คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SNSD] ข้อพิสูจน์ว่าพวกเธอ ไม่ได้มีแค่ หน้าตา
1. พวกเธอซ้อมอย่างหนักทุกวัน ถึงแม้ตารางงานจะมีมากแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงต้องซ้อมกันทุกวัน
ในช่วงหนึ่งที่ยุนอายังถ่ายละคร You are my destiny อยู่ แน่นอน มันเป็นละครประจำวัน ต้องถ่ายทำกันอย่างหนักเพื่อที่จะได้ทันสำหรับใช้ออกอากาศ(รวมทั้งหมด 178 ตอน ยิ่งกว่ามหากาพย์)
ถึงแม้ว่าการถ่ายทำในแต่ละวันจะเสร็จค่อนข้างดึก บ้างครั้งก็กินเวลาไปถึงเช้ามืดของอีกวัน แต่ยุนอาก็ยังต้องเดินทางเพื่อไปยังห้องซ้อมทั้งๆที่เหนื่อยมาทั้งวันแต่เธอ ก็ยังเลือกที่จะซ้อม บางครั้งก็มาทันที่จะได้ซ้อมร่วมกันสมาชิกคนอื่น แต่ในบางครั้งกลับต้องซ้อมเพียงคนเดียว เพราะเสร็จงานดึกเกินไป
แทยอนก็เช่นกัน ทั้งๆที่การเป็นดีเจทุกวันจะต้องใช้เสียงอย่างหนัก แต่เธอก็ยังกลับไปยังสตูดิโอเพื่อซ้อมเหมือนกัน สิ่งนี้เรียกว่า "ความมานะ และตั้งใจ"
2. ไม่ใช่ว่า ที่พวกเธอต้องซ้อมทุกวันเป็นเพราะว่าพวกเธอเป็นมืออาชีพไม่พอ แต่เพราะว่าพวกเธอมีความเป็นมืออาชีพมากๆต่างหาก
นักปราชญ์อ่านหนังสือทุกวัน อ่านซ้ำๆจนวชาญ คนที่ทำอะไรโดยที่เกียจคร้าน ไม่มีวันที่จะสำเร็จได้
พวกเธอเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความรับผิดชอบสูงมากจริงๆ
3. คิมแทยอน มีความสามารถในการร้องสดดีมาก เธอสามารถทำทุกเสียงที่อยู่ในดิจิตอลซิงเกิ้ลให้เป็นจริงได้
นั่นหมายความว่า Sm Ent. ไม่เคยโกหกความสามารถของเธอ หรือสร้างความสามารถหลอกขึ้นมาเพื่อบันทึกไว้ในเพลงฉบับวางขายเฉยๆ
แต่นั่นคือสิ่งที่แทยอนทำได้จริง เธอมีเพลงเดี่ยวเป็นของตัวเอง If และ Can You Hear Me?
- ในช่วงที่เธออายุ 15 ปี คุณThe One ได้ชักชวนให้เธอมาร่วมร้องเพลงในอัลบั้มของเค้า (เพลง You Bring Me Joy)
ในตอนนั้นเธอยังไม่ได้เดบิวต์เป็นโซนยอชิแดเลยด้วยซ้ำ
4.เจสสิก้า เป็นอีกหนึ่งคนที่ร้องเพลงเพราะมาก เธอมาที่เกาหลี และเข้าร่วมการออดิชั่นด้วยความบัญเอิญ เธอไม่รู้จักศิลปินเกาหลีเลย
ในเวลานั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าH.O.T. คือใคร เธอไม่ได้ออดิชั่นเพราะบ้านักร้องชาย การที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวันเป็นเวลาถึง 7 ปี 6 เดือน
ถ้าเป็นคุณ คุณยังจะอดทนอยู่หรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ คุณยังจะตั้งใจซ้อมได้หรือเปล่า เธอเดินทางจากอเมริกาตั้งแต่อยู่ป.5
เพื่อที่จะมารับการฝึกที่แสนหนักหน่วง ช่วงเวลา 7 ปี ที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อไปถึงฝันของตัวเอง
ลองนึกย้อนดูสิในช่วงการเรียนตั้งแต่ ป.5 - ม.5 ของคุณ ในตอนนั้นคุณกำลังทำอะไรกันอยู่งั้นเหรอ ตั้งกระทู้ด่าชาวบ้านหรือเปล่า!?
5. ซันนี่ มีคนมากมายดูถูกเธอเพียงเพราะว่าในใบประวัติของเอสเอ็มเขียนว่าเธอมีระยะเวลาการฝึกแค่ 9 เดือน ถูกต้อง!!
นั่นคือระยะเวลาที่เธอฝึกกับเอสเอ็ม แต่ก่อนหน้านั้น เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่เธอฝึกซ้อมอยู่ในอีกค่ายหนึ่ง และแน่นอนเธอเป็นหลานสาวของอี ซูมาน เค้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าหลานของตนเองมีความสามารถอยู่ในระดับใด
ทุกอย่างที่ซันนี่ทำตอนที่ฝึกอยู่อีกค่ายหนึ่ง อี ซูมานต้องรับรู้อยู่แล้ว
- ซันนี่ร้องสดได้ดีมาก ถ้าคุณตั้งใจฟัง คุณจะเห็นความจริงในข้อนี้ เธอมีเพลงโซโล่เดี่ยวของตัวเอง (I don't know about love และ Finally Now)
ก็น่าจะรู้ คนที่จะได้ร้องเพลงโซโล่จะต้องเป็นคนที่มีคุณภาพเสียงดีจริงๆอี ซูมานไม่เคยปล่อยให้คนที่จะทำลายชื่อเสียงของเขาอยู่รอด
CEO อันดับ1ของเกาหลีใต้ ไม่โง่หรอกนะ
6. ทิฟฟานี่ การที่เธอมีท่อนร้องในเพลงน้อย ไม่ได้หมายความว่าเธอร้องเพลงไม่ได้ ถ้าคุณเคยได้ฟังหรือดูคลิปที่ทิฟฟานี่ร้องสดในรายการวิทยุ
คุณจะได้รู้ว่าเธอเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมาก แน่นอนเธอมีเพลงโซโล่ของตัวเองเช่นกัน ในเพลง By myself
(เพลงนี้มีหลายชื่อมาก แต่มีความหมายประมาณว่า 'เหลือเพียงฉัน' ) และก็ร่วมร้องDuet กับคุณ K.Will ในเพลง Girl,Meets Love
7. คิม ฮโยยอน ฉันไม่สามารถที่จะทราบได้หมดว่าแขนงของการเต้นมีอะไรบ้าง แต่ฮโยยอนกลับเต้นได้เกือบหมดทุกแบบ การเต้นของเธอเป็นความสามารถที่น่าทึ่งจริงๆ
- เธอได้รับการฝึกเต้นเทียบเท่ากับนักร้องชาย ในช่วงของการฝึกฝน ต้นสังกัดแยกเธอให้ไปเรียนเต้นในคลาสเรียนของศิลปินฝึกหัดชาย
นั่นมีความหมายคล้ายคลึงว่าเธอมีความสามารถและความคล่องแคล่วพอๆกับศิลปินชาย และแน่นอนการฝึกเต้นของผู้ชายก็ต้องสำหรับผู้ชาย
แค่ฟังก็รู้ว่ามันหนักสำหรับผู้หญิง แต่ฮโยยอนสามารถทำได้
- ถึงแม้จะมีบางคนบอกว่าเธอร้องเพลงได้ไม่ดี แต่ถ้าคุณเอาความสามารถในการเต้นของเธอมาสู้ มันมีพลังมากพอที่จะกลบคำกล่าวหานั่นได้ทั้งหมด
