คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตามถึงบ้าน
ชานยอล พยายามใช้มือใหญ่หนากดโทรหาคนที่เก็บโทรศัพท์ของเขาได้จนมือแทบหงิก หากอีกฝ่ายกลับไม่ยอมรับสายเขาง่ายๆ
“บ้าเอ้ย!!”
เด็กหนุ่มสบถขึ้นเสียงดัง ก่อนจะขว้างโทรศัพท์อีกเครื่องลงบนที่นอนราวกับเป็นการระบายอารมณ์
ชานยอลผละเดินปึงปังออกจากห้องนอนของตัวเองแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องพี่ชายของเขา
“ก๊อกๆ” ชานยอลยกมือขึ้นทุบรัวประตูห้องนอนของพี่ชายจนสะเทือนทั้งบ้าน ทำเอาคนที่อยู่ด้านในต้องลุกขึ้นจากเตียงทันทีเพราะทนรำคาญเสียงเคาะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะเดินงัวเงียออกมาไขประตูให้น้องชาย
“มีอะไรวะ” ชายหนุ่มร่างสูงในระดับเดียวกันเอ่ยถามเสียงห้วนจัด
“ผมมีเรื่องจะให้เฮียช่วยหน่อยครับ”
“อะไร”
“ผมทำโทรศัพท์หายครับ เฮีย”
“โทรศัพท์หาย หายไปได้ยังไง แล้วหายที่ไหน” คริสถามทันที เพราะโทรศัพท์เครื่องล่าสุดที่ซื้อให้น้องชายตัวดี ก็ใช่ว่าราคาจะถูกๆซะที่ไหน
“ที่ผับครับ มีคนเก็บของผมได้ด้วย แต่พอผมโทรไปถามเขาก็บอกว่าเขาจะไม่คืนให้ครับ” ชานยอลเล่าเหตุการณ์อย่างนึกแค้น
“ถ้างั้นก็แจ้งตำรวจเลยดีกว่า” คริสออกความคิดเห็น แต่ผู้เป็นน้องชายกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่เอาครับพี่ ไม่ต้องถึงมือตำรวจก็ได้ ผมมีวิธีจัดการของผมเอง”
“ยังไงล่ะ”
“ก็ให้เพื่อนของพี่จับสัญญาณโทรศัพท์ให้ผมอ่ะครับ เอาให้ถึงบ้านเลขที่เลยนะ”
“แกจะไปตามเอาถึงที่เลยว่างั้น”
“ใช่ครับ แล้วก็เอาคืนให้หายแค้นเลยที่คิดจะยึดโทรศัพท์ของผมไป”
“เออ เดี๋ยวฉันจะบอกเพื่อนฉันจับสัญญาณให้ก็แล้วกัน... แล้วที่แกอยากได้คืนเนี่ย ไม่ใช่เพราะแกมีคลิปอะไรไว้ในเครื่องหรือเปล่า” คริสหรี่ตาถามน้องชายด้วยความสงสัย ปกติถ้าทำโทรศัพท์หาย น้องชายตัวดีก็มักจะบอกให้เขาชื้อเครื่องใหม่ทันที แต่นี่กลับมาปลุกตอนดึกๆ เพราะอยากได้คืน
“เปล่าสักหน่อย ผมไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอก ผมยังเด็กอยู่”
“หรออออออออออออ” คริสลากเสียงถามเหมือนเป็นการประชด
“คร๊าบบบบบบบบบบ” ชานยอลก็ลากเสียงยาวตอบ เด็กหนุ่มอยากจะเล่นมุขต่อพี่ชายอยู่เหมือนกัน แต่อารมณ์คุกรุ่นก็บดบังเสียหมด ก็เลยหมดอารมณ์จะเล่น ก่อนจะกำชับพี่ชายเสียงเดิมแทน
“ยังไงก็ฝากให้พี่ช่วยด้วยนะ เร็วที่สุด เท่าไรก็ยิ่งดี”
“เออๆ เดี๋ยวจัดการให้ แต่อีกสองสามวันคงได้เรื่องนะ เพราะช่วงนี้ฉันยุ่งๆน่ะ”
“โอเค ขอบคุณครับพี่ ผมไปนอนก่อนนะ ฝันดีครับ”
“เออ ฝันดี”
เมื่อพูดคุยกันจบ ร่างสูงของชานยอลหมุนตัวกลับเข้าไปนอนตามเดิม คราวนี้แหละ เด็กหนุ่มจะเอาคืนให้หายแค้นเลยคอยดู จะตามจองล้างจองผลาญไปจนตายแน่
สองวันต่อมา
วันนี้ที่ร้านเบเกอรี่หยุดทำงานอีกหนึ่งวัน เนื่องจากจีซกและยูริมีกิจกรรมร่วมคณะของทางมหาวิทยาลัย แบคฮยอนจึงพักงานให้พวกเขาแล้วอยู่บ้านทั้งวัน
