ตอนที่ 8 : รู้สึก
ตอนที่ 8 รู้สึก
น้ำทิพย์อ่อนใจกับราศรีมาทั้งวันและเพื่อนของเขาหายหัวไปไหนก็ยังไม่รู้น้ำทิพย์พยายามโทรติดต่อวุ้นเส้นเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องราวต่างๆหลายๆเรื่อง ไหนจะเรื่องของราศรี เรื่องของที่ทำงาน เรื่องของดาริณ และยังเรื่องร่างของสาวหน้าหมวยคนนี้
ศิรินตามเขาเหมือนเงาตามตัวแต่ตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจที่ได้มาอยู่กับน้ำทิพย์เพียงเวลาผ่านไปเกือบ 1สัปดาห์และเธอเลิกบ่นเลิกโวยวายเพราะดูเหมือนจะเข้าใจอีกฝ่ายเข้าแล้ว
เขานั่งข้างๆเธอแล้วเอามือของของเธอขึ้นมาบีบนวดเบาๆ
“บีกลัวยูจะเมื่อยบีนวดให้เบาๆแล้วกันนะบีไม่รู้ว่ายูชอบนวดหรือเล่าตื่นมาคุยกันได้ไหมบีอยากรู้จักอยากคุยด้วย”
ศิรินใจชื้นแล้วยิ้มมองหมอสาวหล่อตรงหน้าเธอนั่งตักเขาอย่างลืมตัว เอาอีกแล้วความรู้สึกนี้อีกแล้วตักหนักๆและขาเริ่มจะขยับไม่ได้น้ำทิพย์พยายามจะลุกและยิ่งจะลุกเจ้าตัวเล็กก็นั่งทับเขาแน่น
“ยูจะไม่ให้บีไปไหนเลยใช่ไหม”
เขาสบทออกมาแล้วขำเบาๆเขาไม่รู้หรอกว่าวิญาณของร่างหมวยนั้นนนั่งทับเขาอยู่และแสดงความเป็นเจ้าของเพียงฝ่ายเดียวและดูเหมือนน้ำทิพย์จะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
“ยูอยากรู้จักไอเหรอแต่ไอกลัวว่าถ้ายูรู้ความจริงว่าไอเป็นใครไอกลัวยูจะหนีเตลิดไม่เข้าหาไอมากกว่า”
ตอนนี้ศิรินกลัวแค่หากวันใดถ้าน้ำทิพย์รู้ว่าตัวเองเป็นใครคงหนีเตลิดเหมือนคนอื่นๆที่เคยรู้จักมานั่นหมายถึงคนที่คบหรือคุยกันอยู่จนกระทั่งศิรินโดนมาให้ดูตัวครั้งนี้และก่อนๆหน้านั้นเรียกได้ว่าเดือนละคนเลยก็ว่าได้
“บีอยากคุยกับยูยูอยู่ไหนไอไม่กลัวหรอกนะไม่ว่ายูจะเป็นผี เป็นเทวดา เป็นนางฟ้าอยู่ที่ไหนบอกบีได้ไหม”
น้ำทิพย์นวดให้ศิรินทั้งขา แขน และ สองมือ ศิรินมองน้ำทิพย์แล้วยิ้มมันทำให้หัวใจของเธออบอุ่นไปทั่วกายเธอรับรู้ได้ว่าตอนนี้ก็ยังมีคนที่คอยห่วงใยเขาถึงสองคนนั้นคือประกายกาวและน้ำทิพย์นี่เองเขาเป็นคนดีอย่างที่ประกายดาวบอกเอาไว้
น้ำทิพย์ลงนอนข้างๆร่างหญิงสาวอย่างเหนื่อยอ่อน
“คืนนี้บีขอนอนด้วยนะไม่ว่ากันใช่ไหมวันนี้บีเหนื่อยเจอแต่เรื่องแต่น่าแปลกนะทำไมบีรู้สึกว่ายูยู่กับบีตลอดเวลาเลยถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก็ขอบคุณนะ”
