ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พ่ายรัก [ChanBaek] [NC 18+]

    ลำดับตอนที่ #15 : ไม่เชื่อกันแล้ว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.52K
      30
      9 เม.ย. 57




                แบคฮยอนนั่งดูเด็กชายจุนกิ กำลังตั้งใจอ่านภาษาอังกฤษอย่างขมักเขม้น เพียงแค่ไม่กี่วัน เจ้าตัวเล็กก็เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชี่อ ความจริงจุนกิเป็นเด็กหัวดี สอนไม่นานก็เข้าใจ และนำเอาไปใช้ได้ดีเลยทีเดียว

     

     

    พอเรียนไปสักพัก จุนกิก็เริ่มหิว เลยเหลียวมองช้ายขวาหาคนใช้ แต่ก็ไม่พบใครสักคน

     

     

    “ผมหิวอ่ะ พี่บ๊อกชิลหายหัวไปไหนเนี่ย ใช่ไม่ได้เลย” จุนกิบ่นอย่างหัวเสีย แบคฮยอนหันไปมองด้วยสายตาเขียวปัด รู้สึกไม่พอใจมากกับคำพูดแต่ละคำของลูกศิษย์




     

                “จุนกิ ใครใช้ให้เธอพูดจากับผู้ใหญ่แบบนั้น มันเสียมารยาทมากเลย รู้ไหม” แบคฮยอนเอ็ด จุนกิจึงก้มหน้าหมองลงอย่างคนรู้สึกผิด ก่อนจะขยับปากพูดออกไป

     

     

                “ผมขอโทษครับ”

     

     

                “เธอไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอก คนที่เธอสมควรขอโทษน่ะ คือคนที่เธอพูดถึงมากกว่า... คราวหลัง ก็ห้ามพูดจาแบบนี้อีกแล้วกัน เข้าใจไหม”

     

     

                “เข้าใจครับ” จุนกิรับคำอย่างรวดเร็ว

     

               

                แบคฮยอนเผลอยิ้มออกมาที่มุมปากบางๆ เมื่อจุนกิยอมรับฟังคำอย่างง่ายดาย และก็หวังว่าเจ้าเด็กตัวแสบจะเป็นเด็กดีแบบนี้ตลอดไป

     

     

                “เธออ่านต่อไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปหาของว่างมาให้”

     

     

                “ครับ”

     

     

                แบคฮยอนลุกขึ้นเดินออกไปยังห้องครัว ความจริงหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของบ๊อกชิล แต่ว่าเธอวุ่นอยู่กับการทำอาหารเย็นให้กับคุณผู้ชายของบ้าน ร่างบางจึงอยากแบ่งเบาภาระให้กับพวกเขาบ้าง

     

     

                ขณะเดียวกัน ก็เป็นเวลาที่ชานยอลเลิกงานอยู่พอดี ชายหนุ่มร่างสูงถอดชุดสูตออกแล้วพาดไว้แขน มืออีกข้างก็ถือกระเป๋านักธุริกิจสีดำ.... เมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังจะเดินไปไหนสักที่ เขาก็เรียกดักไว้ให้หยุด

     

     

                “เดี๋ยว แบคฮยอน”

     

     

    “ครับ” แบคฮยอนหยุด พลางผินหน้าไปขานรับ

     

     

                “วันนี้สอนเป็นยังไงบ้างครับ หลานผมดื้อมากไหม” เขาถามไถ่ถึงหลานชายพร้อมทั้งเดินตรงเข้ามาหาร่างเล็กใกล้ๆ

     

     

                “ก็นิดหน่อยครับ”

     

     

                “ผมว่าคงไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง ดูจากสีหน้าคุณแล้ว คงเหนื่อยน่าดู”

     

     

                “ก็ไม่หรอกครับ ความจริงแล้ว จุนกิก็ไม่ได้ดื้อขนาดนั้นถ้าเราสอนด้วยเหตุผล ซึ่งแกก็ยอมรับฟังผมแต่โดยดี”

     

     

                “เห็นแบบนี้แล้วก็ค่อยสบายใจ”  เขาคลายยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพูดต่อ “ผมนึกไว้แล้วไม่มีผิด ว่าคุณต้องทำให้หลานชายผมเปลี่ยนไปได้”

     

     