เมื่อตกอยู่ในช่วงบ่าย แบคฮยอนหาอะไรอร่อยๆทำทานที่ห้องครัว เนื่องจากตอนนี้เขาหิวเหลือเกิน
พอทานข้าวเสร็จ ร่างบางก็เดินไปตรงห้องรับแขก เปิดดูทีวีแก้เซ็ง เพราะขี้เกียจจะออกไปเที่ยวข้างนอกกับพวกเพื่อนๆ
"If you can see that I'm the one who understands you ”
เป็นเสียงโทรศัพท์ที่แบคฮยอนเก็บได้นั้นดังขึ้น ร่างบางเลื่อนมือไปล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง เผยให้เห็นเบอร์ที่โทรกระหน่ำทั่วทั้งวันทั้งคืน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเรียวกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี...
ไม่นาน หลังจากตัดสายทิ้งไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นหลายๆรอบอีกอย่างต่อเนื่อง แต่แบคฮยอนไม่คิดจะกดรับ ปล่อยให้มันส่งเสียงร้องโอดครวญอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ เพราะอยากจะกวนประสาทไอ้เด็กนั่นเล่น อยากเห็นสภาพของอีกฝ่ายเหลือเกิน ตอนนี้คงจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้วมั้ง
“ออดๆๆ!!” เสียงออดถูกกดขึ้นรัวๆติดต่อกันหลายครั้งอย่างน่ารำคาญ พลอยทำให้แบคฮยอนเริ่มหัวเสียขึ้นมา
อย่าให้เป็นพวกเด็กมือบอนนะ แม่งจะเอารองเท้าแตะปาใส่ยอดหน้าแม่งเลย
“โอ๊ย!! ไม่รู้จะกดทำไมกันนักหนานะ!!” แบคฮยอนขยับปากบ่นออกมาด้วยความเซ็งจิต ก่อนจะพาตัวเองเดินตรงออกมาหยุดอยู่หน้ารั้วบ้าน
พอก้าวมาถึงหน้าบ้าน ก็ปรากฏให้เห็นเด็กผู้ชายผิวขาว รูปร่างสูงผิดมนุษย์ทั่วไป กำลังยืนจ้องด้วยสายตาคาดโทษ แล้วนั่นก็เป็นใครไม่ได้นอกจาก
นี่มัน ไอ้เด็กปากหมาที่ผับนั่นนี่...
ซึ่งเด็กหนุ่มกำลังอยู่ชุดนักเรียนมอปลาย อย่างไร้ความมีระเบียบเรียบร้อย มือกำลังถือกระเป๋าสีดำ ใบหน้ามีรอยแผลจากการมีเรื่องมาสดๆ เป็นผลให้แบคฮยอนเบิกตากว้างเท่าไข่ห่านอย่างตกใจ แทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลย
“เห้ย! มาได้ไงเนี่ย”
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!” ชานยอลตอบไม่ตรงคำถามด้วยน้ำเสียงที่บังคับดังๆราวกับเสียงฟ้าผ่า
นึกว่าจะกลัวงั้นหรอ
“ไม่! ใครจะยอมเปิดให้โง่วะ” แบคฮยอนตอบออกไปอย่างท้าทาย
“ถ้าคุณไม่เปิด ผมจะปีนเข้าไปแน่!” ชานยอลขู่เสียงเขียว
“ก็ลองดูสิ ถ้าไม่อยากถูกตำรวจลากคอนายเข้าคุก โทษฐานบุกรุกบ้านคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต”
แบคฮยอนเชิดหน้าชูคออย่างไม่เกรงกลัว ในเมื่อบ้านเมืองมีขื่อมีแปร เพราะฉะนั้นไอ้เด็กหูกาง ขาโก่ง ปากห้อย ก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจชอบ
“ก็ลองดูสิ ถ้าไม่อยากโดนข้อหาขโมยโทรศัพท์ของผมไป”
“แต่ชั้นไม่ได้เป็นคนขโมย นายต่างหากที่ทำมันหล่นเอง”
“นี่คุณ ไม่ต้องมาหัวหมอกับผมเลยนะ แล้วถ้าคุณไม่ส่งมันมาให้ผมล่ะก้อ ผมไม่รับรองความปลอดภัยของคุณแน่!”
