ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] เมียแก่ เมียแรด เมียอาฆาต [chanbaek]

    ลำดับตอนที่ #38 : หยุดความสัมพันธ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.78K
      5
      25 ก.ค. 57









    คืนของวันต่อมา

     


    ชานยอลยังคงอยู่ที่บ้านแบคฮยอนเหมือนเดิม โดยที่ร่างบางคอยไปรับไปส่งที่โรงเรียนเกือบทุกวัน เพียงแต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นเริ่มเปลี่ยนไป โดยที่พยายามจะตีตัวออกไปเรื่อยๆ ถามคำตอบคำ หรือบางทีก็ขึ้นเสียงใส่อย่างไม่มีเหตุผล เวลาจะขอมีอะไรด้วยกัน แบคฮยอนต้องบ่ายเบี่ยงทุกที จนชานยอลต้องช่วยตัวเอง เพื่อปลดปล่อยความใคร่อย่างน่าเวทนา

     

    ซึ่งวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ชานยอลจึงอดไม่ได้ที่จะถามในขณะที่แบคฮยอนกำลังแต่งตัวออกไปเที่ยวกลางคืน

     

    คุณจะไปไหน

     

    ไปทำงาน” แบคฮยอนตอบปัดๆ เหมือนรำคาญ

     

    ออกไปทำงานงั้นเหรอ จะออกไปทำไมตอนนี้” ชานยอลทวนคำถามในทันที

     

    พอดีลูกค้านัดออกไปนั่งดื่ม ตามประสาคนมีงานทำ” ประโยคสุดท้ายเน้นย้ำเป็นพิเศษอย่างประชดประชัน แต่ตอนนี้ ชานยอลไม่มีเวลาจะสนใจคำพูดของคนรักอีกแล้วทั้งนั้น

     

    งั้นผมไปด้วย” ร่างสูงพูดเสนอ

     

    ไม่ต้อง!!” แต่กลับถูกแบคฮยอนปฏิเสธเสียงดัง 

     

    แล้วทำไมคุณต้องโมโหใส่ผมด้วย ผมถามแค่เนี่ยเอง” ชานยอลมุ่ยหน้าพูด เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ที่คนตัวเล็กตวาดเสียงใส่หน้าแรงๆแบบนี้

     

    ก็นายชอบเซ้าซี้ฉันนี่ ฉันรำคาญ

     

    คำก็รำคาญสองคำก็รำคาญ แบคฮยอน ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้ชอบต่อว่าผมนัก ถามจริงๆเหอะ คุณเป็นอะไรไป ชานยอลพยายามเค้นเอาความจริง

     

    ฉันไม่ว่างพอที่จะตอบคำถามปัญญาอ่อนของนายหรอกนะ ฉันไปดีกว่า เสียเวลากับนายมานานมากพอแล้ว

     

    เมื่อสิ้นสุดความพูด แบคฮยอนก็หมุนตัวเดินหนีออกจากบ้านไปในทันที ซึ่งเหตุการณ์มันก็ซ้ำๆซากๆเป็นเวลาหลายคืนแล้ว... และเมื่อเวลาที่ร่างสูงจะถามหรือทำอะไร ก็มักจะมีเครื่องหมายผิดติดตัวกลับมาทุกครั้ง...

     

    คราวนี้ชานยอลจึงอดไม่ได้ที่จะตามแบคฮยอนไป โดยที่พยายามไม่ทำให้อีกฝ่ายนั้นรู้ตัว เอาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าแบคฮยอนนั้นคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่

     

     

     

    ที่ผับใจกลางเมือง

     

    ชานยอลพยายามพาตัวเองเดินฝ่าฝูงคนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามันเมื่อดีเจกำลังเปิดเพลงในจังหวะสนุกสนาน... พร้อมทั้งเปิดแสงไฟลากสีสลับกันไปมา เอาจนเจ้าของร่างสูงมองหาคนที่สำคัญอย่างลำบาก