                “เป็นเพราะความพยายามและความอดทนมังครับ.. ถ้าผมไม่อดและไม่พยายามเป็นอย่างมาก ปานนี้คงแตกหักกันไปข้างนึงแล้ว”  แบคฮยอนชี้แจง... ก็ต้องใช้ความพยายามจริงๆแหละ ไม่งั้นก็คงเอาไว้ไม่อยู่หรอก

     

     

                “รู้ไหม คุณน่ะ มีอะไรหลายๆอย่างที่น่าทึ่งมากเลยนะ... ผมคิดถูกจริงๆ ที่วานให้คุณช่วย เห็นหลานผมเชื่อฟังคุณทุกอย่าง แค่เนี่ยผมก็สบายใจได้แล้ว”

     

     

                “ก็ไม่หรอกครับ แกก็มีงอแงบ้างตามประสาเด็ก... เอ่อเดี๋ยวผมไปเอาของว่างมาให้หลานคุณก่อนนะครับ เห็นบ่นว่าหิวมาก”

     

     

                พูดจบ แบคฮยอนก็เตรียมจากเดินออกจากบริเวณนั้นไป แต่ชายหนุ่มร่างสูงกลับดึงแขนไว้เสียก่อน แถมยังจับไว้คามืออยู่แบบนั้น

     

     

                “เดี๋ยวครับ หน้าที่นี้ เป็นหน้าที่ของบ๊อกชิลนะ คุณไม่ต้องทำก็ได้”

     

     

                “ผมรู้ แต่พอดีบ๊อกชิลกำลังทำอาหารเย็นอยู่ ผมก็เลยอยากจะช่วยเธอ”

     

     

                ร่างบอกตอบ เขาจึงพยักหน้ารับเป็นการเข้าใจ

     

     

                “เอ่อคุณชานยอลครับ ปล่อยแขนผมได้แล้ว”

     

     

                แบคฮยอนเอ่ยขึ้น เรียกสติของเขากลับขืนมา แล้วจึงปล่อยแขนของร่างบางออก... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแขนแบคฮยอนจะหนุ่มเหมือนผิวเด็กขนาดนี้ทั้งๆที่ก็เคยทำงานหนักมาก่อน

     

    พอร่างบางเดินออกไป เขาก็ยกมือสากๆขึ้นสัมผัสตรงปลายจมูกคมๆของตัวเอง เลยได้กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้ง ชานยอลยิ้มออกมาที่มุมปากบางๆ นับวันยิ่งจะหลงไหลคนตัวเล็กมากขึ้น เขายอมรับได้แล้วว่า หัวใจของเขา มันอยู่กับแบคฮยอนแล้วเรียบร้อย

     

     

                แบคฮยอนเดินไปที่ห้องครัว หยิบของว่างที่จุนกิชอบทานแล้วเอากลับมาให้... เด็กชายหยิบขึ้นทานทันที ไม่ทันที่แบคฮยอนจะเอ่ยห้าม เพราะควรจะล้างมือเสียก่อน... ร่างบางจึงดุเด็กชายเสียงเข้ม เด็กชายจชะงักมือออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปล้างมือตามคำสั่ง แล้วกลับมาทานต่อ

     

     

     

                ทุกๆการกระทำ ล้วนแต่อยู่ในสายตาของร่างสูง เขาอมยิ้มอย่างมีความสุข ที่เห็นหลานชายสุดแสบยิ่งกว่าลิง ยอมอยู่ในโอวาดของแบคฮยอน... เขายังไม่เคยเห็นจุนกิยอมใครง่ายๆนอกจากเขามาก่อน....

     

     

                แต่ใช่ว่าเขาจะเชื่อสนิท บางทีหลานชายตัวแสบอาจจะมีแผนการร้ายกาจซ่อนอยู่ก็ได้ ใครจะรู้... จุนกิยิ่งเป็นเด็กจอมวางแผนอยู่ด้วยแล้ว... ต่อหน้าแกล้งทำเป็นดี พอลับหลังกลับคิดแผนการอะไรไว้ก็ไม่รู้ ยังไงเขาก็คงดูไปเรื่อยๆ ว่าจุนกิจะเปลี่ยนเป็นเด็กดีเหมือนกับเด็กๆทั่วไปหรือเปล่า

     

     

                เมื่อสอนกันเสร็จ ก็ถึงเวลาอาหารช่วงเย็นพอดี นักเรียนและอาจารย์ก็ถูกเรียกเชิญมาทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา จุนกิปฏิบัติตามีคำสั่งของแบคฮยอนทุกอย่าง เช่นควรไปล้างมือก่อนทานอาหารทุกครั้ง  

     

     

    แบคฮยอน นี่ช่างเก่งเหลือเกิน เหตุผลนี้แหละที่ทำให้เขามีความสุขเมื่อมีร่างบางอยู่ใกล้

     

     

                แต่เมื่อทานข้าวไปได้สักพัก

     

     

                ตุบ!