8. ควอน ยูรี เธอเป็นคนที่มีความสามารถในหลายๆด้าน เธอมีตำแหน่งในโซนยอชิแดคือตัวเต้นนำ (Lead Dancer)
ยูรีมีความสามารถในการเต้นเน้นสรีระของร่างกาย (เช่น S line )
- มีไม่มากหรอกนะ (หรืออาจจะไม่มีเลย) ที่สมาชิกในกลุ่มไอดอลที่อยู่ในพาร์ทเต้นจะได้ร้องเพลงประกอบละคร ยูรีมีผลงานเพลงซึ่งร้องDuet กับ ซูยอง (เพลง For Sure) นั่นหมายความว่าเธอมีความสามารถในการร้องเพลง และทำได้ดีไปพร้อมๆกับการเต้น นอกจากนี้เธอก็มีผลงานด้านการแสดงด้วยเช่นกัน ในซิทคอมเรื่อง Unforgotable Marriage
9. ชเว ซูยอง ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งตัวเต้นหลัก หรือ ตัวเต้นนำ แต่ซูยองเป็นคนที่เต้นสวยมากๆ เธอเป็นคนที่มีไหวพริบ
และพูดจาอย่างฉะฉานในทุกๆครั้งที่ให้สัมภาษณ์ ความสามารถ Home Shopping ของเธอเป็นสิ่งที่ได้รับการเลื่องลือ และแน่นอน Home Shopping ของเธอเป็นสคริปต์สด เธอคิดสิ่งที่เธอจะพูดได้ในเวลาไม่ถึงนาที เธอมีศิลปะในการพูดเป็นอย่างมาก และเช่นกัน เธอมีความสามารถในการร้องเพลง (For Sure) และการแสดง (ซิทคอม Unforgotable Marriage ร่วมกับยูริ) และก่อนที่จะเดบิวท์เป็นโซนยอชิแด เธอยังทำงานเป็นดีเจอีกด้วย (ร่วมกับ รุ่นพี่ซองมิน Super Junior ใน Chun Bang Ji Suk Radio)
10. อิม ยุนอา เธอเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในตำแหน่ง Lead Dancer ยุนอาเป็นคนที่มีไลน์เต้นที่ค่อนข้างชัดเจน (เต้นแข็งแรง เหยียดแขนตรงมาก)
และที่สำคัญ นักแสดง 4 รางวัลใหญ่ ใน 1 ปี เธอได้รับรางวัลในการประกาศผลรางวัลเกี่ยวกับภาพยนตร์ถึง 4 รางวัล ใน 2 เวที
11. ซอฮยอน น้องเล็กผู้มีความสามารถหลากหลาย เธอได้เข้าร่วมในหลายๆโปรเจคพิเศษ มีเพลงทรอทที่ร้องร่วมกับนักร้องคุณภาพอย่าง
คุณจูฮยอนมี (เพลง Jarajajja) ซึ่งได้ขึ้นร้องสดตามรายการเพลงต่างๆ และเธอก็ทำได้ดีมากๆ
12.เงินเดือนเดือนแรกจากการทำงานของแทยอน เธอเลือกที่จะนำมันไปซื้อบัตรเครดิตให้กับพ่อและแม่ (รวมถึงเงินในบัตรเครดิตด้วย) แทนที่การซื้อของที่ตัวเองต้องการ
13.ทั้งๆที่การออกไปเดินห้างอย่างคนปกติสำหรับผู้มีชื่อเสียงนั้น ค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่เสี่ยง แต่เจสสิก้า เลือกที่จะไปซื้อหนังสือที่ห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเอง (โดยที่ไม่พรางตัว) ถึงแม้ว่าเธอสามารถที่จะวานสตาฟฟ์ให้ไปแทนได้
แต่เธอเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น
14.ในรายการ Girls Go To School ซึ่งเป็นการบันทึกเทปลับ(ไม่ได้ออกอากาศ)ของรายการ School of Rock พวกเธอต้องทำการแสดงเพลง
Into The New World หลายรอบมาก เพราะแฟนๆเรียกร้อง หลังจากที่จบการแสดงลง ในระหว่างทางกลับไปยังรถตู้ เพราะว่าเหนื่อยมากๆ
เจสสิก้าถึงกับเป็นลม และเกือบจะหมดสติ หน้าของเธอซีดมาก เนื่องมาจากการแสดงที่หนัก แต่ถึงอย่างนั้น ในตอนที่อยู่บนเวที
เธอกลับยิ้มออกมาอย่างจริงใจ และไม่แสดงอาการใดๆที่บ่งบอกว่าเธอเหนื่อยเลย (ทั้งๆที่เหงื่อออกมากเกินกว่าปกติ และหน้าที่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด)
15.ในการแสดงเปิดตัวของพวกเธอ (อย่างไม่เป็นทางการ) ในเพลง Do Something พวกเธอมีเวลาคิดท่าเต้นและซ้อมแค่ 2 วัน ซึ่งใน 2 วันนั้น
พวกเธอจะต้องทำการถ่ายโฟโต้แจ็คเกตไปด้วยทั้งวัน แม้แต่ในเวลาพักถ่ายทำ พวกเธอก็ไม่พัก กลับมารวมตัวกันซ้อมเต้นแทน และผลที่ได้ก็ออกมาดีมากๆ พร้อมเพรียง และเต็มไปด้วยทีมเวิร์คที่ดีเยี่ยม
16.ในการถ่ายทำ MV Into The New World ในฉากที่ยูรีจะต้องชงกาแฟโดยใช้เครื่อง เธอไม่ได้ทำแค่การทำท่าเหมือนชงกาแฟ
แต่กาแฟถ้วยนั้นเธอชงมันตัวเองจริงๆ (การชงกาแฟด้วยเครื่อง ทำยากมาก ซูยอง และยุนอา เคยพิสูจน์ให้เราเห็นแล้ว ใน MNET Charity Cafe)
17.และ ในฉากของเจสสิก้า และซันนี่ ลายเพ้นท์บนกำแพง พวกเธอก็เพ้นท์มันด้วยตัวเองเช่นกัน
18. ในช่วงของการเป็นศิลปินฝึกหัด บ้านของซูยองอยู่ไกลมาก เธอจะต้องตื่นตั้งแต่ 6โมงเช้าเพื่อไปโรงเรียน และออกมาตอนเที่ยง
(โดยที่ยังไม่ได้กินข้าว) เพื่อเดินทางไปยังห้องซ้อม และซ้อมจนถึงตี 3 จนในบางครั้งเธอได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนที่จะกลับบ้านด้วยซ้ำ
19.ถึงแม้จะไม่ได้นอน หรือมีเวลานอนน้อยแค่ไหน แต่ซูยองก็ไม่เคยหลับในห้องเรียนเลยสักครั้ง เธอบอกว่าจะต้องทำตัวให้ดูดีอยู่เสมอ
เพราะถ้าผู้อื่นเห็นตัวเราทำหน้าง่วงบ่อยๆ คนที่พบเห็นก็จะรู้สึกไม่ดี ต้องเรียนตามเพื่อนให้ทัน และผลการเรียนก็จะต้องออกมาดี และการแต่งตัว
แน่นอนว่าต้องถูกระเบียบของโรงเรียน (เธอให้ความสำคัญกับกฎของโรงเรียนมาก)
20.ยูรีบอกว่า เธอรู้สึกเสียใจมาก ที่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ในการใช้ชีวิตของเธอมีแค่ห้องซ้อมและการไปโรงเรียน
