คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : C H A P T E R F I V E ❃
CHAPTER FIVE
ในยามที่แสงจัทร์สาดส่องลงบนเลือดสีสด..
.
.
.
.
เพราะว่าสิ่งที่ผมเจอคือสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถสัมผัสได้แต่ผมสัมผัสได้ยังไงล่ะครับ..
ก่อนหน้านั้น..
“ฮึก..” ผมหยุดชะงักมือที่กำลังควักไขว่อยู่กับการเก็บสำลีและถาดยาต่างๆเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเล็กๆดังมาจากคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงด้านหลังผม ก่อนจะค่อยๆหันไปมองช้าๆและก็พบกับใบหน้าสวยหวานที่หางตาเปอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
ปวดหัวหรือเปล่า?
ผมตัดสินใจเดินตรงไปหานางฟ้าของชั้นปีช้าๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนไข้ก่อนจะวางฝ่ามือลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา..
“เฮือก..” ทันได้นั้นร่างกายทุกส่วนก็ชาดิกไปหมด ลมหายใจขาดห้วง พร้อมกับดวงตาที่เบิกโพลงและมีภาพทับซ้อนอยู่ในม่านตาของผม ภาพต่างๆไหลไปเร็วจนผมไม่สามารถจดจำมันได้หมดแต่เมื่อลองพินิจดูแล้วภาพทุกอย่างที่ฉายให้ผมเห็นอยู่นั้นมันดูเหมือนจะเป็นความทรงจำของใครบางคน ซึ่งในความทรงจำนั้นมีเฌออยู่ด้วย..
ก่อนที่ภาพจะหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่งซึ่งจะเรียกว่าเป็นห้องก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะสิ่งของต่างๆโดยรอบนั้นแทบจะกลายเป็นเพียงแค่ซากประหรักหักพังที่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมดถึงแม้ว่าจะมองเห็นไม่ค่อยชัดนั้นเพราะมันดูมืดมาก แต่ผมก็มั่นใจว่าสภาพมันคงดูไม่จืดเท่าไหร่
“คิกคิก..” เสียงหัวเราะเล็กๆดังมาจากใจกลางห้องที่มืดมิดฟังดูแล้วน่าจะเป็นเสียงของเด็กผู้ชายซะมากกว่าเสียงของเด็กผู้หญิง
ภาพทุกอย่างๆค่อยๆชัดขึ้นเมื่อแสงจันทร์เริ่มส่องลอดเข้ามาในหน้าต่างผ่านจากจุดที่อยู่ใกล้สายตาของผมที่สุดก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆจนถึงกลางห้อง..
ร่างของเด็กผู้ชายอายุราวๆสิบขวบที่กำลังคอพับอยู่ตรงกับตำแน่งที่แสงจันทร์ส่องพอดี เลือดสีสดที่อาบไปทั่วร่างกายเล็กสะท้อนหยอกล้อกับแสงสว่างด้านนอกจนเกิดประกายวิบวับดูสวยงามแต่กลับชวนให้ผมคลื่นไส้ ใบหน้าเล็กที่ก้มลงส่งเสียงหัวเราะเบาๆขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ แว่วเสียงของกระดูกที่เคลื่อนตัวดังกรอบแกรบจนผมขนลุกกลัวว่าศรีษะเล็กๆนั่นจะหลุดออกมาจากบ่าซะก่อนที่จะได้เงยหน้าขึ้นเต็มที่
กรึบ..
เสียงกระดูกลั่นครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลงพร้อมกับผมที่ได้เห็นใบหน้านั้นอย่างเต็มตา ดวงตาบอบช้ำที่ตอนแรกมีนัยต์ตาเหมือนคนปกติปกติทั่วไปแต่ในเวลาต่อมาไม่นานนักกลับวิ่งกลอกไปมาและเปลี่ยนเป็นสีดำสนิททั่วทั้งดวงตาดูคล้ายกับจระเข้ที่กลับเปลือกตาเพื่ออำพลางเหยื่อ ตามใบหน้ามีเพียงเลือดที่อาบเต็มไปหมดจนแทบจะมองไม่เห็นเคล้าโครงเดิม ริมฝีปากสีซีดจัดจนแทบจะเป็นสีเขียวช้ำขยับยกยิ้มขึ้นช้าๆแต่กลับกว้างซะจนเกือบถึงใบหู เลือดที่ตอนแรกเหมือนจะหยุดไหลไปแล้วบัดนี้มันกลับไหลลงมาจากดวงตา จมูก และปากไม่ยอมหยุด ก่อนที่ร่างตรงหน้าจะเอ่ยถ้อยคำออกมาเป็นเสียงสดใสก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงแหบใหญ่ในช่วงหลังซึ่งมันทำให้ผมมือไม้อ่อนและแทบจะหยุดหายใจเลยทีเดียว..
