ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พ่ายรัก [ChanBaek] [NC 18+]

    ลำดับตอนที่ #11 : เข้าบ้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.96K
      32
      5 เม.ย. 57

     




    ถึงเวลาแล้วที่แบคฮอนต้องเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาตามสัญญาที่ได้ให้ไว้... เพื่อชดใช้หนี้ให้หมดกับเงินห้าสิบล้านวอน

     

    ชานยอลขับรถมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ความจริงควรจะเรียกว่าคฤหาสน์เสียมากกว่า เพราะเมื่อมองจากข้างนอกรั้วสูงๆนั่น แบคฮยอนเห็นสิ่งก็สร้างขนาดใหญ่สีครีมตั้งเด่นตระหง่านอยู่ต่อหน้า  ร่างบางถึงกับอึ้งกับความรวยของเขา ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มาเหยียบบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้



                "
    นี่บ้านคุณเหรอครับ" แบคฮยอนเอ่ยถามทั้งที่ยังมองสำรวจไปรอบๆบริเวณด้วยความตื่นตะลึง


         
                "ครับ บ้านผมเอง สวยไหม" ชานยอลตอบก่อนจะขับมาจอดตรงบริเวณลานจอดรถ

     


                 “สวยสิ สวยมากด้วย”




          แบคฮยอนพยักหน้าสองสามครั้ง มองออกไปเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะเป็นบ้านเขา ฐานะของเขาถือว่ารวยจริงๆ ไม่งั้นคงไม่สร้างบ้านใหญ่ ขนาดนี้ได้หรอก

     

     

    “เราเขาไปข้างในกันเถอะครับ” เขาชวน

     

    แบคฮยอนเดินตามหลังเขาไปติดๆ ยังคงสำรวจมองไปรอบๆตัวบ้านหลังใหญ่หลังจากที่ลงจากรถ


     

    เขาไม่มีใครนอกจากสาวใช้เพียงไม่กี่คน และหลานชายอีกคนหนึ่ง


     

    “คุณอยู่บนห้องนั้นตามสบายเลยนะครับ... ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณเอง”


     

    ชายหนุ่มบอกเสียงทุ้มเรียบ หลังจากที่มาหยุดอยู่ในห้องๆหนึ่ง


     

    “แล้วคุณล่ะครับ”


     

    แบคฮยอนขมวดคิ้วถามเสียงแปลกใจ


     

    “ผมพักอยู่อีกห้อง... คุณไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งนั้น”


     

    เขาบอกให้ร่างบางหายกังวล


     

    เด็กหนุ่มมองหน้าเขาแล้วก็ถอนหายใจ... แบคฮยอนรู้ว่าเขาไม่สบายใจเท่าใดนัก  เขาจงใจที่จะปล่อยตน


     

    แต่แบคฮยอนไม่ต้องการเช่นนั้น


     

    แบคฮยอนต้องการทำตามสัญญาเสียมากกว่า


     

    เด็กหนุ่มเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม.. ห้องนี่สะอาดสะอ้าน


     

    ของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นม่านหน้าต่าง... ปลอกหมอนและผ้าปูเตียงล้วนแต่เป็นสีฟ้าอ่อนๆดูแล้วเย็นตา


     

    เหมือนเขาจะสั่งจัดไว้ให้โดยเฉพาะ


     

    บ้านของเขากว้างใหญ่กว่าบ้านของแบคฮยอนหลายสิบเท่า


     

    แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่กับหลานเพียงคนเดียว กับคนใช้แค่ไม่กี่คน


     

    “ขึ้นมาข้างบนแล้ว เดี๋ยวคุณลงไปทานอาหารว่างข้างล่างนะ”

     

    เขาบอกก่อนหน้านี้อย่างเอาใจ


     

    “แล้วคุณล่ะครับ”  เด็กหนุ่มถามกลับเสียงแปลกใจ


     

    “ผมจะออกไปธุระข้างนอก.. คงเย็นกว่าจะกลับ.... ทุกอย่างผมสั่งบ๊อกชิลไว้แล้ว” เขาหมายถึงคนใช้คนสำคัญของบ้าน


     

    “แล้วหลานชายคุณละครับ.. เขาอยู่บ้านด้วยหรือเปล่า”


     

    “วันนี้หลานผมมีเรียนครับ... แต่วันนี้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้ปิดเทอม... ยังไงช่วยฝากดูแลเขาด้วยคนนะครับ”


     

    “ได้ครับ แล้วหลานคุณชื่ออะไรครับ”

     