     

     

                อยู่ๆเจ้ากบตัวเสียวเขียว มาจากไหนก็ไม่รู้ กำลังกระโดดโลดเต้นบนโต๊ะทานข้าวของพวกเขา ชานยอลที่กำลังทานซุบอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับสำลักออกมาในทันที

     

     

                "แค๊กๆๆ" ....

     

     

                “อ๊บๆๆ”  กบเจ้าปัญหาร้องส่งเสียงดังขึ้น ชานยอลที่พอตั้งสติได้ เขาก็รีบกระโดดออกจากเก้าอีกอย่างฉับพลัน

     

     

                “กบมาจากไหนเนี่ย....” ชานยอลโวยวายเสียงดังขึ้นมา ก่อนจะเพ่งมองไปยังหลานชายของเขาเอง

     

     

                “เป็นฝีมือของเราอีกแล้วใช่ไหม” ร่างสูงถามหลานชายด้วยเสียงไม่พอใจ ในขณะที่เขาถอยหลังออกไปเรื่อยๆเพราะความเกลียดและกลัว

     

     

                “เปล่านะครับ” จุนกิส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ

     

     

                “เปล่าเหรอ แล้วมันจะมาอยู่ในบ้านเราได้ยังไง อาบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามเอากบเข้ามาเล่นที่บ้านอีก ทำไมไม่เชื่ออา” เขาแทบจะตะโกนใส่หน้าหลานชาย... จุนกิถึงกับหน้าซีดเผือกเมื่อโดนกล่าวหา แต่คราวนี้เจ้าตัวเล็กไม่ได้เอามันเข้ามาในบ้านจริงๆ จุนกิจึงรีบยืนยันตัวเองอีกครั้ง

     

     

                “ผมไม่ได้จับมันเข้ามานะครับ ไม่รู้ด้วยว่ามันมาได้ไง”

     

     

                “โกหก.. เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวนะจุนกิ.. แบคฮยอน คุณช่วยเอากบออกไปได้ไหมครับ” เขาไม่ยอมรับหลานชายฟังง่ายๆ ก่อนจะผินหน้าไปสั่งอีกคน

     

     

                “ครับ”

     

                แบคฮยอนยอมรับทำตามคำสั่งด้วยการเลื่อนมือเรียวเล็กไปจับกบตัวสีเขียวๆที่กำลังจะกระโดดหนี แต่ก็ไม่รอดทันมือของแบคฮยอนไปไหนได้....  แบคฮยอนจับกบ ที่ใหญ่มากกว่าตัวก่อนหลายเท่า ไปปล่อยในที่ไกลๆจากนอกรั้ว แล้วก็กลับเข้ามาข้างในบ้านอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ผู้เป็นอากำลังยืนดุหลานชายที่ห้องรับแขกอยู่พอดี

     

     

     

                “เรานี่ ช่างเป็นเด็กที่ดื้อรั้นมากเลยรู้ไหม!... พี่แบคฮยอนอุตส่าห์สอนให้เราเป็นคนดี แต่เราไม่เคยเอามันมาใช้เลย!

     

     

                ชานยอลไม่มีท่าทีจะลดเสียงดุลงเลย จุนกิถึงกับน้ำตาไหลพราก ส่ายหัวไปมาเป็นการปฏิเสธต่อการกระทำนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

                “ฮึก ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้จับมันเข้ามา ฮือ”

     

     

                “อาไม่เชื่อ อารู้ว่าเราโกรธอาที่บังคับให้เราเรียนกับพี่แบคฮยอน... เราก็เลยคิดจะแกล้งอาคืน อย่างั้นใช่ไหม”

     

     

                “ไม่เลยนะครับ ผมรักคุณอา ผมจะแกล้งคุณอาทำไม ฮือ” จุนกิยืนยันความบริสุทธิ์เสียงแข็ง.

