ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พิษรัก สัญญาลวง [ChanBaek] [NC18+]

    ลำดับตอนที่ #3 : กลับมา (ฆ่า)

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 57









               หลายวันผ่านไป

     

     

    ห้องบอลรูมโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลี  ถูกเนรมิตให้เป็นดั่งวิมานเพื่อฉลองงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ในรอบปี

     

     

    แขกผู้ที่มาในงานล้วนแต่คนมีหน้ามีตาในวงสังคมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ นายธนาคาร หรือ นักการเมือง ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมงาน เพื่อเป็นสักขีพยานและร่วมเป็นเกียรติ แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในคืนนี้

     

     

    “ขอเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาวกล่าวความในใจเล็กๆ น้อยๆ  เพื่อให้พวกเราทุกคนในที่นี้  ได้รับรู้ถึงความเป็นมาของงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ด้วยนะครับ  เชิญครับ”

     

     

    เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง  เมื่อคู่บ่าวสาวยืนเด่นสง่าอยู่กลางเวที

     

     

    แสงไฟสาดส่องช่วยเพิ่มความสง่าเป็นประกายเจิดจ้า  ยามเมื่อกระทบกับชุดของเจ้าสาวสีครีมนวม

     

     

    "ผม ปาร์ค ชานยอล  ขอขอบพระคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในงานแต่งงานของผมในวันนี้ซึ่งมันเป็นความใฝ่ฝันของผมมานานที่จะได้แต่งงานกับคนที่ผมนั้นรักครับ"

     

     

    ชานยอลกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาก็แค่พูดไปอย่างนั้น

     

     

    เขาไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว!!

     

     

    เพราะคนที่เขารักนั้นได้จากไปแล้ว จากไปไกลสุดขอบฟ้า และก็ไม่มีทางจะหวนกลับคืนย้อนมา

     

    ความจริง ชานยอลอยากจะเอาเรื่องทุกอย่างไปบอกกับทางตำรวจ แต่เขาก็ทำไม่ได้ ในเมื่อซอฮยอนกลับขู่ไว้แล้วว่า ถ้าเรื่องถึงหูตำรวจเมื่อไร เธอจะใช้อำนาจของพ่อเธอทำลายธุรกิจของเขาที่สร้างขึ้นมากับมือให้พังพินาศไปในทันที พร้อมทั้งฆ่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทิ้งซะ ชานยอลรู้ว่าเธอทำได้แน่ ชายหนุ่มจึงได้แต่นิ่งและเงียบ พร้อมกับปล่อยให้เรื่องมันผ่านเลยไปเลย

     

     

    เขาไม่ต้องการให้ซอฮยอนทำแบบนั้น พนักงานภายในบริษัทเป็นร้อยๆคน คงต้องตกงานอย่างกระทันหันแน่ เขามีหน้าที่รับผิดชอบลูกจ้างทุกคนที่ร่วมเรือลำเดียวกันให้ไปสู่รอดฝั่ง..... ส่วนคนใช้ของเขาก็ยอมตกลงทำตามเช่นกัน

     

     

     

     

    “ไหน แกลองบอกฉันมาซิว่าแกไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” 

     

     

    ซอฮยอนถลึงตาถาม สาวใช้ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ

     

     

    เธอกลัวแววตาลุกวาวกำลังมองมา มันทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะก้มหน้าลงและพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

     

     

    “ค่ะ ดิฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

     

     

    “ดี... แต่ถ้าแกเอาเรื่องไปบอกตำรวจเมื่อไหร่ ครอบครัว พี่น้องของแก จะกลายเป็นศพเหมือนไอ้แบคฮยอนนั่น”

     

     

    “ค่ะ ดิฉันจะไม่บอกตำรวจแน่นอนค่ะ”

     

     

     

     

    ชานยอล รู้เห็น เรื่องทุกอย่างทั้งหมด สุดท้ายสาวใช้ของเขาก็ยอมก้มหัวทำตามคำสั่งอย่างง่ายดาย เพื่อให้ครอบครัวของตัวเองอยู่รอด