น้ำทิพย์หอมแก้มอีกคนไปฟอดใหญ่
“ค่าจ้างบีก็แล้วกัน”
เขาเอ่ยกับร่างสาวหมวยที่นอนหลับไหลแต่ก็ยังมีไออุ่นๆอยู่กับตัว หอมแรกของน้ำทิพย์นั้นมันทำให้ศิรินเม้มปากแน่นแล้วเอามือจับแก้มตัวเองเบาๆแล้วพึมพำๆ
“คนบ้าคนฉวยโอกาส”
แต่จะว่าไปน้ำทิพย์เขาไม่ได้ยินหรอก เขานอนหลับอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วสวมกอดร่างเล็กเอาไว้ราวหมอนข้างในราตรีนั้นศิรินได้เปลี่ยนกายทิพย์ไปอย่างสิ้นเชิง กายทิพย์ของศิรินนั้นดูสวยขึ้นราวกับนางฟ้าประกายดาวมองลงมาแล้วยิ้มให้กับการเปลี่ยนไปของร่างทิพย์ของหลานสาว
ศิรินยังไม่ได้สนใจร่างกายทิพย์ของตัวเองซักนิด ร่างทิพย์ของเธอตอนนี้ ใส่ชุดไทยสีชมพูมีเพชรระยิบไปทั่วผ้าแพรชั้นดีที่ประกายดาวส่งมาให้ ศิรินยอมให้เขากอดร่างที่นอนอยู่บนเตียงศิรินลงนอนข้างๆเขาเตียงของน้ำทิพย์นั้นใหญ่พอสำหรับสามคน ศิรินสวมกอดเขาไว้แนนบกายส่วนน้ำทิพยืเองก็เหมือนรู้ศึกได้ว่ามีคนมาสวมกอดจากข้างหลัง
“ยูกอดไออยู่เหรอหนักจัง”
เขาพึมพำ
“แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกเน๊อะ”
เขาเอ่ยอีกจนกระทั่งหลับไป
ศิรินยิ้มมองน้ำทิพย์ยามหลับไหลมันเป็นภาพที่ชวนมองชื่นตาชื่นใจอย่างไม่น่าเชื่อ
ทางด้านอองตวนได้มาแวะเวียนที่บ้านเมืองของศิรินบ่อยๆจนผ่านไป 1 สัปดาห์และดูเหมือนจะสนิทกับองค์หญิงพลอยมากขึ้นเช้าวันนี้ก็เช่นเดียวกัน
“เสด็จมาเกือบจะทุกวันไม่ทรงเบื่อบ้างเหรอเพคะเจ้าชาย”
อองตวนหันมองตามเสียงเรียกแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ไม่เบื่อหรอกค่ะเมื่อพี่ได้มองเจ้าน้องหาเบื่อไม่”
พาลอยยิ้มเขินแล้วเดินลงมาหาคู่หมั้นของพี่สาว
“แต่ทรงอย่าลืมนะเพคะว่าพระองค์เป็นคู่หมั้นของพี่หญิง”
พาลอยเตือนอีกครั้งเพราะกลัวตัวเองและอีกคนจะเผลอใจชอบพอกันซึ่งมันไม่ถูกต้อง
“พี่ไม่ลืมหรอกค่ะแต่ที่มาที่นี่เพราะพี่อยากทำความรู้จักน้องคริสให้มากขึ้นจากน้องหญิง”
พาลอยยิ้มกับความคำคมของเจ้าชายรูปงามพระองค์นี้ที่ต่างใครๆก็อยากได้ไปเป็นคู่ครองมากมายนักพาลอยเองก็อยากรู้เช่นกันว่า ว่าที่พี่เขยของเขาจะดีจริงอย่างที่ปากว่าหรือเปล่าเลยไม่ขัดเจ้าชายว่าจะทรงมาเมื่อใดพาลอยพร้อมที่จพต้อนรับ
พาลอยพาอองตวนเดินชมสวนดอกทิวลิปที่ศิรินปลูกเอาไว้ในสวนหลังวัง
“ทรงทานอะไรมาหรือยังเพคะ”
อองตวนส่วยหน้า
