ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic[AU]. Attack on titan(LevixEren): ล่ารักอันตราย

    ลำดับตอนที่ #18 : Chapter 17: Trouble

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      43
      29 เม.ย. 58

    Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย

    Chapter 17: Trouble

                เอลวิน สมิธ ขมวดคิ้วทันทีที่มาถึงสำนักงานใหญ่ส่วนกลาง สภาพของโต๊ะไม้เนื้อดีที่มีสภาพเหมือนโดนของหนักอัดกระแทก เหล่าเอกสารที่อยู่ในลิ้นชักต่างกระจัดกระจายกองอยู่เต็มพื้น โชคดีที่คอมพิวเตอร์แลปท็อปที่รวบรวมเอกสารข้อมูลสำคัญต่างๆของเจ้าของโต๊ะยังคงมีสภาพดีอยู่

                “ฉันมาช้าไป?” เอลวินเลิ่กคิ้วขึ้นถามฮันซี่ที่นั่งจัดการเก็บเอกสารสำคัญในซากโต๊ะทำงานที่ถูกพังเอ่ยถาม

                “เปล่า นายมาเร็วกว่าที่กำหนด” ฮันซี่มองเวลาที่นาฬิกาข้อมือก่อนจะยักไหล่ไปมา “แค่ไม่ทันใจหมอนั่นเฉยๆ”

                “ดูเหมือนเอเลนจะไม่ใช่ตัวยุ่งยาก” เอลวินจัดการเชคเอกสารในมืออีกครั้งก่อนจะใช้สมาร์ทโฟนสั่งการให้ลูกน้องเตรียมเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวอีกลำ

                ฮันซี่จับเอกสารในมือโบกไปมาก่อนทำหน้าละเหี่ยใจ “เอเลนเรียกว่าเป็นเด็กดีเลยล่ะ แต่ที่ยุ่งยากมันคนของฝั่งเราต่างหาก”

                “หมอนั่นไปตั้งแต่ตอนไหน?”

                “หนึ่งชั่วโมงก่อน”

                ประตูสำนักงานเปิดออกพร้อมชายชุดดำที่เข้ามารายงานการมาถึงของเฮลิคอปเตอร์ที่จอดบนดาดฟ้าของอาคาร เอลวินพยักหน้ารับรายงานก่อนจะเรียกให้ฮันซี่ที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพรมให้ตามตนไปยังที่หมาย

                “เห็นทีเรื่องคราวนี้ฉันคงต้องจัดการหักเงินเดือนของหมอนั่นเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้น”

                ฮันซี่หัวเราะขำ พลางส่ายหัวไปมา ต่อให้ลดเงินเดือนรีไว ยึดบัตรเครดิตหมอนั่น หรือควบคุมความประพฤติขนาดไหน แต่คนที่ไม่เคยยึดติดกับอะไรมาก่อนแบบนั้น พอเจอสิ่งแรกที่อยากไขว่คว้ามาเป็นของตัวเองขนาดนี้ต่อให้จับถ่วงลงใต้มหาสมุทร เชื่อเถอะว่าอย่างรีไวคงต้องดิ้นรนหาทางให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการเป็นครั้งแรกในชีวิตของตัวเอง..... เรียกว่าเป็นตัวปัญหาระดับพระกาฬเลยล่ะ....

     

                นัยน์ตาคมดุดันมองเด็กหนุ่มผมทองตรงหน้าเพื่อประเมินสถานการณ์ ไม่คิดว่าแค่ลูกไม้ตื้นๆจะทำเขาเสียหลักได้อย่างที่ไม่เคยเป็น ทั้งที่ปกติเขาเป็นคนที่ใจเย็นกว่านี้แท้ๆ แต่พอเห็นสีหน้าหวั่นวิตกของเจ้าลูกหมานั่นใจเขากลับร้อนรนจนวู่วามเสียได้

                รีไวยืดตัวตรมเต็มความสูง มือหยาบกระชากเนคไทออกก่อนจะปล่อยเนคไทสีดำให้ปลิวไปตามลมอย่างไม่สนใจ ใบหน้าคมสะบัดไปมาก่อนจะหันมองใบหน้าของอาร์มินอีกครั้ง

                “หมอนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ถ้านายจะหาตัวประกันเป็นฉันน่าจะดีกว่า” รีไวยื่นข้อเสนอก่อนจะโยนปืนที่พกติดตัวลงบนพื้นพร้อมทั้งเตะไปให้อาร์มิน