    “หลานผมชื่อจุนกิ.... ผมขอตัวออกไปข้างนอกก่อนนะ เอ่อแล้วอย่าลืมทำแผลด้วยล่ะ ไปถามเอาเครื่องปฐมพยาบาลกับบ๊อกชิลได้เลย ปล่อยไว้นานๆ เดี๋ยวมันจะบวมเอา แล้วคุณก็จะปวดมากเลยแหละ”


     

    เขาสั่งด้วยความเป็นห่วงแล้วเขาก็ไป ทิ้งให้แบคฮยอนอยู่ตามลำพังกับคนใช้.. เหมือนกลัวว่าถ้าเขาอยู่ด้วยแล้วแบคฮยอนจะอึดอัด


     

    เขาดีกว่าที่แบคฮยอนคิดไว้มาก... ดีจนรู้สึกละอายใจที่เคยเกลียดเขา


     

    แบคฮยอนเดินเข้าไปถามเครื่องปฐมพยาบาลจากสาวใช้ของเขาที่ยิ้มต้อนรับ ร่างบางเป็นอย่างดี พร้อมทั้งพูดคุยทักทายกันตามประสาคนมาอยู่บ้านร่วมหลังเดียวกัน


     

    บ๊อกชิลช่วยแบคฮยอนทำแผลด้วยคน ทีแรกแบคฮยอนปฏิเสธไป แต่เธอยืนกรานจะช่วยให้ได้ ร่างบางก็เลยปล่อยไปเลยตามเลย


     

    ชีวิตอยู่ภายในบ้านของเขาอีกหนึ่งปี แบคฮอนคงต้องอยู่รับใช้เขาให้สมกับที่เขาให้ยืมเงิน.. ไม่สนว่าใครจะพูดยังไงก็ตาม เพราะไม่เสียใจต่อไปแล้ว ที่ตัวเองตัดสินใจทำแบบนี้

    .

    .

    .

     

    ชานยอลกลับมาอีกครั้งเมื่อเย็นมากแล้ว หลังจากที่ไปรับหลานชายของเขาที่โรงเรียนประถมชื่อดังแห่งหนึ่ง

     

    “คุณทานข้าวหรือยัง”  เขาถามเสียงทุ้มขรึม


     

    “ผมรอทานข้าวพร้อมคุณครับ”


     

    แบคฮยอนตอบพร้อมกับยิ้มให้เขาอ่อนหวานเหมือนกระชากหัวใจของเขาไปทั้งดวงด้วยยิ้มนั้น


     

    “ทำไมต้องรอ  ไม่หิวหรือ”


     

    กระแสเสียงของเขาอ่อนโยนลงสีหน้าเบิกบานขึ้น


     

    “ไม่ครับ  เพิ่งทานของว่างไปเมื่อบ่ายนี้เองครับ”


     

    “เอ่อแบคฮยอน นี่หลานชายของผมครับ... จุนกิ พูดทักทายพี่แบคฮยอนซิครับ”


     

    เขาก้มลงพูดกับหลานชาย ส่วนแบคฮยอนก็ยิ้มให้บางๆ เพราะจุนกิ เป็นเด็กผิวขาว ดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย น่ารักเกินเด็กทั่วไป


     

    ทว่าเด็กชายจุนกิ วัยแปดขวบ กลับจ้องแบคฮยอนขวางๆตั้งแต่หัวจรดเท้า... รู้สึกไม่พอใจที่มีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม


     

    จุนกิสังเกตเห็นจากสายตาที่ชานยอลมองแบคฮยอนแล้ว... เหมือนว่าผู้เป็นอามีความรู้สึกพิเศษกับสมาชิกคนใหม่.. จุนกิเริ่มกลัวว่าแบคฮยอนจะะแย่งความรักของอาไปจากตน ก่อนจะส่ายหัวออกไปเป็นเชิงปฏิเสธ


     

    “ไม่ครับ...”  จุนกิพูดออกไปเสียงห้วนๆ ทำเอาแบคฮยอนถึงกับหุบยิ้มทันที


     

    “จุนกิทำไมเสียมารยาทกับพี่แบคฮยอนอย่างงั้นล่ะครับ... เป็นเด็ก ก็ควรเคารพผู้ใหญ่นะ” ชานยอลต่อว่า ยิ่งทำให้หลานชายชักสีหน้าโมโหใส่


     

    “ผมบอกแล้วว่าผมไม่ยอมก้มหัวไง แล้วก็ไม่มีวันด้วย!!”  จุนกิเริ่มพูดเสียงดัง ทำเอาคนฟังทั้งสองถึงกับทำหน้าไม่สบอารมณ์ โดยเฉพาะกับแบคฮยอน