               

     

    ทุกคนช่างขี้ขลาดตาขาว ไม่มีใครกล้าให้ปากคำตามความจริงแม้แต่คนเดียว คนชั่วถึงได้ลอยนวล

     

     

                ซอฮยอนแอบมองสามีอยู่ตลอดเวลา เหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ พอไม่มีแขกมองมาเขาก็ทำหน้าเศร้า พอแขกเข้ามาคุยด้วยเขาก็แสร้งทำเหมือนว่าดีใจ

     

     

                “ที่คุณพูดออกไป คุณรู้สึกอย่างนั้นจริงๆหรอ ชานยอล”

     

     

    หญิงสาวขยับปากเรียวบางที่เคลือบลิปสติสีชมพูอ่อนๆ เอ่ยถามสามีเบาๆ... ทั้งๆที่รู้ความจริงแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะถาม

     

     

                “ผมคิดว่า คุณคงรู้นะว่าผมแต่งงานกับคุณเพราะอะไร”

     

     

    เขาจึงตอกย้ำด้วยความพูดเดิมๆ... คำพูดที่แทงใจดำของเธอยิ่งนัก

     

     

                “ฉันรู้ค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยรักฉัน ...แต่ว่าฉันรักคุณนี่ มันผิดด้วยหรอ”

     

     

                “คุณไม่ผิดหรอก ผมเองแหละที่ผิด ผิดที่ยอมร่วมมือกับคุณ”

     

     

          เขาโทษตัวเอง ซอฮยอนถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พร้อมกับน้ำในตาไหลซึมออกมา ใครหลายคนต่างก็คิดว่า ที่หญิงสาวน้ำตาไหล มันเป็นเพราะความปราบปลื้มใจ ความจริงแล้ว ที่เธอร้องไห้จนน้ำตาตกใน มันเป็นเพราะความเสียใจต่างหาก

     

     


     

     

                ผ่านไปร่วมสองเดือน

     

     

    หลังจากที่แต่งงาน ทั้งสองก็ย้ายออกมาอยู่บ้านด้วยกันตามลำพัง ซึ่งชานยอลได้ออกแบบบ้านไว้ก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว

     

               

    ครอบครัวใหม่ของพวกเขา ใช่ว่าจะมีความสุขเหมือนครอบครัวอื่นทั่วไป ซอฮยอนทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีทุกๆวินาที ซึ่งตรงข้ามกับฝ่ายสามีทุกประการ เพราะหลังจากที่มาอยู่ร่วมชายหลังคาเดียวกัน เขาก็ไม่คิดจะแตะต้องเธอเลยสักครั้ง

     

               

    ซอฮยอนต้องการจะมีลูกกับชานยอล แต่สามีกลับไม่มีเวลาให้กับเธอ เขาเอาแต่ทำแต่งานทั้งวันทั้งคืน เวลาเขากลับมา เธอก็เผลอหลับไปแล้ว

     

               

    ชานยอลมักจะหนีหายไปไหนสักแห่งทุกวัน พร้อมกับกุหลาบสีชมพูหนึ่งดอก

     

     

    เธอสงสัยมาตลอด เลยต้องจ้างวานนักสืบมือดีไปตามสืบติดตัวเขา จนในที่สุดเธอก็ได้คำตอบ ที่ทำให้กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

     

     

    เขาไปบ้านหลังนั้น บ้านที่เคยสร้างไว้เพื่อแบคฮยอน

     

     

     

     

                ชานยอลมักจะวางดอกกุหลาบลงตรงที่ฝังศพคนรักไว้ พร้อมทั้งน้ำตา

     

     