ชานยอลขู่ผ่านน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด ส่งผลให้แบคฮยอนครุ่นคิดสักพักอย่างหนัก ก่อนจะเม้มปากเข้าหากันอย่างไม่พอใจ
แน่นอนว่ามันต้องเอาเรื่องไปบอกตำรวจแน่ ในเมื่อมันยังตามหาจนถึงบ้านได้เลย
“ว่าไงล่ะ จะเอาคืนผมหรือเปล่า ถ้าไม่คืนผมจะปีนรั้วบ้านคุณ”ชานยอลเร่งรัด แบคฮยอนจึงรีบยกมือขึ้นห้าม
“เออๆ ก็ได้วะ เดี๋ยวชั้นไปเอามาให้ก็ได้ โทรศัพท์นายอยู่ข้างในบ้านฉัน รออยู่ตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน”
แบคฮยอนต้องยอมจำนนอย่างหัวเสีย ส่วนอีกฝ่ายกลับยิ้มออกแบบคนที่รับชัยชนะ เลยทำให้แววตาของร่างเล็กพิโรธอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะกระทืบเท้าหันหลังเดินวนเข้าไปข้างในเช่นเดิม แต่เมื่อขาเล็กๆกำลังผละออกไปไม่เท่าไหร่ก้าว ชานยอลกลับเรียกดักคอไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนครับ... ตอนนี้ผมยังไม่อยากได้ของคืน แต่ผมอยากเข้าไปข้างในบ้านคุณมากกว่า”
ร่างบางหันหน้ากลับมามองโดยอัตโนมัติ ในเมื่ออีกฝ่ายเสนอคำพูดที่ได้คืบแล้วจะเอาศอก
“นี่ ชั้นไม่มีเวลามาเล่นกับนายนะ!!”
“ผมก็ไม่ได้คิดจะเล่นสักหน่อย แต่ผมจะเข้าไปบ้านของป้าจริงๆ เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้” ชานยอลเขย่าประตูหลายครั้งอย่างรุนเเรง
สติของแบคฮยอนก็แทบจะระเบิด เมื่อได้ยินคำสรรพนามที่เจ็บแสบถูกนำมาพูดอย่างกวนๆอีกครั้ง
“ไม่โว้ย! ชั้นไม่เปิดให้เด็ดขาด นายจะบ้าหรอ ไม่รู้จักกันแล้วจะเข้าบ้านชั้นได้ไง!” ร่างบางยังยืนยันคำเดิม ก่อนจะถลึงตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ได้ ถ้าคุณไม่เปิด ผมก็จะปีนเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย...”
พูดจบ กระเป๋าในมือของเด็กหนุ่มก็ถูกโยนข้ามผ่านประตูรั้วหลังจากนั้น ก่อนที่ชานยอลจะใช้มือหนาๆทั้งสองจับรั้วเหล็กแล้วปีนขึ้นไป
“เห้ย! หยุดปีนเดี๋ยวนี้ ชั้นบอกให้หยุดไงเล่า!”
เหมือนว่าคำสั่งของแบคฮยอนไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะคนเด็กหนุ่มร่างสูงปีนข้ามรั้วเข้าไปแล้วเรียบร้อย ก่อนจะกระโดดลงพื้นอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าลิง...
