ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ภูมิแพ้กับส้มเน่า

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 54


     ตอนที่ 3 ภูมิแพ้กับส้มเน่า !!!

    “เขาว่าเขาเป็นเมียเรา!! จริงรึเปล่าตาภู” เสียงหญิงชราเอ่ยเสียงดังขึ้น จนหลานชายอึกอักหน้าซีด

    “...ไม่ใช่นะครับ” ภูชนะรีบปฏิเสธ

    “ยังจะมาปากแข็ง เรานี่นะทำอะไรไม่ไว้หน้าป้าบ้างเลย ดูซิแล้วนี่หัวร้างข้างแตก  จนความจำเสื่อมกันมา เกิดลูกเต้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาแกจะรับผิดชอบไหวเหรอ” ผู้เป็นป้ากล่าวอย่างอ่อนใจ

    “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ...”

    “ไม่รู้ล่ะได้เขาแล้วภูต้องรับผิดชอบแล้วนี่เขาชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใครรู้ไหม”

    “เออ... ไม่รู้ครับ” ภูชนะตอบเซ็งๆ

    “ไม่รู้.... โอ๊ยฉันจะเป็นลม” หญิงชราท่าทางจะลมจับเอาจริงๆ จนสร้อยต้องกุลีกุจอหายาดมยาหอมเป็นการใหญ่

    ภูชนะจ้องมองหน้าหวานที่กำลังทำหน้าตาน่าสงสารแบบเนียนๆ ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อที่ทำให้เขาได้รับโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อ

    “รู้อย่างนี่ทิ้งไว้ข้างทางซะก็ดี  มนุษยธรรมคำเดียวแท้ๆ เลย” ภูชนะสถบในใจ

    “นี่เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยรึไง” ชายหนุ่มเหวหาเรื่อง

    “ฉัน...” แกล้งตอบเสียงอ่อย

    “ฉัน... ฉัน..อยู่นั้นแหละเรื่องมันไปกันใหญ่แล้วก็เพราะเธอ”

    “ตาภู!” ภูชนะหุบปากทันที

    “แล้วจะนี่จะให้ป้าเรียกว่ายังไงล่ะจำอะไรไม่ได้อย่างนี่”

    “เรียกๆไปเถอะครับ จะยายสี ยายสา อะไรก็ได้มั่งครับ”

    “เรานี่มันแข็งกระด้างได้พ่อจริงๆ เลยตาภู” ภูชนะอารมณ์เสียหันหน้าหนี

    “งั้นป้าจะเรียกหนูว่า... อืม...” หญิงชราทำท่าคิด

    “ส้ม!! ดีไหม ที่นี่ปลูกส้มส่งออก เป็นไร่ส้มที่ตาภูชนะภูมิใจมาก”

    บารวีน้ำตาคลอ ก้มลงกราบแทบเท้าหญิงชราในความเมตตาที่มอบให้เธอ ทั้งยังเมตตาอุตส่าห์ตั้งชื่อให้เธออีกด้วย จนเธอรู้สึกละอายแก่ใจที่โกหกแต่เธอไม่มีทางเลือกเธอไม่ต้องการกลับบ้านที่มีแต่ฝูงแร้งรุมทึ่งในตอนนี่ “ขอโทษนะค่ะ” เสียงขอโทษแผ่วเบาที่ตั้งใจให้ได้ยินแค่เธอคนเดียว มันเป็นคำที่เธอต้องการจะบอกแต่บอกไม่ได้

    “ป้าชื่ออุ่น เรียกป้าอุ่นตามตาภูก็ได้ แล้วนี่ภูชนะ เรียกคุณภูเฉยๆก็พอ  อ้อ!! แล้วย้ายขึ้นมานอนห้องข้างๆป้านะป้าจะให้พวกเด็กๆ ไปทำความสะอาดให้”

    “คุณป้า!!!” ภูชนะร้องเสียงหลง

    “เอ้า!! ก็เขาเป็นเมียเราถึงจะยังไม่ตบแต่งก็เถอะ ตอนนี่แยกกันนอนก่อนเดี๋ยวให้หนูส้มเขาจำอะไรได้แล้วค่อยแต่งงานกัน”

    “แต่งงาน!!!!”เสียงอุทานดังลั่นทั้งสองฟากซ้ายขวาจากคนทั้งคู่ทำให้ผู้สูงวัยปิดหูแทบไม่ทัน

    “อะไรกัน จะตะโกนทำไม อู้ยเด็กพวกนี่ ไปสร้อย ไปบอกพวกเด็กๆ ว่าให้ขึ้นไปทำความสะอาดห้องกันดีกว่า” พลางลุกเดินจากไปเพื่อควบคุมการทำงานของเด็กๆ

    เมื่อผู้เป็นป้าเดินจากไปศึกก็เกิดขึ้นราวกับอยู่กลางสมรภูมิรบ ภูชนะคว้าแขนบารวีขึ้นมาจ้องวงหน้าหวานนั้นเข้ามาใกล้เตรียมจะหาเรื่องหากแต่เมื่อถูกจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นทำให้เขาหายใจไม่ออกอึกอักใจเต้น ริมฝีปากชมพูระเรื่อเม้มเพราะความเจ็บแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดร้องขอดูยังไงก็ “น่ารัก”  ไม่ซิ!! มันต้องไม่ใช่แบบนี่...