ถึงแม้ว่ามันจะดูยากเย็น แต่เธอกลับคิดว่าอยากจะทำทุกอย่างให้ดีมากที่สุด
21.แทยอนได้รับผลโหวตอย่างท่วมท้นในหัวข้อคนดังที่ผู้หญิงเกาหลีอยากแต่งงานด้วยมากที่สุด (ผู้ที่ลงคะแนนในโพลนี้ทั้งหมดเป็นผู้หญิง)
22.แทนการพกหนังสือนวนิยายติดตัวเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ยูรี และซอฮยอนกลับเลือกที่จะอ่านหนังสือที่วัยรุ่นไม่นิยมอ่าน
"49 things you have to do in your lifetime"(49 สิ่งที่คุณควรทำในชีวิตของคุณ) และสิ่งที่ซอฮยอนอยากทำมากๆ คือ การล้างเท้าให้บุพการี
23.นอกจากนั้น ซอฮยอนยังพกหนังสือเรียนบทสนทนาภาษาอังกฤษ และหนังสือฝึกเรียนภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย (เธอมีสำเนียงภาษาอังกฤษที่ดีมาก)
24.แทยอนถึงกับร้องไห้ออกมา เมื่อพูดว่า เธอกลัว และกังวลว่าตัวเองเป็นจะตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆที่โรงเรียนไม่ได้ แต่สำหรับรุ่นน้องแล้ว เธอเป็นรุ่นพี่ที่พวกเขาภาคภูมิใจมากๆ
25.ในรายการ Wonderful Outing ของคุณพาร์ค คยองริม ทางรายการได้ต่อโทรศัพท์ให้เจสสิก้าได้คุยกับคุณลี ฮโยริ เจสสิก้าเขิน และดูมีความสุขมากๆที่ได้คุยกับเธอ สิก้าส่งเสียงที่บ่งบอกถึงความตื่นเต้นออกมาตลอดเวลา และนั่นเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นด้านที่น่ารักมากๆของเธอ
26.ยูรีเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี มากๆ ในเวลาที่เธอรู้สึกโมโหหรือโกรธ แทนที่การตะโกนออกมา เธอจะสูดลมหายใจ พร้อมกับพึมพำกับตัวเอง "ยูรี ~ ไม่เป็นไร ๆ ,ทุกอย่างมันโอเค" และจัดการกับอารมณ์ของตัวเองโดยทันที
27.เคยมีแฟนคลับคนหนึ่ง เมื่อได้เจอกับโซนยอชิแด เธอดีใจมากๆ ถึงขนาดร้องไห้ออกมา สาวๆทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ล้อมวงและกอดแฟนคลับคนนั้นเอาไว้จนเธอหยุดร้องไห้
28. ในการแสดงสดครั้งหนึ่ง ทิฟฟานี่เกิดก้าวพลาด และล้มลงบนเวที เมื่อเห็นดังนั้น เจสสิก้า รีบเข้าไปช่วยเธอทันที โดยที่ไม่ห่วงเลยว่าตัวเองจะหลุดจากไลน์เต้น หรือจะแสดงออกมาไม่สมบูรณ์
29.สำหรับนักร้องส่วนใหญ่ คลิป MR เปรียบเสมือนฝันร้าย แต่สำหรับโซนยอชิแด มันกลับเป็นฝันดี(*MR คือ วิดีโอแสดงสดของศิลปิน ที่จะใช้วัดความสามารถในการร้องเพลงบนเวที โดยจะลดเสียงดนตรีให้เบาลง เพื่อทำให้เสียงที่ใช้ร้องสดในการแสดงครั้งนั้นๆ เด่นขึ้นมา)
30.เนติเซ็นเมื่อได้ดูคลิป MR ของโซนยอชิแด นอกจากคำชมที่มีมากมายแล้ว สิ่งที่พวกเขาพูดถึงอีกอย่างหนึ่งก็คือ โซนยอชิแดดูมีความสุขมากๆที่ได้ร้องเพลง ไม่ใช่เพียงหน้าตาของพวกเธอเท่านั้นที่ยิ้มแย้ม แต่เสียงของพวกเธอก็ยิ้มไปด้วยเช่นกัน แตกต่างจากนักร้องหลายคน ที่ถึงแม้จะแสดงออกว่ามีความสุข และดูเหมือนจะเข้าถึงเพลงแค่ไหน แต่เสียงของเขากลับไม่บ่งบอกถึงสิ่งเหล่านั้นเลย
31.ซอฮยอนเป็นคนที่ห่วงสุขภาพของตนเอง และพี่ๆมาก เธอจะไม่ดื่มกาแฟ ไม่แตะอาหารฟาสท์ฟู้ด ไม่เคยกินอาหารที่ส่งผลเสียแก่ร่างกายเลย
เธอจะพกวิตามิน และผลไม้ไว้ในกระเป๋าเผื่อสมาชิกในวงเสมอ และอาหารที่เธอเลือกกิน กลับเป็นอาหารสุขภาพ เช่น ซุปเต้าเจี้ยว
32.ยุนอากล่าวว่า เธอไม่ได้อยากที่จะมีชื่อเสียงมากมาย หรือว่าดังเปรี้ยงปร้างในทันที แต่เธอแค่อยากจะทำงานในวงการบันเทิงไปนานๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด
33.เจสสิก้าบอกว่า เธอสามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ ตราบใดที่ยังได้ยินเสียงตัวเองต่อหน้าผู้ชม
34.แทยอนเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก ในรายการ Girls Go To School ครั้งหนึ่ง (การแสดงแบบไม่ได้ออกอากาศของSchool of Rock) MC ของทางรายการได้ทำการนัดแนะกับนักเรียนที่มารับชมการแสดงของวันนั้น ให้นั่งดูโชว์ของโซนยอชิแด โดยไร้เสียงเชียร์ ในขณะที่จำเป็นจะต้องหยุดโชว์ลง ท่ามกลางเสียงโห่ไล่(ปลอมๆ)มากมายจากนักเรียนที่นั่งชม สมาชิกคนอื่นเริ่มใจเสีย แต่แทยอนกลับพยักหน้าให้น้องๆเหมือนกับบอกว่า ไม่เป็นไร และมองตรงไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
35. มีอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงของการโปรโมทเพลง Kissing You บนเวที Music Bank พวกเธอเกือบที่จะขึ้นแสดงไม่ทัน
เพราะสถานที่ๆพวกเธอต้องไปทำการแสดงก่อนหน้านั้น อยู่ไกลจากสถานที่ถ่ายทำรายการ Music Bank มาก และรถที่พวกเธอนั่งมาก็ถูกชน สมาชิกส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ แต่พวกเธอกลับไม่สนใจในเรื่องพวกนั้น พวกเธอลงจากรถ วิ่งไปบนถนนด้วยรองเท้าส้นสูง เพื่อจะไปให้ทันขึ้นแสดง
เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น พวกเธอจะต้องถูกตัดสิทธิ์ในการขึ้นแสดงอย่างถาวร และในระหว่างการวิ่งอย่างเร่งรีบนั้น เจสสิก้าได้ถูกแอนตี้แฟนผลักจนล้มลง