                เด็กหนุ่มผมทองยิ้มกริ่มราวกับผู้มีชัย “ดูเหมือนจะให้ความสำคัญมากสินะครับ กับสัตว์เลี้ยงที่น่ารักแบบนี้” อาร์มินเหลือบสายตารมองที่เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลซึ่งถูกมือขวาคนสนิทจับกุมก่อนจะกรอกตากลับมาสบกับชายหนุ่มอีกครั้ง

                “ข้อเสนอน่าสนใจ แต่........ขอปฏิเสธ”

                “นี่นายมันจะมากไปแล้ว หัวหน้าของเราถึงกับยื่นข้อเสนอ!” ออลโอตะโกนต่อว่าอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะถูกขัดด้วยสายตาคมดุของผู้เป็นนายตวัดมอง

                “คิดดูสิครับ ถ้าเอาคุณเป็นตัวประกันทางผมอัตราเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะคุณน่ะแข็งแกร่ง” อาร์มินยกมือพลางส่ายศีรษะไปมา

                “ผิดกับคุณเอเลนที่ควบคุมง่ายกว่าอีกทั้ง....” ใบหน้าหวานของอาร์มินยิ้มราวกับเย้ยหยันชายหนุ่มตรงหน้า มือขาวบางของอาร์มินลูบบนใบหน้าของเอเลนก่อนจะชำเลืองมองชายหนุ่มผู้บุกรุกอย่างนึกสนุก

                “การที่ผมคุมตัวคุณเอเลนได้อยู่แบบนี้ คุณเองก็ทำอะไรได้ไม่สะดวกใช่ไหมล่ะครับ”

                ปืนสีเงินวาวที่จ่ออยู่ที่ขมับทำให้เอเลนรู้สึกร่างกายเย็นวูบ เหงื่อเย็นไหลซึมกาย น้ำลายหนืดยากที่จะกลืนลงคอ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ แต่คำพูดที่ราวกับว่าเขากลายเป็นตัวถ่วงทำให้เอเลนรู้สึกเจ็บใจไม่น้อย เขาไม่ได้อยากมีส่วนร่วมหรือความเกี่ยวข้องใดๆกับคนอันตรายแบบนี้สักหน่อย แบบนี้เขาเป็นผู้เสียหายชัดๆ อีกทั้งไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ทั้งๆแบบนั้นทำไมตาแก่โรคจิตนั่นถึงไม่ทิ้งเขาที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ไปสักที ทั้งเจ็บใจและวูบไหวแปลกๆ เจ็บใจในความไม่ได้เรื่องของตัวเอง เจ็บใจที่ต้องมาเป็นตัวไร้ประโยชน์  และที่เจ็บใจที่สุดคือการที่ต้องให้ตาแก่ลามกนั่นมาช่วยไอคนไม่ได้เรื่องอย่างเขา!

                “ตาแก่โรคจิต...” เสียงใสค่อยๆเอ่ยอย่างสั่นเครือ ใบหน้าหวานแม้ยังตื่นตระหนกแต่แววตากลับฉายความดื้อรั้นอย่างเด่นชัด

                “ฉันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับนาย และที่สำคัญฉันไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วย แล้วทำไมต้องมาติดร่างแหเดือดร้อนไปกับเรื่องของนาย” เอเลนสบถอย่างหัวเสีย

                เอเลนมองใบหน้านิ่งเฉยของชายหนุ่มด้วยอารมณ์คุกรุ่น “นายน่ะปล่อยฉันไปสักที...”

                เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด ก่อนจะตะโกนออกมาจนสุดเสียง

                “เลิกยุ่งกับฉันได้แล้วตาแก่โรคจิตเอ๊ย!!

                รีไวมองใบหน้าดื้อรั้นของเอเลนก่อนจะถอนหายใจออกมา

                “ถ้ามันง่ายขนาดนั้นฉันคงทำไปนานแล้วเจ้าหนู....” ตอนแรกก็แค่สนใจในความดื้อรั้นของแววตาคู่นั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่กลายเป็นว่าไม่อาจละสายตาจากเจ้าหนูนี่ได้ พอรู้ตัวสองมือนี้ก็พยายามดึงรั้งเจ้าเด็กอวดดีนั้นไว้เสียแล้ว

                นัยน์ตาสีมรกตวูบไหว ที่คอยตามรังควานเขาขนาดนี้จะบอกว่าเพราะเลิกยุ่งกับเขาไม่ได้สักทีงั้นเหรอ ทำไมล่ะ? เพราะอะไรถึงเลิกสนใจเขาไม่ได้เสียที?

