คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : กระอักเลือด
ห้าสิบกว่าปีต่อมา
มีเรื่องราวน่ากลัวเรื่องหนึ่งซึ่งก็พูดกันอย่างหนาหูว่า
ที่บ้านหลังหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นด้วยศิลปะตะวันออก ผสมผสานกับแนวตะวันตกได้อย่างลงตัว มีเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวซุกซ่อนอยู่ไว้ข้างใน
ตัวบ้านถูกออกแบบโดยนักออกแบบหนุ่มร่างสูง หล่อเหลา ราวกับเทพบุตร และมีหน้ามีตาในสังคมสมัยนั้น เขาได้สร้างมันขึ้นเพื่อคนที่เขารัก
แต่ทว่าความรักของชายหนุ่มคนดังกล่าว ใช่ว่าจะราบรื่นเหมือนคนทั่วไป เมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
อดีตคู่หมั้นของเขา แค้นและอาฆาตมาก เมื่อเขาไปมีใหม่... เธอจึงกระชากปืนยิงศัตรูหัวใจจนเสียชีวิตคาที่ ภายในบ้าน
เมื่อผ่านไปเพียงแค่สามเดือน หลังจากที่เจ้าของบ้านเสียชีวิตและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
วันดีคืนดี ก็มีเสียงเพลงย้อนยุค พร้อมกับเสียงร้องอันโหยหวนถึงคนรักดังขึ้นอยู่บ้านดังกล่าวทั้งคืน ยามเมื่อคืนวันเดือนเพ็ญ.. บางคนก็ได้กลิ่นซากศพเก่าๆกลิ่นคราวเลือดเน่าๆ ลอยร่องออกมาถึงนอกรั้ว
คนในละแวกนั้น ต่างก็ให้เสียงเดียวกันว่า เคยเห็นผู้ชายรูปร่างบอบบางคนหนึ่ง ใบหน้าเรียวสวยเหมือนกับผู้หญิง.... ผิวซีดราวกับกระดาษสีขาว ใส่ชุดฮันบกสีแดง นั่งร้องไห้จนน้ำตากลายเป็นเลือด ตรงประตูหน้าบ้าน สร้างความสยดสยองกลัวต่อคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ซึ่งเรื่องเล่าจากคนที่พบเห็น ก็ยังคงเป็นสิ่งที่พูดต่อๆกันจนถึงทุกวันนี้
แต่ใช่ว่า ทุกคนจะเชื่อเรื่องงมงายไร้สาระแบบนั้นกัน
คริส
เถ้าแก่ ผู้รับเหมาซื้อบ้านเก่า แล้วนำไปดัดแปลงใหม่เพื่อขายส่งออก เกิดสนใจบ้านหลังดังกล่าวขึ้นมา หลังจากที่ตระเวนตามหามาตั้งนาน
เขาตัดสินใจซื้อมันต่อจากเจ้าของเก่าในราคาที่ถูกมาก เมื่อชายตามองไปทั่วบริเวณบ้าน เขาก็นึกถึงกำไรที่จะตามมาอย่างงาม เขาไม่สนใจคำเตือนของ เฉิน ลูกน้องของเขาที่คอยพูดกรอกหูถึงความสยองขวัญอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้จะไม่ได้เห็นความเฮี้ยนกับตาก็ตามที แต่เฉิน ก็เอ่ยปากห้ามจนหัวชนฝา ไม่อยากให้คริสย่างก้าวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด ทว่าชายหนุ่มร่างสูงกลับโบกมือ และส่ายหัวไปมา เพราะเขาไม่เชื่อเรื่องหลอกเด็กง่ายๆ
คริสพอทราบประวัติมาว่า บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้ว โดยนักออกแบบผู้โด่งดังในสมัยนั้น
ตัวบ้าน แทบจะไม่มีรอยแตกร้าว หรือรอยผุพังใดๆทั้งสิ้น... เมื่อสายตาคู่คม ได้มองเห็นถึงความวิจิตร เขาก็อดชื่นชม คนออกแบบไม่ได้... ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ทุกอย่างที่นี่ มันเหมือนกับเพิ่งถูกสร้างทิ้งไว้ไม่ถึงสิบปีเสียด้วยซ้ำ
คริส จ้าง เทา นักออกแบบ ผู้หล่อเหลา หน้าตาคมเข้ม เข้ามาสำรวจดูบ้านพร้อมๆกับคนงานของเขาประมาณสองสามคน... พวกเขาถ่ายรูปทุกมุมทุกส่วน เก็บรายละเอียดทั้งหมด เพื่อเอาไปดัดแปลงใหม่ ถ้าแต่งเติมอะไรนิดๆหน่อยๆ มันก็จะเพิ่มยอดเงินให้กับคริสได้อย่างงามเลยทีเดียว