                “ที่รักครับ... ตอนนี้ผมกำลังทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณนะ ถึงแม้ว่าผมจะทำไม่ได้ทั้งหมดก็ตามที แต่ผมก็จะรักษาสัญญาระหว่างเราไปเรื่อยๆ ผมจะทำมันไปจนกว่าผมหมดลมหายใจ... ตอนนี้ ก็ครบสามเดือนแล้วที่คุณจากไป... ว่ากันว่า คนที่จากไปสามเดือน ก็จะกลับมาได้อีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะมาหาผมแบบไหน ผมก็รอและจะรักคุณคนเดียว รักทุกชาติไป”

     

     

                เขาพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินออกจากบ้านหลังนั้นไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามาสายตาที่ทั้งรักทั้งรู้สึกแค้นจ้องมองมา น้ำตาไหลพรากออกมาเป็นสายเลือด ทั่วใบหน้าเรียวซีด จนเขาเดินลับหายไป

     

     

     

     

                ซอฮยอนนรู้ดี ต่อให้แบคฮยอนตายไปแล้ว เธอก็ยังเอาชนะใจชานยอลไม่ได้ เธอก็ได้แค่ตัวเขา แต่ไม่เคยได้หัวใจเขาไปเลย

     

     

                หญิงสาวเอาแต่นอนร้องไห้คร่ำครวญถึงเขาทุกวัน จนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนเปียกปอนไปน้ำตาแห่งความเสียใจ

     

     

                รอคอยเขากลับบ้านทุกเช้าเย็น แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่มาสักที จนเวลามันเลยผ่านเทียงคืนไปแล้ว

     

     

                “ก๊อกๆ”

     

     

                เป็นเสียงเคาะประตูด้านล่างดังขึ้นสองสามครั้ง ซอฮยอนลุกจากที่นอนในทันที เธอคิดว่าสามีคงกลับมาแล้ว

     


    หญิงสาวรีบเดินไปเปิดประตูให้เขาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเธอหมุนลูกบิดไขออกไป กลับปรากฏให้เห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า

     

               

    เธอคงจะเพ้อและร้องไห้หนัก เลยได้ยินเสียงแปลกๆเร็ดรอดขึ้นไปข้างบน หญิงสาวเริ่มมีสีหน้าที่มองลง ไม่มีร่างสามี ที่เธอต้องการจะกอดเขาไว้แน่นๆ ให้หายคิดถึง

     

     

    ซอฮยอนจึงตัดสินเอื้อมมือไปปิดประตู แต่ไม่ทันที่มือเร็วเล็กของเธอจะแตะถึงลูกบิด จู่ๆประตูก็ปิดเข้าเองจนดังปัง เหมือนจงใจกระแทกใส่หน้าแรงๆ  หญิงสาวผงะถอยหลังโดยอัตโนมัติ พลางยกมือขึ้นทาบอกความตกใจ ...

     

     

    อะไรกัน มันจะปิดเองได้ยังไง ในเมื่อไม่มีลมพัดผ่านมาทางนี้เลย

     

               

    ชั่วอึดใจเดียว ซอฮยอนก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่า เหม็นกลิ่นซากสัตว์ เหมือนซากเก่าๆฟุ้งไปทั่ว  ความกลัวเริ่มครอบงำขึ้นเรื่อยๆ จนหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่ม รู้สึกเริ่มเปลี่ยวเริ่มเหงา เธอพยายามสอดส่องตามหาซากเน่า แต่ก็ไม่เจอต้นตอ

     

               

    “ฟึบ!

     

     

    “กรี๊ด!

     

     

    เสียงไฟดับดังประสานขึ้นกับเสียงร้องของเธออย่างตกใจสุดขีด คราวนี้มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรแน่แล้ว ซอฮยอนนหายใจหอบถี่ๆ พยายามมองหาต้นตอของเรื่องรอบๆอีกครั้ง ขณะที่ไฟดับๆติดๆอยู่แบบนั้น

     

     

    ไม่ใช่เพียงแค่เหม็นกลิ่นอย่างเดียว ขณะนั้นเองสุนัขของชานยอลที่วิ่งมาจากไหนไม่ทราบ ก็เห่าร้องเสียงหลง ราวกำลังเห็นอะไรสักอย่าง

     

     

    “ไอ้ฮิปโป แกหยุดเห่าเดี๋ยวนี้นะ!