“คิกคิก.. รู้อะไรมั้ย? เฌอน่ะเป็นของฉัน.. ของฉันคนเดียวเท่านั้น!!”
เคร้ง!!
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าเฌอเดินลับตาไปแล้วพลางคิดทบทวนในสิ่งที่เพิ่งร้องขอร่างบางไป
ทำถูกแล้วล่ะ ฉันทนดูคนอื่นเจ็บปวดไม่ได้หรอก..
ผมกลับหลังหันเดินเข้าห้องพยาบาลพร้อมกับนึกทบทวนภาพความทรงจำที่ผมเห็นหลังจากสัมผัสตัวเฌอ ถึงผมจะเป็นคนที่มีเซนส์เกี่ยวกับวิญญาณตั้งแต่เกิด แต่ก็ต้องขอยอมรับเลยว่าภาพที่ผมเห็นนั้นมันน่ากลัวจนเกินบรรยายจริงๆแล้วไหนจะสิ่งที่เด็กคนนั้นพูดอีก รับประกันร้อยเปอร์เซ็นว่าไม่ได้มาดีแน่นอนเพราะฉะนั้นผมไม่ปล่อยไว้แน่..
เด็กผู้ชายคนนั้น..
“ว่าไงหนุ่มน้อย.. กำลังคิดถึงฉันอยู่รึไง? ฮะ!!”
“เฮือก!!”
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อพบกับชายหนุ่มร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก ผิวสีซีดขาวจนมองเห็นเส้นเลือดที่เขียวปูดตามใบหน้า ดวงตาสีดำสนิทยังคงเต็มไปด้วยสีของรัตติกาลเหมือนก่อนหน้านี้ ริมฝีปากสีซีดสั่นระริดด้วยแรงโทสะ คมเคี้ยวเรียวยาวโผล่พ้นริมฝีปากเรียวออกมาเล็กน้อยพร้อมกับร่างที่ค่อยๆย่างกายเข้ามาหาผมช้าในขณะที่ผมถอยหลังไปเรื่อยๆ..
ไม่ผิดแน่.. ร่างตรงหน้าผมเป็นคนๆเดียวกันกับเด็กผู้ชายคนนั้น!
“จะไปไหน!”
ทันทีที่ผมหันหลังเตรียมจะออกวิ่งแรงฉุดมหาศาลจากคนตรงหน้าก็สามารถรั้งตัวผมทั้งตัวให้ปลิวไปกระทบกับอกแกร่งของมันได้อย่างง่ายดาย มือเย็นเชียบข้างที่เหลือก็เอื้อมมาหยุดมือของผมที่พยายามทุบตีมันอย่างถึงที่สุดก่อนจะรวบมันไว้กับข้างเดียวกันในตอนแรก
“ป.. ปล่อยนะ ปล่อย!!”
ความพยายามของผมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ผมยังคงดิ้นต่อไปโดยใช้เท้าทั้งสองข้างที่ยังคงว่างอยู่ถีบและดันตัวเองให้ออกห่างจากคนๆนี้..
ไม่สิ.. มันไม่ใช่คน!
“ฮึก!!”
“หุบปากซะ!!” เสียงหน้าแหบพร่าอย่างน่ากลัวตวาดขั้นก่อนจะเอื้อมมือที่เปรียบเสมือนคีมเหล็กมาบีบคางผมไว้แน่น
“ฉ.. ฉันไป.. ทำ.. อะไรให้แก!” ผมฝืนพูดประโยคนี้ออกมาอย่างยากเย็นเพราะอุปสรรค์ที่อยู่ตรงระหว่างคางและแก้ม
“หึ.. ทำอะไรให้หรอ?”