“ตึกๆๆ”
ทว่า เมื่อก้าวผ่านเข้าไปประตูรั้วของบ้านได้ไม่นาน คริสก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของใครสักคนเดินตามหลังมา เขามั่นใจได้ว่า ไม่ใช่คนงาน หรือนักออกแบบของเขาแน่นอน ในเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาพร้อมๆกัน
ร่างสูงตัดสินใจหันกลับไปมองเพื่อความแน่ใจ แต่ทว่าก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่าอยู่ตรงนั้น จะมีก็แค่เพียง เสียงของลมพัดผ่านลอยไปเบาๆ
“มีอะไรหรอครับ เฮีย”
เมื่อเห็นว่าเจ้านายหันหลังไปมองอะไรบางอย่างแบบกระทัน เฉินก็โพล่งถามขึ้นด้วยความสงสัย สายตาก็กวาดไปมองตามเขาด้วย จนรู้สึกขนลุกแปลกๆ
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีได้ไง เมื่อกี้ เฮียทำเหมือนว่าเห็นหรือได้ยินอะไรสักอย่าง” เฉินเริ่มชักสีหน้ากลัว
“ฉันไม่ได้ยินแล้วก็ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ” คริสตอบเสียงฉุน
“ผมเคยเตือนเฮียมาก่อนแล้วนะ”
“นี่ไอ้เฉิน ถ้าแกยังจะพูดเรื่องนี้อีกล่ะก้อ ฉันจะไม่ให้เงินค่าจ้างแกแน่ วันๆพูดแต่เรื่องไร้สาระ” เถ้าแก่ขู่เสียงเข้ม
“ที่ผมเตือน ก็เพราะผมเป็นห่วงนี่”
“พอๆ ฉันขี้เกียจฟัง แล้วก็รีบเข้าไปดูข้างในบ้านกันได้แล้ว” คริสสั่ง ก่อนจะนำหน้า เลื่อนมือหนาๆไปเปิดประตูไม้แกะสลักเก่าๆ แล้วจึงเข้าไปข้างในบ้าน...
แต่พอเขาเดินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ก้าว อยู่ๆ ก็มีลมโชยพัดกระแทกเข้ามาแรงๆ จนเขาต้องยกมือขึ้นปิดใบหน้าทันที เพื่อหลบเศษละอองของฝุ่น
ขณะเดียวกัน สายลมก็พัดเอากลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งเป็นกลิ่นเของซากอะไรสักอย่าง มาทางพวกเขา
“อื้อ หือ! โคตรเหม็นเลยว่ะ อะไรมาตายแถวนี้วะ!”
คริสยกมือขึ้นปิดจมูกโด่งอย่างฉับพลัน เพราะทนสูดลมหายใจรับเอากลิ่นไม่ได้ มันเหม็นจนเขาแทบจะอาเจียนออกมา
“พวกแก ไปดูซิ ว่ามีอะไรตายอยู่ตรงนั้น”
เขาชี้นิ้วไปที่ห้องๆหนึ่ง คนงานก็ทำท่าเงอะงะ เหมือนว่ากลัว คริสจึงเบิกตากว้างขึ้น เป็นเชิงการเตือนให้คนงานของเขาต้องทำตามคำสั่ง และต้องเดินเข้าไปไขประตูตรงที่มีกลิ่นลอยพัดออกมา
“เร็วๆซิวะ” คริสขึ้นเสียง
“ครับๆ” พวกเขาจึงต้องรับทำตามรวดเร็ว
แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป พวกเขาก็หยุดชะงักไปโดยอัตโนมัติ เมื่อพบให้เห็นซากศพ สุนัข และแมวจรจัด นอนตายขึ้นอืดเป็นสิบๆตัว ลำตัวมีหนอนแมลงวันไต่ยั้วเยี้ยเจาะกินซากศพอย่างโอชะ
“แค๊กๆ ทำไมแม่งตายห่าเยอะนักวะ พวกแกช่วยจัดการเอาไปฝังให้ที เหม็นจะตายห่าอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันจะเพิ่มเงินให้ทีหลัง”
ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงแค่ไหน แต่พอได้ยินประโยคน่าฟังสุดท้ายตาก็ลุกวาวขึ้นทันที
“รับทราบครับ” เฉินพยักหน้ารับ ก่อนจะถามเขาต่อ “แล้วจะเอาไปฝังที่ไหนดีล่ะครับ”
“ข้างๆรั้วบ้านเนี่ยแหละ รีบๆเอาไปฝังเลยนะ”
“ครับ”
คนงานของคริสเริ่มลงมือ จัดการกับซากศพพวกนั้นอย่างทุลักทุเล พวกเขานำมันไปฝังไว้ข้างๆรั้วบ้าน แทบจะอ๊วกแตกทุกครั้งที่จับต้องตัวมัน
คริสและนักออกแบบก็เลยเดินสำรวจไปทั่วบ้านต่อ ...