     

    แต่พอผ่านไปสักพัก

     

    เสียงเพลงดังๆในจังหวะเร็วๆก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นในจังหวะซึ้งๆ ชวนให้คนรักหลายคู่พากันออกไปเต้นเพื่อแสดงความหวานกัน โดยเฉพาะคู่ชายสองคนนั้นที่ทำให้บรรยากาศนั้นโดดเด่นเป็นพิเศษ

     

    หึ ที่แท้ ความจริงทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ๆเอง 

     

    เขาอุตส่าห์จงรักพักดีเสมอมา แต่สุดท้ายกับโดนหักหลังจนไม่เหลือชิ้นดี เขาไม่อยากจะเชื่อกับการกระทำของคนที่เคยบอกว่ารักเขาคนเดียว.. นี่นะเหรอ คนที่เคยสัญญาว่าจะไม่นอกใจกัน แต่คำพูดของเขานั้น ไม่ต่างอะไรกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามา แล้วก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

     

    ชานยอลกำมือไว้แน่น แววตาคู่คมกำลังเบิกกว้างขึ้นจนน่ากลัว และถ้าวันนี้เขาไม่ชกหน้าชายชู้อย่างไอ้จงเบนั่น เขาขอยอมตายดีกว่า

     

    ผลัก!!” 

     

    ชานยอลผลักคนที่กำลังโอบกอดเอวของร่างบางให้ออกจากกัน ก่อนจะใช้มือหนาๆต่อยหน้าจนฝ่ายกรณีจนเสียการทรงตัวจนไม่เป็นท่า เรียกสายตาของคนที่อยู่ล้อมรอบต่างก็หันมองโดยอัตโนมัติ

     

    นี่นาย เกิดเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย!!” แบคฮยอนหันหน้ามาต่อว่าด้วยความโมโห พร้อมกับช่วยประคองคนที่ล้มลงพื้นให้ยืนขึ้น คนที่โมโหมันควรจะเป็นเขามากกว่า

     

    คุณต่างหากที่เป็นบ้าอะไรไป ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามยุ่งวุ่นวายกับมันอีก!” ชานยอลชี้นิ้วต่อว่าอย่างเกรี้ยวกราด

     

    มันก็เรื่องของฉัน แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาตามฉันถึงที่นี่ หา!”

     

    ก็มีสิทธิ์ในความเป็นผ_” ไม่ทันที่ชานยอลจะพูดคำที่จงใจ แต่ก็ถูกแบคฮยอนตัดความเสียก่อน

     

    หยุดเดี๋ยวนี้ อย่ามาพูดอะไรที่ทำให้ฉันขายขี้หน้าเลยนะ!!”

     

    หึ คุณต่างหากที่ทำเรื่องน่าอายใส่ตัวเอง ร่วมทั้งไอ้บ้านั่นด้วย!”

     

    นี่ นายไม่สิทธิ์มาใช่คำไม่สุภาพกับพี่จงเบนะนายเป็นเด็กก็ควรจะให้ความเคารพผู้ใหญ่บ้าง!”

     

    เข้าข้างกันขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะคุณมีอะไรกันมันแล้วใช่ไหม!!”

     

    เพียะ!” ฝามือของคนที่ชานยอลนั้นรักที่สุดดั่งดวงใจยกขึ้นตบใบหน้าของขาวๆของเขาอย่างจัง จนทำให้เขาหันหน้าไปตามความแรง ก่อนจะตามมาด้วยรอยแดงๆ

     

    ชานยอลพยายามหันหน้าไปมองแบคฮยอนช้าๆ พร้อมทั้งหลั่งน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่าคนกำลังจะขาดใจตาย

     

    ในที่สุดสิ่งที่สงสัยมาตลอด มันก็เป็นแบบนี้ๆเอง

     