“...”
“จะบอกอะไรให้นะ ก็ไอ้การที่แกมาเสือ.กเรื่องของฉันไง นี่แหละที่แกทำน่ะ” หมอนั่นประกาศเสียงดังก่อนจะเหวี่ยงมือออกจาคางแต่ก็ยังคงไม่ปล่อยข้อมือของผมให้เป็นอิสระอยู่ดี
“แต่แกไม่สมควรทำแบบนี้ แกมันไม่ใช่มนุษย์.. กลับไปอยู่ที่ของตัวเองซะไป” ผมตะคอกอย่างเสียงดังก่อนจะสะบัดมือออกในช่วงเวลาที่มันเผลอพร้อมกับชกเข้าที่ใบหน้ามันอย่างจัง
พลั่ก!!
หน้าของมันหันไปตามแรงชกของผมก่อนที่มันจะค่อยๆหันกับมามองผมที่มัวแต่กลัวจนก้าวขาไม่ออก เพราะตอนนี้หมอนี่น่ากลัวยิ่งกว่าอะไรบนโลกที่ผมเคยพบเจอซะอีก!
เพี๊ยะ!
ความชาแล่นลิ่วไปทั่วใบหน้าก่อนจะตามมาด้วยอาการปวดหนึบและรสชาติฝาดของเลือด ข้าวของรอบตัวกระจัดกระจายเต็มไปหมดอาจเป็นเพราะการต่อสู้เมื่อครู่ ร่างของผมล้มลงไปนอนกองกับพื้นเนื่องจากแรงตบที่แรงกว่าแรงชกของผมเป็นร้อยเท่า และน้ำตาของผมไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว..
“ลุกขึ้นมา ว่าจะยังปากเก่งได้อีกมั้ย” ว่าก่อนที่จะส่งมือมาบีบลำคอของผมแน่นพร้อมยกร่างของผมขึ้นกระแทกเข้ากับตู้ยาเหล็กจนเกิดเสียงดังสนั่น รู้สึกมึนๆเหมือนโลกหมุนไม่หยุดพร้อมกับลมหายใจที่ใกล้ขาดห้วง..
“แค่ก.. ป.. ปล่อย.. คะ.. แค่กๆ”ผมเริ่มไอโครกออกมาอย่างน่ากลัว สติเริ่มพร่าเลือน หัวใจเต้นถี่รัวคล้ายจะขาดใจเสียให้ได้ ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเพราะม่านตาที่บดบังทุกสิ่งในขณะที่หมอนั่นเพิ่มแรงบีบที่มือมาขึ้นเรื่อยๆและเรื่อยๆ..
“ตอนแรกฉันกะจะแค่สั่งสอนแก.. แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
“...”
“ฆ่าแกทิ้งซะให้สิ้นเรื่องคงจะง่ายกว่า!”
นี่คือจุดจบของผมใช่มั้ย?.. ผมจะต้องตายจริงๆหรอ?
พ่อฮะ แม่ฮะ..
ได้โปรด.. ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตา..
แกร๊กกก ปึงง!!!
TO BE CONTINUED..
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
writer talk :
มาแล้วค่าาาาา//อย่าถีบไรท์ค่ะ ขอร้อง -/\- ไม่รู้ยังมีใครรออยู่มั้ยหน๊อออ?//เงียบ..
ฮรือออออ เค้าผิดไปแล้วนะตัวเอง ก็เค้าเพิ่งเปิดเรียนอ่ะหัวหมุนเลยนะตัวเองรู้มั้ย?//ใครคือตัวเองของแกนังไรท์?
เอาเป็นว่าไรท์กราบขอโทษงามๆเลยนะค่ะที่มาอัพช้า(แต่อัพเต็มนะเออ)
ตอนนี้ต้องขอยกให้หนูนิ่มเลยย นางอึด ถึก จริง! 55555
ส่วนใครเป็นทำร้ายหนูนิ่มนั้น..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ ไรท์จะพยายามมาอัพให้บ่อยที่สุดเลยค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นท์นะค่ะ (;
ความคิดเห็น