     

    “โอเค ไม่ทักทายก็ไม่เป็นไร... ฉันเองก็ไม่ได้ต้องการคำทักทายจากเธอหรอกนะ... เด็กที่ดีน่ะก็ต้องพูดกับผู้ใหญ่อย่างมีหางเสียง”


     

     แบคฮยอนพูดจาถากถางกลับ จ้องตามองเด็กชายที่ชื่อจุนกิอย่างไม่ชอบใจ.. ความจริงแบคฮยอนเป็นคนเกลียดเด็กอยู่ด้วยแล้ว ยิ่งพอเห็นเด็กนิสัยดื้อมากขนาดนี้ ก็ยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่


     

    จุนกิจ้องมองแบคฮยอนกลับเช่นกัน... รู้สึกเกลียดขี้หน้าแบคฮยอนมากขึ้นกว่าเดิม.. เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าเหมือนไม่ชอบตัวเอง


     

    ส่วนคนกลางอย่างชานยอล ก็เริ่มหนักใจ ยิ่งช่วงนี้จุนกิก็ปิดเทอมแล้ว คงต้องใช้ชิวิตร่วมกันเป็นเดือนๆ... หลานชายของตัวเองก็ใช่ว่าจะเป็นเด็กเรียบร้อยซะที่ไหน จ้างพี่เลี้ยงมาอยู่เพียงไม่กี่วัน ก็ต้องลาออกกันหมด เพราะวีรกรรมของจุนกินั้นแสบสันเกินบรรยาย เลยไม่มีใครทนอยู่แม้แต่คนเดียว จะมีก็เพียงแค่สาวใช้แค่ไม่กี่คน ที่ทนตั้งท่ารับอารมณ์ของหลานชายเขาได้

     

    “พี่ไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนผม.... เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ.. คงจะเสนอตัวมาให้อาของผมล่ะสิท่า  หน้าด้าน!!”


     

    ประโยคสุดท้ายตอกเข้าหน้าแบคฮยอนอย่างจัง... ไม่คิดเลยว่าเด็กอายุแค่นี้กลับพูดจาต่อว่าได้อย่างเจ็บแสบเหลือเกิน.. แบคฮยอนพยายามระงับอารมณ์เอาไว้อย่างมาก... เพราะโมโหไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา


     

    ดูจากลักษณะประชดประชันของจุนกิ แบคฮยอนพอเดาได้ว่าเจ้าตัวคงเป็นเด็กมีปัญหา คล้ายๆกับเด็กขาดความอบอุ่นจากครอบครัว... ซึ่งแบคฮยอนเขาความรู้สึกนี้ดี เพียงแต่จุนกิยังเป็นเด็ก ยังคิดไม่ทันเป็น จึงเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีพูดจาระรานเพื่อทำให้ตัวเองนั้นมีความสำคัญต่อคนอื่น


     

    “ฉันจะเข้ามาที่นี่ในฐานะอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ... แต่ดูท่าทางเธอแล้ว คงจะไม่ชอบฉันมาก แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนนะ ฉันขอใช้ชีวิตที่นี่ โดยที่ไม่ต้องการจะสร้างศัตรูกับใคร เพราะฉะนั้นอยู่ใครอยู่มัน... ฉันน่ะ พอจะรู้ว่าเธอจ้องจะหาเรื่องแกล้งฉันแน่นอน”


     

    แบคฮยอนพูดดักหน้าอย่างรู้ทัน พลางส่งสายตาเหมือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ...


     

    เมื่อชานยอลเห็นว่าสถานการณ์คงไม่หยุดเดือดดาลลงง่าย เขาจึงรีบเข้ามาเปลี่ยนประเด็นโดยเร็ว ก่อนที่สงครามน้ำลายจะลุกลามไปมากกว่านี้

     

    “เอ่อตอนนี้ผมหิวมากเลยอ่ะ... ไปทานข้าวกันไหมครับ... จุนกิหิวแล้วใช่ไหม”


     

    “ครับ....”


     

    “งั้นก็ไปทานกันเลย”

     

    ชานยอลอุ้มหลานชายตัวเล็กเดินเข้าไปห้องทานอาหาร.. แบคฮยอนมองตามพวกเขาด้วยความรู้สึกเหนื่อยๆ.. ดูท่าทางของเด็กที่ก้าวร้าวแบบนั้นแล้ว คงจะอยู่ในบ้านด้วยความสงบสุขไม่ได้แน่ๆ

     

     

     

     

     

      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×