    ฮึก แบคฮยอน ทุกอย่างมันจบแล้วใช่ไหม” ชานยอลถามด้วยน้ำตา เพราะเขาคงเข้มแข็งไม่พอเหมือนกันกับคนรักได้ ที่กำลังยืนทำหน้าตาเฉยชา

     

    ใช่!! ทุกอย่างมันจบแล้ว ส่วนนายก็ควรจะหลีกทางให้พวกฉันซะ ฉันน่ะ ไม่มีทางที่จะอยากจะฝากชีวิตไว้ให้กับนายหรอก แล้วที่สำคัญ ฉันมีทางเลือกที่ดีแล้ว เพราะฉะนั้น นายก็ช่วยออกไปจากชีวิตของฉันซะที!!

     

    เพียงแค่คำพูดที่ตัดความสัมพันธ์ไม่กี่คำ เหมือนว่าโลกทั้งโลกของชานยอลกำลังจะหยุดหมุนไปชั่วขณะ.. น้ำตาที่คิดจะพยายามอดกลั้นไว้ มันยังคงไหลรินด้วยความเสียใจมากกว่าเดิม ความรู้สึกมันร้าวรานกัดกินหัวใจของเขาไปหมด

     

    เจ็บปวดกับการที่โดนคนรักนั้นตบ

     

    เจ็บปวดที่โดนเหยียบหัวใจจนแหลกสลาย

     

    เจ็บปวดที่เรื่องของพวกเขาทั้งสองเดินทางมาถึงตอนจบแล้ว

     

    ฮึก ได้ ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ผม ฮึก ขอให้มีความสุขกับคนใหม่ของคุณนะ

     

    สิ้นสุดคำบอกกล่าวครั้งสุด ชานยอลจนหมุนตัวเดินจากทั้งสองไป มือที่เคยกำไว้ ก็ถูกปล่อยลง เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะจบลงได้อยากโหดร้ายถึงเพียงนี้

     

    เดี๋ยว” แบคฮยอนร้องเรียกไล่หลัง ชานยอลจึงหันหน้ากลับมองในทันที

               

    “T_T”

     

    เอานี้ไปด้วย!!” แบคฮยอนกระชากสร้อยที่เขาเคยให้ขาดออกจากกัน แล้วปามันใส่หน้า

     

    ชานยอลจึงใช้แรงที่เหลืออยู่อย่างอ้อนล้า ก้มลงไปเก็บสร้อยก่อนจะกำมันจนแน่นมือ.. หากความเจ็บปวดมันไม่เทียบเท่ากับคนที่รักนั้นตอบแทนให้แม้แต่เศษเดียว

     

    แต่ถึงยังไง เขาก็คงต้องขอบคุณแบคฮยอนที่ทำให้เขารู้จักความรักและความร้าวรานในเวลาเดียวกัน

     

    ลาก่อน สุดที่รักของผม

     

     

     

    ทางด้านแบคฮยอน เมื่อเห็นว่าเขาหายไปสักพักอยู่ๆน้ำตาก็ไหลคลอเบ้าตา เรื่องราวของร่างบางกับเด็กหนุ่มมันได้จบลงแล้วด้วยความตั้งใจของแบคฮยอนเอง

     

    ฮึก” น้ำตา ที่แบคฮยอนพยายามอดกลั้นไว้เหมือนดังคนเคยรักกัน ในที่สุดมันก็ไหลออกมาอาบแก้มเนียนทั้งสองข้าง เป็นเพราะหัวใจของร่างบางไม่เข้มแข็งพอที่จำทำใจยอมรับได้

     

    ถ้าแบครักชานยอลขนาดนั้น ทำไมแบคถึงปล่อยเขาไปล่ะครับ” จงเบเลื่อนมือขึ้นเช็ดน้ำตาเบาๆ พาแบคฮยอนไปนั่งที่เดิม เลยทำให้คนที่มองค่อยๆเลิกสนใจ

     