     

     

    ซอฮยอนกระชากเสียงดัง จนคอแทบพัง แต่เจ้าฮิปโปกลับไม่มีท่าทีจะหยุดเห่าง่ายๆ หนำซ้ำ ยิ่งส่งเสียงครางหอนดังมากขึ้นเรื่อยๆ มันกำลังเพ่งเล็งไปทางหลังของเธอ ซอฮยอนจึงหันขวับไปตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     

     

    จนในที่สุดเธอก็พบเห็นเงาสีขาวลางๆเดินผ่านหน้าไป ซอฮยอนแทบผงะหงายหลัง พลางเบิ่งตากว้างขึ้น ในเมื่อเธอเห็นภาพหน้ากลัวนั้นในระยะประชั้นชิด

     

     

    “กะ แกเป็นใคร!!

     

     

    เธอตะโกนร้องถามด้วยเสียงกล้าๆกลัว แต่ไร้วี่แววเสียงตอบรับ จะมีก็แค่เสียงเห่าหอนของสุนัขเท่านั้นยังดังไม่หยุด

     

     

    “ไอ้ฮิปโป แกหยุดเห่าเดี๋ยวนี้นะ!” ซอฮยอนตะโกนห้ามปราบ ทว่ามันกลับไม่ฟังเธออีกเหมือนเดิม

     

     

    “ถ้าแกไม่หยุด ฉันยิงแกแน่!

     

     

    ความชั่วร้ายเริ่มครอบงำไปพร้อมๆกับความกลัว เธอรีบเดินไปหยิบปืนที่เก็บซ่อนเอาไว้ข้างบน แล้วกับมาเล็งไปยังหมาตัวนั้น

     

     

    “แกจะหยุดหรือไม่หยุด ห้ะ”

     

     

    “โฮ่งๆ!”  นั้นคือคำตอบจากสุนัขของชานยอล

     

     

    “ไม่หยุดใช่มั้ย ได้  ปั้ง!

     

     

    “เอ๋ง!

     

     

    เสียงกระสุนดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องของหมา

     

     

    มันกำลังทรุดตัวลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวด เมื่อกระสุนฝังลึกเข้าไปบริเวณกลางลำตัว เลือดสีแดงสด ไหลทะลักออกมาราวกับน้ำ เสียงครางร้องอันแสนทรมาณเริ่มเลือนหายไปเรื่อยๆ ก่อนที่เปลือกตาของมันจะปิดลงสนิท

     

     

    เมื่อชีพจรของสุนัขหยุดเต้น แสงไฟก็สว่างขึ้นเป็นปกติ

     

     

    ซึ่งภาพทุกๆอย่างประจักต่อสายตาของชานยอล ขณะที่เขาผลักประตูเข้ามา

     

     

    เขาเห็นภาพสุนัขของเขา นอนดิ้นตายทุรนทุรายอยู่ตรงนั้น เพราะหญิงสาวคือต้นเหตุ

     

     

    “ฮิปโป!

     

     

               

     

     .....................................

     

    ขนาดมาแค่เงา ก็ทำเอาซอฮยอนหลอน จนเป็นบ้า ยิงหมาสุดที่รักของชานยอลตาย

     

    ต่อจากนี้ไป แบคจะเฮี้ยนขึ้นเรื่อยๆ

     

    ติดตามกันด้วยนะ

     

     

     

     

     

     




     ขนาดมาแค่เงา ก็ทำเอาซอฮยอนหลอน จนเป็นบ้า
    ยิงหมาสุดที่รักของชานยอลตาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     
     
     
     
     
     
     
     
     

    ต่อจากนี้ไป แบคจะเฮี้ยนขึ้นเรื่อยๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามกันนะ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×