     

     

    แบคฮยอนก็พอจะทราบดีว่าจุนกิคงไม่ได้ทำอย่างนั้นแน่นอน  เด็กชายเป็นคนตรงๆ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กล้าทำก็กล้ารับ และถ้าไม่ได้ทำ ก็บอกว่าไม่ได้ทำตามที่พูด

     

     

    “ผมว่าคุณใจเย็นๆก่อน ลองฟังที่หลานคุณพูดบ้างซิ” แบคฮยอนเข้ามาพูดขัดจังหวะ พลางตีหน้ากังวลไปด้วย

     

     

    “ให้ผมฟังคำแก้ตัวของไอ้หลานตัวแสบของผมเนี่ยนะเหรอ... แต่ละวันสร้างแต่ปัญหา... อุตส่าห์วานให้คุณมาสอนเพื่อจะได้เป็นเด็กดีกับเด็กคืนอื่น แต่ก็ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปเลย.. จุนกิ แล้วถ้าเรายังดื้อแบบนี้อีกต่อไป อาจะเอาเราไปทิ้งที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าแน่!!

     

     

    ประโยคสุดท้ายไม่มีแววว่าจะพูดเล่น เด็กชายยิ่งร้องไห้ ฟูมฟายหนักกว่าเดิม

     

     

    “ฮึก ถ้าคุณอาเกลียดผมนัก ผมก็ไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้ ผมจะไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าอย่างที่คุณอาพูด ฮือ!” ว่าแล้ว จุนกิก็วิ่งหนีขึ้นไปข้างบน ชานยอลถึงกับถอนใจด้วยความเหนื่อยล้า ปัญหาภายในบ้านยิ่งหนักข้อขึ้นทุกวัน

     

     

    แต่ความจริงชานยอลก็แค่พูดขู่เฉยๆ เขาไม่มีทางปล่อยให้หลานชายไปอยู่ในสภาพนั่นหรอก ผิดกับคนที่เหลือ ที่เชื่อเขาสนิทใจ โดยเฉพาะกับแบคฮยอน ซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาเขียวปัด เหมือนรู้สึกไม่พอใจ

     

     

    “ผมเชื่อว่าหลานคุณไม่ได้ทำนะ... แล้วผมก็เชื่ออีกว่า หลานคุณพูดจริง ทั้งที่เรื่องกบ แล้วก็เรื่องจะหนีออกไปจากบ้านด้วย... คุณเป็นอา อยู่กับแกมานาน คุณน่าจะรู้นะว่าอะไรที่หลานคุณพูดจริง อะไรที่หลานคุณพูดแโกหก.. ผมขอตัวไปดูจุนกิก่อนนะป่านนี้คงจะขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าอยู่แน่ๆเลย”

     

     

    แบคฮยอนพูดเตือนสติเขา  ก่อนจะผละออกจากบริเวณนี้ไป ปล่อยให้เขายืนครุ่นคิดอย่างหนักเพียงลำพัง

     

     

     

     

     

                “ก๊อกๆ แอ๊ด”

     

     

                แบคฮยอนเคาะประตูก่อนจะไขมันเข้าไป เผยให้เห็นเด็กน้อยกำลังทุบกระปุกออมสินลงพื้น แล้วหยิบเงินหยัดใส่กระเป๋าเสื้อผ้า... คิดไว้ไม่มีผิด ว่าเจ้าตัวเล็กจะเก็บเสื้อผ้า เตรียมตัวหนีออกจากบ้านไปจริงๆ

     

     

                “โอ๊ย...” เด็กชายอุทานร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อเศษกระปุกบาดมือเข้าให้ แบคฮยอนจึงถลาเข้าไปช่วย

     

     

                “เจ็บมากไหมจุนกิ ดูซิ เลือดออกด้วย” แบคฮยอนรู้สึกเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าเลือดไหลออกไม่หยุด รวมทั้งน้ำตาของจุนกิด้วย

     

     

                “ผมไม่เป็นไรหรอก ฮึก พี่ไม่ต้องมายุ่งกับเด็กเกเรอย่างผมอีกเลยนะครับ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าพี่เป็นคนไม่ดีด้วย ... ผมจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว คุณอาไม่รักผมแล้ว  ฮือ” จุนกิครางครวญนักกว่าเดิมเมื่อมีคนมาสงสารตัวเอง 

     

     

                “รักสิ ทำไมจะไม่รักล่ะ”

     

     

                “ไม่จริงหรอกครับ ฮึก คุณอาไม่เคยเชื่อผม”

     

     

                “เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เลือดของจุนกิไหลออกไม่หยุดเลย เดี๋ยวพี่ไปทำแผลให้นะครับ” กระแสเสียของแบคฮยอนเป็นห่วงมาก เด็กชายจึงค่อยๆพยักหน้าเชื่อฟัง