แต่เธอก็เลือกที่จะลุกขึ้นและวิ่งต่อในทันที และผลของความพยายาม พวกเธอได้รับรางวัลศิลปินประจำสัปดาห์ สมาชิกทุกคนกอดคอกันร้องไห้ด้วยความรู้สึกมากมาย
36. และในวันนั้น หลังจากจบการประกาศรางวัล ก็เป็นช่วงของอังกอร์ ทั้งๆที่พวกเธอยังคงร้องไห้ และช็อคกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังคงร้องเพลงและเต้นไปด้วย พร้อมกับรอยยิ้มทั้งน้ำตา
(( * อังกอร์ คือช่วงฟรีของการออกอากาศเมื่อศิลปินรับรางวัลเสร็จ อังกอร์จะไม่ถูกรวมอยู่กับโชว์หลัก แต่จะป็นเหมือนโชว์จบท้าย
ที่ให้ศิลปินร้องเพลงขอบคุณแฟนเพลง ,, อังกฤษ - Encore (อังโค-) = คำเรียกร้องให้แสดงซ้ำ ))
37. พวกเธอทุ่มเทให้กับการแสดงพิเศษเพลง Tell me มากๆ ถึงแม้จะเป็นเวลาที่สตาฟฟ์เช็คเครื่องเสียง หรือรอเวลาเพื่อเข้าช่วงอื่นๆของรายการ
พวกเธอก็ยังคงซ้อม ทั้งๆที่จำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำแล้ว แต่พวกเธอก็ยังคงทบทวนท่าทางต่างๆอยู่อย่างนั้น ร้องเพลงเอง (โดยไม่มีดนตรี)
ซ้อมกันเอง แม้แต่ตอนที่เกิดการผิดพลาดของเครื่องเสียงก่อนที่จะเริ่มโชว์ของพวกเธอ ในเวลาแค่ 15 วินาทีที่สตาฟฟ์เช็คเครื่องเสียงอีกครั้ง
พวกเธอก็ยังทบทวนและสร้างสมาธิไปพร้อมๆกัน นั่นหมายความว่า พวกเธอให้เกียรติเพลง Tell me และให้เกียรติ Wonder girls มากจริงๆ
และไม่ได้เห็น Special Stage ครั้งนี้เป็นแค่เรื่องเล่นๆ
38.ในรายการ Factory Girls ทั้งๆที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ทีม และจะต้องแข่งขันกัน แต่พวกเธอกับแสดงน้ำใจต่อกันออกมา ทิฟฟานี่เดินเข้าไปหาซันนี่ที่อยู่อีกทีมหนึ่ง และยื่นถุงมือให้เธอใส่ เพราะซันนี่จะต้องลงมือจับงู ทิฟฟานี่ไม่ปล่อยให้ซันนี่ต้องลำบาก และไม่กลัวว่าใครจะสบายกว่ากัน กลับเดินเข้าไปและช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
39.ในรายการเดียวกัน ในภารกิจที่ทีม Dream Girls ( ทิฟฟานี่ ฮโยยอน ซูยอง ซอฮยอน) ชนะทีมของอีก 5 คนที่เหลือ ( ทีมCandy Girls - แทยอน เจสสิก้า ซันนี่ ยูรี ยุนอา) ทีมที่ชนะจะได้กลับบ้านก่อน ทั้งๆที่สำหรับคนที่สนิทกันขนาดนี้แล้ว แค่โบกมือและกล่าวอำลาก็คงพอ แต่ซอฮยอนน้องเล็ก กลับโค้งตัวลงเพื่อลาพี่ๆของเธอ และทั้งๆที่เดินออกไปนอกประตูแล้ว
แต่ก็ยังหันกลับมา และโค้งลาพี่ๆอีกครั้งหนึ่ง
40.รายการ Factory Girls โซนยอชิแดลงมือทำทุกๆอย่างด้วยตัวของพวกเธอเอง และทุ่มเทกับสิ่งเหล่านั้นมากๆ พวกเธอยอมทำถึงขนาดนั่งยองลงกับพื้นเพื่อสวมรองเท้าให้กับนางแบบ
41.ในการถ่ายแบบของนางแบบแต่ละครั้ง โซนยอชิแดลงรายละเอียดกับสิ่งเหล่านั้นมากๆ พวกเธอเดินเข้าไปหาช่างภาพ และอธิบายว่าอยากจะให้ช่างภาพถ่ายนางแบบจากมุมไหน อยากให้ภาพออกมาเป็นแบบใดด้วยถ้อยคำที่สุภาพ และไม่จาบจ้วงใดๆ
42.เมื่อปี 2007 ในงาน KBS Gayo Festival มีศิลปินเกือบ 30 คนยืนอยู่บนเวทีเพื่อรอทำการแสดง (เมื่อเรียกชื่อใคร ศิลปิน คนนั้น / กลุ่มนั้น ก็จะต้องก้าวออกไปข้างหน้าและทำการแสดง ส่วนศิลปินที่เหลือก็จะเต้น
และโยกตัวไปตามจังหวะเพลงอยู่ข้างหลัง) โซนยอชิแดเต้นกันอย่างสนุกสนาน (ด้วยท่าทางตลกๆที่ผู้หญิงเค้าไม่เต้นกัน สาวๆเมามันส์มาก)
แทยอนเต้นโดยที่ไม่ได้มอง และชนเข้ากับกับยูบิน พี่ใหญ่ของ Wonder girls (ทั้งสองคนเต้นหันหลังให้กันอยู่ ทั้งแทยอนและยูบินต่างมองไม่เห็นว่าอีกคนอยู่ข้างหลัง) แทยอนรีบหันหน้าไปหายูบิน และโค้งขอโทษให้กันและกันทันที พร้อมกับยิ้มและหัวเราะให้กัน หลังจากนั้น แทยอนและซันนี่
เลยเดินเข้าไปเต้นกับยูบิน และเยอึน (เมามันส์กันอยู่ 4 คน)
44.เมื่อเห็นดังนั้นซอฮยอน เจสสิก้า และซูยอง(ที่จริงๆแล้วอยู่อีกฟากของเวที) จึงเดินเข้าไปเต้นกับซอนเยด้วย และเข้าไปรวมกลุ่มกับ 4 คนที่แล้ว (กลายเป็น 8) และก็ดึง Wonder girls เกือบทั้งวงเข้ามาเต้นในวงล้อมของโซนยอชิแด
43.ในงานเดียวกัน ซูยองและทิฟฟานี่ เดินเข้าไปหาซอนเย และโอบไหล่เธอให้มาเต้นด้วยกัน แถมทั้ง 2 คน (ที่ตอนนั้นแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนชาย) ทำท่าทางเหมือนทะเลาะกัน (แบบตลกๆ) เพื่อแย่งซอนเย และเยาะเย้ยกันและกันเมื่อซอนเยอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
44.ก่อนหน้าการคัมแบ็คเพียงแค่หนึ่งวัน ซันนี่ ซูยอง แทยอน และยูรี ไม่สบายถึงขั้นต้องไปรับการตรวจที่โรงพยาบาล แต่พวกเธอก็ยังคงยืนยันที่จะกลับมาที่บริษัทเพื่อซ้อม และขึ้นเวทีคัมแบ็คในวันรุ่งขึ้น ทั้งๆที่ยังไม่หายจากอาการของไข้หวัดใหญ่ และอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
45.เพราะว่าไม่อยากให้แฟนคลับต้องรอพวกเธอนานมากไปกว่านี้ ในวันที่คัมแบ็ค พวกเธอต้องทั้งร้องและเต้นถึง 2 เพลง พวกเราคงรู้ดีว่าอาการของไข้หวัดใหญ่เป็นอย่างไร ปวดหัว เมื่อยล้า และมีโอกาสถึงขนาดจะอาเจียนหรือเป็นลม แต่พวกเธอกลับเลือกที่จะขึ้นเวที ร้องเพลง และเต้นทั้งๆที่มีอาการดังกล่าว โดยไม่ปริปากบ่นเลยสักนิดเดียว