    “เธอ... ยัยส้มเน่า”

    “นี่คุณ... คุณป้าอุ่นตั้งชื่อให้ฉันว่าส้ม ไม่ใช่ส้มเน่า” บารวีเถียง

    “อยากเป็นนักใช่ไหมเมียฉัน? ...ได้.... แต่เธอต้องพิสูจน์ซะก่อนว่าเธอมีคุณสมบัติคู่ควรที่จะมาเป็นเมียฉันและเป็นนายหญิงที่นี่รึเปล่า”

    “เชอะ!! คิดว่าตัววิเศษมาจากไหน  ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย?...”

    “รึว่าไม่กล้า...”

    “คนอย่าง บะ...  “ส้ม” ไม่เคยกลัวใคร ว่ามาเลย”

    ภูชนะยิ้มเจ้าเล่ห์...

    “ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลยที่ไปรับปากนายนั้น บ้า บ้า บ้า” บารวีร้องด่าตัวเองทันทีที่ปิดประตูห้องใหม่ที่ป้าอุ่นจัดให้

    “ทั้งโง่ ทั้งบ้าเลย แต่อย่านึกนะนายภูชนะว่าฉันจะกลัวนาย แล้วเราจะได้เห็นดีกัน คนอย่างบารวีถ้าคิดจะทำต้องทำให้ได้....”

     

    “เธอต้องทำงานทุกอย่างในไร่ตามแต่ที่ฉันจะสั่ง เป็นเวลา 3 เดือน ว่าไงกลัวแล้วใช่ไหมยัยส้มเน่า”

    “นายนี่มันซาตานมาเกิดชัดๆ...”

    “นี่เธอ...” ภูชนะกัดฟันระงับความโกรธเมื่อถูกว่ากลับ  จนมือที่ชี้หน้าหญิงสาวสั่นระริก แล้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมใส่ตาคมของเธอแทน อย่างรวดเร็วจนเธอคิดว่าเขาคงเสียสติไปแล้วแน่ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

    “กฎข้อแรก ถ้าฉันสั่งให้เธอทำงานอะไร เธอต้องทำ โดยห้ามโต้แย้งหรือขัดขืน  ” ภูชนะพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด

    “อะไร? มีกฎด้วยเหรอไม่แฟร์เลยอะ” บารวีโวยวาย ท่าจะหนีเสือปะจระเข้ซะแล้ว

     “เมื่อกี้นายบอกว่าข้อแรก  แปลว่ามันต้องมีข้อต่อไปงั้นซิ...”

    “ใช่... วันนี่แค่นี่ก่อน พรุ่งนี่เจอกันตี 5 พร้อมทำงาน หวังว่าคงไม่กลัวจนหนีไปซะก่อนนะ” ภูชนะยิ้มอย่างผู้ชนะให้กับยายส้มเน่า “ของเขา”

    บารวีหน้าเหวอมองเขาเดินไปผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี ตรงข้ามกับเธอสิ้นดี

    “นายภูมิแพ้!!!” บารวีเคืองๆ พร้อมตั้งชื่อใหม่ให้ชายหนุ่มซะเลย

    -------------------------------

    5 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทย

    5…. 4….3….2….1….0……………

    เสียงกระหืดกระหอบที่กำลังวิ่งมาหยุดลงตรงหน้าเขา เสียงหอบแฮ๊ก แฮ๊ก พยายามหายใจ

    “เธอมาช้า...” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม

    “ฉันก็มาแล้วไง.... ...ตี.... 5 .....ตรงเป๊ะเลย” บารวีเถียงทั้งที่ยังหอบ

    “กฎข้อที่สอง เธอต้องมาตรงต่อเวลาหรือถ้าจะให้ดีเธอต้องมาก่อนเวลานัดจะดีมากกกก”

    “บ้า!!   แค่นี้ก็ต้องเป็นกฎด้วย” บารวีเถียง

    “งั้น กฎ....”

    “พอๆๆ.....” บารวีห้ามเอาไว้ก่อนที่จะมีกฎเยอะแยะหยุมหยิมมากกว่านี่

    “เช้านี้ข้อเดียวพอแล้ว   บอกมาดีกว่าว่าจะให้ฉันทำอะไร”

    “ถางหญ้า”

    “ถางหญ้า!!! ....ตอนตี 5 เนี่ยนะ คิดได้ไง  ฉันมองเห็นที่ไหน” บารวีแหกปากลั่น

    “จะแหกปากทำไม... ไหนว่าไม่กลัวไง” ชายหนุ่มล้อเลียนคำพูดเธอ

    “กฎข้อแรก ถ้าฉันสั่งให้เธอทำงานอะไรเธอต้องทำ โดยห้ามโต้แย้งหรือขัดขืน   ...จำได้ไหม?... เอานี่ถุงมือ แล้วใส่ชุดอะไรมา  ทำไมไม่ใส่แขนยาวเดี๋ยวแดดออกก็ดำหรอก”

    “ฉันจะรู้เหรอฉันไม่ใช่ชาวไร่นี่นา” บารวีเถียงขาดใจ

    “เถียง...  เดี๋ยวเถอะ”

    “เอานี่ เสื้อกับหมวก แล้วฉันจะกลับมาดู” ภูชนะโยนเสื้อและหมวกของตัวเองให้ไป จนหญิงสาวรับแทบไม่ทัน ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป

    “สั่งๆๆๆๆๆ คอยดูนะนายภูมิแพ้แล้วนายจะต้องเสียใจ”

    -------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×