“นี่ ออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ!” แบคฮยอนชี้นิ้วไล่อย่างไม่ไยดี หากอีกฝ่ายกลับยืนหน้าทนอย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ก่อนจะคว้ากระเป๋า แล้วก็เดินเข้าไปกอดคอร่างบางไว้อย่างถือวิสาสะ
“เฮ้! เป็นเด็กเป็นเล็กมีสิทธิ์อะไรมากอดคอผู้ใหญ่แบบนี้เนี่ย เอาแขนนายลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!” แบคฮยอนพูดขึ้นเสียงเขียว แต่ดูเหมือนคำสั่งของร่างบางจะไม่มีอำนาจพอจะทำให้คนตัวสูงปฏิบัติตาม... ยิ่งพยายามปัดแขนของอีกฝ่ายเท่าไหร่ ร่างสูงก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น
“ไม่ ผมอยากเข้าไปข้างใน คุณช่วยพาผมเข้าไปหน่อยสิ”
“จะบ้าหรือไง หา! ไม่รู้จักกันสักหน่อย จะพานายเข้าบ้านไปทำไม!”
“งั้นก็ทำความรู้จักซะเลยสิ ผม ปาร์ค ชานยอล เรียนอยู่มอห้า อายุสิบหกย่างเข้าสิบเจ็ดปี... แล้วคุณล่ะ” ชานยอลกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาใกล้ๆ
“ชั้นไมจำเป็นต้องบอกนายหรอก แล้วก็เอาแขนออกจากคอชั้นสักทีเหอะ มันหนัก!!” แบคฮยอนพยายามสลัดแขนใหญ่ราวกับท่อนไม้ออก แต่มันก็ไม่ได้ผล แถมไอ้เด็กตัวใหญ่นั้นยังกอดไว้แน่นกว่าเดิมอีก
“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่พาผมเข้าบ้านก็จะยืนกอดคอคุณไว้อย่างนี้แหละ” ถึงชานยอลจะไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ยังไงซะ คำสั่งนั้นก็ยังคงหนักแน่นได้เสมอ แบคฮยอนจึงทำให้แค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำใจยอม
“เออๆ ก็ได้วะ แต่ก่อนอื่นนายต้องปล่อยชั้นก่อน”
“ได้ครับ”
ชานยอลปล่อยแขนของตัวออกตามคำสั่ง ก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปในบ้าน... ปล่อยให้แบคฮยอนยืนกระทืบเท้าเต้นแร้งเต้นการาวกับคนใกล้เสียสติเต็มที เพราะความโมโห....
ไม่รู้ว่าพ่อแม่มันเป็นใครกันนะ ไม่คิดจะสั่งสอนลูกตัวเองบ้างเลยหรือไง
ชานยอลก้าวขาเดินตรงเข้าไปข้างใน สำรวจมองจนแทบทั่วบ้าน พลางใช้มือจับนั่นจับนี่อย่างถือวิสาสะ แบคฮยอนได้แต่มองการกระทำที่เสียมารยาทอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าคิดจะห้ามก็คงจะไม่ได้ผลอย่างแน่นอน
“ถ้าทำขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ขึ้นไปที่ห้องนอนของฉันเลยล่ะ”
“แล้วห้องนอนคุณอยู่ไหนล่ะครับ"
“โอ้ย! ชั้นประชด เข้าใจมั้ย ไอ้เด็กโง่เอ๊ย!”
“ชานยอลครับ ผมบอกผมแล้วว่าผมชื่อชานยอล ไม่ได้ชื่อไอ่เด็กโง่... เอ่อนี่คุณ มีแขกเข้าบ้านทั้งทีทำไมไม่หาน้ำมาให้ล่ะครับ ตอนนี้ผมคอแห้งมากๆเลย"
ชานยอลพูดราวกับออกคำสั่ง ขณะที่หย่อนกายนั่งลงโซฟาขนาดใหญ่แบบสบายๆ พลอยทำให้แบคฮยอนอดหมั่นไส้ไม่ได้ เพราะเด็กหนุ่มคนนี้มันช่างกวนอวัยวะเบื้องล่างเสียเหลือเกิน
“ถ้าอยากจะดื่ม ก็เชิญไปหาซื้อแดกเอาเอง! ชั้นไม่มีทางหามาถวายให้นายอย่างแน่นอน!”
