

    ''...'' ผมยืนจ้องตากับเฌออยู่สักพักไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ นี่เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้สบตาเฌอจังๆ นัยต์ตาของเฌอไม่ใช่สีดำสนิทแต่มันออกจะเป็นสีน้ำตาอ่อนมากกว่าและผมได้ค้นพบว่าในแววตานั้น.. มันมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่

     

       วูบ..

         อยู่ดีๆก็มีสายลมพัดผ่านเข้ามาในห้องน้ำจากตอนแรกแผ่วเบาก็ค่อยๆโหมแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมมองไปรอบๆห้องน้ำเพื่อหาที่มาของลมนี่ แต่กลับไม่มี.. มีเพียงช่องลมที่แง้มไว้เล็กน้อยเท่านั้น

     

    แล้วลมนี่.. มาจากไหน?

     

    ตึง!

    ''โอ้ย!''และแล้วผมก็ต้องหันเหความสนใจมายังร่างตรงหน้า เมื่อจู่ๆเสียงร้องของเฌอก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเฌอที่กระเด็นไปชนกับผนังห้องน้ำและทรุดลงกับพื้นทันที!

    ''เฌอ!'' ผมวิ่งเข้าไปหาเฌอที่ดูเหมือนตอนนี้จะสลบไปแล้วบริเวณหางคิ้วมีเลือดสีสดไหลออกมาเล็กน้อย ผมค่อยๆช้อนตัวเฌอขึ้นวิ่งตรงไปยังราวแขวนผ้าเช็ดตัวนำผ้าขนหนูมาห่มคลุมตัวเฌอไว้ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูของตัวเองมาผูกเอวไว้ลวกๆและวิ่งออกจากห้องน้ำเพื่อตรงไปยังห้องพยาบาลที่อยู่ชั้นล่างสุดโดยมีลมประหลาดๆนั่นพัดผ่านตัวเรื่อยๆ..

     

         

          เมื่อร่างของทั้งสองค่อยๆลับตาไปลมที่พัดเป็นบ้าเป็นหลังในบริเวณนั้นก็สงบลงพร้อมกับร่างขหนาที่ค่อยๆปรากฎกายออกมาจากมุมมืดของห้องน้ำ เส้นเลือดจำนวนมากปูดบวมขึ้นมาตามใบหน้าท่อนแขนแกร่งและมือที่กำจิกเข้าหากันสั่นระริกอย่างน่ากลัวนัยส์ตาสีดำสนิททั่วทั้งดวงตาจนไม่เห็นสีของตาขาวกำลังจับจ้องไปยังร่างที่พึ่งวิ่งหายไปด้วยสายตาอาฆาตแค้นก่อนที่กรีบปากสีซีดขยับพูดขึ้นมาแผ่วเบาแต่ทว่ากลับก้องกังวาลไปทั้วห้องอาบน้ำเล็กๆ

    ที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์..

    ''เฌอเป็นของฉัน.. ของฉันคนเดียวเท่านั้น!!'' 

     

     

     

     Cher's said

           แสงแดดที่ส่องเข้ามามันแยงตาจนไม่สามารถนอนต่อได้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆเพื่อปรับสภาพสายตาเล็กน้อยหลังจากที่คิดว่าคงหลับไปคืนนึงเต็มๆ

     ''...'' แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเตียงที่นอนอยู่นั้นใหญ่เกินไปที่จะเป็นเตียงที่หอผมหรือเตียงที่ห้องพยายบาลในห้องโถงของหอ ผมค่อยๆกวาดสายตามองไปรอบๆห้องที่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหราแต่ทว่ากับดูเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน หางตาสังเกตุเห็นกรอบรูปที่วางไว้ตรงโต๊ะข้างหัวเตียงเลยค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมารู้สึกเมื่อยขบไปทั่วทั้งตัว เวียนหัวจนต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ..

    ''เฮ้ย..''แล้วก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อสังเกตเห็นว่ามือที่กำลังยกขึ้นมากุมขมับนั้นเล็กเกินไปสำหรับคนอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดอย่างผมไหนจะเสียงเล็กๆที่ออกมาจากลำคอเมื่อกี้นี้อีก

     

    พรึบ!

       ผมเลิกผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะพบว่าร่างของตัวเองที่อยู่ในชุดนอนลายหมีสีฟ้าอ่อนนั้นไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้ชายอายุสี่ขวบเลย ผมเริ่มกวาดตามองรอบห้องอย่างละเอียดอีกครั้งและสายตาก็หยุดตรงกระจกยาวบานนึงที่ตั้งอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่จึงตัดสินใจเดินลงจากเตียงและตรงไปยังกระจกเพื่อสำรวจตัวเองอีกครั้ง 

     

    ''กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งงั้นหรอ?''ผมพึมพำเบาๆหน้ากระจก.. โอ๊ะ! นึกออกแล้วว่าทำไมห้องนี้ถึงดูคุ้นตานักก็เพราะมันเป็นห้องนอนของผมในตอนเด็กยังไงล่ะก่อนที่จะย้ายไปไทยและก่อน.. ที่พ่อกับแม่จะเลิกกัน

         หลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองตรงนี้นานเกินไปผมเลยออกเดินไปยังประตู ไหนๆก็กลับมาเป็นเด็กแล้วขอย้ทนความหลังหน่อยแล้วกัน..

       แกร๊ก

        ผมเอื้อมมือบิดลูกบิดประตูออกช้าๆ หึ.. นึกไม่ถึงเลยแฮะว่าตอนเด็กผมจะเตี้ยขนาดนี้ดูสิแค่เปิดประตูผมยังต้องยืดตัวเปิดประตูห้องเลย

         ทุกอย่างในบ้านนี้ยังเหมือนเดิม ของทุกอย่างถูกจัดอย่างเรียบๆดูสะอาดตา แจกันเก่าแก่ที่พ่อผมหวงนักหวงหนาก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ตุ๊กตาหมีตัวโปรดของแม่ก็ยังคงอยู่ในตู้โชว์ของเล่นเหมือนเดิม รูปถ่ายครอบครัวก็ยังคงแขวนอยู่ที่ฝาผนังในห้องโถงชั้นร่างเหมือนเดิม เหมือนเดิมหมดทุกอย่าง..

          สุดท้ายแล้วผมก็เดินมาหยุดที่หน้าห้องพ่อกับแม่ที่อยู่เกือบสุดบรรไดชั้นสองของบ้าน ลังเลอยู่เหมือนกันว่าผมควรจะเปิดดีมั้ย แต่มันคงไม่ทันเท่าร่างกายของผมที่มันมักทำก่อนความคิดเสมอ..

      แกร๊ก..

    ''ปะป๊า.. มะม๊า..'' ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมออกปากเรียกพ่อกับแม่ไปแบบนั้น แม่เคยเล่าให้ผมฟังว่าตอนเด็กๆผมชอบเรียกพ่อกับแม่แบบนี้แต่พอแม่เลิกกลับพ่อไปผมก็ไม่เคยเรียกอีกเลย บางทีจิดใต้สำนึกอาจจะสั่งให้ผมทำ..

    ''หือ..''และก็เป็นแม่ที่ได้ยินเสียงของผมก่อน แม่ค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมกอดของพ่อเพื่อลุกขึ้นนั่ง รอยยิ้มอ่อนหวานปรากฎขึ้นบนหน้าของหญิงสาวที่ดูอ่อนวัย ผมจำได้ว่าเคยได้ยินป้าแม่บ้านบอกว่าแม่แต่งงานตั้งแต่ยังเด็กน่าจะอายุประมาณ.. สักยี่สิบได้

    ''ตื่นเช้าจังครับลูก.. ไหนมาหามะม๊าหน่อยสิ''ผมค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหาแม่ช้าๆรู้สึกได้ถึงความร้อนตรงขอบตาและร่างกายที่สั่นเทา ภาพสุดท้ายที่แม่หอมแก้มผมก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีกเลยผุดเข้ามาในหัวโดยไม่ทันตั้งตัว..

    ''ตายแล้ว! ร้องไห้ทำไมลูก? ไม่สบายหรอ? ปวดหัวรึเปล่า?''เมื่อแม่จัดการอุ้มผมขึ้นมานั่งบนตักอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วก็ร้องโวยวายขึ้นมาใหญ่จนผมต้องรีบส่ายหัวรัว

    ''อืม.. มีอะไรหรอ?''พ่อที่นอนอยู่ข้างๆแม่พอได้ยินเสียงโวยวายเลยพลอยตื่นไปด้วยก่อนจะพูดกับแม่ป็นภาษอิตาลีด้วยท่าทางงัวเงียแน่นอนว่าผมฟังรู้เรื่อง อาจจะเป็นว่าผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดด้วยล่ะมั้งแต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่ลืมภาษาไทยอยู่ดีเพราะเวลาแม่อยู่กับผมสองคนแม่มักจะพูดภาษาไทยกับผมเสมอ

    ''ก็เฌอน่ะสิค่ะ อยู่ดีๆก็ร้องไห้ถามว่าไม่สบายตรงไหนรึเปล่าก็เอาแต่ส่ายหัว''แม่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ผมหันไปมองหน้าพ่อช้าๆรู้สึกว่ามองหน้าพ่อไม่ค่อยชัดนักเพราะม่านน้ำตาที่มันบังอยู่..

