คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ภูมิแพ้กับส้มเน่า
“เขาว่าเขาเป็นเมียเรา!! จริงรึเปล่าตาภู” เสียงหญิงชราเอ่ยเสียงดังขึ้น จนหลานชายอึกอักหน้าซีด
“...ไม่ใช่นะครับ” ภูชนะรีบปฏิเสธ
“ยังจะมาปากแข็ง เรานี่นะทำอะไรไม่ไว้หน้าป้าบ้างเลย ดูซิแล้วนี่หัวร้างข้างแตก จนความจำเสื่อมกันมา เกิดลูกเต้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาแกจะรับผิดชอบไหวเหรอ” ผู้เป็นป้ากล่าวอย่างอ่อนใจ
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ...”
“ไม่รู้ล่ะได้เขาแล้วภูต้องรับผิดชอบแล้วนี่เขาชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใครรู้ไหม”
“เออ... ไม่รู้ครับ” ภูชนะตอบเซ็งๆ
“ไม่รู้.... โอ๊ยฉันจะเป็นลม” หญิงชราท่าทางจะลมจับเอาจริงๆ จนสร้อยต้องกุลีกุจอหายาดมยาหอมเป็นการใหญ่
ภูชนะจ้องมองหน้าหวานที่กำลังทำหน้าตาน่าสงสารแบบเนียนๆ ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อที่ทำให้เขาได้รับโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อ
“รู้อย่างนี่ทิ้งไว้ข้างทางซะก็ดี มนุษยธรรมคำเดียวแท้ๆ เลย” ภูชนะสถบในใจ
“นี่เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยรึไง” ชายหนุ่มเหวหาเรื่อง
“ฉัน...” แกล้งตอบเสียงอ่อย
“ฉัน... ฉัน..อยู่นั้นแหละเรื่องมันไปกันใหญ่แล้วก็เพราะเธอ”
“ตาภู!” ภูชนะหุบปากทันที
“แล้วจะนี่จะให้ป้าเรียกว่ายังไงล่ะจำอะไรไม่ได้อย่างนี่”
“เรียกๆไปเถอะครับ จะยายสี ยายสา อะไรก็ได้มั่งครับ”
“เรานี่มันแข็งกระด้างได้พ่อจริงๆ เลยตาภู” ภูชนะอารมณ์เสียหันหน้าหนี
“งั้นป้าจะเรียกหนูว่า... อืม...” หญิงชราทำท่าคิด
“ส้ม!! ดีไหม ที่นี่ปลูกส้มส่งออก เป็นไร่ส้มที่ตาภูชนะภูมิใจมาก”
บารวีน้ำตาคลอ ก้มลงกราบแทบเท้าหญิงชราในความเมตตาที่มอบให้เธอ ทั้งยังเมตตาอุตส่าห์ตั้งชื่อให้เธออีกด้วย จนเธอรู้สึกละอายแก่ใจที่โกหกแต่เธอไม่มีทางเลือกเธอไม่ต้องการกลับบ้านที่มีแต่ฝูงแร้งรุมทึ่งในตอนนี่ “ขอโทษนะค่ะ” เสียงขอโทษแผ่วเบาที่ตั้งใจให้ได้ยินแค่เธอคนเดียว มันเป็นคำที่เธอต้องการจะบอกแต่บอกไม่ได้
“ป้าชื่ออุ่น เรียกป้าอุ่นตามตาภูก็ได้ แล้วนี่ภูชนะ เรียกคุณภูเฉยๆก็พอ อ้อ!! แล้วย้ายขึ้นมานอนห้องข้างๆป้านะป้าจะให้พวกเด็กๆ ไปทำความสะอาดให้”
“คุณป้า!!!” ภูชนะร้องเสียงหลง
“เอ้า!! ก็เขาเป็นเมียเราถึงจะยังไม่ตบแต่งก็เถอะ ตอนนี่แยกกันนอนก่อนเดี๋ยวให้หนูส้มเขาจำอะไรได้แล้วค่อยแต่งงานกัน”
“แต่งงาน!!!!”เสียงอุทานดังลั่นทั้งสองฟากซ้ายขวาจากคนทั้งคู่ทำให้ผู้สูงวัยปิดหูแทบไม่ทัน
“อะไรกัน จะตะโกนทำไม อู้ยเด็กพวกนี่ ไปสร้อย ไปบอกพวกเด็กๆ ว่าให้ขึ้นไปทำความสะอาดห้องกันดีกว่า” พลางลุกเดินจากไปเพื่อควบคุมการทำงานของเด็กๆ
เมื่อผู้เป็นป้าเดินจากไปศึกก็เกิดขึ้นราวกับอยู่กลางสมรภูมิรบ ภูชนะคว้าแขนบารวีขึ้นมาจ้องวงหน้าหวานนั้นเข้ามาใกล้เตรียมจะหาเรื่องหากแต่เมื่อถูกจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นทำให้เขาหายใจไม่ออกอึกอักใจเต้น ริมฝีปากชมพูระเรื่อเม้มเพราะความเจ็บแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดร้องขอดูยังไงก็ “น่ารัก” ไม่ซิ!! มันต้องไม่ใช่แบบนี่...