“เป็นเจ้าของบ้านประสาอะไรวะ ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย แขกเข้าบ้านยังไม่หาน้ำมาให้”
“พอๆ ไม่ต้องมาหาเรื่องกันเลยนะ แล้วโทรศัพท์ของนาย มันวางอยู่โต๊ะตรงหน้านายนั่น” แบคฮยอนชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดนั้น ชานยอลจึงรีบหยิบมันแล้วยัดเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว
“ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่เก็บโทรศัพท์ผมได้แล้วก็ส่งผมคืน”
“กองไว้ตรงนั้นแหละ ฉันมีคนมาขอบคุณเยอะมากแล้ว ส่วนนาย ก็รีบไสหัวออกจากบ้านชั้นไปซะ เพราะนายก็ได้โทรศัพท์คืนแล้ว” ร่างบางพูดพลางชี้นิ้วเรียวไปที่ประตู
“ไม่ครับ...”
“เฮ้!! แล้วจะเอาอะไรอีก หา!!" แบคฮยอนตะเบ็งเสียงขึ้นจนคอแทบพังอย่างเหลืออด
“ก้อไม่เอาอะไรมากหรอกครับ ก็แค่ ขอแค่น้ำเย็นๆสักแก้วก็พอ แล้วถ้าคุณไม่หามาให้นะ ผมก็จะนั่งอยู่ตรงนี้แหละ จนกว่าคุณจะหาอะไรมาให้ผมดื่ม"
คนตัวสูงส่งสายตายักคิ้วแบบกวนๆ ไม่รู้สึกกลัวสายตาของแบคฮยอนกำลังจ้องมองอย่างขุ่นเคืองสักนิด ถ้าร่างบางมีแรงพอ คงจะจับเด็กหน้าตากวนประสาทนั้นโยนทิ้งออกนอกบ้านแน่นอน... ถ้าปฏิเสธ ออกไปอีกครั้ง ก็คงจะไม่ได้ผลเหมือนเดิม ในเมื่อไอ้เด็กเจ้าปัญหามันดื้อด้านเหลือเกิน
“ว่ายังไงครับ"
“ก็ได้ คอยชั้นอยู่ตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวจะมาหาน้ำมาให้ ฮึย!!”
แบคฮยอนสะบัดตัวหนี พาตัวเองเดินเข้าครัวหาน้ำเย็นๆแก้วหนึ่งมาถวาย ปล่อยให้ชานยอลค่อยๆฉีกยิ้มออกมาบางๆ...
แค่เจอกันไม่กี่ครั้งก็ทำให้ตัวเขานั้นใจชื่นขึ้นอยากบอกไม่ถูก เวลาที่ร่างบางนั้นทำหน้างอนๆทีไร ก็พลอยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นไม่น้อย... จนทำให้ลืมเรื่องราวที่ไม่สบายใจได้อย่าง่ายดาย
พอเวลาผ่านไปร่วมนาที หลังจากที่คนร่างสูงนั้นดื่มน้ำเสร็จ แบคฮยอนก็ขยับปากพูดไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญออกจากบ้านอย่างไม่ใยดี.... แต่อีกฝ่ายนั้นไม่คิดจะยอมทำตามคำสั่ง แถมยังถือวิสาสะหงายตัวลงนอนที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์ เปิดทีวีเปลี่ยนช่องอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้านเลยสักนิด แล้วเขายังบอกแบคฮยอนอีกว่า ไว้วันหลังจะแวะมาหาใหม่อีก....
สงสัยชื่อของมัน คงจะตามหลอกหลอนผมไปชั่วชีวิตแน่เลย
มาอัพลงแล้วนะ หยอยกวนประสาทจริงๆอ่ะ ไม่ยอมปล่อยแบคฮยอนไปง่ายๆอย่างที่พูดแน่
เข้ามาไปพูดคุย เพ้อถึงฟิคบ้างอะไรบ้างที่ทวิตด้วยนะ
นี่ ทวิตของไรท์
ส่วนนี้ ติดแท็กจ้า #ฟิควันพลัสวัน
ฝากด้วยจ้า
ความคิดเห็น