    ฮึก เพราะแบครักเขาไง ถึงได้ปล่อยเขาไป ฮือ” ร่างบอกทั้งปนเสียงสะอื้น

     

    หมายความว่าไง พี่ไม่เข้าใจ

     

    ฮึก หลายวันก่อน พ่อของเขาโทรมาบอกให้เราเลิกกัน เพราะไม่อยากให้แบคทำลายอนาคตของเขา แล้วอีกไม่นาน ชานยอลก็จะไปเรียนที่ต่างประเทศ ฮึก ที่แบคทำไปทั้งหมด มันถูกแล้วใช่ไหม ฮือๆๆ” แบคฮยอนพยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติ แต่ก็ทำไมได้

     

    ความรักคือการเสียสละ สิ่งที่แบคทำมันก็ถูกแล้วนะครับ ในเมื่อชานยอลยังเด็กและก็ควรมีอนาคตอีกตั้งไกล ถ้าพี่เป็นแบค พี่ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม” จงเบอธิบายด้วยเสียงที่เบาบา วางมือลงมาทีมือเรียวๆของแบคฮยอนเพื่อเป็นการปลอบใจ แต่ถึงยังไงความเจ็บปวดมันยังไม่จางหายไปอยู่ดี

     

    ฮึก ขอบคุณมากนะครับ

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าแบคมีอะไรอยากจากระบาย ก็ระบายออกมาได้นะครับ เพราะการปลดปล่อยในสิ่งที่อัดอั้นใจออกมา กับใครสักคน มันก็อาจจะทำให้แบครู้สึกดีขึ้น... แล้วสิ่งที่แบคเคยถามพี่ว่า จะสานความสัมพันธ์กันกับพี่ ตอนนี้พี่ให้คำตอบแบคได้แล้วนะ

     

    T_T

     

    พี่เลือกแล้วว่า พี่ขออยู่ห่างจากแบคดีกว่า เพระว่าแบคไม่เหลือความรักไว้ให้ใครอีกแล้ว พี่เลยไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่แบคกำลังทำมันเกิดจากความรู้สึกข้างใน แต่ความจริง แบคกำลังฝืนทำมากกว่า

     

    ครับ” 

     

    แต่ว่าเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะ ถ้าแบคมีอะไรไม่สบายใจก็โทรหาพี่ได้เสมอ

     

    ขอบคุณนะครับ ที่เป็นห่วงแบค

     

    ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นหน้าที่ของเพื่อนอยู่แล้ว” จงเบส่งยิ้มให้จางๆ

     

    ต่อไป ร่างบางก็คงจะกลับไปใช้ชีวิตที่น่าเบื่อและทรมานแบบเดิมอีกครั้ง โดยที่ไม่มีเด็กหนุ่มที่เคยรักกันเหมือนวันเก่าอีก

     

    ลาก่อน สุดที่รักของฉัน

     

     

     

     

     

    ตั้งแต่ที่เลย์หนีออกจากบ้านตัวเองแล้วมาอยู่บ้านของคริส หรือจะเรียกง่ายๆหนีตามผู้ชายมา ก็ไม่เคยคิดที่จะกลับไปเหยียบที่นั้นอีกเลย ถึงแม้พ่อจะรู้แล้วว่า ผู้เป็นพ่อจะใจเย็นลงบ้างแล้วก็ตาม... ส่วนผู้เป็นแม่นั้น พอทราบข่าวกลับยินดีจนออกหน้าออกตาแทนที่จะโกรธ เพราะนางอยากจะอุ้มหลานเต็มแก่ แล้วจะกลับลงมาโซลอีกครั้ง ก็คงจะเป็นเมื่อเวลาที่คริสกับเลย์นั้นเข้าพิธีแต่งงานกัน

     

    ทว่าก่อนที่เลย์จะกลับบ้านตัวเองไป ก็ขอจัดการเรื่องหนึ่งให้มันจบสิ้น เพราะมันเป็นเรื่องที่ค้างคาที่สุดตอนนี้ ซึ่งนั้นก็คือ เรื่องระหว่าง แบคฮยอนกับชานยอล ที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาแตกหักโดยไม่เหลือชิ้นดี.. สภาพของแต่ละฝ่าย ต่างก็บอบช้ำจนน่าใจหาย...