“พี่อยากมาทานอาหารฝีมือน้องหญิงทำให้พี่ทานได้ไหมคะ”
พาลอยขมวดคิ้ว
“อาหารฝีมือพลอยเหรอเพคะ”
เขาพยักหน้าอีกครั้ง
“ใช่ค่ะวันก่อนนางกำนัลยกมาให้บอกว่า สปาร์เก็ตตี้มีทบอลฝีมือน้องหญิงพี่ลองทานไปก็อร่อยดีนะคะพี่เริ่มถูกปากกับอาหารของที่นี่แล้วทำให้พี่ทานได้ไหมคะ”
พาลอยยิ้มหวาน
“ถ้าเจ้าชายต้องการก็ได้เพคะเดี๋ยวพลอยไปทำมาให้”
อองตวนรู้สึกขัดใจอยากไรบอกไม่ถูกเกี่ยวกับคำเรียกของพาลอย
“พลอยคะต่อจากนี้เรียกพี่ว่าพี่ได้ไหมอย่าเรียกเจ้าชายเลยมันดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ”
พาลอยฟังคำตรัสของอีกคนแล้วยิ่งสงสัยและสับสนไปใรคราวเดียวกัน
“ทำไมถึงอยากให้หม่อมฉันเรียกเจ้าชายแบบนั้นเล่าเพคะถ้าหากเป็นเจ้าพี่ศิรินน้องจะไม่แปลกใจแต่นี่หม่อมฉันไม่ใช่เจ้าพี่นะเพคะ”
พาลอยพูดจบยังไม่ทันรอฟังคำตอบจากอีกคนแล้วรีบเดินเข้าครัวเขามองดอกทิวลิปในสวนดอกไม้ของว่าที่คู่หมั้นของเขาแล้วคิดทบทวนเรื่องราวอาทิตย์แรกที่ศิรินไปเที่ยวประเทศไทยและได้รู้เรื่องราวต่างๆของว่าที่คู่หมั้นผ่านน้องสาวของศิรินมากมาย ว่าสิ่งใดที่ศิรินชองหรือไม่ชอบละที่แน่ๆถ้าตามไปด้วยโดยที่ศิรินไม่ต้องการได้มีเรื่องมากมายกกว่านี้แน่ๆเขาเลยตัดสินใจไม่ตามไปแต่มาหาพาลอยบ่อยๆเขาเริ่มคิดว่าคนที่เขาชอบเป็นใครกันแน่ ศิริน หรือ พาลอย
พาลอยเข้าครัวทำสปาร์เก็ตตี้มีทบอลให้อีกคน พลอย ได้เตรียมส่วนผสมจนครบก่อนเอาเนื้อบดไปเคี้ยวลงกระทะกับซอสก่อนใส่เส้นสปาร์เก็ตตี้ พาลอยถอนหายใจไปทำไปคนสนิทเดินเข้ามาใกล้ๆ
“องค์หญิงเพคะเนื้อบดไหม้หมดแล้วเพคะ”
พาลอยยังเคี้ยวเนื้อบดต่อไปเรื่อยๆไม่มีท่าทางที่จะหยุดคนสนิท เดินเข้าไปสะกิดแขนของพาลอยเบาๆพาลอยสะดุ้งเบาๆแล้วหันมอง
“มีอะไรจัสมินเราตกใจหมด”
จัสมินตรัสตอบ
“เจ้าหญิงทรงเหม่อๆเนื้อบดไหม้หมดแล้วเพคะ”
พาลอยหันมองในเตาแล้วรีบปิดไฟ
“ไหม้จริงๆด้วยขอบใจนะจัสมินที่เตือนไปบอกเจ้าชายนะรอก่อน”
จัสมินรับคำ
“ทรงไม่สบายหรือเปล่าเพคะทำไมทรงเหม่อๆ”
พาลอยฟังคำถามคนสนิทแล้วถอนหายใจยาวอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอกน่ะพลอยิดอะไรเรื่อยเปื่อยออกไปบอกเจ้าชายให้รอก่อนนะขอเวลา 20 นาที”
จัสมินรับคำแล้วออกไปทูลเจ้าชายอองตวนตามรับสั่ง
“เจ้าชายเพคะทรงรอสักครู่นะเพคะพอดีว่าเจ้าหญิงทรงทำเนื้อบดไหม้เพคะ”