                “น่าดูชมนะครับ” อาร์มินปรบมือพร้อมกับส่งยิ้มชื่นชมให้กับทั้งสอง

                “ดูเหมือนเพราะผมพวกคุณถึงได้เปิดใจกันสินะครับ ช่างน่ายินดีจริงๆ เสียดายที่ไม่ได้อัดคลิปไว้”

                รอยยิ้มกริ่มค่อยๆหุบลงพร้อมกับนัยน์ตาสีน้ำทะเลที่มองอย่างเฉยเมย

                “ถ้าสัญญายังมาไม่ถึงในหนึ่งชั่วโมง คุณเตรียมบอกลาสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคุณได้เลยคุณรีไว”

                อาร์มินยกมือขึ้นเป็นสัญญานให้แอนนี่คุมตัวเด็กหนุ่มออกไป

                เอเลนพยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการของหญิงสาว แต่เมื่อยิ่งขัดขืนการจับกุมของแอนนี่ก็ยิ่งแน่นหนาขึ้น อาร์มินเก็บปืนพกของตนเข้าชุดสูทก่อนจะจัดการเตะปืนของรีไวที่พื้นให้หล่นจากดาดฟ้าเรือลงสู่มหาสมุทรเบื้องล่าง เด็กหนุ่มเตรียมหันหลังเดินกลับห้องพักเมื่อเห็นว่าธุระตรงนี้จบสิ้นแล้ว

     

                ฉึก!!

                มีดเล่มเล็กปักลงที่มือของเด็กหนุ่มผมทอง พร้อมร่างของชายหนุ่มที่วิ่งมาด้วยความเร็วก่อนจะจัดการถอดชุดสูทของตนคลุมหัวศีรษะบอดี้การ์ดด้านข้างของอาร์มิน มือหนาจัดการขโมยปืนพกในชุดสูทสีขาวของอาร์มินอย่างรวดเร็วก่อนจะโยนลงไปในมหาสมุทรเบื้องล่างตามปืนของตน เหล่าลูกน้องของรีไวเมื่อเห็นหัวหน้าของตนวิ่งพรวดไปหาเป้าหมาย ทั้งหมดจึงรีบกระชับอาวุธในมือพร้อมทั้งจัดการเหล่าชายชุดดำบอดีการ์ดของอาร์มินที่อยู่รอบตัวไม่ให้เข้าถึงหัวหน้าของตนได้

                ปัง ปัง ปัง

                เสียงกระสุนจากเหล่าลูกน้องที่คอยกันข้างหลังให้รีไวดังระงม กระสุนทุกนัดโดนเป้าหมายราวกับจับวาง รีไวจึงเร่งความเร็วดาหน้าเข้าไปประชิดเป้าหมาย

                “นายควรรู้ไว้อย่างเจ้าหัวเห็ด” นัยน์ตาคมสีขี้เถ้าจับจ้องไปที่ตัวประกัน มีดพกสีเงินวาวถูกโยนอย่างรวดเร็ว และตรงเป้าหมายปักลงบนที่ต้นขาของมือขวาคนสนิทของอาร์มินพอดี

                “อย่าหันหลังให้ศัตรู”

                แอนนี่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ก่อนจะกัดฟันแล้วดึงมือที่ปักลึกบนต้นขาออก ใบหน้าสวยดุดันมองชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะผลักตัวประกันออกอย่างหัวเสีย เพราะสองมือที่ถูกล็อคกุญแจเอเลนจึงล้มขมำกับท้องเรือ

                “อย่าคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแล้วจะอ่อนแอ” แอนนี่ตั้งการ์ดขึ้นเพื่อเตรียมรับมือชายหนุ่มตรงหน้า

                รีไวถกแขนเสื้อเชิ้ตทั้งสองข้างของตนก่อนจะตั้งการ์ดเช่นเดียวกับหญิงสาว ใบหน้าคมคายยกยิ้มมุมปาก “ไม่ต้องห่วง ฉันมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ”