46.แทยอนถูกดีเจที่จัดรายการวิทยุด้วยกัน (คังอิน Super Junior และดีเจผู้หญิงอีกคนหนึ่ง) ขอให้เธอร้องเพลง I Have a Lover โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า (ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ถ้าเกิดว่าดีเจ หรือว่าแขกรับเชิญจะร้องเพลงในรายการ จะต้องทำการซ้อมก่อนถึงเวลาจัดรายการ ) แทยอนทนคำรบเร้าไม่ไหว จึงตัดสินใจร้องเพลงนั้นสดๆ โดยที่ยังไม่ได้เตรียมตัว และหลังจากนั้น เพลง I Have A Lover ในเวอร์ชั่นของเธอ ก็กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก ชาวเน็ต (Netizen) ต่างร่วมให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการร้องสดของเธออย่างร้อนแรง และยกย่องความสามารถในการร้องเพลงของเธอเป็นอย่างมาก
47.ซันนี่อาจจะเป็นคนที่ดูเหมือนว่าจะแอ๊บแบ๊วอยู่ตลอดเวลา แต่จริงๆแล้ว เธอไม่ใช่คนแบบนั้นเลย เธอเคยลงมือจับงูด้วยตัวเองในรายการ Factory Girls ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง (แถมมีคุยกับงูด้วยอ่ะ) จับไก่ป่า (ซึ่งตื่นผู้คน) อย่างหน้าตาเฉย และผ่าฟืน ในรายการ 2 days 1 night ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปไม่น่าจะ(กล้า)ทำได้เลย จริงๆ
48.ยูรีเป็นคนที่มีความสามารถในด้านกีฬามากๆ เธอเคยได้เป็นตัวแทนไปขว้างลูกเบสบอลเปิดสนามให้กับทีมดูซานแบร์ และด้วยทักษะและท่วงท่าที่เปรียบเสมือนมืออาชีพของเธอ ทำให้ผู้คนที่รับชมการแข่งขันในวันนั้น ต่างขนานนามเธอว่า BKยูรี
49.ในวันที่ยูบิน แห่งวง Wonder girls จะต้องเดินทางไปเป็นดีเจให้กับรายการวิทยุรายการหนึ่ง แทยอนได้ส่งข้อความไปหาเธอเพื่อให้กำลังใจ
และเธอก็ได้รับข้อความขอบคุณจากยูบินกลับมาเช่นกัน
50.โซนยอชิแดจะช่วยโปรโมทเพลงต่างๆของศิลปินคนอื่นๆเสมอ ด้วยการเขียนมันในข้อความ UFO Replies ของพวกเธอ เช่น ทิฟฟานี่ที่ตอบข้อความของแฟนๆ ด้วยเพลง Amigo ของ SHINee และบอกกับแฟนๆว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่เยี่ยมจริงๆ เจสสิก้า ที่ช่วยโปรโมทเพลง Nobody ของ Wonder girls ด้วยการเขียนตอบข้อความของแฟนคลับ ว่าเธอร้องเพลงนี้ทุกๆครั้งเลยที่ไปคาราโอเกะ และจบข้อความด้วยท่อนฮุคของเพลงนี้
51.ทั้งๆที่ยูรี และยุนโฮ หัวหน้าวงทงบังชินกิ ค่อนข้างจะสนิทกัน แต่ในรายการ Factory Girls ที่ยูรีได้โทรศัพท์ไปหายุนโฮ เธอใช้คำเรียกแทนยุนโฮว่า รุ่นพี่ (Sunbaenim) แทนการใช้คำว่า พี่ (Oppa) ซึ่งหมายความว่าเธอให้การนับถือยุนโฮมากๆ
52.ซอฮยอนได้ถูกจัดอันดับให้เป็นศิลปินที่ไร้เดียงสามากที่สุด (ตั้งแต่เกิดมา ซอฮยอนยังไม่เคยมีความรักเลย และดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นหรือ มีความรู้สึกปิ๊งๆ ใดๆ เมื่อถูกจับคู่กับศิลปินชายคนอื่นๆ เธอจะหน้านิ่งมาก คล้ายๆกับเปอร์เซนปฎิกิริยาต่อเพศตรงข้ามจะเท่ากับ 0) และยุนอาก็อยู่ในโพลนี้ที่อันดับ 3 (เป็นโพลรวมศิลปินชาย - หญิง)
53.คุณอาจจะไม่เคยทราบ แต่แม้ว่าในขณะที่โซนยอชิแดได้เดบิวท์เป็นศิลปินแล้ว ฮโยยอนก็ยังไม่ยอมหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เธอยังคงเข้าเรียนในโรงเรียนสอนเต้นอยู่ เธอไม่ได้คิดแค่ว่าจะเต้นให้ดีแค่ในเพลงของตัวเอง แต่เธอรักในการเต้นจริงๆ ความพยายามของเธอเหมือนกับว่ามันไม่เคยมีที่สิ้นสุด
54.ยุนอาบอกว่าในโลกนี้ยังมีอะไรที่น่าสนใจกว่าการมีความรัก หรือว่าแฟนตั้งมากมาย แทนที่การเขียนจดหมายสารภาพรัก เธออยากจะเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองมากกว่า
55.พ่อและแม่ของทิฟฟานี่ ต่อต้านเธออย่างหนักเมื่อเธอตัดสินใจที่จะเดินทางมาเกาหลีเพื่อจะเป็นนัก ร้อง เธอจะคิดเสมอว่า ควรจะปล่อยโอกาสที่ได้รับมาไป หรือเลือกที่จะคว้ามันเอาไว้ เธอบอกว่า ถ้าคุณเลือกที่จะแสดงความอ่อนแอให้ครอบครัวเห็น นั่นคือสิ่งที่ผิด (คุณต้องทำให้พวกท่านได้รู้ว่า ทางที่คุณเลือกนั้นมันถูกต้องแล้ว)
56.ถึงแม้ว่าจะต้องฝึกหนัก และเรียนไปด้วยกัน แต่ผลการเรียนของเจสสิก้าไม่เคยต่ำกว่า B เลยสักวิชา
57.ซันนี่คิด และบอกตัวเองเสมอว่า ถึงแม้ว่าในอนาคตพวกเธอแต่ละคนจะมีชื่อเสียงเป็นของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องไม่ลืมว่าพวกเธอมาจากไหน และไม่มีวันที่จะเสียความสามัคคีไป
58.การที่ยูรีทำงานทั้งร้องเพลง เต้น และแสดงละคร ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธออยากจะดัง หรือสร้างชื่อเสียงของตัวเองให้ได้มากๆ แต่เธอแค่อยากจะรู้ว่าขีดจำกัดความสามารถของตัวเองมีแค่ไหน
59.ยูรีไม่เคยให้ความสนใจกับยอดขายของอัลบั้ม หรือการเปิดการแสดงในต่างประเทศ ไม่ได้อยากเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือทำบางสิ่งบางอย่างให้ผู้อื่นมีความสุข