     

    เมื่อโทรไปถามจีซกและยุริ ทั้งสองก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าแบคฮยอนไม่ได้เข้าร้านเป็นเวลาสองสามวันแล้ว เลย์จึงมั่นใจได้ว่า เพื่อนรักของตนก็คงจะไม่มีทางไปไหนได้ นอกจากจะหมกตัวอยู่ในบ้านของตัวเอง ... เลย์จึงหอบสังขาร บุกมาที่บ้านของเจ้าตัวในทีเพราะปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้ไม่ได้

     

    ออดๆๆๆ” เลย์ยืนกดออดที่หน้าบ้านของแบคฮยอนหลายๆครั้ง...แต่ก็ยังไม่มีใครจะเดินออกประตูให้ ร่างบางจึงลองกดซ้ำๆอีก แต่ยังไงก็ไร้วี่แววของเจ้าของบ้านมาไขประตูให้เลย

     

    เมื่อเป็นแบบนั้น เลย์จึงตัดสินใจปีนบ้านเข้าไปเสียเลย เดินไปตรงประตูบ้าน พอเลื่อนมือไปบิดลูกบิด มันก็สามารถเปิดไขเข้าไปได้ง่ายดาย.. เมื่อไร้ซึ่งการล็อกเอาไว้ เลย์จึงก้าวเดินเข้าไปข้างในตรงบริเวณห้องรับแขก สภาพทุกอย่าง มันเงียบกริบ หน้าต่างถูกอย่างก็ถูกปิดไว้ทุกอย่าง ไม่ต่างอะไรกับเข้ามาบ้านร้าง เพียงแค่ข้าวของทุกอย่างยังคงเป็นระเบียบเหมือนเดิมทุกอย่างก็เท่านั้น

     

    ตึกๆๆ” จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงรองเท้าดังขึ้นตรงมาจากบันได ปรากฏให้เห็น ชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างผอมบางลงจนผิดปกติ ใบหน้าเรียวหวานทรุดโทรมจนแทบดูไม่ได้ เหมือนกำลังเพิ่งหยุดร้องไห้มาหมาดๆ

     

    แกเองเหรอไอ้เลย์ โทษทีนะ พอดีลงมาช้าไปหน่อย เลยไม่ทันที่จะเปิดประตูให้แก” แบคฮยอนเอ่ยทักทายผ่านน้ำเสียงที่อ่อนล้าเหลือเกิน พาร่างกันอันบอบบางเดินมานั่งตรงโซฟาขนาดใหญ่ โดยที่เลย์ก็นั่งลงทางด้านตรงกันข้าม

     

    ไม่เป็นไรหรอก ดูจากสภาพแกแล้ว กว่าจะเดินไปถึงประตู ฉันก็คงจะยืนรอจนรากมันงอกออกจากเท้าฉันแน่นอน

     

    ก็ฉันไม่สบายนิดหน่อยนี่

     

    หึ คงจะไม่หน่อยแล้วล่ะมั้ง ตอนแรกที่ฉันเห็นแก ฉันก็นึกว่าศพเดินได้ซะอีก

     

    แล้วแกมีเรื่องอะไรกับฉันเหรอ” แบคฮยอนเริ่มเข้าตรงประเด็น ซึ่งมันก็ดีสำหรับเลย์ เพราะจะได้พูดตามที่ตนนั้นต้องการอยู่พอดี

     

    ก็เรื่องที่แกเลิกกับชานยอลนั่นแหละ คือฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกแกถึงได้เลิกกันได้วะ ทั้งๆที่ก็เห็นว่ารักกันดีซะขนาดนั้น

     