     

     

    หลังจากทำแผลเสร็จแบคฮยอนก็กลับมาทำความสะอาดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะผินหน้าไปพูดกับเด็กชาย

     

     

                “ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า”

     

     

                “ไม่เจ็บแล้วครับ แผลแค่นี้เอง” เด็กชายส่ายหัวไปมา และหยุดร้องไห้ไปได้สักพัก

     

     

                “นี่คิดจะหนีออกจากบ้านจริงๆเหรอ”

     

     

                “คุณอาไม่รักผมแล้วนี่ ผมจะอยู่ทำไม”

     

     

                “นี่เรายังคิดเรื่องนี้อีกหรอ ที่คุณอาทำไปน่ะ เขาแค่ขู่เฉยๆ” แบคฮยอนปลอบใจ แต่ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเขาพูดจริงหรือแค่ขู่เล่นๆ เพราะเห็นท่าทางของเขาจริงจังมาก

     

     

                “แต่คุณอาจะให้ผมไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า คุณอาไม่เชื่อผมเลย” จุนกิตีสีหน้าหมองลง จนทำให้แบคฮยอนโผตัวเข้าไปกอบกระชับไว้ด้านข้าง

     

     

                “จุนกิจ๊ะ พี่มีเรื่องจะบอกเราไว้อย่างนะ คนเราน่ะ เวลาทำอะไรไม่ดีไว้ มันก็เหมือนการตอกตะปูไว้ที่ต้นไม้นั่นแหละ ยิ่งทำไม่ดีมากๆ ต้นไม้ก็ยิ่งเต็มไปด้วยตะปูแหลมๆเยอะแยะมากมาย แต่พอคนเราคิดจะกลับทำดีบ้าง มันก็เหมือนการถอนตะปูออก แต่เมื่อเราถอน ใช่ว่ามันจะเหมือนเดิม มันก็จะมีรูเป็นจุดๆ... เวลาที่คนเราทำดีน่ะ หรือเริ่มคิดจะทำ คนมักจะมองข้ามไปเสมอ เหมือนอย่างที่จุนกิเป็นอยู่ตอนนี้ไงล่ะ ไม่มีใครเชื่อง่ายๆว่าเราไม่ได้เอากบเข้ามาแกล้งกันอีก เพราะจุนกิเคยทำแบบนั้นมาก่อน... แต่ยังไง เราก็ต้องเลือกทำดีเข้าไว้ เราจะได้ไม่ตอกตะปูใส่ต้นไม้อีก.. แล้วถ้าเราทำดีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรอยตะปูบนต้นไม้มันก็หายไปเองตามการเวลาของมัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะยัง ก็หมั่นทำดีเข้าไว้ ถึงคุณอาของจุนกิจะไม่เห็นสิ่งที่จุนกิทำในวันนี้ สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเห็นแน่นอน”

     

                จุนกินิ่งฟังราวกับฟังนิทานก่อนนอน ไม่รู้เผลอไปกอดแบคฮยอนกลับเสียตอนไหน รู้แค่ว่าอ้อมกอดของแบคฮยอนมันช่างอบอุ่นเหลือเกิน อบอุ่นยิ่งกว่าผ้าห่มหลายร้อยเท่า

     

               

                “แล้วพี่เชื่อใช่ไหมครับ ว่าผมไม่ได้ทำ”

     

     

                “เชื่อสิ ครูก็ต้องเชื่อลูกศิษย์อยู่แล้ว ทีนี้ลูกศิษย์ก็ห้ามหนีออกจากบ้านไปนะ เพราะครูเป็นห่วง” แบคฮยอนเอ่ยตามความรู้สึก

     

     

                “ครับ ผมไม่หนีไปไหนแล้ว ผมรักคุณครูนะครับ”

     

     

                “ครูก็รักลูกศิษย์ตัวแสบเหมือนกันจ้า”

     

     

    แบคฮยอนลูบหัว เด็กชายอย่างรักใคร่ ความรักไม่ว่าจะในรูปแบบไหน มันก็มักจะมีด้านสวยงามของมันเสมอ

     

               

               

     

     

     

     

     บอกรักกันแล้วคู่นี้ อิๆๆ

    เหลือแต่ผู้ใหญ่ไม่รู้จะรักกันตอนไหน

    ฝากด้วย ใครเมนท์ขอให้รวยๆ รวมทั้งเมนด้วยนะ

     

      

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×