60.โซนยอชิแดไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นไอดอลหรือศิลปินที่มีชื่อเสียง แต่กลับพูดเสมอว่าพวกเธอคือ กลุ่มเด็กสาวธรรมดา เป็นกลุ่มเด็กบ้าพลัง การรวมตัวของคุณป้า หรือกลุ่มหญิงสาวช่างเม้าท์
61.เรื่องที่ทำให้พวกเธอถกเถียงกันมากที่สุด มีแค่เรื่องเดียว คือ ใครจะใช้ห้องน้ำก่อน พวกเธอไม่เคยทะเลาะกันแรงๆเลยสักครั้ง
62.พวกเธอแต่ละคนใส่ใจ และรับรู้ถึงความรู้สึกของเพื่อนในวงเสมอ ในเวลาที่สมาชิกคนใดคนหนึ่งจะต้องออกไปทำงานคนเดียว สมาชิกที่เหลือทุกคนจะส่งข้อความเป็นกำลังให้กับเธอคนนั้น เช่น ‘คิดซะว่าเราอยู่กับเธอสิ’ พวกเธอผูกพันธ์กันมากๆ
63.พวกเธอจะไม่พยายามทำตัวให้ดูเซ็กซี่ หรือแสดงด้านที่ฝืนตัวเองออกมา พวกเธอเชื่อว่าความสดใสคือสิ่งที่เหมาะกับวัยรุ่นมากที่สุด และเมื่ออายุเปลี่ยนไป พวกเธอก็จะต้องเป็นไปในทางที่ควรจะเป็น (ประมาณว่า จะไม่เร่งวัยของตนเอง หรือทำในสิ่งที่ฝืนหรือขัดกับภาพลักษณ์ที่วัยรุ่นควรจะเป็น)
64.ซอฮยอนบอกว่า เธออยากจะเรียนในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง (เช่น การร้องเพลง ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น เปียโนคลาสสิก เปียโนแจส และแต่งเพลง)
จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง เมื่อได้คิดไปว่าไม่ได้ทำอย่างที่หวัง
65.ในการซ้อมเพื่อโปรโมทเพลงในแต่ละครั้ง พวกเธอจะเต้น และอัดวิดีโอเอาไว้ในทุกๆรอบ เพื่อดูว่าตัวเองผิดพลาดในจุดไหน และแก้ไขสิ่งเหล่านั้นในทันที
66.เพราะเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกที่ค่อนข้างเยอะ ในการเต้นแต่ละครั้ง ทุกคนจะต้องทำทุกอย่างให้เข้ากันให้ได้ แม้กระทั่งท่าทางของมือ เพราะถ้าใครคนหนึ่งเต้นผิด หรือแค่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นเพียงเล็กน้อย แค่มองดู ผู้ชมก็จะสังเกตเห็นได้ทันที พวกเธอจึงทุ่มเทในการซ้อมเหมือนกับในเวลาที่แสดงออกอากาศจริงๆ
67.เพราะว่าจะต้องโปรโมทเพลง Girls'Generation และ Kissing You ในเวลาต่อเนื่องกัน ทำให้พวกเธอไม่มีเวลาที่จะหยุดพักเพื่อซ้อมมากนัก
จึงจำเป็นจะต้องเต้นท่าทั้งหมดให้ได้ในเวลาแค่ 3 วัน และซ้อมควบคู่ไปกับการโปรโมท
68.โซนยอชิแดเป็นกลุ่มศิลปินที่มีทีมเวิร์คที่ดีเยี่ยม พวกเธอจะเต้นพร้อมกันมากๆ ถ้าคุณได้ดูภาพการซ้อมของพวกเธอ คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจน
แม้กระทั่งเสียงก้าวเดินหลังจากจบท่อนของแต่ละคน (เดินเพื่อที่จะไปต่อข้างหลัง และเต้นต่อ) ก็ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับเพื่อนที่เต้นอยู่ในไลน์
69.ฮโยยอนจะฝึกเต้นอยู่ตลอดเวลาเมื่อว่างจากตารางงาน และพร้อมเสมอเมื่อใครเรียกร้องให้เธอแสดงความสามารถ เธอบอกว่า เราไม่รู้หรอกว่าโอกาสจะมาเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นจะต้องทำทุกอย่างให้ดีพอ
70.พวกเธอไม่เคยสนใจต่อคำติฉินนินทาใดๆในอินเตอร์เน็ต และไม่เคยนำมาเป็นข้ออ้างในการท้อแท้ใจ ไม่เคยรู้สึกรำคาญ หรือโกรธเคืองกับคำพูดเหล่านั้นเลย พวกเธอค่อนข้างจะใจกว้าง และไม่กระโตกกระตากหรือพยายามที่จะต้องออกมาตอบโต้คำพูดว่าร้ายของใคร แต่กลับสังเกตตัวเองว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ และปรับปรุงตัวเองทันที
71.ซันนี่บอกว่า เอนเตอร์เทนเนอร์ทุกคนอยู่ภายใต้การถูกกดดันทั้งนั้น เมื่ออยู่บนเวที ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่พวกเรา สิ่งที่อยู่ภายในใจเราเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือสิ่งที่เราแสดงออกมา
72.ในการจัดอันดับที่สุดของศิลปินในหัวข้อต่างๆของปี 2008 โซนยอชิแดถูกจัดให้เป็นกลุ่มศิลปินที่มีการพัฒนามากที่สุด
73.พวกเธอเดบิวต์เป็นศิลปินได้ยังไม่ถึง 2 ปีด้วยซ้ำ แต่กลับได้ทำงานตั้งมากมาย
- ร้องเพลง
- โปรเจค Dance Battle
- ร่วมร้องฟีจเจอร์ริ่งกับศิลปินชั้นนำ
- ร้องเพลงประกอบละคร
- แสดงภาพยนตร์
- แสดงละคร
- ร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย (Asia Song Festival)
- ร่วมแสดงในงานเทศกาลดนตรี Hollywood Bowl ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาถึงสองครั้ง
- พรีเซ็นเตอร์โฆษณา
- นางแบบเครื่องแต่งกายแบรนด์ดังจากอิตาลี
- พิธีกรรายการวาไรตี้และรายการเพลง
- นักจัดรายการวิทยุ
- ฑูตการท่องเที่ยว
- เป็นบรรณาธิการเกี่ยวกับแฟชั่น
- ร่วมเป็นนักดนตรีรับเชิญให้กับศิลปินท่านอื่นๆ
- แสดงนำในมิวสิควิดีโอของศิลปินต่างๆ
- มีซิงเกิ้ลเดี่ยวเป็นของตนเอง
พวกเธอเป็นกลุ่มศิลปินที่เต็มไปด้วยความสามารถในหลายๆด้าน
74.ละครเรื่องแรกที่ยุนอาแสดงนำ ( เรื่อง You are my destiny ) เป็นละครประจำวันที่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 40% ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงมาก
(ละครที่มีเรตติ้งดีที่สุดในช่วงปัจจุบัน ทำเรตติ้งไว้ที่ 17% เมื่อเทียบกับละครเรื่องอื่นๆในช่วงเวลาเดียวกัน)