    แบคฮยอนเงียบนิ่งไปชั่วครู่เมื่อเจอคำถามที่ตอบได้ยากเหลือเกิน ตนพอจะทราบอยู่แล้วว่าที่เลย์มาหาก็คงจะเป็นเพราะสาเหตุนี้อย่างเดียว จึงขยับปากพูดออกไป

     

    ฉันกับเขาเข้ากันไม่ได้ ฉันก็บอกเลิก เเละที่สำคัญเราไมืได้รักกัน คบไปก็เท่านั้น” แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และแผ่วเบา แต่คำพูดกับความรู้ข้างในที่มี มันช่างแตกต่างกันอย่างมหาสาร

     

    ไม่ได้รักกันงั้นเหรอ แล้วทำไมแกถึงมีสภาพแบบนี้ล่ะ” เลย์ไม่ค่อยเชื่อกับคำพูดของเพื่อนสักเท่าไหร่

     

    ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่สบาย มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาหรอก

     

    แน่ใจ

     

    อืม แล้วอีกอย่างฉับก็แค่คบเล่นๆ ไม่ได้คิดจะจริงใจอะไรกับเด็กมอปลายอย่างงั้นหรอก” แบคฮยอนพูดโกหกออกไป ซึ่งเหมือนก็ไม่เหมือนจริงเลยสักนิด เมื่อเลย์นั้นสัมผัสถึงความเสียใจ ผ่านทางแววตากลมๆของเพื่อนรักได้อย่างชัดเจน

     

    เหรอ ถ้าชานยอลเขาฟื้นขึ้นมาแล้วได้ยินแกพูดทำร้ายจิตใจแบบนี้ละก็ เขาคงจะเสียใจมากแน่เลย์พูดออกไปเรียบๆ แบบสองแง่

     

    ฟะ ฟื้นขึ้นมา หมายความว่าไง” แบคฮยอนเบิกตาทวนคำถามด้วยความตกใจ

     

    ก็หมายความว่า ฟื้นขึ้นมาจากการเป็นเจ้าชายนิทราน่ะสิ

     

    “.........................”

     

    พอดี ชานยอลโดนรถชนหลังจากที่ขับรถออกมาจากผับแห่งหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน แล้วหมอก็บอกว่า โอกาสที่ชานยอลเขาจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง มันมีแค่สูญ คงต้องรอปาฏิหาริย์อย่างเดียว” เลย์เล่าด้วยน้ำเสียงเศร้า ส่วนคนฟังนั้นนิ่งเงียบขึ้นอีกครั้ง... ก่อนที่ขอบตาจะเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งทนไม่ไหวที่จะอดกลั้นเอาไว้อีก.. น้ำใสๆจึงไหลรินลงมา พร้อมกับความเจ็บปวดที่เริ่มเกาะกินหัวใจ จนมันจุกทั่วทั้งอก

     

    ฮึก ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้กับเขาด้วย.. ฮึก เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย เป็นฉันต่างหากที่ผิด ทำไมสวรรค์ถึงไม่ลงโทษคนอย่างฉันฮือ

     

    แบคฮยอนพูดทั้งเสียงสะอื้น เลย์จึงเคลื่อนตัวเข้าไปกอดปลอบเพื่อนตัวเองเอาไว้ แต่การกระทำของเลย์ กลับยิ่งทำให้เพื่อนของตนนั้นร้องไห้หนักกว่าเดิม

     

    เอ่อ ไอ้แบค แกไม่ต้องร้องไห้นะ คือ เอ่อ ที่ฉันพูดไปทั้งหมดเมื่อกี้ ฉันพูดโกหก

     

    พอได้ยินคำสุดท้าย แบคฮยอนก็ดันตัวของเพื่อนออกในทันที จากที่ร้องไห้หนัก ก็เปลี่ยนมาเพ่งมองอย่างคาดโทษ ไม่รู้ว่าเลย์นั้นคิดถูกหรือเปล่า ที่เอาความเป็นความตายมาพูดเล่น.. แต่ยังไงซะ มันก็เป็นการพิสูจน์ได้แล้วว่า แบคฮยอนยังคงรักชานยอลเหมือนเดิม และก็คงจะรักแบบนั้นตลอดไป

     

    สนุกมากใช่ไหม หา!! ไอ้เลย์ ที่เห็นฉันร้องไห้จนจะเป็นบ้าแบบนี้!!” 