พอสำรวจเสร็จ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คนงานคริส ก็ฝังซากสัตว์เรียบร้อยแล้ว
“เฮีย ตัดสินใจได้ยังว่าจะให้ผมจัดการยังไงกับบ้านหลังนี้” เทาถามขึ้น
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ทาสี เปลี่ยนพื้นบ้านให้เป็นไม้ปาร์เก้ แต่งเติมห้องน้ำห้องครัวให้ดูทันสมัยขึ้น แล้วก็ทำความสะอาดในบ้านและนอกบ้านอีกนิดหน่อย เท่านั้นก็พอ... ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบ้านหลังนี้ถูกสร้างเมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ทุกอย่างยังสวยเหมือนเดิม”
“ก็นั่นน่ะสิครับ เป็นผมก็คงทำไม่ได้แน่ คนออกแบบบ้านหลังนี้เก่งจริงๆ”
“ยังไงคุณก็ช่วยจัดการให้ด้วยนะ ส่วนเรื่องค่าแรง เดี๋ยวผมจัดการให้”
“ครับ.. เอ่อคุณคริสครับ คุณมีบุหรี่หรือเปล่า”
“มีสิ อ่ะนี่” คริสหยิบซองบุหรี่พร้อมกับไฟแช๊คออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้เขา
“ขอบคุณครับ” เทารับซองบุหรี่แล้วเดินเลี่ยงออกไป
เขาหยิบบุหรี่ที่คริสให้มาขึ้นจุดแล้วดูดเข้าไป ก่อนจะปล่อยควันให้ลอยล่องไปทั่ว
เวลาเครียดๆคนส่วนมากก็มักจะเพิ่งพาสิ่งเหล่านี้เสมอ ในเมื่อเขารู้สึกเหม็นกลิ่นซากศพสัตว์เน่าๆพวกนั้น พอได้พึ่งมัน ความเครียดจึงค่อยๆจางหายลง
แต่เมื่อเทาดูดไม่ถึงครึ่ง อยู่ๆก็มีอะไรบางมาจุกที่ลำคอ เป็นผลทำให้เขาสำลักควันออกมาในทันที
“แค๊กๆๆ”
และดูเหมือนว่าเทาจะไม่หยุดไอง่ายๆ ลำคอของเขาเหมือนมีอะไรมาเสียดสีกันจนเกิดความร้อนราวกับถูกไฟลนข้างใน
ด้วยความที่แสบตรงบริเวณลำคอ ราวกับกลืนน้ำกรดเข้าไป ทำให้เขาต้องทรุดตัวลง โก่งตัวไออย่างทรมาน
เทาไอหนักขึ้นจนห้ามไว้ไม่อยู่ ถึงขั้นอาเจียนออกมาเป็นเลือด เขาตกใจราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ยิ่งเขาสำลักออกมาเท่าไหร่ เลือดอยู่ในลำคอก็ยิ่งกระเด็นออกมามากขึ้นเท่านั้น
“แค๊กๆๆ”
เทาทรุดตัวนอนลงกับพื้น ยกมือปิดปากเพื่อต้องการจะหยุดมัน... ทว่ามันกลับไม่ช่วยเขาดีขึ้นเลย เขาไอแรงๆ จนเริ่มจะหายใจช้าลงเรื่อยๆ
เฮือกสุดท้ายที่มี เทาก็พยายามรวบรวมเสียงตะโกนออกไป เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย แค๊กๆ ช่วยผมด้วย”
แม้เสียงร้องครางจะเบาบางแค่ไหน แต่มันก็ดังพอจะทำให้เฉินได้ยิน แล้ววิ่งปรี่เขามาหาเขาทันที
“คุณเทา คุณ เป็นอะไรไป!”
เฉินร้องเสียงหลง... เมื่อเห็นภาพที่เขาสำลักเลือดอย่างทรมาน ก็แทบจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะช่วยเขาอย่างไรดี
“แค๊กๆ ช่วยผมด้วย ช่วยพาผมไปโรงพยาบาลที แค๊กๆ”
“ครับๆ เฮีย! มานี่หน่อยครับ คุณเทากำลังแย่!” เฉินร้องเสียงดังลั่นบ้าน
“มีอะไรวะ! เอะอะเสียงดัง!”
คริสร้องตะโกนกลับ เดินตามทางต้นเสียง ก็เลยพบให้เห็นภาพที่เขาแทบผงะถอยหลังเพราะความตกใจ
“คุณเทาเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไอจนเลือดออก”
“ฉันว่า รีบๆ พาเขาไปโรงพยาบาลเร็ว ก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้”
................................
แค่ดูดบุหรี่ ก็ถึงกับสำลักออกมาเป็นเลือด
ขนาดมาแค่สายลม ก็เป็นได้ถึงเพียงนี้ น่ากลัว
ความคิดเห็น