75.คนหลายคนบอกว่า ที่พวกเธอร้องสดได้ดีเป็นเพราะว่าพวกเธอมีหลายคน แต่ถ้าคุณคิดให้ดีๆ การที่จะทำให้คน 9 คน ที่มีความสามารถในหลายๆด้าน มารวมตัวกัน ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย พวกเธอร้องเพลงเป็น พวกเธอเต้นได้พร้อมเพรียง พวกเธอมีความพยายามและเอาจริงเอาจังในทุกๆอย่างที่ทำ พวกเธอไม่ได้พักเลยในระหว่างการแสดง คุณอาจจะไม่เคยรู้ แต่โซนยอชิแดเป็นเพียงเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มเดียวที่ร้องท่อนฮุคสดๆด้วยตัวของพวก เธอเอง
ในคลิป MR มีแต่โซนยอชิแดเท่านั้นที่ท่อนฮุคไม่ว่างเปล่า ในขณะที่วงอื่นๆลิปซิ้งก์ท่อนฮุค และถ้าเทียบกัน ท่อนฮุคของโซนยอชิแดมีความยาวค่อนข้างมาก บวกด้วยท่าเต้นที่เต็มไปด้วยรายละเอียด พวกเธอสอบผ่านนะ
(ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะเอาข้ออ้างเรื่องสมาชิกของโซนยอชิแด มาปกป้องศิลปินของคุณเมื่อถูกเปรียบเทียบกับพวกเธอ
เพราะในความเป็นจริงแล้ว ศิลปินก็ควรจะ Try their best!!! )
76.พวกเธอไม่เคยคาดหวังเลยว่า ซิงเกิ้ล Gee จะได้รางวัลบนเวที Music Bank ถึง 9 ครั้ง ในขณะที่รายการแทรกภาพของการรวมคะแนนทั้งหมด พวกเธอจะยิ้ม และร้องเพลงของศิลปินคนอื่นไปด้วย เมื่อผลประกาศว่าพวกเธอชนะในแต่ละสัปดาห์ พวกเธอจะตกใจมาก ตาเบิกกว้าง เอามือปิดปาก อึ้งทำอะไรไม่ถูก ราวกับว่าไม่เชื่อว่านั่นคือเรื่องจริง และร้องไห้ออกมา พวกเธอไม่เคยทะนงตัวว่าเก่งกาจกว่าใครต่อใคร
77.และเมื่อถึงช่วงกล่าวขอบคุณ พวกเธอจะยืนตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนของตัวเองพูดเสมอ เมื่อบุคคลใดที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง สมาชิกที่เหลือจะพูดขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นทันที และไม่เคยลืมที่จะขอบคุณและบอกรักแฟนคลับ (พวกเธอจะพูดกับแฟนคลับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนพูดคุยกับเพื่อน น่ารักมากๆ)
78.ทุกๆครั้งที่โซนยอชิแดได้รางวัลเพลงประจำสัปดาห์ในรายการ Music Bank ในช่วงของอังกอร์ ทิฟฟานี่และเจสสิก้า จะเปลี่ยนท่อนเริ่มของเพลงเพื่อมอบให้กับแฟนๆ จากท่อนที่ว่า Ah ha~ Listen boy , my first love story. เป็น Ah ha ~ Listen Sone , Our first love story และ My angel and my girl , my sunshine เป็น My angel and my sone,
my sunshine พวกเธอให้ความสำคัญกับพวกเราที่เป็นแฟนคลับมากๆ
79.ในคืนวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งเป็นวันก่อนวันที่โซนยอชิแดจะมาทำการแสดงคอนเสิร์ต SM Town Live'08 in Bangkok (7 กุมภาพันธ์ 2552) ในคืนนั้น สมาชิกของโซนยอชิแด 2 คน แทยอน และ ยุนอา โดนสะเก็ดของเอฟเฟ็คเวที (เอฟเฟ็คไฟ) ของรายการ Music Bank ยุนอาที่เต้นอยู่ในแถวที่สอง โดนสะเก็ดของเอฟเฟ็คเล็กน้อยที่บริเวณแก้ม แต่แทยอน ที่เต้นอยู่ในแถวหน้าสุด โดนเอฟเฟ็คเต็มๆในบริเวณใบหน้า และเฉียดดวงตา ทั้งๆที่เจ็บมาก แต่เธอก็ยังเต้นต่อไปแต่เจสสิก้าที่สังเกตเห็นอาการของแทยอนรีบเดินเข้ามาดู เธอทันที
80.และยิ่งกว่านั้น ในวันรุ่งขึ้น เธอจะต้องมาขึ้นคอนเสิร์ต SM Town Live'08 in Bangkok ซึ่งถ้าใครได้ไปชมคอนเสิร์ตในวันนั้นคงรู้ดี
ว่าเอฟเฟ็คไฟเยอะมาก ลองคิดดู คุณเพิ่งได้รับบาดเจ็บจากเอฟเฟ็คประเภทนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และเวลาผ่านไปยังไม่ถึงวันด้วยซ้ำ แต่กลับจะต้องมาเจออีกครั้ง สภาพจิตใจของแทยอนและยุนอาจะเป็นอย่างไร ถึงอย่างนั้น พวกเธอยังคงข่มอารมณ์กลัวเอาไว้ และทำการแสดงออกมาอย่างเต็มที่
81.ในการแสดงเพลง Girls' Generation บนเวทีเอสเอ็ม ในท่อนของทิฟฟานี่ สมาชิกอีก 8 คนที่เหลือ จะต้องหันหน้าเข้าหาคู่ของตัวเอง และทำท่าอะไรก็ได้ ยูรีและซูยองหันหน้าเข้าหากัน และยกมือไหว้ ทำท่าทางสวัสดีอีกฝ่าย
82.ในช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต ทั้งๆที่จริงแล้วศิลปินจะต้องใส่เสื้อของสปอนเซอร์ และรวมตัวกันบนเวทีเพื่อร้องเพลง แต่โซนยอชิแดกลับเลือกที่จะใส่เสื้อที่แฟนคลับส่งไปให้แทน
83.ในการเดินทางกลับประเทศเกาหลี หลังจากคอนเสิร์ต SM Town Live'08 in Bangkok แฟนๆมากมายตามไปส่งพวกเธอที่สนามบินสุวรรณภูมิ แทนที่จะมองเฉยๆ และเดินผ่านไป พวกเธอกลับเดินเข้ามาหาแฟนคลับเอง ยิ้ม และโบกมือให้อย่างเป็นกันเอง โดยที่ไม่กลัวว่าจะโดนรุมทึ้ง หรือจะเป็นอันตรายเลย
84.ในช่วงที่โซนยอชิแดเดินทางมายังประเทศไทยอีกครั้งเพื่อร่วมเทศกาล ดนตรีของเมืองไทย Pattaya International Music Festival พวกเธอเป็นกันเองกับแฟนคลับมากๆ และถึงแม้อากาศจะร้อนแค่ไหน แต่พวกเธอก็ไม่แสดงอาการหงุดหงิดสักนิดเลย