                แม้รีไวจะเร็วแต่เพราะเป็นผู้ชายทั้งน้ำหนักและกล้ามเนื้อจึงมีมากกว่าผู้หญิง แอนนี่จึงได้เปรียบในเรื่องความเร็วที่มีมากกว่า แอนนี่พุ่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะก้มตวัดตัดขาฝ่ายตรงข้าม รีไวกระโดดหลบก่อนจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาหญิงสาว ศอกแข็งแรงพุ่งกระแทกเข้าที่สีข้างของแอนนี่ หญิงสาวเบี่ยงตัวหลบแต่เพราะบาดเจ็บที่ต้นขาจึงยังช้าไป ศอกของรีไวกระแทกเฉียดกับสีข้างของหญิงสาวจนแอนนี่เซออกด้านข้าง

                ชายหนุ่มไม่รอช้าทันทีที่เห็นหญิงสาวเสียหลักหมัดขวาเตรียมพุ่งเข้าใส่ที่ลำตัว แอนนี่เอนตัวหลบก่อนจะตวัดขาเข้าที่ลำตัวของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว แม้จะตัวเล็กกว่าแต่พลังขาที่ถูกฝึกมาอย่างดีต้องยอมรับว่าทำให้รีไวจุกไม่ใช่เล่น แอนนี่และรีไวต่างแลกหมัดพร้อมทั้งลูกเตะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าและพละกำลังที่เหลือกว่า อีกทั้งแอนนี่ยังได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาจนเป็นอุปสรรคในการสู้ตัวต่อตัว เมื่อหญิงสาวเสียหลักจึงทำให้รีไวล็อคตัวของหญิงสาวได้อย่างง่ายดาย ชายหนุ่มกระแทกท้องของแอนนี่ก่อนมือแกร่งจะกระแทกลงที่หลังคอของหญิงสาวจนสลบไป

                มือแกร่งยกมือขึ้นปาดเหงื่อก่อนจะเข้าไปพยุงเอเลนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่กับพื้นเรือ

                “เป็นไงมั่งเจ้าหนู?”

                “หัวโขกพื้นน่ะสิถามได้!” เอเลนเอ่ยอย่างขุ่นเคือง ยัยนั่นผลักเขามาอย่างไม่ทันตั้งหลัก เล่นเอาหัวกระแทกจนเห็นดาวเลย แถมมือยังโดนล็อคแบบนี้จะลูบหัวเองก็ไม่ได้

                มือแกร่งลูบลงบนหัวสีน้ำตาลของเด็กหนุ่ม เอเลนปรือตามองใบหน้าคมคายที่มองมาอย่างเฉยชาเช่นเดิม

                “ปากดีแบบนี้แสดงว่าสบายดีสินะ”

    ใบหน้าที่เฉยชายกยิ้มบาง รอยยิ้มที่ราวกับรู้สึกสบายใจเมื่อเห็นว่าเขาปกติดี อยู่ๆมายิ้มแบบนี้เขาที่ไม่ได้ตั้งตัวก็ทำตัวไม่ถูกน่ะสิ!!

    “ไม่คิดว่าจะเสียท่าแบบนี้” อาร์มินสบถอย่างหัวเสีย ร่างบางค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน

    รีไวหันไปเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มผมทอง

    “นายยังอ่อนประสบการณ์ก็แค่นั้น”

    “หึ หึ หึ”

    อาร์มินก้มหน้าหัวเราะราวกับเยาะเย้ยตนเอง ตัวประกันที่คาดว่าเป็นไพ่ตายตอนนี้ก็ถูกชิงไปแล้ว เท่ากับเขาไม่เหลืออะไรแล้ว สองขาในชุดสูทสีขาวก้าวถอยหลังไปชิดยังรั้วกั้นสแตนเลสของดาดฟ้าเรือ นัยน์ตาสีน้ำทะเลเหม่อมองท้องฟ้า หลังชนกับรั้วก่อนจะค่อยๆปล่อยตัวให้หงายหลังเพื่อตกลงไป

     

    หมับ!