อองตวนหัวเราะร่วนสีหน้าเขาดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก จัสมินมองงงง
“ทรงขันอะไรเพคะ”
อองตวนหันมองคนสนิทของคนเล็ก
“เราจะได้ทานมีทบอลไหมจัสมิน”
จัสมินพยักหน้า
“ได้เพคะทรงรอสักครู่เพคะเจ้าหญิงทำจังทำให้หใม่เพคะ”
เขาพยักหน้าแล้วนั่งรออีกคน จัสมินโค้งให้อองตวนเล็กน้อยก่อนเดินกลับไปหาพลอย พลอยทำจนเสร็จแล้วเดินยกมาเสริฟอีกคนกลิ่นหอมของเนื้อบดที่ผสมทุกอย่างจนเข้ากันแตะจมูกของอองตวนอย่างจังเขาหันมองตามกลิ่นอาหารและพบว่าพาลอยอบู่ในชุดธรรมดาพร้อมผ้ากันเปื้อนที่คาดเอวไว้สำหรับทำอาหารเขามองไม่วางตากับท่าทางและทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติของอีกคน
“ได้ข่าวว่าทำเนื้อบดไหมหรือ”
พาลอยเม้มปากเบาแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ทานได้ก็ทานทานไม่ได้ก็ไม่ต้องทานเพคะ”
อองตวนกลั้นหัวเราะแล้วลงมือทาน
“นี่ทำใหม่แล้วเหรอทำไมยังรู้สึกว่าได้กลิ่นไหม้อยู่ล่ะ”
พาลอยเบิกตาโพล่ง
“ยังยังมีกลิ่นไหม้!!!...ถ้างั้นหม่อมฉันไปเปลี่ยนให้นะเพคะ”
พลอยดูรุกลี้รุกรนราวกับทำสิ่งที่ผิดหรือน่าอายมากมายท่าทางที่เป็นธรรมชาติของคนน้องนั้นมันทำให้อองตวนเหมือนหลงใหลเข้าไปทั้งใจดูเหมือนจะลืมคนพี่ไปแล้วชั่วคราว
“พี่ทานได้ อื้ม....”
เขาเคี้ยวไปมองอีกคนไปมันทำให้คนทำยืนรอลุ้นฟังคำตอบ
“อร่อยดีนะคะ”
พาลอยยู่หน้าใส่อีกคน
“อร่อยแบบไหม้ๆ”
อองตวนทานจนหมดแล้วคว้าพาลอยมาสวมกอดไว้
“ไม่ไหม้ค่ะอร่อยด้วย พี่ล้อเล่น”
พาลอยใจเต้นรัวเมื่อโดนอีกคนกอดเพราะตลอดเวลาพาลอยไม่เคยโดนผู้ชายกอดนอกจากท่านพ่อกับท่านปู่ของตัวเองจัสมินมาเห็นพอดี
“จะ จะ...เจ้าชายทรงทำอะไรเพคะ”
อองตวนหันไปตามเสียงที่ราวดูเหมือนจะตระหนกตกใจ
“ก็ไม่มีอะไรแค่กอดน้องเอง”
กอดน้อง กอดน้อง พาลอยทวนคำพูดอีกฝ่าย
“ทรงปล่อยองค์หญิงเถอะเพคะองค์หญิงไม่เคยโดนชายใดกอดนะเพคะพระองค์เป็นคนแรก”
จัสมินพูดออกไปดูเหมือนจะหวังดีมันทำให้เจ้าตัวที่ถูกกก่อนหน้าแดงแล้วรีบสลัดอ้อมกอดของอีกคนแล้วรีบเดินกลับเข้าวังไปมันทำให้อองตวนยิ้มไม่หุบก่อนกลับบ้านเมืองเขาไปจัสมินเก็บจานอาหารไปล้างอย่างเรียบร้อย
.
.
.
...จบตอน...
มาต่อกันแล้วนะคะ คุณบีจะหลายใจไหม
เจ้าชายหลายใจจัง
รอลุ้นกันต่อนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