85.ในระหว่างที่พวกเธออยู่ที่สวนนงนุช นั่งอยู่บนรถตู้เพื่อที่จะเดินทางไป ซาวน์เช็คที่เวทีสีส้ม แฟนคลับไปยืนอยู่ข้างๆรถตู้ของพวกเธอ ทั้งๆที่สามารถที่จะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ แต่พวกเธอกลับเปิดม่านออก (กว้างมากๆ) ยิ้ม โบกมือ และทำมือรูปหัวใจตอบให้กับแฟนคลับ และเมื่อแฟนคลับร้องเพลงของพวกเธอ โซนยอชิแดก็เต้นตาม (ทั้งๆนั่งอยู่บนรถตู้) และร้องเพลงไปพร้อมๆกัน
86.ช่วงค่ำ ในการทำการแสดงของพวกเธอ (3 เพลง Kissing You , Into The New World , Gee) พวกเธอดูตั้งใจและเต็มที่มากๆ ฉันไม่เคยเห็นยูรีเต้นท่า S-line ของเธอชัดสุดๆเท่านี้มาก่อน (ไม่ใช่ว่าอยู่ใกล้ หมายถึงว่ายูรีเต้นท่า S-line แบบทุ่มสุดตัวมาก)
87.ในห้องบันทึกเทปรายการ Nine Entertain ทางรายการได้จัดขนมไทยมากมายให้กับโซนยอชิแด และในช่วงพักถ่ายรายการ พวกเธอได้ถือขนมเหล่านั้นและเดินนำมาแจกให้กับแฟนคลับ ที่นั่งชมการอัดรายการ โซวอนบางคนดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่ไหว ถึงกับร้องไห้ออกมา
88.วันสุดท้ายในการอยู่ที่เมืองไทย สาวๆเดินทางไปยังสตูอิโอของรายการ 07Show ในระหว่างที่รายการกำลังรอถ่ายทำ (ตอนนั้นเป็นช่วงพักโฆษณา) โซนยอชิแดนั่งอยู่บนโซฟาที่ทางรายการจัดไว้ให้แขกรับเชิญ พวกเธอก้มตัวลงมาและพูดคุยกับแฟนคลับอย่างเป็นกันเองไม่ถือตัว หรือทำท่าเมินเฉยใดๆเลย
89.ในวันที่ Super Junior คัมแบ็คบนเวที Music Bank ทิฟฟานี่เปลี่ยนท่อนร้องในช่วงแรกของเพลงเพื่อสนับสนุนรุ่นพี่ของพวกเธอ จาก Listen Boy , My first love story เป็น Listen shawty shawty , Super Junior is back!! และสมาชิกในวงก็ใส่ท่าเต้นเพลง Sorry,Sorry ลงในท่อนร้องของแต่ละคนด้วย และ E.L.F ซึ่งมาร่วมเชียร์ Super Junior ในวันนั้น ส่งเสียงเชียร์โชนยอชิแดจนลั่นห้องส่ง
90.วันที่ 4 เมษายน 2552 ในรายการ Music Core ที่ทิฟฟานี่ และยูรี ทำหน้าที่เป็น MC ในช่วงสุดท้ายของรายการ เมื่อพวกเธอทำการแนะนำศิลปินที่เป็นเจ้าของโชว์สุดท้ายอย่าง Super Junior จบและบอกลาผู้ชมเสร็จแล้ว ก่อนที่ภาพจะตัดไปยังเวที (ที่Super Junior ทำการ Stand by อยู่) ทิฟฟานี่ได้หันไปยังพวกเขาและพูดกับอึนฮยอค (ออกไมค์) ว่า
"Eunhyuk oppa , Happy birthday"
(พูดเป็นภาษาเกาหลี) และยูรีก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน โดยพูดคำว่า สุขสันต์วันเกิดค่ะ พร้อมๆกับทิฟฟานี่
91.แม้คนส่วนมากจะมองว่าโซนยอชิแด และ Wonder Girls เป็นคู่แข่งกัน แต่พวกเธอกลับห่วงใยกันเสมอมา โซนยอชิแดยินดีและชื่นชม รวมทั้งคอยเป็นกำลังใจให้กับ Wonder Girls ตลอดเวลา ไม่ว่าจะการให้กำลังใจผ่านสื่อ หรือการติดต่อกันทางโทรศัพท์ พวกเธอไม่เคยรู้สึกอิจฉา Wonder Girls ที่ได้มีโอกาสไปออกอัลบั้มที่อเมริกาเลยแม้สักครั้ง
92.สำนักข่าวต่างๆของเกาหลี และผู้คนในประเทศ ต่างก็มอบสมญานามให้กับโซนยอชิแดว่า เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ
93.พวกเธอใช้เวลาในวงการเพลงยังไม่ถึง 2 ปีเต็มด้วยซ้ำ แต่กลับทำยอดขายเกิน 1 แสนก๊อป ใน 3 อัลบั้มติดต่อกัน ถือเป็นสถิติที่ไม่เคยมีนักร้องหญิงทำได้ถึงขนาดนี้มาก่อน และมันเกิดขึ้นยากมาก ราวกับปาฏิหารย์
94.โซนยอชิแดมีเวลานอนพักแค่ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่กลับทำทุกๆอย่างใน 20 ชั่วโมงด้วยความตั้งใจ และเต็มที่ที่สุด
95.การแสดงของยูรี ใน M/V เพลง Dropping The Tears ของคุณ K.Will ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ผู้คนต่างกล่าวชื่นชมเธอกันอย่างแพร่หลาย ในความสามารถด้านการแสดง ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของเด็กสาวที่มีอาชีพคือนักร้อง
96.เสียงของพวกเธอไม่ได้เหมาะ หรือทำได้แค่การร้องเพลงป๊อบ โซนยอชิแดสามารถร้องได้ทั้งบัลลาด ทรอท เพลงแจ๊ส และ R&B ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่าพวกเธอมีความสามารถในการร้องเพลงจริงๆ
97.ชาวเน็ต (Netizen) ต่างกล่าวชื่นชมความสามารถในการเต้นของฮโยยอน ด้วยเหตุผลที่ว่า คนส่วนมากจะมองว่าศิลปินคนใดที่เต้นเซ็กซี่
จะดูเป็นคนที่เต้นเก่ง แต่ฮโยยอนกลับตั้งมั่น และกล้าที่จะแสดงความสามารถของเธอในแนวทางอื่นที่ต่างจากนั้น และเธอก็สามารถทำให้ผู้คนยอมรับ และชื่นชมได้ โดยไร้ข้อกังขาใดๆ
98.แม้จะต้องเจออุปสรรคมากมายแค่ไหน แต่โซนยอชิแดกลับไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาเลยสักครั้ง เหมือนกับที่โซวอนทุกคนเชื่อมั่นในคำที่ว่า
"อะไรก็ตามที่มุ่งร้ายใส่พวกเธอ ก็ทำได้แค่เพียงส่งผลให้พวกเธอแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น"
99. เด็กสาว 9 คน ที่ก้าวเข้ามาในเส้นทางที่เต็มไปคำสบประหม่ามากมายในวัยแค่ 18 ปี ตอนนี้ พวกเธอสามารถลบคำครหาเหล่านั้นได้ทั้งหมดแล้ว
99 + 1 . ถ้าการรักษาภาพพจน์ คือการต้องปิดบังความเป็นตัวเอง โซวอนไม่เคยต้องการสิ่งเหล่านั้นจากโซนยอชิแด
ที่พวกเรารักพวกเธอมากขนาดนี้ ก็เพราะว่าพวกเธอ "จริงใจ"
Thx;mthai
ความคิดเห็น