     

    ฉันขอโทษ คือฉันไม่ได้จะตั้งใจพูดโกหกแกเลย ฉันแค่ต้องการจะรู้ว่าแกยังรักชานยอลเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วตอนนี้ฉันก็ได้คำตอบอย่างชัดเจนแล้ว... ส่วนที่แกบอกเลิกเขานั้นมันต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน

     

    “...............”

     

    แล้วเหตุผล มันก็เป็นเพราะ พ่อของชานยอลใช่ไหม

     

    คราวนี้ แบคฮยอนก็ยังคงกลับไปเงียบอีกเช่นเดิม ความโกรธที่มีก็ค่อยๆจางหายลง แต่เลย์ก็พอจะมั่นใจได้ว่า สิ่งที่ตนกำลังคิดอยู่นั้นมันเป็นความจริง

     

    ไอ้ แบค แกเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังเหอะ

     

    ไม่ ฉันไม่อยากจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีก” แบคฮยอนส่ายหน้าตอบปฏิเสธในทันที พลางส่งสายตาที่แสดงถึงความไม่ยอมปริปากบอกออกมาง่ายๆ  เลย์จึงทำได้แค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ

     

    เฮ้อ.... ก็ได้ ไม่ต้องพูดให้ฉันฟังก็ได้ เอาเป็นว่าฉันพอจะเข้าใจอยู่บ้างแล้วแหละ แต่ยังไง ฉันก็อยากให้แกกลับไปคบกับชานยอลเหมือนเดิมนะ

     

    ไอ้เลย์ ฉันบอกแล้วใช่ไหมฉันกับเขาเลิกกันแล้ว แก้วที่มันแตกไปแล้วมันไม่ทางต่อเข้ากันได้อีก

     

    แต่เรื่องมันไม่มีทางจบลงง่ายๆหรอก ถ้าแกไม่ถอยออกมาก่อน ซึ่งสภาพของชานยอลตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับแกนักหรอก ดีไม่ดี อาจจะร้ายแรงกว่าแกด้วยซ้ำ... เพราะ ข้าวก็ไม่แตะ นอนก็ไม่นอน นั่งใจลอยหมดทั้งวันทั้งคืน อยู่ดีๆก็ร้องไห้ออกมาเอง ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้อีกนะ ฉันว่า ชานยอลก็คงจะไม่ไหวแล้วนะเว้ย

     

    ถ้าฉันกลับไปหาเขาอีก เรื่องมันก็ยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม เพราะฉันไม่อยากจะทำลายอนาคตของเขา

     

    แต่ยังไงที่แกทำแบบนี้ มันก็ยังเป็นการทำร้ายเขาอยู่ดี โดยเฉพาะกับจิตใจของเขา

     

    ไอ้ เลย์ พอเหอะ ฉันไม่อยากจะฟัง ถ้าแกจะมาพูดเรืองนี้ แกก็กลับไปเหอะ เพราะฉันเบื่อที่จะฟัง” แบคฮยอนยกมือขึ้นห้าม ก่อนจะลุกหนีออกจากตรงบริเวณนี้ไปเฉยๆ ปล่อยให้เลย์ได้แต่ถอนหายใจเหนื่อยครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมื่อท่าทางของเพื่อนตัวเอง ก็คงจะไม่ยอมกลับไปสานความสัมพันธ์กับคนรักของตัวเองได้อีก

    .

     

     

     

     

     



    To be continued

     
     
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×