    รีไวคว้าแขนเด็กหนุ่มผมทองอย่างทันท่วงทีก่อนที่จะหล่นลงไป เอเลนที่พยายามวิ่งมาด้วยความตกใจกับสิ่งที่อาร์มินทำก็ยังคงล้มขมำบนพื้นเพราะสองมือที่ถูกไขว้กันไว้ด้วยกุญแจมือด้านหลังทำให้เขายากที่จะทรงตัว ฟัวที่เบลอๆรู้สึกดีขึ้นได้ไม่นาน ตอนนี้เขาชักรู้สึกหนักอึ้งอีกครั้ง เพทร่าจึงเข้ามาช่วยลูบหัวสีน้ำตาลที่ตอนนี้เหมือนจะบวมปูดออกมาน้อยๆ

    “ฉันไม่ชอบเล่นบทพระเอกหรอกนะ” รีไวจ้องมองเด็กหนุ่มที่ดึงข้อมือช่วยชีวิตไว้

    “งั้นก็ปล่อยสิครับ” อาร์มินเงยมองอีกคนอย่างไม่ใส่ใจ

    นายควรรับผิดชอบ อย่างน้อยก็เพื่อปู่ของนาย”

    พั่บ พั่บ พั่บ

    เสียงเฮลิคอปเตอร์อีกลำร่อนใกล้เข้ามาก่อนจะจอดลงบนดาดฟ้าเรือของอาร์มินเช่นกัน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผมสีทองก้าวเดินออกมาพร้อมด้วยหญิงสาว และชายสูงอายุอีกคน

    “ฉันมาช้าไปอีกแล้วงั้นเหรอ?” เอลวินเอ่ยถามเมื่อมองสถานการณ์ตรงหน้า

    รีไวที่พยายามดึงตัวอาร์มินขึ้นจากการตกเรือ เพทร่าที่ช่วยลูบหัวของเอเลน เหล่าลูกน้องคนสนิทของรีไวต่างจัดการกับชายในชุดสีดำ หญิงสาวผมทองในชุดสูทที่สลบอยู่บนดาดฟ้าด้านล่าง ดูเหมือนวันนี้เขาจะทำอะไรช้าไปจริงๆ

    “ช้าชะมัดเอลวิน” รีไวตะโกนอย่างหัวเสียก่อนจะดึงอาร์มินขึ้นมายังพื้นเรือ

    เด็กหนุ่มเงยหน้ามองดาดฟ้าที่จอดเฮลิคอปเตอร์ ใบหน้าหวานชะงักกับร่างของชายชราบนดาดฟ้าที่เขาคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี

    “คุณปู่!!

    ชายชราในชุดสูทขยับเดินก้าวมาด้านหน้า ก่อนจะถอนหายใจแล้วส่ายศีรษะไปมา

    “อาร์มิน หลานเข้าใจผิดจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆแบบนี้ทำให้ปู่ผิดหวังน่าดู” ชายชราหันไปก้มศีรษะให้กับชายหนุ่มผมทองราวกับขอโทษก่อนจะหันไปมองหลานชายของตนที่ตอนนี้สีหน้ามีแต่ความมึนงง

    “หมายความว่ายังไงกันครับ เพราะคนเหล่านี้โกงที่ดินที่สำคัญของคุณปู่ไปสร้างโรงแรมนั่น!

    ชายชราส่ายศีรษะไปมาอีกครั้ง

    “เปล่าเลย ปู่ยื่นข้อเสนอยกที่ดินผืนนั้นให้กับคุณเอลวินเขาเอง เพราะไม่อยากขายทอดตลาดให้กับธนาคารและไปตกอยู่ในมือของคนอื่น ต้องขอบคุณคุณเอลวินเสียด้วยซ้ำที่นอกจากจะรับซื้อที่ดินของปู่แล้ว สามปีต่อมาที่ก่อสร้างเป็นโรงแรมคุณเอลวินได้มอบกรรมสิทธิ์ในการถือหุ้นของโรงแรมนั้นให้ปู่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

    อาร์มินงุนงงกับข้อมูลที่ได้ยิน ตกลงว่าสิ่งที่เขาคิดมาตลอดผิดงั้นเหรอ!?