“เธอ... ยัยส้มเน่า”
“นี่คุณ... คุณป้าอุ่นตั้งชื่อให้ฉันว่าส้ม ไม่ใช่ส้มเน่า” บารวีเถียง
“อยากเป็นนักใช่ไหมเมียฉัน? ...ได้.... แต่เธอต้องพิสูจน์ซะก่อนว่าเธอมีคุณสมบัติคู่ควรที่จะมาเป็นเมียฉันและเป็นนายหญิงที่นี่รึเปล่า”
“เชอะ!! คิดว่าตัววิเศษมาจากไหน ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย?...”
“รึว่าไม่กล้า...”
“คนอย่าง บะ... “ส้ม” ไม่เคยกลัวใคร ว่ามาเลย”
ภูชนะยิ้มเจ้าเล่ห์...
“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลยที่ไปรับปากนาย
“ทั้งโง่ ทั้งบ้าเลย แต่อย่านึกนะนายภูชนะว่าฉันจะกลัวนาย แล้วเราจะได้เห็นดีกัน คนอย่างบารวีถ้าคิดจะทำต้องทำให้ได้....”
“เธอต้องทำงานทุกอย่างในไร่ตามแต่ที่ฉันจะสั่ง เป็นเวลา 3 เดือน ว่าไงกลัวแล้วใช่ไหมยัยส้มเน่า”
“นายนี่มันซาตานมาเกิดชัดๆ...”
“นี่เธอ...” ภูชนะกัดฟันระงับความโกรธเมื่อถูกว่ากลับ จนมือที่ชี้หน้าหญิงสาวสั่นระริก แล้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมใส่ตาคมของเธอแทน อย่างรวดเร็วจนเธอคิดว่าเขาคงเสียสติไปแล้วแน่ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“กฎข้อแรก ถ้าฉันสั่งให้เธอทำงานอะไร เธอต้องทำ โดยห้ามโต้แย้งหรือขัดขืน ” ภูชนะพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด
“อะไร? มีกฎด้วยเหรอไม่แฟร์เลยอะ” บารวีโวยวาย ท่าจะหนีเสือปะจระเข้ซะแล้ว
“เมื่อกี้นายบอกว่าข้อแรก แปลว่ามันต้องมีข้อต่อไปงั้นซิ...”
“ใช่... วันนี่แค่นี่ก่อน พรุ่งนี่เจอกันตี 5 พร้อมทำงาน หวังว่าคงไม่กลัวจนหนีไปซะก่อนนะ” ภูชนะยิ้มอย่างผู้ชนะให้กับยายส้มเน่า “ของเขา”
บารวีหน้าเหวอมองเขาเดินไปผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี ตรงข้ามกับเธอสิ้นดี
“นายภูมิแพ้!!!” บารวีเคืองๆ พร้อมตั้งชื่อใหม่ให้ชายหนุ่มซะเลย
-------------------------------
5 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทย
5
. 4
.3
.2
.1
.0
เสียงกระหืดกระหอบที่กำลังวิ่งมาหยุดลงตรงหน้าเขา เสียงหอบแฮ๊ก แฮ๊ก พยายามหายใจ
“เธอมาช้า...” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม
“ฉันก็มาแล้วไง.... ...ตี.... 5 .....ตรงเป๊ะเลย” บารวีเถียงทั้งที่ยังหอบ
“กฎข้อที่สอง เธอต้องมาตรงต่อเวลาหรือถ้าจะให้ดีเธอต้องมาก่อนเวลานัดจะดีมากกกก”
“บ้า!! แค่นี้ก็ต้องเป็นกฎด้วย” บารวีเถียง
“งั้น กฎ....”
“พอๆๆ.....” บารวีห้ามเอาไว้ก่อนที่จะมีกฎเยอะแยะหยุมหยิมมากกว่านี่
“เช้านี้ข้อเดียวพอแล้ว บอกมาดีกว่าว่าจะให้ฉันทำอะไร”
“ถางหญ้า”
“ถางหญ้า!!! ....ตอนตี 5 เนี่ยนะ คิดได้ไง ฉันมองเห็นที่ไหน” บารวีแหกปากลั่น
“จะแหกปากทำไม... ไหนว่าไม่กลัวไง” ชายหนุ่มล้อเลียนคำพูดเธอ
“กฎข้อแรก ถ้าฉันสั่งให้เธอทำงานอะไรเธอต้องทำ โดยห้ามโต้แย้งหรือขัดขืน ...จำได้ไหม?... เอานี่ถุงมือ แล้วใส่ชุดอะไรมา ทำไมไม่ใส่แขนยาวเดี๋ยวแดดออกก็ดำหรอก”
“ฉันจะรู้เหรอฉันไม่ใช่ชาวไร่นี่นา” บารวีเถียงขาดใจ
“เถียง... เดี๋ยวเถอะ”
“เอานี่ เสื้อกับหมวก แล้วฉันจะกลับมาดู” ภูชนะโยนเสื้อและหมวกของตัวเองให้ไป จนหญิงสาวรับแทบไม่ทัน ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
“สั่งๆๆๆๆๆ คอยดูนะนายภูมิแพ้แล้วนายจะต้องเสียใจ”
-------------------------------------
ความคิดเห็น