    ''มาหาปะป๊ามา..''พ่อพูดเสียงเบาแต่เสียงนั้นมันกลับดังก้องกังวาลในโสตประสาทของผมไม่หยุด ไม่รอให้แม่ส่งตัวผมไปให้ถึงพ่อดีผมก็รีบเอื้อมแขนเล็กนั่นเกี่ยวคอพ่อทันทีได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของพ่อเบาๆเหมือนเอ็นดูผม

    ''เป็นอะไรครับ? บอกปะป๊าหน่อยได้มั้ยเฌอ''

    ''ป่าวฮับ..''ผมตอบด้วยภาษาอิตาลีอาจจะเป็นเพราะผมอยู่ในร่างของเด็กที่มีเสียงเล็กแหลมเลยทำให้คำที่พูดออกไปด้วยภาษาอิตาลีฟังดูเพี้ยนไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นฟังไม่รู้เรื่อง

    ''ฮะฮะ งั้นหรอครับ? งั้นไหนลองยิ้มหวานให้ปะป๊าดูหน่อย~''พ่อลากเสียงยาวเหมือนเป็นการหลอกล่อเด็กเล็กๆส่วนแม่ก็ขยับตัวเข้ามาใกล้เพื่อที่จะเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนเต็มหน้าของผมก่อนจะหัวเราะเบาๆเมื่อผมยู่หน้าตอนที่ถูกแม่ถูหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    บางทีพวกท่านอาจจะอยากเห็นหน้าของผมตอนยิ้มชัดๆ..

    และคงอยากให้ผมเห็นหน้าพวกท่านตอนมีความสุขชัดๆเหมือนกัน..

    ได้ครับ.. ผมจะยิ้มให้พ่อกับแม่

    ผมรู้สึกฝืดนิดๆอาจจะเป็นเพราะผมไม่เคยยิ้มเลยหลังจากเสียแม่ไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนแต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคและไม่ได้เป็นการฝืนผมเลยแม้แต่น้อย เมื่อพ่อกับแม่เห็นผมยิ้มจนตาหยีโชว์ฟันน้ำนมแล้วก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะเป็นแม่ที่ขยับเข้ามาหอมแก้มผมก่อน..

    ''มะม๊ารักเฌอนะลูก''

    ''ปะป๊าก็รักเฌอนะครับ''ก่อนจะหอมแก้มผมและดึงเข้าไปแนบอกตามด้วยมือแม่ที่ทาบตามลงมาบนแขนพร้อมกับเอียงหัวซบไหล่พ่อเพื่อมองผมที่ซุกหน้าลงไปกับอ้อมอกที่แสนอบอุ่นนี้..

           ผมค่อยๆหลับตาลงช้าๆสูดดมกลิ่นไอแดดใสตอนเช้าบวกกับกลิ่นหอมหวานเฉพาะของพ่อและแม่ เสียงนกที่คลอเบาๆทำให้เปลือกตาของผมหนักอึ้งเข้าไปอีก ต้องยอมรับเลยว่าผมไม่เคยอยากหยุดเวลาได้เท่านี้มาก่อน ใช่ ผมอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ เวลาพวกเรามีความสุขกันสามคนพ่อแม่ลูก..

     

    เฌอก็รักปะป๊ากับมะม๊าครับ..

     

    เคร้ง!!


    "เฮือก!.."



     

     
          
    TO BE CONTINUED..




    ------------------------------------------------------------------------------------------------------

    writer talk :

    มาแล้วค่าาาาา ตอนที่สอง ที่ทุกคนรอคอย//ใครรอแกไรท์?//ไรท์ไม่รู้ ขอไรเพ้อแปป T^T
    บอกตรงๆเลยนะค่ะตอนนี้แต่งไปน้ำตาคลอไปสงสารน้องเฌออออ
    ส่วนพี่ชาญ.. ทำไมพี่หื่นอย่างนี้ค่ะ! (อ่าว -..-) แล้วก็ไหนจะสิ่งที่ไม่สามรถอธบายได้(?)
    ยังโผล่มาทำร้ายน้องเฌออีก
    เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะะะ

    ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นท์นะค่ะ (;
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×