    “อย่างที่คุณปู่ของนายบอก เขาให้ฉันรับซื้อที่ดินผืนนั้นไว้ แล้วฉันเห็นว่าทำเลเหมาะกับการสร้างเป็นโรงแรม ซึ่งการก่อสร้างนี้ฉันได้เสนอต่อคุณปู่ของนายพร้อมทั้งได้รับการยินยอมอย่างถูกต้อง” เอลวินกระโดดลงจากดาดฟ้าเรือที่จอดเฮลิคอปเตอร์ลงมายังดาดฟ้าด้านล่างที่รีไวและอาร์มินยืนอยู่ ชายหนุ่มยื่นซองเอกสารให้กับอาร์มินเพื่อตรวจสอบหลักฐานที่เขาได้เตรียมมา

    “ที่นายไม่รู้และข้อมูลคลาดเคลื่อนคงเพราะว่าเป็นช่วงที่นายไปเรียนต่อต่างประเทศ อีกทั้งหุ้นของโรงแรมนั้นคุณปู่เขาหวังจะให้นายซึ่งเป็นหลานที่ท่านรักที่สุดในการรับช่วงต่ออยู่แล้ว แต่จะให้เป็นของขวัญหลังจากนายบรรลุนิติภาวะท่านเลยให้ฉันช่วยปิดบังข้อมูล”

    อาร์มินตรวจสอบเอกสารที่อยู่ในซอง ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อด้วยความอาย ทั้งหมดที่เขาอุส่าห์ทำไปเพื่ออะไรกัน!?

    เอเลนที่หายมึนหัวแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้อาร์มิน เด็กหนุ่มผมทองเงยหน้ามองร่างโปร่งที่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม

    โป๊ก!

    เอเลนกระแทกหัวของตัวเองเข้าที่หัวของอาร์มินจนเด็กหนุ่มผมทองยกมือขึ้นลูบหน้าผากของตน ที่จริงเอเลนเองก็อยากลูบหน้าผากของตนที่แถมเถือกเช่นกัน ติดที่ว่าข้อมือเขาถูกล็อคอยู่น่ะนะ

    “ถือว่าหายกันกับที่นายทำฉันเดือดร้อน”

    ใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มยกยิ้มกว้าง

    “ฉันเข้าใจนายดี เพราะให้ความสำคัญมากนายเลยทำแบบนี้” เช่นเดียวกับเขาเพราะโดนขู่เรื่องคุณฮันเนสจึงยอมตกลงไปอยู่กับคนอันตราย เขาจึงเข้าใจว่าอาร์มินรู้สึกยังไง อย่างน้อยอาร์มินคงไม่ได้คิดทำร้ายเขาจริงๆตั้งแต่แรกอยู่แล้ว....ล่ะมั่ง

    “เหวออ!!

    เอเลนร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆร่างของเขาก็ถูกยกขึ้นลอยเหนือพื้น ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มถูกพาดขึ้นกับไหล่หนาของรีไว

    “ที่เหลือพวกนายจัดการกันเอง ธุระของฉันจบแล้ว” ว่าพลางกระชับแขนที่อุ้มเด็กหนุ่มก่อนสองขาจะก้าวเดินขึ้นไปยังดาดฟ้าที่จอดเฮลิคอปเตอร์อีกลำของตน จนเหล่าลูกน้องคนสนิทต้องรีบวิ่งตามขึ้นเครื่องเพราะเกรงว่าเมื่อเจ้านายได้ของที่ต้องการแล้วจะทิ้งพวกเขาไว้อย่างไม่สนใจ

    เอลวินมองเฮลิคอปเตอร์ของรีไวบินจากไปก่อนจะหัวเราะแห้งๆให้กับอาร์มิน ฮันซี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่กุมท้องหัวเราะจนตัวโยนกับท่าทีของรีไวที่เธอเห็น

    บอกแล้วต่อให้จับถ่วงก้นมหาสมุทร หมอนั่นจะต้องหาทางคว้าเอาสิ่งที่ต้องการที่สุดมาให้ได้อยู่ดี

     

    ประตูห้องนอนในคอนโดของชายหนุ่มเปิดออกก่อนร่างโปร่งจะถูกจับโยนลงบนเตียงอย่างแรง ต้องขอบคุณที่ชายหนุ่มโยนเขาลงบนเตียงอย่างน้อยแม้หัวจะกระแทกก็ยังไม่เจ็บเท่ากับบนพื้นแข็งๆ เห็นทีเขาคงต้องหาเวลาไปตรวจสมองซะบ้างโดนกระแทกบ่อยขนาดนี้ถ้าเขาความจำเสื่อมขึ้นมาจะทำยังไง!?

    รีไวกระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มขึ้นมาใบหน้าคมดุจ้องมองใบหน้ามนตาไม่กระพริบจนเอเลนรู้สึกเกร็ง

    “อ... อะไร?” พอเอ่ยถามออกไปผมสีดำนั้นก็ฟุ่บลงที่ไหล่เขา เอเลนที่ทำตัวไม่ถูกได้แต่นั่งนิ่ง สองแขนยังคงถูกล็อคไว้ด้วยกุญแจมือ ตลอดการเดินทางกลับตั้งแต่บนเฮลิคอปเตอร์จนกระทั่งถูกจับโยนเข้ารถมาถึงคอนโด คนอันตรายไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ

    “นายน่ะ”

    เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นทำให้เอเลนรู้สึกเกร็ง ก่อนใบหน้าหวานจะค่อยๆก้มมองชายหนุ่มที่ยังคงซบอยู่กับไหล่ของเขา แล้วต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆใบหน้าดุก็เงยขึ้นมองหน้าเขาเสียอย่างนั้น

    “ถ้ามีอะไรต้องปรึกษาฉันก่อนเข้าใจไหม?”

    “ผมรีบร้อนไปหน่อย” เอเลนก้มหน้าสำนึกผิด แต่มาคิดดูอีกทีเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เพราะเขาสักหน่อย....

    “ต้นเหตุมันเพราะคุณไม่ใช่หรือไง?” ใบหน้าหวานค้อนมองชายหนุ่ม

    รีไวทำหน้าครุ่นคิดสักครู่ มือหนาเสยผมที่ลงมาปรกใบหน้าของตนขึ้น

    “นายอยู่กับฉันก็ควรระวังตัวไว้ ถ้ามีอะไรแปลกๆก็ต้องรายงานฉัน”

    “ผมไม่ได้อยากอยู่กับคุณเลยนะ เมื่อไรจะเลิกยุ่งกับผมสักที!?”

    มือหยาบจับบนแก้มเนียน นัยน์ตาสีขี้เถ้าสบมองนัยน์ตาสีมรกตที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ

    “ถ้าทำได้ฉันทำไปแล้วเอเลน”

    อกซ้ายกระตุกไหว เสียงเต้นของหัวใจดังระงมจนกลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อจึงได้แต่สะบัดหนีสายตาดุดันที่จ้องมองมา

    “ล.... แล้ว.. ทำไมคุณถึงทำไม่ได้กัน?”

    “ฉันเองก็ไม่แน่ใจ”

    “คุณนี่!” ก่อนที่จะได้ต่อล้อต่อเถียงริมฝีปากคมก็ทาบทับลงบนกลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบาก่อนจะผละออก

    “ถ้านายยังอยู่กับฉัน สักวันฉันคงรู้คำตอบ”

    มือหยาบลูบไล้ใบหน้ามนไปมาก่อนจะจรดหน้าผากของตนกับหน้าผากมนเบื้องหน้า

    “ให้อิสระของนายอยู่ในกำมือฉันและฉันจะปกป้องปีกของนายเองเจ้าหนู”

     

    ทั้งที่เป็นคำพูดที่ไม่น่าดีใจแต่ทำไมอกซ้ายถึงได้รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ทั้งที่อยากเลิกยุ่งกับคนอันตรายแบบนี้ อยากเป็นอิสระจากพันธนาการที่มองไม่เห็นนี้ ทั้งที่คิดอย่างนั้นมาตลอดแต่ตอนนี้กลับรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วอกซ้ายกับคำพูดของคนเอาแต่ใจ

    “ถ... ถึงผมบอกว่าไม่ต้องการ คุณก็ยัดเยียดให้อยู่ดีไม่ใช่รึไง!” ใบหน้ามนที่ขึ้นสีระเรื่อได้แต่ก้มหน้ามองพื้นเตียงไม่กล้าสบตากับคนเอาแต่ใจตรงหน้า

    “คิดได้แบบนั้นก็ดีเจ้าหนู” ใบหน้าคมคายยกยิ้มยียวนที่ชวนให้ร่างบางรู้สึกคิ้วกระตุก

    “ว่าแต่เมื่อไหร่คุณจะจัดการเอาไอกุญแจมือบ้าๆนี่ออกให้ผมสักที” เอเลนชำเลืองตามองมือของตนเองที่ตอนนี้ก็ยังถูกกุญแจมือพันธนาการไว้ที่ด้านหลัง

    ทั้งที่กลับมาถึงที่อยู่แล้วแต่คนอันตรายยังไม่ยอมเอากุญแจมือออกให้เขาเสียที จะบอกว่าไม่มีกุญแจไขก็คงไม่ใช่ เพราะยังไงตัวอันตรายระดับคนตรงหน้ากับแค่กุญแจมือน่าจะหาวิธีเอาออกได้สบายๆอยู่แล้ว

    รีไวมองเด็กหนุ่ม มือหนาถูคางตนเองไปมาก่อนจะยกยิ้มอย่างนึกสนุก

    “นายเรียกฉันว่าตาแก่กี่รอบนะเจ้าหนู?”

    คำถามที่ถูกส่งมาเริ่มทำให้เอเลนเสียวสันหลังวาบ

    “ส... สองมั่ง”

    รีไวผลักร่างโปร่งลงนอนกับเตียงก่อนจะขึ้นไปคร่อมบนร่างบางที่สั่นน้อยๆ ใบหน้าหวานเริ่มตื่นตระหนกไม่มีสีเลือดกับสิ่งที่กำลังจะเกิด

    “ตอนวิทยุสื่อสารที่เจ้าหัวเห็ดนั่นติดต่อมาหนึ่งครั้ง” มือหยาบค่อยๆล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของเอเลน “แล้วก็ที่ดาดฟ้าเรืออีกสองครั้ง รวมเป็นทั้งหมดสามครั้งนะเจ้าหนู”

    รีไวจัดการปลดกระดุมเสื้อของเด็กหนุ่มขึ้นจนเห็นผิวขาวเนียนที่ซ่อนภายใต้ร่มผ้า ริมฝีปากคมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเลียริมฝีปากอย่างกระหาย

    เอเลนที่อยู่ใต้ร่างชายหนุ่มได้แต่มองท่าทางเจ้าเล่ห์ของคนอันตรายด้วยความเกร็ง เวลาอย่างนั้นตาแก่บ้านี่ยังอุตส่าห์นับคำด่าเขาอีก!! ตกลงว่าที่ไม่ยอมเอากุญแจมือออกเพราะตั้งใจไว้แบบนี้แต่แรกสินะ!! ลิ้นร้อนเลียที่ใบหูของเด็กหนุ่มก่อนฟันคมจะขบลงที่ใบหูจนเอเลนสะดุ้งน้อยๆ

    “สมเป็น My S.D. ของฉันจริงๆเจ้าหนู”

    นัยน์ตาสีมรกตปรือตามองชายหนุ่มด้วยความระแวง ร่างกายกระตุกไหวกับสัมผัสที่ชายหนุ่มรุกล้ำ

    “ตกลงไอ S.D. ของคุณนี่มันอะไรกัน?”

    ลิ้นร้อนไล้โลมเลียผ่านแก้มนุ่มของเด็กหนุ่ม ก่อนจะทาบทับกับริมฝีปากบางที่เผยอรอด้วยความคุ้นชิน ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดกอบโกยความหวานจากโพรงปากนุ่ม ไล้ไปตามไรฟันก่อนผละออกเลียบนกลีบปากบนของเด็กหนุ่ม

    Sweet Dangerous นายน่ะมันตัวอันตรายเจ้าหนู”
    Fin. Armin's part
    TBC. Next Part
    .................................................................................
    Talk: โปรดอย่าหาสาระอะไรจากเรื่องนี้ มันคือฟิคสนองความโม่ยล้วนๆไร้แก่นสารสุดๆค่ะ
    ข่าวดีคือฟิคนี้จบพาทอาร์มินแล้ว
    ข่าวร้าย มันยังมีต่อตามความเวิ่น+โม่ยของคนเขียนค่ะ =w="""
    อย่างที่บอกมาตลอดฟิคเรื่องนี้ไร้การวางโครงเรื่องมาก นึกอะไรออกก็เขียน เพราะงั้นอย่างหวังสาระอะไรเอาแค่ความบันเทิงจริงๆค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขออภัยที่ช้าค่ะ แต่ก็ลงฟิคเรื่อยๆค่ะ บางเรื่องตามได้ในบล็อกนะคะ
    รักนักอ่านทุกท่านค่ะ จุ๊บๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×